ไม่รู้จักกัน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อนัตตา, 4 มกราคม 2019.

  1. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ๒๑. เสมหัง คือเสลด เครื่องน่าสังเวช เสลดนานา ใกล้ม้วยมรณา กลัดกลุ้มหัวใจ

    ๒๒. ปุปโป คือหนอง เน่าเปื่อยพุพอง เป็นหนองภายใน ไม่ถึงครึ่งวัน สาปสูญบรรลัย เร่งคิดให้ได้ ถึงหลักอนิจจา

    ๒๓. โลหิตัง คือเลือด ไหลมาไม่เหือด เลือดทั้งหลาย ยี่สิบทะนาน ซาบซ่านกายา พระท่านพรรณนา ว่าเลือดในตน

    ๒๔. เสโท คือเหงื่อ ไหลมาซาบเนื้อ ทั่วทุกเส้นขน ไหลมาเมื่อร้อย บ่ห่อนทานทน หลบหลีกบ่พ้น ทั่วทั้งชายหญิง

    ๒๕. เมโท คือมันข้น แล่นอยู่ในตน แห่งคนทั้งหลาย

    ๒๖. อัสสุ คือน้ำตา ไหลมามิวาย เมื่อใกล้จะตาย พลัดพลากจากกัน
     
  2. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ๒๗. วะสา คือมันเหลว ไหลมารวดเร็ว มีมากเหลือใจ

    ๒๘. เขโฬ คือน้ำลาย ไหลซาบซ่านไป ทั่วทั้งไรฟัน

    ๒๙. สิงฆานิกา คือน้ำมูก จำไว้ให้ถูก น้ำมูกอนันต์ ยืดยาดเลอะเทอะ เปรอะเปื้อนมหันต์ ไหลออกมาทุกวัน โสโครกเต็มที

    ๓๐. ละสิกา คือไขข้อ มีตามที่ต่อ ทุกทั่วอินทรีย์ หล่อเลี้ยงภายใน ร่างกายของเรานี้ สำหรับกายี เยียดยัดดัดกาย

    ๓๑. มุตตัง คือน้ำมูตร เมื่อใดพิสูจน์ น้ำมูตรในกาย น้ำเค็มน้ำขื่น เหม็นหื่นเหลือใจ เต็มแล้วจึงไข ทุกเมื่อเชื่อวัน

    ๓๒. มัตถะเก คือหู สิ่งไม่น่าดู เหมือนหูกะทะ มัตถะลุงคัง คือตา ต้องม้วยมรณา อนิจจาดุจกัน คัณฐี คือน้ำมันสมองอยู่ในกระโหลก ศีรษะชะโงก เนื่องสูงกายา เมื่อเป็นไข้หวัด ปวดแสบเหน็บขัด คัดทั่วนาสา
     
  3. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อาการ ๓๒ เนืองนองกันมา ล้วนแต่อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทั่วทุกตัวคน อวิชชา คือตัวโง่เขลาให้เบาปัญญา พาให้ไม่เห็นผล ปกปิดจิตปุถุชน ทั้งหญิงและชาย ผู้คิดไม่ได้ ย่อมตายเปล่าเอยฯ


    ที่มา : คู่มือชาวพุทธ
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     
  4. ❤️ปราวตี

    ❤️ปราวตี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +75
    ถามอะไรหน่อยดิ อยากเผือก..
    เจอหรือยัง
     
  5. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เจออะไร
     
  6. ❤️ปราวตี

    ❤️ปราวตี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +75
    S K
     
  7. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อ๋อ ความลับ:cool:
     
  8. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    คำว่า "อัสมิมานะ" กับ "สักกายทิฏฐิ" นั้นแตกต่างกันอย่างไร

    อัสมิมานะ ก็ไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริง ไม่ใช่เรา เป็นความมีมานะ ว่าเรามีอยู่ ถือตัวว่ามีเรา ในขณะนั้น

    ส่วนสักกายทิฏฐิ สก (ของตน) + กาย (ที่ประชุม) + ทิฏฺฐิ (ความเห็น) คือ ความเห็นว่าเป็นกายของตน, ความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน หมายถึง ความเห็นผิดในขันธ์ ๕ ว่าเป็นเรา ของเรา หรือเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงตามสภาพธรรม เช่น ยึดถือ ขณะที่ว่า เห็น เป็นเราที่เห็น เป็นเราที่ได้ยิน เป็นต้น

    ซึ่ง อัสมิมานะและสักกายทิฏฐิ ต่างกันตรงที่เป็นเราด้วยความเห็นผิดและเป็นเราด้วยมานะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ❤️ปราวตี

    ❤️ปราวตี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +75
    จขกท น่าจะเป็น ผช
     
  10. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เราชอบอ่านคำครู เพราะเป็นปฏิเวธ สั้นๆ กระชับ เข้าใจง่ายดี
    :):):):):)

