ใครปล้นประเทศไทย

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Workgroup, 23 สิงหาคม 2013.

  1. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +18,998
    แผ่นดินไทยไม่ล่มสลายหรอกครับ ผมก็เชื่อว่าอย่างนั้น เพราะจะล่มสลายได้ ต้องเกิดแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงของโลก แล้วแผ่นดินยุบตัวหายไปทั้งประเทศ...ประเทศยังคงอยู่ครับ แต่ประชาชนในประเทศ จะต้องทนอยู่เยี่ยงทาส ที่ถูกล่ามโซ่ต่อไป....

    การแผ่เมตตาก็ดี การอธิษฐานก็ดี ไม่ได้ช่วยให้คนเหล่านี้มีความรู้สึกดีขึ้น ไม่ได้ช่วยให้น้ำมันราคาลดลง และเช่นกันไม่ได้ช่วยให้นักการเมืองทั้งหลายมีจิตใจที่ดีขึ้นเลย...มันก็เหมือนกับการที่คุณนั่งหลับตาภาวนา บริกรรม คาถาเงินล้านทั้งวัน งานการไม่ทำ ผมว่านอกจากเงินล้านจะไม่มีแล้ว ข้าวจะกินเข้าไปก็คงไม่มีเช่นเดียวกัน....การแผ่เมตตาก็ดีแล้ว เป็นการทำให้จิตใจผู้แผ่ดีขึ้นเป็นอันดับแรก...แต่ต้องลงมือลงแรงด้วย ต้องช่วยกัน หรือจะรอให้คนชั้นกลางและคนจนตายหมดจากประเทศนี้ไปก่อนล่ะ...

    ปัญหาต่างๆทุกคนรู้ ทุกคนพูดกันถึงแต่ปัญหา แต่ไม่ค่อยได้ยินใครพูดถึงวิธีการแก้ปัญหาสักเท่าไร ... ถ้าปัญหาหนึ่งเกิดจากนักการเมือง เรามาเลือกนักการเมืองฝ่ายค้านจากคนรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นกันดีไหม แทนที่จะเลือกรัฐบาลที่จะมาบริหารประเทศ....

    การที่เราจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีนั้น ไม่ได้ แต่เราเลือกคนดีมาเป็นผู้ปกครอง..มันจะเป็นไปได้อย่างไร...แต่ถ้าเลือกคนดีเข้าไปเป็นฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบผู้ปกครองที่ขี้โกง ให้โกงไม่ได้ ไม่นานคนโกงก็แห้งตาย เพราะลงทุนไปเยอะ...หรือคนดีที่เข้าไปขุดคุ้ยจะตายก่อนเพราะโดนเก็บก็ตาม...แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี...ดีกว่ามานั่งแผ่เมตตาแล้วมาเป็นนักเลงคีย์บอร์ด...ใครเห็นด้วยกับแนวทางนี้ช่วยกันกด Like ก่อนแล้วค่อยว่ากันว่าวิธีการหรือแนวทางที่เป็นรูปธรรมจะทำได้อย่างไร..ใครไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้ ต้องการอยู่เฉยๆนั่งแผ่เมตตาแล้วรอให้กรรมมาสนองคนเหล่านี้ ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นพวกเราอาจไม่มีชีวิตอยู่ทันได้เห็นแล้วก็ตาม ก็ช่วยกันกด ไม่เห็นด้วย..เยอะๆ...จะได้ไม่ต้องนำเสนอต่อไป...ดีไหม???
     
