ไม่รู้จักกัน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อนัตตา, 4 มกราคม 2019.

  1. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เวลาที่เราสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทุกอายตนะจะพุ่งไปยังสิ่งนั้นสิ่งเดียว สมาธิก็เกิดเดี๋ยวนั้น และเมื่อพุ่งเมื่อเพ่งอยู่กับสิ่งนั้นก็เกิดเป็นฌาน พอเป็นฌานแล้ว จิตมีกำลังแล้ว การตรึกนึกคิดจึงเป็นการพิจารณาธรรม เห็นสภาวธรรม สภาพธรรม เกิดขึ้นที่จิต

    ขณะที่จิตพิจารณาธรรมนี้ เป็นการพิจารณาด้วยจิตที่มีอารมณ์เดียว ไม่แฉลบออกนอกทางไปได้ นั่งมองเสาไฟฟ้าให้เป็นฌานก็ได้ ฟังเสียงสวดมนต์ ฟังเพลง ให้เป็นฌานก็ได้...แค่คุณรู้จักว่าอารมณ์แบบไหนคืออารมณ์สมาธิ อารมณ์แบบไหนคืออารมณ์ฌาน เสพอารมณ์อยู่ทุกวันๆ น่าจะรู้จักได้...ก็มีแต่อารมณ์

    อารมณ์กุศลกลุ่มหนึ่ง อารมณ์อกุศลกลุ่มหนึ่ง อารมณ์อุเบกขากลุ่มหนึ่ง

    การทำสมาธิ การเข้าฌาน ล้วนต้องจดจำอารมณ์ แม้แต่วิปัสนาก็เป็นอารมณ์

    เป็นนักจำ ช่างจำ ไม่ใช่หรอ ถูกปลูกฝังให้จำมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เอาความจำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการเปลื้องทุกข์ การจำแล้วเอาไปอวด มันไม่ได้เรื่อง จำอารมณ์กุศล จำอารมณ์อกุศล จำได้แล้วเอามาใช้

    พอจิตมันเกิดอารมณ์กุศล มันจะมีปิติและสุข

    พอจิตมันเกิดอารมณ์อกุศล มันจะเศร้าหมองและร้อนรน

    หัวใจของพระพุทธศาสนาคือ ทำดี ละชั่ว ทำจิตให้ผ่องใส เมื่อรู้จักอารมณ์ทั้งปวงแล้ว นำมาใช้ตามหลักของพระพุทธศาสนาได้เลย ละอกุศล ทำกุศล จิตผ่องใส ชัวร์

    อย่าเมาเพลินกับการเสพอารมณ์ชั่ว
    เสพแค่พอรู้ แล้วเลิกซะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อาทิตย์ทรงกลด...ยามเช้าของวันพระ:rolleyes:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ละความทะยานอยากออกไป อะไรๆ มันก็ง่าย อย่าให้ความทะยานอยากมันลากจูงเราไป มันอยู่ที่เราจะเอากับมันหรือไม่เอากับมัน เราล้วนเลือกเอง

    การแยกแยะดี-ชั่ว กุศล-อกุศล ก็เหมือนการคัดเลือกข้าวเปลือกออกจากข้าวสาร

    เมื่อคัดออกมาแล้ว ข้าวสารก็เอาไปหุง ข้าวเปลือกก็เอาไปปลูก หรือจะไม่หุง ไม่ปลูกก็ได้ (คัดออกเพราะไม่มีอะไรจะทำ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เรื่องจริง จิตไม่แข็ง..อย่าอ่าน !!!

    #ทำไมห้ามดึงยันต์ออก

    มีเด็กคนหนึ่ง รักการอ่านมากระดับอภิมหาหนอนหนังสือ ชอบไปอ่านที่ร้านขายหนังสือแห่งหนึ่งทุกวันๆละ 1-2 เล่ม โดยเจ้าของร้านยอมเพราะอยากส่งเสริมให้เด็กๆรักการอ่าน

    อ่านจบครบทุกเล่ม เลยว่า "มีหนังสืออีกมั้ยครับ?"

