เรื่องจริงอิง Fiction "ภัยพิบัติ 5 มิติ"

(ช่วงนี้ดื่มน้ำโดยอัตโนมัติวันละ 2.5 - 3 ลิตร แต่ยังรู้สึกกระหายน้ำเรื่อย ๆ

เคยเรียน วิชาสุขศึกษา บอกว่าคนเราควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยประมาณวันละ 8 แก้ว
และถ้าเราดื่ม 3 ลิตร/250 mL(1แก้ว)= 12 แก้ว

โอโฮ้!...ดื่มน้ำได้เยอะเหมือนกัน ระบบขับถ่ายก็จะดีขึ้น ผิวพรรณสดชื่นแก่ช้า
แต่ถ้ารู้สึกว่าอยู่ๆ ช่วงนี้กลับต้องการมากขึ้นกว่าเดิมแบบผิดปกติ

อาจต้องตั้งข้อสังเกตุอีกนิดว่า ร่างกายเขากำลังบอก หรือต้องการอะไรพิเศษหรือเปล่า?

ด้วยความห่วงใย:;aa28

 

ขอตอบแทนคุณ OVLOV รสชาติจากคนโทน้ำ จะเย็นแบบธรรมชาติ หวานๆ แบบธรรมชาติ พูดง่ายๆ คนโทน้ำทำมาจากดินดูดซับความเย็นจากอากาศ (ไม่รู้ถูกหรือเปล่า ) ทำให้รู้สึกว่าน้ำ ในคนโทน้ำเย็นอยู่ตลอดเวลาทำให้รู้สึกเย็นสดชื่นนั้นเอง จริงๆ แล้วคนโทน้ำทำมาจากดินมีสารอาหารและแร่ธาตุออกมาด้วย ยังมีอีกทางเลือกหนึ่ง ทางเหนือเค้าจะมีกระติกน้ำทำจากดินเผา (จำไม่ได้แล้วว่าเรียกอะไร ) วางไว้หน้าบ้านหรือชานบ้าน ที่สำคัญต้องตักดื่มน้ำจากตะบวยถึงจะได้รสชาติเพิ่มขึ้น (ที่พูดขึ้นมานี้ผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้รอคุณ OVLOV มาตอบอีกทีครับ

 

ตามที่คุณ Power of earth ว่าไว้ทุกประการเลยครับ และขอขอบคุณที่กรุณาเพิ่มเติมรายละเอียดพร้อมรูปภาพให้นะครับ...
ลองหามาใช้กันดู หลักการก็คือการช่วยเสริมกันระหว่างธาตุล่ะครับ ดูเรียบง่ายแต่ประโยชน์สูงสุดครับ

เปรียบเทียบได้กับการเลี้ยงปลาเนี่ย ถ้าเราเอาน้ำประปาใช้โดยตรงกับปลาทันที ปลาจะไปทัวร์เกาหลีแล้วต่อไปสวรรค์เลยครับ
แต่ถ้าใส่ไว้ในตุ่มทิ้งไว้ซักคืน ตุ่มดินจะช่วยทั้งให้ระเหยและดูดคลอรีนออกไปหมดเลยครับ

บางคนบอกงั้นใช้ตุ่มก็น่าจะได้...ก็จะอิ่มและอร่อยขึ้นนะครับ เพราะลูกน้ำก็น่าจะรสชาดดี ปลาถึงชอบ 555

ท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องนี้ก็แชร์กันได้นะครับ เอาเรื่องเย็นๆกันบ้าง
เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ น้ำจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความสำคัญมากขึ้นไปอีกนะครับ

ขอขอบคุณคุณ Power of earth อีกครั้งนะครับ สำหรับข้อมูล
ท่านพลังธาตุดินซะด้วย น่าจะเหมาะเรื่องนี้

 

ชมซะเขินเลยครับ ผมต้องขอบคุณ OVLOV มากกว่า ที่นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่าน เพราะสิ่งที่ท่านเล่ามานั้นอ่านแล้วได้มุมมองใหม่ๆ มีแง่คิดดีๆ....( จริงๆ เรื่องราวที่ท่านได้เล่า ก็คือให้เรา " มีสติ " ถึงภัยมาก็รับไหว ถึงเตรียมความพร้อมดีที่สุดอย่างไงแต่ " ขาดสติ " ก็หายนะดีๆ นี่เอง.......