  2. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    แต่พวกที่ไม่ทำงานทำการ ช็อพของ แบรนเนมทีละ ล้าน บินไป เที่ยว ไปกินต่างประเทศ แต่ยังไม่มีปัญญาคิดว่ามันจากภาษีประชาชนทั้งนั้น สร้างกระแสให้เลี้ยงกันขึ้นมา แต่คนที่เมืองไทยมีจริยะธรรมทางคุณธรรมน้อย ไม่มีใครกล้าพูดกล้าอะไรทั้งสิ้น.......อยู่มาหลายประเทศ แต่ประเทศไทยคือคนมีพฤติกรรมเหมือนคนอัฟริกาพื้นเมือง แบบพวกสมัยล่าแม่มดที่คนโดนเผา ทั้งที่ คนอื่นอื่นๆก็รู้ว่าไม่มีจริง แต่ก็ไม่คิดจะห้าม หรือ ใช้สมองคิด คุณ จขค ลองไปค้น หรือถามใครที่อยู่ เมกา ดูไม่ต้องไป 40-50 ปีหรอก ปี 2545 ใครไปจดทะเบียนสำปทานขายน้ำมันของไทยให้ บริษัท ยูโนคอร์ ที่เมกา และเอาเงินของชาติเข้ากระเป๋าตัวเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2013
  3. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    "คนสวมแว่นดำ..มีหรือจะเห็นโลกสว่าง"

    ถ้าเราเป็นคนดีจริง จะมองไม่เห็นคนชั่วแม้แต่คนเดียว ที่เป็นเช่นนั้น..เพราะสายตาของคนดี จะมองโลกไปในทางสร้างสรรค์ เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ความรัก และการให้อภัย

    ในทางตรงกันข้าม..ยิ่งเราเห็นว่ามีคนชั่วมากเท่าไหร่ ก็เป็นไปได้ว่า เรานั่นแหละที่ชั่วเสียเอง เพราะไม่มีคนดีที่ไหน สนใจความชั่วของคนอื่น..มากกว่าของตนเอง

    ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ จงอย่าเพ่งโทษผู้อื่น เพราะนอกจากจะไม่ก่อประโยชน์แล้ว ยังเป็นสิ่งสูบกินเวลาชีวิตให้สูญไปเปล่า ๆ ถ้าเขาไม่ดี แล้วเราไปวิจารณ์ จิตใจเราจะขุ่นมัว(จริงไหมคะ?) แต่ถ้าเขาดี แล้วเราไปวิจารณ์ เราเองนั่นแหละที่จะเป็นคนไม่ดีซะเอง สรุปแล้ว ไม่ว่าเขาจะดีหรือไม่ เราก็เสียทั้งขึ้นทั้งร่อง..
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เคยกล่าวเอาไว้ "ไปว่าคนอื่น ตัวเราดีแล้วหรือ"

    "มนุษย์" มักจะล่ากันเอง เพื่อสิ่งที่มากกว่า เช่นเพื่ออำนาจ ด้วยความโลภ กิเลสตัณหา และความทะยานอยากมากมาย ด้วยเหตุนี้การมี "ศีลธรรม" จึงเป็นดั่ง "เครื่องกั้นความชั่วร้าย" ทั้งปวง มีให้บังเกิดทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ไม่ต้องรอให้อุกกาบาตดวงใดพุ่งชนโลกหรอก โลกนี้จะถึงกาลอวสานทันที หากมนุษย์ไร้ศีลธรรมประจำใจ

    เพราะบางสิ่ง บางอย่าง บางเรื่อง เราไม่สามารถทำสิ่งใดได้ เพราะสิ่งนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา ลึกๆ แล้วมนุษย์ทุกคนย่อมรู้ผิดชอบชั่วดีด้วยกันทั้งสิ้น ทุกคนต่างมีวิจารณญาณเป็นของตนเอง ทำผิด ทำเลว ทำดี ทำกุศล มีหรือไม่รู้ เมื่อรู้ว่าผิด จงอย่าทำ และเมื่อพลาดทำไปแล้ว ต้องสำนึกแล้วแก้ไข ไม่ทำผิดพลาดซ้ำสอง นรกหรือสวรรค์ คือที่ไป ทุกอย่างอยู่ที่ใจเราเอง..^^
     
  4. ผ่อนกรรม

    ผ่อนกรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +400
    การแผ่เมตตาเปรียบเหมือนกระสุนปืน

    การสวดมนต์แล้วแผ่นั้น เป็นเพียงสมาธิ ผลได้เฉพาะตน

    กำลังน้อย เหมือนปืนด้าน

    แต่ถ้าแผ่ด้วย กำลัง ศีล สมาธิ ปัญญา(สามองค์นี้ย่อลงมาจากธรรมทั้งป่า

    ซึ่งถ้าปฏิบัติได้จริงทุกตัวคน โอกาสรอดเยอะ)

