เรื่องจริงอิง Fiction "ภัยพิบัติ 5 มิติ"

รออาทิตย์ย้ายเข้าราศีตุลย์วันที่17นี้ใช่ม่ะๆๆอ่านๆตามมาสนุกดีช่วยเดามั่งก็รอลุ้นเหมืออนกันออยากรู้เหมียนกันว่าอะไรๆที่ว่าจะเกิดจะเกิดมั๊ยเผื่อความไม่ประมาท

 

รออยู่เช่นกันเลยครับ

จะรอจนถึงสิ้นเดือน กุมภาฯ 56 ไม่ได้อยากรู้ว่าอะไรจะเกิด

แต่อยากรู้แค่ว่า ถ้าไม่มีอะไรเกิด พวกเขาเหล่านั้นจะพูดกันว่ายังไง? :d

 

ภัยพิบัติได้เลื่อนออกไป เพราะ หน่วยอารยกิจลับได้ช่วยเหลือไว้ หรือไม่ เวลาของโลกข้างบน กับบนโลกที่เราอยู่ไม่เท่ากันเลยคาดเคลื่อน เลื่อนออกไปอีก ทำนองนี้แหละมีไม่มากหรอกครับ

 

สาธุจ้า เอาใจช่วยคนเมืองกรุงอยู่จ้า แต่ไม่มีพลังภายในนะ(จะบอกให้)

 

เรื่องจริง อิง Fiction “ภัยพิบัติ 5 มิติ” ต่อ…..<O</O

เอาล่ะ…อย่าเพิ่งเสียขวัญ หนังไทยเค้ายังมีบท ตบ จูบ ตบแล้วสูบกันเลย…มาดูบท ตบกลับกันบ้าง…ต้องทบทวนกันเป็นระยะ กันลืม…เรื่องเดิมนี่ กองทัพเดอะจุ๊บ ตอนนี้เคลื่อนทัพออกมานอกกรุงเทวาแล้ว และก็มีแสงเฮ้ากวง บารมีธรรมเก่าแก่คุ้มครองป้องกันลดทอนพลังร้ายๆ ลงไปได้ระดับนึงอยู่..แล้วยังไงต่อ…<O</O

แปลได้ว่า ดาวพฤหัส (ธาตุดิน) อยู่ในราศีพฤษภ (ธาตุดิน) เกตุ (คือแสงเฮ้ากวงในเรื่องธาตุนี่ อนุโลมให้เป็น ธาตุดิน) เท่ากับ “ดินกับดินอยู่ในบ้านดิน” อย่างนี้แน่นโคตรๆ เพราะในบรรดา “ผัดผักสี่สหาย ปฐวี อาโป วาโย เตโช” เนี่ย พี่ดินนี่ก็เห็ดหอม ละครับ ทั้งดำ ทั้งแน่น ชิ้นใหญ่สุด เคี้ยวยากกว่าเค้าหน่อยนึง<O</O

อย่างนี้แล้ว การถล่มบ้านเขื่อนของพี่ดิน นี่ก็ คิดได้ ทำได้ แต่จะได้ อย่างที่อยากได้ หรือไม่ นั่นมันอีกเรื่องนึง ชาวบ้านเค้าก็ไม่ได้มีมือไว้ล้วงกระเป๋านับนิ้วเล่นอย่างเดียวนี่นา บุกเพลินๆ ระวังเค้าสวนกลับหน่อยนะพ่อยอดชายนายราคาร “โลงไม่ได้มีไว้ใส่คนแก่นะ ใครๆ ก็ลงไปนอนได้เหมือนกัน”…นี่ๆ พี่เดอะจุ๊บฝากมา<O</O

กองทัพสะเทือนก็เหมือนกัน รอพี่พลังมาแล้วแน่ใจหรือว่ากรุงเทวาเค้าจะบวมง่ายๆ นี่กรุงเทวานะ ไม่ใช่ถ่านไฟฉาย…ชื่อกรุงเทวานี่ ฉายานี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะ คนโบราณเค้าคิดกันมาหัวแทบปูด กว่าจะได้ชื่อว่า เป็นชื่อเมืองที่ยาวที่สุดในโลกเนี่ย ไม่ใช่ใครๆ ก็คิดได้นะ ชื่อยาวๆนี่ของดีๆ สิ่งคุ้มครองทั้งนั้น ลองไปแปลดู เพียบๆ แน่นๆ เวอร์ชั่นนี้ เค้าปรับปรุงมาแล้วหลังจากอโยธยาแตก <O</O

ยุคนี้แล้วต้องใช้สงครามสื่อเป็นหลัก ไม่ใช่อะไร เสียงดังไว้ก่อน อย่าเพิ่งเข้ามา ยังจุกอยู่…ขอหายใจก่อน แต่ตัวช่วยกรุงเทวามีแน่ แม่บอก…ตอนนี้อุบไว้ก่อน…ล้างเสร็จแล้วเดี๋ยวเอามาให้ดู รับรองได้หนาวก่อนหน้าหนาว…<O</O

พี่สะเทือน นี่ก็ นานๆจะบิ๊กบึ้มซะที เน้นสนามใหญ่ออกไปฉาย “กรุงโลกา” เลยดีกว่า อย่ามายุ่งกะกรุงเทวาเลยสนามมันเล็กไป ไม่สมศักดิ์ศรี….<O</O

ช่วงนี้กองทัพเดอะจุ๊บกะชาวกรุงเทวา ต้องเน้นทั้งขู่และปลอบ เล่นสงครามจิตวิทยาไว้ก่อน เพราะประหยัดงบสุด เรื่องจริงๆ แล้วก็คือ ยังไม่พร้อมสำหรับศึกใหญ่…เลยยุให้ออกไปนอกดินแดนสยามาเลยดีกว่า..ถ่วงเวลาไว้ก่อน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงที่กองทัพสะเทือนจะบ้ายุ อยากเน้นโชว์ให้ชาวกรุงโลกามากกว่า

