คลังเรื่องเด่น
-
"กายกับใจนี้ เป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนา" (พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร)
"กายกับใจนี้ เป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนา"
" .. อนาคตก็ดีต้องดูเดี๋ยวนี้ "ถ้าปัจจุบันนี้ดีแล้ว อนาคตมันก็ดีไม่ต้องสงสัย ให้พากันหายสงสัย" ถ้าในปัจจุบันนี้ไม่ดี อนาคตมันก็ไม่ดี นี่ใครต้องการสิ่งไม่ดีล่ะ ไม่มีใครสักคน เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่างคนต่างทำสงบ มีความเยือกความเย็น ความสุข ความสบาย เบิกบาน จึงได้นามว่า "พุทโธ" พระพุทธเจ้า นั่นแหละ จึงดี
นี่แหละ "ใจเราเป็นหลักฐาน ใจเป็นประธาน มันสำเร็จกับดวงใจ" สิ่งไร ๆ ทั้งหมด นี่แหละ "นำมาเตือนใจโดยย่นย่อนี้พอเป็นข้อปฏิบัติ ประดับสติปัญญาบารมีของท่านทั้งหลาย" เมื่อท่านทั้งหลายได้สดับแล้ว ในโอวาทธรรมะคำสั่งสอนโดยย่นย่อนี้พอเป็นข้อปฏิบัติแล้ว นำไปพินิจพิจารณา
ให้ทะลุหัวข้อใจความในพระพุทธศาสนา "คือกายกับใจนี้ เป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนา เป็นที่ตั้งแห่งคุณพระพุทธเจ้า เป็นที่ตั้งแห่งพระธรรม เป็นที่ตั้งแห่งพระสงฆ์ เป็นที่ตั้งแห่งมรรคและผล" เมื่อได้ยินได้ฟังดังนี้ "โยนิโสมนสิการ พากันกำหนดจดจำไว้แล้ว นำไปประพฤติปฏิบัติ" ฝึกหัดตนของตนเป็นไปในธรรมคำสั่งสอน .. "
"จิตตภาวนา พุทโธ" (พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร)
ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
ย้ายพระประธาน
ย้ายพระประธาน
"ถ้าหากว่าจะย้ายพระประธานไปบูชาเป็นพระประธานวัดอื่นจะได้ไหมคะ ?"
เรื่องของบูชา สำหรับที่วัดนี้ถือว่าเขาถวายมาเพื่อบูชา ตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม ถ้าพระย้ายไปที่อื่นนอกเขต ถือว่าย้ายเจดีย์ ทางวินัยท่านปรับอาบัติ
และถ้าของนั้นเขาถวายสงฆ์ เขามีเจตนาเฉพาะจุดนั้น ถ้าเราเอาไปถือว่าขโมยของสงฆ์
อันดับแรกเขาลงบัญชีอเวจีไว้ก่อน ของสงฆ์นี่แม้แต่เศษกระเบื้องถ้านำไปก็ลงบัญชีอเวจีเลย
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 472 เดือนกรกฏาคม 2563 หน้า 77) -
การอุทิศส่วนกุศลจำเป็นต้องเจาะจงชื่อไหม
การอุทิศส่วนกุศลจำเป็นต้องเจาะจงชื่อไหม
ผู้ถาม : การอุทิศส่วนกุศลแก่บุคคลต่างๆที่ตายไปแล้วจำเป็นไหมว่าจะต้องออกชื่อ รู้สึกว่ามีมากเหลือเกิน ?
หลวงพ่อ : ดีไม่ดีว่า 3 ปีไม่จบ ถ้านึกได้ก็ออกชื่อเขาก็ได้ ถ้าออกชื่อน่ะดีอยู่อย่าง ถ้ากรรมหนาอยู่นิดถ้าออกชื่อเจาะจงเขาได้เลยนะ ถ้านึกไม่ออกก็ว่ารวม ๆ ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าขืนไปไล่ชื่อน่ากลัวจะไม่จบ
ผู้ถาม : เดี๋ยวคนที่ไม่ออกชื่อเกิดโมโหขึ้นมาน่ะสิ
หลวงพ่อ : นั่นน่ะสิ แหม...กูยืนอยู่ตั้งนานคนนั้นให้ได้ทีกูไม่ให้ เลยล่อเสียขาหัก เดินลงบันไดผลักตูมลงไปนะสิ
มันมีอยู่คราวหนึ่งนานแล้วไปเทศน์กัน 3 องค์ บังเอิญ 3 องค์ที่ไปก็มีอารมณ์จิตคล้ายคลึงกัน เวลาเพลเขาก็ถวายอาหาร ก็มีพระอื่นด้วยรวมแล้ว 5 องค์
ทีนี้ตาทายกเขานำอุทิศส่วนกุศลในวันนั้น แกก็ออกชื่อคนตายแล้วก็บรรดาญาติทั้งหลายที่ตายไปแล้ว บอกเท่านั้นแหละ พวกผีก็เข้ามาเป็นหมื่นล้อมรอบศาลาอยู่ ไอ้คนที่เป็นญาติรับโมทนาแล้วผิวพรรณก็ดีขึ้น ไอ้พวกที่ไม่ใช่ญาติก็เดินร้องไห้กลับ เราก็นึกในใจว่า ไอ้เรามันเลือนไปหรือเปล่าหว่า ?"
