แม่ชีทศพร ว่าด้วยเรื่องของ พระและผ้าเหลือง

เฮ้อ ในความยุ่งเหยิง ก็ยังมีความสุขอยู่บ้าง
หงษ์แดงกำลังจะได้โควต้าไป UL แล้ว อัดนิวไปเบาะๆ 3-0 ดีใจจัง
เรื่องแม่ชีคงอีกนานกว่าจะแก้กันจบ ช่วงที่แก้คงจะมีอะไรเด็ดๆแน่เลยหรืออาจไม่
หวังให้แก้ด้วยความจริงจะได้ไม่เหมือนแถวปทุมฯ

 

ประเทศไทยจะแก้ปัญหานี้ได้หรือครับ ยาก...นา...

 

55+

จะขำ...ผิดตรงไหน

ใครมีปัญหาป่าว

 

ผมดีใจนะครับที่ยังมีคนแบบคุณอยู่ในประเทศ มีความมุ่งมั่นดีครับ เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาดี อดทนมุ่งมั่นต่อไปนะครับ
สาธุ

 

คุณ afseven จะไปสนใจคนประเภทนี้ทำไมครับ แบบปากเสีย แบบนี้ คอยดูนะครับ ขนาดบวชมา วัดธรรมกายคงไม่ได้สอนให้ได้ดีขึ้นแน่นอน เดี๋ยวก้อคงไม่วายกลับมาป่วน ด่าเขาไปเรื่อย ถ้าไม่ชอบใครเข้า คงเห่าออกมาอีกแหงๆ.....

 

คือว่า ผมให้ความสนใจทุกคนเท่าเทียมกันนะครับ แต่ดี ชั่วให้เขากำหนดตัวเขาเอง สิ่งที่ผมทำได้คือเตือนสติให้เขาคิดเอาเอง ในโลกแห่งความเป็นจริง ทุกๆคนมีคุณค่าแห่งความเป็นเพื่อนด้วยกันทั้งนั้น
คนที่คิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่า หรือ ปมด้อย เราต้องช่วยชี้ทางให้เขาครับ
ถ้าหากเราปล่อยเขา ให้เดินในทางที่สังคมสากลไม่ยอมรับ ไปเรื่อยๆโดยไม่เตือนสติเขาบ้างผมว่า สังคมเราก็มีแต่ความยุ่งเหยิง เราเองก็คงได้รับผลข้างเคียงด้วยเช่นกันครับ
ขอบคุณครับที่เตือนผมด้วย(k)

 

ผมเข้าใจความหมายของคุณครับ ถ้าทุกคนมีความเข้าใจในเหตุและผลเหมือนกัน โลกใบนี้คงสดใสขึ้นอีกเยอะ แต่สังคมทุกวันนี้มีคนประเภท ไม่ยอมเข้าใจ(ไม่ใช่ไม่เข้าใจ) ยึดติดกับความเชื่อของตัวเองเป็นที่ตั้ง จิตเลยมักไม่ยอมเข้าใจในเหตุและผล และมักจะเอาเหตุผลข้างๆคูๆ ออกมาเถียง พอโดนจี้ตรงใจดำ ก้อเกิดอาการรับไม่ได้ บางประเภทถึงขนาดออกมาใช้คำหยาบคายหรือใช้กำลัง กับฝ่ายตรงข้าม ต่อให้เรียนมามากขนาดไหน ความงมงายของจิต ทำให้อารมณ์ทางจิตที่ไม่พอใจก้อเสื่อมลง จนเกิดอาการขาดสติ ทุกวันนี้โลกถึงยุ่งเหยิงแบบที่คุณบอกงัยครับ...ผมถึงบอกปล่อยเขาไปเถอะครับ คนเรามีการศึกษา ถึงมีโอกาสได้เข้ามาแสดงความคิดความอ่านในเว็บสาธารณะแห่งนี้ แต่ด้วยจิตที่คำนึงแต่ความคิดตัวเองอย่างเดียว แล้วบางครั้งแสดงอาการหยาบออกมา นั่นก้อย่อมแสดงให้เห็นถึงพื้นฐานของมนุษย์แต่ละบุคคล ฉะนั้น ผมจึงไม่สนใจคนประเภทแบบนี้เท่าไรนัก แต่อาจจะมีบ้างที่คุณเห็นผมตอบโต้ด้วยคำพูดรุนแรงไปบ้าง แต่นั่นผมกำลังทำให้เขาได้รับรู้ถึงการกระทำ ถ้าเขาเป็นฝ่ายถูกกระทำ เขาจะรู้สึกอย่างไร ถึงเขาจะไม่รู้สึกอะไร คงไม่แปลกนัก คงต้องดูพื้นฐานทางครอบครัวด้วยว่าเป็นเช่นไร