<O</Oเนื่องจาก ดาวเสาร์ในราศีตุลย์ เป็นราศีทวาร เป็นแกนของโลก ผลกระทบอาจจะเกิดในวงกว้าง มากกว่าจะเน้นที่กรุงเทวา แต่กรุงเทวายังได้รับผลกระทบอยู่ดี เพื่อความไม่ประมาท ก็ยังต้องเตรียมรับแรงกระเพื่อมที่จะมีมาได้หลายรูปแบบ เช่น ภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว ยุบ แยก การขยายตัวของสงครามจากที่อื่น <O</O

โปรดสังเกตที่ตั้งของดินแดนสยามาให้ดี มีลักษณะได้รับการป้องกันโดยรอบให้ได้รับผลกระทบร้ายๆ ทีหลังชาวบ้านเค้าเสมอ เป็นที่พักพึ่งพิง ให้กับมวลมนุษยชาติ………….จงภูมิใจที่ได้เกิดในดินแดนแห่งนี้ไว้เถิด ถ้าแม้นต้องตาย ก็ได้ตายในดินแดนแห่งพุทธศาสนา ดินแดนที่มีพระแม่ธรณีเป็นพยาน ให้ดินกลบหน้า.....มั่นใจได้...มีคนใส่บาตรให้แน่นอน......ที่อื่นไม่มีหรอก...........................หิวแย่เลย<O</O
<O</O
<O</O

 

cool:

 

งานนี้หนาวแน่^_^ แฟชั่นโชว์กระหึ่ม!กลางกรุง นางแบบนายแบบกว่า 300 ชีวิต รอบอนุสาวรีย์ชัยฯ



ดาราตลกสาวแห่งวงการ ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน ควงพระเอกหนุ่ม อั้ม อธิชาติ มาในชุดทหาร พร้อมเหล่านางแบบนายแบบกว่า 300 ชีวิต ท่ามกลางพายุฝนที่เทกระหน่ำ ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง รายรอบด้วยประชาชนนับหมื่นรายล้อมรอบอนุสาวรีย์ ชมแฟชั่นโชว์ “งานนี้หนาวแน่ - บิ๊กซี คูล วินเทอร์ คอลเลคชั่น 2012” ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (25 ก.ย 2555)









บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สร้างความตื่นตาตื่นใจสุดพิเศษ ด้วยการเนรมิตเกาะกลางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นเวทีแคตวอล์ค โดยจัด อั้ม-อธิชาติ และ ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน นำขบวนนายแบบนางแบบกว่า 300 คน ร่วมเดินแฟชั่นโชว์ภายใต้แคมเปญ “งานนี้หนาวแน่ – Big C Cool Winter Collection 2012”
อวดโฉมคอลเลคชั่นเสื้อผ้าฤดูหนาวสุดเก๋ไก๋กว่า 1,000 รายการ ราคาเริ่มต้นเพียง 99 บาท
คุณวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การตลาด บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บิ๊กซี เน้นจุดแข็งในการสร้างความตื่นตาตื่นใจและกิจกรรมสนุกๆ ให้กับลูกค้าเป็นประจำ ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประเทศ ที่มีการเนรมิตอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิให้เป็นแคตวอล์คกลางแจ้ง จัดงานเปิดตัวแคมเปญ “งานนี้หนาวแน่ – Big C Cool Winter Collection 2012” โดยมีดาราสุดเท่ห์ คือ อั้ม-อธิชาติ และสาวสุดฮา คือ ตุ๊กกี้-ชิงร้อยชิงล้าน มาสร้างความหนาวกันสนั่นเมือง”
“แฟชั่นโชว์ครั้งนี้ เริ่มที่เหล่านางแบบนายแบบ 300 คน แต่งคอลเล็คชั่นหน้าหนาวของบิ๊กซีเต็มสตีม ยกขบวนขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีชิดลม ไปยังสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนเคลื่อนขบวนเข้าสู่เกาะกลางอนุสาวรีย์ฯ จากนั้น ตุ๊กกี้และอั้ม เปิดตัวบนรถเปิดประทุน วนรอบอนุสาวรีย์ฯ ก่อนร่วมเดินแฟชั่นกับกองทัพนายแบบนางแบบ ด้วยเสื้อผ้าคอลเลคชั่นฤดูหนาวสุดเก๋ของบิ๊กซี กว่า 1,000 รายการ”
ด้านเซเลบดารา อั้ม-อธิชาติ กล่าวว่า “แฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นเสื้อผ้าหน้าหนาวจากบิ๊กซี แปลกตาและน่าตื่นเต้นมาก กับเวทีแคตวอล์คที่อลังการกับโลเกชั่นที่พิเศษสุดๆ รอบอนุสาวรีย์ฯ และเหล่านางแบบนายแบบที่แต่งตัวอย่างสวยงามมากถึง 300 คน อั้มคิดว่า เป็นความคิดที่ดีมาก เพราะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคนที่เห็น และยังเปิดโอกาสให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาจำนวนมาก ร่วมถ่ายภาพแฟชั่นโชว์และโพสต์ลงในเฟสบุ๊คของตัวเอง และทำการถ่ายภาพ (Capture) จากหน้าวอลล์โพส (Wall Post) ส่งมาลุ้นรับบัตรของขวัญบิ๊กซี มูลค่า 200 บาท จำนวน 100 รางวัลด้วย นอกจากนั้นนะครับ หลังจากวันนี้ไป เค้ามีแคมเปญให้เรารวมกลุ่มกันให้ครบ 5 คน แล้วถ่ายคลิปวิดีโอเดินแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นฤดูหนาวโดยแต่งกายด้วยคอลเล็คชั่นหน้าหนาว (Cool in the City) ของบิ๊กซี ที่คิดว่า Cool และตื่นตาตื่นใจที่สุด ส่งมาชิงแพ็คเกจท่องเที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน 5 คืน มูลค่ารางวัลละ 100,000 บาท 5 รางวัล ที่เฟซบุ๊คของบิ๊กซีด้วยครับ”
ส่วนอีกเซเลบสุดฮา ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กล่าวว่า “ตุ๊กกี้ ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะที่ได้มาเดินแบบ ชุดฟินาเล่ บนเดินบนแคตวอล์กสุดอลังการท่ามกลางพี่น้องประชาชนคับคั่งรอบๆ อนุสาวรีย์ฯ ในวันนี้ ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ชุดในคอลเล็คชั่นก็สวยๆ ทั้งนั้นนะคะ ได้มาเดินแบบที่โลเกชั่นสุดพิเศษแบบนี้ ไม่พลาดที่จะโพสต์รูปตัวเองลงอินสตาแกรมแล้วค่ะ”
คุณวรวรรณฯ ปิดท้ายว่า “บิ๊กซี คัดสรรสิ่งดีดีและคุ้มค่าสุดให้กับลูกค้าเสมอ คอลเลคชั่นฤดูหนาวเก๋ๆ ครั้งนี้ มีเสื้อผ้า เครื่องประดับ และรองเท้ามากกว่า 1,000 รายการ ด้วยคอนเซปต์มิกซ์แอนด์แม็ทช์ สีสันสดใส เน้นเสื้อสวมด้านนอก (outerwear) เช่นแจ๊คเก็ต เสื้อกั๊ก ที่นำไปใส่ได้กับเสื้อผ้าที่ลูกค้ามีอยู่แล้วได้หลายสไตล์ นอกจากนั้น ยังมีราคาสุดคุ้มค่า เครื่องประดับเริ่มต้นที่เพียงชิ้นละ 59 บาท เสื้อผ้าเริ่มต้นที่เพียงตัวละ 99 บาท เท่านั้น เพื่อให้ทุกคนได้แต่งเสริมเติมสวยหล่อกันได้อย่างเต็มที่ในฤดูหนาวนี้ ที่บิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ”

