เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    [​IMG]

    นำเที่ยวอีกที

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สามคนนี้เค้าทำอะไรกัน 5-5-5
    อ่อนั้งคุยกับพญานาคนี่เอง

    [​IMG]

    ในบ่อมีพลังของพญานาคจริงๆไม่เชื่อก็ลองดูครับ
    ผมไปนั่งแป็บเดียวจะชวนลงน้ำยันเลย 5-5-5

    [​IMG]

    5-5-5
     
  2. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    แวบเข้ามาดู..เพิ่งว่างจากการดูข่าว เสื้อแดง ปิด ถนน
    ก็พอดี "วิษณุ" เอารูปลงประกอบเรื่อง..มีทั้งป้ายหน้า ปราสาทเมือง ต่ำ
    สระน้ำ บารายที่ศักดิ์สิทธิ์ มีพญานาค ดูแล..สามารถสัมผัสพลังได้
    มีทั้งรูป สามหนุ่ม นั่งสมาธิ เหนือ บาราย อันศักดิ์ สิทธิ์
    และ หน้า บัน อันสวยงาม ทั้งชุด ที่เกี่ยวกับ มหาเทพจำหลัก
    ทั้งหมดเป็นรูปประกอบ จาก การเที่ยวปราสาทเมือง ต่ำ
    ........................................................................
     
  3. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ ตอน ทัวร์ อิสานใต้ (ต่อ)
    .................................................................
    หลังจาก เดินดูจนทั่ว แล้ว ก็ ถอยกลับมายัง รถ
    ต้องเดินไกล เช่นขาเข้ามา..ชักเมื่อยขา เพราะเดิน กันยาว
    เราเดินนำหน้า..เด็กน้อย ไกด์เดินตาม..ท่าทาง..งงๆ
    ................................................................
    วันนี้เจอคนแปลก..ทำท่าเหมือนคนมีฤทธิ์ก็ไม่แน่ใจ
    เดี๋ยว เอามือ ยก ขึ้นฟ้าสูง..จุดธูป ไหว้ เทพ
    เดี๋ยวทำท่า ลูบคลำอะไร กลางอากาศ
    พวกเขาบ้าหรือ เปล่า..... เนี่ยะ ????
    แต่ เอ... คงไม่บ้า มั๊ง..เพราะแกทิปค่าไกด์ ตั้ง 100.-บาท
    ค่าเรียนหนังสือ เปิด เทอม..รัฐบาลให้มาแล้ว 700.- บาท
    นี่ได้ ค่าไกด์อีกวันละร้อย..อย่างต่ำ.เปิดเทอม คราวนี้ สบายแฮ
    .....................................................................
     
  4. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    กลับมาที่รถ..เมื่อพร้อมก็ เดินทางต่อ สู่ ปราสาทเขาพนมรุ้ง
    ที่อยู่ บนเขา ห่างออกไป ประมาณ 5 กม.
    ทางขึ้น ค่อยๆๆ ชัน..แต่ไม่หวาดเสียว เพราะ ถนนกว้าง
    พอขึ้นไปถึงยอด..พบว่า เราขึ้นมาทางด้านหลัง
    จึงต้องแล่นลงมาด้านหน้า ซึ่งเป็นที่ จอดรถ นักท่องเที่ยว
    ..............................................................
    ทางขวามือเป็น ลานกว้าง ไว้สำหรับ จอดรถ นักท่องเที่ยว
    มองเห็น รถ สารพัดชนิด ทั้ง เก๋ง / ปิคอัพ และ รถทัวร์ คันใหญ่
    รวมแล้วมากกว่า 20 คัน...นับว่ามากพอสมควร
    .................................................................
    หน้าลานจอด.มีแผงร้านค้า ขายของที่ ระลึก และสินค้า พื้นเมือง
    เรียงเป้นแถว มากกว่า 20 ร้าน..เรียงเป็นแถวยาว
    เราทำแค่เดินผ่าน..ไม่ได้ แวะ..เพราะ ไม่ใช่เป้าหมาย
    กึ่งกลางทาง มีด่านเก็บค่าชมสถานที่..
    แต่เรามีแล้ว จากปราสาทเมือง ต่ำ..จึงไม่ต้องซื้ออีกครั้ง
    ....................................................................
     
