ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    เมื่อกี้ฝนนั่งสมาธิฝนพอเริ่มนั่งเห็นนางฟ้าค่ะพี่ Me, Myself นางฟ้าตัวเป็นๆเลย เห็นในอานาปานุสสติค่ะ

    เห็นเข้ามาเองค่ะ ฝนเห็นสององค์นั่งพับเพียบอยู่ด้านขวามือ เป็นสไบเหลืองกับชมพูค่ะ ถัดไปข้างหลังเป็น ผู้ชายสองคนเหมือนพราหมณ์ค่ะ ฝนถามนางฟ้าสไบเหลืองว่าชื่อโกโก้ใช่ไหม เค้าก็บอกใช่ค่ะ โกโก้คือเพื่อนหมาของฝนเองค่ะ ตอนมันป่วยฝนให้บุญเค้าไปบอกให้ไปเอาบุญที่สมเด็จองค์ปฐม

    วันที่โกโก้ตาย ฝนก็ไปตามหาโก้ว่าอยู่ที่ไหน สมเด็จท่านบอกว่าโก้อยู่ดาวดึงส์ ฝนขอโก้ให้เป็นนางฟ้าดูเเลฝน ท่านบอกยังไม่ได้ต้องบำเพ็ญเพียรด้วยการฟังเทศน์ นั่งสมาธิที่ดาวดึงส์ก่อน

    วันนี้ฝนไม่ได้กำหนดจิตคุยค่ะ เพราะว่ากลัวพระอาจารย์ดุเอา นั่งไปซักพัก มีใครซักคนบังอาจขึ้นไปกระโดดบนเตียงฝน ที่รู้เพราะสปริงดังค่ะ เเต่ไม่ได้กำหนดจิตดู ฝนรู้เเล้วว่าฝนโดนเเกล้งเเน่ๆ ฝนเลยบอกไปว่า พระอาจารย์ฝนดุนะ เงียบเลยค่ะ

    หลังจากนั้นขึ้นไปฟ้องสมเด็จท่านกับพระอาจารย์ค่ะ

    สมเด็จท่านบอกว่า นางฟ้าที่ดูเเลฝน 4 องค์ เเละพญานาคซึ่งเป็นคนของพระอาจารย์ที่มากับเเก้วพญานาคที่พระอาจารย์ให้ฝน สององค์ค่ะ เเละมีเทวดาที่ไม่ได้รับเชิญจากชึ้น จาตุมาลองใจฝนอีก ท่านบอกว่าไหนอยากเห็นผีไง เจอเท่านี้ทำเป็นใจเสาะไปได้

    ฝนถามสมเด็จท่านนะคะว่า มากันทำไม ท่านบอกว่ามาขอบุญ

    ฝนเคยเห็นเเต่นางฟ้าเวลาอยู่ข้างบน นี้เป็นครั้งเเรกที่ฝนเห็นว่าพวกเธอมาห้องฝน

    ฝึกจิตไปด้วยเลยทีเดียวนะคะ ก่อนฝนกลับมาที่นี้พระอาจารย์ก็สอนฝนเเล้วว่าคนเราน่ากลัวกว่าผีซะอีก
     
  2. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เป็นไง ที่นี้เชื่อหรือยังที่หลวงพ่อบอกว่า ไอ้การอยากเห็นมักจะไม่ได้เห็น พออารมณ์อยากมันหมด มาให้เห็นซะงั้น

    แสดงว่าอารมณ์น้องฝนดีขึ้นแล้วนะคะเนี่ย ไม่งั้นคงไม่ได้เห็น เดินทางสายกลางไว้ค่ะ อีกหน่อยคงมีวิญญาณมาขอส่วนบุญเพิ่มละค่ะ
     
  3. Pikzy

    Pikzy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +619
    ผมเองก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกันครับ ไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบาย

    มันรู้สึกปิติ ปลื้มใจไปหมด โชคดีเหลือหลาย ที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้