 

ครับผมเข้าใจถ้าเป็นสมัยวัยรุ่น ผมก็อาการนี้แหละครับ ตอนนี้เริ่มเป็นหนุ่มก็เลยเย็นลงมาก
คือผมคิดอยู่อย่างนึงว่า ผู้ที่มีความอดทนมากว่า ไม่แสดงออกว่าพอใจ ไม่พอใจ จะเป็นผู้ชนะ ก็คิดแค่สนุกๆอยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะไปได้ถึงจุดใหน
ความจริงผมจะทำให้เขาจนแต้มก็ได้ แต่มันคงไม่เกิดประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม ที่จะได้เรียนรู้ วิธีการ หรือกลอุบายต่างๆ ของมนุษย์แต่ละคน
คุณว่าเข้าท่ามั้ยครับ
คนที่คิดว่าตัวมีการศึกษามาดีมีความรู้มากมาย ทำธุรกิจได้เงินมากมาย พวกนี้จะมีอยู่อย่างนึงที่ตัวเขาเองมองไม่เห็น คือมานะสูง พวกนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง มีจิตไม่ละเอียด ไม่เชื่อถือ นับถือ หรือให้การยอมรับอะไรง่ายๆ คือมีความมั่นใจในสติปัญญาตัวเองมาก คนประเภทนี้เขาเรียกพวก ชาล้นถ้วย ต้องลดความมานะลงมันมีวิธีการอยู่ แต่ว่าผมไม่ฉลาดในวิธีการ ก็เลยได้แต่เตือนครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ(k)

 

ขอบคุณครับ...

 

แก้กรรมต้องให้มีอะไรกับ ช. แก้กรรมเรื่องหลอกลวงทั้งเพ เชื่อกันจังพวกไร้มันสมอง

 

ถ้าเขาไร้มันสมอง เขาคงคิดไม่ออกมั๊งครับ...ที่เขาคิดเพราะกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งกรรม ที่กำลังเดือดร้อนจึงต้องมองหาทางหลุดพ้นจากความเดือดร้อน แต่เมื่อมองไม่เห็นหนทาง ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่มองเห็นหรือสัมผัสได้ จึงต้องพึ่งทางจิตวิญญาณแทน เมื่อพอมีคนที่บอกว่าสามารถแก้กรรมได้ จึงไปหาเพื่อพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่...ถ้าทำได้จริงก้อคงดี ถ้าคุณตกอยู่ในความเดือดร้อนจนไม่มีทางออก วันนั้นคุณอาจคิดแบบนี้ก้อได้....

 

ในวันที่ 16 มิถุนายน 2554 สมเด็จพระนางเจ้า

สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะสเด็จมา ณ วัด

พิชยญาติการาม โดยเสด็จมาฟังธรรมจาก

ดร.แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม






(ปล.คุณแม่อนุญาติให้ประชาสัมพันธ์ได้ค่ะ)

 

สรุป ว่าเป็นอย่างที่พระพุทธเจ้าทรงทำนายไว้ ศาสนา ถึงกึงพุทธกาลศาสนาจาเริ่มเสื่อมลงเรื่อยๆ จิงแฮะ ไงก็รักษาจิตไว้ อย่าให้เสื่อมตามกันไปละ ไม่มีอะไรสำคัญเท่าจิตเรานะคับ ใครทำไร ก็เป็นไปตามนั้น

 

เขาทำกรรมดี ก้อได้บุญกันไป แต่ถ้าทำกรรมชั่ว แม้จะเป็นข้อ มุสา เขาก้อคงได้กรรมชั่ว ไว้ไปเป็นสมบัติส่วนตัวนั่นแหละ 5555+++

 

บทสัมภาษณ์พิเศษ ดร.แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม
ตอบทุก ๆ คำถามที่เป็นข่าว



​

โยม : "มีคนคิดถึงและเป็นห่วงแม่ชีมากเลยครับ"

<O
แม่ชี : "ขอขอบคุณค่ะ ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงแม่ชีค่ะ"

<O<O
โยม : "มีคนรออยู่ว่าแม่ชีจะออกมาพูดอะไรบ้าง"<O
<O

แม่ชี : "เรื่องราวตรงนี้เป็นเรื่องที่ทำให้คิดหลายอย่างแม่ชีก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ลุกขึ้นมาโกนผมนุ่งขาวแต่ตอนนี้คนโกนผมนุ่งขาวเดือนร้อนเพราะแม่ชีเยอะแยะ เพราะเขาไปถูกจับจ้องแม่ชีก็ต้องฝากขอโทษทุกท่าน ถ้าแม่ชีทำให้ทุกท่านเดือนร้อนจากเรื่องของแม่ชีด้วย แม่ชีสอบสวนตัวเองทุกวัน วันนี้มีเรื่อง กำลังกระทบเรื่องนี้แม่ชีปฏิบัติมาถึงขนาดนี้


