ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!"นรกซานติก้า"ตั้ง"กางเขน-โลงศพ"ประดับผับ!

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหยื่อซานติก้า ที่ รพ.จุฬาฯ กลับบ้านแล้ว 9 ราย ชี้ ชาวญี่ปุ่นมีปัญหาระบบหายใจ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 มกราคม 2552 18:55 น.

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000154368
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> รพ.จุฬาฯ เผย เหยื่อซานติก้าที่เข้ารับการรักษา แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว 9 ราย ยังคงนอนรักษาตัวอีก 6 ราย ระบุ ผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นยังมีปัญหาระบบหายใจ พร้อมเผยสามารถตรวจดีเอ็นเอยืนยันได้ 5 ราย

รศ.นพ.สมรัตน์ จารุลักษณานันท์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายวิชาการ แจ้งว่า ผู้ป่วยที่มารักษาตัว ที่ รพ.จุฬาฯ ทั้งหมด 15 ราย แพทย์ให้กลับบ้านได้แล้ว 9 ราย ยังคงนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 6 ราย โดยผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นยังมีปัญหาระบบหายใจ ได้ช่วยเหลือด้วยเครื่องช่วยหายใจความถี่สูง และฟอกเลือดช่วยระบบไต ขณะนี้มีเพียงปัญหาระบบเลือด แพทย์ได้เฝ้าระวังดูแลอย่างใกล้ชิดในห้องแยกของผู้ป่วยวิกฤติ ตึกสิรินธร

ส่วนผู้ป่วยชายไทยอีก 1 ราย ได้รับการถอดท่อหายใจและย้ายออกจากห้องไอซียูแล้ว สำหรับผู้ป่วยในหน่วยบาดแผลไฟไหม้อีก 2 ราย หายใจดีขึ้น แต่ยังคงใส่ท่อหายใจอยู่

เมื่อเวลา 14.00 น. รศ.นพ.รัฐพลี ภาคอรรถ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้านผู้ป่วยวิกฤติ แจ้งว่า ทางโรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยชายชาวไต้หวัน ซึ่งส่งต่อมาจาก รพ.ปิยะเวท เข้ารับรักษาที่ห้อง ไอซียู ศัลยกรรม ตึกสิรินธร มีบาดแผลจากไฟไหม้บริเวณใบหน้า แขน ขา ประมาณร้อยละ 65 พักรักษาด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจโดยมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน รศ.พญ.นันทนา ศิริทรัพย์ หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า มีญาติมารับศพผู้เสียชีวิตที่พิสูจน์บุคคลเสร็จครบทั้ง 25 รายแล้ว ในส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นหญิงไม่ทราบชื่อ-สกุล จำนวน 5 ราย จากการตรวจสอบสารพันธุกรรมร่วมกับสถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการเทียบข้อมูลระหว่างศพผู้เสียชีวิตกับญาติที่มาแจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ สามารถยืนยันได้ทั้ง 5 ราย ดังนี้ 1.น.ส.ภัชรีย์ คุ้มผล 2.น.ส.วิไลรัตน์ ยงค์รัมย์ 3.น.ส.อนงรักษณ์ อาจนนลา 4.น.ส.พรพิมล หลำจำนงค์ และ 5.น.ส.พิมพ์ฤดี อินสุข
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“เสี่ยขาว” ร่ำไห้ขอโทษญาติเหยื่อ “ซานติก้า”-ตร.จ่อ 2 ข้อหา!</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 มกราคม 2552 20:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000154333
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเสี่ยขาว อายุ 41 ปี เจ้าของซานติก้าผับ พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบตำรวจ</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเสี่ยขาว ร่ำไห้ ยกมือไหว้ขอโทษญาติเหยื่อผับนรก </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเสี่ยขาว เดินทางไปเยี่ยมและขอโทษเหยื่อซานติก้าที่รพ.คามิเลี่ยน</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือเสี่ยขาว เดินทางไปที่ซานติก้าผับเพื่อทำพิธีสวดส่งวิญญาณและอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ซานติก้าผับ</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“เสี่ยขาว” หุ้นส่วนใหญ่ ซานติก้าผับ เข้าพบ รอง ผบ.ตร.ร่ำไห้ ขอโทษญาติเหยื่อ โดยตำรวจจ่อแจ้ง 2 ข้อหา กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ขณะที่ตำรวจเชื่อ สาเหตุเกิดจาก “เอฟเฟกต์” บนเวที ส่วนศพผู้เสียชีวิตอีก 11 ราย ยังไม่ทราบชื่อ

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ ร่ำไห้ขอโทษญาติเหยื่อ

วันนี้ (4 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 4 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตวัฒนา เฝ้าดูแลสถานที่เกิดเหตุไม่ให้บุคคลใดเข้าไปในที่เกิดเหตุ เกรงว่า จะทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนหลายคนเดินทางเข้าไปบริเวณลานจอดรถหน้าสถานบันเทิง พร้อมทั้งนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปไว้ดู นอกจากนี้ ยังมีญาติของผู้เสียชีวิตหลายรายทยอยกันนำอาหาร น้ำดื่ม และดอกไม้ พร้อมจุดธูปเทียน เซ่นไหว้วิญญาณผู้เสียชีวิต ด้วยการแต่งกายชุดขาว และดำเป็นการไว้อาลัย ซึ่งต่างร้ำไห้ถึงผู้ที่จากไปด้วยความเศร้าสลด

ญาติเหยื่อตรวจดีเอ็นเอพบศพลูก
นายประเสริฐ คุ้มผล อายุ 49 ปี พร้อมด้วย นางนงคราญ คุ้มผล อายุ 45 ปี ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ พร้อมทั้งแจ้งความจำนง ว่า รูปถ่ายรูปที่ 4 ที่ประกาศไว้ว่า บุคคลที่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ ซานติก้า ผับ ชื่อ น.ส.ภัชรีย์ คุ้มผล หรือ ปลา อายุ 26 ปี นายประเสริฐ เปิดเผยด้วยอาการเศร้าสลด ว่า ลูกสาวตนเองเป็นเซลส์ บริษัท ออยล์ปั๊ม จำกัด เลขที่ 621 ซอยอ่อนนุช 70/1 แยก 2 แขวงและเขตประเวศ ทำเกี่ยวกับปั๊มน้ำ ย่านประเวศ กทม.ก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวได้บอกว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็พบว่า น้องปลา ยังไม่เดินทางกลับบ้าน

นายประเสริฐ กล่าวว่า ต่อมามีเพื่อนสาวของน้องปลาโทรศัพท์มาหา บอกว่า น้องปลาชวนไปเที่ยวที่ซานติก้าผับ โดยตนไม่ได้ไปด้วย เพราะติดธุระ และบอกให้ตนรีบไปดูที่ซานติก้าผับเพราะเกิดเหตุเพลิงไหม้ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เมื่อตนไปถึงก็พบรถยนต์ โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน สฐ 6407 กทม.ซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถ จึงคาดว่า ลูกสาวตนเสียชีวิตแล้ว จึงรีบเดินทางไปตาม รพ.ต่างๆ เพื่อหาศพ และไปที่นิติเวช รพ.ตำรวจ โดยพบกับชายชาวต่างชาติ บอกกับตนว่า ตามหาคนนี้หรือเปล่า พร้อมกับนำรูปถ่ายมาให้ดู โดยตนไม่ได้สื่อสารกัน เพราะไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่พยักหน้าไปว่า เป็นลูกของตนเอง ขณะเดียวกัน น.ส.ศิริรัตน์ คุ้มผล ได้เดินทางมาที่ รพ.จุฬาฯ พร้อมกับตรวจดีเอ็นเอ จากศพที่เสียชีวิตพบว่าศพหมายเลข 4 เป็นศพของพี่สาวตนเอง

ด้าน นายพีระพล หลำจำนงค์ อายุ 48 ปี เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่า ศพหญิงไม่ทราบชื่อหมายเลข 25 ที่ รพ.จุฬาฯ มีดีเอ็นเอ ตรงกับตน และทราบว่า เป็นบุตรสาวของตน คือ น.ส.พรพิมล หลำจำนงค์ อายุ 21 ปี โดยเป็นนักศึกษาที่ โรงเรียนสายประสิทธิ์พณิชยการ แต่อยู่ระหว่างพักการเรียน ซึ่ง น.ส.พรพิมล ได้เดินทางมาเที่ยวที่ซานติก้าผับ เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.พร้อมเพื่อนอีก 3 คน ซึ่ง 2 ในนั้น ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอีกคนไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยทางญาติก็เพี่งรับทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ รพ.จุฬาฯ โทรศัพท์มาแจ้งในส่วนของศพที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นใคร ทางญาติจึงเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ว่า เป็นบุตรสาวของตน

ญาติทำพิธีเชิญวิญญาณผู้เสียชีวิตกลับบ้าน
ส่วนที่บริเวณหน้า ซานติก้าผับ ตั้งแต่เช้า มีญาติผู้เสียชีวิตหลายรายเดินทางที่หน้าสถานบันเทิงนำรูปหน้าศพของผู้เสียชีวิตเอามาทำพิธีเชิญวิญญาณผู้ตายกลับบ้านตามความเชื่อ นายวีระยุทธ อุบลมณี อายุ 29 ปี นิมนต์พระสงฆ์หนึ่งรูป พร้อมนำหม้อดินมาทำพิธีเรียกวิญญาณของ นางมณีวรรณ อุบลมณี อายุ 29 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหงส์ อ.เมืองปทุมธานี โดย นายวีระยุทธ กล่าวว่า วันเกิดเหตุมาเลี้ยงฉลองปีใหม่กับภรรยา โดยอยู่บนชั้นที่ 2 ได้ยินเสียงคนตะโกนว่าไฟไหม้ ก็หาทางหนีออกมา ซึ่งตนมาหลายครั้งแล้ว รู้ว่าทางออกอยู่ตรงไหน แต่เพลิงลุกลามเร็วมาก คนเบียดเสียดแย่งกันออก ภายในมืดขนาดหน้าชนกับยังมองไม่เห็น อีกทั้งมีควันดำเยอะ หายใจไม่ออก ร้อนมาก จนตนบาดเจ็บใบหน้าเป็นแผลผุพอง พอดีมีคนทุบกระจก และพังเหล็กดัดบริเวณชั้นล่าง จึงหนีออกมาได้โดยใช้เวลาเกือบ 15 นาที เกือบจะไม่รอดอยู่แล้ว แต่ภรรยาหนีออกมาไม่ทัน

