เมื่อเกิดอุบัติภัยตามคำทำนายคุณจะไปที่ไหน

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย อู่ทอง13, 8 เมษายน 2011.

  1. memfis21

    memfis21 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +119
    สวดมนต์ นึกถึงคุณพ่อ คุณแม่ค่ะ
     
  2. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ดาบหน้า.................^ ^
     
  3. punsyby

    punsyby สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +0
    ทุกสรรพสิ่งย่อมเป็นไปตามกรรม ขอให้บุญรักษากันทุกผู้ทุกนาม
     
  4. สาวกพุทธะ

    สาวกพุทธะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +32
    ในเมื่อทุกชีวิตที่เกิดมาเป็นเพราะกรรมจัดสรรค์ ก่อนเกิดเราไม่มีอำนาจเลือกตามใจได้ ก่อนตายเราก็สร้างกำลังส่งให้มีพลังซิ หลวงพ่อฤาษีท่านสอนว่า ทั้งก่อนนอนและช่วงตื่นตอนเช้าก่อนที่จะลุกจากที่นอน ให้กำหนดจิตตั้งไว้อยู่เสมอว่า หากตายไปเมื่อใดขอตั้งจิตไว้ที่พระนิพพาน ทำให้เกิดความเคยชิน จิตก็จะจำ ขอให้บุญกุศลทั้งหลายที่ได้สร้างมาตั้งแต่ชาติเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันวันนี้รวมตัวกัน เป็นพลังส่วนหนึ่งร่วมกับบุญของทุกท่าน ช่วยเห็นเกราะป้องกันภัยที่จะมีนั้น ให้มลายหายไปด้วยอำนาจของคุณพระรัตนตรัยเทอญ
     
  5. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294

    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
     
  6. julrat

    julrat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +7
    อยู่กับครอบครัว กอดกันให้แน่นๆ แล้วก็ไปพร้อมๆ กัน ไปสู่ภพที่ดีๆ กว่านี้
     
  7. Aekkapat

    Aekkapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +318
    มีสติ มีสติ มีสติ

    แผ่เมตตา แผ่เมตตา แผ่เมตตา

    โลกคือเรา เราคือโลก

    โลกเลือกไม่ได้หากเราคิดไม่ดี โลกก็จะได้แต่สิ่งไม่ดี โลกปฎิเสธสิ่งที่เราคิดไม่ได้
    แต่มนุษย์เรา เลือกคิดดีได้
    เมื่อคิดดีได้ โลกย่อมดีตาม
     
  8. Hmala

    Hmala สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +6
    ข้อคิด ว่างๆ คิดดู
    หากเดินทางไปทุกที่มีแต่น้ำ
    จะว่ายน้ำกันไหวใหม
    ผมอยู่เมืองคอนศรี หากน้ำทะเลสูง 10 เมตรก็จมแล้ว
    คงไม่คิดไปที่ใด
    นิพพานัง ปรมังสุขขัง
    ลมหายใจสุดท้าย ขอไปให้มีสิ่งที่ดี
    สงสารคนที่น้ำปาด น้ำทะลักมาแล้ว หนีไม่ทันครับ
     
  9. shesun

    shesun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +1,327
    อนุโมทนาค่ะ อ่านแล้วสะเทือนใจ...สงสารผู้คนและเทพเทวา...
     
  10. Singhanat

    Singhanat สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    สาร์นชุมนุมพล

    ขออัญเชิญเหล่าพระโพธิสัตว์ หน่อเนื้อพุทธางกูร....
    เทพบุตร เทพธิดา ครุฑ นาคา ยักษ์ คนธรรพ์ ฯลฯ ผู้ลงมาจุติลงมาบนโลกมนุษย์...