การนั่งวิปัสนากรรมฐานนั่งให้ชนะใจตัวเองนะนั่งให้รู้ทุกข์ในตัวเองว่าทุกข์มันเกิดจากอะไรแล้วอยู่ๆสิ่งที่เข้ามากระทบเราก็รู้ว่ามันไม่ยุติธรรม เรารู้ความจริงเป็นอย่างไรแต่โดนพิพากษาไปแล้ว คำว่าวิปัสสนาโต้ตอบกับใครไม่ได้ต้องสู้กับตัวเองสู้กับสิ่งที่มากระทบ เสียงที่ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน ตาเห็นรูปก็สักแต่ว่าเห็นถ้าถามว่ามลทินของนักบวชคืออะไร คือความโกรธ ลบหลู่บุญคุณท่าน ริษยา ตระหนี่ มายาโอ้อวด พูดปด มีความปารถนาลามกและเห็นผิดแม่ชีต้องสอบสวนตัวแม่ชีเองตลอดเวลาว่าวันนี้มีมลทินหรือเปล่า มีอุเบกขาหรือเปล่ามีพรหมวิหารหรือเปล่า อย่าให้มันเกิด ถ้ามันเกิดเมื่อไหร่นะ ถือว่าเสียเวลาถามว่าวิปัสสนาเกี่ยวข้องไหมเกี่ยวข้อง ถ้าเราขาดสติ เราไปโต้ตอบเขาถือว่าเราไม่ใช่นักปฏิบัติ "<O


โยม : "แล้วคนที่มาหาแม่ชีในศาลา"<O</O
<O</O

แม่ชี : " โอ้โห มีแต่เรื่องเศร้าสร้อย พ่อเลี้ยงทำร้ายลูก ถูกลวนลามบางคนคิดฆ่าตัวตาย บางคนคิดอะไรตั้งหลายอย่างสารพัดนะแต่ละวันที่ออไปบรรยายมันก็ต้องเปลี่ยนมุมของความเศร้าโศกนี้ให้เป็นมุมที่ทำใจให้มันดีขึ้นดีกว่าเพราะชีวิตเขาจะแลกกับการที่โดนทำร้ายร่างกายมา โดนทุกวัน บางคนต้องร้องไห้จนขาดใจถ้าเอาน้ำตาของทุกคนมารวมกันคงจะท่วมศาลา เขาไม่ได้บอกเรานะแต่เรารู้ด้วยความรู้ของเรา


แม่ชีขอทุกวันนะ เม่ชีอาราธนาพระเมตตาธิคุณพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ ไม่ว่าจะพูดสิ่งใดออกมาขอให้เป็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอนแล้วสังเกตดูคนที่ฟังธรรมก็ จะฟังด้วยความเคารพจะนิ่งเงียบเหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในนั้นเลยถ้าถามว่าการที่เราพูดให้คนสี่พันห้าพันนิ่งฟังเหมือนถูกสะกดเนี่ยเราใช้เวทมนต์หรือเปล่า เปล่า เราใช้ความบริสุทธิ์ใจในขณะที่เราพูดพอเขาฟังเราเขาก็จะได้อะไรจากเรา สิ่งที่แม่ชีพูดออกมานี่สื่อให้เห็นว่าสิ่งที่ทำไปมันจะเกิดโทษภายหลังนะ หยุดทำนะ ในทางพระพุทธศาสนาใครทำเองก็ต้องรู้เองแม่ชีบอกเสมอว่าไม่ต้องงมงายกับแม่ชี "<O</O


<O
โยม : " จากต้นเรื่องของกระแสแม่ชียังยืนยันว่าสิ่งที่พูดออกไปนั้นเป็นความจริง "<O</O
<O</O


แม่ชี : "ใช่ เป็นความจริง ตามเหตุและปัจจัยคนดูไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาทุกข์อย่างไร ในชีวิตของเขาต้องเจออะไรมาบ้างคนอื่นที่ฟังอยู่อาจจะไม่รู้เรื่องทั้งหมด แต่คนที่แม่ชีชี้ลงไปนั้นเขารู้ทุกข์ของเขา เขาเข้าใจ เรียกว่ารู้อยู่แก่ใจคนที่เป็นวิทยาทานให้กับคนอื่นว่า