    ;aa41
     
  4. naruphos

    naruphos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ผมขอคำแนะนำจากพี่ๆหน่อยครับ เวลานั่งสมาธิแล้วเกิดอาการเมื่อยที่ขา พี่แก้ไขกันยังไงบ้างครับ ผมฝึกแบบอานาปานสติ กำหนดลมหายใจพุทโธ พอเมื่อยที่ขามันเลยกำหนดลำบากมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2009
  5. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    พอเมื่อยขา ก็เปลี่ยนท่าซิครับ ขัดสมาธิเมื่อยก็นอนซะเลย(ไม่ใช่ให้หลับนะ) นอนกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก นอนมันง่วงก็ยืน ยืนมันเมื่อยก็นั่ง

    ผมว่า สมาธิคือการฝึกใจ ฝึกจิต ให้มีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา ส่วนอาการเมื่อยมันเป็นขันธ์ธะมาร หลวงพ่อท่านสอนที่ผมฟังในเสียงธรรมว่า ท่าทำสมาธิ จะนั่งก็ได้ จะนอนก็ได้ จะยืนก็ได้ และอยู่ที่ไหนก็ทำได้ แต่ถ้าฝึกเป็นกลุ่มหมู่คณะ ต้องทำตามระเบียบของสถานที่นั้นครับ

    รอพี่Me, myself<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2188267", true); </SCRIPT> มาตอบเพิ่มเติมครับ

    ขออนุญาต แนะนำแค่นี้ครับ ตัวผมยังไม่เก่งและมีความโง่อยู่มาก รอผู้รู้มาตอบอีกทีครับ

    ขอบพระคุณครับ
     
  6. naruphos

    naruphos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ขอบคุณพี่ wara43 ครับ
     
  7. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ถ้าเราปฏิบัติอยู่กับบ้าน ก็นอนสมาธิไงค่ะ อันนี้แนะนำจริงๆค่ะ นอนตะแคงขวามือขวาวางบนหมอนหงายมือส่วนมือซ้ายคว่ำลงวางที่โคนขา ขาข้างซ้ายทับขาข้างขวาเยื้องไปหลังเท้าซ้ายเล็กน้อย(หรือตามที่เราถนัด) กำหนดจิตภาวนาสวดมนต์ที่เราถนัดไปเรื่อยจนจิตเป็นสมาธิ เราก็จะหลับในสมาธิ ดีกว่าหงายหลังตึงแล้วปล่อยให้ตกภวังค์ แล้วหลับไปเองค่ะ
    ลองดูได้นะค่ะ
     
  8. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    มีสมาชิกอีกท่าน ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นแฟนคลับห้องนี้ด้วยค่ะ บอกให้สงบระงับช่วยเปิดตัว เกริ่นนำให้ด้วยพอดีเขาป่วยนะค่ะ และเริ่มเข้าใจเรื่องการปฏิบัติธรรม ตอนนี้ได้พบเจอวิธีรักษา ว่างๆก็จะมาเล่าให้พวกเราได้อ่านเป็นวิทยาทานแบ่งปันกันค่ะ ท่านผู้นั้นคือ คุณ
    zoozzooz, ค่ะ แอบเก็บข้อมูลมานานแล้วค่ะ เหนียวแน่นมาก
     
  9. naruphos

    naruphos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ขอบคุณครับพี่ สงบระงับ สำหรับการนอนนั้นผมเคยทำแล้วก็หลับไปเลยอ่ะไม่รู้ว่าหลับในสมาธิ หรือ ง่วนแล้วหลับไปเองหรือปล่าว เลยใช้วิธีนั่งแทนครับ
     
  10. RICK

    RICK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +380
    เหมือนผมเลยครับ อ่านเว็บมาก็นาน แล้วก็ไม่ค่อยล็อคอินด้วย แต่พอกระทู้นี้แล้วรู้สึกชวนติดตาม ชวนเชื่อถือ ชวนร่วมแจม เป็นกำลังใจให้ผู้โดยสารทุกท่านครับ
     
  11. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    ยินดีต้อนรับผู้โดยสารอีกท่านครับ คุณ zoozzooz