    เจ้าของก็บอก " ไม่มีแล้วไอ้หนู เจ้าอ่านหมดร้านแล้ว "

    เด็กน้อยไม่เชื่อ ร้านหนังสือจะไม่มีหนังสือให้อ่านได้ไง จึงบอกให้พยายามหามาให้อ่านหน่อย จนเจ้าของร้านจำใจ บอกไปว่า...

    เอางี้ มีอยู่เล่มหนึ่ง แต่ไม่ให้อ่านฟรีนะ ต้องซื้อ...

    เด็กก็บอก "ได้ครับ ราคาเท่าไหร่ ขอดูหน่อย"

    เจ้าของหายไปหลังร้านสักพัก ก็เอาหนังสือออกมาให้ดู ชื่อเรื่องว่า

    " วิญญาณและความตาย "

    แต่ที่สำคัญ ปกหลังมี "ยันต์สีแดง" แผ่นเกือบเท่าปกหลังติดอยู่ ซึ่งน่าแปลกมาก !?!

    เจ้าของร้านบอกขายให้ 500 บาทก็พอ เพราะเห็นเป็นเด็กชอบอ่าน จริงๆไม่อยากขายให้ใคร

    เด็กคนนั้นดีใจมาก แม้จะแพงไปนิด

    เจ้าของร้านเตือนว่า...

    "ไม่ว่าเจ้าอ่านแล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ห้ามดึงยันต์หลังปกหนังสือนี้ออกอย่างเด็ดขาดนะ"

    เด็กรับปาก และกลับบ้านด้วยความสงสัย แล้วก็อ่านแต่หนังสือเล่มนี้โดยไม่เป็นอันทำอะไรจนจบเล่ม

    คืนนั้นนั่นเอง...

    เด็กน้อยรู้สึกว่า มันน่าจะมีอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับยันต์แผ่นนี้แน่ เลยคิดที่จะดึงยันต์ออก... (เอาล่ะสิ)

    แต่ก็ยังกลัวคำเตือนเจ้าของร้าน
    " ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ห้ามดึงยันต์หลังหนังสือนี้ออกอย่างเด็ดขาด "

    แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า...
    "เอาน่า...อะไรจะเกิดให้รู้กันไป"

    เด็กจึงค่อยๆ แกะผ้ายันต์นั้นออก

    สุดท้าย... หลังจากที่แกะยันต์ออกจนหมด เด็กคนนั้นตัวชา อึ้งไปสักพักใหญ่ แล้วก็ร้องไห้โฮโดยไม่รู้ตัว เพราะหลังหนังสือ พิมพ์ไว้ว่า...

    "ราคา 20 บาท"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อรุณสวัสดิ์...ความเปลี่ยนแปลงภายในไม่กี่วินาที:)
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็เป็นเช่นนั้นเอย;)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    จากเพจ...อีสาน ม่วนชื่น

    สามีภรรยาคู่นึง ขับรถกลับบ้าน สามีเกิดขับรถไปเสยกับต้นไม้ริมถนน ทำให้รถพลิกคว่ำ หลังจากออกมาจากรถได้แล้ว ทั้งคู่ไม่เป็นอะไรกันมาก ภรรยาได้บอกกับสามีว่า "เรามาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันดีกว่า"...หลังภาพนี้แพร่หลายก็มีคนถามว่า "ทำไมถึงได้คิดจะถ่ายรูปไว้ หากเป็นคนอื่น ภรรยาต้องตำหนิสามีและทะเลาะกัน" ภรรยาตอบว่า "ปัญหามันเกิดขึ้นแล้ว และก็ไม่ควรปล่อยให้อารมณ์ที่เลวร้ายมาทำร้ายคู่ชีวิตของคุณ" สรุปได้ว่า โชคดีแค่ไหนที่ยังไม่ตาย ดังนั้นชีวิตมีค่ามากกว่าการต้องมาทะเลาะกัน เพราะมันเกิดขึ้นไปแล้ว...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ก่อนตายเธอจะทำอะไร และเธอแน่ใจอย่างไรว่าเธอจะได้ทำจริงๆ เมื่อกาลนั้นมาถึง ใครสามารถบอกแก่เธอได้