  5. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เมื่อผ่านด่านมาได้..ก็ค่อยๆๆ เดินสูง ขึ้น ตามขั้นบันได คอนกรีตที่เทไว้
    สังเกตุเห็นว่า มาครั้งนี้..มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง..แปลกไปจากครั้งที่แล้ว
    มองเห็นมีการเอาเศษ ก้อนหิน..มาวางซ้อนๆๆ กัน .ทำเหมือนก่อ เจดีย์
    กระจายไป ทั่ว..เข้าใจว่า เป็น การก่อ เพื่อ บุญ และต่ออายุ ตัวเอง
    .........................................................................
    ขึ้นมาถึงจุดสูงสุด ของ ขั้นบันได..ที่กว่าจะถึงก็เหนื่อยเอาการ
    มองทางซ้าย..โน่น..ที่เห็นสูงตระหง่าน..สูงขึ้นไปอีก..
    นั่น คือ มหาปราสาท พนมรุ้ง อันสวยงาม..ที่ ตั้งอยู่บนยอดเนิน
    ...................................................................
    จากจุดที่ ยืน..มีทางเดิน ปูด้วยหินโบราณ กว้าง ประมาณ6 เมตร
    มีเสาหลัก ปูน ที่ ทำไว้ ประดับโคมอัจกลับ.
    ที่ให้แสงสว่าง เวลากลางคืน...ช่วงเสา ได้ระยะพอดี ประมาณ 2.5 เมตร
    เป็นทางยาว จนถึง ตัวปราสาท ประมาณ 150 เมตร
    ......................................................................
    ในงานพิธีกรรมจริง..จะมีขบวนแห่ นางอัปสร..และเจ้านาง บนแคร่หาม
    ในปัจจุบัน เพื่อ ส่งเสริม การท่องเที่ยว ทุกปี..จะมีการจัดขบวนแห่ เช่นเดิม
    มีนางอัปสร สวยงาม คัดจากสาว ชาวบ้าน..แต่งชุดโบราณ..
    ครึ่งบนใส่เสื้อ เรียบร้อย..ไม่เปลือย อก เช่นในยุคสมัยพระเจ้าวรมัณ ที่ 7
    .............................................................................
     
  6. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เราสี่คน พากันมายืนพร้อมหน้า ที่ จุดเริ่มต้น
    ของ ทางอันศักดิ์ สิทธิ์ ที่ มุ่งสู่ มหาปราสาทนั้น
    หลับตา พนมมือ..ขอถวายจิตและกุศล ..
    และขออนุญาต เข้า สถานที่..ต่อมหาเทพ ที่ อยู่ ณ ที่ นั้น
    ................................................................
    ด้วยตาใน..เรามองเห็น พรมสีทอง กว้าง เท่า ความกว้าง ถนน
    กลิ้ง ปูลาดลงมา จาก มหาปราสาท..
    แปลว่า มหาเทพ ทรงเปิด และต้อนรับ แล้ว
    ...................................................................
    เราทั้งสี่คน จึง ค่อยๆๆเหยียบ บนพรมสีทอง ที่กลิ้งปูมานั้น
    และค่อยๆๆ เดินตรง ไปยัง มหาปราสาท ที่เห็นอยู่เบื้องหน้า
    อย่างช้าๆๆ...ในอาการตัว เบา และ ตัว ลอยๆๆ..เดินสบายๆๆ
    ....................................................................
    ไปถึงตีนบันได ขึ้นสู่มหาปราสาท
    ที่ ตีนบันได..มีพญานาค 7 เศียร. อยู่ข้างบันได ตัวละข้าง
    ในสไตล์ ขอม คือ...เหมือนฝ่ามือ แล้ว มีหัวนาคแต่ละหัวแปะอยู่นิ่งๆๆ
    ต่างกับของสไตล์ไทย ที่ พญานาคเศียรจะเหมือน นิ้ว ที่ มีคอ
    และยาว...โยก ตัวไป-มา ได้..เหมือนตัวไฮดรา
    ................................................................
    มีร่องรอยจากการถูกผู้ประสงค์ ร้าย ทำลาย ทุบแตกไป บางส่วน
    ยังไม่ได้ ซ่อม ให้เข้าที่ เหมือนเดิม..ตามที่หนังสือ พิมพ์ ได้ลงข่าวไว้
    ........................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2009
  7. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ก้าวขึ้นตามขั้นบันได ไป ประมาณ 9 ขั้น แต่ละขั้นสูง กว่า 1 ฟุต
    ก็มองเห็น "บัวเหล็ก" แปดเหลี่ยม ขนาดใหญ่..
    อยู่กลางลาน หน้า เทวาลัยแรก..
    มีการสร้าง แผงเหล็กโปร่ง ไว้กัน ผู้คนเหยียบ..ทำให้เสียหายได้
    ..................................................................
    ทั้งสี่คน ก็เช่นเดิม..รู้ว่า จะต้อง ทำอะไร
    เอาขวดเปล่า "เอ็มร้อยห้าสิบ"ใส่ทรายมาวาง
    ถวายพวงมาลัยใหญ่..โดยวางไว้ บนแผงเหล็ก
    ..........................................................
    จุดธูป9 ดอก..สวดมนต์ บท บูชา มหาเทพ สั้นๆๆ
    ปักลงในขวดเอ็ม ร้อยห้า สิบ ที่ วางไว้ก่อนแล้ว
    ....................................................................
    พอได้ จังหวะ ก็ เอาสองมือ ยื่น เข้าไปในแสงสีม่วงเข้มนั้น
    ที่เห็น ชัดๆๆ ว่า เป็นเหมือนลำแสง สีม่วงเข้ม
    ลอยจากดิน ขึ้นสู่เบื้องบน
    นี่ คือ "ช่องทาง ติดต่อ ระหว่างโลกมนุษย์ กับ เบื้องบน"
    มีพลังดัน ค่อนข้างสูง ที่ จะยก มือ เราให้ ลอยขึ้นไปได้
    ........................................................................
    (มีต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2009
  8. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    วันก่อนไปเขียนไว้อีกกระทู้มีความรู้สึกขัดกับหัวข้อเลยยกมานี่ดีกว่า