     
  12. zoozzooz

    zoozzooz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +91
    ขอบคุณพี่สงบระงับครับที่แนะนำให้มาเล่าเรื่องของตัวเอง เพื่อบอกเล่าให้ท่านอื่นๆได้รู้บ้างเพราะวิธีรักษาอาการป่วยของผม ไม่ค่อยเหมือนคนอื่นครับ
    ขอเริ่มจากที่ผมมีอาการปวดเมื่อยทั่วๆไปก่อนนะครับ จากนั้นผมก็เป็นมากขึ้นก็เริ่มหาหมอรักษาเรื่อยๆ จนทราบว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม ทำให้กระดูกกดทับเส้นประสาทครับ ทรมานอยู่กับโรคนี้มาห้าหกปีแล้วครับ วิธีรักษาที่จะหายขาดก็คือผ่าตัดอย่างเดียวเลยครับ
    จนเมื่อไม่นานมานี้ประมาณได้พบกับเพื่อนที่ได้เรียนโหราศาสตร์ด้วยกัน ชวนไปงานทำบุญบ้านของเพื่อนอีกคนครับ และได้รู้จักเพื่อนๆอีกมากมายที่ปฎิบัติธรรม ฝึกสมาธิทางสายมโนมยิทธิ เลยเริ่มสนใจและได้เริ่มสวดมนต์ นั่งสมาธิ และได้ไหว้พานครูที่บ้านสายลม จากนั้นก็พยายามฝึกมาทุกวันนี้เพิ่งจะได้เวลาไม่นาน และมาติดตามกระทู้นี้อยู่ทุกวันแต่ไม่ได้สมัครสมาชิกจนพบว่า พี่สงบระงับเล่าถึงเรื่องการรักษาโรคกระดูกและเส้นจากพระ เลยสมัครสมาชิกเพื่อสอบถามไปยังพี่สงบระงับ แต่ก็รอเมลล์จากพี่หลายวัน พี่ก็ยังไม่ได้ตอบ จนมาทราบทีหลังว่าตอบเมลล์มาแล้วแต่ไม่ถึงผม จนพี่ต้องประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับกระดูก คือตกบันได้ข้อเท่าเจ็บไปหลายวัน ถึงตอบเมลล์ผมได้ ระหว่างนั้นผมก็บังเอิญได้รับข่าวเกี่ยวกับพระที่อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ว่าท่านสามารถรักษาโรคเส้นเอ็น กล้ามเนื้อได้โดยวิธีที่ไม่เหมือนใคร แต่ท่านไม่ค่อยได้อยู่วัด จะต้องรอให้ญาติท่านติดต่อให้ก่อนว่าอยู่วัดหรือเปล่า
    แต่ก็แปลกมากที่วันรุ่งขึ้นก็ได้รับโทรศัพท์จากญาติของท่าน ว่าพระอาจารย์อยู่ที่วัดแล้วให้โทรไปหาได้ ผมเลยติดต่อไปทันที่และท่านบอกให้ไปหาวันนั้นเลย ผมเลยออกจากกรุงเทพและตรงไปหาท่านเลย ไปถึงก็บ่ายสองโมงแล้วครับ ก็คุยถึงเรื่องที่จะมารักษาอาการปวดร้าวลงขาทั้งสองข้าง และแขนชาปวดเมื่อยที่ไหล่ทั้งสองข้างอีกแต่เป็นมากที่ขาขวา และแขนซ้าย ส่วนที่เอวก็คือจุดที่หมอนรองกระดูกเสื่อม ท่านก็อธิบายวิธีรักษาว่า เริ่มจากต้องรับรู้ก่อนว่าการรักษาจะต้องเจ็บแต่เจ็บก็สามารถทนไหว