    อันนี้ล่ะเป็นการแผ่ได้กว้าง เหมือนกระสุนลูกปลาย

    ที่ยิงออกไปแล้ว แตกออก

    ปัญญาทางโลกนี่ก็ปฏิรูปจนเจริญลงๆ

    อาวุธจึงกลายเป็นวัตถุที่เข้าห้ำหั่นกันเอง

    ข้าศึกภายนอกยังไม่เท่าข้าศึกภายใน ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2013
  5. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    พวกที่ไปเย้วๆกับเค้าอะครับ คุณลองเอาทุกสีมาหา swot analysis ซิครับ อย่าละไว้หละ เอาทุกสีมาชั่งหน่วยๆต่อหน่วยเลย จะรู้ว่า ถ้าคนไทยทุกคนย้ำนะครับทุกคน ต่ำสุด ถึง สูงสุด ไม่มียกเว้นว่าเกิดมาวาสนาเเค่ไหน ถ้าทุกคนอยู่ภายใต้กฏหมายเดียวกันหมด ปัญหาจะไม่เกิดเเบบทุกวันนี้
     
  6. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    สำหรับท่านที่ยังมีความสั่นคลอนเพราะคำกล่าวร้ายต่อพระเจ้าอยู่หัวนะครับ ให้พิจารณาพิจารณาธรรมและพุทธศานูปถัมป์ที่พระองค์ท่านทรงได้กระทำมา คนที่มีจิตใจไม่ดีไม่สามารถกระทำได้เหมือนพระองค์ท่าน ขาดพระพุทธศาสนาไป แผ่นดินและคนไทยก็เหมือนมีไฟเผาเลย

    พระเจ้าอยู่หัวเป็นเจ้าของประเทศ ทรัพย์แม้นมีถึงปโกฏิผมก็ว่ายังน้อยไปเลยสำหรับพระองค์ เพราะประเทศไทยเป็นอะไรไปก็พระราชทรัพย์ของพระองค์ท่านนี่แหละที่จะไถ่ถอน ต่างกับผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของประเทศที่คิดว่าพอประเทศฉิบหายเขาก็แค่ย้ายขนทรัพย์หนีไปเสีย

    หากมีผู้อยากให้ประเทศไทยฉิบหาย เขาจะทำอย่างไรดี? ก็ล้มและบิดเบือนพระธรรมในพระพุทธศาสนาสิ แต่จะทำอย่างไรในมีมีผู้เป็นใหญ่อุปถัมป์อยู่ คำตอบง่ายๆ เขาก็หาทางล้มล้างผู้อุปถัมป์เสีย ขาดผู้อุปถัมป์หลักไป ศาสนาพุทธก็สั่นคลอนง่ายแล้ว พอประเทศไทยวุ่นวายเขาก็ตักตวงผลประโยชน์ได้ง่าย

    ผมจะไม่แค้นใครเขาหรอก ส่วนใครที่โกรธเกลียดผู้มุ่งร้ายต่อพระเจ้าอยู่หัวก็ขอให้เลิกเสีย เพราะพระองค์ท่านไม่ได้ประสงค์เช่นนั้น ไม่ต้องลงนรกไปตามพวกเขา สู้ตักตวงบุญและกุศลในพระพุทธศาสนาที่พระองค์และพระก่อนๆ ได้ทรงอุปถัมป์มาจนถึงบัดนี้จะเป็นกาลดีมากกว่า รักพระองค์ท่านต้องตามพระองค์ไปสวรรค์ ไม่ใช่ให้ความโกรธครอบงำจนทำกรรมที่ต้องลงนรก คิดเสียว่าเป็นโอกาสของพระองค์ท่านที่จะได้บำเพ็ญบารมีใดบารมีหนึ่งให้สำเร็จ