ปล. ฝากหน่อยครับมดที่บ้านผมทำไมชอบๆๆ ดื่มมากเหลือเกิน ถ้าว่างขนมกับน้ำ มดเลือกน้ำมากกว่าขนม (เออหรือเราคิดไปเอง) พอจะมีคำตอบให้ผมบ้างไหมครับ

 

คุณ toplus 99 ขอบคุณค่ะ สำหรับคำแนะนำ

ใช่เลยค่ะ ระบบขับถ่ายดีขึ้นมากผลจากการดื่มน้ำ ช่วงหลัง ๆ ที่เริ่มดื่มน้ำมากเป็นมาหลายเดือนแล้วเหมือนกันค่ะ ก่อนหน้านี้เป็นคนดื่มน้ำมากอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วงหลังมากกว่าเดิมค่ะ แต่จะลองสังเกตดูให้ละเอียดอีกทีค่ะ

คุณ Power of earth
ขอบคุณสำหรับรูปค่ะ ถ้าจะหามาไว้ที่บ้านยังต้องระวังเรื่องการขนย้ายเหมือนกันนะคะ แต่น่าใช้มาก ๆ เลยค่ะ

คุณ OVLOV

ขอบคุณสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมนะคะ

 

อันนี้ 4 มิติครับ ใช้ดิน ผลิตน้ำ โดยอาศัยไฟและลมนิดหน่อย

เทรนด์ของดีไซเนอร์ในวันนี้ เขาไม่เอาแต่ออกแบบของเจ๋งๆ โดยไม่คิดถึงส่วนรวมกันแล้ว เหมือนอย่างดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน Gabriele Diamanti คนนี้ งานหลักของเขาคือออกแบบโปรดักท์เก๋ไก๋ในเชิงพาณิชย์ แต่งานที่เขารักก็คือ คิดๆๆ เพื่อคนหมู่มากบนโลก อย่างดีไซน์ที่แสนเรียบง่ายแต่สุดจะอินโนเวทีฟนี้ เขาออกแบบเพื่อคนในประเทศโลกที่ 3 ที่มีต้นทุนชีวิตน้อยนิด กระทั่งน้ำสะอาดๆ จะให้ดื่มยังหายากเลย
ดิอามานติเริ่มต้นที่น้ำทะเล หรือน้ำเค็มที่หาได้ตามธรรมชาติ นำมาเปลี่ยนให้เป็นน้ำดื่มด้วยวิธีแสนง่าย แค่เทน้ำเค็มลงไป แล้วนำไปตากไว้กลางแดดทั้งวันก็ได้น้ำดื่มมา 5 ลิตรแล้ว ช้าหน่อย แต่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ไม่มีไส้กรองให้ต้องเปลี่ยน หม้อดินเผา eliodomestico ซึ่งหน้าตาไม่ผิดแผกจากของในครัวเรือนชาวบ้านตัวนี้ ซ่อนนวัตกรรมกลั่นน้ำด้วยความร้อนจากแสงอาทิตย์ ทำงานคล้ายหม้อต้มกาแฟแบบกลับหัวนั่นเอง
หม้อดินเผา eliodomestico นี้ ยังเป็นงานดีไซน์แบบเปิด ไม่จดลิขสิทธิ์ยินดีให้ผู้คนนำไปต่อยอด เผยแพร่ ต่อเมื่อไม่ได้นำมันไปใช้ในเชิงธุรกิจ รวมถึงเปิดให้คนร่วมบริจาคทุนเพื่อพัฒนา หรือผลิตแล้วส่งต่อไปให้ถึงมือผู้ที่ต้องการจริงๆ …นี่แหละ เทรนด์ของดีไซน์ที่กำลังมาแรง และจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นในอนาคตด้วย​

Credit/ที่มา: ดินเผาสุดล้ำ แค่วางกลางแดดก็กลั่นน้ำเค็มเป็นน้ำดื่มได้​

 

รูปมาแล้วครับ เฮ่อออ...

งานนี้ต้องช่วยกันขยายผลนะครับ แม้ว่าไม่มีภัยพิบัติก็น่าคบหา
ถ้ามีภัยมายิ่งต้องมีเยอะๆ เลยครับ เพราะถ้าน้ำไม่สะอาดนี่ น่าจะไปทัวร์ต่างมิติเร็วขึ้น....ลองดูนะครับ​

 

เป็นแนวทางเพิ่มเติมนะครับ หลายๆท่านอาจเคยเห็นมาแล้ว เอามาผ่านตากันอีกครั้ง กันลืม
ช่วงนี้ซ้อมๆใช้กันก่อนนะครับ ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ แต่งร้านก็สวยดีนะครับ

