ให้ดูที่ " จิต "

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 3 เมษายน 2013.

  1. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อ้อ คุณ บิ๊กตู่ เมื่อวานเห็น แอบไป ง๊องแง๊ง ในกระทู้ สร้างกุฏิ พระ

    นี่ๆ

    ในพระสูตรเนี่ยะ พระพุทธองค์ตรัสเป็น ฏีกาอยู่ว่า

    พระพุทธองค์นั้น พ้นจาก อามิสทั้งปวง ผู้มีปัญญาเท่านั้น จะเข้าใจสิ่งนี้
    ผู้มีปัญญาทรามอยู่ จะไม่เข้าใจ

    ดังนั้น ผู้ที่มีปัญญาทราม จะจาบจ้วงว่า พระพุทธองค์ยังคงรับอามิส ดังนั้น
    เวลา บุคคลที่มีปัญญาทรามถวายอามิสแด่พระพุทธองค์ ก็จะสำคัญว่า
    พระพุทธองค์ได้รับไว้

    แค่ ปรารภว่า พระพุทธองค์ทรงรับไว้ อันนี้ ก็เป็นการ จาบจ้วง กล่าวตู่ พระพุทธองค์แล้ว

    สิ่งอื่น เรื่องการ ทวงบญคุณ อาการกระปิดกระปอย ขอได้หน้า ขอฐานะ ขอ
    การข่มผู้อื่นด้วยทาน ไม่ต้องพูดถึง
     
  2. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .........เอาละ สามัญชน อย่างผม อธิบายให้ฟังก็ได้ ผิดถูกยังไม่ใช่ธรรมเป็นแค่ความเห็นเท่านั้น.......บริโภคกายคตาสติ ก็คือ "สมถะ" บ้านเราดีดี นี่เอง(ดีดี) ดีตรงใหน....ถ้าอยู่กับกายคตาสติเป็นวิหารธรรม...ก็คือไม่ใหลไป เวทนาตัณหาอุปาทาน ภพชาติ ชรา มรณะ....ก็ชื่อว่า อมตะ....ตราบใดที่บริโภคเมื่อนั้นก็ชื่อว่าบริโภคอมตะ....ก็นั่นแหละ กายคตาสติเป้นเสาเขื่อนเสาหลัก เพื่อเห้นตามความเป็นจริงอีกที ของปัจจัย รูปนาม ว่าไม่เที่ยง เพื่อ วิราคะ วิมุติ....................ท่านไม่ได้ทำให้เที่ยง ท่านให้บริโภคเพื่อความตั้งมั่นแห่งจิต...แต่อานิสงค์ของกายคตาสติ ตราบใดที่บริโภคอยู่ได้ ก็คือ เหมือนอยู่กับอมตะ ........ฮะแอ้ม!!!.....เพื่อให้เข้าใจ ปฎิจสมุปบาท .........เพื่อประโยชน์ในการภาวนา......ผิดถูกอย่างไรสนทนากันได้...:cool:
     
  3. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    อ๋อเข้าใจครับ แต่ผมยังไม่พ้นครับ ยังไม่สามารถดับการเกิดได้ เพียงแต่ระงับ ยินดีด้วยครับที่คุณโอ๊ทพ้นแล้ว...
     
  4. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ไม่รู้หรอกนะครับว่าพระพุทธเจ้าท่านรับอามิส(เงินทอง) หรือเปล่า แต่ถ้าพระเณรในปัจจุบันท่านไม่รับท่านก็ต้องลำบาก การมีเงินนิตยภัตผมเห้นว่าไม่น่าจะผิดครับ...
     
  5. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    อยู่ในภพมนุษย์ก็ยังคิดว่าจะใช้การบรรลุแบบพรหม ซึ่งมันต่างกันโดยชั้นกำเนิดซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย มนุษย์ใช้ความคิดไว้พิจารณาเพื่อเข้าสู่สภาวะที่แท้จริง พระพุทธองค์ท่านใช้คำว่าเป็นเสาหลักเสาเขื่อนเลยเกี่ยวกับกายคตาสติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013
  6. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    อมตะคือนิพพานผู้ใดไม่ผูกจิตอยู่กับกายไม่มีทางพบนิพานดั่งพุทธวจนชัดเจน ไม่ต้องมาสร้างความหมายด้วยความคิดแล่นอียงเลย มีมากมายหลายพระสูตที่เกี่ยวกับกายคตาสติ อย่างอานาปานสติ อสุภะ พิจารณาธาตุที่เกิดแก่กายฯ ท่านวิเคาระ์ห์ดีๆนะครับของง่ายๆกับทำเป็นยากเพราะคือว่าอาจารย์เราเก่ง อาจารย์เราถูก อย่าเลยพระพุืทธองค์ทรงกล่าวไว้มากเกี่ยวกัยกาย
     
