เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย toplus99, 20 พฤศจิกายน 2011.

  1. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ออร่า..คืออะไร

    ออร่า (Aura) ..คือแสงสีที่เกิดจากเซลล์ต่างๆ และอวัยวะส่วนสมองของเราบ่งบอกถึงสภาวะจิต ความรู้สึกนึกคิด สุขภาพร่างกายของเราว่าเป็นอย่างไร<O:p</O:p
    - ใครมีความคิดดี มีสมาธิดี มีสติปัญญา ความขยันหมั่นเพียร มีความสดชื่น สดใส แสงออร่าก็จะแผ่กว้างออก ยิ่งมีพลังมากก็จะแผ่กว้างมาก<O:p</O:p
    - ใครที่ไม่มีสมาธิ ขาดสติปัญญา แสงออร่าก็จะน้อยไม่มีพลัง<O:p></O:p>
    - ในทางวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ว่า สมองของคนเรานั้นจะมีคลื่นพลังไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่เปล่งรัศมีเป็นพลังอำนาจออกมา ขนาดความกว้างและความสว่างของแสงนั้นขึ้นอยู่กับคลื่นพลังสมองของผู้นั้น<O:p></O:p>
    ในแถบยุโรปและอเมริกา ได้รับการยอมรับอย่างมากและสรุปสีที่ปรากฏ ได้ให้ความหมายของสีต่างๆดังนี้<O:p></O:p>