พุทโธ ธัมโม สังโฆ
ติดตามอ่านด้วยคนครับ

 

เรื่องจริง อิง Fiction “ภัยพิบัติ 5 มิติ"

ย้อนให้นิดนึง...ในที่ตั้งของ กองทัพเดอะจุ๊บ (ราศีพฤษภ ธาตุดิน) มีเกตุอาศัยอยู่ชายคาเดียวกันกับพฤหัสและขณะนี้ทำหน้าที่ประหนึ่ง “ผู้คุ้มครองของผู้พิทักษ์” อยู่นั้น ขณะนี้อยู่ในมุมเล็ง ตรงข้ามกับกองทัพแห่งราคาร (ราศีพิจิก ธาตุน้ำ) ตัวแสบของเรา...อันนี้คงจะพอจำกันได้<O</O

สำหรับยอดชายนายราคาร ถ้าจะเปรียบเทียบ ก็คงเป็นผู้ร้ายที่เข้าใจผิดคิดว่าตนเองเป็นพระเอก นิยมความรุนแรงกับฝ่ายตรงข้าม เน้น ตบ จูบ ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์ฝ่ายเราถูก ตบ จูบ อยู่นั้น อย่าพยายามใช้วิธีกัดลิ้นตอบโต้ เพราะถ้าเป็นอย่างพวกนายราคารเนี่ย น่าจะชอบแล้วจะยิ่งไปกันใหญ่ <O</O

ทางแก้ ขอให้ใช้วิธีสูบกลับ คือเน้นให้สูบวิญญาณให้ออกจากร่างของนายราคารไปเลย ปากอย่าให้หลุด กะว่าสูบทีเดียวให้หมดร่างเลย เข้าทำนอง ตบ จูบให้สูบกลับ (หนามยอก..ต้องเอาหนามบ่ง..อาจจะเก่าไปนิดนึง) ถ้ารอดไปได้ ก็หลอนกันไปอีกยาว....นี่ต้องย้อนเกล็ดกันอย่างนี้เลย<O</O

เอากลับมาต่อกัน...เกตุในฐานะของดี มีวิญญาณศักดิ์สิทธิ ถ้าไปอยู่กับผู้ใดก็ไปเพิ่มความขลังให้กับผู้นั้น ถ้าจังหวะลอยๆเคว้งๆไปเจอกะราหู ไปรวมกันครบตัว (บางตำราว่าเป็นหางของราหู) พลังครบสูตรขึ้นมา ก็ทำเอาชาวบ้านหลอนได้เหมือนกัน<O</O

แต่ตอนนี้อยู่กับพฤหัส ก็ทำตัวดี ช่วยพฤหัสก่อน เพราะนอกจากจะเป็นแสงเฮ้ากวงให้แล้ว ยังทำหน้าที่โต้กลับให้ได้อีกด้วย แนวๆ แทงคืนได้เหมือนกัน เอ็งสะเทือนมา ข้าสะท้อนกลับ เอ็งตบจูบข้าสูบกลับ……ฤทธิ์ของท่านนี่แปลกๆอยู่เหมือนกัน

<O</Oนอกเรื่องนิดนึง...ช่วงนี่มีเพลงกำลังจะฮิต ร้องว่า “พักหลังทำตัวไม่ต่างกับเป็ด พอกินกันเสร็จ ก็ กลับ กลับ กลับ”... อะไรประมาณนี้<O</O

สัญลักษณ์ของเกตุเขียนเป็นเลขเก้าไทย เป็นเลขที่ฆ่าไม่ตาย คงจะเพราะว่าตายมาแล้ว รอบเดียวน่าจะพอ เพราะตอนนี้ก็เป็นวิญญาณอยู่แล้ว

<O</Oถ้าดาวพฤหัสอยู่กับเกตุ ก็เหมือนกับเจดีย์ต่อยอด เสริมความดีงามกันไป ถ้าเป็นอาวุธ ก็เหมือน อาวุธแหลมๆ ยาวๆ หอก ดาบ ดาบปลายปืน กฤชชวา อันหลังนี่ทรงเกตุเปี๊ยบเลย ฝ่ายตรงข้ามนี่เห็นแล้วเสียวท้องน้อยเลยละกัน (ไม่เชื่อลองให้แฟนเราตอนโกรธๆถืออะไร แหลมๆ ยาวๆ แล้วเอาปลายแหลมๆ ชี้มาทางเรา ดูซิ เสียวเลยท้องน้อยแน่นอน)