เก็บผักผลไม้ให้สดโดยไม่ง้อไฟฟ้า

เป็นที่ทราบกันดีว่าตู้เย็นตามบ้านทั่วไปช่วยรักษาอาหารให้สดใหม่ไม่เน่าเสียง่าย แต่อาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้อาศัยอยู่กลางทะเลทรายที่จะเก็บรักษาอาหารไว้ให้นานที่สุด เนื่องจากพวกเขายังไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งนี้ มูฮัมหมัด บาห์ แอบบา ครูชาวไนจีเรียที่เติบโตมาในครอบครัวช่างปั้น ตระหนักถึงปัญหานี้ดี จึงได้คิดค้นวิธียึดอายุความสดของผักผลไม้อย่างง่ายด้วยการเก็บรักษาไว้ในเครื่องปั้นดินเผา โดยผลงานดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า เซียร์ (Zeer) วัสดุที่ใช้ทำประกอบด้วยกระถางดินเผาที่ไม่เจาะรู มีขนาดต่างกัน ขอบหนา 2 ถึง 3 นิ้ว จำนวน 2 ใบ ทรายบริสุทธิ์ 1 ถุง กระสอบป่านสำหรับคลุม วิธีทำก็ไม่ยากเลย เพียงแค่เททรายลงในกระถางใบใหญ่ให้หนาประมาณ 1 นิ้ว วางกระถางใบเล็กลงบนทรายที่เกลี่ยจนได้ระดับแล้ว จัดกระถางใบเล็กที่ซ้อนอยู่ตรงกลางให้ขอบกระถางอยู่ในแนวเดียวกันกับขอบกระถางใบใหญ่ จากนั้นเททรายในช่องว่างระหว่างกระถางทั้ง 2 ใบ เว้นระยะจากขอบประมาณ 1 นิ้ว นำน้ำมารดทรายให้เปียกชุ่ม และนำผักปละผลไม้มาใส่ในกระถางที่วางซ้อน คลุมด้วยกระสอบป่านที่ชุ่มน้ำ เพียงแค่นี้ก็สามารถเก็บอาหารสดได้นานขึ้น 3 ถึง 4 สัปดาห์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าสักวัตต์ ซึ่งหากไม่มีการเก็บรักษาผักและผลไม้สดอย่างถูกวิธี จะสามารถเก็บรักษาไว้รับประทานได้เพียง 1 ถึง 2 วันเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ควรหมั่นเทน้ำเพื่อให้ทรายชุ่มอยู่ตลอดเวลา อาจจะเทครั้งเดียวหรือสองครั้งต่อวันก็ได้

แนวคิดดังกล่าวส่งผลให้ มูฮัมหมัด บาห์ แอบบา คว้าเงินรางวัลใหญ่ 2 รางวัล อันได้แก่ Rolex Award for Enterprise ซึ่งเขาได้รับเงินรางวัลจำนวน 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ และ World Shell Award for Sustainable Development ด้านนวัตกกรมสำหรับผู้ยากไร้ ปัจจุบัน มูฮัมหมัด บาห์ แอบบา มียอดการจำหน่ายตู้เย็นสำหรับผู้ยากไร้ชาวไนจีเรีย 30,000 ชิ้นต่อปี ในราคาชิ้นละ 1.30 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ท่าพูดซะ ผมนอนหลับไม่เต็มตาเลยครับ พร้อมรับเสมอถึงแม้อะไรจะเกิด......

 

ด้วยสติอันมั่นคง จะดำรงไว้ซึ่งปัญญา
ในการพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ที่เริ่มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกมิติ

ในส่วนของ "เรื่องจริง อิง Fiction "ภัยพิบัติ 5 มิติ" ยังยืนยัน
ขอให้ท่านรับรู้ข้อมูลในเชิงเปรียบเทียบเป็นหลัก มีสติเป็นที่ตั้ง
จะนำมาซึ่งปัญญาในการแก้ปัญหา ในเรื่องต่างๆอย่างแท้จริง..........

ช่วงนี้คลื่นลมแรง....พวกเราอย่าออกทะเล...ใครออกไปโต้คลื่นลมแรงโดยลำพัง......
ถึงรู้ ถึงเห็น ก็ไม่มีใครมีแรงพอจะออกไปโต้คลื่น...ช่วยดึงท่านกลับเข้าฝั่งได้.....
ท่านต้องไม่ออกทะเลไปตั้งแต่แรกเลยครับ....

เรื่องราวที่จะอ่านต่อไป อย่างที่บอกเสมอๆ ขอให้มีสติและอ่านให้เป็นนิยายก็ละกัน
ถ้าชอบก็เก็บไว้ในใจ ถ้าไม่ชอบก็แค่นิยายหลอกเด็ก......
เพียงจดจำนิยายไว้ในยามจำเป็นก็พอ.............

ถ้ารับกันได้ก็จะเขียนต่อไป

อยู่บนฝั่ง เราสั่งปลาเก๋า...แต่ถ้าเราเมา....
แล้วออกทะเล...ปลาแ.ร่งโคตรเก๋า...มันเอาเราตาย

อยู่บนฝั่ง นั่งกินปลาทู อยู่เงียบๆ......ปลาเก๋าแพง ไว้ก่อน
ตามนั้น...................



เรื่องนี้ถึง…ดาวอังคารแน่

ตามคาด งานนี้เข็มขัดยาวพอ คาดถึง คาดไว้แล้ว แต่คาดไม่ครบ มันเยอะ
มีการเปิด air show ปรับการยิงจากผู้พิทักษ์ มาเป็นมุ่งทำลายฐานสร้างม่านบาเรีย หรือแสงเฮ้ากวง
ยิงแหวกม่านเข้ามาทำลายฐานม่านป้องกัน บอกแล้วเค้าทำได้

โดยอาศัยช่วงชุลมุน ชาวดินแดนสยามา มัวติดตามเรื่อง น้องสาว “แสนดี” บุก กรุงอเมริกาโน่ อยู่เพลินๆ
เล่นซะเมือง น้อง…นิว “ยอก” ไปทั้งตัว เลยเผลอกัน