แอร์สาวมาเที่ยวกับเพื่อนตาย 3 ยังไม่เจอ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมามีครอบครัวและเพื่อนของผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นำศพใส่รถตู้จากโรงพยาบาลตำรวจ มาที่ ซานติก้า ผับ ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.ชาไลก้า ชาเวช พรานแก้ว อายุ 27 ปี ลูกครึ่งไทย-ฟิลิปปินส์ อาชีพแอร์โฮสเตส สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ และ นายวิน ชอ เพียง อายุ 26 ปี ลูกครึ่งไทย-พม่า นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) มาทำพิธีเรียกวิญญาณ

ด้านเพื่อนของผู้เสียชีวิต (ขอสงวนนาม) เปิดเผยว่า ผู้ตายทั้ง 2 คนเป็นแฟนกัน โดยวันเกิดเหตุทั้ง 2 คน รวมตนและเพื่อนมาด้วยกันทั้งหมด 7 คน โดยทั้งคู่รบเร้าให้มาเที่ยวที่นี่ เพราะที่อื่นเต็มหมด หากมาแล้วไม่มีที่นั่งจึงไปที่อื่น แต่ปรากฏว่า เมื่อมาถึงก็มีที่ว่างที่มุมด้านบนพอดี ซึ่งระหว่างเกิดเหตุต่างก็หลบหนีเอาตัวรอด เพราะเหตุการณ์ชุลมุน ซึ่งสามารถหนีรอดมาได้ 3 คน และเพื่อนตายไป 3 คน อีก 1 คนยังหายสาบสูญ ถึงตรงนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งจากนี้ก็จะนำศพของทั้งสองไปไว้ที่วัดกก ย่านพระราม 2 เพื่อประกอบพิธีต่อไป

ตร.เร่งตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ 11 ศพนิรนาม
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.ที่ สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.นิธิ บิณฑุวงศ์ ผกก.กลุ่มงานพิสูจน์เอกลักษณ์และการส่งกลับ สนว.ตร.กล่าวว่า วันนี้ไม่มีการประชุม แต่ได้เร่งทำการตรวจพิสูจน์ทั้งดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ ประวัติการทำฟันและอื่นๆ โดยขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วจำนวน 63 คน โดยยังมีศพที่ตกค้างและไม่ทราบว่าเป็นของใครทั้งสิ้น 11 ศพ โดยอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ 6 ศพ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 5 ศพ ซึ่งศพที่ตกค้าง เนื่องจากถูกไฟไหม้เกรียมอย่างมาก แม้ญาติจะมาดูในระยะใกล้ห่างกัน แต่ 1 ฟุต ก็ไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ ซึ่งถึงตรงนี้มีญาติของผู้ที่คาดว่าจะเสียชีวิต นำเอกสาร หลักฐานต่างๆ กว่า 20 คน เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งดำเนินการอยู่ และจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด แต่บางคนอาจจะไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากญาติอาจอยู่ต่างจังหวัด และไม่ทราบว่ามาเที่ยวที่นี่ อาจมีการแจ้งความตามพื้นที่ต่างๆ เนื่องจากหายไป จึงไม่ทราบเรื่อง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจพิสูจน์ศพนิรนามที่เหลือทั้งหมดให้ทราบว่าเป็นใคร จึงจะถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ

แม่หมดหวังจุดธูปขอลูกเข้าฝันให้พบศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางบุญมี อาจนนลา อายุ 50 ปี พร้อมครอบครัวเดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ พร้อมนำฟิล์มเอกซเรย์ของ นางสาวอนงรักษ์ อาจนนลา อายุ 27 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบุตรสาว มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามตัว พร้อมกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า ว่า บุตรสาวหลังจากเคลียร์งานที่โรงแรมเสร็จ ได้มากับเพื่อนรวม 2 คน มาเที่ยวที่ ซานติก้า ผับ ซึ่งเมื่อมาทราบหลังเกิดเหตุพบว่า เพื่อนของบุตรสาวนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเลิดสิน และเย็บแผลกว่า 16 เข็ม ซึ่งก็ได้มาที่นี่ตั้งแต่วันแรก รวมถึงไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลตำรวจ และโรงพยาบาลจุฬาฯ แต่ก็ไม่พบศพ ไปตามหาตามโรงพยาบาลต่างๆ ก็ไม่พบ ซึ่งบางส่วนก็มีการปิดบังไม่ให้เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมเรื่อยๆ ขณะนี้ก็หมดหวังแล้วว่าลูกจะรอดชีวิต เพราะหายไปตั้งแต่เกิดเหตุ

“ไปตามหามาทุกที่ ก็ไม่เจอ ถึงตอนนี้ก็ขอเพียงแค่พบศพลูกเท่านั้น ซึ่งแม่และครอบครัวก็ไป ที่เกิดเหตุทุกวัน เมื่อวานก็เอาของไปเซ่นไหว้ และจุดธูปขอให้ลูกมาเข้าฝันว่าอยู่ที่ไหน แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนี้ก็จะไปที่ที่เกิดเหตุอีก โดยเอาไก่ย่าง ข้าวเหนียว พร้อมจุดธูปเรียกเขา เพราะกลัวเขาจะหิว ปกติเขาเป็นคนน่ารัก ให้เงินเดือนแม่ทุกเดือนๆ ละ 7-8 พันบาท และเป็นกำลังหลักของครอบครัว แม่มีลูก 3 คน ผู้ชายเป็นคนโต เขาเป็นคนกลาง และมีน้องสาวอีกคน อยากให้ตำรวจช่วยทำงานเต็มที่ เพราะเอาดีเอ็นเอมาตรวจตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบผล ส่วนที่เกิดเหตุเมื่อไปดูพบว่าเอาเหล็กดัดตรงทางเข้าออก และเปิดประตูให้ดูกว้างขึ้น ทั้งที่ความจริงไม่ใช่แบบนี้” นางบุญมี กล่าว

“เสี่ยขาว” หุ้นส่วนใหญ่ “ซานติก้า” เข้าพบตำรวจ
ต่อมาเวลา 13.45 น.นายวิสุข เสร็จสวัสดิ์ หรือ เสี่ยขาว อายุ 41 ปี เจ้าของ ซานติก้าผับ ได้เดินทางมาด้วยรถตู้โฟล์ค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษจ 6167 กทม.พร้อมด้วย นายคงศักดิ์ พูลเจริญ ทนายความ และลูกน้องอีกนับ 10 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยมี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ ร่วมทำการสอบปากคำด้วยตนเอง

ร่ำไห้เสียใจ-ขอโทษญาติเหยื่อ
นายวิสุข กล่าวทั้งน้ำตานองหน้า พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ขอโทษ ว่า ตนรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้และต้องขอโทษญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บทุกคน ตนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ยังรู้สึกช็อกและเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล ถึงตนจะเป็นหุ้นส่วนรายหนึ่ง แต่ก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก โดยในวันเกิดเหตุตนอยู่บริเวณด้านหลังร้าน มีพนักงานเดินมาบอกตนว่าเกิดไฟไหม้ ตนจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปภายในผับ และได้รับบาดเจ็บเนื่องจากสูดควันไฟเข้าไปจำนวนมาก จากนั้นก็มีผู้นำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

ช่วยศพละ 20,000 บาท บาดเจ็บ 10,000 บาท
ขณะที่ นายคงศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการของบริษัทกับหุ้นส่วนทั้ง 31 คน จะกลับมารวมหุ้นกันอีกครั้ง และได้จัดตั้งวอร์รูมเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยเบื้องต้นรวบรวมเงินได้เป็นจำนวน 2 ล้านบาท คาดว่า จะสามารถจัดตั้งวอร์รูมได้ภายในวันที่ 5 มกราคมนี้ ส่วนจะเป็นสถานที่ใดนั้นคงต้องปรึกษากันอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ทาง บริษัท ไวท์แอนด์บราเทอร์ ได้ให้การช่วยเหลือเหยื่อโดยแยกเป็นผู้เสียชีวิต ศพละ 20,000 บาท พร้อมพวงหรีดแสดงความเสียใจ ประกอบด้วย 1.น.ส.มณีวรรณ อุบลมณี 2.นายปุณรัตน์ แสนเมืองชิน 3.นายมงคล วันบันเทิง 4.นางมนัญญา บุญสาร 5.นายเสกสรร กิ่งแก้ว 6.นางแพง อัยรา 7.นายสุรพล เมฆไทย 8.นายทรงพล ธาโพธิ์ 9.นางรุ่งนภา ไทยประเสริฐ ส่วนผู้บาดเจ็บรายละ 10,000 บาท ประกอบด้วย 1.น.ส.นันทพันธุ์ เลิศสกุลธรรม 2. น.ส.นภัส ภูมีราม รวม 11 ราย นอกจากนี้ ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวัฒนา และพนักงานสอบสวน ว่า จะสามารถดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพิ่มเติมได้อย่างไรได้บ้าง

ยอมรับ ไม่ได้ต่อสัญญาประกันภัย
นายคงศักดิ์ กล่าวถึงกรณีการทำประกันภัยของซานติก้าผับ ว่า เป็นไปตามที่มีการนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้ โดยหมดสัญญาประกันภัยเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา และไม่ได้ต่อสัญญาประกันภัย เนื่องจากใกล้จะหมดสัญญาเช่าในวันที่ 31 ธันวาคม 2551 อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้รวบรวมเงินจากหุ้นส่วนทั้งหมด 31 คน ได้จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อตั้งเป็นกองทุนมอบให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตต่อไป