    ร่วมทำภารกิจเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ในยุคภัยพิบัติ
    ธำรงค์รักษาไว้ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    ช่วยปกป้อง คุ้มครอง พระพุทธศาสนาในยุคภัยพิบัติ
    และเสริมสร้างพระพุทธศาสนาให้เจริญถึงห้าพันปี..
    ร่วมกับ สิงหนาทโพธิสัตว์ และพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์

    --------------------------------------------------------------

    ศูนย์เตรียมการรับมือมหาภัยพิบัติ มหาสุรสิงหนาท
    สวนศรีมหาโพธิ์ และ วัดป่าร่มโพธิ์ศรี- เขาลับแล (โครงการจัดตั้งฯ)


    สถานที่เตรียมการมา 37 ปี เพื่อรองรับพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์และพระมหาเถระโพธิสัตว์
    รวมถึงทีมงานผู้ลงมาจุติ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และเสริมสร้างพระพุทธศาสนาของสมเด็จ
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกึ่งพุทธกาล ให้เจริญถึงห้าพันปีตามพุทธพยากรณ์

    -------------------------------------------------------------

    หลักการและเหตุผล

    ในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ได้ปรากฏเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติและจากน้ำมือของมนุษย์เกิดขึ้นถี่ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด คลื่นยักษ์สึนามิ ดินโคลนถล่ม วาตภัยและอุทกภัย รวมถึงสัตว์บางชนิดที่มีการตายเป็นจำนวนมาก เช่นปลาวาฬ ปลาโลมา ปู และนก เป็นต้น

    สาเหตุมาจากสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกโลก เช่น อุณหภูมิโลกสูงขึ้น , น้ำแข็งขั้วโลกละลาย , กระแสน้ำอุ่น-น้ำเย็นในมหาสมุทธเปลี่ยนแปลง ปรากฏการณ์เอลนินโญ่และลานินญ่า สถานการณ์แม็กมาหรือหินหนืด ที่มีความร้อนสูงคลื่นตัวอยู่ใต้แผ่นเปลือกโลก ทำให้เกิดปรากฏการณ์การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดทั้งบนบกและใต้ทะเล การเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ รวมถึงการปลดปล่อยก๊าซจากปล่องภูเขาไฟใต้ทะเลที่เป็นพิษต่อสัตว์น้ำ ทำให้เกิดการอพยพหนีตายมาเกยตื้นเป็นจำนวนมาก

    ส่วนปัจจัยภายนอกโลกนั้น ตามข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์ระบุถึงช่วงระยะอนาคตอันไกล้นี้ จะมีปรากฏการณ์เรียงตัวของดาวเคราะห์ต่างๆ ,พายุสุริยะที่มีการปลดปล่อยจากดวงอาทิตย์, ดาวเคราะห์ที่มีวิถีโคจรใกล้โลก และปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์และโลกเกิดกลับขั้วสนามแม่เหล็ก ฯลฯ เป็นต้น เหตุปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้โลกมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ประกอบกับภัยที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ เช่นภัยสงครามที่กำลังขยายตัวไปทั่วโลก ซึ่งอาจก่อให้เกิดสงครามโลกอันเป็นยุคสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งสามารถทำลายชีวิตคนได้เป็นจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว

    การประสบปัญหาของระบบเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ที่หลาย ๆ ประเทศกำลังเผชิญอยู่ทำให้ต้องกู้เงินจากต่างประเทศมาใช้จ่าย หรือไม่มีเงินชำระเงินกู้เป็นต้น เหตุปัจจัยเหล่านี้ก็ทำให้ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ในปัจจุบันอย่างมากเช่นเดียวกัน