งานนี้เป็นผลงานของทีม ราคาร อย่างแน่นอนก่อนแยกย้าย ดูจากการใช้อาวุธ
ต้องการเพิ่มการทำลายขวัญ แม้ในวันออกพรรษา ซุ่มยิงกระหน่ำจน “ยอดเจดีย์” เมืองอโยธยาหัก
สร้างความสะพรึงให้กับชาวเมืองผู้พบเห็น ก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา

ตามสูตรที่ได้อ่านทางกันไว้ แต่ก็อย่างที่บอกว่าของเชิงสัญลักษณ์มีจำนวนไม่น้อย การระวังป้องกันย่อมมีช่องโหว่
การเน้นยิงเจาะฐานม่านบาเรียซึ่งทำหน้าที่ ในการสร้างเครือข่ายม่านแสงป้องกันให้
คลอบคลุมเพื่อคุ้มครองดินแดนสยามาทั้งหมด ไม่ล้อเล่นงานนี้ จริงๆ ไม่ได้ล้อมาตั้งกะแรกแล้ว

การต้องการทำลายฐาน เพื่อให้เกิดช่องโหว่ในการเจาะทะลุทะลวงเพิ่มเติม ในช่วงเวลาอันใกล้นี้
รูถี่ๆ ยังแหวกมาได้ ถ้าใหญ่ๆ ไม่ต้องถาม

ยิงตรงๆ เข้ายอดเจดีย์ ซึ่งก็คือเกตุ หรือจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งสยามา รอบนี้ชัดๆ สองเด้งเป็นอย่างน้อย
ทำลายขวัญบวกที่มั่น ทิ้งระยะห่างจากรอบเด็ดยอดผู้พิทักษ์ไม่นาน


ก็มัวแต่ไปดูเรื่อง น้องตั๊กกะบุญชัยกันเพลิน ว่า ตกถังหรือโดดลงถัง จริงๆ แล้วเค้าจะโดดลงถุงโอเลี้ยงเราก็ไม่เกี่ยว

แต่ยอดเจดีย์เนี่ยของเราแน่ๆ คุ้มเงาหัวเราชัดๆ

หลังจากนี้จะถี่ขึ้นอีกตามสูตร ถ้าไม่ช่วยกัน ก็ไม่เป็นไร แต่พยายามอย่าเดินผ่านกระจกบ่อย เดี๋ยวไม่เห็นเงาตัวเองแล้วร้องลั่น

รอบนี้น่าจะเป็นการพยายามเปิดให้ทั่วทั้ง “กรุงโลกาจะให้เป็นกรุงโลกันต์” ทั้งหลายทั้งปวงก็ขึ้นอยู่กับแนวการต้านทานของเรา
ถ้าลืมอดีต ละปัจจุบัน ก็ไม่ต้องฝันถึงอนาคต

หลังจากนี้ แทบอยากจะเปลี่ยนชื่อเป็น เรื่อง Fiction อิงจริง “มันมากันแล้ว”

 

มีอะไรที่จะแนะนำให้ช่วยกันทำเพิ่มเติมอีกไหม ^^

 

เรื่องยุ่งๆ “บ้านลุง กรุงอเมริกาโน่”

สำนักเฝ้าระแวงแผ่นดินจะไปไหวหรือไม่ไหว
ได้รับรายงานสรุปจาก “ทีมงานเฝ้าระแวง” มีรายละเอียดที่สรุปได้แนวๆ นี้

การเคลื่อนกำลังของ “สาวแสนดี” ที่เข้าถล่ม “บ้านลุงกรุงอเมริกาโน่” นั้น
มีสิ่งบอกเหตุบางอย่างที่ทำให้ต้องพิจารณากันมากขึ้นในรายละเอียด

เพราะตามธรรมเนียมแล้วการเข้าสู่การปะทะกัน ของพลังงาน หรือธาตุที่แตกต่างกัน ย่อมเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นเป็นปกติ
อย่างเช่นเรื่องของ “แหลมฟ้าผ่า” ที่ได้เคยเล่าให้ฟังไปแล้วว่า

จุดที่ลมพายุเคลื่อนตัวเข้ามาจากทะเลและผ่านเข้าสู่ผืนแผ่นดินอย่างรวดเร็วในครั้งแรก
นั่นก็คือการปะทะกันของธาตุลมกับธาตุดินอย่างรุนแรง ปรากฏการณ์เรื่อง “ฟ้าผ่า” จึงอาจเกิดขึ้นได้ในบริเวณนั้น…..
ประมาณว่า ไม่ยอมกันง่ายๆหรอก

นี่ก็ใกล้เคียงกับหลักทางวิทยาศาสตร์อยู่เหมือนกัน พอจะไปกันได้ในส่วนนี้

แต่ในเรื่องของพลังงาน หรือ มิติทางจิตวิญญาณแล้ว อาจจะมีรายละเอียดลึกลงไปอีกว่า
โดยปกติแล้วจิตวิญญาณที่ทำหน้าที่คุ้มครองดูแล เป็นประดุจผู้พิทักษ์ผืนแผ่นดินนั้น
จะเข้าสู่การปะทะกับผู้มาเยือนที่เข้ามาล่วงล้ำเขตแดนก่อน