  7. jintanakarn

    jintanakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +236
    การดูจิตเขาดูกันแบบไหน ลักษณะแบบไหนที่เรียกว่าการเห็นจิต อธิบายให้พอเข้าใจจะเอาไว้ใช้ในการปฏิบัติ สาธุคร้บ
     
  8. รีล มาดริด

    รีล มาดริด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +717

    ผม มี ข้อ เสนอแนะนะครับ..คุณ โอ๊ต....

    คุณ น่าจะลง ปล. ท้ายบทความ ทุกๆบทที่คุณ แสดงไว้ด้วยว่า เป็น ความคิด เห็นส่วนตัว ของคุณ ไม่ใช่ คำสอน ของ พระพุทธศาสนา...คน ที่ไม่รู้ จริง เขามาอ่าน จะได้รู้ว่า เขา อ่าน ความคิดเห็น ของคุณ ไม่ใช่ อ่านย ตำรา ในพระพุทธศาสนา....

    ผม แค่ เสนอ แนะ นะครับ ไม่ได้ ต่อว่าอะไร....ด้วยความ นับถือ..

    กรรม แท้ๆ ที่บอกว่า การ ดู สติ หรือ ดู สัมปชัญญะ คือ การ ดู จิต
    มัน คนละเรื่องเลย คุณ ยังไม่รู้จัก จิต เลย แต่ เอา เรื่อง จิต มาคุย...เฮ้ออออ

    จิต คือ อะไร มัน อยู่ที่ไหนใน ร่างกาย เรา...รูปร่างหน้่าตามันเป็นอย่างไร มัน มี แน่ๆ ในกายเรา แต่มัน อยู่ที่ไหน..รู้จัก ดีละยัง ที่ เอา มาคุย เนี่ย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013
  9. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    นี่คือคำตถาคต ผู้ใดไม่บริโภคกายคตาสติ ผู้นั้นมิได้บริโภคอมตะ
    นี่คือคำตถาคต ผู้ใดไม่บริโภคกายคตาสติ ผู้นั้นมิไ้ด้บริโภคอมตะ
    นี่คือคำตถาคต ผู้ใดไม่บริโภคกายคตาสติ ผู้นั้นมิได้บริโภคอมตะ
    นี่คือคำตถาคต ผู้ใดไม่บริโภคกายคตาสติ ผู้นั้นมิได้บริโภคอมตะ
    นี่คือคำตถาคต ผู้ใดไม่บริโภคกายคตาสติ ผู้นั้นมิได้บริโภคอมตะ
    นี่คือคำตถาคต ผู้ใดไม่บริโภคกายคตาสติ ผู้นั้นมิได้บริโภคอมตะ
    นี่คือคำตถาคต ผู้ใดไม่บริโภคกายคตาสติ ผู้นั้นมิได้บริโภคอมตะ
    นี่คือคำตถาคต ผู้ใดไม่บริโภคกายคตาสติ ผู้นั้นมิได้บริโภคอมตะ
     
  10. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    อานาปานสติ
    เป็นภิกษุทั้งหลาย ! สมัยใด ภิกษุ
    ย่อมทำาการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อม
    เฉพะซึ่งจิต หายใจเข้า”, ว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งจิต
    หายใจออก”;
    ย่อมทำาการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้ทำจิตให้
    ปรโมทย์ยิ่ง หายใจเข้า”, ว่า “เราเป็นผู้ทำาจิตให้ปราโมทย์ยิ่ง
    หายใจออก”;
    ย่อมทำาการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้ทำจิตให้
    ตั้งมั่น หายใจเข้า”, ว่า “เราเป็นผู้ทำาจิตให้ตั้งมั่น หายใจออก”;
    ย่อมทำาการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้ทำจิตให้
    ปล่อยอยู่ หายใจเข้า”, ว่า “เราเป็นผู้ทำาจิตให้ปล่อยอยู่
    หายใจออก”;
    ภิกษุทั้งหลาย ! สมัยนั้น ภิกษุนั้นชื่อว่า เป็นผู้เห็น
    จิตในจิตอยู่เป็นประจำา
    มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ
    มีสติ นำาอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้.
    ภิกษุทั้งหลาย ! เราไม่กล่าวอนปนสติ ว่าเป็น
    สิ่งที่มีได้แก่บุคคลผู้มีสติอันลืมหลงแล้ว ไม่มีสัมปชัญญะ. ิกษุทั้งหลาย ! เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้ ภิกษุนั้น
    ย่อมชื่อว่าเป็นผู้เห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำา มีความเพียร
    เผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำาอภิชฌาและโทมนัส
    ในโลกออกเสียได้ ในสมัยนั้น.
     