จ่อ 2 ข้อหา “เสี่ยขาว” กระทำการประมาท
ด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายวิสุข หรือ เสี่ยขาว ทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ โดยตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว เมื่อผู้ประกอบการเป็นบริษัทก็จะพิจารณาดำเนินคดีกับกรรมการผู้จัดการ สำหรับ บริษัท ไวท์แอนด์บราเทอร์ จำกัด คือ นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ ซึ่งจะต้องเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

พล.ต.อ.จงรัก กล่าวต่อว่า ส่วนการพิจารณาดำเนินคดีข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในวันเดียวกันนี้ ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ นายวิสุข แต่อย่างใด เป็นเพียงการสอบปากคำเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 100 ปาก ทำให้ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้แล้ว สำหรับหุ้นส่วนของบริษัทไวท์แอนด์บราเทอร์ นั้น ทราบว่าจะทยอยเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนต่อไป

ตร.เชื่อสาเหตุเกิดจากเอฟเฟกต์บนเวที
รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ หลังจากสอบปากคำ นายวิสุข ในเบื้องต้นว่า แนวโน้มน่าจะเกิดจากเอฟเฟกต์บนเวที ซึ่งหากผลสอบพบว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในร้าน นักดนตรี รวมทั้งลูกค้าที่มาเที่ยวก็จะพิจารณาดำเนินคดีทั้งหมด

พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายวิสุข หรือ เสี่ยขาว ทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ โดยตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว เมื่อผู้ประกอบการเป็นบริษัทก็จะพิจารณาดำเนินคดีกับกรรมการผู้จัดการ สำหรับบริษัท ไวท์แอนด์บราเทอร์ จำกัด คือ นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ ซึ่งจะต้องเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

“เสี่ยขาว” เปิดใจช่วงวินาทีเพลิงพิโรธ
ภายหลังการเข้าให้ปากคำเสร็จสิ้น นายวิสุข หรือ เสี่ยขาว ออกมาเปิดเผยว่า เสียใจที่สุดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ต้องขอโทษญาติผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย อยากจะช่วยเหลือ และช่วยบรรเทาสิ่งที่เกิดขึ้นกับญาติพี่น้องคนเจ็บ ซึ่งตนก็เจ็บปวดพอๆ กันกับญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขณะนี้พยายามรวบรวมเงินที่มีอยู่ และของหุ้นส่วน ให้ตัวแทนของซานติก้าเป็นผู้ดูแลมอบให้ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ

“ช่วงที่เกิดเหตุ หลังจากผมทราบว่าไฟไหม้ ได้วิ่งเข้าไปภายในร้าน ก็เห็นกลุ่มควันจำนวนมาก จึงนำถังดับเพลิงที่อยู่ด้านข้างเข้าไปฉีดสกัด แต่ไม่สามารถต้านทานได้ เพราะมีกลุ่มควันจำนวนมาก จากนั้นจึงวิ่งออกมาด้านนอก เอาตัวรอด ก่อนจะโทร.แจ้งดับเพลิง ขณะนั้นผมอยู่ด้านหน้าทางเข้า เห็นไฟลุกโหม นักเที่ยวเบียดเสียดกันหนีตายเอาตัวรอด บางคนช่วยกันดึงมือ ผมก็วิ่งเข้าไปช่วยเท่าที่ทำได้ จังหวะนั้นมีคนตะโกนบอกว่า มีคนติดในห้องน้ำ ผมจึงตั้งสติ นึกถึงแปลนของร้าน เพื่อที่จะช่วยผู้ที่ติดอยู่ข้างในออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเดินทางมาถึงพอดี จึงสามารถเข้าไปช่วยออกมาได้ทัน ผมในนามหุ้นส่วน รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง โดยจะช่วยบรรเทาญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างดีที่สุด” นายวิสุข กล่าว

หุ้นส่วนใหญ่ซานติก้าผับ กล่าวต่อว่า ส่วนของเอฟเฟกต์ที่มีการจัดขึ้นในวันเกิดเหตุนั้น ทางร้านเคยจัดกิจกรรมในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว และไม่เคยเกิดความผิดพลาด โดยทีมงานที่ดูแล เป็นทีมงานด้านมาร์เก็ตติ้งเป็นผู้รับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม ทาง นายวิสุข และทนายความได้ปรึกษากับทางพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการจัดตั้งวอร์รูม เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่เสียชีวิตและบาดเจ็บแล้ว โดยจะใช้ห้องที่ใช้สอบปากคำที่สน.ทองหล่อ เป็นห้องพบญาติเหยื่อ ซึ่งจะมีการจ่ายค่าชดเชย และพูดคุยขอโทษกับบรรดาญาติพี่น้องของเหยื่อตั้งแต่เวลา 11.00 น.ในวันพรุ่งนี้ (5 ม.ค.) เป็นต้นไป ทั้งนี้ หลังการให้ปากคำกับตำรวจเสร็จสิ้น นายวิสุข ได้เดินทางไปยัง ซานติก้าผับ โดยนิมนต์พระสงฆ์ 18 รูป สวดพุทธมนต์อุทิศส่วนกุศลให้ผู้วายชนม์

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

...

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหยื่อเพลิงซานติก้าชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต รวมยอดทั้งหมด 64 ศพ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 มกราคม 2552 11:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เผยเหยื่อซานติก้าผับ ชายชาวญี่ปุ่น เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย หลังทนพิษบาดแผลไม่ไหว รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 64 ราย ขณะที่วันนี้ (5 ม.ค.) สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เตรียมมอบศพเหยื่อซานติก้าผับ 4 ศพสุดท้าย ให้กับญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>



<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โจ๋!แห่พิสูจน์ "ผีซานติก้า" มือถือถ่ายติดวิญญาณ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 มกราคม 2552 12:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>วงเบิร์น วงดนตรีที่เล่นในวันเกิดเหตุ</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพจากมือถือที่ถ่ายติด พบสิ่งปกติอยู่ 2 แห่ง</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>วงเบิร์นโผล่ ปัด ไม่เกี่ยวจุดเอฟเฟ็กซ์ โยน มีทีมงานดูแลเรื่องเอฟเฟ็กซ์โดยเฉพาะ ส่วนนักร้องนำ ระบุ นอนไม่หลับภาพเหตุการณ์ติดตา เสียใจแฟนคลับ พนักงานและคนรู้จักต้องมาจบชีวิต ด้านโจ๋ลองของพิสูจน์ความเชื่อบุกดู "ผีซานติก้า" ผงะถ่ายภาพติดวิญญาณ

วานนี้(4 ม.ค.) นายฉัตรชัย ศิริพงษ์ หรือหนุ่ย หัวหน้าวงเบิร์น และมือเบส กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุตนกำลังเล่นกีต้าร์อยู่บนเวทีโดยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จุดเอฟเฟ็กซ์ขึ้นมา แต่หลังจากนั้นได้เหลือบมองขึ้นไปบนฝ้าเพดานเห็นไฟกำลังลามไปทั่ว เมื่อเห็นว่าไฟไหม้จึงรีบวิ่งออกทางด้านหลังเวทีมายังลานจอดรถ ทั้งนี้ ตนอยากจะขอแก้ข่าวที่ว่า นักร้องเป็นผู้จุดเอฟเฟ็กซ์นั้นไม่เป็นความจริงเพราะเอฟเฟ็กซ์จะมีทีมงานดูแล ทางนักร้องนักดนตรีจะไม่มีส่วนเข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ภายหลังเกิดเหตุสมาชิกวงทุกคนรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่กิดขึ้น ถึงขนาดพูดกันในวงว่าจะเปลี่ยนชื่อวงหรือไม่ แต่ก็เห็นว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน โดยวงนี้ตั้งมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ได้เล่นดนตรีหลายที่ ส่วนที่ซานติก้าจะเล่นทุกวันอังคารถึงพฤหัสบดี เวลา 23.30 น.ถึง 00.30 น.สำหรับสถานบันเทิงอื่น ๆ ก็จะเล่นที่อาร์ซีเอและอีกหลายที่

ด้าน นายกมล อ่อนทอง หนึ่งในนักร้องนำวงเบิร์น กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นคนดูด้านล่างมองขึ้นมาเหนือศีรษะ เมื่อตนมองขึ้นไปก็เห็นเพลิงกำลังลุกลามไปที่ไฟพาร์ หรือไฟแสงสีประกอบการแสดงดนตรี เพียงช่วงไม่กี่วินาทีไฟก็ลามไปทั่วติดที่ไมโครไฟเบอร์ และมีเปลวไฟหยดลงมาบนเวที แม้จะพยายามช่วยกันดับก็ไม่ทันการณ์เพราะไฟลุกลามเร็วมาก จึงพากันวิ่งหลบหนีออกมา โดยช่วงที่ออกมาถึงปากประตูก็พบว่าไฟฟ้าดับแล้ว มีควันไฟจำนวนมากทะลักออกมา

“ผมได้ห้ามมือกลองของวงไม่ให้เข้าไปเอากลองเพราะไฟไหม้ลามไปหมดแล้ว นอกจากนี้ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากภายในอย่างโกลาหล จึงไปคว้าเอากระบอกไฟฉายมาส่องเข้าไปภายในเพื่อชี้ทางให้กับผู้ที่ยังติดอยู่ แต่คิดว่าทั้งหมดคงไม่ได้ยินเพราะมีควันไฟจำนวนมาก ส่วนพนักงานในร้านก็บอกกับผมว่า มีลูกค้าประมาณ 30 คน วิ่งหนีออกมาทางเดียวกับที่ผมวิ่งหนี” นายกมล กล่าว

