ให้ดูที่ " จิต "

"มี แต่ไม่เอา"
จากหนังสือ หลวงปู่ฝากไว้
หลวงปู่ฝากไว้ หลวงปู่ดุลย์ (pdf)

"พระอรหันต์ไม่รับรู้อะไรจริงหรือ"
จากหนังสือ อตุโล ไม่มีใดเทียม
ยังหา link e-book ไม่เจอ


ป.ล. ผมยังสงสัย สภาวะจิต ของ oatthidet อยู่
ไอ้ที่ผมเตือนไปตั้งหลายรอบนี่ ไม่เคยสนใจอ่านข้อความจริงๆ จังๆ เลยเหรอครับ
เลยไม่รู้ตัวว่า ผมไม่ได้พูดจากปากผมเอง แต่ผมอาราธนาคำพูดครูบาอาจารย์มาแสดง

คือ อย่าบอกนะว่า พูดกันมาตั้งนานหลายวัน นี่เพิ่งรู้ตัว ว่า สิ่งที่บอกว่าคุณผิดหนะ ไม่ใช่ผม แต่เป็นคำสอนหลวงปู่ดูลย์ oatthidet เพิ่งรู้ตัวตอนนี้เหรอครับ???

 

แสดงว่า ผมเข้าใจถูกแล้ว คนเป็นแบบนี้เอง

สาธุครับ

 

กระผมไปอ่านตรงไหนของหลวงพ่อฤษี
ขออนุญาติที่เอ่ยนามพระเดชพระคุณท่าน
เพราะเป็นคำเทศนาของท่าน

ท่านสร้างนิมิตแล้ว
ดึงนิมิต
จากภาพที่กำหนดพระพุทะรูปสีทององค์ใหญ่มาก
แล้วกำหนดให้อยู่ไกลมากเหลือเล็กเท่าจุด
แล้วดึงเข้ามาใหญ่มากผ่านตัวเราเอง


ถามว่าผ่านตัวเราเอง

แล้วเราจะรู้จักตัวเองว่าไม่ใช่จิต
ไม่ใช่นิมิต
ดึงผ่านไปเลยไปข้างหลังดึงมาข้างหน้าไปให้ไกลที่สุด
เอาเข้ามาใกล้
รู้ว่าใกล้ว่าไกล
แล้วจะรู้ว่าตัวเราเองอยู่ตรงไหนที่ไหน

สิ่งที่เราเนรมิตขึ้นมานั้น
สิ่งที่เราไปกำหนดว่าเป็นกสิณนั้น
กำหนดมาทำไม

ทำไมไม่ลองเล่นดูว่านั้นคือกสิณ
ไม่ใช่ตัวกูของกู

นี่ตัวกูเองที่กำหนดมึงขึ้นมา
เพื่อให้รู้ว่านี่คือตัวข้าพเจ้า

สิ่งที่อยู่ที่เป็นที่คือข้างนอก
เรื่องของท่านเต๊อะ

ตูไม่สน


สิ่งที่อยากรู้คือตูคืออะไรเท่านั้นหรือไม่อย่างไร

 

สมมุติเป็นสิ่งนั้น
แต่ความเป็นจริงสวรรค์มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ
ท่านเห็นธรรมท่านเห็นเรา
พระพุทธองค์ท่านกล่าวดังนั้นหรือไม่อย่างไร

แต่ท่านยังอยู่บนสวรรค์นี้ที่เป็นทางสายกลาง
คือ

โลกีย์
โลก
โลกุตร

ท่านจะทำโลกนี้ให้เอียงลำเอียง
โลหรือเลก็ได้
ลังเลก็ได้แล้วสงสัยไม่ศรัทธา

ผมไม่เชื่อพระุพุทธะเจ้า
ผมจะตามให้ที่สุดว่า
สิ่งที่พระพุทธองค์ท่านแสดงคือความจริง
คืออุบาย
หรือคือสมมุติอย่างไร
เพื่ออะไร

ผมนับถือทุกศาสดาว่า
พระองค์ท่าน
ต้องการความสงบสันติ สันตติ
เพื่อความเจริญยืนยาวของโลก
เพราะถูกทำลายโดยน้ำมือคน
และมนุษย์สะโรค

แต่สงสัยพุทธคือทางสายกลาง

หากอ้างการเกิดมีสามเปลียน่แล้ว

 

