แมวเหมียวมงคลฟีล์ม ภูมิใจเสนอ!"เทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่"น.64

น่าสนใจแฮะ...อิอิ
แล้วเราจะรู้ได้งัยว่าเป็นคู่บารมี..:'(

 

ส่วนเค๊า..คงจะไม่มีใครเอา..อีกเป็นแน่ :'( :'(

 

โดนอ่ะ :'(

 

ฟังเพลงดีกว่า...
<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/UbOjpz7JdzM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

อุบัติรักนาคราช

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วเหล่ามนุษย์ได้พร้อมใจกันจัดทำพิธีแสดงเขตเปิดสถานที่เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ปลูกบ้านแปลงเมืองหาทำเลอันเหมาะสมเพื่อทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปตามประสาของพวกเขา จากนั้นจึงได้ชุมนุมเทวดาประกาศสมมุติเขตกันส่วนหนึ่งไว้เพื่อใช้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกเราชาวมิติลี้ลับ(พญานาค,ครุฑ,อินทร์,พรหม,ยม,ยักษ์ ฯลฯ)

สมัยนั้นมนุษย์ยังเป็นชนกลุ่มน้อย(ประชากรโลกยังไม่หนาแน่นเฉกเช่นทุกวันนี้) พวกเขามักจะเลือกทำเลที่มีแหล่งน้ำ เงื้อมผาและท้องถ้ำ อยู่กันอย่างสันโดษและพอเพียง ท่านผู้นำกลุ่มมนุษย์เป็นผู้มีสัมผัสและสื่อสารกับมิติลี้ลับได้เป็นอย่างดี เขาเห็นว่าเราอาศัยอยู่ในน้ำก็พยายามรักษาความสะอาดดูแลมิให้มีสิ่งสกปรกตกลงไป เห็นว่าที่เนินสูงภายในถ้ำมีเทวาอารักษ์สถิตอยู่ก็พยายามหาน้ำและผลไม้ไปถวายอยู่เสมอมิได้ขาด ทุกวันเพ็ญตรงลานโล่งแจ้งกลางหมู่บ้านเป็นที่โคจรของเทพพรหม พวกเขาจะพากันทำความสะอาดและปูลาดด้วยผ้าขาวต้อนรับ ฯลฯ ชาวมนุษย์กลุ่มนี้เป็นผู้รู้กาละเทสะอันเหมาะสม จึงเป็นที่รักใคร่ของเหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายเสมอมา

ปีนั้นน้ำหลากมากเป็นพิเศษ พอถึงคืนเดือนเพ็ญ พวกเขาจึงบวงสรวงวิงวอนขอต่อเหล่าพญานาคราช ให้ช่วยบรรเทาภัยพิบัติน้ำท่วมอันจะพึงมีในครั้งนี้ ก็เวลานั้นนาคราชหนุ่มได้รับมอบหมายจากบิดาท่านเจ้านครนาคะเสนี ไปทำหน้าที่กั้นกระแสน้ำให้ไหลเปลี่ยนทิศไปทางอื่น(ท่านเจ้าเมืองติดประชุมที่เทวะสภา) โดยเนรมิตลำตัวยาวอันเป็นทิพย์ขวางกั้นสายน้ำป่า ที่ไหลอย่างบ้าคลั้งให้ห่างไกลออกจากรัศมีเขตแดนหมู่บ้าน

ครั้งนั้นนางนาคผู้เป็นบุตตรีท่านเท้าพิรุณเทพ(เป็นพญานาคสายให้น้ำ) ได้รับมอบหมายจากบิดาให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองตกในตำแหน่งที่ราบเชิงเขามากเป็นกรณีพิเศษ เพราะลูกกษัตริย์มนุษย์
ผู้มีบุญจะไปอุบัติ ณ สถานที่แห่งนั้น ให้ชำระล้างธรณีเพื่อปรับสถานที่ให้เกิดความเป็นศิริมงคล (การเกิดพายุฝนฟ้าคะนองก็เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์นั้นแหล่ะ เพียงแต่พญานาคสายให้น้ำเขามีหน้าที่เร่งให้ตกหนักหรือเบาหรือเน้นจุดสำคัญจุดใดจุดหนึ่งได้เท่านั้นเอง!)