นายกมล กล่าวต่อว่า รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นพวกตนได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ตนให้ปากคำก็ยังรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ ช่วงที่ให้ปากคำก็แทบจะพูดไม่ออกเพราะภาพเหตุการณ์มันติดตามาก และแต่ละคืนก็ยังนอนไม่หลับ รู้สึกเสียใจมากโดยเฉพาะกับแฟนคลับและพนักงานอีก 8 คน ที่รู้จักกันมานานซึ่งต้องเสียชีวิตไป โดยทราบว่าส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเนื่องจากคอยช่วยเหลือลูกค้าในร้านจนหนีออกมาไม่ทัน

ภายหลังนักเที่ยวตกเป็นเหยื่อของเพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับ และมีการนำมาผูกโยงถึงความเชื่อของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับ ซานติก้าผับ เกี่ยวกับเรื่องราวอาถรรพณ์ที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 4 มกราคม กลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากทยอยเดินทางไปยังอาคารซานติก้าผับที่ถูกไฟไหม้เพื่อ ถ่ายรูป โดยบางคนอ้างว่าคนเฒ่าคนแก่เล่าว่า คืนวันที่สาม วิญญาณของคนตายจะมายังจุดที่เสียชีวิต จึงอยากมาดูและถ่ายรูปเอาไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นนายณัฐวุฒิ อุระเพ็ญ อายุ 29 ปี ได้หยิบโทรศัพท์ให้ผู้สื่อข่าวดูพร้อมกับกล่าวด้วยสีหน้าตื่นตระหนกว่า เวลาประมาณสี่ทุ่ม ตนเดินทางมาดูซานติก้าผับ แล้วถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือ เมื่อเปิดดูรู้สึกตกใจ เพราะเห็นรูปผิดสังเกตถึง 2 จุดด้วยกัน จุดแรก ภาพหน้าต่างของซานติก้าผับทุกบานจะมืด แต่ด้านซ้ายสุดมีรูปคล้ายหัวคนโผล่ออกมา และบริเวณดาดฟ้าก็มีรูปคล้ายหญิงลักษณะใส่เสื้อสีฟ้ายาวลงมาคลุมกางเกงสีส้ม

"ผมถ่ายภาพไว้เมื่อเวลา 22.30 น. ขณะนั้นมีผมและตำรวจที่ดูแล 2-3 นายเท่านั้น ตั้งใจจะถ่ายเป็นที่ระลึก หลังดูภาพแล้วรู้สึกตกใจจึงกลับบ้าน แต่ก็นอนไม่หลับ จึงกลับมาอีกครั้ง เมื่อมาถึงก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นทยอยเดินทางมาดูซานติก้าผับไม่ขาดสาย"

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามวัยรุ่นหลายคนก็อ้างว่า อยากมาดูให้เห็นกับตาถึงเรื่องราวอาถรรพณ์ที่มีการร่ำลือกัน และบางคนก็อ้างว่าเห็นความผิดปกติเหมือนกัน พร้อมกับนำรูปถ่ายมาชี้จุดผิดสังเกตให้ดูด้วย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เขาคงเคยทำกรรมร่วมกัน
แล้วมาประจวบเหมาะ ที่ได้โคจรมาพบเจอกัน

ขอให้ไปสู่สุขตินะคะ

 

ขอให้ดวงวิญญาณของแต่ละท่านโชคดี

ไปสู่สุขคติโดยเร็ว โดยอำนาจบุญบารมีเต็มท้องฟ้า

แห่งหลวงปู่ทวด และหลวงปู่ดู่ โปรดช่วยนำดวงวิญญาณเหล่านี้

ไปสู่ที่ๆ ดีขึ้นด้วยเถอะๆ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อึ้ง! ตร.คาด 1 เดือนรู้เหตุไหม้ “ซานติก้า”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 มกราคม 2552 14:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งตั้งโต๊ะมอบเงินช่วยเหลือค่าทำศพกับญาติ</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ซานติก้าผับตั้งโต๊ะรับหลักฐานการมอบเงินช่วยเหลือเหยื่อ</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพศพผู้เสียชีวิตจากเหตุกาณ์ไฟไหม้ "ซานติก้า ผับ"</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“เฮียขาว” ส่งทีมงานตั้งโต๊ะช่วยเหลือ “เหยื่อซานติก้า” ที่ สน.ทองหล่อ “ป่อเต็กตึ๊ง” ใจป้ำมอบเงินช่วยเหยื่อไฟไหม้ศพละ 5,000 บาท ส่วน ตร. ยังสรุปหาสาเหตุไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร ระบุ 1 เดือนถึงจะรู้ ทาง กก.ผจก.ยังล่องหนไม่มาให้ปากคำ ด้าน “ดีเจภูมิ” เตรียมเข้าให้ปากคำช่วงบ่ายนี้

วันนี้ (5 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ สน.ทองหล่อ ว่า นายสุพจน์ ทศศิริ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมทีมงานได้ตั้งโต๊ะช่วยเหลือค่าทำศพผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ โดยนายสุพจน์ เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิจะตั้งโต๊ะช่วยเหลือเงินค่าทำศพรายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 2 วัน คือในวันที่ 5-6 ม.ค.ซึ่งหลังจากนี้หากญาติผู้เสียชีวิตรายใดที่ยังไม่ได้มารับเงินช่วยเหลือก็ให้นำเอกสารคือ สำเนาใบมรณบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชนญาติที่รับเงินไปติดต่อขอรับเงินช่วยเหลือได้ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายคงศักดิ์ พูลเจริญ ทนายความของนายวิสุข หรือเฮียขาว เสร็จสวัสดิ์ เจ้าของซานติก้าผับ พร้อมทีมงานของซานติก้าผับ ได้ตั้งโต๊ะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ อยู่ภายในห้องปฏิบัติการจราจร สน.ทองหล่อ โดยทีมงานได้แจกเอกสารที่จะต้องใช้ดังนี้ คือ บัตรประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต ใบมรณบัตร หรือหลักฐานการรักษาพยาบาล ใบสมรส หรือใบหย่า (ถ้ามี) บัตรประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้แจ้ง บิดา มารดา คู่สมรส และบุตรทุกคน และหลักฐานอื่นๆถ้าต้องการภายหลัง โดยจะมีทีมงานรับเอกสารหลักฐานตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น.ของทุกวัน หรือติดต่อได้ที่หมายเลข 08-4386-2596 โดยในวันนี้ได้มีกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิตพากันทยอยกันนำหลักฐานมามอบให้กับทีมงานบ้างแล้ว

น.ส.สุพัตรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี พนักงานห้องน้ำหญิงของซานติก้าผับ หนึ่งในผู้บาดเจ็บที่เดินทางนำหลักฐานมามอบให้ทีมงานของซานติก้าผับ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังให้บริการอยู่ในห้องน้ำของผับซึ่งอยู่ชั้นใต้ดิน จนกระทั่งเกิดเหตุเพลิงไฟไหม้ก็มีลูกค้าจำนวนมากพากกันวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เนื่องจากคิดว่ามีประตูทางออกอยู่ทางห้องน้ำชาย ทั้งนี้ ในห้องน้ำชายมีผ้าเช็ดหน้าอยู่จำนวนมาก ลูกค้าก็พากันหยิบเอาผ้ามาชุบน้ำปิดจมูกปิดปากเพื่อกันควันไฟ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เข้าไปช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ภายในห้องน้ำออกมาได้ ซึ่งหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำได้ตนก็พบศพกองอยู่ตรงบริเวณบันไดทางขั้นจากชั้นใต้ดินเป็นจำนวนมาก ซึ่งถ้าตนหนีออกมาช่วงเกิดเหตุก็อาจจะต้องแย่งกันออกกับลูกค้าจำนวนมาก จนอาจจะทำให้โดนเหยียบเสียชีวิตก็เป็นได้

ด้าน พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ทางกลุ่มผู้บริหารทางซานติก้าผับ ได้ประสานมายังสน.ทองหล่อ เพื่อขอใช้สถานที่ในการตั้งโต๊ะช่วยเหลือเงินกับผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิต โดยทาง สน.จะอนุญาตให้ใช้ห้องปฏิบัติการจราจรได้ตลอด 24 ชม. จนกว่าจะแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือดีเจภูมิ กับนายวิเชียร กุศลมโนมัย หรือดีเจเพชรจ้า ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุเพลิงไหม้จะเดินทางเข้ามาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนด้วย สำหรับผู้บริการของซานติก้าผับทั้ง 13 คน ทีมีชื่ออยู่ในปกซีดีของผับที่ได้แจกในวันเกิดเหตุนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้ทั้งหมดเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 7 ม.ค.นี้

พ.ต.อ.สุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับ นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไวท์ แอนด์ บราเธอร์ ทางพนักงานสอบสวนได้นำหมายเรียกไปให้เจ้าตัวที่หน้าบ้านของนายสุริยาย่านริมทางรถไฟแล้ว แต่ไม่พบตัว จึงได้ติดหมายเรียกไว้ที่หน้าบ้านแล้ว ส่วนเรื่องการสอบปากคำพยานขณะนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไปแล้วประมาณ 100 ปาก ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะสามารถสรุปได้

