โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ผู้คนได้รู้จักองค์หลวงปู่
เมื่อประมาณเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2542 ได้เกิดฝนตกหนักบริเวณพื้นที่ กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ และอำเภอใกล้เคียง ติดต่อกันนานหลายวัน ทำให้เขาคิชฌกูฏที่มีลักษณะเป็นดินทรายปนหิน พังถล่มลงมา ทั้งท่อนไม้ ต้นไม้ นับพันนับหมื่นท่อนได้หักโค่งลงมาอย่างถอนรากถอนโคน และไหลโหมกระหน่ำลงมาตามลำธารธรรมชาติสายต่างๆ จึงทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติศาสตร์
โดยก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเพียง 7 วันนั้นเอง องค์หลวงปู่ท่านก็ได้บอกเตือนชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดถึงภัยธรรมชาติอันจะเกิดขึ้นอีกเพียงไม่กี่วัน แต่ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจกับคำเตือนนั้นเท่าที่ควร ถึงแม้จะมีลูกศิษย์บางคนไปช่วยประกาศเตือนชาวบ้านนั้นทราบอีกแรงก็ตาม ท่านก็ได้แต่ปลงธรรมสังเวช แต่ท่านก็ยังรับรองสถานที่ๆปลอดภัยที่สุดให้กับผู้ที่เชื่อในองค์ท่านว่า " ที่อื่นเราไม่รับรองนะ แต่ที่วัดเทพฯนี่ปลอดภัยแน่นอน " พอผ่านไปได้เพียง 7 วันเขาคิชฌกูฏก็เกิดพังถล่มลงมา ทำให้ท่อนไม้ท่อนซุงดังกล่าวที่ไหลลงมาตามกระแสน้ำป่าอย่างบ้าคลั่งด้วยกำลังมหาศาล ยากยิ่งที่สิ่งใดจะมาต้านทานไว้ได้..!!! แต่ด้วยเดชะบุญ มหาบารมีธรรม บวกกับกำลังฤทธิ์ขององค์หลวงปู่พิศดู กระแสทะเลซุงที่กำลังโหมกระหน่ำลงมาผ่านพื้นที่ของวัดนั้น ปรากฏเหมือนเป็นปาฏิหาริย์ เพราะได้มีท่อนซุงขนาดใหญ่จำนวนหลายท่อนได้ไหลลงมาเรียงซ้อนกันเป็นกำแพงตามแนวขอบเขตริมฝั่งคลองของวัด ทำให้กระแสน้ำที่ไหลมาได้ปะทะกับท่อนซุงอย่างจัง ทำให้กระแสน้ำนั้นได้หักเหเหลี่ยนทิศทางไป จึงเกิดเป็นคลองสายที่สองขึ้นขนาบกับคลองสายเก่าที่มีอยู่แต่เดิม วัดของท่านจึงรอดพ้นมหาภัยด้วยปาฏิหาริย์ ทั้งๆที่มีกุฏิริมน้ำตั้งขวางทางอยู่ แต่ก็กลับหาอันตรายได้ไม่ แต่เป็นที่น่าเวทนา ที่กระแสน้ำป่าทะเลซุงนั้นได้ไหลลงไปตามลำคลอง พัดถล่มทำให้อาคารสถานีตำรวจเก่าเกิดความเสียหายราบเห็นหน้ากลอง ถนนและการคมนาคนถูกตัดขาดสิ้นเชิง (แต่ทราบมาว่าไม่มีรายงานถึงผู้เสียชีวิต..) ข่าวการรอดพ้นจากภัยธรรมชาติของวัดเทพธารทอง ทำให้เป็นที่สนใจของผู้คน รวมทั้งสื่อวิทยุ หนังสือพิมพ์หลายฉบับก็ต่างประโคมข่าวปาฏิหาริย์ในครั้งนี้ องค์หลวงปู่พิศดู และวัดเทพธารทอง จึงเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปนับตั้งแต่บัดนั้นเอง เคยได้ถามองค์หลวงปู่ว่า เหตุการณ์ตอนนั้นองค์หลวงปู่ทำอย่างไร ท่านก็ตอบว่า " เราก็นอนก่ายเกกสวดมนต์อยู่ที่กุฏิเฉยๆ " และยังบอกอีกว่า " เราก็เลยดังเพราะซุง "
ซึ่งในช่วงระยะนั้นนั่นเอง องค์หลวงปู่จึงได้แจกพระกสิณที่ท่านตั้งใจสร้างไว้ ให้แก่บรรดาลูกศิษย์ และผู้ที่มากราบ พระกสิณจึงเริ่มเป็นที่รู้จักกันบ้าง ลูกศิษย์รุ่นเก่าที่ได้รับแจกต่างทราบกันดี และเป็นที่หวงแหนกันมาก เพราะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจมากครับ..
(ข้อมูลเวปพลังจิตคุณทุเรียนทอด)