ก็พระเอกเขามีหน้าที่ป้องกันไม่ให้น้ำท่วม แต่นางเอกกลับเร่งให้น้ำท่วมหนักๆเพื่อจะได้ชำระล้างธรณีให้เอี่ยม เมื่อหน้าที่สวนทางกันการปะทะคารมณ์จึงบังเกิดขึ้น และกลายเป็นความรักในที่สุด! เออ แบบนี้ก็มีด้วย ทำนองว่าทะเลาะกันไปทะเลาะกันมาก็เลย อิอิๆ คิกคิกๆ ^_^ ...

 

เมื่อต่างก็ได้รับมอบหมายให้ทำในสิ่งที่สวนทาง ต่างฝ่ายต่างก็โต้เทียงไม่ยอมลดลาวาศอก จึงใช้ฤทธิ์เดชเข้าต่อสู่อย่างเต็มกำลัง แต่ก็ไม่สามารถรู้ผลแพ้ชนะได้ เพราะทั้งคู่มีฤทธิ์เสมอกัน ในที่สุดจึงเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงในอัตภาพของพญางงูใหญ่ หวังให้อีกฝ่ายสิ้นฤทธิ์ในขนดลำตัวอันยาวเขื่องของตนเอง ด้วยสัมผัสอันใกล้ชิดก่อบังเกิดเป็นความสิเนห์หารักใคร่ เหมือนฟ้าดินจงใจจับคู่ให้ทั้งสองอยู่ร่วมกันในที่สุด

ฝนหยุดแล้วแต่ความรักเพิ่งเริ่มก่อตัวขึ้น ด้วยทั้งสองเป็นพญานาคต่างตระกลูจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร! คำว่ารักไม่มีพรหมแดน หากเรามีอธิษฐานสัญญามั่นต่อกัน คงได้อยู่ร่วมกันในชาติใดชาติหนึ่งอย่างแน่นอน

"ชาตินี้พี่ขอบำเพ็ญรอเจ้าอยู่ตรงนี้ตลอดไป"

"น้องก็จะรอวันนั้น วันที่ได้พบกับพี่อีกครั้ง"

นางนาคกลับสู่ทิพย์วิมานด้วยจิตปฎิพัทธ์หนุ่มนาคราชแดนมนุษย์ก็มีจิตอาลัยพันผูกมิแพ้กัน ความทราบถึงเท้าพิรุณเทพจึงขับไล่นางออกจากทิพย์วิมานเพราะทำผิดกฎ (ก็เป็นด้วยนางสิ้นอายุไขพอดี)จึงไปบังเกิดในครรภ์มนุษย์ ซึ่งเป็นพระมเหสี ของกษัตริย์นครหนึ่ง เดินทัพหลวงหนีภัยอริราชศรัตรูผ่านมาทางหมู่บ้านหินผา พระมเหสีปวดพระครรภ์มาก ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ พระราชาจึงสั่งให้พักทัพ ณ หมู่บ้านหินผาจนกว่าจะคลอด เห็นว่าเป็นชัยภูมิเหมาะและชาวบ้านให้การต้อนรับเป็นอย่างดี จึงได้สร้างเมืองขึ้นมาแล้วขนทรัพย์ไปเก็บไว้ในถ้ำ พระมเหสีนิมิตเห็นสายฟ้าสีขาวเป็นเส้นยาววิ่งสู่พระครรภ์ จึงได้ประสูตรพระธิดา ขนานนามว่า "แก้วฟ้าสายสุรี"

เริ่มย่อบ้างแหร่ะ โม้นานๆชักเบื่อ ^_^

 

อ้าวววว..กำลังอ่านเพลินๆ เลย

ปอลิง..หากแมวเหมียวว่าง รบกวนช่วยตามหา ญาติของ

ศรีสัจจะรัตนวดีนารีรัตน์​

ให้หน่อยจิ ^^

 

เห็นด้วยกับคุณ mukmik. นะ กำลังได้ฟิวเลย คุณแมวเหมียวเล่าได้น่าติดตามมาก อย่าพึ่งเบื่อนะ ^_^ เป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆ

 

คั่นเวลาด้วยเพลงประกอบฉาก รอคุณแมวเหมียวมาเล่าต่อ

" เพลงฝนตก "

