ให้ดูที่ " จิต "

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 3 เมษายน 2013.

  1. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    งืมๆ ภูมิหลัง งับใส่ หีบ ไว้ก่อนเนาะ

    เพราะตอนนี้ แหลมผิดหูผิดตา

    กล่าวดีๆ ก็แล้วกัน

    กล่าวว่า "เขาไปแทรกแซง" ได้ละก้อ ภูมิหลังปรากฏ ไม่รู้ด้วยนะเอ้า

    *************

    เวลากล่าว อย่าลืม หายใจ ไปด้วย จะช่วยได้มาก คำว่าพลาดไม่มีแก่ผู้มี วิหารธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2013
  2. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ยำใหญ่ใส่สารพัด มามั่วแล้วล่ะคราวนี้
    น้ำไหลนิ่ง ระลึกถึงฟังหลวงพ่อชาท่านกล่าวนะปู่
     
  3. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    น่าสนใจครับพี่ หากแต่มันมีที่ตะหงิดๆอยู่ อย่างกะกึ่งอัปปนา
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    งืมๆ มันส์ดี กล่าวได้ ค่อนข้างสะใจ

    แต่ ขออภัย หากจะ ย้อนแย้งสักนิด แลกกัน พิจารณาดูละกันเนาะ
    ไม่ใช่เรื่อง บุคคลข่มกันนะ เรื่องหมากัดกันยกไว้ก่อน

    ตรงที่บอก สัญญาเก่า ตรงนี้ใช้ได้เลย สำหรับการเข้ามาเห็น แต่การ
    ไปกล่าวว่าเป็น อนาคามีผล อรหัตถมรรค อะไรนั่น หากเป็น ผม ผมจะ ยั้งไว้ก่อน

    เพราะ สัญญาเก่า หรือ เวทนาเก่า สองตัวนี้ มันเป็น เสี้ยนหนามของ
    " สัญญาเวทยิตนิโรธน " ซึ่ง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความเป็น อนาคามีมรรค
    หรือ อนาคามีผล มันเป็นแค่เรื่อง "ฌาณ" ยังจัดว่าเป็น สมถะ อย่าง
    หนึ่งอยู่ อย่ารีบร้อนไปกล่าวว่าเป็น "ปัญญา"

    ต้องกำหนดรู้ว่า อาการเข้าไปเห็น สัญญาเก่า เวทนาเก่า นั้นๆ เป็น อรรถ
    สาระทางธรรมประเภทหนึ่งก่อน หลังจากเห็นว่า จิตไปรู้อรรถ อย่างนี้ๆ ได้
    ก็จะค่อยยกว่าเป็น " ปัญญา "

    ที่ต้องมีขั้นตอนเห็นอรรถ เพราะว่าเห็นอรรถจึงเรียกว่า เป็นปัญญา ตรงนี้
    เพื่อตามเห็น ไตรลักษณ์ใน "ญาณ" ตัวนี้อีกคำรบหนึ่ง ถ้าไม่เห็น
    ไตรลักษณ์ในปัญญาตัวนี้ จะไม่ถือว่า เห็นชัด ถ้าไม่เห็นชัด ก็ต้อง
    จำต้องจัดว่าเป็น การเดาส่งอยู่ ใช้ไม่ได้ ต้องระวัง อย่าประมาทเด็ดขาด

    รู้ไม่ถึงฐาน การกล่าวว่าเห็น จิต จะเป็นไปไม่ได้ ( เฉพาะ พวก กายสักขี )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2013
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    มะรู้ มะรู้

    เป็นผม ผมจะไม่ ยอมให้ " นิกันติ " มาขย่มเอาเหมือนเคยๆ อีก เด็ดขาด

    การปักใจเชื่อ จัดเป็น มรรคหยาบ มัน ฆ่า มรรคละเอียด นะ !!
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ฮั่นแน่

    ไม่เรียก ชื่อเก่า ก็ได้อยู่นะ

    แต่ สนใจชื่อใหม่มะ เรียกว่าอะไรดี

    จ่านิกันติ หรือ น้านิกันติ เอามะ !?
     