    ส่วนฉันจะหยุดหายใจก่อน...แล้วค่อยตายo_O
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
  9. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    #บทสนทนา #วาจาเปิดโลกของ #ครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนา ที่ได้เอ่ยต่อ พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสนาธุระ #หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    "ในการพบกันคราวนี้ ท่านพระอาจารย์มั่น ก็ถึงกับได้ออกปากชวนท่านพระครูบาเจ้าศรีวิไชยเลยทีเดียวว่า "โลกนี้มืดมนนัก.... น้อยคนจักเห็นแจ้งได้
    ..........ขอน้องเราท่านจงมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับผม เพื่อล่วงทุกข์ภัยในวัฏฏะไม่ต้องมาเกิด แก่ เจ็บ และตาย และวุ่นวายด้วยกิเลสตัณหาให้ได้รับทุกข์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดด้วยกันเถิด...”
    ..........เมื่อได้ฟัง ท่านพระครูบาเจ้าศรีวิไชยก็ได้ยกมือขึ้นวันทาไหว้สา ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระผู้เป็นทั้ง "เพื่อนสนิท” และ “พี่ชายที่แสนดี” ของท่านด้วยความซาบซึ้งใจอย่างนอบน้อมยิ่ง...ก่อนกล่าววาจา "เปิดโลก”อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นในการไหน ๆ ทั้งสิ้น ที่เป็นเสมือนหนึ่งเป็นการเฉลยปริศนาแห่งมโนปรารถนา แห่งองค์ท่านมานานนับด้วยอสงไขยในกาลบัดนั้นทีเดียวว่า
    .........."ที่พี่ท่านกล่าวมาเช่นนี้ ก็ชอบอยู่โดยแท้ แต่สุดวิสัยอยู่แต่เพียงว่า อันตัวของข้าเจ้าผู้น้องนี้ หาได้บำเพ็ญบารมีธรรมทั้งปวงมา เพื่อจะหลุดพ้นจากวัฏสงสารนี้แต่เพียงลำพังก็หามิได้.....แต่ข้าเจ้าได้บำเพ็ญธรรมตามจริยาอย่างพระโพธิสัตว์ ผู้ปรารถนาจะล่วงเข้าสู่พระพุทธภูมิอย่างสมบูรณ์แล้ว...อีกทั้งยังได้รับพระพุทธพยากรณ์ไว้แล้วด้วยว่า ข้าเจ้านี้เที่ยงแท้ที่จะได้บรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ คือจะได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคหน้าเที่ยงแท้มิแปรผัน...”

    ..........นอกจากนี้ ครูบาศรีวิไชยเจ้าก็ยังได้กราบเรียนท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตต่อไปอีกด้วยว่า . . . “ด้วยเหตุเป็นเช่นนี้นี้ ข้าเจ้าผู้น้องจึงได้แต่จนใจนักที่มิอาจจักออกปฏิบัติธรรมกรรมฐาน เพื่อล่วงสู่มหาปรินิพพานตามที่ท่านเจ้าได้กรุณาออกวาจาชักชวนเห็นปานนี้ได้...แม้จะเป็นพระคุณอย่างล้นเหลือ แต่ข้าเจ้าไม่มีอำนาจใดจักไปฝ่าฝืนพุทธพยากรณ์ที่ได้ทรงตรัสพยากรณ์ไว้แล้วดังนี้ ..........ฉะนั้น ขอพี่ท่านจงได้โปรดอดโทษแก่ข้าเจ้าผู้น้องที่มิอาจสนองความปรารถนาดีของพี่ท่านในกาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด...”