<iframe width="420" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/tFTIRXplpN4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

คุณแมวเหมียวหายไปไหน ทำคนอ่านชะแง้คอหา อย่าบอกนะว่า กำลังอิน ไปบีบน้ำตา ให้วันเก่าก่อนที่ผ่านมา เหมือนวันวาน เมื่อวานฝนตก วันนี้อากาศสดใสแล้ว มามะ.
.มาเล่าต่อเถอะค่ะ
ปล.ไม่กวนอารมณ์แล้วละคะ ^_^"

 

พระธิดาเจริญวัยมาโดยลำดับพร้อมกับความเจริญรุ่งเรื่องของบ้านเมือง ชาวบ้านหินผากับชาวนครหล่อหลอมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่นานประชากรพลเรือนก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น กลายเป็นอณาจักรที่เข้มแข็งจนเป็นที่เกรงขามของเหล่าอริราชศรัตรูครั้งอดีต แต่กษัตริย์พระองค์นี้ไม่ทรงปรารถนาที่จะทำศึกสงครามทวงบ้านเมืองเดิมกลับคืนมา ขอเพียงให้ประชากรอยู่กันอย่างผาสุขก็พอแล้ว จึงเป็นที่รักใคร่ของเหล่าประชาราษฎร์ละปวงเทพเทวา ให้การดูแลป้องกันรักษา เป็นอย่างดี ภายหลังจึงมีชื่อเรียกขานนามพระนครใหม่ว่า "มนต์นราเทวราชเทพสถิต"...

"เสด็จแม่ เมื่อคืนหญิงฝันเห็นพญางูใหญ่สามหัวอีกแล้ว เหมือนเขาอยากคุยกับหญิงแต่หญิงก็วิ่งหนีและตื่นก่อนทุกที"

"ถ้ามิได้ทำร้ายเราแสดงว่าเขามาดี คงเป็นเทพเทวาที่รักษาสถานที่นี้น่ะลูก"

หนุ่มนาคราชเฝ้าคอยการกลับมาของหญิงคนรัก ไม่นึกเลยว่านางจะมาอุบัติเป็นหญิงแก้วฟ้าสายสุรี พระธิดาของนครมนต์นราฯที่ตนดูแลรักษา (ที่แท้ลูกกษัตริย์ผู้มีบุญคนนั้นก็คือองค์หญิงแก้วฟ้าฯน่ะเอง) ตั้งแต่นางเกิดมาพืชพันธ์ุธัญญาหารก็อุดมสมบูรณ์ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ผู้คนรักใคร่ปรองดองอยู่กันอย่างปกติสุขสืบมา

"สัญญามั่นมิเสื่อมคลาย
แม้ตัวตายแหลกสลาย
มีเพียงเจ้าตราบชีพวาย
ผสานรักไว้เป็นหนึ่งเดียว

หนทางแสนยาวไกล
ภพชาติใดมิข้องเกี่ยว
มั่นคงไว้เพียงรักเดียว
ธรณีนี้ขอท่านเป็นพยาน

กลางแสงจันทร์งามเด่น
เราสองวอนอธิษฐาน
สถิตไว้ชั่วกาลนาน
ร่วมสายทางการบำเพ็ญ

เจ้าเป็นฝนไหลหล่อเลี้ยง
ข้าคือผืนปฐพีหนา
ขอประกาศไว้เป็นสัจจา
คู่กันตราบฟ้าดินมลาย"
คู่กันตราบฟ้าดินมลาย
คู่กันตราบฟ้าดินมลาย!!

เสียงชายหนุ่มและหญิงสาวลึกลับเปล่งคำอธิษฐานร่วมกันท่ามกลางแสงจันทร์เพ็ญ ยังคงดังก้องในจิตแห่งนางผู้ตกอยู่ในห้วงภวังค์นิททรา หญิงแก้วฟ้าฯ มีพระพักต์อันเปียกชุ่มตื่นบรรทมเมื่อยามใกล้รุ่งสาง นางในวัยดรุณีบัดนี้ถึงกาลเพลาที่จะมีคู่ครองแล้ว พระบิดาส่งเที่ยบประกาศเชิญเหล่ากษัตริย์เชื้อพระวงศ์จากทั่วทุกสารทิศ มาร่วมรับมาลัยเสี่ยงทายเพื่อเลือกคู่ครองให้พระธิดาฯ ซึ่งบัดนี้กลายเป็นองค์หญิงผู้เลอโฉมแห่งพระนครมนต์นราฯ อันเกรียงไกรไปแล้ว...