    คนที่หลงคารมของผู้ไม่หวังดีต่อประเทศไทย ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนชั่วเลวทรามอะไร คนสนใจและปฏิบัติในพุทธศาสนาก็มีมาก ผมจึงคิดว่ามันถึงคราวรับกรรมหมู่จริงๆ พยายามอยู่ในศีลในธรรมที่ถูกต้องแผ่เมตตาและส่วนกุศลให้ประเทศไทยและคนทั้งหลายในประเทศไทย จากที่จะเสียหายมากจะได้ผ่อนลง มันยังไม่ถึงเวลาที่คนในประเทศไทยจะพ้นจากวิบากกรรม อย่าดิ้นไปตามอารมณ์โกรธ

    ผมพูดถึงท่านทั้งหลายที่จะยังคิดได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2013
  7. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +18,998
    "คนสวมแว่นดำ..มีหรือจะเห็นโลกสว่าง"

    ถ้าเราเป็นคนดีจริง จะมองไม่เห็นคนชั่วแม้แต่คนเดียว ที่เป็นเช่นนั้น..เพราะสายตาของคนดี จะมองโลกไปในทางสร้างสรรค์ เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ความรัก และการให้อภัย

    ในทางตรงกันข้าม..ยิ่งเราเห็นว่ามีคนชั่วมากเท่าไหร่ ก็เป็นไปได้ว่า เรานั่นแหละที่ชั่วเสียเอง เพราะไม่มีคนดีที่ไหน สนใจความชั่วของคนอื่น..มากกว่าของตนเอง

    ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ จงอย่าเพ่งโทษผู้อื่น เพราะนอกจากจะไม่ก่อประโยชน์แล้ว ยังเป็นสิ่งสูบกินเวลาชีวิตให้สูญไปเปล่า ๆ ถ้าเขาไม่ดี แล้วเราไปวิจารณ์ จิตใจเราจะขุ่นมัว(จริงไหมคะ?) แต่ถ้าเขาดี แล้วเราไปวิจารณ์ เราเองนั่นแหละที่จะเป็นคนไม่ดีซะเอง สรุปแล้ว ไม่ว่าเขาจะดีหรือไม่ เราก็เสียทั้งขึ้นทั้งร่อง..
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เคยกล่าวเอาไว้ "ไปว่าคนอื่น ตัวเราดีแล้วหรือ"


    ผมอยากจะบอกอย่างนี้ครับว่า คนดี กับคนโง่ นั้นแตกต่างกัน แม้ได้กระทำเรื่องเดียวกันลงไป คนดีย่อมชื่อได้ว่าดี คนโง่ย่อมชื่อได้ว่าโง่ ทั้งนี้เพราะเหตุใด....
    นี้เป็นเพราะคนดีทำลงไปด้วยความรู้...คนโง่แม้ทำเรื่องเดียวกันลงไป ก็ทำลงไปเพราะความไม่รู้นั่นเอง...
    คนดีไม่ใช่เป็นคนใส่แว่นสีขาว ที่เห็นทุกสิ่งสวยงามไปหมด แต่คนจะดีจริงต้องรู้จักความชั่วอย่างถ่องแท้ แล้วจึงเห็นด้วยปัญญาในการถอดถอนตนนั้นออกจากความชั่ว แต่ไม่ใช่ไม่รู้

    คนดีต้องเป็นผู้มีความกล้าหาญ คือ กล้าที่จะกระทำความดี กล้าที่จะส่งเสริมความดี กล้าที่จะปฏิเสธความชั่ว และกล้าที่จะเข้าทำลายความชั่ว

    ต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ในเรื่อง การเพ่งโทษผู้อื่น ลักษณะกริยาอาการของจิตผู้นั้น จะประกอบไปด้วยอคติก่อน มีอารมณ์ปฏิฆะ มีพยาบาท เป็นพื้นฐาน แล้วจ้องจับผิดเพื่อมุ่งหวังทำลาย ปรุงแต่งเพื่อให้เรื่องเหล่านั้นเป็นสิ่งเลวร้าย และได้กล่าวออกไปทางวาจา...นี่เป็นลักษณาการของผู้ที่มีจิตคิดเพ่งโทษผู้อื่น...

    ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับผู้ที่ดีจริง ผู้ที่มีปัญญา ผู้มีความกล้าหาญ ยกตัวอย่างเช่น ภิกษุรูปหนึ่ง พาหญิงวัยรุ่นเข้าไปกุฏิในยามวิกาล หากจะมองในแง่ดีคือ เข้าไปเทศนาอบรมสั่งสอนธรรมเช่นนั้นหรือ แต่พระพี่เลี้ยงผมไม่ได้คิดเช่นนั้น ท่านเข้าไปยังกุฏิ เคาะประตูเรียกออกมา ด้วยการอยู่สองต่อสอง ต้องสังฆาฑิเสส เมื่อประตูกุฏิเปิดออก ภิกษุหลายรูปเข้าไปตรวจค้น หญิงสาวแอบอยู่ในห้องน้ำ มีคราบอสุจิ และคราบเลือด เปื้อนที่นอนและผ้าอาบน้ำฝน คืนนั้นจึงให้สึก ด้วยต้องปาราชิกและขับออกจากสำนักเสีย...

    นี่ย่อมแตกต่างกับการเพ่งโทษผู้อื่นโดยสิ้นเชิง คนดีต้องกล้าหาญ กล้าที่จะเข้าไปเผชิญหน้าและต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความถูกต้อง ความยุติธรรม แม้แลกด้วยชีวิตของตนก็ตาม เพื่อทรงไว้ซึ่งธรรม เพื่อรักษาไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา....อาจเป็นเพราะคนไทยมีภาษิตว่า "ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์" เช่นนี้กระมัง ทำให้แทนการจะปล่อยวาง ก็ถือเอาการปล่อยปละละเลย เหมารวมเข้าไปด้วย....

    หากหลวงตาบัวมีพระในวัดที่ต้องปาราชิก ท่านจะรับเอาไว้หรือไม่ ตรงนี้บอกได้ว่าท่านไม่รับไว้อย่างเด็ดขาด การที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อปกป้องพระศาสนา หาใช่เพ่งโทษต่อภิกษุผู้ต้องปาราชิกก็หาไม่....

    พระธรรมคำสั่งสอนของพระศาสดาเป็นธรรมที่สมบูรณ์บริบูรณ์พร้อมแล้วนั้น ก็ต่อเมื่อผู้นำไปปฏิบัติเป็นผู้มีปัญญาด้วย หากพระธรรมไปสถิติอยู่ในปุถุชน คือบุคคลที่หนาแน่นด้วยกิเลสแล้ว ย่อมทำให้ธรรมนั้นเป็นธรรมปลอม ย่อมทำให้ธรรมนั้นมัวหมอง ไม่เป็นไปเพื่อการเกื้อกูลในธรรม...ซึ่งบริษัทฯเหล่านี้มักนำคำสอนเอาไปใช้ในทางดัดแปลง เพื่อเข้าด้วยฑิฐิตน ดังเรื่องกลองของพระเจ้าลิจฉวี เช่นนั้นเอง...

    ผู้ปฏิบัติธรรมไม่ใช่ทำตัวเป็นคนหูหนวก ตาบอด คนดี คนชั่ว แยกแยะไม่ออก สิ่งใดเป็นธรรม สิ่งใดเป็นอธรรมก็แยกไม่ออก มองโลกนี้ตระการดุจราชรถ เช่นนั้น
    การทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง จึงเกิดขึ้นมากมาย โดยที่ไม่มีผู้ใดเข้าจัดการ เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัว คิดแต่ว่าจะเอาตัวไปนิพพานเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องของเรา อย่าไปเพ่งโทษเขา รอไว้กรรมตามสนองเขาเองก็แล้วกัน ... คิดเยี่ยงนี้เอง จึงทำให้บ้านเมืองย่อยยับมาถึงเพียงนี้ พุทธศาสนิกชนต้องลุกขึ้นต่อต้านความชั่วที่เข้าทำลายทำร้าย สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยปัญญา อย่างมีธรรม...