ด้าน พ.ต.ท.ชนิน วชิรปาณีกูล รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ในส่วนของการสอบปากคำพยานได้ทยอยสอบปากคำเรื่อยๆ ขณะนี้ได้ประมาณ 115 ปากส่วนนักดนตรีวงเบิร์น ซึ่งเล่นดนตรีในคืนเกิดเหตุก็สอบปากคำแล้ว โดยบอกว่าไม่เห็นเหตุการณ์เพราะขณะเห็นปรากฏว่ามีไฟลุกติดแล้ว ในส่วนของนายสุริยาที่นัดให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ หากไม่มาจะทำการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ซึ่งจะสอบสวนในขั้นตอนโครงสร้างของบริษัทว่าใครดำรงตำแหน่งใดบ้าง หากไม่มาจะออกครั้งที่ 3 หากไม่มาจึงจะขอออกหมายจับ ส่วนขอห้าเบื้องต้นที่แจ้งได้คือ ปล่อยปะละเลยให้มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปในสถานบริการ ส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างสอบสวน โดยจะสอบปากคำพยานแวดล้อมทั้งหมดมาประมวลทั้งก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ การวางเพลิง การประมาท และเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งต้องตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งว่ามีพยานหลักฐานทุ่งไปทางไหน ซึ่งจะรอประสานกทม.ต่อไป ด้านบริษัทออแกไนซ์ที่ทำเอ็ฟเฟ็กต์ในซานติก้า ผับ ได้ออกหมายเรียกไปแล้วและนัดให้มาพบในวันที่ 9 มกราคม

ต่อมาเวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือดีเจภูมิ ติดต่อขอเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเวลา 15.30 น. ส่วนนายวิเชียร กุศลมโนมัย หรือดีเจเพชรจ้า ขอให้เข้าปากคำในวันที่ 6 ม.ค.นี้ เนื่องจากขณะนี้ติดภารกิจอยู่ที่ จ.เชียงใหม่

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตร.ได้คลิปนักเที่ยวคลี่ปมไหม้ “ซานติก้า” สังเวย 64 ศพ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 มกราคม 2552 15:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สภาพ "ซานติก้า" เพลิงเผาวอด นักเที่ยวมีทั้งไทยและต่างชาติต้องสังเวยชีวิตรับปีวัว</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สภาพศพผู้เสียชีวิต ใน "ซานติก้า"</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ผบช.สนว.เผย ยอดสังเวยพระเพลิงผับนรก “ซานติก้า” รวม 64 ราย สัญชาติไทย 59 ราย สิงคโปร์ 3 ราย เป็นชาวยุ่น-หม่อง อย่างละ 1 ราย ระบุ มีคลิปมือถือจากนักเที่ยวถ่ายเหตุการณ์ไว้ ทำให้เห็นข้อมูลบางอย่างกระจ่างชัดขึ้น โดยมีหลักฐาน “โฟมไหม้ไฟ-สายไฟ-สปอตไลต์-เครื่องยิงเอฟเฟกต์” รวมทั้งคำให้การใช้ประกอบผลตรวจพิสูจน์หลักฐานชี้ชัดมูลเหตุที่แท้จริง ยอมรับต้องใช้เวลา เพื่อให้เชื่อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องใช้ในชั้นศาลด้วย

วันนี้ (5 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สนว. พล.ต.ท.สมยศ ดีมาก แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ เสาวคนธ์ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พ.ต.อ.พรชัย สุธีรคุณ รอง ผบก.สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ร่วมแถลงข่าวการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้สถานบริการซานติก้า เมื่อวันที่ 1 ม.ค.โดย พล.ต.ท.ดนัยธร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ผช.ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ รพ.ตำรวจ สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ และสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สนธิกำลังเข้าช่วยเหลือพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เนื่องจากในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากอยู่ในสภาพถูกเผาไหม้จนไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้ใด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้ร่วมกันดำเนินการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลโดยใช้หลักทางวิทยาศาสตร์ ทั้งการตรวจลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ ข้อมูลทันตกรรม และข้อมูลกายภาพจากศพมาเปรียบเทียบกับข้อมูลจากญาติผู้ตาย จึงทำให้ในขณะนี้ ตำรวจสามารถทราบแล้วว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นใครและได้แจ้งให้ญาติทราบแล้ว

พล.ต.ท.ดนัยธร กล่าวต่อไปว่า สำหรับยอดผู้เสียชีวติมีทั้งสิ้น 64 ราย เป็นการเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 58 ราย เสียชีวิตเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล 6 ราย โดยแบ่งเป็นบุคคลสัญชาติไทย 59 ราย สิงคโปร์ 3 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย และ พม่า 1 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเกือบทั้งหมดมีญาติได้มาติดต่อขอรับศพกลับไปแล้ว เหลือเพียงศพขอของ น.ส.จันทร์เจ้า แผนสมบูรณ์ อายุ 29 ปี เพียงศพเดียวที่ญาติยังไม่ได้มารับศพกลับไป

พล.ต.ต.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สนว.กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่ซานติก้าผับว่า ตอนนี้ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดแล้วหลังเกิดเหตุแต่ยังไม่สามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันได้ทั้งหมด ต้องรอคำให้การผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยต้องประสานงานพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันว่าหลักฐานที่เก็บมาได้นั้นอยู่ในส่วนไหนของที่เกิดเหตุ แต่ขณะนี้มีข่าวดีคือได้คลิปวิดีโอจากมือถือที่คนไปเที่ยวถ่ายเล่นมาจำนวนมากทำให้มองเห็นอะไรบางอย่างกระจ่างขึ้น

พล.ต.ต.ดนัยธร กล่าวว่า ขณะนี้ผลการพิสูจน์คืบหน้าไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ตอนนี้เพราะพนักงานสอบสวนก็ยังสอบสวนไม่หมดซึ่งเราก็ไปร่วมอยู่ตลอดนำมาประกอบข้อมูล เพื่อทำไปเป็นภาพใหญ่ว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ต้องขอเวลาอีกหน่อยขณะนี้ก็ส่งคนไปดูดน้ำออกจากห้องใต้ดินซานติก้าผับเพื่อหาหลักฐานเพิ่ม

“บางคนอาจคิดว่าการตรวจพิสูจน์ช้า ทำไมป่านนี้ยังไม่ได้เรื่อง คือ ตอนแรกมันมืดแปดด้าน แต่ตอนนี้เมื่อนำหลักฐานทุกอย่างมารวมกันเริ่มกระจ่างแล้ว อย่างจุดไหนมากแค่ไหนอย่างไร ก็นำเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบ พลุ หรือเอฟเฟกต์ เป็นอย่างไรก็ตรวจสอบอย่างเต็มที่ แต่ผลตรวจพิสูจน์หลักฐานไม่ใช่ว่าจะต้องเชื่อถือแค่ 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องเชื่อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องนำไปใช้ในศาล ต้องขอเวลาเพื่อความมั่นใจก็พร้อมจะชี้แจงให้ทราบโดยเร็วที่สุด” ผบช.สนว.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักฐานหาสาเหตุเพลิงไหม้มาจากคลิปอย่างเดียวหรือไม่ พล.ต.ต.ดนัยธร กล่าวว่า ไม่ใช่หลักฐานจากคลิปเป็นพียงภาพประกอบ หลักฐานส่วนใหญ่ได้มาจากที่เกิดเหตุเช่นแผ่นโฟมไหม้ไฟ สายไฟ สปอตไลท์ เครื่องยิงเอฟเฟกต์ รวมทั้งคำให้การของนักท่องเที่ยวที่นำมาสอบปากคำ เพราะขณะนี้ที่เกิดเหตุอันตรายมากเพราะวัสดุไหม้หมดแล้วพร้อมที่จะหล่นลงมาได้

ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ที่หลายฝ่ายมองว่า เกิดจากพลุนั้น พล.ต.ต.ดนัยธร กล่าวว่า ในส่วนนี้เรามีภาพรวมทั้งเศษวัสดุ ยืนยันว่ามีการจุดพลุแน่ แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าพลุเป็นผลทำให้เกิดเพลิงไหม้หรือไม่ ส่วนกรณีจุดพลุไฟเย็นก็ยังไม่มีภาพ ต้องรอผลการสอบสวนมาประกอบ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ดีเจภูมิ” เชื่อ “เปเปอร์ชู้ต” ต้นเหตุซานติก้ามรณะ!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 มกราคม 2552 16:56 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ญาติทำพิธีเรียกวิญญาณผู้เสียชีวิติกลับบ้าน</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือ "ดีเจภูมิ" เข้าให้ปากคำกับตำรวจ</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>กองพิสูจน์หลักฐาน ควงเจ้าหน้าที่วิศวกรรมลงตรวจ “ซานติก้า” อีกรอบ ระบุผับไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัย-ประตูทางออกแคบ อีกทั้งสถานที่มีวัสดุติดไฟง่ายอยู่มาก ด้าน “ดีเจภูมิ” เข้าให้ปากคำยันสาเหตุเพลิงไหม้น่ามาจาก “เปเปอร์ชู้ต” อย่างแน่นอน เผยเตือนทีมงานถึงอุปกรณ์ดังกล่าวแล้วว่าไม่เหมาะเอาเข้ามาเล่นในผับ วอนผู้ใหญ่บรรจุหลักสูตรวิธีเอาตัวรอด

วันนี้ (5 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่จากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วศท.) และเจ้าหน้าที่โยธา สำนักงานเขตวัฒนา เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซานติก้าผับอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสูบน้ำที่ขังอยู่ออกจนหมด จากนั้นได้เริ่มเข้าตรวจภายในผับทันที

นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ ประธานอนุกรรมการมาตรฐานคามปลอดภัยอาคาร วศท.เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจสอบภายในบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่า ภายในผับไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัยเลย ไม่ว่าจะเป็นไฟฉุกเฉิน ป้ายบอกทางหนีไฟ แต่ทั้งนี้ก็อาจจะถูกไฟเผากลายเป็นซากไปก็ได้ และยังพบว่าภายในอาคารมีเนื้อที่อยู่ประมาณ 400 ตารางเมตร ซึ่งไม่น่าจะรองรับคนได้เกิน 400 คน สำหรับทางออกของผับนั้น จากการตรวจสอบพบว่ามีทางออกทั้งหมด 3 ทางด้วยกัน ซึ่งเชื่อว่าหากมีคนอยู่ไม่เกิน 400 คน รวมทั้งหากมีสปริงเกอร์ ไฟฉุกเฉิน ป้ายบอกทางหนีไฟที่ชัดเจนก็ไม่น่าจะมีผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประตูทางออกหลักพบว่ามีความกว้าง 2 เมตร 18 เซนติเมตร ซึ่งหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ คนที่อยู่ภายในก็จะพากันกรูออกมาทางประตูหลัก ซึ่งจากการคำนวณก็ไม่น่าจะรับได้เกิน 200 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ต้องหากทางออกอื่นเอา