อย่าพูดอะไรที่ไม่รู้จริง... เห็นใครเดินกับเด็กแล้วพูดว่าแก่ป่านนี้ยังไม่หมดตัณหา คนนี้มีวจีกรรมที่เห็นผู้ชายแก่เดินกับเด็กสาวคือพูดลักษณะที่เขาจาบจ้วงผู้ชายแก่ไว้ แล้วอยู่มาวันหนึ่งมาเลี้ยงเด็กที่ถูกเขาทิ้ง เลี้ยงตั้งแต่เล็กเลี้ยงเอาไว้จนโตแล้วนับวันมันก็รู้สึกทุกข์ใจมากขึ้นเพราะถูกจับตามองทุกวันแมชีรู้และพูดในสิ่งที่พอจะพูดได้เท่านั้น อย่าลืมนะว่าทุกอย่างมีที่มาที่ลึกกว่าที่ทุกคนเห็น<O</O
<O</O


แม่ชีพูดไปเพื่อให้มันเกิดขึ้นก่อนตรงนี้แล้วก็จะได้ไม่ไปเกิดในชีวิตจริง บางครั้งมันก็ต้องใช้กุศโลบายอย่างกับจะต้องไปเสียหายกับเด็กในอนาคต ก็ทำให้สบายใจซะตอนนี้เลยว่า คุณหมดกรรมแล้วแต่แม่ชีพูดออกไปให้ใครฟังหมดไม่ได้หรอกว่าในสิ่งที่เห็นแม่ชีเห็นมันมีเรื่องราวมากกว่านั้น<O</O
<O</O


แม่ชีเห็นอนาคตเขาต้องเจอเหตุการณ์นั้นแน่นอนเหมือนเราแก้ไขให้ว่าคนที่มาจับแก้มมากอดอะไรนั่นคือกรรมจากวจีกรรมก็เอามาสอนคนทั้งศาลาทั้งหมดเลยว่าการพูดอย่างนี้มันพูดไม่ได้<O</O
<O


บางทีเห็นผู้ชายมีผู้หญิงเดินด้วยกันแต่เรารู้ว่าคู่นี้ไม่ใช่สามีภรรยากันพอเห็นปุ๊บเรารู้สึกว่า เออ...ทำไมทำอย่างนี้ อาจจะโทรไปบอกเมียเขา อันนี้ไม่ควรทำมันเรื่องของเขา มันเป็นกรรมของเขา<O</O
<O


อีกเรื่องที่แม่ชีพูดไปเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งถามว่าที่ต้องไปเปิดประตูให้ผู้ชายเข้ามานอนด้วยตลอดเวลามันทุกข์นะการสื่อสารหรือการพูดในขณะที่เขามาหาแม่ชีด้วยความทุกข์แบบมหาศาลน่ะจากที่กำลังร้องไห้อยู่ จะพูดยังไงให้ใจเขาเนี่ยหลุดโป๊ะออกมาแบบเปลี่ยนอารมณ์ทันที<O</O
<O</O


ในบางเรื่องแม่ชีอาจจะทำไม่ถูกใจใครบางคน ถามว่าแม่ชีทำจริงไหมแม่ชีก็บอกแล้ว แม่ชีทำจริงถ้าสังคมเสียหายหรือพระศาสนาเสียหายแม่ชีขอโทษแม่ชียอมรับในสิ่งที่แม่ชีทำ "<O</O
<O



โยม : "ในสถานการณ์อย่างนี้แม่ชีพลาดในเรื่องของการใช้คำใช่ไหมครับ"<O</O

<O</O
แม่ชี : "แม่ชีถือว่าคราวนี้แม่ชีพลาดเรื่องของการใช้คำแต่ไม่มีใครรู้ที่ต้นตอ พอภาพที่ออกมาคนทั้งประเทศที่เห็นข่าวแล้วได้ยินเสียงพูดได้ยินเสียงหัวเราะ มันรู้สึกไม่บันเทิงใจ รู้สึกว่าล่อแหลม ว่าแม่ชีคนนี้ทำอะไรแม่ชีต้องขอขอบคุณสื่อนะ ขอบคุณที่สร้างกระแสแรงกระทบทำให้แม่ชีรู้สึกว่าถ้าแม่ชีนั่งหลับตาอย่างเดียว นั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนี้อย่างเดียวแม่ชีไม่รู้หรอกว่าวันหนึ่งถ้ามีอะไรมากระทบตา กระทบหูแล้วจะรู้สึกอะไรไหมถ้าไม่มีเรื่องราวเหล่านี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดเรื่องราวอะไรต่อไป <O</O
<O