    เป็นเรืองๆหนึ่งที่ผมไม่ชอบแต่ดันเจอบ่อยๆ คือการที่คนที่มาคุยกับเราแล้วให้เราดูกรรมเก่า

    เนื่องจากตอนนี้กำลังอินเทรน เพราะมีรายการนึ่งที่ออกและกำลังเป็นประเด็นการแก้กรรม

    เวลาเราไปเจอใครหรือคยกับใครเลยมีการให้เราดูให้ ถามว่าเห็นไหมต้องตอบว่าเห็น

    เห็นในสิ่งที่เค้าทำบางที่เราก็ไม่กล้าบอกไปตรงๆ เนื้องจากบาปนั้นบางที่แรงมากและเรื่อง

    บางเรื่องเจ้าตัวไม่รู้น่าจะดีกว่าเพราะถ้ารู้อาจจะอับอายเป็นสิ่งที่เค้า ไม่น่าจะรู้เพราะกรรม

    ส่วนใหญ่ได้ชดใข้ในสวนของนรกมาบ้างแล้วจึ่งไม่น่าจะจดจำมาในปัจจุบัญ

    ผมเขียนเป็นข้อๆเลยดีกว่าว่าการที่เราจะไปรับรู้อดีตนะมีทุกอย่างไง

    1.การที่รับรู้อดีตทำให้จมปักกับสิ่งเดิมๆคนเดิมๆคู่เดิมๆซึ่งทำให้เกิดแต่ทุกขเวทณา

    ไม่จบไม่สิ้นมีความผูกพันกับแบบไม่น่าจะเป็นไปได้ คือถ้าได้เจอในเวลาที่ดีสถานะที่ดี

    ก็ดีไปแต่มันก็ไม่ได้อะไรดีขึ้นมาหลอกครับ

    2.จะทำให้การทำบุญแล้วได้ไม่เต็ม100 คือการทำบุญทุกครังเนื่องจากเรารู้กรรมว่าเกิด

    จากอะไรจิตก็จะพวงเรื่องนั้น การตั้งจิตอธิฐานก็จะมีข้อเเม้คือให้ไปชดใช้กรรมเหมือน

    ทำบุญแล้วต้องการหวังผลถ้าทำบุญอย่างนี้ทำไป100ได้ถึง5บาทหรือเปล่ายังไม่รู้เลย

    3.จะทำให้ต้องมีกรรมผูกพันธ์กับผู้คนไปไม่จบไม่สิ้น จิตจะสแวงหาความรู้สึกของชาติ

    ภพเดิมๆไม่จบไม่สิ้น คำว่านิพาณลืมไปได้เลยครับ เพราะยังตัดกรรมไม่ได้จริง

    การทำบุญโดยการให้ทานนั้นผลที่จะได้ต้องเกิดจากใจที่ดีบริสุทธ์ไม่หวังที่จะได้

    อะไรตอบแทนแต่หวังว่าทานที่ให้ไปจะไปช่วยเหลือเค้าได้มากที่สุดโดยที่เราไม่เดือดร้อน

    จึงจะถูกต้องครับ การจะฟันฟ่าอุปสักที่ดีที่สุดหรือฟ่าความยากลำบากที่ผมใช้มาแล้วได้