    ผมไม่ค่อยอยากเห็นการเอาพระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า หรือคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ ไปตีความแบบแปลกๆ เพราะผมมั่นใจว่า "คนดี ไม่ใช่คนโง่" "คนดี ต้องกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง"

    ในประเทศอาหรับ คนผิดคือคนผิด ไม่ว่าคุณจะเป็นเชื้อพระวงศ์ หรือสามัญชน ย่อมได้รับโทษเท่ากัน รัฐมนตรีทำผิดก็ได้รับโทษเช่นเดียวกันกับคนขับรถแท็กซี่...และการตัดสินพิพากษาอย่างเป็นธรรมนี้เอง ทำให้คนที่มีอำนาจ มีชื่อเสียง และเชื้อพระวงศ์ ต่างไม่กล้าที่จะกระทำผิด และระมัดระวังเรื่องที่จะกระทำผิดเป็นพิเศษ สิ่งใดล่อแหลม สุ่มเสี่ยงต่อความผิด เขาจะไม่ทำโดยเด็ดขาด เพราะเมื่อมีการตัดสินโทษแล้ว จะต้องได้รับโทษนั้นเสมอภาคกันทุกคน ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลจะเสียหายย่อยยับ ไปนานนับหลายสิบปี ซึ่งเป็นสิ่งที่คนใหญ่คนโตเขากลัวกันมาก มากเสียกว่าโทษประหารชีวิตเสียอีก...
     
  8. ขเคศวร

    ขเคศวร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +24
    อนุโมทนา สำหรับข้อความข้างบนค่ะ คุณแสงเทียน

    สิ่งที่แย่ที่สุดในความรู้สึกของข้าพเจ้าทุกวันนี้
    เป็นสิ่งที่ทำลายกำลังใจลงไปเป็นอันมาก
    และแรงยิ่งกว่าที่มนุษย์กระทำต่อกันเพื่อกำจัดความเห็นต่าง
    ไม่ว่าจะการใช้กำลังในอียิปต์ หรือการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย
    นั่นคือที่กำลังดำเนินอยู่ที่นี่ ในผืนดินที่เรียกว่า "ประเทศไทย"......
    ที่หลายต่อหลายคนพูดคุยกันเรื่องธรรมะ แต่กลับไม่มีธรรมะอยู่ในหัวใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2013
  9. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    ผมว่าในสมัยอดีตก่อนประเทศสยามเราเนี่ยอาจจะทำบาปเอาไว้มากอะนะครับเช่นยกทัพไปยึดเค้ากดขึ่เค้าอะไรเเบบนี้อย่างทุกวันนี้เรารู้เเค่ว่าประเทศเราโดนพม่าทำไว้เยอะเเต่จริงๆเเล้วประวัติศาสตร์เขียนยังไงก็เขียนได้เราอาจจะทำเเบบพม่าเค้าก็ได้อันนี้เราไม่รู้เเต่ผมเชื้อว่าเราไม่ต่างกับพม่าหรอก มันเป็นเวรกรรมอะนะครับ อย่างทุกวันนี้พม่าทำกับเราไว้เยอะ คนของเค้ามากมายต้องมาเป็นคนเเรงงานบ้านเราเเล้วก็โดนคนไทยอย่างอย่างเรากดขี่ มันเป็นเวรกรรมอะนะครับ ทุกวันนี้เราก็โดนเวรกรรมเอาคืนผ่านจากไอ้พวกนักการเมือง ข้าราชการเลวๆ พวกนี้ไงครับ ทุกวันนี้เราก็ทำบาปไว้อะนะครับ เช่นทำกับคนงานพม่าไว้ ตอนนี้มันเริ่มเปลี่ยนกลับเเล้วครับ อีกหน่อยเราก็คงโดนเหมือนที่พม่าที่เค้ามาทำงานบ้านเรานี่เเหละครับ เพราะพม่าอีกหน่อยดีกว่าเรามากทั้งทรัพยากรทั้งความขยันของคน เมื่อก่อนเราก็ดูถูกญี่ปุ่น เกาหลี จีน เอาไว้ เเต่เดี๋ยวนี้เค้าดีกว่าเราทุกอย่าง เรายังหลงคิดว่าเกิดเป็นคนไทยดีที่สุดสบายๆ มีบุญมีวาสนา จริงครับผมไม่เถึยง เเต่อันนี้มันเรียกว่าบุญเก่า ผมไม่เชื่อว่าคนๆเดียวจะทำให้อะไรเปลี่ยนได้ครับ เราไปพึ่งอะไรเเบบนี้ไม่ได้ครับ เราต้องหาเเนวทางปฏิบัติขึ้นมาครับ อย่างกฏหมายเป็นต้น เเต่น่าสงสารครับ เพราะ กฏหมายบ้านเราเอาผิดคน รวย คนวาสนาดีไม่ได้ ทำให้หลายมาตรฐานอะนะครับ อย่างเช่น คนมีอำนาจ คนรวย สั่งยิงเราหรือคนที่เรารัก เเล้วเราก็จะโกรธหรือเปล่าหละครับ มันเลยไม่จบไงครับ เเละผมเชื่ออย่างนึกคือคนเราทุกคนเนี่ยทุกข์ทุกคนเเหละครับตั้งเเต่ คนพิการ คนจน คนร่ายกายดี รวย มีอำนาจ ในชีวิตประจำวันทุกข์ซัก 90% ปวดท้องก็ทุกข์ ไม่ได้ดั่งใจก็ทุกข์ สรุปเเล้วผมเชื่อว่ายากดีมีจนมีอำนาจ เกิดมาใช้กรรมทุกคนเเหละไม่เว้นเลย ดังนั้นผมเชื่อนะทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว
     