    แสงสีทอง : จิตใจมีเมตตากรุณา อยากช่วยเหลือผู้อื่น มีความพึงพอใจในตนเอง<O:p></O:p>
    แสงสีขาว : ความบริสุทธิ์ จริงใจ<O:p></O:p>
    แสงสีม่วง : เห็นสัจธรรมของโลก มีความคิดแจ่มใส<O:p></O:p>
    แสงสีคราม : มีไหวพริบดี ฉลาด รู้เท่าทัน เข้าใจสิ่งต่างๆได้เร็ว<O:p></O:p>
    แสงสีฟ้า : อารมณ์อ่อนไหว ต้องการชื่อเสียง<O:p></O:p>
    แสงสีเหลือง : สมถะ พอเพียง รักสันโดษ รู้จักประมาณตน<O:p></O:p>
    แสงสีแดง : ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อการอยู่รอด ยึดติดอำนาจ ทรัพย์สิน<O:p></O:p>
    แสงสีส้ม : ฉลาด มีความคิด เอาตัวรอดเก่ง<O:p></O:p>
    แสงสีชมพู : ความรัก โรแมนติก สุนทรีย์<O:p></O:p>
    แสงสีเขียว : อารมณ์แปรปรวนง่าย ชอบเด่นดัง<O:p></O:p>
    แสงสีเทา หรือดำ : จิตขุ่นมัว มีความเคียดแค้น พยาบาทจองเวร<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แสงกายทิพย์ (Astral)<O:p></O:p>
    ร่างกายมนุษย์ ประกอบด้วยเซลล์ต่างๆเป็นพันล้านเซลล์ กลุ่มเซลล์จะจับหลุ่มประกอบกันเป็นอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ตับ ม้าม หัวใจ ฯลฯ ซึ่งจะทำงานสัมพันธ์กันเป็นระบบร่งากายที่สมบูรณ์ดี มีพลังชีวิต เพื่อความเป็นอยู่ที่ปรกติ แต่เมื่อใดที่เซลล์เกิดบกพร่องเสื่อมเสีย บิดเบี้ยวผิดปกติ อวัยวะนั้นก็จะทำงานไม่สมบูรณ์ ไม่ดี ทำให้ร่างกายเจ็บป่วย ไม่สบาย ซึ่งจะสะท้อนออกมาเป็นสีและแสงของ "กายทิพย์" ปรากฏให้เห็นเมื่อถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพพิเศษ<O:p></O:p>
    กายสีทอง : มีสุขภาพดีมาก สดชื่นมีชีวิตชีวา ชอบช่วยเหลือ<O:p></O:p>
    กายสีขาว : จิตบริสุทธิ์ หลุดพ้น ปล่อยวาง<O:p></O:p>
    กายสีม่วง : สมาธิตั้งมั่น มีญาณวิเศษ เข้าถึงธรรม สุขภาพดี<O:p></O:p>
    กายสีคราม : มีคุณธรรมนำจิต หนักแน่น มั่นคง น่าเคารพนับถือ<O:p></O:p>
    กายสีเหลือง : ฉลาดเฉลียว มีปัญญาขั้นสูง เก่งศึกษาค้นคว้า มีสุขภาพดี<O:p></O:p>
    กายสีแดง : ทะเยอทะยาน มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อตน วัตถุนิยม<O:p></O:p>
    กายสีเขียว : ขาดอิสรภาพ ถูกกดดัน จิตใจไม่สบาย สุขภาพไม่ดี<O:p></O:p>
    กายสีเทา-ดำ : สุขภาพร่างกายไม่ดี สิ่งแวดล้อมไม่ดี จิตใจไม่ดี มีทุกข์<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    กายทิพย์ และ ออร่า<O:p></O:p>
    เมื่อเราได้เรียนรู้ ฝึกการดูออร่า และกายทิพย์ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้มีความประสานสัมพันธ์กัน และเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน เราก็สามารถเข้าใจในสภาพร่างกาย จิตใจ ความเป็นมนุษย์ของเราได้อย่างชัดแจ้งมากยิ่งขึ้น<O:p></O:p>
    ลักษณะของแสงออร่าที่อยู่รอบร่างกายนั้น ยังมีลักษณะต่างๆที่สามารถบอกความโน้มเอียง หรือความน่าจะเป็นที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น หรือสิ่งแวดล้อมรอบข้างได้ ซึ่งมีรูปลักษณะของแสงแตกต่างกันดังนี้<O:p></O:p>
    - มีแสงเรืองรอบกาย ในลักษณะกระจายออกในทิศทางต่างๆ<O:p></O:p>
    แสดงถึงความเป็นผู้มีพลังจิตดี เป็นคนดีมีคุณธรรม<O:p></O:p>
    - มีแสงกระจายออกเป็นหย่อมๆ เหมือนเมฆ<O:p></O:p>
    เป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเอง ขาดความกล้า ใจเสาะ<O:p></O:p>
    - มีแสงกระจายแหลมออกเหมือนขนเม่น<O:p></O:p>
    เป็นคนคิดแต่เรื่องของตัวเอง เห็นแก่ตัว ไม่ช่วยเหลือใคร<O:p></O:p>
    - มีแสงเหมือนลักษณะแสงฟ้าผ่า<O:p></O:p>
    เป็นคนมักมากในกามารมณ์ ฮิสทีเรีย<O:p></O:p>
    - มีแสงหลบข้างๆตัว<O:p></O:p>
    เป็นคนชอบหลบซ่อนตัว ไม่กล้าสู้ความจริง พูดไม่จริง<O:p></O:p>
    - มีแสงหุ้มตัวเหมือนเปลือกแข็ง<O:p></O:p>
    เป็นคนหนักแน่น มั่นคง มั่นใจในตัวเอง<O:p></O:p>
    - มีแสงเหมือนตะขอเกี่ยวเบ็ดตกปลา<O:p></O:p>
    เป็นคนชอบฉวยโอกาส เอาเปรียบผู้อื่น<O:p></O:p>
    - มีแสงเหมือนหนวดปลาหมึก<O:p></O:p>
    เป็นคนเห็นแก่ตัว มักได้ ไม่ยอมเสียสละ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เมื่อท่านสามารถดูลักษณะ สี แสง รูปแบบ และอารมณ์ของกายทิพย์ และออร่าได้ด้วยการเรียนรู้ ฝึกฝน ก็สามารถอ่านคนออกว่าเป็นคนอย่างไร มีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร เมื่อมาพบเรา หรือมาเกี่ยวข้องกับเรา จะเป็นอย่างไร เช่น คนบางคน เมื่อเราพบ หรืออยู่ใกล้เขา เราจะรู้สึกสบายใจ อยากรู้จัก แต่บางคนเพียงสบตากัน ก็รู้สึกไม่ชอบ ไม่ถูกชะตาเลย สาเหตุเพราะเกิดการกระทบกันระหว่างแสงออร่าระหว่างเขากับเรา ผลกระทบจะบอกว่าไปกันได้หรือไม่ได้<O:p></O:p>
    การฝึกดูแสงออร่าและกายทิพย์ มีสอนทั่วไปในสหรัฐอเมริกา อินเดีย และอีกหลายประเทศในแถบตะวันตก มีตำราออกมามากมาย ซึ่งน่าสนใจมาก สำหรับดูแลตนเอง และผู้ใกล้ชิด และยังเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจ การงาน การเรียน สุขภาพ ความสุขของชีวิต ฯลฯ เพราะเราสามารถใช้ตรวจสอบทางจิต และรู้ก่อนว่าหุ้นส่วนเขากำลังคิดอะไร เป็นคนขี้โกง เห็นแก่ตัวหรือไม่ หรือ เพื่อนร่วมงาน, ลูกน้องเป็นคนอย่างไร เป็นต้น<O:p></O:p>
    อ้างอิง: http://www.phd-hypno.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=3&Id=322240<O:p></O:p>
     