 

การบำเพ็ญของเหล่าพญานาคราชนั้นมีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งที่ปรารถนาให้ตนอายุยืนยาวนานตลอดกัปล์ ปรารถนาเป็นผู้มีฤทธิ์ธานุภาพมากกว่าใครทั้งผอง เป็นผู้มากด้วยบริวาร เป็นผู้มีวิมานอาศัยอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า เป็นผู้มีอาหารทิพย์โดยไม่ต้องบริโภคอาหารหยาบ ฯลฯ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกสายวงศ์ตระกูลบำเพ็ญแล้วต่างก็มีสิทธิ์ได้ลับเลื่อนฐานันดรศักดิ์ของตนให้สูงขึ้นเหมือนกัน กล่าวคือการลอกคราบในแต่ละครั้งของเหล่าพญานาคราช ไม่ว่าจะเป็นทุกหนึ่งร้อยปี หนึ่งพันปี หมื่นปี หรือมากกว่านั้น ย่อมมีคุณวิเศษตามมาด้วยเสมอ

แต่เดิมทุกสายมีเพียงเศียรเดียวเท่าเทียมกันหมด แต่แล้วก็เพิ่มขึ้นมาเป็น สามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียร จนถึงเก้าเศียรในที่สุด (จะมากกว่านั้นก็ด้วยฤทธิ์ธานุภาพเสริมที่อธิษฐานจิตให้เป็นไปในแต่ล่ะกรณี) หลังจากลอกคราบแล้ว ซึ่งมีข้อแตกต่างจากงูบริวารธรรมดาทั่วไปที่มีเพียงขนาดของลำตัวเท่านั้นที่ยาวใหญ่ขึ้น พญานาคราชที่บำเพ็ญได้เก้าเศียรแล้ว ย่อมมีโอกาสได้รับเลือกให้เป็นเท้ามหาราชผู้ปกครองเหล่าพญานาคราชทั้งปวง ซึ่งก็ได้รับมติจากเท้าสักกะเทวาธิราชเจ้าผู้ปกครองเท้ามหาราชทั้งสี่อีกทีนึง โดยปกติแล้วท่านก็จะเรียกมาประชุมในวันสำคัญๆอยู่เป็นประจำ เพื่อประโยชน์สุขของชาวโลก ซึ่งก็เป็นหน้าที่ตามหลักธรรม และกฎแห่งกรรมที่หมุนเวียนสืบต่อกันไปนั้นเอง เมื่อถึงการอันควรแม้แต่องค์อมรินทร์เองก็ต้องจุติ และเปลี่ยนองค์ใหม่ขึ้นดำรงค์ตำแหน่งแทน

ในยุคสมัยนี้พญานาคราชตระกูลสีทอง ได้รับเกียรติให้เป็นสายของเท้ามหาราชโดยตรง ซึ้งบำเพ็ญได้เก้าเศียรแล้วจึงได้รับอัตภาพเป็นเทพบุตร มีรัศมีกายอันสว่างรุ่งโรจน์เหนือกว่าเหล่าพญานาคราชทั้งปวง ก็ไม่ตายตัวเสมอไปอยู่ที่การบำเพ็ญของแต่ละท่าน บางยุคบางสมัย เมื่อหมดวาระแล้ว เท้ามหาราชองค์ใหม่อาจมาจาก สายตระกูลสีดำ สีรุ้ง สีเขียวบ้างก็เป็นได้...

เมื่อลูกหลานหรือบริวารของสายใดมาเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมมีความผูกพันอันเกิดจากสัญญาเก่าฝังอยู่ในจิตลึกๆ ไม่มากก็น้อย เป็นจริตที่มักจำอะไรฝังใจ แค้นก็แค้นแรง รักก็รักแรงปล่อยวางอะไรไม่ค่อยได้ มักจมอยู่ในอดีตเก่าๆเสมอ ดังจะเห็นได้จากบางคนมีเซ็นส์ว่าใครคนนั้นติดตามเราอยู่ ก็จะมั่นคงในความรู้สึกนั้น เหมือนเป็นญาติ พ่อ แม่ พี่น้อง คนรัก ครูบาอาจารย์ ฯลฯ และจะมีการบำเพ็ญเพียรทางจิตเพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านเหล่านั้น...