ความจริงทุกวันนี้ก็มีเรื่องอยู่เสมอด้วยความท่ี่เป็นคนทำงานเยอะทำงานนั้น ทำงานนี้ ทั้งบรรยายธรรมแล้วก็เขียนหนังสือก็จะมีคนแอบแฝงเข้ามาแต่ไม่เคยเป็นข่าวแต่สำหรับเรื่องนี้แม่ชีคิดว่าคือข้อสอบที่จะผ่านไปได้ไหม<O</O
<O


หรือว่าจะออกไปพูดกับเขาไหม ถ้าเป็นทางโลกก็ต้องออกไปพูดต้องมีการชี้แจง แต่ในทางธรรมการออกไปพูดชี้แจงนั้นไม่ใช่ลักษณะของผู้สอนธรรมคนสอนธรรมเวลาปฏิบัติ ถ้าเป็นพระสงฆ์ท่านก็จะบอกว่าถ้าคิดอะไรฟุ้งซ่านอะไรก็ให้คิดหนอ..คิดหนอไม่ให้หาสาเหตุของเรื่องการคิดแม่ชีก็รับได้นะว่าเราพูดพลาดนะแต่ในทางธรรมแม่ชีไม่พลาดจะให้ใครมาพูดเจาะใจได้ขนาดนี้มันก็ไม่มี "<O</O

<O</O


โยม : "แม่ชีรู้สึกโกรธหรือท้อใจกับเรื่องนี้ไหมครับ"<O</O
<O</O



แม่ชี : "ถ้าจะถามว่าแม่ชีรู้สึกโกรธไหม รู้สึกอับอายไหม แม่ชีสงบมากแค่ไหน รู้สึกท้อกับการทำความดีไหม แม่ชีไม่ท้อนะ แม่ชีรู้สึกว่าโชคดีที่ยังมีคนมาชี้ มาติในมุมที่เราลืมมองไปว่ามุมนี้มันเป็นมุมของนักบวช <O</O
<O</O


แต่เรื่องราวที่เป็นทุกข์ของชาวบ้านทั้งหมดก็ทุกข์เรื่องนี้เรื่องเดียว สามีนอกใจ ภรรยานอกใจ ลูกไปมีครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อยๆในแต่ละวันที่บรรยายไม่ต่ำกว่าร้อยเรื่อง เป็นกรรมจากการผิดศีล 5 ทั้งหมด แม่ชีมีชีวิตเพื่อทำให้เป็นประโยชน์ แม่ชีว่าโชคดีที่เหตุการณ์นี้ทำให้แม่ชีได้ดูใจตัวเองว่าจะหวั่นไหวไหม คือทุกสื่อ ทุกอักษร ทุกเสียงทุกเรื่องราวที่เข้ามาตรงนั้นทำให้รู้สึกว่ามั่นคงมากขึ้น มั่งคงที่จะทำงานต่อไป..”<O</O
<O



โยม :“สิบกว่าปีที่แม่ชีทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาก็มาก ช่วยเหลือสังคมทำให้คนพ้นทุกข์ก็เยอะ แต่ทำไมไม่มีองค์กรหรือใครออกมาปกป้องหรือยืนยันในสิ่งที่แม่ชีทำเลยครับ”<O</O

<O</O


แม่ชี :“ก็มีโยมหลายๆ คนถามเหมือนกัน แต่แม่ชีบอกว่าไม่ต้องให้ใครมายืนยันอะไรเพื่อแม่ชี ตั้งแต่บวชมาไม่ว่าจะไปสร้างอะไรที่ไหน สิบสี่ปีนี่มากมาย แต่รู้ว่าสร้างแล้วได้เลย รู้แล้วว่าได้บุญเลย ทำสำเร็จแล้ว เราได้บุญเลย เราคงไม่ต้องให้ใครมายืนยันหรือปกป้องอะไรเรา ความดีและบุญกุศลที่เราทำไว้จะมาปกป้องเราเอง ”


โยม :“จุดเด่นของแม่ชีคือบรรยายอย่างไม่เคลียด ต่อไปก็เคลียดอย่างเดียวซิครับ”


แม่ชี : "สนุกซิ แม่ชีจะพยามยาม ต้องมีวิธีที่จะพูดใหม่ให้สังคมยอมรับได้ "


โยม :“แม่ชีทำบุญมากขนาดนี้ ทำไมยังรับกรรม”