เข้าทำนองทำหน้าที่ “First to Fight” อย่างที่เคยบอก และจะต้องสามารถสลายพลังของผู้มาเยือนลงได้เสมอ
ส่วนพลังงานที่หลุดรอดไปได้อีก ก็ให้แนวด้านในค่อยๆ ทำหน้าที่สลายลงตามลำดับ นี่เป็นหลักปกติคือ “เข้าปะทะแล้วทอนลง”

งานที่เหลือต่อก็แบ่งกันไป รับกันเป็นทอดๆ ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีอะไรหลุดรอดเข้าไปได้เลย
เพราะพลังเค้าก็มีมามากกันทั้งนั้น แต่ก็ต้องน้อยลงไปพอสมควร
เนื่องจากมีการสูญเสียพลังในการปะทะกันในบางส่วนแล้ว

ก็คล้ายๆ การยกพลขึ้นบกอยู่เหมือนกัน
ฝ่ายบุกก็ต้องตายเยอะหน่อย ก็เค้าตั้งรับนี่ ยิงถนัดกว่า
จึงต้องมากันมากๆ เพราะเดี๋ยวเหลือไม่พอใช้งาน

ที่ว่ามายืดยาวชวนงงสงสัย ว่าจะบอกอะไรกันนี่….

ก็จะบอกว่า เรื่องของ น้องแสนดี เนี่ย
มันผิดหลักการคุ้มครองของผู้พิทักษ์ไปมาก
เพราะว่าพอหล่อนเข้าแตะแผ่นดินได้แทนที่จะถูกทอนพลังลง
จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ ก็ว่ากันไป…

แต่หล่อนดันกลับมีฤทธิ์เดชเพิ่มขึ้นมหาศาล อาละวาดบ้านลุงกระจาย ไม่ได้สูญเสียพลังอะไรไปเลย…
อะไรกันนี่...อเมริกาโน่...ทำได้แค่เนี้ยเองเหรอ

งานนี้เรียกได้เต็มๆว่า “งานเต็มกระบอก หงอกเต็มกระบาล” ของผู้พิทักษ์แห่งบ้านลุงกรุงอเมริกาโน่เลยทีเดียว
เพราะถือว่าต้นตำหรับ First to Fight ไม่สามารถทอนกำลัง ทำความสูญเสียให้กับกำลังพลของผู้มาเยือนได้เลย

มิหนำซ้ำ คุณหล่อนตัวดียังเรียกพลไส้ศึกศัตรูที่รออยู่แล้วในบ้านลุง มาเสริมทัพโชว์พาวว์ทำลายล้างเพิ่มเติมได้อีกอย่างสุดๆ….

เข้าทำนอง ต้องการให้กรุงโลกาได้รับรู้ไว้เลยว่า ลุงอเมริกาโน่เนี่ยไม่เท่าไร ถ้าเตรียมมาดี “เจาะกระจาย” อายเค้าได้เหมือนกัน

ถ้าจะมองในมุมของพลังทางด้านจิตวิญญาณ โดยใช้ “สาวแสนดี” เป็นตัวแทน พลังความแค้นของศัตรู ที่สะสมทับทวีมาจากทั่วกรุงโลกาแล้ว
ถือว่าพลังแค้นนี้สามารถเจาะทะลุทะลวง ดินแดนแห่งเสรีภาพได้อย่างสำเร็จงดงาม ตามประสงค์

พลังของผู้พิทักษ์ดินแดนอเมริกาโน่ชั่วโมงนี้ ไม่สามารถทำหน้าที่ป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกต่อไป….
ม่านบาเรีย กระจายไปแล้ว…ซ่อมกันด่วน

ขวัญและกำลังใจของชาวบ้านชาวเมืองกรุงอเมริกาโน่คงจะสั่นคลอนกันพอสมควร
เพราะโซนนี้ หรือเขต อีสานอเมริกาโน่
มักจะไม่ค่อยมีเหตุถูกเข้าโจมตีแบบนี้นัก อยู่กันแบบสำราญมาโดยตลอด
แล้วต่อไปจะยังไงกันละนี่…คำถามมากมายจะตามมา

ที่น่าเป็นห่วงก็คือหลังจากนี้ มันมีช่องโหว่รูเบ้อเร่อให้ข้าศึกศัตรูเห็นแล้วว่า
พลังผู้พิทักษ์ด้านจิตวิญญาณของเมืองมีไม่เต็มประสิทธิภาพแล้ว……….
มิตินี้น่าจัดมาก

God Bless America
Land That I Love
Stand Beside Her And Guide Her
Through The Night With The Light From Above



God Bless America.......เป็นห่วงนะตะเอง

 