พอกลับออกมาจากฉันแล้วก็กลับมาที่พักก่อนบ่ายโมง... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
ยึดคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งให้มั่นคงเอาไว้
ขอให้ทุกคนยึดคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งให้มั่นคงเอาไว้สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อมอบให้แก่เรามา โดยเฉพาะพระคาถาเงินล้าน ขอให้ทุกคนท่องบ่นภาวนาไว้เป็นประจำ ๆ จะสร้างความคล่องตัวให้แก่เราอย่างคิดไม่ถึง ใครจะว่างมงาย ใครจะว่าเหลวไหล อาตมายืนยันว่าไม่งมงาย ไม่เหลวไหลเพราะอาตมาใช้มาเอง มีใครบ้างที่สามารถสร้างวัด ๆ หนึ่งเสร็จได้ภายในปีเดียว โดยที่ ๒ มือเปล่า ๆ มีแต่คาถาบทเดียว จะไม่ให้ยืนยันอย่างนี้ก็ไม่ได้
แล้วขณะเดียวกัน ไปช่วยเขาที่อื่น ไปช่วยเขาที่ไหนก็ตาม ขึ้นชื่อว่าการสะดุดหยุดยั้งผิดจังหวะไม่มีมีแต่ความสะดวกคล่องตัวอยู่เสมอ
ดังนั้น ขอย้ำว่าถ้าเราใช้คาถาเป็น ส่วนใหญ่ทำไมใช้ไม่เป็นใช้ไม่ถูกกัน การใช้คาถาเป็นก็คือต้องวางกำลังใจให้เป็น การวางกำลังใจให้เป็นก็คือ ให้ตั้งใจว่า คาถานี้คือสมบัติวิเศษที่พ่อให้มา หน้าที่เราคือรักษาไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะพึงดีได้ด้วยการเป็นคนที่ขยันท่องบ่นเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อย่างสม่ำเสมอและจริงจังทุกวัน เรื่องของความสม่ำเสมอจริงจังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ส่วนใหญ่มันทำ ๆ ทิ้ง ๆ กัน ในเมื่อเราตั้งใจทำถวายบูชาต่อท่านอย่างสม่ำเสมอและจริงจัง ผลพิเศษต่าง... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
พระสารีบุตรประกาศความเลื่อมใสของตนในพระพุทธเจ้า | สัมปสาทนียสูตร
พระสารีบุตรประกาศความเลื่อมใสของตนในพระพุทธเจ้า | สัมปสาทนียสูตร
******************************
ที่มา https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
"บุญฤทธิ์" คืออะไร อานิสงส์ที่เกิดจากบุญฤทธิ์ : หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ
"บุญฤทธิ์" คืออะไร อานิสงส์ที่เกิดจากบุญฤทธิ์ : หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ
*******************************
ที่มา https://www.youtube.com/@LokuttaraDhamma -
ข่าวชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน (พระอาจารย์เล็ก) เดือนมิถุนายน ๒๕๖๗
ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
เครือข่ายชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
ขอรวบรวมข่าวกิจกรรมการดำเนินงานของ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก)
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เพื่อให้ทุกท่านได้โมทนาบุญในการทำงานของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
และเพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษารูปแบบการดำเนินงานของพระอาจารย์
ซึ่งท่านเป็นต้นแบบการทำงานของ ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
ข่าวการดำเนินงาน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