    ผลมาคือการนั่งวิปัสณา ในตอนแรกผมก็ไม่คิดว่ามันจะได้ผลแต่พอได้เอาตัวเองพิสูจณ์

    แล้วจึงทราบว่าวิปัสณานั้นเป็นของจริงแก้ได้จริง แต่ต้องทำให้จริงจังแค่นั้นเอง

    แล้วถ้ามีคนถามว่าแล้วไอ้ที่ว้าจริงจังขนาดไหนนะ คำตอบก็คือ เอาทุกของเราตั้งแลัว

    เอาการปฏิบัติเรามาเป้นตัวเปรียบเทียบว่ามันพอจะเท่าเทียมกันหรือยัง ถ้าทุกยิ้งมาก

    ยิ้งต้องนั้งวิปัศณาให้เยอะตามทุก เอาให้มากกว่าทุกนั่นและแล้วเราจะแก้ทุกได้เองครับ
     
  9. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    [​IMG]

    [​IMG]

    บริเวณทางขึ้นจะพบกับการนำหินมาวางซ้อนกันดังรูปที่เห็น
    ใหญบ้างเล็กบ้าง ถ้าคนแถวนั้นรวมทั้งคนที่มาก่อเอาไว้
    ตอบไม่เหมือนกันซักคน บ้างว่าก่อแล้วต่ออายุ บ้างก็ว่า
    เหมือนมาสร้างเจดีเล็กๆแล้วได้บุญ อีกหลายอย่าง สรุป
    ไม่มีใครรู้จริงซักคน เห็นคนอื่นทำก็ทำตาม ไม่รู้ถูกผิดดีไม่ดี

    [​IMG]

    ทางขึ้นจะเป็นบันไดกว้างๆ ตอนแรกก็งงว่าเค้าทำกว้างๆไปทำไม
    ที่อื่นเค้าเล่นสั้นๆเป็นร้อยๆขั้น กลับถือเป็นมงคลซะอีกก็เลยย้อนดูด้วยจิต
    ก็ได้คำตอบมาคือที่ทำอย่างนี้เนื่องจากสบายในการแบกเสรียงของกษัติร์ขึ้นมา
    จะไม่ลำบากมากนักครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    อาจารย์กำลังจะชักพรมให้เดินดูครับ

    [​IMG]

    เดินไปก็มีความรู้สึกยุ่นๆที่พื้นดีครับไม่รู้สึกกระดางที่เท้าเลยดีจริงๆ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    สัมผัสพลังกันอย่างสนุกสนานเลยครับ แต่เนื่องจากที่พนมรู้งเคยมีเหตุการ
    เค้าจึงมีการจัดเวณยามดูตลอดว่าใครมาทำมาไหว้อะไร เลยต้องรีบสัมผัสรีบไป
    ยังไม่ทันได้มันเท่าที่ควรเลยครับ

    [​IMG]

    ถึงซักทีคืออาจารย์มาบ่อยเลยไม่อยากขึ้นเท่าไรปล่อย ผมกับอาจีรศักดิ์ไปกันสองคน

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]

    ปรกติหน้าบันของประสาทจะหนามากแต่เนื่องจากมีการขโมยนำออกไปจึงฟานให้บาง
    อย่างที่เห็นนะครับว่าต้องมีปูนเสริมออกมา

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ราน้ำนี้มาจากแทนศิวะลึงค์ด้านในถ้าดูในอีกมิตนึงจะทราบว่าน้ำนั้นเมือทำการรดลง
    แล้วจะไหลตามทางแล้วไหลวนรอบปราสาทไปรวมอยู่ที่บ่อน้ำด่านหน้าปราสาท
    ครับ ถ้าเอามีไปรองขวางท่อก็ยังมีพลังไหลวนอยู่เหมือนเดิมไม่ได้หายไปไหนครับ

    [​IMG]
    [​IMG]

    อีกมุมที่สวนงามครับ
    เดินๆถ่ายรูปไปมีความรู้สึกว่ามีใครมองเรา เลยวิ้งไปถ่ายดูก็ได้ภาพดังนี้ครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    สถานที่ๆถ่ายภาพมาเป็นส่วนที่นักท่องเทียวไม่ได้เข้าไปเพราะมืดไม่มีแสงไฟ
    แต่นึ่งจากผมและอาจีรศักดิ์มองด้วยตาที่สามเห็นมากกว่าชาวบ้าน ก็เลยเดิน
    ดุ่ยๆ ไปก็รู้ว่ามีอะไรเลยลองถ่ายดูฮาๆนะครับ