แม่ชี : " โอ้ พระอรหันต์ยังต้องรับกรรมเลย แล้วแม่ชีจะเหลือเหรอ ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้ามีอัครสาวกซ้ายขวา คือพระโมคคัลลาและพระสารีบุตร ตอนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเดียรถีย์ทั้งหลายก็เห็นว่า พระพุทธเจ้ามีลาภสัการะ มีอาหารฉัน มีอะไรมากมาย เดียรถีน์ทั้งหมดก็เลยลงขันกันเพื่อที่จะฆ่าพระโมคคัลลา ซึ่งเป็นพระอัครสาวกที่ใช้ฤทธิ์ในการแสดงธรรม พระโมคคัลลาถูกโจรห้าร้อยพยายามที่จะทำร้ายหลายครั้งและทุกครั้งท่านก็ใช้ฤทธิ์หนีโจรพวกนี้ จนมาสุดท้ายได้ระลึกถึงว่านี่ คือวิบากกรรมในอดีตชาติ ท่านเคยทุบตีพ่อแม่ของตัวเองไว้ ท่านเลยไม่คิดหนี ยอมถูกโจรทุบตีจนตาย

นี่ไม่ใช่จะเปรียบเทียบกับพระโมคคัลลาและไม่ได้ว่าใครเป็นเดียรถีย์ แต่อธิบายให้ฟังว่าอะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้พระศาสนาเจริญรุ่งเรือง มันก็มีภาวะของกรรมและของมารเกิดขึ้นเฉพาะตัวเฉพาะตน ก็คิดว่าไม่เป็นไร คนที่อ่านหนังสือมีจิตใจเปลี่ยนเป็นคนที่อ่านหนังสือมีความเป็นอยู่เปลี่ยน การทำงานเปลี่ยน คนที่อ่านหนังสืออยากเข้ามาปฏิบัติธรรมมากขึ้น ถ้าแม่ชีไม่มีพรุ่งนี้ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเต็มร้อย "


โยม :“ถามว่านี่คือกรรมของแม่ชีใช่ไหม”


แม่ชี : ใช่ นี่คือกรรมของแม่ชี ฝากถึงคนที่เป็นห่วงหรือว่าลูกศิษย์ที่อจจะมีความรู้สึกโกรธหรือว่าอะไร โยมไม่ต้องคิดแทนแม่ชี แม่ชีก็จะชดใช้กรรมในส่วนที่แม่ชีทำ แม่ชีมีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งคือ แม่ชีมีในสิ่งที่คนอื่นไม่มี แม่ชีก็อยากให้สิ่งนี้มันไขเข้าไปในประตูบ้านทุกบ้านที่กำลังทำกันอยู่ ถ้าเป็นเรื่องผิดศีลเนี่ยมันไม่ใช่นะ

หลายคนอาจสุขตอนนี้แต่อีกไม่กี่วันคุณต้องทุกข์แล้วนะถ้าไม่เลิกทำ และสำหรับคนที่ไปบวช ถ้าไปบวชแล้วไม่ปฏิบัติก็เป็นหนี้สงฆ์ออกมา แม่ชีพูดในศาลาจนผู้ชายในศาลาบวชพร้อมๆกัน 200 รูป แม่ชีบอกเลยนะ วันหนึ่งที่จะต้องเจอแบบนี้ วันที่สองต้องเจอแบบนี้ วันที่สามอารมณ์จะเป็นแบบนี้ แม่ชีต้องบอกทุกคน ตอนนั้นแม่ชีบอกได้เพราะว่าเขายังไม่เป็นสงฆ์

พอบวชเป็นพระสงฆ์แล้วแม่ชีไม่กล้าเข้าไปแตะต้องแม่ชีเคารพพระสงฆ์ยิ่งชีวิตนะ แต่เราพูดจนเขามีศรัทธาแล้วปฏิบัติแล้ว จนเขาสึกออกมาแล้ว เขาถามแม่ชี แม่ชีบอกว่าจะผ่านทั้งหมดไม่ได้ เพราะในขณะที่ปฏิบัติยังคิดถึงคนอื่น นี่ยืนสูบบุหรี่ ทั้งๆที่เขาห้ามสูบบุหรี่ คนนี้โทรศัพท์ทั้งๆที่เขาห้ามโทรศัพท์

คือแม่ชีจะบอกทุกคนว่าใครจะทำอะไรเรื่องของเขา เราเอาแต่เรื่องของเรา เป็นเรื่องดี พยายามอย่าคุยกัน ดูแต่อารมณ์ของเรา แต่พอเข้าไปอยู่รวมกันมากๆ ก็เห็นนะค่ะ เห็นการพูดคุย เห็นการตอบโต้ เราเห็นคำพูดที่เขาพูดกันก็นึกไปตำหนิเขา อันนั้นก็มโมกรรมแล้วนะ มโนกรรมอันนี้ยังไม่ส่งผลหรอกต่อเมื่อเข้าไปอยู่ในพระพุทธศาสนา มโนกรรมอันนี้มันก็จะส่งผลมาที่ตัวเองว่าที่ตั้งใจจะเข้าไปบวชไปปฏิบัติจริงๆ น่ะ มันทำไม่ได้