    สาธุ สาธุ สาธุ

    Cr.Chawalit seeno
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    สมาธิที่ถูกต้องคือสัมมาสมาธิ
    เมื่อมีสัมมาสมาธิแล้ว จะมีสัมมาสติ
    สัมมาสตินี้จะคุ้มครองจิต ไม่ให้คิดนึกไปในอกุศลธรรม กิเลส ตัณหา อุปาทาน

    สัมมาสตินี้ ไม่ใช่สติธรรมดาทั่วไป เกิดขึ้นภายหลังจากที่จิตรวมเป็นหนึ่งแล้ว สติปรุงแต่งก็อย่างหนึ่ง สติอัตโนมัติก็อย่างหนึ่ง

    ทุกวันนี้มีครูบาอาจารย์เยอะ แต่ที่สอนตามหลักที่พระพุทธองค์ทรงบอกไว้...มีน้อย ต้องมีวาสนาบารมีมาก่อน จึงจะได้พบของจริง

    ของจริง ปฏิบัติตามแล้วได้ผลตามที่ท่านบอกไว้ รู้เห็นได้ด้วยตนเอง ปลดทุกข์ได้จริง ไม่แสวงหาเหตุแห่งทุกข์ได้จริง

    เมื่อรู้จริง เห็นจริงด้วยตนเองแล้ว จะเกิดศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างแน่นแฟ้น ไม่สนใจศรัทธาในลัทธินอกเขตพระพุทธศาสนาเลย

    ที่ยังเปะปะ บอกได้เลยว่ายังไม่ถึงพระรัตนตรัย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    การทวนญาณ

    สภาวะจะทวนด้วยตัวของสภาวะเอง ไม่ต้องไปตั้งจิตอธิษฐานแต่อย่างใด

    แต่ตามตำราที่เขียนไว้ ให้ฝึกทวนญาณ เหตุของการฝึกเพื่อให้เกิดความแม่นยำในสภาวะ

    ถ้าผู้ฝึกไม่รู้ความจริงตรงนี้ ถ้าฝึกด้วยความอยาก ย่อมติดอยู่ในอุปกิเลส

    เพราะสภาวะแต่ละสภาวะ กว่าจะรู้จะเข้าใจ ต้องวางความอยาก จนเกิดจากการปล่อยวาง โดยตัวจิตเอง ถึงจะรู้ชัดตามความเป็นจริงของสภาวะนั้นๆได้

    ผู้ที่มีสภาวะ สัมมาสมาธิ เป็นสมาธิที่มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมเกิดขึ้น ขณะจิต เป็นสมาธิอยู่(โลกุตระ)

    สภาวะสัมมาสมาธิ เกิดขึ้นแล้ว ไม่มีวันเสื่อม (เพียงแต่ จะสามารถรู้ชัดอยู่ภายในกายและจิต มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย)

    เป็นเหตุให้ รู้ชัดอยู่ภายในกายและจิตเนืองๆ เป็นเหตุให้สภาวะนิพพิทาวิราคะ เกิดขึ้นเนืองๆ ตามเหตุปัจจัย

    อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็นิพพิทาวิราคะมีอะไรเป็นผล มีอะไร เป็นอานิสงส์.

    พ. ดูก่อนอานนท์ นิพพิทาวิราคะ มีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นผล มีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นอานิสงส์

    ดูก่อนอานนท์ ศีลที่เป็นกุศล มีอวิปปฏิสารเป็นผล มีอวิปปฏิสารเป็นอานิสงส์

    อวิปปฏิสารมีปราโมทย์เป็นผล มีปราโมทย์เป็นอานิสงส์

    ปราโมทย์มีปีติเป็นผล มีปีติเป็นอานิสงส์

    ปีติมีปัสสัทธิเป็นผล มีปัสสัทธิเป็นอานิสงส์

    ปัสสัทธิมีสุขเป็นผล มีสุขเป็นอานิสงส์

    สุขมีสมาธิเป็นผล มีสมาธิเป็นอานิสงส์

    สมาธิมียถาภูตญาณทัสสนะเป็นผล มียถาภูตญาณทัสสนะเป็นอานิสงส์

    ยถาภูตญาณทัสสนะ มีนิพพิทาวิราคะเป็นผล มีนิพพิทาวิราคะเป็นอานิสงส์

    นิพพิทาวิราคะ มีวิมุตติญาณทัสสนะเป็นผล มีวิมุตติญาณทัสสนะ เป็นอานิสงส์ด้วย ประการดังนี้

    ดูก่อนอานนท์ ศีลที่เป็นกุศล ย่อมถึงอรหัตโดยลำดับ

    ด้วยประการดังนี้แล.