    นอกจากนี้ตามข้อมูล ภัยพิบัติธรรมชาติหลาย ๆ เหตุการณ์ มีความ “ไม่เป็นธรรมชาติ” รวมอยู่ด้วย มีทั้งช่วยเหลือและลงโทษ สาเหตุหนึ่งเนื่องมาจากความก้าวหน้าของวิทยาการและเทคโนโลยีในปัจจุบัน ถูกมนุษย์นำไปเป็นทาสรับใช้กิเลส-ตัญหา ซึ่งมีรากเหง้าคืออวิชชา ทำให้ดึงศีลธรรมของคนกลุ่มใหญ่ที่แทบจะล้นโลกอยู่ในขณะนี้ (โลกจะมีประชากร 7 พันล้านคนใน เดือนตุลาคม 54 ) ให้บกพร่องทางศีลธรรม ซึ่งก่อให้เกิดความเสื่อมทรามของกาย วาจา ใจของคน ซึ่งจะดึงกันลงอบายกันเป็นจำนวนมาก จึงมีการอาศัยเหตุการณ์ภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เพื่อปรับสมดุลทางศีลธรรม ทางด้านจิตใจ และคัดประชากรโลกให้เหลือเฉพาะคนดี มีศีลธรรม เท่านั้น เพื่อจะดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต

    สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ได้รับการพยากรณ์จากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเป็นเวลากว่าสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้ว ในศิลาจารึก เขตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประกอบกับการแจ้งเตือนภัยพิบัติจากอนาคตังญาณ ของครูบาอาจารย์พระอริยสงฆ์และฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในประเทศไทย ทั้งที่เปิดเผยตัวตนและอยู่ในที่เร้นลับ ซึ่งตรงกับข้อมูลอื่น ๆ ของนักวิทยาศาสตร์ กลุ่มเตือนภัยพิบัติต่าง ๆ ฯลฯ ที่มีการเตรียมการมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งสถานที่หลบภัย และอุปกรณ์-ปัจจัย 4 ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตเพื่อรับมือกับภัยพิบัติใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

    ศูนย์เตรียมการรับมือมหาภัยพิบัติ มหาสุรสิงหนาท ก็เช่นเดียวกัน เป็นสถานที่ที่มีการเตรียมการเพื่อรับมือกับภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดกับมนุษย์ในยุคนี้ โดยมีเป้าหมายสูงสุด 3 ประการคือ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยุคมหาภัยพิบัติ การเสริมสร้างพระพุทธศาสนาให้เจริญถึงห้าพันปี และการธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ อันเป็นหลักสำคัญของชนชาติไทยเรา

    สถานที่ตั้ง สวนศรีมหาโพธิ์และเขาลับแล (โครงการจัดตั้งฯ วัดป่าร่มโพธิ์ศรี) ในเขตอำเภอสอยดาวจังหวัดจันทบุรี โดยการวางรากฐานของพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ในสมัยชาติที่เกิดเป็นเด็กชายชื่อ “ปลาบู่” เมื่อ 37 ปีมาแล้ว ซึ่งเกิดมาในชาติปัจจุบันเป็นพระยาธรรมิกราชจักรพรรดิ์ เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และเสริมสร้างพระพุทธศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมให้เจริญถึงห้าพันปี ตามพุทธยากรณ์ ซึ่งจะเป็นชาติสุดท้ายที่สำคัญที่สุด ก่อนจะไปตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศรีอาริยเมตไตรย พระพุทธเจ้าองค์ที่ห้า ในภัทรกัปนี้


    ประวัติความเป็นมา

    สวนศรีมหาโพธิ์ และ สำนักสงฆ์บนเขาลับแล มีจุดเริ่มต้นย้อนไปเมื่อ 37 ปีที่แล้ว ก่อนเด็กชายสุทัศน์ คำสี หรือ “ปลาบู่” (พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์) เสียชีวิตประมาณ 14 วัน

    ในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2517 ปลาบู่ได้ขอร้องกับคุณตาทองใบ คำสี ผู้เป็นบิดาว่า “พ่อครับที่ดินแปลงนี้ยกให้หนูนะ ให้ทำถนนให้รอบเหมือนกับสนามหลวง ให้ปลูกต้นโพธิ์ให้ด้วย หากหนูตายไปแล้วพ่อจะรู้เอง.. ให้จำปานของหนูไว้ให้ดี.. หนูจะกลับมาเกิดอีกครั้งเป็นลูกของ...... ตัวโตเท่านี้จะบวชเณร ออกธุดงค์มาช่วยพ่อสร้างวัด “สุทัศน์เทพไพฑูรย์” (สวนศรีมหาโพธิ์) พร้อมกับแม่ใหม่ จะมาทำปาฏิหารย์เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา

    ที่สวนศรีมหาโพธิ์จะเป็นสถานปฏิบัติธรรมของผู้หญิง และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและคนชรา (ในยุคที่เกิดความทุกข์ยากเพราะภัยพิบัติ) บนเขาลับแล (โครงการจัดตั้งฯ วัดป่าร่มโพธิ์ศรีฯ) จะเป็นวัดที่อยู่ของพระภิกษุและสามเณร จะมีพระองค์หนึ่งมีบุญบารมีมาก จะมาช่วยพ่อสร้างวัด” (ปลาบู่ได้บอกเรื่องต่าง ๆ ในอนาคต ทั้งที่สวนศรีมหาโพธิ์และวัดบนเขาลับแลไว้หลาย ๆ เรื่อง ขออนุญาตินำลงแต่เพียงเท่านี้)

    เจตนารมณ์ของปลาบู่ ในการเตรียมการสถานที่สวนศรีมหาโพธิ์และวัดบนเขาลับแล คือเป็นสถานปฏิบัติธรรมของพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา เป็นสถานที่ที่จะใช้เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก รวมถึงเป็นสถานสงเคราะห์ ศูนย์ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทั้งธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ ฯลฯ ในอนาคต ภายหลังกลับมาเกิดในชาติใหม่

    หลังจากที่ได้รับการร้องขอจากบุตรชายแล้ว ภายหลังปลาบู่เสียชีวิต คุณตาทองใบได้เริ่มต้นสร้างสวนศรีมหาโพธิ์ขึ้นมาก่อนโดยการนำต้นโพธิ์มาปลูกไว้เป็นจำนวนกว่า 200 ต้น เป็นเวลา 36 ปีมาแล้ว ได้สร้างศาลาสวนศรีมหาโพธิ์ ขุดสระน้ำ และทำถนนรอบ ๆ เหมือนสนามหลวง โดยเงินที่นำมาสร้างมาจากการไปทำงานขับรถเกรดทำถนน ที่ประเทศซาอุดิอารเบียฯ ไปกลับประมาณ 4 รอบ ๆ ละ 2 - 3 ปี ต่อมาได้ทำถนนขึ้นบนเขาลับแล การเตรียมปรับสถานที่และสร้างศาลาและเสนาสนะบนเขาลับแลรวมกว่า 20 ปี

    ปัจจุบันอาคารสิ่งก่อสร้าง ที่เตรียมการไว้ที่สวนศรีมหาโพธิ์มีศาลาหนึ่งหลัง และบนเขาลับแลมีศาลาหนึ่งหลัง ห้องน้ำ ที่กักเก็บที่ รวมถึงกุฏีพระภิกษุสงฆ์ประมาณ 3 หลัง ซึ่งเมื่อ ศูนย์เตรียมการรับมือมหาภัยพิบัติ มหาสุรสิงหนาท ได้ดำเนินการอย่างเป็นทางการ จะทำการพัฒนาให้สวนศรีมหาโพธิ์ และโครงการจัดตั้งฯ วัดป่าร่มโพธิ์ศรีบนเขาลับ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกาในภารกิจปกป้อง คุ้มครองพระพุทธศาสนา และเป็นศูนย์อพยพ สถานสงเคราะห์ กองบัญชาการของคณะทำงานศูนย์เตรียมการรับมือภัยพิบัติ ในภารกิจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์


    เป้าหมาย - วัตถุประสงค์

    ศูนย์เตรียมการรับมือมหาภัยพิบัติ มหาสุรสิงหนาท มีเป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์สำคัญ สูงสุด 3 ประการคือ