 

อย่างนี้...จะหลุดวงโคจรกันไปเลย
รึว่า...ชาติหน้า ว่ากันใหม่ได้ หนอออ

 

เอ่อ!...(⊙o⊙) ไม่ได้มาจุ้นนะคะ แต่แบบว่า เป็นโรคชนิดนึง ถ้าสนใจเรื่องใดแล้ว มักจะตั่งหน้าตั่งตารอ (อยากอ่านมากกกก)please!!! ♥♥♥♥ลากเสียงยาววววๆๆๆ 555

ปล.น่าจะรวมเล่มเป็นหนังสือขายนะเนี่ย สนุกดี ค่ะ

 

เค๊าก็มาปูเสื่อรอฟัง นิทาน แบบเงียบๆ แบบเรียบร้อยๆ ทุกวันเบย ^^

 

555 ไม่คิดว่าจะมีคนเป็นเหมือนกัน ได้ยินไหมคุณแมวเหมียว แฟนคลับร้องเรียกหา ให้เห็นในคุณค่า ว่าที่เรียกหาเพราะรอจิงจิง (โปรดสังเกตุ จิงจิง มิใช่ จริงจริง)

คุณ mukmik เรียบร้อยจังค่ะ บางทีเราก็เป็น บางทีเราก็ติ้งต้อง ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย

 

ระหว่างรอ เมื่อคืนฝันตัวเองท้อง กำลังจะคลอดลูก มีญาติสองคน คอยถามว่าปวดรึยัง ๆ .เราก็ว่า ยัง เดี๋ยว พอสักพักนึกได้ว่า เอ๋แล้วเราท้องได้ไง ? ใครเอาเด็กมาใส่ท้องเรา ก็ตื่นมาเที่ยงคืน คิดแล้วขำๆ
หลับต่อ ก็ดันฝันไปว่า ได้เดินตามหญิงคนหนึ่งไปดูชุด เธอจะให้เราใส่ แต่ที่นั่นเป็นที่โล่งกว้าง มีต้นไม้ใหญ่อยู่สองสามต้น เราเดินลุยหญ้าเข้าไปจับต้นไม้ต้นหนึ่งประมาณหนึ่งคนโอบ แล้วมองไปยังเรือนไทยหลังหนึ่งที่ดูร้าง แต่ใหญ่และน่าอยู่ .คิดในใจว่า น่ามานั่งปฎิบัติสมาธิที่นี่จัง ลมเย็นๆพัดมาให้สบายใจ แล้วก็ก้าวเดินตรงไปตรงเรือนนั้น หาทางขึ้นเรือน แต่ต้องตกใจ พบชายคนหนึ่ง แบบว่า เรารีบเดินหนี เพราะอีกฝ่ายจะเข้ามาหาเรื่อง(นัยว่าเราคือผู้บุกรุก) พอหลบได้ก็เจอลูกหมาฟันแหลมมาก กระโดดงับมือเรา ขนาดเราง้างปากและจับมันเขวี้ยงทิ้ง มันก็ยังกระโจนมาจะกัดอีก ทำแบบนี้อยู่สองสามครั้ง เลยตัดสินใจหนี .พอดีเห็นมีคนอีกคนกำลังขโมยบางอย่าง เลยร้องตะโกนว่า " นั่นไง คนบุกรุกอยู่นั่น " ชี้ไม้ชีมือไป แล้วก็เห็น เสือรึสิงโต วิ่งไล่ใครคนนั้น เราก็มานั่งพักตรงเก้าอี้ไม้ไผ่ แบบบ้านนอก (แคร่) แล้วพวกลูกหมา พ่อหมา ก็มานั่งลิ้นห้อยข้างๆ ปรากฎพ่อเรามา ถามว่า ไอ้ตัวไหนที่แน่ เราก็ห้ามบอกว่า อยากโดนกัดเหรอ . เราก็มอง แม่หมาตัวเล็กนิดเดียว ลูกหมาเหมือนตัวหมาป่า ตัวพ่อนี่เหมือนหมาแบบไฮยีน่า แต่ละตัวแบบเป็นเรื้อน รึพวกถูกเห็บกัดเยอะ จนขนไม่ค่อยมี แล้วตื่น ตื่นมาตีสี่กว่าๆค่ะ แปลว่าไงคะแบบนี้

เล่าระหว่างรอนิทานของจริง ว่าแต่ .ท่านศรีสัจจารัตนวดีนารีรัตน์ คือใครคะ ได้ข่าวว่า คุณ mukmik. หนีท่านมารึ?