ขออนุญาตนำแนวทางของท่าน Prophecy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ที่ได้กรุณาโพสไว้ในกรณีที่ไม่ต้องการอ่านในสิ่งที่ไม่ต้องการ ตามนี้เลยครับ

วิธี ignore ไม่ต้องอ่านข้อความสมาชิกกวนใจ เพื่อสมาชิกทุกท่าน เช่นในห้องวิทย์ฯเป็นต้น

บางท่านอาจรู้สึกไม่อยากอ่านข้อความของบางท่านจริงๆ อาจะเพราะเขาป่วน ก่อกวน กวนประสาทสร้างความรำคาญให้กับท่าน จะทำอย่างไรดี? มีวิธีหนึ่งคือ ignore ไม่ต้องอ่านข้อความของเขา โดยมีวิธีดังนี้

ไปที่โพสต์ของเขา -> กดชื่อของเขา ด้านซ้ายของจอ จะมี drop-down menu -> เลือก ดูรายละเอียดของ -> เมื่อ profile เขา โหลดแล้ว ให้ดูใต้ภาพ profile เขา ทีแทบสีน้ำเงิน กดคำว่า user lists -> เลือก add to ignore list -> คลิก ใช่


หลังจากนี้จะไม่เห็นข้อความที่คุณไม่ชอบในกระทู้ต่างๆ อีกต่อไป แต่หากอยากกดเปิดอ่านข้อความของเขาก็สามารถทำได้ หรือหากไปๆ มาๆ ตัดสินใจไม่อยาก ignore แล้วจะเอาเขาออกจาก list ก็ได้ ที่สอนไม่ใช่อยากให้เกลียดกัน แต่ให้เป็นทางออกง่ายๆ สำหรับผู้ที่มีปัญหานี้ ซึ่งการ ignore/block ไม่อยากสนใจคนที่เราไม่ชอบก็เป็นสิทธิ์ของเรา และทำกันทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Facebook เว็บต่างๆ หรือ ห้องแชทต่างๆ

 

หนูใช้ดูชื่อเอาค่ะ ถ้าเป็นคนที่.........ก็อ่านผ่านๆ ค่ะ
บางทีแปลกมาๆก็สนุกดีนะคะ ^^

คุณ OVLOV คะจบเรื่องพี่บิ๊กเบิ้ม เล่านิยายสตาร์วอร์สบ้างสิคะ

 

เรื่องยุ่งๆ กรุงโลกา

เรื่องทั้งหลายทั้งปวงที่จะนำไปสู่ข้อสรุปในเบื้องต้นก็คือว่า
ถ้าหากเกิดภัยพิบัติขึ้นจริงๆ โดยเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติเป็นหลักแล้วละก็ แนวทางการรับมือก็จะเป็นรูปแบบหนึ่ง

แต่มีแนวโน้มหลายๆอย่างที่บ่งชี้ว่า ภัยจากมนุษย์ด้วยกันนี่ก็มีโอกาสจะเกิดขึ้นสูงเหมือนกัน
เอาตัวอย่างนอกๆ หน่อยละกัน จะได้ว่าได้ถนัดหน่อย

เส้นทางนโยบายของ อเมริกาโน่ ที่ผ่านมาทั้งหมดจะเน้นรูปแบบของ Proxy War หรือ สงครามตัวแทน
จะ เน้นปั่น เน้นเสี้ยม ชาวบ้านเป็นงานหลัก เพราะได้เรียนรู้จากการที่ตนเองถูกถล่มที่ Pearl Harbor มาก่อนเลยต้องจดจำ

จะไม่ยอมให้สงครามเกิดขึ้นในบ้านตัวเองเป็นอันขาด ทางเล่นก็คือ หางานให้โลกข้างนอกบ้านยุ่งอยู่เสมอ
การบ้านเยอะๆ โจทย์ยากๆ จะได้มัวแต่สาละวนแก้เรื่องตัวเองเป็นหลัก ไม่มีเวลาตั้งหลักมาหาเรื่องในบ้านลุงได้ง่ายๆ

คล้ายๆข้างบ้านเรา พอเลิกตีกัน ก็เอาละ จะมาเอาเขตนั้นแนวนี้เพิ่มเติมจากเราไป นี่ตัวอย่างง่ายๆ…

บ้านลุงแกถึงต้องเน้นเลี้ยงไข้ไว้ทุกมุมโลก ยุเค้าตีกันเอง ขายอาวุธมันทั้งสองฝ่าย ได้ทุกมุม
ใครรอดมาก็บวมไปหมดแล้ว ไม่มีสภาพจะมาหือกับลุงไหวอีก

มันอาจจะเป็นวิธีที่ดูโหดร้าย แต่เชื่อเถอะ นี่พยายามจะพูดให้แบบเบาๆ แล้ว
แต่เพื่อความสุขสบายของบ้านลุงอเมริกาโน่แก มันจำเป็น และก็ได้ผลมาตลอด

แต่กระแสกรรมมันมีจริง ความยิ่งใหญ่มันก็หมดไปได้ด้วยกรรมเหมือนกัน
ทำแบบไหนก็ได้แบบนั้น ยุยงคนเค้าบ้านแตก ให้ฆ่ากันเอง…