นายพิชญะ กล่าวต่อว่า จากากรตรวจสอบโดยรอบบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่าอาคารของผับนั้นมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ภายในเยอะมากกว่าที่คาดไว้ตั้งแต่แรก มีทั้งไฟเบอร์กลาส เรซิน พลาสติกที่สามารถติดไฟได้ง่ายมาก นอกจากนี้ยังมีโพลีสไตรีนโฟมที่บุเป็นผนังของผับ ซึ่งหากติดไฟแล้วเกิดควันขึ้นมา ควันนั้นก็จะกลายเป็นก๊าซพิษ ซึ่งหากสูดดมเข้าไปแล้วก็อาจจะทำให้หมดสติไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

หลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานใช้เวลาในการตรวจสอบจุดเกิดเหตุประมาณ 2 ชั่วโมง จนถึงเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบก.พฐ.เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เชิญหน่วยงานเจ้าหน้าที่จากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วศท.) สถาปนิกสยาม เจ้าหน้าที่โยธา สำนักงานเขตวัฒนา และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุในส่วนของโครงสร้างด้านหลังอาคาร และบริเวณเวทีที่เป็นจุดเกิดเหตุเพื่อหาชิ้นส่วนที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากชิ้นส่วนจุดชนวนเอฟเฟกต์ หรือวัสดุตกแต่งภายในร้าน และตรวจสอบร่องรอยของเพลิงไหม้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางเข้าตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เนื่องจากยังมีพื้นที่ที่จะต้องตรวจสอบอีกจำนวนมาก รวมทั้งจะต้องตรวจสอบในส่วนของบัญชีการจัดซื้อจัดจ้างในส่วนของทีมทำเอฟเฟกต์ของผับอีกด้วย

สำหรับบรรยากาศที่บริเวณซานติก้าผับ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ทยอยกันเดินทางมานำอาหารและเครื่องเซ่นไหว้มาวางไว้ที่เต้นท์ด้านหน้ากันตลอดทั้งวัน โดยในช่วงเช้าญาติของ น.ส.นงลักษณ์ อาจนนลา อายุ 27 ปี ได้นำศพของ น.ส.นงลักษณ์ พร้อมเครื่องเซ่นไหว้ใส่รถตู้มาทำพิธีเรียกวิญญาณกลับบ้าน ส่วนในช่วงบ่าย ญาติของนายทิวากร ปิณฑะบุตร ได้นำเครื่องเซ่นไหว้พร้อมรูปของนายทิวากรมาทำพิธีเรียกวิญญาณกลับบ้านเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกัน ที่ สน.ทองหล่อ เวลา 15.00 น. นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือดีเจภูมิ พีธีกรบนเวทีในคืนเกิดเหตุได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 หัวหน้าพนักงานสอบสวน โดยดีเจภูมิ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าสาเหตุมาจากอุปกรณ์เปเปอร์ชู้ตอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ได้มีทีมงานส่วนหนึ่งมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อจะสร้างความบันเทิงแก่ลูกค้าภายในร้าน แต่ตนได้บอกกับทีมงานว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่เหมาะแก่การมายิงในสถานที่ที่มีคนอยู่จำนวนมากเนื่องจากอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้

ทั้งนี้ ก่อนเวลาเที่ยงคืนกลุ่มลูกค้าได้มีการจุดไฟเย็นเพื่อต้อนรับการเข้าสู่ปีใหม่ แต่หลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีก็มีการยิงเปเปอร์ชู้ตขึ้นบนเพดาน ซึ่งเปเปอร์ชู้ตมีลักษณะเป็นเปลวกระดาษที่ลอยออกมาจำนวนมาก แต่แรงอัดของอุปกรณ์อาจจะมีแรงอัดมากจึงทำให้กระดาษไปติดที่ไฟสปอตไลต์ที่อยู่ด้านบน อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดควันและเปลวไฟได้ ซึ่งเปเปอร์ชู้ตมีคุณสมบัติในการติดไฟช้า เพราะใช้เวลากว่า 20 นาทีจึงทำให้ไฟลุกลามอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้โคมไฟสปอตไลต์ที่อยู่บนเพดานร่วงหล่นลงมาและทำให้ไฟฟ้าดับ

ดีเจภูมิ กล่าวอีกว่า ซานติก้าผับเป็นร้านที่ค่อนข้างโปร่ง เพดานสูง จึงไม่ได้เกิดจากการจุดพลุอย่างแน่นอน เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการจุดเปเปอร์ชู้ตเพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็สามารถทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ โดยตอนที่ตนยืนเล่นเกมกับดีเจเพชรจ้าบนเวที ก็ได้โฟนอินเข้ารายงานสดที่ตนเป็นดีเจอยู่ บอกแฟนรายการว่า ใครว่างให้มาที่ซานติก้าผับ เพื่อเลี้ยงอำลาก่อนมีการปิดตัวในงาน “กู้ดบาย ซานติก้า” ซึ่งเชื่อว่าบางคนที่มาในงานก็มาตามเสียงชักชวนของตน จึงทำให้รู้สึกเสียใจมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระหว่างเกิดเหตุตนอยู่ด้านหลังของเวที จากนั้นมีพนักงานเข้ามาบอกตนว่าเกิดเพลิงไหม้ ตนจึงใช้ประตูสำหรับศิลปินวิ่งออกมาด้านนอก ซึ่งขณะนั้นไม่ทันมองว่ามีใครเป็นอย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะมีคนเสียชีวิตหลายศพอย่างแน่นอน

“ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะเข้ามาให้ปากคำตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. แต่ทางครอบครัวให้คำปรึกษาว่าน่าจะรอให้ทางตำรวจเชิญมาให้ปากคำจะดีกว่า วันนี้จึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ ผมและดีเจเพชรจ้า ได้ไปทำบุญโลงศพเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังเหตุการณ์นี้จึงทราบว่ามีน้องคนหนึ่งชื่อ เอเธอร์ ซึ่งผมได้เชิญขึ้นมาเล่นเกมบนเวทีและรู้จักกันในงาน ได้พูดคุยกับน้องคนนี้ ซึ่งต่อมาทราบว่าเคยมาช่วยงานในบริษัทของแม่ผม เช้าวันรุ่งขึ้นก็ทราบว่าน้องได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ด้วย ทำให้รู้สึกแย่มาก โดยวันนี้จะไปร่วมงานศพของน้องเอเธอร์ด้วย จากนี้ผมและดีเจเพชรจ้าจะมีการจัดงานทำบุญ 9 วัด ร่วมกับแฟนรายการเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตด้วย” ดีเจภูมิ กล่าว และว่า “สุดท้ายอยากฝากให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องให้บรรจุหลักสูตรสอนให้เด็กทุกคนทุกโรงเรียน พนักงานบริษัททุกแห่ง ให้รู้จักวิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ หรือเหตุการณ์ในลักษณะนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้น”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดทั้งวันที่ สน.ทองหล่อ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทยอยกันเดินทางมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน โดยญาติผู้เสียชีวิตบางรายเมื่อเห็นทรัพย์สินของเหยื่อของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ก็ถึงกับร่ำไห้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รพ.จุฬาฯ เผยผู้ป่วยไอซียูชาวไต้หวัน "เหยื่อซานติก้า" อาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ แผลไฟไหม้เริ่มติดเชื้อ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 มกราคม 2552 17:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> รพ.จุฬาฯ – ตำรวจ เผยเหยื่อซานติก้า ผับ ญี่ปุ่นตายเพิ่ม 1 ราย รวมโรงพยาบาล 2 แห่ง เสียชีวิต 60 ราย ชายชาวไต้หวันอาการหนักอยู่ไอซียู ใส่ท่อช่วยหายใจ แผลไฟไหม้เริ่มติดเชื้อ ส่วนศพพิสูจน์เอกลักษณ์เรียบร้อยญาติทยอยรับเกือบหมด แพทย์ตำรวจชี้คนไข้ไอซียูน่าห่วง เกรงผลแทรกซ้อน-ไตวาย

วันนี้(5 ม.ค.) ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คณะแพทย์จาก รพ.จุฬาฯ และ รพ.ตำรวจ สรุปข้อมูลสถานการณ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ซานติก้าผับ ในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 โดย รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ พล.ต.ท.สมยศ ดีมาก นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

รศ.นพ.อดิศร กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เมื่อเวลา 21.05 น.ของคืนวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา คือ Mr.KEIICHI WADA ชาวญี่ปุ่น อายุ 38 ปี เสียชีวิตเนื่องจากเกิดภาวะระบบหายใจระบบไต และระบบไหลเวียนเลือดล้มเหลว และเสียชีวิตอย่างสงบ โดยมีญาติชาวญี่ปุ่นพร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูต และแพทย์ชาวญี่ปุ่น ได้เดินทางมาดูแลตั้งแต่หลังวันที่เกิดเหตุอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตที่ รพ.จุฬาฯ ทั้งสิ้น 31 ราย ส่วนศพที่ชันสูตรสามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ทางบุคคลเรียบร้อย และญาติมาติดต่อขอรับทั้งหมดแล้ว