  7. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ^จิตทั้งหลาย อารมณ์ทั้งหลาย ความคิดทั้งหลาย เวทนาทั้งหลาย ทั้งเวทนากาย เวทนาจิต ต้อง ไม่มีผล ใดใดกับสติ หรือ ตัวรู้ หรือ ตัวดูเลย
    ตรงนี้โดยปกติแล้วสิ่งเหล่านี้มีผลต่อสติ หรือตัวรู้อย่างไรครับ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ฮี้ ฮี้ ฮี้

    เนี่ยะ คนหัวมันเริ่มงอก ออกมาและ

    แทนที่จะ เห็นมรรค ที่พ้นเรื่อง เงื่อนไขความเป็นคน

    มรรค มันก็แค่ มรรค มันมีแต่ รู้ หรือ ไม่รู้ ซึ่ง ฝึก หรือ ไม่ฝึก

    หากมีการ ฝึก ของเหล่านี้ ก็ย่อมปรากฏ เป็นธรรมดา ขี้ๆ

    แต่ถ้า มันหัวคนงอกออกมา เนี่ยะ รู้ไม่ถึงฐาน เดาสุ่ม ส่งสวด แน่นอน
     
  9. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    สัมปชัญญะพี่ไปไหนครับ
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็เห็นไหมหละ ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ มันเกิด

    มันเกิด กับผมเหรอ

    มันเกิดขึ้นที่ไหน

    มรรค เนี่ยะ หากใครฝึก ใครอบรม มันก็ต้องปรากฏ และการปรากฏ
    ก็ต้องเป็นเรื่อง ขี้ๆ

    คำว่า ขี้ๆ หมายถึง " ของเก่า " คือ มันมีของมันอยู่แล้ว

    แต่ถ้า ใครมีจิตกระเดิด สำคัญว่า กูรู้ ก็เห็น อันนี้ มันเป็นเรื่อง รู้ไม่ถึง
    ฐานจิตอยู่แล้ว ซึ่ง บุคคลสองจำพวก จะเป็นได้ คือ พวก ศรัทธาเข้าว่า
    ( สัททานุสารี ) กับ พวกเก่งคิด ( ทิฏฐิปุตตะ ) พวกนี้ ปัญญาที่มัน
    แล่นไปรู้ไม่ใช่ของตัว ยังจัดว่าเป็นการ ฟังตามๆกันอยู่ แต่เพราะ ศรัทธา
    ที่พอดีๆ อินทรีย์พอดี มันเลย เหมือนๆว่า แจ้งเรื่อง ของเก่า

    แต่ความเป็นจริง ยังรู้ไม่ถึงฐาน ยังรู้ไม่จริง จึงเป็นคำว่า เดาสุ่มส่งสวด
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เห็น ปฏิปักษ์ หรือ เสี้ยนหนาม ทั้ง 10 นั่นไหม

    สัญญาเวทยิตนิโรธนเนี่ยะ สู้ ราคะ โทสะ ไม่ได้ นะเว้ยเฮ้ย

    ดังนั้น อย่าประมาท
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้

    หางโพล่แล้ว จ่าแอม / น้าจร / เจ้าทวี / อีกคนก็โน่นเนินชมพูพระศรีอารย์

    ไหนว่า รู้มรรค มั่นคงในมรรค แจ้งในมรรค

    ทำไม ถึงได้ไป ดำริ กล่าวว่า คนเขาแสวงหาปัญญาด้วยการคิดเอาอีก เล่า !!??