  11. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    คุณนิว ไม่น่าทำเป็นเล่น มันจะเพลินเอากู่ไม่กลับนะครับ
     
  12. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    อยากให้พิจารณาจริงครับ เป็นห่วงนะครับ เพราะคนดีๆในนีมีเยอะครับ
     
  13. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    คุณนิวลองพินาดูครับว่า อย่างที่คุณนิวเคยบอกในส่วนของการปฏิบัติด้วยตนเอง
    มีใครอยากให้คุณนิวทำอย่างนั้นอย่างนี้ไหมครับ
    หากที่คุณนิวปฏิบัติมา เหตุมาจากไหน และอะไรที่ทำให้ปฏิบัติอยู่ถึงขณะนี้
     
  14. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผู้ที่รู้จริงก็ทำหน้าที่เท่าที่ทำได้ ส่วนผู้ที่ได้รับในสิ่งที่นำเสนอนั้นจะทำอย่างไรนั้นก็ แล๊วแต!
     
  15. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    เฮ้อ!!!
    อาจาน(จารย์)(นิ)วรณ์ เสียแล้ว55+
    รู้จักคำว่าอามิสหรือเปล่า ว่าไปนั่น
    พวกปัญญาทรามมักมองเรื่องของบุญ(การทำคุณงามความดี)
    เป็นอามิส(เครื่องล่อใจ)ไปสียฉิบ

    ทั้งๆที่สองสิ่งนี้เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน กลับไปตีความซะ คนทำความดีหมดกำลังใจ
    ใช้ได้ที่ไหน อยากเป็นอาจารย์ต้องยืนอยู่บนหลักเหตุผล ความเที่ยงตรง คงที่ให้ได้
    ถ้าทำไม่ได้ ขืนปล่อยให้ลอยไปลอยมาเหมือน...ลอยน้ำ จะกลายเป็นอาจมไปซะงั้น รักนะ

    เจริญมในธรรมทุกๆท่าน
     
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    เรื่องกายคตาคตินั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก
    และเป็นพื้นฐานหรือรากฐานที่สำคัญอย่างยิ่งต่อความหลุดพ้นจากทุกข์
    แค่ต้องพิจารณากายในกายเป็นภายในบ้าง เป็นชั้นที่๑ ก็เหนื่อยแล้ว
    แถมพิจารณากายในกายเป็นภายนอกบ้าง เป็นชั้นที่๒ หนักเข้าไปอีก
    เมื่อรู้จักกายในกายทั้งภายในและภายนอกดีแล้ว ยังไม่ใช่หยุดอยู่แค่นั้น
    ยังต้องกลับพิจารณากายในกายทั้งภายนอกและภายในบ้าง ทั้งหนักและเหนื่อย
    สลับกันไปอีก จนเกิดความชำนาญคล่องแคล่วเป็นวสีให้ได้
    ไม่ใช่ง่ายๆ สบายๆ และลัดสั้น แค่ท่องๆ จำๆ แล้วนำมาคิดจนตกผลึกเหมือน(จาน)...ให้ได้ก็พอ
    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  17. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านภูต ผมไม่หมดกำลังใจหรอกครับ มารไม่มีบารมีไม่เกิดครับท่านภูต นิวเคยนั่งรถไฟความเร็วสูงมาตั้งแต่อายุ23 ตอนนี้อายุ45 นั้งมาตั้ง22ปี บ้านเรากว่าจะเสร็จก็อีก7ปี นิวน่ะเคยรับความรู้สึกอย่างนั้นมานานแล้ว รู้สึกเฉยๆ ผ่านชีวิตมามากเรื่องตินะนิวเอามาเป็นโอกาสเสมอ ท่านภูต ในดีมีเสีย..... ในเสียมีดี ....
     