เข้าใจไหม เมื่อทำไม่ได้ทุกคนก็ติดกรรมออกมา แทนที่บวชแล้วชีวิตจะมีดีขึ้น แต่ว่าสึกออกมาแล้วก็ลงไปอีก ลงเพราะอะไร ลงเพราะตาเห็น ใจคิด ตาเห็นใจคิดเป็นมโนกรรม ความเห็นผิด คือทุกคน ตนเป็นที่พึ่งของตน สติปัฏฐาน 4 ไม่ได้สอนให้คนมองคนอื่นเลยนะ กาย เวทนา จิต ธรรม ให้ดูจิตตัวเอง ไม่ให้ไปดูการกระทำของผู้อื่น

แม่ชีอธิบายละเอียดมากนะก่อนบวช เขาบวชไปแล้วเขากก็กลับมาถามแม่ชีเป็นอย่างไร บอกโอ้... อันนี้ขาดทุน วันที่สามคิดไม่ดีกับพระทั้งๆ ที่ท่านเป็นพระอยู่ด้วยนะ แต่แม่ชีไม่สามารถไปพลิกใจใครให้ไปในทิศทางเดียวกันได้นะ แม่ชีเป็นแค่ตัวหนังสือเล่มหนึ่งที่มีตัวหนังสือบอกรายละเอียดบอกเส้นทางไม่ให้หลวง แต่ด้วยวิบากกรรมของเขาอาจะเป็นตอนฆาราวาส มีความเห็นผิดกับพระสงฆ์รูปอื่นไว้ พอมาเป็นสงฆ์แล้วก็มีใจไปพาดพิงคนอื่นเหมือนกัน อันนี้เป็นกรรมล้วนๆ "

<O</O<O</O


โยม :“แต่ก็มีกระแสการตอบโต้ในเว็ปไซค์มาก”


<O</O
แม่ชี : “ ในเว็ปไซค์ ลูกศิษย์มีความรักมีความศรัทธาในตัวแม่ชี พอมีข่าวมีเรื่องอะไรออกมาอาจจะคิดว่าทำไมแม่ชีต้องทนกับสิ่งเหล่านี้ เขาก็รู้สึกทุกข์ใจไปกับแม่ชีด้วย ก็จะออกมาปกป้องครูบาอาจารย์ เป็นเรื่องธรรมดา แต่อยากบอกผ่านหนังสือเล่มนี้เลย

<O</O
<O</O
ว่าทุกคนไม่ต้องคิดอะไรแทนแม่ชี ไม่ต้องปกป้องแม่ชี พระพุทธศาสนาจะปกป้องแม่ชีเอง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จะปกป้องแม่ชีเอง พระทุกรูปที่รู้เจตนาของแม่ชี ท่านแผ่เมตตาให้แม่ชีทุกวัน ก็อยากจะบอกเลยว่านี่เป็นเรื่องของทางโลก ถ้าใครเป็นลูกศิษย์แม่ชีก็จะรู้เลยว่า แม่ชีไม่เคยไปโกรธใครหรือพาดพิงอะไรกับใคร แม่ชีมีจุดยืนของแม่ชีว่าจะทำอะไร แล้วจุดยืนก็เป็นฐานที่แข็งแรงด้วย เพราะว่าแม่ชีไม่อยากให้ลูกหลานที่คลอดออกมาแล้วโตขึ้นมากับความทุกข์<O</O
<O


แม่ชีไม่อยากเห็นสังคมที่มีแต่การเอาเปรียบไม่มีคุณธรรม ไม่มีศีลธรรม อยากเห็นเด็กที่ถูกเลี้ยงมาด้วยความรัก พอโตมาเขาต้องซึมซับว่าอะไรควรทำ และอะไรไม่ควรทำ ทีนี้แม่ชีคนเดียวที่เห็นทุกข์ของโยมอย่างชัดเจน แม่ชีก็จะเป็นคนที่จะปลูกรากกล้าต้องเรียกว่ารากกล้าใหม่ คือถ้าใครมาหาแม่ชีก็จะพูดเลยว่า ถ้าลูกมีลักษณะแบบนี้ ลูกอยากได้ของแล้วดิ้น คนเป็นพ่อแม่ต้องบอกนะ ต้องสอนนะ ถ้าบอกแล้วยังไม่ฟังก็ต้องตีบ้าง ตีแล้วก็ยังต้องสอนนะ รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี แต่ถ้าไม่ตีปล่อยเขาตามใจ เขาจะไม่รู้เลยว่าเขาทำถูกหรือทำผิด