    [​IMG]

    บ่อน้ำด้านหน้าครับ

    ขอได้รับความขอบคุณจากคณะทัวร์คนตาถั่ว...เฮ้ยไม่ใช้ คนตาทิพย์มานะโอกาศนี้ครับ
     
  10. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ยังเล่าค้างอยู่...ก็พอดีกับที่ "วิษณุ" เอารูปเข้าประกอบเรื่อง
    จะเห็นภาพผู้คน...ช่วยกันก่อ กองหินเล็กซ้อนๆกัน กระจาย หวังได้ บุญ ในการต่ออายุ
    จะเห็นหน้าตาบัวเหล็กแปดเหลี่ยมชัดๆๆ..จะเห็นขวด "เอ็ม150 ใส่ทราย ปักธูป
    จะเห็นดอกไม้บูชาที่ วางไว้บนราวเหล็ก อย่างสวยงาม
    ........................................................................
    จะเห็น สามตา ทำพิธี กล่าวขอเขาชมสถานที่ และ ชักพรม สีทอง กลิ้งปูมาให้เดิน สบายๆๆ เบาๆๆโหย่งๆๆดี...จะเห็น สามคน (หนึ่งคนถ่าย) สนุกสนานในการโยกมือขึ้นลงสัมผัส แรงดึ๋งดั๋ง...ของแสงสีม่วงที่ดันมือเราให้ ลอยสูง สู่ ฟ้า..ดีใจเหมือนเด็กๆๆได้ ของเล่นที่ ชอบใจ...เห็นพระศิวลึงค์ และรางน้ำ จาก พระโยนีพระแม่อุมา ไหลวนและไหลออกมาข้างนอก..มองเห็นชัดเป็นรง น้ไหล...ถ้าเอามือไป รอง และสัมผัส..จะรู้ว่า ในรางนั้นมีน้ำ ที่มีพลังสัมผัสแรงมาก...ประตูช่อง ด้านบน..ในปีหนึ่ง จะมีแสงอาทิตย์ ลอดทพละมาหมด 14 ประตู..มีคนไปจ้องถ่ายรูป ตอนแสงอาทิตย์ ลอด กันแยะ
     
  11. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ (ต่อ)

    พอถวายสิ่งของบูชาเสร็จ เราก็ ตั้งจิต เพื่อดูสิ่งมหัศจรรย์ .
    ที่คนธรรมดา จะไม่เห็นได้..นั่นคือพวยแสงสีม่วงเต็มดอกบัวแปดกลีบ
    เป็น ลำลอยสูง สู่ฟ้า..เหมือนจะเป็นพาหะในการที่ มนุษย์
    ตั้งแต่สมัยผู้สร้างคือยุคของพระเจ้า สุริยวรมัน เมื่อมีพิธีถวาย
    ของที่ ถวายแก่ทวยเทพ ชั้นสูง สุด จึงลอยขึ้นไปได้
    เช่นการเลื่อนลิฟท์ ยกของ..ที่มนุษย์เราใช้กัน
    ................................................................
    พอว่างคน..ไม่มีเจ้าหน้าดูแล..เราก็ ย่องก้าว ข้าม ในยืนในดอกบัวทั้งตัว
    ไม่กล้า ยืนนานนัก..ประเดี๋ยว จะกลายเป็น ว่า เราถวายตัวเราเอง
    ขึ้นไป ข้างบน แล้ว จะกลับลงมาอีกไม่ได้..เราจะกลายเป็นเทพไป
    เรากลัวการที่ จะต้องเป็น เทพ ไป จริงๆๆ..เลยไม่กล้า ยืนนาน
    .....................................................................
    ข้างบนสุดเป็นลานกว้าง..มีเทวาลัยปราสาท เป็นกลุ่ม ครบกระบวนการ.
    มีกลาง มีหน้า มี หลัง...กลางสุด มีรูปแกะสลัก พระศิวลึงค์ และฐานโยนี
    และมีรางรองรับระบายออกสู่นอก เทวาลัย เป็นรางหินรูปตัว "วี"
    เอามือสัมผัส ราง จะพบว่า มีพลัง ค่อน ข้างสูง
    ...........................................................................
    ใครที่ไปที่ นั่น และมีพลังจิต สัมผัสสูง..น่าจะลอง สัมผัส แสงสีม่วง
    จาก ดอกบัวเหล็ก และ ราง ระบายน้ำ จาก ศิวะลึงค์
    เพื่อทดสอบว่า ตัวเอง มีพลังจิต ขนาดไหน
    และถ้าสามารถเห็น แสงสีม่วงได้..ก็แปลว่า มีตาทิพย์ นั่นเอง
    ....................................................................
     