หยุด!! ปั้นเด็ก เป็นผู้วิเศษ l ไม่รู้ต้องรู้
หยุด!! ปั้นเด็ก เป็นผู้วิเศษ l ไม่รู้ต้องรู้
******************
ที่มา https://www.youtube.com/@ddtalkofficial -
พระวักกลิเถระ | ผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้น้อมไปในศรัทธา (สัทธาธิมุติ)
พระวักกลิเถระ | ผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้น้อมไปในศรัทธา (สัทธาธิมุติ)
อนุโมทนา ที่มา https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
ความกลัวตายเป็นธรรมดาของสัตว์ทุกรูปทุกนาม
ความกลัวตายเป็นธรรมดาของสัตว์ทุกรูปทุกนาม บาลีบอกว่า อาหาระนิททัง ภะยะเมถุนัญจะ สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง
อาหาระ คืออาหาร , นิททัง คือการนอน , ภะยะ คือความกลัว , เมถุนะ คือการเสพกาม ท่านบอกว่า ๔ อย่างนี้เป็นปกติของสัตว์ทุกรูปทุกนาม สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง สามัญญะ ก็คือ ปกติธรรมดา
ธัมโมหิ เตสัง อะธิโก วิเสโส ธรรมเท่านั้นที่ให้เกิดความต่างขึ้นได้ ธัมเมนะ วีณา ปะสุภิสสะมานา มีแต่ธรรมเท่านั้นที่ทำให้คนต่างออกไปจากสัตว์
เพราะฉะนั้น..เรื่องความกลัวถือเป็นเรื่องปกติ แต่ทำอย่างไรที่จะไม่ให้กลัวจนขาดสติ ถ้ามานึกอีกที น่าขายหน้ามากเลย เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงมา ๓๐-๔๐ ปี ถึงเวลามัจจุราชยื่นหน้ามาหน่อยเดียว กลัวจนหัวหด ต้องประเภทยื่นหน้ามาก็กระโดดขี่คอ ไปไหนไปเลย อยากไปนานแล้ว ทำไมมาช้าจัง..!
คือเรายังไม่เห็นธรรมดา ถ้าเห็นธรรมดาว่าทุกรูปทุกนาม ต้องป่วย ต้องตายเป็นปกติ แล้วทำใจยอมรับได้ว่าปกติของสัตว์ ของมนุษย์เป็นอย่างนี้เอง ถ้าทำอย่างนั้นได้ ความตายไม่ใช่ของน่ากลัว ความเจ็บป่วย ความเจ็บปวดก็ไม่ใช่ของน่ากลัว ถึงเวลาก็ดูแลรักษาไปตามมารยาท ร่างกายนี้เป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เร่งรัดทำความดีให้มากที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมออกเดินทาง
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เมื่อวันที่ ๔ ก.ค. ๒๕๖๖
วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ มีข่าวที่น่าเสียใจของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ก็คือหลวงพ่อจอน (พระอธิการพรพจน์ กิตฺติวณฺโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดดงโคร่ง มรณภาพด้วยโรคมะเร็ง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นท่านไปผ่าตัดและให้คีโม บอกว่าอาการดีขึ้นแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็ย้ำแล้วย้ำอีกกับญาติโยมหลายครั้งว่า เรื่องของมะเร็ง ถ้าหากว่าพูดกันตามแบบของเรา ไม่ใช่แบบของหมอ ก็คือ "มะเร็งนั้นมีตัว" ก็แปลว่าก้อนมะเร็งนั้นเป็นรัง เหมือนกับรังมดหรือว่ารังผึ้ง ถึงเวลาเราไปทำลายรังมดหรือว่ารังผึ้ง มดหรือผึ้งนั้นก็จะแตกฮือออกไป ก็แปลว่าถ้าไม่ได้ทำด้วยความระมัดระวัง จนสามารถกำจัดเชื้อได้หมดจริง ๆ โอกาสตายมีสูงมาก..! เพราะว่าเมื่อเชื้อแตกฮือออกไปทั่วตัว ก็กลายเป็นว่ามีการแพร่ระบาดหนักยิ่งขึ้น