ิสิ่งนั้นไม่เที่ยง
คือเกิดแก่เจ็บตาย

ถามว่าสิ่งที่เที่ยงมีไหม
ไม่มีทำไมกำหนดเที่ยงและไม่เที่ยง

การเกิดแก่เจ็บตายเหมือนกันหมดแต่สมมุติไม่เหมือนกัน

พึ่งผ่าน
สุนัขตายนิมนต์พระแล้วขอรับ

ลมที่หายไปจากต้นไม้ต้นหนึ่ง
จากพยาธิตัวหนึ่ง
จากไส้เดือนตัวหนึ่ง
จากพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง

แล้วจะสมมุติว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้าของใส้เดือน
ท่านไม่หายใจแล้ว

สิ่งที่เหลือ

สังขาร

ถามจริง
ครูบาอาจารย์ไม่มีลม
ทำไมไม่ทำในสิ่งที่เแป็นสัมมา
รอใครบริจาคหรือไม่อย่างไรขอรับ
รักษาสังขารครูบาอาจารย์ท่านไว้
เพื่อเลี้ยงสังขารของตัวท่านเองหรือไม่อย่างไร

 

ท่านดูแต่เวทนา
แต่ท่านไม่เคยเจอเวทนา

ทำไมพระที่จบสี่แล้ว
ครูบาอาจารย์ทุกท่าน

ปล่อย

ให้ลุยเอง
คือการปักกรดไปนอนกับมดกับงู
นอนดินกินทราย
เป็นขมิ้นเหลืองอ่อน

ปัจจุบันนี้นอนเต้นท์ขอรับ
ความเปลี่ยนไปแล้ว
พระท่านไปพักร้อน
ดึกมามีอายตนะหกส่งคลื่นห้า
ไฮไฟท์
บอกโยมไม่ต้องห่วงนะ
อาตมาทำอย่างนี้ๆๆๆๆๆ
ตอนนี้ไม่ลำบาก

หากเจอข้าพเจ้า
รับลองตื้นตัน
เข้ามาแก้ให้แล้วขอรับ

 

มีใครอธิบายลักษณะของจิตได้บ้าง แล้วจิตเกิดขึ้นได้อย่างไร ตกลงจิตเป็นอัตตาหรืออนัตตา ท่านทั้งหลายช่วยอธิบายให้หน่อย (แล้วอย่าส่ง ให้ผมไปหาที่คนโน้น ที่คนนี้อีกล่ะ ใครตอบได้ตอบมาเลย)

 

ไม่รู้ขอรับว่าจิตที่ขายส้มตำหน้าปากซอยนี้
ใช่หรือเปล่าหรือยังไม่แม่น

 

^
^
ไอ้พูดแบบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอิ่น นึกว่ามีแต่นิวรณ์คนเดียว
ลืมไปว่าคู่หูเก่านิวรณ์มันก็เป็นเหมือนกัน

เองพูดจริงเป็นคนเดียว ก็อรรถกถาจารย์ท่านไม่จริงสิ
ท่านแปล"อนัตตา"ชัดๆว่าไม่ใช่ตัวตน เอ็งแปลเองว่าไม่มีตัวตน
ไม่มีกับไม่ใช่คนละเรื่องคนละความหมายชัดๆ
ไม่มีไม่ต้องพูดถึงแล้ว พูดไปก็ไม่มีอยู่ดี ปฏิบัติไปก็ไม่มีอยู่
ส่วนไม่ใช่นั้น ต้องมีที่ใช่โว้ย ปฏิบัติไปปฏิบัติเจอที่ใช่ร้องอ๋อทุกคน55+
มรึงเล่นแปลตามชอบใจมรึงเองรู้เปล่า55+

ถ้ามรึงถูกจริงแล้วไอ้กระผมจะแย้งทำหอกอะไรหวะ
ถ้าจิตเป็นอนัตตาจบกัน ไม่เที่ยง เป็นุกข์ จิตที่ไหนว่าเป็นตัวทุกข์
เมื่อเป็นตัวทุกข์ก็ไม่ต้องไปอบรมมันเสียเวลาทำไม
อบรมให้ตายมันก็เป็นตัวทุกข์อยู่ดี ดับจิตแม่งเลยจะได้หทมดทุกข์55+
เฮ้อ!!!หายไปนานนึกว่าจะดีขึ้น หนักกว่าเดิมอีกหวะ