    ฌาน ถึงแม้เป็นโลกิยะก็จริงแล แต่ผู้ฝึกหัดทำสมาธิจำเป็นต้องผ่านฌานนี้เสียก่อน เพราะฌาน และสมาธิ มันกลับกันได้ด้วยอุบายแยบคายของตนเอง ผู้จะไม่ผ่านฌาน แลสมาธิ ทั้งสองนี้ไม่มี
    ฝึกหัดจิตอันเดียวกัน บริกรรมภาวนาอันเดียวกัน
    หนีไม่พ้นฌาน แลสมาธิเป็นอันขาด ฌาน แลสมาธิ เบื้องต้นเป็นสนามฝึกหัดของจิตของพระโยคาวจรเจ้าทั้งหลาย พระโยคาวจรเจ้าฝึกหัดฌาน แลสมาธิ ทั้ง ๒ อย่างนี้ให้ชำนิชำนาญ รู้จักผิด รู้จักถูก
    ละเอียดถี่ถ้วนดีแล้ว จึงจะทำวิปัสสนาให้เป็นไปได้ วิปัสสนามิใช่เป็นของง่ายเลย ดังคนทั้งหลายเข้าใจกันนั้น จิตรวมเข้ามาเป็นฌาน แลสมาธิ เป็นบางครั้งบางคราว ก็โมเมเอาว่าตนได้ขั้นนั้นขั้นนี้แล้ว ไม่ทราบว่าถึงขั้นไหน เป็นฌาน หรือเป็นสมาธิ คุยฟุ้งเลย ทีหลังสมาธิเสื่อมแล้วเข้าไม่ถูก
    .
    สมาธิ ก็มีลีลามากน่าดูเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนฌาน เหมือนกับเล่นกีฬา คนหนึ่งเล่นเพื่อความมัวเมา แต่คนหนึ่งเล่นเพื่อสุขภาพอนามัย
    .
    สมาธินั้นเมื่อจิตรวมเข้าไป ก็รู้ว่าจิตรวมเข้าไปรู้อยู่ตลอดเวลา จิตจะหยาบ แลละเอียดสักเท่าไร สติย่อมตามรู้อยู่ทุกขณะจิต เมื่อยังหยาบอยู่ มันรู้อยู่แต่ภายนอก เมื่อจิตมันละเอียดเข้าไป มันก็รู้อยู่ทั้งภายนอก และภายใน ไม่หลงไปตามอาการของจิตของตน รู้ทั้งที่จิตเป็นธรรม แลจิตปะปนไปกับโลก
    ไม่เห็นไปหน้าเดียว อย่างที่เขาพูดว่า “หลงโลก หลงธรรม” นั่นเอง ผู้เห็นอย่างนี้แล้ว จิตจะเป็นกลาง วางอารมณ์ทั้งหมดเฉยได้ จะทำก็ได้ จะไม่ทำก็ได้ เมื่อจะทำก็ทำแต่สิ่งที่ควรสิ่งที่เป็นประโยชน์
    ไม่ทำสุ่มสี่สุ่มห้า
    .
    สมาธิเป็นลักษณะของผู้ใหญ่ผู้รู้เดียงสากระทำ
    ฌานเป็นลักษณะของเด็กผู้ไม่รู้เดียงสากระทำ
    .
    คัดมาเพียงส่วนหนึ่งของหนังสือ
    "สิ้นโลกเหลือธรรม"
    พระราชนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาวิศิษฏ์
    (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. BENATO

    BENATO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,582
    ค่าพลัง:
    +1,917
    เข้ามาเสพ..ธรรม

    S (U) K

    (สุข.. สงบ)

    .. :D:D

     
  12. BENATO

    BENATO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,582
    ค่าพลัง:
    +1,917
    ผู้ช่วย..?

    ผู้ชี้..?

    :D:D
     
  13. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ผช มีความหมายตามอุปาทานขันธ์ ชิมิ ของใครของมันเน้อ
     
  14. ❤️ปราวตี

    ❤️ปราวตี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +75
    ถาม ผช นักแปะ นี่คิดว่าใช่คำพุทธจริงมั๊ย..??

    การรู้อริยสัจ
    รีบด่วนกว่าการดับไฟที่กำลังไหม้อยู่บนศีรษะ

    ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อไฟลุกโพลงๆอยู่ที่เสื้อผ้าก็ดีที่ศีรษะก็ดี บุคคลนั้นควรจะทำอย่างไร ?
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เมื่อไฟลุกโพลง ๆ อยู่ที่เสื้อผ้าก็ดีที่ศีรษะก็ดี, เพื่อจะดับเสียซึ่งไฟ ที่เสื้อผ้าก็ดี ที่ศีรษะก็ดี สิ่งที่บุคคลนั้นพึงกระทำโดยยิ่งก็คือ ฉันทะ วายามะ อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี อัปปฏิวานี สติ และสัมปชัญญะ (เพื่อจะดับไฟนั้นเสีย).”
    ภิกษุทั้งหลาย ! (แม้กระนั้นก็ดี) วิญญูชนจะไม่ใส่ใจ จะไม่เอาใจใส่กับเสื้อผ้าก็ดีศีรษะก็ดีที่ไฟกำลังลุกโพลงอยู่ ; แต่จะรู้สึกว่า สิ่งที่ควรกระทำโดยยิ่ง ก็คือฉันทะ วายามะ อุสสาหะ อุสโสฬ๎หี (ขะมักเขม้น) อัปปฏิวานี (ไม่ถอยหลัง) สติ และสัมปชัญญะ เพื่อรู้เฉพาะตามเป็นจริง ซึ่งอริยสัจทั้งสี่ที่ตนยังไม่รู้เฉพาะ. อริยสัจสี่ อย่างไรเล่า ? สี่อย่างคือ อริยสัจคือทุกข์ อริยสัจคือเหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ อริยสัจคือความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ อริยสัจคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.
    ภิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอพึงประกอบโยคกรรมอันเป็นเครื่องกระทำให้รู้ว่า “ทุกข์เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้, ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้, ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้” ดังนี้.

    อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น หน้า ๙๘
    (ภาษาไทย) มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๓๕/๑๗๑๗
     
  15. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    จริง เราชอบแปะ:D

    พระไตรปิฎกที่เวปนี้ก็มีอยู่แล้ว ไปหาอ่านกันได้ที่ห้องพระไตรปิฎกนะ ทำไมต้องมาโพสต์ซ้ำซ้อน

    เราไม่ยึดสังขารใคร แต่ใครจะมายึด...เราก็ไม่ว่าหรอก มันเป็นความชอบส่วนบุคคล ตามสบาย:)
     
  16. ❤️ปราวตี

    ❤️ปราวตี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +75
    นั้นไง ผช จริงๆ ถ้าม ผช ผช ก็มางับสังขาร ไปละ
     
  17. BENATO

    BENATO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,582
    ค่าพลัง:
    +1,917
    อืม.. ผู้ใช้.. จริง ๆ ด้วย แฮะ.. :D:D
     
  18. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    สรรพตาปัญญาย่นลงมาเป็นสอง ตาปัญญาทางโลกีย์ ตาปัญญาทางโลกุตตระ ตาปัญญาทางโลกุตตระเป็นตาปัญญาอันเดินลัดออกกองทุกข์ ตาปัญญาทางโลกีย์เป็นตาปัญญาอันเดินวนเวียนอยู่ในกองทุกข์ เพราะเดินวนเวียนอยู่ในถนนสายโลภ โกรธ หลง เรียกวงเวียนใหญ่ในไตรโลกธาตุ

    ไตร แปลว่า ๓ หรือจะเรียกว่าผ้าไตรสำหรับบวชผู้จะท่องเที่ยวอยู่ในกองทุกข์ก็ได้ จะว่าเพลิงสามกองก็ได้ จะว่าคุกที่ใส่สัตว์ผู้ท่องเที่ยวในสงสารก็ได้ จะว่าป่าโลภ ป่าโกรธ ป่าหลง ให้สัตว์ผู้ชอบท่องเที่ยวทัศนาจรก็ได้ จะว่านรกขุมใหญ่ขุมรวมก็ถูกทั้งนั้นแหละ ว่าไปเท่าใดก็ไม่จบสิ้นได้ จะไม่ว่าอะไรก็ตาม ถ้ากิเลสไม่จบสิ้นก็มีคุณค่าอันเดียวกัน เพราะกิเลสมันไม่ตั้งอยู่ เมืองว่า และเมืองไม่ว่า

    ถ้าหากว่าได้อรหันต์ เพราะพูด เพราะว่า (แล้ว)จักจั่นร้องตลอดวัน จิ้งหรีดร้องตลอดคืน มันก็ได้อรหันต์ ถ้าหากว่าอยู่นิ่ง ๆ (แล้ว)ได้อรหันต์ สัตว์จำพวกที่ปากไม่เป็น พูดไม่เป็น ก็ได้อรหันต์ทั้งนั้น

    ขึ้นอยู่กับสติปัญญาอันชอบต่างหากดอกกระมัง ผู้ปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ในสงสาร จะคิดอยู่ในว่าไม่ถูก จะตั้งอยู่ใน ไม่ว่า ไม่ถูก อีก คนใบ้บอดหนวกเป็นต้น พระพุทธศาสนาไม่รับบวช แต่จะอย่างไรก็ให้ศึกษาวิชาเข็ดหลาบในกองทุกข์ก็ใช้ได้...

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. ❤️ปราวตี

    ❤️ปราวตี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +75
    ตอบเองก็ได้
    ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรคือพระสูตรที่สอนเรื่องทางสายกลางให้แก่ปัญจวัคคีย์ที่มีความเห็นผิดในเรื่องของการปฏิบัติสุดโต่งไปทางทรมานตน..
    แบบนี้จึงเรียกว่าดับไฟคือความเห็นผิดเสียก่อนแล้วจึงแสดงอริยสัจ 4 ที่หลัง

    แปลว่าคำสอนเรื่องรู้ อริยะสัจก่อนดับไฟ...มีเงื่อนงำ
     
  20. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    คั่วกลิ้งอร่อยดี:D
     

แชร์หน้านี้

Loading...