รศ.นพ.อดิศร กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ยังพักรักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ 4 รายนั้น เป็นชาวไต้หวัน 1 ราย คือ Mr.MARSS WAN-CHENG อายุ 55 ปี ย้ายมาจาก รพ.ปิยะเวท ถือว่ามีอาการหนักพอสมควร โดยเฉพาะแผลไฟไหม้ซึ่งมีประมาณร้อยละ 65 และแผลเริ่มติดเชื้อเล็กน้อย ผู้ป่วยได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจ รู้สึกตัวดีแต่แพทย์ต้องให้ยานอนหลับเพื่อให้พักผ่อน ที่เป็นห่วงคือระบบทางเดินหายใจ และแผลไฟไหม้ โดยในวันที่ 6 ม.ค. ศัลยกรรมตกแต่งพลาสติก จะเข้ามาดูแลอาการเพื่อตกแต่งแผล โดยผู้ป่วยพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ศัลยกรรม ตึกสิรินทร ชั้น 2

รศ.นพ.อดิศร กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ป่วยอีก 3 ราย คือ นายนิยต ดำรงประภักดิ์ อายุ 31 ปี และ นายอวิโรจน์ ศิรินทร์วรชัย อายุ 20 ปี ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว ขณะที่ น.ส.ศิริลักษณ์ อักษรวรรณ อายุ 20 ปี ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันเดียวกันอีก 2 ราย

ด้าน พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า ได้ประสานกับ รพ.จุฬาฯ เพื่อรับศพไปชันสูตรต่อโดยสามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้แล้วทั้งหมด 29 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด ซึ่ง 28 รายเป็นการส่งต่อมาจาก รพ.จุฬาฯ และอีก 1 ราย ส่งต่อมาจาก รพ.รามคำแหง ทั้งนี้ เสียชีวิตเนื่องจากภาวะการไหลเวียนของโลหิตล้มเหลว โดยศพทั้งหมดมีญาติมาติดต่อขอรับแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยเหลืออยู่อีก 1 ราย อาการยังไม่พ้นขีนอันตราย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากถูกความร้อนทำลายเนื้อเยื่อภายใน ซึ่งอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจไปตลอด ส่วนบาดแผลภายนอกถูกไหม้เพียงร้อยละ 10 จนถึงขณะนี้ มีชาวต่างชาติที่เสียชีวิตเป็นชาวพม่า 1 ราย สิงค์โปร์ 3 ราย และ ญี่ปุ่น 1 ราย

“ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกหรือไม่ เนื่องจากมีผู้ป่วยหนักต้องรักษาตัวในไอซียูอีกหลายราย เพราะร่างกายเสียเกลือแร่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน และอาจทำให้ไตวายได้ และยิ่งนานก็อาจทำให้แผลมีการติดเชื้อรุนแรงมากขึ้น ต้องใช้ยาปฏิชีวนะขั้นสูงในการรักษา ซึ่งผลจากการแทรกซ้อนต่างๆ อาจทำให้ผู้ป่วยทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตได้” พล.ต.ท.สมยศ กล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต และขอให้ดวงวิญญาณทุกดวงไปสู่สุคติเถอะนะคะ

 

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมีเหตุมีผลอยู่แล้ว
อย่าไปทึุกทักว่ามันเป็นเพราะอะไรๆ ไปโทษนั่นโทษนี่เลยครับ มันเป็นเพราะความประมาทไม่ใช่บังเิอิญหรอก

แยกย่อย..
ทีตอนรุ่งๆเงินสพัดไม่เห็นใครมาว่าเป็นเพราะสุสานหรืออะไรนี่ หรือไม่จริง ?
พอเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นก็ไปเหมาเอาเองอย่างนี้มันก็ไม่ถูกต้องหรอกนะ

ส่วนจะว่าไปโทษกรรมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อันนั้นก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะหยิบยกมาพูดกันอีกแหละครับ
เราก็ต่างรู้ๆกันอยู่เรื่องเหล่านี้ในยุคสมัยใหม่นี้ คนเชื่อมันมีน้อยมาก ไม่เชื่ออย่างเดียวแถมยังถีบตัวออกห่างอีกด้วย
แถมยังไปเหมารวมเข้ากันว่า นี่ไงศาสนาพุทธมันจะต้องมีผีมีภพชาติ และมีคนงี่เง่าคอยมาบอก เป็นหมอดู เป็นร่างทรง ฯ กันต่างๆนาๆ ส่วนคนที่สนใจที่จะเข้าศึกษาในธรรมก็เลยลังเลอยู่จะเชื่อไม่เชื่อ โดยไม่ได้แยกแยะอะไรเป็นอะไรซะก่อนที่จะสรุปในทำนองนั้น

ส่วนเหตุและผลก็มีดังที่เป็นข่าวนั่นแหละ
เป็นเพราะไฟมันไหม้ หนีไม่ทันเพราะคนมันเยอะ ทางออกมันแคบและไม่เีพียงพอ แถวป้ายทางออก EXIT ก็ไม่ชัดเจนไม่ใช่เหรอ หือ..??

อย่างที่พระท่านบอกไว้เลย รักสนุกมันก็ต้องทุกข์ถนัด อยู่ดีนั่นแหละเพราะก่อนหน้าที่จะเข้าไปเที่ยวมันอะไรก็ยอม
ขอให้ได้สนุกไว้ก่อนโดยไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ พึงระวังในสิ่งที่คาดไม่ถึงอย่างนี้มาก่อนมันก็เลยอย่างนั้น
เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ..ครับ

อย่างไรก็ดีขอให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทกันเถอะนะครับ

 

หยิบมาให้อ่าน เกี่ยวกับ ผลกรรมที่โดนไฟคลอก

อ้างอิงจาก http://board.agalico.com/showthread.php?p=8926

 

อนุโมทนาครับ คุณขันธ์

แต่ความคิดเห็นของผมที่แสดงไว้นั้นจุดประสงค์ก็คือว่า ยังเล็งเห็นว่ามีผู้คนอีกมากมายที่เข้าไม่ถึงธรรมะที่แท้จริงครับ
หรือยังไม่รู้จักธรรมะ ศาสนาพุทธ ธรรมชาติ เพียงแค่มีศาสนาพุทธอยู่ในสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้นเองครับ..

ฉนั้นจึงมีไม่น้อยถึงมากที่สุดคิดเอาเองว่า รอผลกรรมดี/ไม่ดี มาถึงมากกว่าการที่จะทำจะปฏิบัติซะที
คือหมายความว่า บางคนก็คิดเอาเองทึกทักเอาเองว่าเรานั้นมันน้อยวาสนา ด้อยบารมี ต่างๆนาๆ สุดแต่ใจมันจะปรุงแต่งกันไป
อย่างคนที่คิดจะไปเที่ยวหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านพ้นไปแล้ว(ซึ่งไม่นานเดี๋ยวก็ลืม) แทนที่จะไปเที่ยวอย่างมีสติ
แต่จะกลับกลายเป็นว่า ไปเที่ยวแบบวัดดวง คือวัดดวงว่าชาติที่แล้วทำกรรมอะไรอย่างไรไว้ฯ ลองเอาออกมาใช้ดูหน่อยดิ๊..(หรือภาษาที่พวกยังหลงๆอยู่เรียกว่า "เบิกบุญ")
ถ้าอยู่ในเหตุการณ์ที่เฉียดฉิวทำนองเดียวกันกับ ซานติก้า แต่รอดตายกลับออกมา กลายเป็นเรื่องลองเอาของเก่ามาใช้ เป็นการท้าทาย มากกว่าจะใช้ชีวิตอยู่้อย่างสำีรวมระวัง กาย วาจา ใจ เป็นต้นฯ

เพราะเหตุมันเป็นอย่างนี้ ผมจึงได้กล่าวดักความคิดเห็นผิดๆที่มันกำลังจะเกิด หรือเกิดไปแล้วก็ไม่ทราบ ให้หยุดคิดซักหน่อยและให้ตั้งสติกันก่อน เพื่อให้สติตั้งขึ้นแล้วเอาความคิดเห็นที่ถูกต้องเข้าไปบวกลบกันก่อน กลั่นกรองเสียก่อน

ไม่ใช่ว่าปรามาสอะไรๆนะครับ แต่เพียงเอาคำว่า อยู่กับปัจจุบัน กันน่ะครับ
เหตุผลของผมก็มีเท่านี้ครับผม
ส่วนเรื่องภพชาตินั้นเอาไว้ศึกษาเข้าจริงๆจังๆค่อยมาพิจารณาในส่วนนี้กันอีกทีหลังจากมี สติ ปัญญา ที่แกล้วกล้าพอ

อนุโมทนาทุกความคิดเห็นครับ

 

ครับ คุณ boy_jakkrit สตินั้นสำคัญ ถูกต้องอยู่แล้ว ผมเอาข้อมูลมาให้อ่านเฉยๆ ว่าในสมัยพุทธกาลก็เคยมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นคล้ายๆ กัน
อนุโมทนาบุญ ที่มีสัมมาทิฎฐิ พยายามให้คนอ่านเห็นถึงสติในปัจจุบัน

 

สิ่งที่คุณขันธ์กล่าวมานั้นมันเป็นเรื่องของบุพกรรม บุพกรรมนั้น บางเรื่องสามารถหลีกเลี่ยงได้และบางเรื่องไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ ถึงที่สุดแล้วก็ต้องชดใช้กรรมหนักนั้นอยู่ดี ต่อให้มีสติมากแค่ไหน ดูอย่างเกจิอาจารย์บางรูปท่านก็ยังต้องมรณะภาพด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือมรณะภาพทางภัยธรรมชาติบ้าง นั่น ก็ขึ้นอยู่กับบุพกรรมของแต่ละท่านที่เคยสร้างหรือเคยเบียดเบียนผู้อื่นมาในรูปแบบใด

ในกรณี ซานติก้าผับ หากจะมองว่าสร้างกรรมร่วมกันมานั้นอาจจะใช่ หรือ อาจจะสร้างกรรมในลักษณะคล้าย ๆ กันมาก็อาจจะใช่ หรือจะเป็นกรรมใหม่ซึ่งอาจจะเกิดจากความประมาทของบุคคลใดบุคคลหนึ่งนั้นก็ใช่