    เนี่ยะ หางโพล่ คุณนั่นแหละ ใช้ ความคิดไปเรื่อยเจื้อยๆ รู้ไม่จริง ไม่ได้ทำมา
     
  13. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผู้ใดไม่บริโภคกายคตาสติ ผู้นั้นได้ขื่อว่าไม่บริโภคอมตะ
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    งง หละซี่ เจอ พยัญชนะอื่น อรรถสาระอื่น ที่ไม่เคยเห็น ก็ งง เต็ก

    เอ้ มาจากไหน กรูว่า กรูอ่าน แล้วทำ ผังล้มเจ้า ไว้ครบถ้วนดีแล้ว

    ไหง มีเรื่อง ปฏิปักษ์ เสี้ยนหนาม คำแปลกๆ เข้ามาอีกหว่า งง เรือหายเลย

    ก็นะ

    พระพุทธองค์กล่าวไว้ว่า พระไตรปิฏก เป็น ตำราพิชัยสงครามเอาไว้เหยียบเดียรถีย์ ไง

    *******

    คุณคร้าบ อย่าไปศึกษาธรรมแบบนั้นเลย ปฏิบัติดีกว่า

    ปฏิบัติได้ผลเนี่ยะ จะผลิก มรรค ออกมาเป็น คำอะไร ไม่มีหรอก จะ ฮานาก้า กูไม่เคยเห็น !!
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แล้วแต่ จะคิดจิ ฮับ

    แต่ว่า เวลาคนยกสิ่งใดให้ใครเนี่ยะ พระพุทธองค์บอกว่า

    ดูเถอะ เขายกออกมาได้ ก็เพราะ เขามีของเขาอยู่

    เขาเลย สำคัญว่านั่นคือ สมบัติอย่างหนึ่ง

    พอเข้าใจแบบนั้น ก็เลย เที่ยวยก สมบัตินั้นให้คนอื่นไป ทั้งๆที่

    มันออกมาจาก มะอึx นั่นแหละ
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,337
    การเจริญสติสัมปชัญญะ ในขั้นตอนจิตตานุสตินั้น มีความละเอียดอ่อนมาก การเจริญสติในขั้นสูง ย่อมต้องใช้สมาธิเข้าช่วย กระผมขอกล่าวในวิธีการปฏิบัติของกระผมที่ได้ฝึกฝนมา ผิดถูกอย่างไรแล้วแต่ท่านจะพิจารณา แต่ผลที่ได้รับเกิดเป็นเช่นนี้คือความเข้าถึง สภาวะที่เรียกว่า การเห็นจิตในจิต

    สภาวะนี้เป็นสภาวะที่เข้าถึงได้ยาก อาศัยการเจริญสติ เป็นบาทฐานลำดับที่หนึ่ง ต่อมาให้อาศัยสมาธิขั้นละเอียด ระดับฌาณ เพื่อรักษาจิตให้สงบนิ่งเข้าสู่อุเบกขา จิตภายในในสภาวะนี้ จะไม่มีการปฏิสนธิ หรือเกี่ยวพันธ์เชื่อมติดอยู่กับรูปนามใดๆ ในสภาวะเช่นนี้
    มหาสติสัมปชัญญะวิ่งเข้าไปรู้สภาวะจิตที่สงบนิ่งอยู่อย่างนั้น รู้ทั่วพร้อมว่าจิตภายในไม่รับไม่ปฏิสนธิกับรูปนามใดๆ
    และหากเราสามารถทรงสภาวะเช่นนี้ต่อไปได้ต่อเนื่อง สติสัมปชัญญะเห็นจิตในขณะนั้น จิตจะดำเนินต่อไปในลักษณะนี้ จนเมื่อจิตดวงนี้ไม่รับหรือปฏิสนธิกับรูปนามใดๆแล้วขาดสะบั้นแล้วชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้ว จิตที่เราตามเห็นอยู่นั้นภายในจึงเห็นลึกลงไปอีกว่าจิตภายในเป็นเพียงความว่างสว่างอยู่เช่นนั้น เป็นธรรมดาอย่างนั้น เป็นจิตที่ไม่รับธรรมารมณ์ใดๆแล้ว ว่างอยู่อย่างนั้นแล้วอย่างแท้จริง