    1. เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยุคมหาภัยพิบัติ ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ตามกำลังความสามารถที่จะทำได้ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีคุณภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม สืบต่อไปในอนาคต
    2. เพื่อธำรงรักษาสิ่งสำคัญทางพระพุทธศาสนาไว้ ให้รอดพ้นจากมหาภัยพิบัติ อันได้แก่ ศาสนสถาน ศาสนวัตถุ หนังสือ คัมภีร์ เอกสารสำคัญ พุทธบริษัทสี่ พระภิกษุ-ภิกษุณี สามเณร-สามเณรี อุบาสก อุบาสิกา ฯลฯ และเสริมสร้าง ฟื้นฟู และวางรากฐานให้พระพุทธศาสนาให้เจริญถึงห้าพันปีภายหลังยุคภัยพิบัติ
    3. ธำรงรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และเสริมสร้างความสามัคคี กลมเกลียวของคนในชาติ

    ระยะเวลาดำเนินงาน

    เป้าหมายแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

    ระยะที่หนึ่ง ก่อนเกิดภัยพิบัติใหญ่ คือระยะเวลาปัจจุบัน จนถึง เดือนธันวาคม พ.ศ. 2554
    ระยะที่สอง ยุคเกิดมหาภัยพิบัติ คือระยะ พ.ศ. 2555 จนถึง พ.ศ. 2562 รวมระยะเวลาประมาณ 7 ปี
    ระยะที่สาม หลังยุคเกิดมหาภัยพิบัติ คือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป

    ผู้ดำเนินงาน

    ผู้ที่ได้รับ “หน้าที่” เป็น ผู้นำการปฏิบัติการของศูนย์เตรียมการรับมือมหาภัยพิบัติ มหาสุรสิงหนาท คือ “สิงหนาทโพธิสัตว์” ซึ่งได้รับหน้าที่ให้เป็น “พระมหาเถระโพธิสัตว์” ผู้มาอุปถัมป์ “ธรรมิกราชโพธิญาณ” หรือ “พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์” ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยุคภัยพิบัติและเสริมสร้างพระศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เจริญถึงห้าพันปี

    ในอนาคตอันใกล้นี้ตามสัญญาที่ให้ไว้กับบิดา พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์จะบวชเป็นสามเณรและจะมาพร้อมกับมารดาในชาติใหม่ ท่านจะใช้สวนศรีมหาโพธิ์และเขาลับแล เป็นศูนย์กลางเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และจะทำปาฏิหาริย์เผยแผ่พระพุทธศาสนา

    ตลอดจน ทีมงานพระโพธิสัตว์ องค์อื่น ๆ และผู้ที่ลงมาจุติเพื่อมาทำหน้าที่สำคัญนี้ ในการช่วยทำภารกิจ เพื่อช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ เสริมสร้างพระศาสนา และธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

    แผนการดำเนินงาน

    ภารกิจเบื้องต้นแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

    ระยะที่หนึ่ง ก่อนเกิดภัยพิบัติใหญ่ คือระยะเวลาปัจจุบัน จนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2554

     ให้ความรู้เรื่องภัยพิบัติประเภทต่าง ๆ แก่เพื่อนมนุษย์ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ ถึงวิธีการเตรียมการรับมือและการดำรงชีวิต การรักษาสภาวะร่างกายและจิตใจ ท่ามกลางสถานการณ์ภัยพิบัติประเภทต่าง ๆ ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบันและในอนาคต
     แจ้งเตือนเหตุการณ์ภัยพิบัติที่สำคัญ เพื่อให้เพื่อนมนุษย์ ได้มีระยะเวลาเตรียมตัว เตรียมใจ เข้าใจสถานการณ์ล่วงหน้า เพราะภัยพิบัติบางชนิด เมื่อเกิดขึ้นแล้ว แก้ไขตั้งตัวไม่ทัน เช่นเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยจุดประสงค์เพื่อความตระหนัก ไม่ใช่เพื่อความตระหนก โดยวิธีการที่ละเอียดอ่อน รอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบต่อสภาวะจิตใจ และระบบเศรษฐกิจของสังคม
     เตรียมความพร้อม ศูนย์เตรียมการรับมือมหาภัยพิบัติ มหาสุรสิงหนาท เรื่องบุคลากร เจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ ยานพาหนะ เครื่องจักรกลหนัก และสถานที่ เพื่อรองรับบุคลากรผู้เข้าร่วมทำงาน ,เพื่อนมนุษย์ผู้ประสบภัย และการออกช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ฯลฯ