  12. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เนื่องจาก ตาที่สาม และ คุณ วิโรจน์ ไป ที่ปราสาทพนมรุ้ง มากกว่า5 ครั้ง
    จึงไม่ขึ้นไปที่สูงสุดจึงมานั่ง รับพลังจากใต้โลก
    ที่ ใต้ต้น โพธิ์-ไทร ที่อยู่ ข้างเศียรนาคใหญ่
    ที่ นั่นรู้กันว่า มีพลังจากใต้โลก ขึ้นมาสูงมาก
    ....................................................................
    พอๆๆกับที่ฝ่าเท้าตัวสฟิงฟ์ที่อยู่ใกล้มหาปีรามิดแห่งกีซา อียิปต์
    ที่มีพลังสูงมาก เนื่อง จาก เขาพนมรุ้งเป็น ปากปล่องภูเขาไฟที่
    พื้นดิน กับ ลาวา หินละลายที่ จะขึ้นมาข้างบน
    ในแต่ละปี กลุ่ม พลังจักรวาลนับร้อยๆๆคน จะมาที่นี่ เพื่อ รับพลังเข้าจักระ
    แทนที่จะต้องไป ที่ มหาปีรามิด ที่ ประเทศ อิยิปต์
    ..............................................................................
     
  13. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    พอเที่ยวสัมผัสจนทั่ว พวกเราสี่คน ก็ ค่อยๆๆเดินลงบันไดหิน
    เดินตามถนนย้อนกลับไปยังที่ มา...ตามถนนวิเศษ
    เมื่อมาจนถึง สุดระยะทางเดิน..เราสี่คน ก็เรียงแถว
    กล่าวขอบคุณ องค์ มหาเทพ ที ต้อนรับ พวกเราเป็นอย่างดี
    และขอกล่าว ถวายพร แก่ ท่าน..ในวาระใกล้ปีใหม่ ของ ไทย
    ..................................................................
    ทันทีที่กล่าวจบ...มองเห็นอย่างชัดๆๆว่า พรมสีทอง ม้วนนั้น
    ค่อยๆๆ ม้วนกลับขึ้นไป สู่มหาปราสาทเทวาลัย..คราวหน้าฟ้าใหม่
    เราคงจะได้ มาเยี่ยมเยียน และได้ เหยีบยพรมอีก ครั้ง
    ...................................................................
    โอม โอมาชีวา...โอม โอมาชีวา....โอม โอมาชีวา
    ข้าฯขอบูชาสูงสุด แด่องค์ พระศิวะ
    ข้าฯขอบูชาสูงสุด แด่องค์ พระศิวะ
    ข้าฯขอบูชาสูงสุดแด่องค์ พระศิวะ
    ...................................................................
    (ยังมีต่อ)
     
  14. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    ขอบคุณอาจารย์สามตา และคุณvisnuค่ะ น่าสนใจมากๆเลย เรื่องการเดินทางด้วยเสลี่ยงนี่
    แล้วทำถนน(บันได)เป็นขั้นๆ นึกภาพได้ออกแล้วค่ะ แล้วมีหนึ่งคำถาม นักวิชาการบางท่านว่า
    ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ได้กลับมานั้น ไม่ใช่ของจริง เป็นตามนั้นหรือไม่คะ

    รูปดวงกลมๆที่คุณvisnuถ่ายได้นั้น เป็นอะไรคะ เอาตามตาที่สามมองเน้อ
    ถามพวกเล่นกล้อง ก็ไม่พ้นเรื่องฝุ่น นักวิทยาศาสตร์ก็ ควอนตัม

    ตอนไปกาฬสินธุ์ พิพิธภันฑ์สิรินธร(ภูกุ้มข้าว)ติดวัด มีดวงกลมๆเยอะมาก ไม่ได้เจอทุกห้องค่ะ มีออร่าด้วยสิ
    [​IMG]

    ไหนๆก็ไปมาแล้ว ก็อยากเชิญชวนไปพิพิธภัณฑ์ภูกุ้มข้าวนะคะ ทำได้สุดยอด ทั้งเสียง สี น่าพาเด็กไปดูค่ะ
    [​IMG]
     