  2. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    เพิ่มเติม[​IMG]<O:p</O:p
    แสงรังสี ออร่า ความหมาย
    · พลังจิต<O:p></O:p>
    แสงเรืองแห่งมนุษย์นี้เรียกว่า “ออร่า” (aura) หรือการเปล่งรังสีแสง หรือรัศมีเรืองรองบางอย่างออกมารอบตัว อาจจะเป็นแสงเรืองสีต่าง ๆ กันซึ่งตาเปล่ามองเห็น หรือเป็นรังสีแสงที่ตาเปล่ามองไม่เห็น แต่สามารถมองเห็นได้ด้วย “ทิพย์จักษุ” ก็ได้…….กล่าวกันว่าการเปล่งรัศมีเหล่านี้มีความเข้มข้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะปรากฏเข้มข้นเฉิดฉายมากในบุคคลที่มีพัฒนาการทางจิตอย่างสูง และรองลงมาจะมีรังสีแจ่มกระจ่างในบุคคลที่มีจิตใจอยุ่ในสภาวะปิติเบิกบานอยู่เสมอ ๆ …… <O:p></O:p>
    ปรากฏการณ์ออร่าจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางจิต วิญญาณ เสียเป็นส่วนใหญ่ <O:p></O:p>
    ดร.แนนดัวร์ โฟดัวร์ นักปรจิตวิทยา หรือ parapsychologis ได้อธิบายไว้ว่า…พวกนักบุญและผู้ชำนาญการศาสนาทางตะวันตกได้จำแนกลักษณะของออร่าไว้ 4 แบบ ด้วยกัน กล่าวคือ:-

    ๑. แบบ นิมบัส (Nimbus) คือแบบที่มีออร่าแผ่ออกมาในลักษณะคล้ายการ “ทรงกลด” เป็นรัศมีทรงกลมรอบศีรษะ

    ๒. แบบ ฮาโล (Halo) เป็นแบบการแผ่รังสีที่มีลักษณะคล้ายวงแหลวแผ่ออกมารอบศีรษะเหมือนกัน

    ๓. แบบ ออรีโอลา (Aureola) เป็นแบบลักษณะแผ่รังสี คล้ายเปลวเพลิงทรงกลด

    ๔. แบบ กลอรี (Glory) เป็นลักษณะแสงเรืองเปล่งปลั่งเรืองรองแผ่ออกมารอบร่างกาย ส่วนมากบุคคลที่มีออร่าแบบกลอรีนี้มักเป็นคนที่มีบุญวาสนาสูงส่งมาก ๆ หรือไม่ก็พวกศาสดาผู้บรรลุธรรมชั้นสูงสุด

    เรื่องออร่ามิใช่มีอยู่เฉพาะทางซีกโลกตะวันตกเท่านั้น ทางซีกโลกตะวันออกอย่างบ้านเมืองเราก็มีเช่นกันและมีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่าด้วย….ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเข้าฌาน (Theosophists) ของทางตะวันออกได้จำแนกลักษณะของออร่ารังสีของมนุษย์เอาไว้ 5 แบบด้วยกัน กล่าวคือ :