<O</Oนี่ก็เป็นของดีที่มีอยู่...บอกแล้วของดีมีเพียบ ยอดชายนายราคาร "อย่าผลีผลาม เดี๋ยวผีผลัก" ลำพังเกตุของดีแสนวิเศษ (ถ้าอยู่ฝ่ายเรานะ) ยังแปลความหมายได้อีกเยอะ ก็บอกแล้วว่ากรุงเทวาเนี่ย ทีมสร้างเค้าทำ R&D/research and destroy มาแล้ว ไม่ใช่จะมาสอยกันง่ายๆ ไม่ใช่มะม่วงนะ<O</O

แต่ที่โดนจัดพิเศษเป็นลำดับ จากชุดเล็ก กลาง ใหญ่ และใหญ่พิเศษสุดๆ ซึ่งถ้าจะมีมาในอนาคตเนี่ย จะว่าไปแล้วมันก็เป็นวงรอบของอดีตกรรมของชาวกรุงเทวา ตลอดจนดินแดนสยามาอยู่เหมือนกัน ที่คงจะต้องรับกับสภาพของกรรมนั้นๆ แต่เรื่องอดีตเราย้อนกลับไปแก้ไม่ได้ คงจะต้องแก้กันด้วยกรรมปัจจุบันเท่านั้น<O</O
<O</O

พุทธศาสนาไม่ได้สอน ให้ยอมพ่ายแพ้ และยอมจำนนแก่โชคชะตา แต่สอนให้เราต่อสู้ ไม่ยอมจำนนแก่โชคชะตา โดยใช้การกระทำหรือกรรมในปัจจุบัน เป็นหลักในการแก้ไข

“อดีตก็รู้เท่า อนาคตก็รู้ทัน ปัจจุบันฉันมีไอโฟน5 แล้วววว” (สำคัญที่สุดสำหรับการเป็นชาวกรุงเทวา...กรูละเพลีย)

<O</Oแต่ยังไงก็ตาม ก็ต้องกันไว้ก่อนสำหรับพวกเรา เพราะได้แจ้งกับ พี่เกตุ "ผู้คุ้มครองของผู้พิทักษ์" ไปแล้วว่า รอบหน้าถ้านายราคาญยังมาทำรำคาญอีกละก็


ขอให้พี่เกตุระวังไว้นิดนึง.......................ต้องสูบกับพ่อยอดชายเนี่ย............................."มันเจี๋ยววว"<O</O

 

ถ้ารู้ว่าของดีมีเพียบหยั่งงี้ คงไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีย้ายเมืองหลวงสินะคะ เพราะไม่รู้จะหาทีม R&D ที่ไหน ที่มีความรู้ล้ำลึกขนาดนี้มาช่วยสร้างเมือง (ยังมีอยู่ไม๊น๊อ)

 

พุทธศาสนาไม่ได้สอน ให้ยอมพ่ายแพ้ และยอมจำนนแก่โชคชะตา แต่สอนให้เราต่อสู้ ไม่ยอมจำนนแก่โชคชะตา โดยใช้การกระทำหรือกรรมในปัจจุบัน เป็นหลักในการแก้ไข

สาธุ

 

เรื่องจริง อิง Fiction “ภัยพิบัติ 5 มิติ”<O</O

เรื่องเร่าเช้านี้ (แค่เร่า แต่ไม่ร้อน)<O</O

อย่างที่บอกกันไปแล้วว่า สิ่งดีๆคุ้มครองบ้านเมืองยังมีอยู่อีกเพียบ แต่เหตุปัจจัยต่างๆที่มันแลดูร้ายๆถึงร้ายที่สุด ที่เกิดขึ้นมาแล้วในกรุงเทวา และอาจจะเกิดขึ้นอึกหรือไม่ก็ยังเป็นเรื่องที่คาดเดากันต่อไป ซึ่งถ้าจะมีมาเพิ่มเติมกันอีก ก็คงจะเป็นเรื่องปุพพกรรม ที่มีมาก่อนพวกเราเกิด เท็จจริงแค่ไหน ก็ค่อยๆพิจารณากันไป<O</O

แต่ก็อย่างที่ตกลงกันไว้ การอ่านหรือรับรู้รื่องราวใดๆก็ตาม ต้องพิจารณาโดยมีสติกำกับเสมอ “จิตอย่าตก” ตูมตาม ตาแตก แตกตื่น แค่คุณตากะคุณตั๊ก แกแตกคอกันก็พอแล้ว เราไม่ใช่ซุป’ตาร์กะเค้า แค่ติดตามก็พอไม่ต้องโตกตาก<O</O

มีเรื่องราวในอดีตของกรุงเทวาของเรา ที่ได้บันทึกไว้อยู่เหมือนกัน ขอให้อ่านในเชิงข้อมูลทางประวัติศาสตร์เป็นหลัก อย่าไปเอา อารมย์อย่างอื่นมาแทรกซ้อน ธาตุลมกับธาตุไฟจะกำเริบ ไม่เกิดประโยชน์ใดๆในการในร่างกายของเรา เอาไว้พิจารณาประกอบกับเรื่องราวอื่นๆก็พอ ตกลงกันตามนี้ได้ก็ลองอ่านกันดู<O</O
<O</O