    มิจฉาสมาธิ เป็นสมาธิที่ ขาดความรู้สึกตัวทั่วพร้อมเกิดขึ้น ขณะจิต เป็นสมาธิอยู่(โลกียะะ) เกิดขึ้นแล้ว มีวันเสื่อมได้

    จาก...Wilai's Blog
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ศรัทธาเต็มเปี่ยมในพระรัตนตรัย
    องค์แม่คือจิตต้นกำเนิด
    พระโพธิสัตว์คือปณิธาน
    เข้าใจยัง...

    อำนาจบุญ-อำนาจบาป นำพาเราเวียนว่ายในวัฏฏะ นำพาให้ได้มาพบกัน หากหมดสิ้นอำนาจทั้งสองนั้นแล้ว...ก็ยุติทั้งหมด

    อำนาจบุญ อำนาจบาป...มาจากไหน และอยู่ที่ไหน ก็มาจากการกระทำและถูกบันทึกลงที่จิต เหตุนี้จิตจึงต้องเวียนว่ายเพื่อเสวยผลของบุญและบาป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ใจใดเห็นภัยในรสใจอันเดือดร้อน
    ใจนั้นจะรู้จักการลดผ่อนในเรื่องร้อนของใจ
    ใจใดไม่รู้จักรสของใจ ใจนั้นไม่รู้จักรสของธรรม
    ใจใดไม่รู้จักทางใจ ใจนั้นไม่รู้จักทางธรรม
    ใจใดไม่รู้จักพึ่งใจ ใจนั้นก็ไม่รู้จักพึ่งธรรม
    ใจใดไม่รู้จักเหตุแห่งใจ ใจนั้นก็ไม่รู้จักเหตุแห่งธรรม
    ใจใดไม่รู้จักดับเหตุแห่งใจ ใจนั้นไม่รู้จักดับเหตุแห่งธรรม
    ใจใดไม่รู้จักหลุดพ้น ใจนั้นก็ไม่รู้จักธรรมอันหลุดพ้น
    ใจใดไม่เคารพใจ ใจนั้นก็ไม่เคารพธรรม
    ใจใดไม่รู้จักใจที่ควรปฏิบัติเคารพ
    ใจนั้นก็ไม่รู้จักธรรมที่ควรปฏิบัติเคารพ
    ใจใดที่ไม่รู้จักสรรพใจ ใจนั้นก็ไม่รู้จักสรรพธรรม
    ใจใดไม่รู้จักเอกใจในปัจจุบัน ใจนั้นก็ไม่รู้จักเอกธรรมในปัจจุบัน
    นิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย...

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     
  14. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ฝึกสติไปเรื่อยๆ
    oApguG3z.jpg
     
  15. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อยากจำ...กลับลืม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    7 โมง...9 โมง...10 โมง
    ไม่คงที่ ไม่คงทน ล้วนเปลี่ยนแปลง ไม่อยู่ในบังคับบัญชาของใคร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ถ้าจิตพ้นทุกข์แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ก็อยู่ได้ทั้งหมด ไม่มีความกระวนกระวายใจ

    ยังมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก มีความสุขกับการเสพธรรมปิติ เห็นชัดในทุกหน้าที่ ขีวิตที่เหลือก็ทำประโยชน์ให้โลก เอื้อต่อชาวโลก โลกที่อยู่ใกล้ๆ ตัว

    กิเลส กรรม วิบาก ย่อมหมุนไป ไม่มีใครห้ามปรามได้ ทำประโยชน์ให้โลก เอื้อต่อชาวโลกไป

    พระพุทธเจ้าอุบัติมาตรัสรู้เพื่อโปรดสัตว์กี่พระองค์แล้ว สรรพสัตว์ก็ยังไม่หมดไปจากโลก