เรื่องพวกนี้พูดไปแล้วหมอสมัยใหม่มักจะไม่เชื่อ เนื่องเพราะว่าหมอสมัยใหม่ไม่มีความเข้าใจ แม้กระทั่งเรื่องปกติ อย่างเช่นธาตุภายในร่างกายของเรา การเจ็บไข้ได้ป่วยคือธาตุใดธาตุหนึ่งบกพร่อง หมอสมัยใหม่ไม่ได้ศึกษาเรื่องพวกนี้มา ก็จ่ายยาให้มาตามอาการ... -
"มีฤทธิ์เป็นผู้วิเศษ" แต่เอากิเลสออกไม่ได้ (อย่านำฌานไปใช้ทางที่ผิด) (วิธีอธิษฐาน) : หลวงปู่สรวง
"มีฤทธิ์เป็นผู้วิเศษ" แต่เอากิเลสออกไม่ได้ (อย่านำฌานไปใช้ทางที่ผิด) (วิธีอธิษฐาน) : หลวงปู่สรวง
9999999999999999999999999999999
ที่มา https://www.youtube.com/@LokuttaraDhamma -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน
สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน
"ลูกสวดมนต์ไม่ค่อยได้ ได้แต่นั่งภาวนา"
ภาษิตพระอรหันต์องค์หนึ่งท่านพูดไว้ เวลาที่ฉันไปหาท่าน ท่านบอกว่าไอ้สวดมนต์น่ะเป็นยาทานะลูกนะ ภาวนาเป็นยากิน
สวดมนต์ท่านบอกว่าเป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน การสวดมนต์ไม่ต้องสวดมากหรอก ว่า นะโม พุทธัง ธัมมัง สังฆัง เสร็จ อิติปิโส จบใช้ได้เลย ต่อไปเริ่มภาวนาเลย แค่นั้นพอแล้ว
"สวดจนเหนื่อยบางทีไม่มีเสียงจะสวด"
ก็ล่อกันเต็มที่
"ภาวนาพุทโธ นั่งทำวัตรกับเขาด้วย"
ใช่ๆ เราสวดไม่ได้เราก็ภาวนาไปเลย แล้วก็ถือเสียงสวดนั้นแหละเป็นสรณะไปเลย ถือว่าเสียงสวดมนต์ เราสวดไม่ได้ใช่ไหม ถ้าภาวนาเราจับเสียงสวดนั่นแหละ จับเอาจิตคล้อยตามไปเลย ถือเป็นสมาธิในนั้นเหมือนกัน
เมื่อฉันเด็กๆ คนแก่สวดมนต์ไม่อยากให้จบ ชอบใจอยู่บท แต่ว่าไม่เหมือนแก แต่เมื่อเด็กๆว่าได้ อะไรนะ อิมัสสมิง มงคลจักรวาฬทั้งแปดทิศ (หัวเราะ) แล้วก็ว่าพร้อมฟังเพราะจริงๆ ไม่มีเครื่องบันทึกเสียงสมัยนั้น โยมเสงี่ยมแกยังว่าได้เลย
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 149 กรกฏาคม 2536 หน้า 14) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เรื่อง อสุรกาย
เรื่อง อสุรกาย
อสุร เขาแปลว่า ไม่กล้า ใช่ไหม ทีนี้เห็นเราหนี หลบ ถ้ายิ่งรู้เราเห็นแล้วหนีไกลเลย ผีที่น่ากลัวคือ สัมภเวสี ไม่ใช่อสุรกาย คนละพวกนะ คนละพวกกัน
อสุรกายนี่มันเข้าทุกบ้าน เทวดาที่รักษาบ้านเขาไม่ว่าเพราะอะไรรู้ไหม เขาไปกินเศษอาหาร เศษอาหารที่เขาทิ้งแล้วมันหิวใช่ไหม เขาทิ้งแล้วของบูดของเน่าเศษๆ มันก็กินตามเรื่องตามราว เดินหากินเรื่อยไป
ฉะนั้น อสุรกายที่เข้าไปบ้านใคร ภูมิเทวดาที่รักษาบ้านนั้นเขาไม่ว่า มันไม่ทำอะไรใครนี่กินแล้วก็ไปของมัน มันไม่หลอกคน พวกนี้มันกลัวคนแทนที่จะหลอกนะกลัว จึงมีนามว่า อสุรกาย
อสุรกาย นี่เขาแปลว่า ไม่กล้า
สุรา นี่แปลว่า กล้า ใช่ไหม สุระ หรือ สุรานี่เขาแปลว่า กล้า
สำหรับสัมภเวสี ความจริงปกติของมันนี่ก็ไม่น่ากลัว มันก็หิวเหมือนกันนะ
แต่เจ้าพวกนี้บางทีถ้าเห็นว่าเรามีบุญพอที่จะช่วยเขาได้ เขาจะแสดงตัวให้ปรากฏแสดงให้ปรากฏ ถ้าเราไม่เห็น บางทีก็ทุบตรงนั้นบ้าง ตีตรงนี้บ้าง ตุ๊บตั้บๆไปให้เรารู้ใช่ไหม ก็อุทิศส่วนกุศลให้
ทีนี้พวกเราก็แน่เหมือนกัน เขามาขอแบบนั้นด่าไปส่งเดชเลย หาว่าหลอก ความจริงไม่ใช่หลอก เขามาขอ เขาขอได้เฉพาะคนที่มีบุญพอจะให้เขาได้นะ...
หน้า 14 ของ 412