ดวงเมืองไทยมีคำสาปแช่ง-ระวังความฉิบหาย<O</O

โดย ยอดรัก ตะวันรอน<O</O​

“พระโหรา กล่าวโศลกบูชาฤกษ์และพระมหาราชครูอ่านกระแสพระราชโองการตั้งพระมหานคร ขุนโหรเริ่มประกอบพิธีกล่าวอุทิศเทพสังหรณ์ อัญเชิญก้อนดินซึ่งพลีมาแต่ทิศทั้ง 4 แห่งพระนคร กระทำให้เป็นก้อนกลมดุจลูกนิมิตลงสู่ก้นหลุมเป็นลำดับกันไปเริ่มแต่ทิศบูรพา ทักษิณ ปัจฉิม และอุดร จากนั้นนำแผ่นศิลาเลขยันต์สำหรับรับรองหลักวางลงบนก้อนดินทั้ง 4 ก้อนนั้น ส่วนภายในก้นหลุมนั้นเล่าก็ได้ตกแต่งไว้เรียบร้อย กรุด้วยผ้าขาวสะอาดบริสุทธิ์ ดาษไปด้วยใบไม้อันเป็นมงคล 9 ประการ โปรยปรายแก้วนพรัตน์ไว้เรียงรายโดยรอบขอบปริมณฑลภายในก้นหลุมนั้น”<O</O

ขณะที่ได้พระฤกษ์ พระโหราย่ำฆ้องบอกกำหนดพระฤกษ์ ชีพราหมณ์เป่ามหาสังข์แกว่งบัณเฑาะว์ เจ้าพนักงานประโคมดุริยางค์แตรสังข์และพิณพาทย์ เจ้าหน้าที่ประจำยิงปืนใหญ่เป็นมหาพิชัยฤกษ์ เริ่มพระราชพิธีอัญเชิญเสาหลักเมืองลงสู่หลุม โดยวางไว้บนแผ่นศิลายันต์<O</O

ทันทีนั่นเอง ก็เกิดปรากฏการณ์เป็นมหัศจรรย์ขึ้น โดยปรากฏว่ามีงูตัวเล็กๆ 4 ตัว ปาฏิหาริย์ลงไปอยู่ในหลุมนั้น และก็บังเอิญบันดาลให้ทุกคนที่ไปร่วมชุมนุมประกอบพิธีอยู่ ณ ที่นั่น ได้เห็นงูในขณะที่เคลื่อนเสาหลักเมืองนั้นลงไปในหลุมเสียแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนที่จะยกเสาลงสู่หลุมนั้น หาปรากฏว่ามีงู 4 ตัวดังกล่าวนั้นไม่ และก็หมดโอกาสที่จะแก้ไขประการใดๆ ได้ทั้งสิ้น เพราะเมื่อตอนที่เห็นงูนั้น เป็นขณะที่เสาได้เคลื่อนลงหลุมแล้ว จึงจำเป็นจะต้องปล่อยให้เลยตามเลยไป โดยปล่อยให้เสาลงไปในหลุมและกลบดินให้แน่น ทำให้งูทั้ 4 ตัวนั้น ต้องตายอยู่ภายในก้มหลุมนั่นเอง<O</O

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่ฝังเสาหลักเมืองนี้ ได้ยังพระวิตกให้แก่สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ เป็นอันมาก ทรงเรียกประชุมเหล่าเสวกามาตย์ราชบัณฑิตปุโรหิตาจารย์ พระราชาคณะและบรรดาผู้รู้ทั้งปวงมาร่วมประชุมวิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่บังเกิดขึ้นครั้งนี้ว่า จะเป็นมงคลนิมิตหรืออวมงคลนิมิต บรรดาผู้รู้ทั้งปวงต่างก็ให้ความเห็นสอดคล้องต้องกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จัดว่าอยู่ในจำพวกอวมงคลนิมิต แต่ก็ไม่สามารถจะชี้ลงไปได้ว่า ผลจะปรากฏออกมาในทำนองใด นอกจากจะลงความเห็นว่างูเล็กทั้ง 4 นั่นแหละ จะเป็นมูลเหตุนำความอวมงคลให้แก่บ้านเมือง

แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นการบอกกล่าวของเทพยดาฟ้าดินขึ้นมาในระยะนั้น โดยเกิดฟ้าผ่าไฟไหม้พระที่นั่งอมรินทร์มหาปราสาท ทำให้ทรงพระราชวินิจฉัยออกมาว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์เมือง โดยที่เทพยดาบันดาลให้เกิดฟ้าผ่าจนไฟไหม้พระมหาปราสาท ตามธรรมดาต้องเสียเมืองก่อนจึงจะเสียพระมหาปราสาท คราวนี้ได้เสียพระมหาประสาทไปแล้วเท่ากับเสียเมืองไป เพราะเหตุที่ชะตากรุงเทพมหานครในระยะเริ่มตั้งแต่ฝังเสาหลักเมืองมานั้น ชะตาเมืองอยู่ในเกณฑ์ร้ายถึง 7 ปี 7 เดือน เป็นอันเสร็จสิ้นพระเคราะห์เมืองไป และจะถาวรลำดับกษัตริย์ไป 150 ปี (เทพย์ สาริกบุตร “โหราศาสตร์ในวรรณคดี”)

คนไทยทุกคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ หรือเคยเดินทางมากรุงเทพฯ ก็คงจะได้พบได้เห็นศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เป็นประธานในการทำพิธีฝังตามคัมภีร์ของคนไทยที่ชื่อว่า คัมภีร์พระนครฐาน แต่สำหรับคนธรรมดาสามัญทั่วไป หรือเฉพาะคนรุ่นใหม่ทุกวันนี้ นับจำนวนล้านๆ คน อาจจะไม่เคยทราบว่าการทำพิธีฝังเสาหลักเมืองในวันนั้น เป็นเรื่องไม่ธรรมดา................(อ่านต่อ)<O</O
<O</O
<O</O

 

(ต่อ 2)
พิลึกพิลั่นและมีเหตุการณ์อันประหลาดมหัศจรรย์มากมายเพียงใด หรือคนโบราณเขาได้ทำกันอย่างไร และมีอะไรประกอบขึ้นมาบ้างก่อนที่จะมาเป็นศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ จึงสามารถทำให้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงทำนายทายทักออกมาได้ว่า นับตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2325 เป็นต้นไป ระบอบการปกครองของไทยจะต้องเปลี่ยนจากระบอบราชาธิปไตยไปเป็นประชาธิปไตยอย่างที่ปรากฏอยู่ทุกวันนี้<O</O

และยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงในวันทำเสาหลักเมืองนั้น ทุกคนที่ร่วมชุมนุมทำพิธีเหล่านั้น ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ และบรรดาชีบานาสงฆ์ฐานันดรสูงสุดของประเทศ ได้เห็นเป็นประจักษ์พยานว่า มันมีสิ่งบอกเหตุว่าจะต้องเกิดขึ้น เพราะในหลุมลึกที่ฝังเสาหลักเมืองที่กรองก้นหลุมไว้ด้วยผ้าขาวและสรรพคาถาอาคมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายนั้น เมื่อเวลานำเสาลงหลุมเสร็จและกำลังจะกลบด้วยดินตามปกตินั้น ทุกคนก็ได้เห็นว่ามีงูเล็ก 4 ตัวลงไปนอนเล่นอยู่ในหลุม โดยที่ไม่มีทางแก้ไขอะไรได้ นอกจากถมให้ตายลงไป<O</O

และงูตัวนั้น โบราณหรือกษัตริย์ของกรุงรัตนโกสินทร์ทรงทราบว่า มันบอกถึงการสิ้นสุดของระบอบราชาธิปไตยของคนไทย ว่าการสิ้นสุดของระบอบนั้นจะเกิดจากการถือกำเนิดของเชื้อพระวงศ์ 4 พระองค์ของกรุงรัตนโกสินทร์ และเหตุการณ์ก็เป็นจริงเพราะว่าจากวันนั้นมาถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นวันที่ครบ 150 ปี จากวันที่ฝังเสาหลักเมืองและการตายของงูทั้ง 5 ตัวนั้นเหมือนกับนัด<O</O

ในระยะนั้น เจ้านาย 4 พระองค์เป็นผู้รับผิดชอบกิจการของบ้านเมือง ทั้งฝ่ายนอกฝ่ายในคือ (1) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (2) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิจ (3) กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน (4) สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินทร ซึ่งทุกพระองค์ทรงมีพระราชสมภพในปีเดียวกันทั้ง 4 พระองค์คือ ปีมะเส็งซึ่งหมายถึง งูเล็กหรืองูทั้ง 4 ตัวที่ตายอยู่ในหลุมฝังเสาหลักเมืองวันนั้น<O</O

ดวงชะตาเมืองที่จัดทำขึ้นวันนั้น มันมีอาถรรพ์และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของคนไทยโบราณ และมันแสดงให้เห็นเป็นประการแรกที่พิสูจน์ได้
<O</O
สมัยเจ้าฟ้าทั้ง 4 พระองค์ หรือคนโบราณรู้ดีว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น หรือไม่เกิดหรือจะสิ้นอายุ 150 อายุพระนครตามที่พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงให้คำทำนายไว้นั้น ตามประเพณีไทยก็ต้องไปทำบุญแก้เคล็ดหรือสะเดาะเคราะห์ไว้ก่อน เพราะฉะนั้นเจ้าฟ้าทั้ง 4 พระองค์นี้ก็ได้ร่วมกันสร้างตึกขึ้นหลังหนึ่งที่เรียกว่า ตึกสี่มะเส็ง ที่บริเวณโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์หรือที่สถานเสาวภาทุกวันนี้

การที่จะคาดหมายว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่างไรของคนโบราณอย่างที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงทำนายไว้นั้น ความจริงไม่เพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นเท่านั้น แต่ตามประเพณีก็จะดูกันจากดวงชะตาเมือง ซึ่งโหรไทยหรือนักศึกษาโหราศาสตร์ไทยทุกคนก็จะรู้กันดีว่าเอาอะไรมาทำนายทายทักกันอย่างไร......................(อ่านต่อ)
<O</O

 

(ต่อ 3)
อย่างไรก็ตาม เรื่องของขนบประเพณีในการสร้างบ้านสร้างเมืองหรือหลักการสร้างบ้านสร้างเมืองตามพิธีนครฐานนั้น เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ร้อยแปดที่จะต้องการสองประการคือ

(1) จะต้องมีอาถรรพ์หรือคำสาปแช่งนานาประการที่จะป้องกันเสนียดจัญไรหรืออันตรายทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นแก่บ้านเมือง ผู้ใดที่ไม่หวังดีหรือได้กระทำความชั่วให้เกิดเหตุร้ายแก่บ้านเมืองจะต้องวินาศฉิบหายไป อริราชศัตรูหรือผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมืองที่กระทำการอันเป็นโทษต่อบ้านเมืองนั้น จงแพ้ภัยแก่ตัวเองและจะประสบความวินาศฉิบหายไป

(2) ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ไม่ให้ผู้คนอดอยากและได้รับเวรภัยใดๆ ให้ประสบแต่ความสมบูรณ์พูนสุขทั้งบ้านเมือง ทั้ง 4 มุมเมืองของกรุงเทพมหานครนั้น คนโบราณเล่ากันต่อไปว่าได้มีการฝังอาถรรพ์ไว้ทั้งทิศเหนือ ทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตก เพื่อป้องกันคนชั่วและคนที่มีความประสงค์ร้ายต่อบ้านเมืองอย่าได้มีโอกาสเข้ามาพ้นจากมุมที่ท่านฝังอาถรรพ์เหล่านั้นไว้เป็นอันขาด
<O</O
ว่ากันว่าคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางคาถาอาคมหรือเครื่องลางของขลังแน่นขนาดไหนก็ตาม เพียงแต่เดินผ่านมุมเมืองทั้งสี่มุมใดมุมหนึ่งเข้ามา ท่านก็ว่าวิชาอาคมทั้งปวงก็จะเสื่อมหมด ไม่ว่าจะชื่อเณรแอหรืออาจารย์กู้และหลวงตาจันทร์ก็เถอะ ดีไม่ดีติดคุกเอาง่ายๆ ในชีวิตจะหมดสิริมงคลทำมาหากินไม่ขึ้นเอาทีเดียว