ต้องยอมรับข้อนี้ให้ได้ก่อน ข้อสอง ไม่ได้ผ่าตัดมาก่อน ข้อสาม ไม่เป็นโรคหัวใจ, เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ข้อสุดท้ายก็ทำใจทนเจ็บครับ ผมก็เลยตกลงรับการรักษา โดยทดลองจากที่ไหล่และคอก่อนครับ วิธีรักษาก็คือ ใช้น้ำมันยาที่ท่านปรุงขึ้นมาทาที่บริเวณที่มีอาการเจ็บ จากนั้นท่านก็จะใช้ไม้หวายตีลงไปบริเวณที่มีอาการ ตีไม่แรงเลยครับ ตีไล่ไปเรื่อยๆครับ ตีลงไปได้สองสามไม้เท่านั้นก็เริ่มเจ็บไม่เกินห้าไม้ครับ ผิวบริเวณนั้นก็เริ่มบวมและที่แปลกกว่านั้นคือ บริเวณที่มีอาการผิวจะมีสีเทา ม่วงเกิดขึ้นเหมือนพิษผุดขึ้นมาเลยครับ และที่โดนตีก็จะเจ็บมากในบริเวณที่มีพิษ แต่ถ้าบริเวณที่ไม่มีพิษตีไปจะไม่ค่อยเจ็บเลยครับ และ พิษก็จะไม่ขึ้นมาด้วยครับ ผิวจะแดงๆเฉยๆครับ ตีไม่นานพอทั่วบริเวณไหล่และต้นคอก็หยุดครับ ท่านก็บอกให้ขยับดูครับ ก็หายเจ็บและภายในก็ไม่มีอาการเลยหายเจ็บภายในเดี๋ยวนั้นเลยครับ แต่เจ็บที่ผิวที่โดนตีเท่านั้นเอง ท่านบอกว่าสี่ห้าวันก็หาย วันนี้ทำแค่นี้ก่อน
    จากนั้นก็ถึงคราวแฟนผมครับ ที่หัวเข่าเป็นข้อเข่าเสื่อมข้างขวา เวลาเดินจะเสียวแปลบๆและเจ็บมาก ขึ้นบันได้งอเข่าก็เจ็บตลอด
    ท่านก็เริ่มตีให้ครับ เหมือนเดิมครับ เจ็บจนร้องไห้เลย แต่พอตีเสร็จยืนขึ้นได้ อาการที่เจ็บภายในหัวเข่าหายทันทีเลยครับ นี่เป็นการรักษาครั้งแรกนะครับ จากนั้นก็ลาท่านกลับกรุงเทพ และก็รอให้ผิวหนังที่โดนตีหายประมาณสามวันสีผิวที่ดำก็เริ่มจางลง ห้าวันก็หายเกือบหมด
    เมื่อสองวันก่อนก็เลยไปให้ท่านรักษาเพิ่ม ผมก็เริ่มตีที่หลัง และ ไล่ลงมาที่ขาครับตอนนี้ก็ดำขาขวาไปทั่วเลยครับ แต่ที่ภายในไม่เจ็บไม่ชาไม่ปวดเมื่อยเลยครับ เจ็บแต่ผิวที่ตีครับ คราวนี้ตีมากเพราะรู้แล้วว่าหายแน่เลยขอพระท่านตีให้เยอะหน่อย ไปไกลถึงกาญฯขอให้คุ้มหน่อยครับ คราวหน้าคงต้องรออีกซักสิบวัน ถึงจะไปให้ตีขาอีกข้าง และท่านก็ให้ยาสมุนไพรที่ปรุงขึ้นมาทานช่วยขับพิษอีกทานวันละครั้งครับ
    ขอเล่าเท่านี้ก่อนครับ นี่เป็นประสบการณ์ของผมครับ คิดว่าคงเป็นเพราะได้ผลมาจากการปฎิบัติธรรม ทำให้ได้พบกับการรักษาที่ทำให้เราหายจากอาการป่วยที่ทรมาณมานานได้ครับ จะปฎิบัติธรรม สวดมนต์ ไหว้พระต่อไปครับ หวังว่าจะได้ไปนิพพานในชาตินี้ด้วยคนครับ
     