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ข้อมูลจากเวปพลังจิต
หมื่นปาฏิหาริย์ร้อยมวลสารไม่สู้เท่าคำสอนหลวงปู่คำเดียว
ก่อนอื่นขอสวัสดีชาวเวปทุกๆท่านครับ วัตถุมงคลยุคแรกของหลวงปู่พิศดูทรงคุณค่ามากครับ เห็นแล้วและได้อ่านข้อมูลต่างๆแล้วสมเป็นอย่างยิ่งครับ นี่แหละพระป่ากรรมฐาน แหมแต่ก็อดใจไม่ได้จริงๆครับกับคุณแฝงจันทร์ได้ครอบครองเป็นสมบัติมากมายเช่นนี้สมแล้วที่เป็นศิษย์ก้นกุฏิจริงๆ จอมยุทธผู้กล้ามักแฝงกายซ่อนเร้น. อีกอย่างวัตถุมงคลชุดนี้เป็นชุดที่หลวงปู่สร้างกับมือท่านจริงๆครับทรงคุณค่ามากมายในตัวและเจตนาอันบริสุทธิ์นี้ที่ท่านทำและอธิตฐานบรรจุธรรมเข้าไปนับเป็นมงคลยิ่งมากมายเหนือคำว่าปาฏิหาริย์ทั้งปวงครับ กราบเท้าหลวงปู่พิศดูครับผม
ร้อยดวงใจกราบเท้าหลวงปู่พิศดู
ครับสมัยก่อนยุคแรกๆตั้งแต่ท่านแข็งแรงเคยเอาน้ำมันก๊าซไปถวายท่าน สมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงวัดเทพธารทอง อาจารย์เข้มเป็นพระที่นำหลวงปู่อาราธนาท่านอยู่ที่นี่สมัยก่อนหลวงปู่ท่านอยู่อย่างสมถะลำบากกายครับ แต่ท่านไม่เคยบ่นเลยแม้นแต่คำเดียวตอนนั้น คุณน้องยังเป็นสาวอยู่เลย ตั้งแต่ตอนนั่นที่ผมเริ่มไปกราบท่านยุคแรกๆผมก็เห็นท่านกดพิมพ์พระตากพระแล้วครับ มีทั้งเล็กและใหญ่ ทั้งดินเผาและผงล้วนๆก็มี แต่ก็เห็นมีพระและชาวบ้านมาช่วยท่านกดนะครับ เมื่อท่านทำเสร็จท่านจะเอามาใส่ถาดหรือไม่ก็หม้อดินไว้หน้าที่ท่านสวดมนต์ บางครั้งผมก็เห็นท่านจารอักขระลงบนผ้าสบงจีวรเก่าของท่านก็มีครับ ผมก็มีอยู่ผืนหนึ่งตอนนี้ให้ลูกไปแล้วครับ ตอนนั้นผมรับราชการอยู่โรงพักเก่าชึ่งไม่ไกลจากวัดท่านเท่าไรตอนนั้นผมเห็นพระชุดนี้อยู่มากพอสมควรครับ ท่านตั้งใจมากๆครับในการทำพระพิมพ์บางองค์ท่านใช้ดินสอสวดมนต์ไปเขียนอักขระลงบนพระไปเป็นภาพที่บรรยายไม่ถูกครับ ผมดีใจครับที่มีศิษย์รุ่นแรกนำเอาพระชุดนี้มาลงให้ชมและให้ข้อมูลที่ถูกต้องจริงครับ เป็นรุ่นที่มากด้วยคุณค่าจริงครับ.
(คุณเอื้อนขจี)