 

ข่าวพิธีเลือกคู่ขององค์หญิงแก้วฟ้าสายสุรี แห่งนครมนต์นราเทวราชเทพสถิต ขจรไปทั่วทุกสารทิศ นี้เป็นพิธีกรรมแบบโบราณที่สืบทอดกันมาช้านานแล้ว หากบ้านเมืองใดมิได้ตกเป็นเมืองขึ้น ก็จะสามารถจัดพิธีอธิษฐานเสี่ยงทายพวงดอกไม้เพื่อเลือกคู่ครองที่เหมาะสมให้กับองค์หญิงได้ ตามความเชื่อที่ว่า "ฟ้าส่งมาเป็นคู่กัน" ชาวไพรฟ้าประชาราษฎร์ก็จะอยู่เย็นเป็นสุขพืชพันธ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ฯ เพราะธิดาและโอรสที่จะมาบังเกิดในอุทรต่อไปในอนาคต ย่อมเป็นองค์สมมุติเทพที่สวรรค์ส่งมาโดยแท้ (คนโบราณเขามองการณ์ไกลถึงเพียงนี้) ซึ่งมีข้อดีหลายอย่าง เช่น จะได้มีผู้คนรู้จักนครแห่งนี้มากขึ้นถือเป็นการประกาศเกียรติศักดิ์ชื่อเสียงไปในตัว และจะได้พันธมิตรเป็นราชบุตรเขยต่างนคร ทำให้บ้านเมืองเข้มแข็งมากขึ้น อะไรที่ได้มายากๆมักมีคุณค่า องค์หญิงเมื่อไปอยู่กับเขาย่อมได้รับความรักและเอาใจใส่เป็นอย่างดี (ซึ่งผิดจากการส่งเป็นเครื่องบรรณาการ องค์หญิงจะดูไร้ค่าทันที...เพราะเป็นเมืองขึ้น หรือเป็นรองเขาจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด อะไรประมาณนั้น)

ในทำนองเดียวกันหากบ้านเมืองใดว่างจากกษัตริย์ขาดทายาทสืบสันติวงศ์ ถือเป็นลางร้าย คณะผู้บริหารจะทำพิธีปล่อยราชรถเสี่ยงทาย หากรถม้าไปจอดต่อหน้าบุรุษใด ก็จะถือว่าบุรุษผู้นั้นเป็นผู้มีบุญญาธิการสูง มีคุณสมบัติควรคู่กับราชสมบัติ ก็จะได้รับการพิจารณาให้ขึ้นครองราชสืบต่อไป (จึงเป็นที่มาของคำพังเพยที่ว่า "ราชรถมาเกย" ใช้เปรียบเทียบบุคคลทั้งชายหญิง ผู้มีโชคดีมีบุญวาสนาสูงส่ง อยู่ดีๆก็ได้กินบนกองเงินกองทอง อยู่อย่างสุขสบายไปตลอดทั้งชาติ)...

แน่นอนว่าบรรดาชายหนุ่มที่มีเชื้อสายกษัตริย์จากทั่วทุกสารทิศที่ยังมิได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสมาก่อน ย่อมมีสิทธิ์เข้าร่วมงานมหามงคลพิธีเสี่ยงพวงมาลาทิพย์นี้เท่าเทียมกัน ซึ่งในนครหนึ่งๆอาจมีพระโอรสได้หลายพระองค์(เมียหลวงเป็นร้อย เมียน้อยเป็นพัน จึงมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองด้วยประการฉะนี้) แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครมีเชื้อสายกษัตริย์จริง มิได้ปลอมตัวหรือยกเมฆมา?