  15. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +13,166
    ตัวกลมๆ พา ลูกเต้า ไป เที่ยว แถมยัง ถ่ายรูป มา อวด ซะด้วย
    ดวงกลมๆ ที่ว่า ...............
    เป็นเรื่องถกเถียง กันมานานหลายปี .... อยู่ที่ ไปถาม คนจำพวกไหน ก็จะได้ คำตอบ มา แบบนั้น....
    ที่ว่า ถาม พวก เล่นกล้อง ก็ ได้คำตอบว่า เป็นฝุ่น ที่ เกาะอยุ่ หลังเลนซ์ บ้าง เกาะที่ หน้าจอรับภาพ CCD หริอ ซีมอลส บ้าง
    คำตอบ อย่างนี้ ผม ก็ได้ยินมา
    แต่เป็นคำตอบ ที่ ฟังแล้ว ไม่ถูกใจ คือ ต้องถาม เขาต่อไป ว่า เคย แกะ กล้องออกมาตรวจสอบดู
    หรือเปล่า หรือ เป็นการ จำ เค้า มาพูด โดยไม่ได้ ศึกษาค้นคว้า ด้วยตนเอง มา
    ..............................................................................
    ตรงนี้ ผมขอ อธิบาย แบบ ตรงๆ เลย ครับ
    ฝุ่นที่ เกาะ หลังเลนซ์ ชิ้นสุดท้าย ก็ดี
    ฝุ่นที่ เกาะหน้า จอรับภาพ CCD หรือ ซีมอส ก็ดี
    มิได้ ทำให้เกิดภาพ เช่นนี้ ครับ
    ทำได้เพียง เป็นจุด เป็นฟ่า บนภาพเท่านั้น
    ...............

    ขอสังเกต อีกประการหนึ่ง ภาพลักษณะนี้ มีให้เราเห็น บ่อยๆ ในยุค ที่ จาตุคามรามเทพ กำลังดัง สร้างกัน ทั่วบ้าน ทั่วเมือง พอมีคนถ่ายภาพ ในพิธี ปลุกเสก มา ก็ มักจะพบ ภาพลักษณะนี้
    .........
    อีกประการหนึ่ง.......... มักจะเป็น ภาพถ่ายจาก กล้องดิจิตอล เท่านั้น กล้อง ใช้ฟิลม ไม่ค่อย ได้พบเห็น

    และ ให้สักเกต ภาพดวงๆ ที่ ได้มา เป็นลักษณะ เหมือนเหรียญ มี ภาพ ลักษณะ ต่างๆกันบ้าง เหมือนๆ กันบ้าง ลองสังเกตดู นะครับ


    ผม เอง ก็ เป็นนักถ่ายภาพ มา ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ตั้งแต่ เรียนมัธยม 2
    เล่นมา เรื่อยๆ จนปัจจุบัน ก็ สามสิบกว่าปี แล้ว
    ..........( หรือ สี่สิบปี หว่า 555 )

    ยังมีต่อ ครับ...........................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2009
  16. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +13,166
    ต่อครับ พอดี งาน เข้า ................................


    สรุป ได้ว่า ภาพ ดวง จาตุคาม หรือ ดวง ฯ...... ต่างๆ ที่ มี รูปลักษณ์ และสถาปัตยกรรม ประจำตัว
    1. มักจะได้จากกล้อง ดิจิตอล
    2. มักเป็นภาพถ่าย ในสถานที่ หรือ เกี่ยวข้องกับสิ่งศักสิทธิ์
    3. ส่วนใหญ่ จะเป็นภาพถ่าย ในร่ม มีอยู่บ้าง ที่เป็นภาพถ่ายกลางแจ้ง แต่ไม่มากนัก


    คำอธิบาย
    1. กล้อง ดิจิตอบ จะใช้ ตัวรับภาพ ได้แก่ CCD หรือ ซีมอส เป้นจอรับภาพ แล้ว แปลง เป็นสัญญานไฟฟ้า แทนการใช้ ฟิลม์ ในสมัยก่อน
    โดย ธรรมชาติ ของ CCD แล้ว มันตอบสนอง ต่อแสง ในย่านความถี่ต่ำ ได้ดีมาก ( ย่าน อินฟาเรด แสง ในย่านต่ำกว่าสีแดง ลงไป )
    ดังนั้น กล้อง คุณภาพดี ราคาแพง ก็จะ ใส่ ฟิลเตอร์ IR ไว้ ที่ท้ายเลนซ์ เพื่อป้องกันแสง IR กล้องดีๆ เช่นนี้ มักถ่าย ภาพ ดวงจาตุคาม ไม่ได้