    พระโพธิสัตว์บำเพ็ญเพียรเพื่อรื้อขนสัตว์โลกออกจากวัฏสงสารมาเนิ่นนานแค่ไหนแล้ว จำนวนของสัตว์โลกที่เวียนว่ายตายเกิดก็ยังไม่ลดลง

    จะนิพพานแต่ยังกลัวตายก็เวียนว่ายต่อไปเถอะ

    ทุกอย่างเป็นไปตามพุทธพยากรณ์ ไม่มีใครขัดขืนได้ ถ้าตัณหา3 ดับสิ้นแล้ว จะตายหรืออยู่ก็ไม่ใช่ปัญหา

    ถ้าได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะมาตรัสรู้ ไม่มีทางลาพุทธภูมิได้ การจะเป็นพุทธภูมิจนได้รับพุทธพยากรณ์ต้องผ่านการพิสูจน์หลายขั้นหลายตอนหลายชาติ เยอะมากมายเกินกว่าที่คนธรรมดาๆ จะคิดได้

    การพิสูจน์ต้องผ่านขั้นพิสูจน์ความเป็นโพธิสัตว์ จนเลื่อนขึ้นเป็นโพธิสัตว์...ทำกิจของโพธิสัตว์(นิยตะ)ไปจนกว่าจะได้รับพุทธพยากรณ์ ก็เป็นพระโพธิสัตว์เต็มตัวมีบารมีเต็มขั้น
    (สร้างบารมีจากนิยตโพธิสัตว์ต่อเพื่อผ่านการพิสูจน์สั่งสมบารมีเป็นอสงไขยกัป จนได้รับพุทธพยากรณ์ก็เลื่อนเป็นอนิยตโพธิสัตว์)

    หากขาดซึ่งบารมี 10 ทัศ ที่เป็นอุปบารมี ปรมัตถบารมี ก็หมดสิทธิ์ เวียนแก้ไข เวียนสั่งสมอยู่อย่างนั้นต่อไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    "บางตอนจาก พระราชปุจฉา-วิสัชนาธรรม กับ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย"

    พระราชปุจฉา : สมาธิต่อเนื่องวิปัสสนาทำอย่างไร

    หลวงพ่อพุธ : สมาธิต่อเนื่องวิปัสสนา คำว่า วิปัสสนานี่มีอยู่ ๒ ขั้นตอน

    ขั้นต้น คือ วิปัสสนาที่ใช้สติปัญญากำหนดพิจารณาเอาเองด้วยความตั้งใจ เช่น เราจะพิจารณาร่างกายให้เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือพิจารณา รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ น้อมไปสู่ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ใช้ความรู้สึกนึกคิดที่เราเรียนรู้มานั้นมานึกเอา เรียกว่า การเจริญวิปัสสนาแบบใช้สติปัญญาแบบธรรมดาๆ โดยการพิจารณาเอารูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ให้เห็นเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง, ทุกขัง เป็นทุกข์, อนัตตา ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง

    โดยความรู้สึกนึกคิดเอาเองนี่แหละ เป็นการตกแต่งปฏิปทาเพื่อให้จิตสงบลงเป็นสมาธิ แล้วจะเกิดวิปัสสนาขึ้นมาโดยอัตโนมัติ จะปฏิวัติไปสู่ภูมิรู้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จงทำความเข้าใจว่า ถ้าสมาธิหรือสมถะไม่เกิดขึ้น ท่านจะเจริญวิปัสสนาอย่างไร ท่านจะไม่ได้วิปัสสนา เพราะวิปัสสนามีมูลฐานเกิดมาจากสมถะ คือ สมาธิ ถ้าสมถะคือสมาธิไม่เกิดขึ้น ท่านจะได้แต่วิปัสสนาแบบนึกคิดเอาเอง เป็นวิปัสสนาภาคปฏิบัติเท่านั้น ยังไม่ใช่วิปัสสนาที่แท้จริง