เขาก็มีสัญลักษณ์บอกนะสิ

1. เครื่องทรง หรือการแต่งตัวย่อมแตกต่างจากคหบดีหรือชาวบ้านธรรมดาอยู่แล้ว ขืนใครลอกเลียนแบบก็มีโทษสถานเดียวคือตาย! แต่หากว่าท่านต้องการแต่งตัวแบบเรียบง่ายหล่ะ จะดูรู้ได้ไง? ก็ต้องพิจราณาข้อต่อไป

2. ออร่า มีผิวพรรณที่ผ่องใสละเอียดอ่อน หรือ ท่วงท่าอันสง่างามและมีบริวารห้อมล้อม ใช้สำนวนคำพูดชั้นสูง(ราชาศัพท์)

3. เครื่องประดับเฉพาะ เช่น สร้อยสังวารอุณหิส กำไลพระกร พระปิ่น แก้วมณีมุกดา และของวิเศษล้ำค่าอื่นๆ แต่ถ้ากษัตริย์เสด็จมาเองก็จะได้รับการต้อนรับเป็นกรณีพิเศษ และมีสัญลักษณ์เฉพาะนั้นก็คือเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์หนึ่งในห้าอย่างติดมาด้วย เช่น พระแสงขรรค์ ธารพระกร(ไม้เท้า) พระแส้หรือพัด ฉลองพระบาท พระมงกุฎ

4. ของขวัญหรือของฝากที่เป็นมงคลต่างแดน หรือ จำพวกของหายาก มันเป็นทำเนียมของการเยี่ยมเยือนกัน จะต้องมีอะไรติดไม้ติดมือมาด้วย เพื่อเป็นที่ประทับใจ (อยากได้ลูกสาวเขา จะมามือเปล่าได้ไงจริงป่ะ) คณะกรรมการผู้กว้างขวางจะรู้ทันที ว่าวัตถุของสิ่งนี้มีค่าแค่ไหน

การพิจารณาสี่ข้อข้างต้น เพื่อดูคุณสมบัติต่างๆของผู้สมัคเป็นราชบุตรเขยก็มากพอแล้ว เพราะความลับไม่มีในโลก และคนสมัยก่อนเป็นผู้มีคำสัตย์ความจริงสูง งานนี้จึงไม่มีผู้แอบอ้างหรือสวมรอยเข้ามาแน่นอน จะมีก็แต่พระเอกของเราที่จำแลงกายเป็นมนุษย์ เข้ามาร่วมงานครั้งนี้ด้วย ก็เขารักของเขาและมีสัญญาผูกพันกันมาก่อน จะปล่อยนางให้ตกเป็นของคนอื่นได้ไง และก็มิได้โกหกด้วยเพราะเขาเป็นองค์ชายนาคราชแห่งเมืองเสนีนาทบาดาลนคร ซึ่งมีมิติภพทับซ้อนกันอยู่ใต้หมู่บ้านหินผาน่ะเอง...

งานนี้มีศึกชิงนางแน่นอน เพราะองค์ชายต่างก็มีฤทธิ์ของดีของวิเศษไปคนล่ะแบบ จากร้อยกว่าคนในรอบแรกก็ต้องแสดงฝีมือ เพื่อดูความสามารถกันหน่อย กว่าจะได้เข้ารอบสุดท้าย เพื่อรับการเสี่ยงมาลัยจากสาวเจ้า มิใช่เรื่องง่ายๆเลย

ไม่ติดตามตอนต่อไป ไม่ได้แล้วววววววววว...

 

ขออภัยที่ให้รอนาน บางครั้งเหนื่อยมากมาย จิตใจไม่สงบถ้าฝืนเล่าไปเกรงว่าจะไม่ครอบคลุมเนื้อหา เพราะอารมณ์ไม่ปกติ บิ้วอารมณ์ไม่ขึ้นเรื่องราวก็ฝืดๆถ่ายทอดความรู้สึกออกมาจากจิตใจได้ไม่หมด ดังนั้นก็ว่ากันไปตามอารมณ์แล้วกันครับ ^_^

 

เป็นคำถามที่ดีครับ
และเชื่อว่าหลายท่านคงอยากรู้ บทสรุปสุดท้ายของนิทาน มีคำตอบแน่นอน!!