    ระยะที่สอง ยุคเกิดมหาภัยพิบัติ คือระยะ พ.ศ. 2555 จนถึง พ.ศ.2562 รวมระยะเวลาประมาณ 7 ปี

     รักษาไว้ซึ่งชีวิตของตนเอง ผู้เป็นที่รัก และเพื่อนมนุษย์ ในสถานการณ์ซึ่งกำลังเกิดภัยพิบัติทั้งภัยธรรมชาติและภัยมนุษย์ ให้มีความปลอดภัย ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
     การออกช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ประสบภัยพิบัติ ในพื้นที่ประสบภัย การฟื้นฟูดูแลรักษาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
     การออกช่วยเหลือและรักษาพระพุทธศาสนาในยุคมหาภัยพิบัติ อันได้แก่สิ่งสำคัญ เช่น ศาสนสถาน ศาสนวัตถุ หนังสือ คัมภีร์ เอกสารสำคัญ พุทธบริษัทสี่ พระภิกษุ-ภิกษุณี สามเณร-สามเณรี อุบาสก อุบาสิกา ฯลฯ โดยอยู่ในเหตุและผลอันชอบธรรม
     การธำรงรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และเสริมสร้างความสามัคคี กลมเกลียวของคนในชาติในยุคที่ขณะเกิดภัยพิบัติ และหลังยุคภัยพิบัติ ฯลฯ

    ระยะที่สาม หลังยุคเกิดมหาภัยพิบัติ คือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป ซึ่งเรียกว่ายุคฟื้นฟู วางรากฐาน เพื่อเริ่มต้นกันใหม่ในทุก ๆ ด้านและเป็นการเข้าสู่ “ยุคศิวิไลน์” หรือ “ยุคธรรมิกราชจักรพรรดิ”

     สำรวจ เก็บกู้ ฟื้นฟู เสริมสร้าง ชีวิต ทรัพย์สิน ทรัพยากร สังคม เศรษฐกิจ และพระพุทธศาสนา

    ฯลฯ

    ขอเชิญบุคคล หรือกลุ่มที่มี “อุดมการณ์” เดียวกัน ร่วมทำงานเพื่อ “อุทิศชีวิต” รักษาไว้ซึ่งชีวิตของบุคคลอันเป็น
    ที่รักและเพื่อนมนุษย์ ,ธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ,ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา ในยุค
    มหาภัยพิบัติ ตลอดจนเสริมสร้างพระพุทธศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เจริญถึงห้าพันปี ตามพุทธพยากรณ์…

    ---------------------------------------------------------------

    ศูนย์เตรียมการรับมือมหาภัยพิบัติ มหาสุรสิงหนาท
    เขาลับแล ม.1 ต.ทรายขาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี 22180
    E-mail : Singhanat_bodisattava@hotmail.com
    www .youtube.com/mahasurasinghanat

    ---------------------------------------------------------------


    กรุณาดาวน์โหลดไฟน์ด้านล่างนี้..:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. suphapis

    suphapis สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +6
    อยู่ที่บ้านพร้อมครอบครัวสวดมนต์บท อิติปิโส พาหุงมหากาตั้งสติ เพราะเคยมีคนที่เขาคิดว่าไม่รอดภัยพิบัติต้องเกิดที่บ้านเขาครอบครัวเขาตั้งสติทำตามที่บอก แผ่เมตตา เชื่อไหม จากที่ดินโคลนจะถล่ม มันแยกออกไปอีกทางข้างบ้านไม่รอด รอดเพียงบ้านของเขาอย่างหวุดหวิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...