ไม่รู้จักกัน

หวยออกแล้วเล่าได้

คืนก่อนฝันว่าไปอยู่ที่วัด ที่วัดมีงาน อยู่ดีๆ มีคนยื่นแบงค์ 20 ให้ 3 ใบ บอกว่ามีคนฝากมาทำบุญด้วย ก็รับเงินมาแล้วตื่น

ตื่นมาก็พิจารณาว่าทำไมจึงฝันถึงวัด ทบทวนไปมา...อ้อ วัดจะมีงานปริวาสกรรม แล้วทำไมต้องมาฝากเงินทำบุญที่เราด้วย คนอื่นก็อยู่ที่วัดตั้งหลายคน เอ๊ะหรือว่าจะมาบอกใบ้...แบงค์ 20 จำนวน 3 ใบ เป็นเงิน 60 บาทเนาะ เลขอะไรดี เมื่อเช้าก็มานั่งนึกว่าต้องเป็นเลขหวยแน่เลย 3 ใบ 60 บาท มันต้องมี...ไม่ 203 ก็ 360...

ไม่ได้บอกใครเลยเรื่องฝัน กลัวว่าจะเพ้อเจ้อไปเอง แล้วก็ไม่ได้ซื้อด้วย เพราะไม่เล่นหวย

ถ้าหวยมันออกเลขอื่น ฝันนี้ก็คงเก็บเงียบ...ไม่เล่า ฮาๆๆ

 

เสียดายคอหวยแบบผมไม่ได้เสริมสร้างจินตนาการเลย

 

เล่ามาเหอะ

เผื่อว่า..

ท่าน แอร์ จะได้ช่วย ไขปริศนา.. “รหัสลับ”

ใน “วันแห่งความหวังชาติ.. “

ก็. เป็น ด้าย..

 

การรักอาชีพนักสืบต้องถ่องคำปริญาณไว้
สืบเองเจ็บเองไม่เอานะคร้า555

 

ขอโทษที ลืมคุณแอร์ร่อนไปเลย

ปกติไม่ค่อยจำความฝัน ตื่นมาก็ลืม แต่ความฝันนี้แปลก คือมีความสงสัยตั้งแต่ในฝัน จนเก็บมาคิดต่อตอนตื่น เหมือนเทวดามาให้นิมิต

เอาไว้คราวหน้านะ ถ้าฝันอีกและจำได้ จะมาเล่าให้ฟัง

 

อ๋อ ไม่ใช่อุเมานี่หว่า

 

ความรู้ทั่วไป รู้ไปเถอะถ้าต้องรู้ เนอะๆๆๆ

มะ อะ อุ

ทั้งสามอักขระ นั้นมีข้อความปรากฏ ใน พระสติปัฏฐาน ในวิธีทำสันโดด ด้วยเป็นบทต้น มีข้อความว่า

มะ คือ โชตินี

อะ ได้แก่ พระแสง

อุ ได้แก่พระฉัพพรรณรังสี

สำหรับ อักขระทั้ง 3 องค์นี้ มีความหมายเป็นบทนอบน้อม และ บทนำ

ในส่วน พระอาจารย์ ของ พระอาจารย์ได้อธิบายความหมายของอักขระทั้ง 3 นี้ ดังนี้

มะ ย่อ มาจาก มหาปุริสะ หรือ พระมหาบุรุษ ผู้เปี่ยมด้วยบารมีด้วยการการบำเพ็ญ 30 ทิศ มี ศีล เป็นพื้นฐาน มะ ในที่นี้ แทนความหมาย คือ ศีล อันเป็นบาทแรกแห่งการภาวนาทั้งปวง

อะ ย่อมาจาก อาโลโก หรือ แสงสว่าง มีความหมายอันเกิดจากจิตที่เป็นสมาธิ เพราะสมาธิ ในขั้นต้นนั้น

ต้องปรากฏแสงสว่าง อันเรียกว่า สี หรือ รัศมี ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากอำนาจ สมาธิ ดังนั้น อะ แทนความหมาย คือ สมาธิ อันเป็นบาทที่สอง ของการภาวนา

อุ ย่อมาจาก อุตมปัญญา ก็หมายถึงปณิธาน สูงสุด ในพระพุทธศาสนา นั้นคือ ปัญญา ซึ่งปัญญาในการ

ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นลักษณะพิเศษซึ่งไม่ปรากฏในหมู่ พระสาวก ในคือพระสัพพัญญุุตญาณ ซึ่งเป็นคุณของพระพุทธเจ้า อันปรากฏแก่ หมู่ชน ด้วย ฉัพพันณรังสี เฉพาะพระพุทธองค์เท่านั้น

ดังนั้น อักขระ มะ คือ ศีล อะ คือ สมาธิ อุ คือ ปัญญา

ดังนั้นอักขระ ทั้ง 3 นี้ จักได้ใช้ประจำ ไม่เอามาใช้ในตัวใด ตัวหนึ่ง เพราะมีคุณอนันต์

(ธัมมะวังโส)

 

ความดำริชอบ
ดำริออกจากกาม ดาริออกจากการเบียดเบียน
ผมเคยสงสัยเราต้องสละทุกอย่างเลยเหรอ

 

เมื่อยังไม่เห็นโทษของกาม ก็ยังไม่อยากออกจากกามเป็นธรรมดา

เมื่อปัญญาเห็นว่าโลกเป็นของว่างเมื่อไหร่ เรื่องดำริออกจากกามคงไม่ต้องพูดถึง

ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบนั้นมีความละเอียดลุ่มลึกเป็นลำดับๆ จึงต้องเพียรเพื่อให้พบปัญญาก่อน_/|\_ _/|\_ _/|\_

ของจริงได้กับคนจริง

 

ความเห็นชอบเป็นแบบไหนเหรอครับ

 

ถาม...ใคร..?

ถาม.. คุณหมูไม้ เหรอ..?

 

คุณ หมูไม้ ตอบ คุณ.. พันดารา.. ไป ซิ

คุณ อนัตตา จะได้หายสงสัย..

ท่านแอร์ร่อน จะได้เข้าใจ..

 

ถามรวมๆนะครับเพื่อมีพุทธพจมาแปะให้อ่าน
คนส่วนมากมักหาทางลัด
ซึ้งไม่เข้าใจความลาดลุ่มลึกซึ้งของธรรม
เลยไปติดเกาะแก่ง

 

Ok..

จิง ๆ น้าาา. ..

 

คนจริงกะเจอของจริงแหละ

 

โลกนี้ถ้าจะเปรียบน่าจะเปรียบได้
ดั่งของที่ควรนำออกไปเสีย
อายตนะถ้าจะเปียบเปียบดั่งของว่างป่าว
(อย่าติดละครกันมากละเดียวเค้าว่าติดโลกอีก55)

 

ความเห็นที่เกิดจากคิดไปเองนะอันตราย
ถ้ายังไม่เห็นจริงควรว่าตามบัญญัติ

 

เห็นแล้วชอบมั้ง ฮาๆ

อย่ามัวเสียเวลาตีความเลย ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ ต้องน้อมมาปฏิบัติจึงจะเข้าถึง

 

ทฤษฎีก็ไม่เก่ง
ปฏิบัติก็ไม่เก่ง
ความจำก็ไม่ดี
แต่อ่านรู้เรื่องนะ

ก็เลยชอบแปะ แปะๆๆ