    สภาวะเช่นนี้เข้าถึงได้ยาก ต้องอาศัย
    1สติสัมปชัญญญะที่ต่อเนื่องยาวนาน
    2สติสัมปชัญญะที่มั่นคงไม่ส่ายไปยังที่อื่นให้เฉพาะเจาะจงอยู่กับการตามรู้ความรู้สึกนึกคิด ของจิต [ตรงนี้สติต้องรวมกับสมาธิ
    3สมาธิขั้นละเอียด ระดับฌาณเพื่อตกตะกอนอุปกิเลสเครื่องผูกรัดจิตเครื่องปรุงแต่งจิตทั้งรูปนามให้ขาดสะบั้นไป อันจะเป็นเครื่องปิดกันไม่ให้เห็นจิตแท้ภายใน
    4 ดึงมหาสติเข้าไปตามดูจิตภายในจิต อันเป็นจิตแท้ภายใน
    5 การดูจิตภายในจิตอันเป็นจิตแท้ ต้องดูนานๆต้องใช้เวลาตามดูให้มากแล้วจะเห็นจิตแท้ภายใน


    จากวิธีการดังกล่าวให้นำวิปัสสนาตามประกบควบคู่ไปกับสติสัมปชัญญะเสมอ อย่าให้ขาด หากทำได้เช่นนี้ ย่อมเข้าถึงสภาวะนี้ได้อย่างละเอียดแจ่มชัด เป็นปัญญารู้แจ้งเฉพาะตนครับสาธุ
     
  17. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ผมอ่านแล้ว เข้าใจว่าขาดบางส่วนที่สำคัญไปครับ
    ก็เลยถามดู เผื่อพี่จะละไว้ หรือ ลืม
     
  18. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    :cool:..สาธุ..ผมไม่ค่อยเข้าใจสภาวะที่เกิดนัก จริงแล้วต้องเอาจิตที่นั่งดูหรือลอยเด่นนี่นะครับ ดูไตรลักษณ์ แต่กำลังจิต ผมขณะนั้นยังไม่แรงพอ หรือยังไม่เข้าใจวิธีการว่าจะทำอะไรต่อไป เหตุเพราะผมฝึกใหม่ในเวลานั้น..ไม่รู้จะทำอะไรต่อ...
    ..แต่นั่นคือ ปรากฏการหนึ่งที่ผมประสบมาครับ..จึงยกมาเล่าให้ฟัง เพราะเห็น กายตนเอง จิตไม่ส่งออกนอกเลย..ตื่นเช้า สดชื่น มีพลังหาศาล ในการงานครับ
     
  19. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    การพิจารณากายนั้นแหล่ะคือการดูจิต จะไปดูจิตล้วนๆ ก็ดูได้นะแต่มันไม่ได้ผลในการลดละกิเลสเลย ผู้ใดไม่บริโภคกายคตาสติ ผู้นั้นไดชื่อว่าไม่บริโภคอมตะ ชัดเจนคำพ่อบอกนะ ไอ้เด็กดื้อเอ๋ย
     
  20. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,337
    ========

    ที่กล่าวมาคือสภาวะที่เห็นจิตภายในจิต เป็นสภาวะชั่วขณะ ซึ่งไม่สามารถตั้งมั่นอยู่ได้นาน อุปกิเลส ที่นอนลึกอยู่ก้นบึ้ง จะตื่นจากภวังค์ตามเข้าครอบงำจิตอย่างไม่ละเว้น

    สำหรับพระอริยะเจ้าแล้วนั้น ท่านจะเดินทางต่อด้วยการวิปัสสนาเต็มกำลัง ซึ่งในลำดับขั้นต่อไปนี้ อุปกิเลสทั้งหลายจะถูกฆ่าตายไปเรื่อยๆจนหมดสิ้นไม่เหลือ เมื่ออุปกิเลส ตัณหาอุปทานดับหมดไม่เหลือเชื้อด้วยปัญญา ที่เกิดพร้อมวิปัสสนาแล้ว ความเป็นผู้ห่างไกลกิเลสก็สำเร็จได้ จิตนี้ห่างไกลจากกิเลสได้แล้ว กลับคือสู่ความว่างปภัสสรปกติดังเดิมได้ในที่สุดครับ สาธุ

     

แชร์หน้านี้

Loading...