    ๑. สุขภาวะรังสี (Health aura)

    ๒. กรรมรังสี (Karmic aura)

    ๓. ชีวรังสี (Vital aura)

    ๔. บุคลักษณะรังสี (Aura of Character)

    ๕. วิญญาณรังสี (Aura of Spiritual nature)

    นอกจากนี้แล้วยังระบุไว้อีกด้วยว่าสีสัยของออร่าจะเปลี่ยนแปลงไปได้ตามสุภาพของอารมณ์ เช่น สีแสด ส้ม จะเกิดเมื่อมีอารมณ์โกรธ หรือเกลียด หรือถูกกดดัน สีแดงเข้มคล้ำจะเกิดขึ้นเมือมีอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจ อยู่ในโทสะจริตหรือกำลังลุ่มหลงด้วยโลภราคะ สีน้ำตาลจะปรากฏขึ้นเมือเกิดอารมณ์ตระหนี่ หึงหวง หรือเกิดความงก สีแดงดอกกุหลาบเกิดขึ้นเมืองอยู่ในอารณ์แห่งความรัก ความใคร่ทางกาม สีเหลืองจะเกิดขึ้นถ้าอยู่ในอารมณ์เป็นกลางหรือในขณะใช้ความคิดทางสติปัญญา สีม่วงจะปรากฏออกมาเมื่อเกิดอารมณ์สงบ วิเวก สีน้ำเงิน ปรากฏได้ก็ต่อมเออยู่ในอารมณ์เชื่อมันมีจิตศรัทธาในรสพระธรรมหรือบุญกุกศ และสีเขียวจะเกิดขึ้นถ้ามีอารมณ์อิจฉาริษยา …… นอกจากนี้แล้วผู้เชี่ยวชาญทางการเข้าฌานบางคนยังเคยเห็นสีของออร่าสีอื่น ๆ อีก แต่ยังระบุไม่ได้ว่ามีความหมายอย่างไร นอกจากผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งคือสตีเฟน อสวิคกิ ในปีพ.ศ. 2443 ยืนยันว่าได้เห็นออร่าของคนใกล้จะตายเปล่งสีออกมาเป็นสีเทาทึบ ๆ คล้ายหมอกควันดำและเขาได้เห็นหลายครั้งเป็นเช่นนั้น จึงเชื่อว่าสีเทาดำนั้นเป็นสีที่เกิดขึ้นก่อนที่จิตจะสละร่างออกไป <O:p></O:p>
    อ้างอิง:http://www.nakusol.com/<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 00361_hslnc.jpg
      00361_hslnc.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.3 KB
      เปิดดู:
      1,054
  3. น้ำใหลนิ่ง

    น้ำใหลนิ่ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +79
    ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากมาย
     
  4. miss you

    miss you เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +202
    เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
     
  5. siritonmo

    siritonmo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +159
    ขอแชร์ประสบการณ์. จะเกี่ยวกันมั้ย. ครั้งหนึ่งไปนอนบ้านเพื่อน. ตัวเรานอนบนเตียงลูกสาวเพื่อนนอนข้างเตียงแล้วเอาขามาพาดบนเตียงติดกับขาเรา. ในความรู้สึกทำไมอยู่ดีๆ ก็ร้อนใจสั่น หงุดหงิด เหมือน
    คนกระวนกระวายใจ ก็เลยออกไปนอนนอกห้อง. เออะมันก็ไม่เป็น. ลองกลับไปนอนเหมือนเดิมก็เป็นอีกหลายๆเที่ยว. เลยแน่ใจเพราะลูกเพื่อน. (ลูกสาวเพื่อนเป็นทอม). วานผู้รู้ช่วยตอบหน่อยจ้า คอยฟัง
     
  6. ภูมินทร์

    ภูมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +225
    หลากหลายอรรถรสเลยครับ ทั้งสาระ ทั้งบันเทิง
    ขอบคุณและสาธุอนุโมทนาบุญด้วยครับ
    รีบมาต่อไวๆนะครับ
     