  10. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ก็เพราะทุกคนไม่ได้อยู่ใต้กฏเดียวกันหมดไงคะ

    คนมีอำนาจกลุ่มหนึ่งพยายามใช้การเมืองและแก้กฏหมายเพื่อให้ตัวเองอยู่

    เหนือกฏหมายและแสวงหาประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้องได้ตามใจ

    ในประเทศที่เจริญแล้วพลเมืองของเขาต่างตื่นตัวในทางการเมือง มองการเมือง

    เป็นเรื่องของตัวเอง เป็นเรื่องที่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง อ่อนไหวกับปัญหาคอรัปชั่นโกงกิน ไม่ต้องรอให้เวรกรรมส่งผล

    พระพุทธเจ้าเองท่านก็บอกไว้ว่า "คนเราล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียรไม่ใช่เหรอคะ"

    ไม่ใช่้ปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามยถากรรม เอ๊ย! ตามเวรตามกรรม
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ตั้งแต่เดือน กย เป็นต้นไป ราคาแก้ส LPG ราคาปรับเพิ่มกิโลกรัมละ 50สตังค์ครับ
    แน่นอนว่าพวกเราก็คงต้องแบกรับภาระมากขึ้นครับ สาธุครับ ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัยครับ สาธุ
     
  12. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
    [​IMG]

    บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ เตรียมปรับอัตราค่าผ่านทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 ดังนี้


    - รถยนต์ 4 ล้อ ปรับขึ้นจาก 45 เป็น 50 บาท
    - รถยนต์ 6-10 ล้อ ปรับขึ้นจาก 70 เป็น 80 บาท
    - รถยนต์ 10 ล้อขึ้นไป ปรับขึ้นจาก 100 เป็น 115 บาท

    เริ่มบังคับใช้ 1 กันยายน 2556 นี้เป็นต้นไป

    ทั้งนี้การปรับอัตราค่าผ่านทางด่วนเป็นไปตามสัญญาสัมปทานระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและบมจ. ทางด่วนกรุงเทพ ซึ่งมีเงื่อนไขกำหนดให้ปรับทุก ๆ 5 ปี ตามอัตราเงินเฟ้อและดัชนีผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น

    ที่มา www.sanook.com
     
  13. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,670
    บอกตรงเบื่อมาก คุยกันไม่รู้เรืองเถียงกันไปมา ตกลงจะไปทางไหน ไม่มีทิศทางก็ไม่มีแรงไปต่อกรกับเขาหรอก

    ได้แต่เป็นนักเลงคีย์บอร์ด คุยกันยังไม่รู้เรื่องเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...