    2. ดังนั้น กล้อง ของคุณตัวกลมๆ อันนี้ เก็บไว้ให้ดี ไว้ใช้ถ่าย ภาพ ทดสอบ สิ่งลึกลับ ที่อยู่ในย่านความถึ่ต่ำกว่า อินฟาเรดได้ ระดับหนึ่ง
    3. ให้ลอง เอาไปถ่าย คนที่มีพลัง มากๆ ดู
    หาสถานที่ ที่ มีแบล็คกราว เข็มๆ หรือมืด หน่อย ลองถ่าย หลายๆ มุม หลายๆ ลักษณะ ดู นะครับ เผื่อว่า จะได้ภาพ ดีๆ มา อวดกันอีก

    วันนี้งาน เข้า หลายรอบ จริงๆ กว่า จะเขียนจบ ต้อง ต่อกันหลาย พัก .....5 5 5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2009
  17. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    denceeเย้ๆๆๆ ได้ผู้รู้เรื่องกล้องจริง+ทิพย์สัมผัส มาอธิบายแย้ววววว
    สงสัยอาจารย์สามตากับสมาชิกชมรมไปเที่ยวสงกรานต์ ช่วงรออ่านเรื่องเล่าอาจารย์
    คั่นด้วยเรื่องรูปกลมๆที่ว่านะคะ พี่ดาวทะเลทรายอรรถาธิบายต่อเลยขอรับ;aa40
     
  18. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    แบบนี้ก็เคยถ่ายได้ในช่วงแรกๆที่เพิ่งสัมผัสพลังลึกลับหรืออะไรก็แล้ว
    แต่เราถ่ายได้จากสถานที่ต่างๆกันแต่ที่พนมรุ้งและเมืองต่ำกลับไม่ปรากฎเลย
    ซึ่งก็ทำให้สงสัยว่าทำไมบางที่มีบางที่น่าจะมีกลับไม่มีกล้องฟลิ์มก็เคยถ่ายได้นะ
    สมัยไปเที่ยวเส้นทางสายไหมตอนขี่อูฐที่ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวมีดวงๆปรากฏชัด
    แม้กระทั่งในสถานที่ทีฝังศพบุคคลสำคัญในอดีตที่เมืองฮามี่ที่เป็นแดนอิสลามในจีน
    เรามีรูปแบบนี้เก็บไว้เป็นชุดเรียกว่าชุดดวงธรรม
    แม้กระทั่งในบ้านเราเองก็มีดวงโตมีแสงด้วยอย่างว่าบางครั้งบางดวงมีสีด้วยนะ
    มีลวดลายในวงด้วยแต่ไม่เหมือนกันตามแต่หรือขึ้นอยู่กับอะไรไม่รู้แต่ไม่เหมือนกันเพราะว่าบางรูปชัดมากจนเห็นลวดลายชัดเจนบางดวงเปล่งแสงด้วย
     
  19. คนหลงภw

    คนหลงภw สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7
    เเสงกลมๆขาวๆ จะเกิดขึ้นด้วยตอนที่ไม่มีแสง แล้วใช้แฟรชด้วยหรือป่าว

    พอดีต้นปีเราได้ไปเที่ยวที ถ้ำหลวงเชียงดาว ซึ่งก็ทราบอยู่แล้วว่าถ้ำหลวงเชียงดาว

    มักจะเทพเทพ และพยานาคสิงสถิตคอยปกปักษ์รักษาอยู่แล้วชนถึงทุกวันนี้

    แต่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ถ่ายออกมาได้เพราะอะไร
    [​IMG]

    เขาไม่ได้บอกอะไร แต่พอจับใจได้ว่าน่าจะเป็นคล้ายเจดีย์ ที่สร้างมาเพื่อบูชาอะไรสักอยางกระมัง

    ที่นั่นมันมืด แต่ชั้น ดังนั้นฝุ่นลอยคงเป็นไปไม่ได้ คงมีเหตุผลที่ว่า แฟรช+ความอืดอย่างเดียวกระมัง
     
  20. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    [​IMG][​IMG]

    สองภาพนี้เกิดจากการถ่ายนะจุดเดียวกันห่างกันประมาณ 15-20วินาที เพราะรอแฟรชขึ้น
    จริงๆถ่ายมาสามรูปเพราะอยากรู้ ตอนถ่าน 2ครั้งจับพลังได้ว่ายังอยู่ ครั้งที่สามจับพลังงาน
    ว่าไม่อยู่แล้วลองถ่ายดูก็ไม่มีจริงๆ ครับ
    สำหรับคนที่ตาที่สามเปิดแล้วจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าเป็นจุดสีฟ้าๆ ขนาดประมาณเท่าหัว
    เข็มหมุดนะครับลองดู
     

แชร์หน้านี้

Loading...