วันหนึ่งมันก็จะกลับมาเกิดในบ้านตัวเอง ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ตามกฎแห่งกรรม
ซึ่งไอ้ที่ว่าวันหนึ่งเนี่ย มันก็ใกล้มากแล้ว เพราะมันมีสิ่งบอกเหตุหลายๆอย่าง

และที่วิเคราะห์ในมุมนี้ก็ไม่ได้อยากจะให้เกิดเลย ไม่ชอบซักนิด
แต่มันไม่เกี่ยวกับว่าเราอยากจะให้เกิดหรือไม่….มันเป็นเรื่องของกระแสกรรมของมันเอง

เอามาโยงกับดาวซักนิดนึง คือนับตั้งแต่ปลายปีนี้ หลังจากที่ ราหูย้ายเข้าสู่ราศีตุลย์ เรียบร้อยแล้ว

โลกจะเข้าสู่พลังความร้อนเป็นเรื่องหลัก ภัยธรรมชาตินั่นก็เรื่องนึง….
แต่ที่น่ากลัวมากๆ ถึงทีสุดก็คือ ภัยจากพลังความร้อนของอารมย์มนุษย์

อันนี้จะสุดโต่งเลย เด็กหรือวัยรุ่นจะอำมหิตผิดมนุษย์ ทำได้ในเรื่องที่ไม่อยากพูด มันจะน่ากลัวเกินไป
การต่อสู้ขนาดเล็กตามตรอกซอกซอยจะมีทั่วไปหมด

“สงครามคือสิ่งที่มนุษย์กระทำต่อมนษย์ เหมือนไม่ใช่มนุษย์” จะแพร่กระจายไปทั่ว
ไม่มีเหตุผลอุดมการณ์อะไรกันมากมาย ทำไปตามอารมณ์ที่อยากจะทำ
คนเราถ้าขาดสติกำกับแล้ว ก็ทำได้ทุกเรื่อง ทุกเรื่องจริงๆ เหมือนรถแรงสุดๆ ที่ไม่มีเบรก

ที่บอกที่กล่าวเรื่องน้ำท่า การกิน การเก็บ ก็หวังว่าจะบรรเทาได้บ้าง เพราะแนวโน้มเรื่องร้อนๆ มาแรงมาก

ทั้งธรรมชาติและอารมณ์ของมนุษย์ อันหลังนี่น่ากลัวมาก

อย่าถามเรื่องเหตุผลว่าคืออะไร ตอบได้แค่ว่ามันเป็นวงรอบของกรรมที่มันกลับมา แค่นั้นเอง
แล้วก็ไม่รู้จะระวังกันยังไง ของเราเมืองพุทธก็ได้แต่หวังว่า อาจจะเบากว่าชาวบ้านเค้าหน่อย

แต่ด้วยความที่เป็นแหล่งอาหารของโลก ชาวโลกก็เลยจ้องกันตาเป็นมัน

ว่ามาซะยืดยาวให้ตกใจ แล้วจะให้ทำยังไง…

ทำใจไว้บ้างเผื่อเกิดขึ้นจริงๆ จะได้ควบคุมสติกันได้บ้าง
ที่ว่าหนักของเรา ชาวบ้านเค้าอาจจะเรียกว่าเป็นแค่สิวก็ได้

ระมัดระวังเรื่องอารมณ์ และความผันผวนของมนุษย์ด้วยกันให้มากๆ
เรื่องนิดๆ หน่อยๆ จะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้หมด อันตรายมาก

พยายามอยู่รวมกันเป็นกลุ่มย่อยๆ อย่างน้อยซักกลุ่มละ 20-30 คนขึ้นไป
โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะถ้าสภาพบ้านเมืองไร้กฎหมาย ไม่มีสภาพบังคับ
ก็ต้องระมัดระวังกันไว้บ้าง.......

เรื่องทั้งหมดนี่ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ก็จะดีที่สุด
ขอให้เป็นเช่นนั้น สาธุ

 

พูดแบบนี้....แสดงถึงคิวกรุงเทวา แล้วซิ......ภัยมุนษย์นี่น่ากลัวที่สุด...

 

มาดันไว้ รอฟังเรื่อยๆค่ะ

 

วันนี้คงตาไม่หลับ เพราะไม่ได้อ่าน :'''(

 

เรื่องของน้อง…นิว “ยอก”...ไปหมดแล้ว

บ้านของลุง ที่กรุงอเมริกาโน่ เนี่ยนะ

โซนรวมเซียนจริงๆ เค้าอยู่ทิศ “อีสานอเมริกาโน่” กันเป็นหลัก ไม่เหมือนบ้านเรา

ทีนี้ด้วยความที่เค้ามั่นใจในความรู้ ด้าน "วิดวะ" ของเค้ามาก
ประกอบกับ พื้นที่บริเวณ บ้านน้องนิว โดยเฉพาะ เกาะแมนฮัตตัน ข้างใต้เป็นหินแกรนิตแข็งโคตร
ก็เลยกล้าสร้างตึกสูงๆ เพราะเสาเข็มมันตอกอยู่บนหินแกรนิต