ปล. ไปลุยที่ทู้นุ้นดีกว่า ให้ชาวประชาเค้าตัดสินเอง
จำไว้นะจิตเที่ยงแท้ไม่เคยพูดไว้ที่ไหนเลย มรึงตีความตามชอบใจมรึงเอง

ส่วนจิตเที่ยงตรง คงที่นั้น พูดบ่อยเพราะพระพุทธพจน์ของพระพุทธอค์ก็ทรงตรัสไว้
อย่าเอานิสัยเลวๆเที่ยวยัดเยียดใส่ร้ายคนอื่น ควรเอาหลักฐานมายันจึงจะถูก

เจริญในธรรมทุกๆท่าน

 

^
^
เห็นว่ายังใหม่ เรื่องพวกนี้ต้องค่อยๆทำความเข้าใจ
อย่าเพิ่งปักใจเชื่ออะไรง่ายๆ เพราะเรื่องความเชื่อนั้น เราเป็นใหญ่เอง
เอาเป็นเรียนรู้ไปก่อนว่า ในมหาภูตรูปนั้น มีแม่ธาตุอะไรบ้าง ที่มาประชุมกัน

อันนี้รู้สึกว่าองค์สมเด็จพระสังฆราชท่านลิขิตไว้ดีมาก
ลองหาอ่านดู แต่ที่สำคัญควรอย่าลืมปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนาไปด้วยละ

เจริญในธรรมทุกๆท่าน

 

ตกลงไม่มีใครตอบอยู่ดี เรียนจขกท.โปรดตอบให้ความกระจ่างหน่อย ข้อความที่ได้เขียนไว้ก่อนหน้านี้ มีแต่ให้ไปหาอ่านที่อื่น ทั้งๆที่นี้มีผู้รู้มากมาย

 

ขณะที่คุณกำลังถามอยู่นี้ คุณเห็นว่าเป็นคุณไหมครับ

ผู้ที่ถามใช่คุณไหมครับ หากใช่ มีการรับรู้ และ จดจำไหมครับ

ทำความสนใจเฉพาะตนเอง ไม่สนใจอย่างอื่นจะเห็นได้ง่ายขึ้น

สาธุครับ

 

จิตเกิดมาแต่ปางไหน

เคยฟังพี่ภูติ บอกว่า แม้พระพุทธเจ้าก็ไม่ทราบ ว่าจิตมาแต่ไหน
อันนี้ต้องลองค้นจากพระไตรปิฎกอีกที

รู้แต่เพียง วิธีทำให้จิตหลุดพ้นจากพระพุทธเจ้า


ลักษณะของจิต
เป็นลักษณะ รู้ มีสภาพรู้ มีหน้าที่รู้

แต่ไม่รู้ดีรู้ชั่ว ต้องมาเรียนรู้วิธีจากพระพุทธเจ้า ว่าทำอย่างไร
จิตจึงจะรู้ดีรู้ชั่วมีปัญญาหลุดพ้นจากสังสารวัฏได้

จิตเดิมประภัสสร สว่างไสว แต่ไม่ได้หมายความว่า
เป็นจิต บริสุทธิ์
เป็นจิตที่มีปัญญา

จิตเดิมเป็นแต่เพียงรู้อย่างเดียว

ส่วนคำว่า จิตเป็นอัตตาหรือเป็นอนัตตา

ต้อง เข้าใจความหมายของคำว่า อนัตตาแลอัตตา
ซึ่ง ภาษาไทยให้ความหมายได้หลายแบบ

หากทำความเข้าใจอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า
ผู้บรรลุธรรมพึงรู้ได้ด้วยตนเอง
(ปัตจัตตัง เวทิตัพโพธิ วิญูญูหิติ)
ก็จะตัดปลิโพธิ
ทำให้การภาวนาก้าวหน้าได้เร็วกว่าการจมปุ๊กกับสมมุติ ภาษา

 

พระองต์กล่าวว่าจิตดวงหนึ่งดับไปอีกดวงหนึ่งเกิดขึ้นเป็นอย่างนี้ตลอด สัพเพธรรมาอนัตตา

 