    พระราชปุจฉา : คำภาวนา พุทโธ เป็นสมาธิ จะทำวิปัสสนาต่อไปจะทำอย่างไร

    หลวงพ่อพุธ : คำภาวนา พุทโธ ทำจิตให้เป็นสมาธิ พูดได้ว่า ภาวนาพุทโธ ทำจิตให้สงบลงเป็นสมาธิเพียงแค่ขั้นอุปจารสมาธิ ถ้าต้องการทำจิตให้เป็นวิปัสสนาสืบเนื่องมาจากการภาวนาพุทโธ เมื่อทำจิตให้สงบลงไป รู้สึกว่าสงบสว่างขึ้นมาแล้ว น้อมจิตไปพิจารณารูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ น้อมไปสู่ความเป็นอนิจจังไม่เที่ยง ทุกขังเป็นทุกข์ อนัตตาไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง ซึ่งเป็นพระไตรลักษณ์ หรือมิฉะนั้นก็กำหนดรู้ที่จิตของตนเอง เมื่ออารมณ์อันใดเกิดขึ้นในความคิด ก็กำหนดตามความคิดนั้นเรื่อยไป เมื่อความคิดอันใดเกิดขึ้นดับไป เกิดขึ้นดับไป เกิดขึ้นดับไป เราเอาพระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ควบคุมความคิดว่า ความคิดนี้มันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เจริญวิปัสสนาในสมาธิอ่อนๆ

    บางครั้งเมื่อเจริญสมาธิแล้ว จิตจะถอนออกมาสู่จิตปกติธรรมดา ก็อย่าเลิกการพิจารณาเป็นเครื่องรู้ของจิต เป็นเครื่องระลึกของสติ เป็นเครื่องหมายแห่งความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ในที่สุดจิตจะสงบลงสู่ความเป็นสมาธิ และเกิดวิปัสสนากรรมฐานขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

    การบริกรรมภาวนานี้ บางทีบางท่านเพียงแต่บริกรรมภาวนา พอจิตสงบลงเป็นอุปจารสมาธิ จิตท่านผู้นั้นจะปฏิวัติไปสู่ภูมิวิปัสสนาโดยไม่ได้ตั้งใจ อันนี้แสดงว่าผู้นั้นได้เคยเจริญวิปัสสนาแล้วตั้งแต่ชาติก่อน เมื่อจิตสงบลงไปแล้ว วิปัสสนาก็ไม่เกิด เห็นแต่เพียงสงบนิ่ง สว่างอยู่เฉยๆ หากเป็นทำนองนี้ ต้องค้นคิดฝึกหัดวิปัสสนากรรมฐาน ยกเอาอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งมาพิจารณา จะเป็น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็ได้ ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จนกว่าจะเกิดสมาธิขึ้นมาแล้วจึงจะรู้ภูมิแท้แห่งวิปัสสนาไปเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ท่านเป็นเทวดาที่เหล่านาคให้ความเคารพนับถือ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เราตายแล้วก็เป็นเรื่องของคนอื่นอีกต่อไป ไม่ใช่ของเราสักอย่างเดียวเลย เดี๋ยวก็จากกันไปไม่จากตายก็จากเป็นกันเท่านั้น ไม่แน่นอนไม่ว่าภายในกายหรือนอกกายเหมือนกันหมดทุกอย่าง มีแต่ของไม่เที่ยงทั้งนั้น เราได้ใช้ปัญญารู้เห็นตามความเป็นจริงของธรรมชาติธรรมดาแล้ว จิตสังขารก็หยุดปรุงหยุดแต่ง ไม่มีสิ่งใดจะมั่นคงถาวรอยู่ในโลกอันนี้สักอย่างเดียวเลย มีแต่เสื่อมชำรุดลงไปสู่สภาพเดิมของเขาตามธรรมชาติ เกิดขึ้นมาแล้วก็ดับเป็นอยู่อย่างนั้น และไม่มีอะไรจะมั่นคงอยู่กับที่ไปได้เลย ก็มีแต่จะทรุดลงไปทุกระยะ

    ทางพ้นทุกข์
    โดย คุณแม่ชีพิมพา วงศาอุดม
    วัดหินหมากเป้ง
    ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...