  13. zoozzooz

    zoozzooz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +91
    ขอบคุณมากครับ

     
  14. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    เป็นเรื่องที่เเปลกดีนะคะ อ่านเเล้วคิดถึงหลวงปู่ปาน ไม่รู้ทำไมเหมือนกันค่ะ
    ดีใจด้วยนะคะที่อาการเจ็บป่วยดีขึ้นเเล้ว จะได้มีกำลังใจในการปฏิบัติธรรมค่ะ
     
  15. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607

    ขอโทษนะคะ ไม่เข้าใจตรงที่ว่า
    "ในการเป็นขึ้นมาภายหลังจากละลายกายทิพย์หมด ก็ไม่ปรากฏว่ามีพระพุทธเจ้าท่านพระโมคคัลลานะ ท่านพระสารีบุตร" คือพยายามจะบอกว่า หลังจากละลายกายทิพย์ก็ไม่เคยพบพระพุทธเจ้าอีกเลยหรือคะ

    เราพยายามจะทำความเข้าใจเเต่ด้วยความรู้ทางธรรมเเค่เปลือกไม้ค่ะ ทำให้เราเข้าใจว่าเมื่อละกายทิพย์ คือกายภายในออกก็จะไม่เห็นอะไรเพราะเมื่อละกายภายในเหลือเเต่กายภายนอกซึ่งคือร่างกายของมนุษย์ เนื่องจากจิตของมนุษย์ยังหยาบ ยังสกปรกอยู่ ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นพระพุทธเจ้าได้ หรือว่ามีธรรมอะไรที่สูงกว่านี้ที่เราไม่เข้าใจ ขอคำเเนะนำด้วยค่ะ
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    "อยากบอกว่าอ่านมันดี ขอแนะนำว่า ถ้าคุณได้เคยฟังเรื่องผีจ้างหนัง เรื่องก็จะออกไปแนวเดียวกับ ขจกท."

    เราว่าคนละเเนวเลยนะคะ ผีจ้างหนังที่ อุดรธานี เป็นเรื่องของพญานาค พูดง่ายๆคือ คนถูกว่าจ้างให้ไปฉายหนังนั้นโดนผีหลอก เเต่เรื่องของพี่เจ้าของกระทู้ เค้าไม่เห็นเกี่ยวกับโดนผีหลอกตรงไหน เกี่ยวกับประสบการณ์ของวิชามโนยิทธิทั้งนั้น งั้นเราขอถามตรงๆนะคะว่า เรื่องผีจ้างหนัง ที่อุดรธานีนั้นเกี่ยวกับมโนยิทธิตรงไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2009
  16. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    เอ่อ...ขอตอบจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ

    หากท่านยังตั้งใจที่จะนั่งในท่าเดิมต่อไป รับรองว่า ทุกข์ อันเกิดจากการปวดขา
    จะต้องอยู่กับท่านอย่างนาน

    ซึ่ง ตามคำสอนของท่านหลวงพ่อจรัลฯ ท่านว่าเมื่อขาเกิดการปวด กำหนดรู้ว่าปวดเกิดที่นี่
    เมื่อจิตเริ่มเกิดทุกข์ ให้กำหนดรู้ว่า นี่เราทุกข์จริงๆ

    เมื่อเกิดการรับรู้ได้ตรงกับความเป็นจริงตามนี้ ปัญญาจะเกิดแล้วนะคะ
    ยิ่งถ้าหากทนต่อไปได้ อาจจะกลายเป็น หายปวด ปวดมากขึ้น ทุกข์มากขึ้น น้อยลง แล้วแต่แต่ละคน

    แต่ิสิ่งสำคัญที่ปัญญาจะรับรู้ได้ตรงนี้คือ "อนิจจัง" + "ทุกขัง"

    ดังนั้น หากท่านมีจริตที่จะละวางความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวงแล้ว ขอกราบเรียนว่า
    ทนต่อไปค่ะ เพราะจะเห็นอนิจจัง ทุกขัง ชัดเจน จิตจะละวางความยึดมั่นถือมั่นลงได้บ้าง


    *ปล. สิ่งที่ดิฉันเคยประสบมานั้น

    คนฝึกใหม่ นั่งขัดสมาธินานๆมีหรือคะจะไม่ปวด แทบทุกคนแหละ แต่อาจจะปวดที่ตำแหน่งต่างกัน

    คืนนั้นที่วัดอัมพวัน 12 ปีมาแล้ว ดิฉันนั่งฝึก นั่งปวดอยู่ ตำแหน่งหัวเข่าด้านซ้าย
    ท่านสอนให้กำหนด ปวดเราก็ต้องกำหนดค่ะ ใจรัวไปหมด ปวดหนอ ทุกข์หนอ
    ท่องไปเรื่อยๆเพราะขณะนั้น จิตรับรู้ความปวดชัดเจนที่สุด

    ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ได้นะคะ

    กำหนดอยู่พักหนึ่งเหมือนกัน จู่ๆจากที่กำลังปวดอยู่ อ้าว หายไปซะงั้น เหมือนไม่ได้เคยได้ปวดเลย
    อุปมาเหมือนกับว่า มีอะไรมาบีบหัวเข่าอยู่ แล้วจู่ๆก็ปล่อย ไม่รู้สึกอะไรเลย

    ไปถามท่านอาจารย์ขณะนั้น ท่านว่าดี นั่งให้นานขึ้นอีกนะ ฮาาา
     
  17. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    ในขณะเดียวกัน

    หากท่านมีจริตปรารถนาความนิ่งของจิต รวมจิตให้มีอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว
    ก็ถ้าจิตปักอยู่กับตัวทุกข์ขนาดนั้น ดิฉันเองไม่แน่ใจค่ะ ว่าจิตจะรวมได้หรือไม่ ไม่แน่ใจนะ


    ซึ่ง หากท่านเริ่มรู้สึกว่าเป็นอุปสรรคในการรวมจิต ขอเรียนว่า ลองเปลี่ยนมานั่งเก้าอี้ดีไหม
    เมื่อวานที่ดิฉันตั้งอารมณ์นั้น อยู่ที่ทำงานหน้าจอคอมพ์ฯ นั่งเก้าอี้ทำงานค่ะ ก็ตั้งอารมณ์ได้อยู่นะ
     
  18. naruphos

    naruphos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ขอบคุณพี่ classic songs ครับผมจะใช้วิธีของหลวงพ่อจรัญครับ
     
  19. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ปวดขา ชาเป็นเหน็บหนึบๆ ถึงหนึบมาก เกิดขึ้นจริงๆ เห็นด้วยกับคุณ classic songs และดิฉันก็นักปฏิบัติมือใหม่ หลังจากเพียรพยายามมาตั้งแต่แรกรุ่น จนกระทั่งตอนนี้ ก็แรกรุ่นแย้มฝาโรง พอเข้าสมาธิไปซักพัก กำลังได้ที่ ปวดเลยค่ะ ก็อ่านตำราหลวงพ่อจรัญ และญาติหลายท่านก็เป็นลูกศิษย์ปฏิบัติอยู่ที่วัดนี้ ก็บอกกล่าวไว้ ให้กำหนดจิตไปที่ปวด ไล่ตามปวดตรงไหน ให้ปวดหนอ ปวดจริงหนอ ไล่อารมณ์ไปตรงนั้น ซักพักจนปวดได้ที่ นึกจะคลาย จะหายปวด ก็ไปเลย บางทีก็ยังอดขำไม่ได้ว่า อ้อ หายปวดได้ด้วยหรือ ก็แปลกๆ ดีนะคะ
     
  20. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เห็นด้วยกับคุณ paitoon01 กับข้อความนี้
    (ผมเองก็นำข้อความในกระทู้นี้กระจายไปยังสมาชิกในครอบครัวตลอดจนเพื่อนร่วมงานหลาย ๆ คน เท่าที่จะกระจายได้ เพื่อให้พวกเขาตั้งทิศทางเดินร่วมกับเรา หลายคนอ่านแล้วยังไม่เชื่อ ยังไม่มีศรัทธา แต่ผมก็จะไม่ละความพยายามครับ)
    และดิฉันก็ดำเนินการเช่นคุณ คือ ตอนนี้ดิฉันอยู่อเมริกา แต่ส่งกระจาย กระทู้นี้ และเวบนี้ ให้ญาติๆ เพื่อนๆ ที่เมืองไทยได้เข้ามาศึกษา ให้ได้รู้ ได้เห็น ได้อ่าน ได้สัมผัส ด้วยตัวเขาเอง เพราะพวกเขา อาจไม่เชื่อข้าพเจ้าก็ได้ ก็ให้เกิดศรัทธาเอง ก็ได้ผล กับเสียงตอบรับ ว่า เป็นไปได้หรือ เรื่องจริงหรือ อะไรงี้ ค่ะ จะได้ขจัดข้อสงสัยให้หมดไป กับเรื่อง บาป บุญ ว่ามีจริงหรือ ไม่ นรก สวรรค์ มีจริงหรือไม่ หรือ เป็นเพียง นิทาน ตำนาน ที่ ผู้เฒ่า เล่าต่อกันมา<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...