การมองเห็นถึงความมีสติระลึกรู้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน ในกรณี มีหนุ่มนักเรียนนอก สามารถช่วยเหลือเพื่อนนักเที่ยวให้รอดพ้นจากไฟนรกครั้งนี้ได้ถึง 20 คนนั้น สิ่งที่ทำให้หนุ่มนักเรียนนอกคนนี้สามารถช่วยเหลือเพื่อนนักเที่ยวได้นั้น อาจจะมองได้หลายแง่มุม

1.เขาอาจจะมีกรรมที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมา (กรรมเก่า )

2.เขาอาจจะได้รับการฝึกฝนหรือมีประสบการณ์ หรือ เคยได้รับความรู้เรื่องการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ ( กรรมใหม่ )

3.อาจจะเป็นเพราะความบังเอิญ แต่ถือเป็นความบังเอิญที่เกิดจากการมีสติ สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ ( กรรมใหม่ )

อย่างไรก็ตามผู้สูญเสียไม่ว่าจะเป็น ผู้เสียชีวิต ญาติผู้เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ที่จะต้องทุพพลภาพ เสียโฉม ฯลฯ เหนื่อสิ่งอื่นใดคือสภาพจิตใจของผู้สูญเสียเหล่านั้น ที่ต้องได้รับการเยียวยา ไม่มียาใดเยียวยารักษาแผลใจได้ดีเท่ากับธรรมะของพระพุทธเจ้าอีกแล้ว การยอมรับในกฏแห่งกรรมได้นั้นจะทำให้ผู้สูญเสียทั้งหลายอยู่อย่างเป็นสุขมากขึ้น สุขนั้นคือสุขทางใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

อนุโมทนาสาธุกับคุณขันธ์และคุณ Mr.Boy_jakkrit ด้วยนะคะ

*หากท่านใดเป็นผู้สูญเสีย เป็นญาติผู้สูญเสีย เป็นเพื่อนหรือแม้แต่เป็นคนรู้จักกันแต่เพียงผิวเผินกับผู้สูญเสีย อย่าลืมว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นยารักษาแผลใจได้ดีที่สุด

 

อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นดีมากครับ การที่จะให้เข้าถึงขั้นยอมรับกรรมได้นั้น ต้องยอมรับว่ามันไม่ง่าย เพียงแต่ต้องใช้เวลา ให้เวลากับมันซักหน่อยนะครับ เหมือนธรรมะจู่ๆเอาให้ใจเข้าุถึงเลยมันก็เป็นไปไม่ได้อีกเช่นกัน

ช่วงเวลาระหว่างนั้นที่สำคัญก็คือมีสติไว้มากๆนะครับ

สำหรับที่ผมกล่าวไ้ว้แล้วนั้นไม่ได้เฉพาะเจาะจงกับใครนะครับ เพราะโดยรวมๆกระทู้ก่อนหน้านี้แล้วมันไม่เกิดประโยชน์น่ะครับ ที่ว่าจะไปตามหากรรมเก่าแต่ปางไหนเมื่อไหร่ หรือสันนิษฐานไปต่างๆนาๆนั้นน่ะครับ
แต่เจาะจงให้ผู้สูญเสีย เป็นญาติผู้สูญเสีย เป็นเพื่อนหรือแม้แต่เป็นคนรู้จักกันแต่เพียงผิวเผินกับผู้สูญเสีย นั้นมีสติอยู่้ที่ปัจจุบันเท่านั้นเองครับ นี่คือเจตนา

สำหรับคุณ ขันธ์ นั้นผมมีความรู้สึกถึงภูมิธรรมที่เต็มเปรี่ยม
แต่ในขณะเดียวกันก็คิดถึงคนที่ยังมาไม่ถึงธรรมขั้นสูง ก็คงจะเป็นอะไรที่เข้าใจยากซักหน่อยน่ะครับ

ความรู้สึกในใจผมก็มีแค่อย่างที่กล่าวไว้แค่นี้ เท่านั้นเองครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤอันนี้โดยเร็วด้วยครับ สาธุ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>2 ดีเจดังสับสนมองต่างมุมเหตุไหม้ “นรกซานติก้า”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 มกราคม 2552 16:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ดีเจเพชรจ้ากับดีเจภูมิ เข้าให้ปากคำกับตำรวจอีกครั้ง </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>2 ดีเจดัง “เพชรจ้า-ภูมิ” เข้าให้ปากคำเพิ่มเติ่มเหตุไหม้ “ซานติก้า ผับ” ให้การสับสน เพชรจ้า เหวี่ยงแหอ้างผับไหม้เกิดจาก ไฟช็อต-พลุลูกค้า-เอฟเฟกต์ ด้าน ดีเจภูมิ ออกมาแก้ข่าวกรณี เปเปอร์ชู้ต ระบุ ทีมงานเป็นคนเตือนอุปกรณ์ไม่ควรนำมาเล่น โล่งใจหลัง ตร.เผย เปเปอร์ชู้ต ไม่น่าใช่เหตุไหม้

วันที่ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.50 น.นายวิเชียร กุศลมโนมัย หรือ ดีเจเพชรจ้า และ นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือ ดีเจภูมิ พิธีกรในงานได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย ดีเจเพชรจ้า เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทุกคนพยายามหาเหตุผลว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งตนกับดีเจภูมิ มองคนละประเด็นกัน โดยเรื่องการวินิจฉัยคงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สาเหตุอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้ง ไฟช็อต ลูกค้าจุดพลุ หรือ เอฟเฟกต์ในร้าน และเชื่อว่า การเข้าให้ปากคำในครั้งนี้ ก็น่าจะมีประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องนี้มีข่าวออกมาว่า ตนรู้เรื่องก่อนจะมีไฟไหม้ ขอยืนยันว่า ตนอยู่ที่เกิดเหตุตั้งแต่เวลา 21.00 น.กระทั่งเกิดเพลิงไหม้ นอกจากนี้ ยังมีน้องเพื่อน 3-4 คน รวมทั้งมีแฟนของเพื่อนด้วย

“ก่อนเกิดเหตุ ผม และ ดีเจภูมิ ซักซ้อมบทอยู่ด้านหลัง เพื่อรอ โจอี้บอย มา แต่ตนได้นำเสื้อแจ๊กเก็ตไปเก็บที่รถก่อน ระหว่างนั้นมีพนักงานของร้านเข็นถังแก๊สขนาดใหญ่มาไว้ที่ข้างรถ ผมจึงตั้งใจว่าจะเลื่อนไปที่อื่น แต่หลังจากนั้น ก็มีคนตะโกนบอกว่าไฟไหม้ เมื่อหันไปมองพบว่า มีไฟลุกไหม้ที่ด้านซ้ายของอาคาร จากนั้นประมาณ 5 นาที เพลิงได้ลุกไหม้เป็นภูเขาไฟ เด็กรถยังบอกว่าให้รีบขับรถออกไป และไม่ต้องกลับมาอีก เพราะจะให้รถดับเพลิงเข้าจอด ซึ่งระหว่างนั้นได้โทรศัพท์หาน้อง หาเพื่อน ตลอดเวลา ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ก็ทราบว่ามีเพื่อนนอนเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพ” ดีเจเพชรจ้า กล่าว

ด้าน ดีเจภูมิ กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาปรากฏว่า เหมือนตนไปให้สัมภาษณ์ให้ร้ายทางร้านซานติก้าผับ ทำให้ตนรู้สึกไม่ดี จึงอยากออกมาแก้ข่าว เพราะคิดว่าสถานบันเทิงทั่วไปก็คงเหมือนกัน ไปดูความเห็นตามเว็บไซต์ต่างๆ พบว่า มีคนโจมตีและด่าตนเยอะมาก ตนไม่ได้พูดว่า ซานติก้าผับ แย่ ส่วนเรื่องการยิงเปเปอร์ชู้ตนั้น ความจริงแล้วเป็นทีมงานที่ออกมาเตือนว่าจะทำให้เกิดอันตราย ไม่ใช่ตามข่าวที่ออกไปว่า ตนไปเตือนทีมงานแล้วไม่มีใครเชื่อ ที่สำคัญ ที่ เพชรจ้า ให้สัมภาษณ์ก็เหมือนกับไปพูดทำนอง ว่า วงเบิร์น เป็นคนจุดพลุ ซึ่งไม่ใช่ เรื่องนี้ทำให้เขาไม่พอใจจึงอยากออกมาพูด

ดีเจภูมิ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นความคิดเห็นส่วนตัว เชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากเปเปอร์ชู้ต แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตที่ตกอยู่มาให้ดู พบว่า จุดที่บอกว่ามีการยิงเปเปอร์ชู้ตนั้น ไม่มีสปอร์ตไลท์ จึงเชื่อว่า ไม่น่าจะเกิดจากสิ่งนี้ ทำให้ตนโล่งใจขึ้น เมื่อบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ซึ่งตำรวจก็บอกว่าไม่น่าใช่อย่างแน่นอน เรื่องนี้ทำให้รู้สึกแย่ และนอนไม่หลับมาหลายวัน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมก็เห็นด้วยครับ ไม่เกี่ยวกับลางนู่นลางนี่หรอก(ไม่ได้ลบหลู่)
ชื่อผับ santika แปลว่า Beautiful Nature ธรรมชาติที่สวยงาม เป็นภาษาสเปน
ก็เอามาจับนู่นตัดนี่ เป็น satan แต่ก็แปลไปคำอื่นได้เยอะแยะ
ดูรูปหน้าผับที่เหลือแต่คำว่า KA ดูสิใต้คำนี้มันไม่มีช่องแสงหรือช่องหน้าต่าง
ไฟเลยไม่ลุกมาติดดูผนังก็ได้ไฟยังไม่ทันไหม้เท่าไหร่ด้วนซ้ำ
ผมเชื่อเรื่องสิ่งเร้นลับ แต่ที่หลายๆคนอธิบายมัน งมงาย เกินไปคับ

 

ได้ข่าวว่ามีแต่คนรวยๆไปเสียชีวิตที่นั้นครับ