ลิงค์ที่คุณกล่าวหาว่าผม บอกว่าจิตไม่รับรู้อารมณ์อยู่ไหนครับ

เพราะผมบอกไว้ว่า " จิต " มีหน้าที่รับรู้ และ จดจำ ไม่ใช่ลิงค์ที่คุณโพสอยู่นี่ครับ

จิตใจคุณไม่ปกติหรือเปล่าครับ สนทนากับผมอยู่ แต่ไม่รับรู้ในเรื่องที่พูดคุยกัน

สาธุครับ

 

http://palungjit.org/threads/ให้ดูที่-จิต.487371/page-4
ใช่ลิงค์นี้ไหมครับ หากใช่ อ่านทบทวนดูนะครับ

ว่าผมกล่าวไว้อย่างไร ไหลไปตามการนึกคิดจนไม่รู้ตัวว่าทำอะไรอยู่

สาธุครับ

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ oatthidet อ่านข้อความ
หลวงปู่ ดูลย์ อตฺโล ท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้วครับ
นั่นใช่พฤติกรรมของจิตไหมครับ โดยมีจิตเป็นผู้รับรู้ และ จดจำ
หากแต่ไม่เห็นตัวตนที่แท้จริง จะหยุดการรับรู้ได้อย่างไร

ไม่ต้องมองไปที่อื่น ที่ใด มองที่ตนเองนั่นแหละ ทำได้อย่างหลวงปู่ไหม
เพราะอะไรหลวงปู่จึงกล่าวเช่นนั้น ท่านปฎิบัติมานานเพียงใดแล้ว
การปฎิบัตินี้ต้องดูที่จิตไหม พฤติกรรมนั้นใช่จิตเป็นผู้สร้างไหม
อ่านดู ทบทวน หลายๆรอบก็ได้ครับ จะได้เข้าใจมากกว่าเดิม

สาธุครับ

ตอนแรก oatthidet พูดไว้เองว่า


อ้างอิง:
ผู้ที่ไม่มีตัวตน ย่อมไม่สามารถรับรู้ในสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะไม่มีความหมายอีกแล้ว
ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ต่อชาติภพ ไม่มีการกลับมาเกิดอีก จึงไม่จำเป็นต้องสนใจ
ใครจะด่า จะว่า จะทำอย่างไร ก็ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ชื่นชมยินดีกับคำชมต่างๆ
แต่หากยังมีอารมณ์เหล่านี้ ที่โกรธ โมโห ชื่นชอบ ชื่นชม ยินดี ดีใจ เสียใจ
นี่คือ การหลอกตนเองว่า ไม่มีตัวตน

นี่มันขัดกับที่หลวงปู่สอน แบบ ตรงกันข้ามเลยนะ
ทำไมไม่พูดถึงประเด็นนี้บ้างหละ?

 

คุณ อินทรบุตร บอกกล่าวว่า อนัตตา ไม่มีตัวตน

ขณะนี้ ตัวตนกลับมามีได้อย่างไร และ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนเองโพสเสียด้วย

สาธุครับ

 

ขอขอบพระคุณท่านทั้งหลายที่ใหัความกระจ่าง แล้วจะนำไปปฏิบัติให้สมควรแก่ธรรมครับ ขออนุโมทนา

 

อ้างอิง:
ผู้ที่ไม่มีตัวตน ย่อมไม่สามารถรับรู้ในสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะไม่มีความหมายอีกแล้ว
ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ต่อชาติภพ ไม่มีการกลับมาเกิดอีก จึงไม่จำเป็นต้องสนใจ
ใครจะด่า จะว่า จะทำอย่างไร ก็ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ชื่นชมยินดีกับคำชมต่างๆ
แต่หากยังมีอารมณ์เหล่านี้ ที่โกรธ โมโห ชื่นชอบ ชื่นชม ยินดี ดีใจ เสียใจ
นี่คือ การหลอกตนเองว่า ไม่มีตัวตน


เอางี้ๆ ผมถามสั้นๆ ง่ายๆ นะ oatthidet ไม่ต้องมั่ว ไม่ต้องแถ ไม่ต้องลากยาว ไม่ต้องเบี่ยงประเด็น ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่

oatthidet คิดว่า ผู้ที่บรรลุแล้ว สามารถรับรู้อารมณ์ได้หรือไม่?
ให้ตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ใช่ เท่านั้นพอ ไม่ต้องตอบอย่างอื่นมา