<O
ทีนี้ในเรื่องของการเรียนการศึกษาตอนนี้กลายเป็นว่าครูทำโทษนักเรียนไม่ได้ เพราะว่ามีกฏหมายหรือมีกฏอะที่ออกมามายมาย ก็แลยทำให้นักเรียนทุกคนล่วงเกินครู ล่วงเกินผู้ให้ความรู้ ก้าวร้าว อย่างนี้เป็นกรรม เพราจะทำให้เขาเป็นทุกข์ในอนาคต สิ่งที่แม่ชีอยากทำคือแม่ชีอยากปลูกฝังศีลธรรมให้กับคนที่จะเกิดมาใหม่ แม่ชีอยากให้การเรียนการสอนมีวิชาศีลธรรมเข้าไปเพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าศีลห้าจำเป็นขนาดไหนกับการใช้ชีวิต<O</O
<O</O


ชีวิตที่ไม่มุ่งร้ายทำลายใคร แต่พอโตขึ้นมา ทำไมถึงมีเรื่องการทำแท้งมากมาย ศีลข้อสอง ไม่ทุจริต ไม่ลักทรัพย์ มันก็ผิดกันทุกคน ศีลข้อสามอย่างที่เราเห็นในสื่อต่างๆ ที่ออกมาไม่มีคำว่าผิดศีลเข้าไปเกี่ยวข้องเลย ศีลข้อสี่ พูดโกหก ป้ายสี ศีลข้อห้า ล่อหลอกให้อยู่ในความมัวเมามากมายผิดทุกข้อ ”<O</O
<O

ขอกราบนอบน้อมคุณครูบาอาจารย์ ดร.แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม เผยแพร่เป็นธรรมทานค่ะ
ขอขอบคุณอ้างอิงข้อมูลจาก หนังสือกรรมลวงมาร
ผู้เขียน : ดร.แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม
พิมพ์ครั้งที่ 1 มิถุนายน 2554
จัดทำโดย : บริษท บี พลัส พับลิชชิ่ง จำกัด
จัดจำหน่ายโดย : บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)<O</O​

<!-- google_ad_section_end -->​

 

ตลกดีจัง แก้กรรมแบบ เ-า เด็ก 2 ที สามารถแก้กรรมได้ 555

 

ขอเซฟ นะ

คุยกันไปเเล้วนะ เรื่องของการเผยเเพร่สื่อต่างๆ

ถ้าคุณเเม่ ยังไม่เข้าใจ ให้กลับไปอ่านหัวข้อที่ สี่ อีกรอบเเล้วกรุณาทําความเข้าใจใหม่

รับปากกันเป็นมั่น เป็นเหมาะ
เเผ่นควบใบประกอบ ของเถระสมาคมกล่าวไว้ชัดเจนน่ะเจ้าค่ะ ข้อที่ สี่ ว่าด้วยการเผยเเพร่ต่อที่สาถารณะ

กรุณาเล่นตามกฎด้วยน่ะเจ้าค๊าาาา

ส่วนผู้ที่นํามาเผยเเพร่ ก็ ระวัง งานจะเข้าเเม่ชีอีกรอบน่ะค่ะ ถ้ายังไม่เข้าใจให้ต่อสายตรงไปถามเเกเองว่า ไอ้ นราสภา เนี้ยยยยยยยย ทําไมมันถึงพูดเเบบนี้


เเล้วไอ้ข้อสี่ ของ เถระสมาคมเนี้ยมันคืออะไร ใครสงสัยเรียนเชิญค่ะ

ขอบคุณเจ้าค่ะ เราเตือนท่านเเล้วน๊าาาาา

 

ทุกอย่าง ทุกการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นของใครก็ตาม รับรู้ พิจารณา แล้วก็ให้ผ่านไป ดูตัวเอง ทำตัวเองบังคับตัวเองให้ได้ดีที่สุด เรื่องคนอื่น ช่างเขาเถอะ

 

ถาม : แม่ชีที่เป็นข่าว..?
ตอบ : ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แม่ชีท่านเป็นพุทธภูมิ เวลาทำบุญอะไรก็อธิษฐานปรารถนาพระโพธิญาณทุกครั้ง เพราะฉะนั้น..คำสอนบางอย่างอาจจะไม่ตรงกับพระไตรปิฎก ตามวิสัยพระโพธิสัตว์ของท่าน


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔

 

เคยได้ข่าว แม่ชี ท่านเคย ถูก เจ้าอาวาส วัด... ไล่ออก เป็นจริงหรอครับ ผมถามดู