แถมตอนได้เกาะมา ก็ได้มาแบบ ไปหลอกซื้อมาจาก อินเดียนแดง แพงสุดๆ
รู้สึกว่าจะประมาณ “ลูกปัดหนึ่งถุง” อะไรทำนองนี้ ท่าทางจะภูมิใจไม่เบา...
แต่ไม่รู้ว่าเค้าแช่งอะไรไว้บ้างหรือเปล่านะ

แต่ก็มีเรื่องนึง ที่น่าจะทำให้ น้อง...นิว "ยอก"...เอาการอยู่เหมือนกัน

คือภายหลังจากที่ ตึกแฝดที่บ้านน้องนิวถูกถล่มแล้ว มันก็ต้องดำเนินการรื้อถอนปรับปรุงโครงสร้างกันใหม่หมด
ต้องมีการขุดปรับฐานรากแก้ว รากฝอย รากหญ้า อะไรก็ว่ากันไปตามระบบ

ทีนี้มันขุดกันอีท่าหมาท่าแมวกันยังไงก็ไม่รู้...
ก็ดันไป "เปิดเมืองแปลก" เจอเอาของ "ขนหัวลุก"เข้า ทั้งๆที่ตอนสร้างครั้งแรกมันก็น่าจะเจอแล้ว….

เจออะไร….ว่ากันมาเร็วๆ ดึกแล้ว มุขนี้ทั้งปี….

ก็ดันไปเจอ “ซากเรือโบราณ” ครับพี่น้องพลังจริตทั้งหลาย….
เหอ...เหอ...เป็นกรุงเทวาหน่อยไม่ได้…เจอแป้งแน่…….

ตึกแฝดสุดหรูของโลก สร้างทับ "ซากเรือโบราณ ศตวรรษที่ 18"
ทำได้ไง ไม่เห็นไม่รู้จริงๆ หรือสัมผัสไม่เป็น…

งานหน้ากรุงเทวาต้องจัด จารย์เจน กะ เรียว จริตสัมผัสไปให้ซะแล้ว...

ฝรั่งก็ฝรั่งเหอะ ขาปอดมีเยอะเหมือนกัน
ก็ไปตามนักโบราณคดีมา เค้าก็มากัน..."มาดูมาดม จับนู่นหยิบนี่ คิ้วขมวด
ลีลาสารพัดจัดท่า"...ให้ดูขลัง...แล้วก็บอกสรุปว่า..."น่าจะเป็นเรือเก่าจริงๆ"…

รู้สึกว่านักโบราณคดี เกือบถูกถีบอยู่เหมือนกัน
กรูรู้แล้วว่าเก่า...ใครมันจะแอบเอาเรือไปซ่อนใต้ตึกยักษ์ได้ง่ายๆวะ…มันน่าจริงๆ

เท่านั้นไม่พอ ยังเจอสมอเรืออีก สมอเรือจริงๆนะ ไม่ใช่ชุดนักเรียน…

แต่ที่เล่นเอากึ่งหนาวกึ่งฮาอยู่เหมือนกัน คือ เจอ “ซากรองเท้า” กระจัดกระจายอยู่เต็มเลย
เลยต้องมาตามพิสูจน์ "ซ่งติงผี" กันอีก
อือฮือ….ของใครกันมั่งละนี่ เป็นร้อยปีแล้ว ไม่เปื่อยไม่เน่ากันบ้างหริอไง

แต่ที่ว่าหนาวก็คือว่า…..
รอบที่แล้ว พวกเอ็ง “ไม่ดูตาม้าตาเรือ” ของจริงเลยนะเนี่ย จะสร้างตึกก็สร้างไป
แมร่ง..เสื.กสร้างทับเรือโบราณเข้าไปได้ไง ไม่เคยเล่นหมากรุกไทยเลยซิท่า

....."เรือก็มีจิตวิญญาณของเค้า มีแม่ย่านางเฝ้ารักษาอยู่เหมือนกัน".....
เอาตึกเบ้อเริ่มเทิ่มมาทับกรู ถึงกรูจะเก่าแต่ก็เก๋ามาก่อนนะว้อย

งานนี้ก็เลยเดือดร้อนกันถ้วน...
จิตวิญญาณของเรือเค้าให้ "มีเหตุ" ต้อง "รื้อตึก" เอาเค้าออกมาให้ได้

แต่ที่ไม่รู้ว่าจะหนาวหรือจะฮาก็คือ...

รอบนี้ที่พวกเอ็งจะสร้างตึกใหม่ ให้ใหญ่ยักษ์เนี่ย
พวกเอ็งแน่ใจนะว่า ได้เอา……………“ซ่งติงโบราณ”……… ออกไปหมดแล้วจริงๆ !!!

 

ทั้งเตือนให้ระวังให้ความรู้ แล้วยังคลายเครียดขอบคุณค้าาาาา