<O</O
ที่มีการบอกกล่าวกันว่า ได้มีการฝังอาถรรพ์ไว้ทั้ง 4 มุมเมืองในวันนั้น ก็เป็นเพียงรับรู้และบอกเล่ากันมา แต่ความจริงที่ทำอย่างแน่นอนก็คือ การอัญเชิญท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เข้ามาประกอบพิธีด้วย ท่านว่า “และให้ปลูกโรงศาลโรงพิธีขึ้นใกล้ๆ กับหลุมที่จะขุด เพื่อจะปักเสาหลักเมืองนั้น ตั้งศาลจตุโลกบาลทั้ง 4 ทิศขึ้น 4 ศาล” ซึ่งอาจจะเป็นการฝังอาถรรพ์ทั้ง 4 มุมเมืองที่บอกกล่าวกันมาก็ได้

<O</O
เช่นเดียวกับเจ้าขุนมูลนายหรือผู้ปกครองบ้านเมืองที่คิดว่าตัวเองคือพระเจ้าที่อยากจะทำอะไรตามใจตัวเองก็ทำได้นั้น ก็ไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จ นอกจากความวิบัติฉิบหายน้อยมากตามกรรมตามเวรของแต่ละคน ก็ได้พิสูจน์กันมาแล้วเป็นลำดับ เฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นต้นมา ดูเหมือนจะอยู่จะตายพร้อมกับเสียงสาปแช่งของผู้คนไม่มากก็น้อย
<O</O
หรือเอากันว่าโอกาสที่จะตายดีกันอย่างสามัญชนกันนั้น มีน้อยคนทีเดียว!
<O</O
ตัวอย่างคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งคนสำคัญๆ ล้วนแต่ดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยากันมาแล้วทั้งนั้น และเมื่อปฏิวัติแล้วก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ แล้วทุกคนก็แตกกระสานซ่านเซ็นกันไปเกือบทุกคน เท่านั้นยังไม่พอ ยังพยายามติดตามจองล้างจองผลาญกันอย่างไม่ลืมหูลืมตาเอาด้วย ไม่ว่าเป็นพระยาทรงสุรเดช พระยาศรสิทธิสงครามและคนอื่นๆ แม้แต่จอมพล ป. พิบูลสงครามเอง ทุกคนใช้ชีวิตสุดท้ายด้วยความทุกข์ยากและตายไม่ดีกันทั้งนั้น แม้แต่หลวงประดิษฐ์มนูธรรม แม้ว่าจะทำบุญกุศลและสร้างเกียรติยศให้แก่บ้านเมืองเพียงไร ก็ไม่มีโอกาสได้ตายอย่างรัฐบุรุษของชาติ แต่ตายนอกประเทศที่ตนเองกอบกู้มันเอาไว้ และที่ร้ายที่สุดก็คือ ความแตกแยกชนิดเอากาวอะไรทาก็ไม่ยอมติด นั่นคือความอาถรรพ์ของดวงชะตาเมือง และรัฐบาลชุดนี้ที่ถือเอาฤกษ์วันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมานั้นเป็นหลัก สิ่งที่จะเกิดก่อนอื่นที่ไม่สามารถจะแก้ไขก็คือ ความแตกแยกที่จะต้องแตกกันขนาดต้องพังไปข้างหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยอะไร

<O</O
ถึงแม้ว่ามีโอกาสได้ตั้งกระทรวงต่างๆ มาถลุงเงินประชาชนกันอย่างสนุกมือก็ตาม แต่ก็จะต้องระวังอาถรรพ์และคำสาปแช่งของโบราณนั้นไว้บ้างก็ดี เพราะเสาหลักเมืองยังอยู่ อาถรรพ์และเสียงสาปแช่งจะไม่ไปไหนเสีย ถ้าหากเกิดความสกปรกหรือผิดพลาดอะไรขึ้นมา เจอพิษงูเล็กชุดนี้แน่………………………………………
<O</O

ที่มา : น.ส.พ. ผู้จัดการ ลงวันศุกร์ที่ 4 ต.ค.2545​

ในตอนท้ายๆพาดพิงเกี่ยวกับ การเมืองการมุ้งนิดหน่อย อ่านๆไปแต่ไม่อยากให้ธาตุกำเริบกัน เพราะไม่ใช่ประเด็นที่เอามาให้อ่าน เอาเป็นว่าจะจริงจะเท็จก็ไม่ต้อง จิตตก เพราะถ้าไม่จริง ก็ไม่มีอะไรให้คิดต่อ ถ้ามีมูลอยู่บ้างก็เป็นเรื่องกรรมเก่าของบ้านของเมือง

<O</O
เราก็คงจะต้องใช้กรรมปัจจุบันเป็นหลักในการบรรเทาเรื่องราวต่างๆ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรม นายเวร ของบ้านของเมืองกันไป ตามสติกำลังความสามารถ และฐานานุรูปของแต่ละบุคคล อย่าไปรอให้บ้านเมืองต้องจัดพิธีใหญ่โตเป็นหลัก เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ใครสะดวกส่วนตัวแค่ไหน จะเล็กจะน้อยไม่สำคัญ ถ้าตั้งใจแล้วมีพลังเหมือนกันหมด………อย่าลืมว่านี่เวปพลังจิต……จิตเราต้องมีพลัง....จิตจะมีพลังได้ต้อง...สงบระงับ………………..(อ่านแล้ว)ไม่เร่าร้อน<O</O
<O</O<O</O

 

ทู้มันหายไปเลยโผล่มาดันหน่อย ^^

 

ใครมีจิตคิดร้ายต่อสถาบันสูงสุดมีอันเป็นไปทุกคน
บางคนไม่มีโอกาสที่จะตายบนผืนแผ่นดินไทยเสียด้วยซ้ำ