  18. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้าไม่เห็นพฤติกรรมของจิต แล้วจะเห็นตัวพาไปเกิดได้ยังไงกัน?
     
  19. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    โอยย....อะไรกันนี่ ก็ ธรรมบทนั้น " ปิ๊ดตู่ " เขายกมาให้อ่านออกบ่อยๆ
    ลองพิจารณาให้ดีๆ ละกัน ว่า ตกลงพระพุทธองค์ ตรัสเอาไว้ไหม

    ต้องแปลไหม ก็เนาะ เจาะปากให้ดูสักหน่อยละกัน

    คือ สิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสประกาศว่า " ไม่ข้องด้วยอามิสทั้งปวงนั้น " สาวก
    ที่จะรับได้ ยอมรับได้ กล่าวชื่นชมคำตรัสของพระพุทธองค์ได้ สาวกคนนั้น
    จะต้องมี ศรัทธาหยั่งเข้ามาในพระพุทธองค์เสียก่อน แล้ว ไม่ใช่หยั่งแบบ
    ธรรมดาๆ ขี้กลากขี้เกลื้อน มาคอยแฝงตัวเป็น กบฏศาสนานะ จะต้องศรัทธา
    ชนิดยอมตายถวายชีวิตในการ ปฏิบัติธรรม มาด้วย

    ส่วนถ้าเป็น ศรัธทากิ๊กก๊อก ที่เรียกว่า ประจบ สอพลอ ก็จะกลับกัน จะกล่าว
    แย้งพระพุทธองค์เลยว่า " ทำไมไม่รับอามิสข่อย ทำไมไม่รับอามิสข่อ ข่อย
    เสียใจหลายเด้ " ( เรียกหาศาสดาอย่างศัตรู ขึ้นมาทันทีเลยหละ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013
  20. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    สมมติว่า " งง " ก็ต้อง ย้อน วรรค ของพระไตรปิฏก ที่พระพุทธองค์
    กล่าว ต่อเนื่องกันมา ก่อนหน้าก่อน

    คือ ท้ายวรรคก่อนขึ้น " บท 4 " ว่าด้วย ตถาคตเป็นผู้ไม่ข้องด้วยอามิสทั้ง
    4 อาการ

    พระพุทธองค์กล่าวถึง พวก สาวกที่เข้ามาประจบ สอพลอ มาถวายอามิส กล่าว
    อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ ไม่ลงมือปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง

    คือ พวกประจบสอพลอ ทำมาเป็นนั่งไกล มา หว่านล้อม เหมือนดั่ง ป๋า ที่เข้ามา ป้อ สาว
    เกี้ยวสาว หมั่นดักลอบ หมั่นกู หมั่นเกี้ยว หน้าด้าน หน้าทน พูดธรรมได้ แต่ไม่ได้ปฏิบัติ
    แถมยัง อวดอ้้างการยกอามิสบูชาชนิดต่างๆ ว่าได้กระทำแล้ว ต่อ ศาสดา อย่างนั้นอย่าง
    นี้ พระพุทธองค์กล่าวแบบ สุภาพ คือ เฉดหัวมันออกนอกศาสนาไป ( .... ได้หลีกไปจากธรรมวินัยนี้ ไกลเพียงไร. )

    ทำให้ สาวก ที่อยู่ ร้อนใจ ออกคำถามว่า

    ซึ่ง พระพุทธองค์ก็ ทรงแจง เรื่อง ตถาคตไม่ข้องด้วยอามิสทั้งปวง ไม่ว่าจะด้วย เงื่อน
    ไขใดก็ตาม คนที่ ศรัทธาแน่นแฝ้น ยอมรับว่า พระพุทธองค์ไม่ข้องด้วยอามิสจริงๆ
    ตามนั้น สาวกคนนั้น ย่อมเป็นผู้มีศรัทธาอย่างไร แล้วถ้ามี ศรัทธาอย่างนั้นแล้ว
    ก็จะพึงหวังสิ่งใดได้บ้าง

    แต่ เนาะ เราก็เห็นๆว่า " ปิ๊ด ตู่ " เจ้าชู้หมั่นเกี้ยว ตัดแปะธรรมะ เข้าข้างเรื่อง
    การถวายอามิสเอาดื้อๆ งง เต็กกันไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...