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

#ทิพย์จักษุ..
ลุงนี บ้านอยู่ จ.ตราด ลูกศิษย์รุ่นเก่าของหลวงปู่ ที่หลวงปู่ท่านเรียกว่า " ชะนี " ลุงเคยเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่พิศดู เมื่อสมัยปี 253...กว่า หลวงปู่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ลุงมักจะขับรถมาหาหลวงปู่เป็นประจำ บางครั้งก็มานอนค้างที่วัดบ้าง ได้พบเจอเรื่องราวแนวอภินิหารหลายเรื่องมากๆ ยิ่งคนรุ่นเก่าๆยิ่งเจอกันมาก โดยเฉพาะเรื่องเทวดาและภพภูมิต่างๆ และเรื่องการรู้วาระจิต รู้อดีต ปัจจุบัน อนาคต ของหลวงปู่เป็นต้น อย่างเช่นเรื่องนี้..
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลุงนีมากราบหลวงปู่ และอยู่สนทนากับท่านนานจนเวลาล่วงเลยไปเย็นแล้ว ลุงนีจึงขอตัวกลับบ้าน พอกราบลาหลวงปู่เสร็จ หลวงปู่ท่านก็บอกว่า..
หลวงปู่ :: " อย่าเพิ่งกลับ อยู่ต่ออีกสักชั่วโมงนึง "
ลุงนี :: คงไม่ได้หรอกครับอาจารย์(ลุงนีจะเรียกหลวงปู่ว่าอาจารย์) จะมืดแล้วครับ
หลวงปู่ :: " ถึงออกไปตอนนี้ก็ยังกลับไม่ได้ ก็ตอนนี้มีรถสิบล้อจอดเสียปิดปากซอยอยู่.."
ซึ่งลุงนีก็อยากจะพิสูจน์ในคำพูดของหลวงปู่ จึงขอตัวขับรถออกมา พอถึงปากซอย ก็ปรากฏว่า มีรถสิบล้อจอดเสียปิดปากซอยจริงๆ ออกไม่ได้ จึงต้องขับรถเข้ามาหาหลวงปู่ที่วัดอีกรอบ แล้วเดินขึ้นมาหาหลวงปู่แบบอายๆ แล้วบอกกับท่านว่า..
ลุงนี :: อาจารย์ครับ มีรถสิบล้อจอดขวางปากซอยจริงๆครับ
หลวงปู่ :: " เอ้า.. ก็เราบอกแล้วไม่เชื่อ.." (หัวเราะ)
ซึ่งใครที่เคยไปวัดเทพธารทองก็คงจะรู้ว่า จากปากซอยถึงวัดก็ไม่ใช่ใกล้นัก หากมองจากวัดออกมาก็จะไม่มีทางเห็นถนน ยิ่งสมัยก่อนรอบๆวัดมีแต่ป่ารก หลวงปู่ท่านก็อยู่ในกุฏิไม่มีใครมาบอก แล้วท่านทราบได้อย่างไร..?? เรื่องแบบนี้ลุงนีบอกว่าหลวงปู่ท่านทราบเป็นเรื่องปกติ.. — ใน
วัดเทพธารทอง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี - หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี

 

“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” สมหวังทุกประการ ร่ำรวยมั่งคั่งกันทุกๆคนครับ

 

สวัสดียามเย็นครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ข้อมูลการสร้างสมเด็จมรดกธรรม
#สมเด็จมรดกธรรม (หลวงปู่พิศดูปลุกเสก 10 ปี)
พระสมเด็จเนื้อรุ่นนี้สร้างตั้งแต่ปี 2543 ลูกศิษย์สร้างถวายตั้งแต่หลวงปู่ยังจำพรรษาอยู่กุฏิหลังเก่า ในขณะนั้นท่านมีอายุได้ 77 ปี
พุทธลักษณะ เป็นพระพุทธปางสมาธิ ด้านหลังเรียบ สร้างด้วยเนื้อผงพุทธคุณ หลวงปู่พิศดูได้อธิษฐานจิตปลุกเสกพระชุดนี้ตลอดมา ตั้งแต่ปี 2543-2553 รวมเวลาถึง 10 ปีเต็ม เรียกได้ว่าไม่ว่าท่านจะอธิษฐานจิตพระรุ่นใดที่จัดสร้างตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา และสวดมนต์ภาวนาจิตครั้งใดก็ตาม พระผงชุดนี้ก็จะได้รับการประจุพลังในทุกครั้ง และท่านยังไม่เคยแจกพระชุดนี้ให้กับใคร ตราบจนมรณภาพ
พระชุดนี้ได้เก็บรักษาอยู่ในลัง ในสภาพสมบูรณ์เกือบทุกองค์ โดยมีกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ระบุปี พ.ศ.ที่จัดสร้างอยู่ชัดเจน รองอยู่เป็นชั้นๆ กาลเวลาผ่านไปนับ 10 ปี ประกอบด้วยความชื้นสัมพันธ์จึงทำให้กระดาษหนังสือพิมพ์ที่รองพระเริ่มเสื่อมสภาพ เวลาแกะพระออกมาจากลัง พระบางองค์จึงมีรอยกระดาษหนังสือพิมพ์ติดมาด้วย แรกๆจึงพากันเรียกว่าสมเด็จหลังหนังสือพิมพ์ ต่อมาทางวัดได้นำออกมาปั๊มตรายางยันต์ประจำองค์หลวงปู่ไว้ คือยันต์ ธัมมจารีสุขังเสติ ที่ด้านหลังทุกองค์..
และถวายชื่ออย่างเป็นทางการว่า " #สมเด็จมรดกธรรม "

 

ปิดกล่องหมายเลข6ครับ

 

ขอทราบราคาครับ

 

กล่องหมายเลข5

 

สวัสดียามเย็นครับป๋า