พระแม่ธรณีคงไม่ประสงค์รับร่างกายคนทรยศต่อแผ่นดินเกิด
ไว้ให้แปดเปื้อน

 

คนที่ทำให้ธรณีสงฆ์กลายเป็นสนามกอล์ฟของนักธุรกิจ
แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน ยังต้องรับผลกรรมที่กระทำไว้

 

เข้ามาลงชื่อเป็นแฟนคลับก่อน

เดียวจะกลับไปอ่านใหม่

เจอหน้าแรกเข้าไปก็ งง แล้ว

 

เรื่องจริงอิง Fiction “ภัยพิบัติ 5 มิติ” ต่อ……<O</O

การมาของ “พี่พลัง” (ดาวอาทิตย์ย้ายเข้าสู่ราศีตุลย์ 17 ตุลาคม 2555 เวลา 20.26 น.)<O</O

กองทัพสะเทือนซึ่งขณะนี้ได้ตั้งประจันหน้าอยู่กับกรุงเทวา ตามรอบการเคลื่อนย้ายของกองทัพซึ่งเราได้รู้กันอยู่แล้วนั้น…ด้วยความที่พี่เทือนแกไปไหนมาไหนทีเรื่องค่อนข้างจะเยอะ เพราะความที่ชื่อ สะเทือน ก็ต้องให้สมชื่อซะหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เปรียบเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วๆ ไปที่ถ้าไม่ได้ใส่แบตเตอรี่ ก็ยังไม่มีฤทธิ่เดชอะไรมากมาย <O</O

การมาของพี่พลังในวันที่ 17 ตค. นี้ จึงเหมือนการ “เสียบปลั๊ก” ให้กับกองทัพสะเทือนได้กลายเป็น “กองทัพพลังสะเทือน” อย่างสมบูรณ์แบบเสียที ได้ยืดเส้นยืดสายโชว์ของกะเค้ามั่ง ตั้ง 30 ปีจะมาเล็งกะกรุงเทวาซะทีนึง คิดฮอดหลายๆ…พี่มีของมาฝากเยอะเลย “ฉัดหนักๆ แน่นๆ แน่ๆ” งานนี้ พี่รับรอง<O</O

…เสาร์กะอาทิตย์เป็นธาตุไฟทั้งคู่ อยู่ในราศีตุลย์ธาตุลม ไฟสองกองมีลมช่วยเป่า…แล้วเล็งกะกรุงเทวา…อืมม อ่านแล้วแสบตาเหมือนมีควันเข้าตายังไงไม่รู้…ระวังน้ำตาไหลกันไว้บ้างเน้อ.....<O</O

แต่มีตัวช่วยอยู่นิดนึง คือมีดาวพุธ ธาตุน้ำแอบๆ อยู่ในราศีตุลย์กะเค้าด้วยตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะช่วยได้แค่ไหน เพราะตัวจิ๋วๆ อยู่ด้วย…กลัวว่าพี่เสาร์กะอาทิตย์เค้าจะเผาจนน้ำแห้งไปเสียก่อน เพราะสองหน่อนี่เค้าใหญ่กว่าเยอะ…

<O</Oสรุปง่ายๆ ว่าทุกอย่างจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งกันแล้ว หลังจากที่ได้มีการ “เสียบปลั๊ก” กันเกิดขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นเหตุตามคุณลักษณะของธาตุไฟเป็นหลัก เช่น การศึกสงครามที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว การเผาไหม้ของพื้นที่บริเวณกว้าง การระเบิดของสิ่งปลูกสร้างใหญ่ๆ ภูเขาไฟก็อยากจะพ่นไฟบ้าง อะไรทำนองนี้...

<O</Oแต่ขอเน้นย้ำว่า ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเกิดขึ้นในดินแดนสยามาหรือกรุงเทวาของพวกเรา น่าจะเป็นเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นใน “กรุงโลกา” เป็นหลัก แต่เข้าทำนอง “โยนก้อนหินลงในน้ำ ก็ต้องเกิดวงน้ำ” ช้าหรือเร็ว แรงกระเพื่อมก็ต้องขยายวงมาถึงเราอยู่ดี…ก็เตรียมรับแรงกระเพื่อม หรือแรงกระแทกก็ไม่รู้ เตรียมๆ กันไว้บ้างก็ดีเหมือนกัน<O</O

เพราะจากจุดนับหนึ่งจริงๆ จุดนี้ ยังมีจุดนับสองที่สำคัญกว่านี้อีก เนื่องจากอีกไม่นานกองทัพคู่ซี้ของพี่สะเทือนจะเข้ามาขอแจมเวทีนี้ด้วย ซึ่งจะกลายเป็น “กองทัพสะเทือนเลื่อนลั่น” ไปในบัดดล (เพราะหาโอกาสยากมากๆ ถึงยากที่สุด ที่คู่ซี้เสาร์กะราหูจะมา Featuring กันในราศีตุลย์นี้)

<O</Oบรรดากูรู้หลายสำนัก ไม่อยากจะออกหมัด ทำนายทายทักใดๆ ทั้งสิ้น ในกรณีการรวมตัวกันของสองกองทัพนี่ เพราะยังไม่เคยมีสถิติใดๆ ในการร่วมกันในราศีนี้และมาเล็งกรุงเทวา เนื่องจากไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่สร้างกรุงเทวามา ก็ได้แต่เฝ้ารอคอยการมาของท่าน…รู้อย่างเดียวว่า เมื่อไหร่มากันครบๆ เค้ามักจะเรียกกันในภาษาปัจจุบันว่า…“งานเข้าเต็มกระบอก”…ซึ่งคาดว่าคงจะแปลมาจากรากศัพท์เดิมในสมัยโบราณที่เรียกอาการนี้กันว่า..........................................…“หงอกเข้าเต็มกระบาล”….....ของพวกเรากันแล้ว…<O</O</O<O</O

 

มารอชม มหาสงครามเหล่าเทพเทวา และจอมอสุรา

 

มานั่งรอคุณOVLOV มาไขปริศนาดวงดาวต่อ