  7. ยี่แปะกง

    ยี่แปะกง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +272
    ได้ ขอพระท่านมาบ้างหรือปล่าวครับ อยากมีไว้บูชาบ้างครับ
     
  8. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    แรงใจเกินร้อย แต่แรงกายขอพักก็ต้องฟังเขาหน่อย เดี๋ยวอาจโดนประท้วงพักยาว แฟนคลับรอได้พักผ่อนมากๆนะครับพี่
     
  9. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    [​IMG]ต่อ..ตอน#การแสดงสภาวะเปล่งแสงสีออร่าให้ดูโดยไม่ต้องใช้กล้องเคอเลี่ยนราคาล้าน


    ภายหลังในงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของคุณน้าของผู้เขียนได้นิมนต์ท่านฉันจังหันเช้าพร้อมทำพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์จึงได้มีโอกาสพบกราบพระอาจารย์....อีกครั้งและด้วยความที่ท่านใกล้ชิดกับคนในตระกุลญาติพี่น้องของผู้เขียนเป็นอย่างมากท่านจึงเมตตามาเยี่ยมบ้านงาน คืนก่อนวันจริง ท่ามกลางความยินดีของญาติๆและลูกศิษย์อื่นๆ
    ที่ทราบข่าวว่าท่านมาเยี่ยมบ้านงาน<O:p</O:p

    ในช่วงหนึ่งที่เริ่มว่างเว้นจากผู้คน..ภายในห้องที่จัดไว้ต้อนรับท่านพระอาจารย์ บนชั้น2 ของอาคารตึกแถวสองชั้น คงเหลือญาติพี่น้อง เพียง3-4คน
    ผู้เขียนจึงเริ่มการสนทนา เล่าเรื่องการที่ผู้เขียนเห็นคลื่นเรืองแสงของเพื่อนในที่ทำงานในขณะประชุมในที่ทำงานโดยแบบไม่ตั้งใจให้ท่านฟัง
    <O:p</O:p
    ท่านจึงเอ่ยเรื่องคลื่นแสงกายทิพย์อีกครั้งว่า....<O:p</O:p
    บางทีในยามที่การเราฝึกสมาธิต่อเนื่องเรื่อยๆ ไม่จำเป็นว่าจะต้องนั่งหลับตา ท่านั่งขัดสมาธิกำหนดลมหายใจเท่านั้น การที่เราทำจนชำนาญในระดับหนึ่งอารมณ์ในขั้นต้น จนถึงระดับฌาน4 ย่อมเกิดผลที่จิต กระแสลมหายใจและกาย บางครั้งบางช่วงจะมีเกิดการสมังคีกันเองเป็นอัตโนมัติได้แบบไม่ตั้งใจ<O:p</O:p
    สภาวะแห่งผลจากสมาธิย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ...
    <O:p</O:p
    ซึ่งทั่วไปจะเกิดสภาวะความเป็นทิพย์ได้เองเช่น เกิดปากเป็นทิพย์ เกิดหูทิพย์ ตาทิพย์ จิตเป็นทิพย์ขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่เคยปฏิบัติธรรมจนถึงขั้น อัปปนาสมาธิ ครูบาอาจารย์จึงต้องสอนให้พยายามระวังรักษาศีลให้ดี
    และต้องประคอง ระมัดระวังในกุศลบท10 ไว้ให้จงหนัก เพราะการที่บางครั้งสภาวะแห่งความเป็นทิพย์ย่อมสามารถสร้างบุญสร้างบาปได้มากกว่าผู้ที่ไม่เคยได้ปฏิบัติสมาธิใดๆ

    การที่เราโกรธแล้วลืมตัวในการสาปแช่งผู้ใด,หรือปารถนาดีแล้วอวยพร ให้ผู้ใดย่อมผลเกิดพลังมีผล เกิดเป็นไปตามนั้นได้ง่ายจากผลของฌาน หรือนึกไม่ชอบ หรือโกรธแค้นใครนึกอาฆาตผู้ใด ย่อมส่งผลให้อีกฝ่ายได้รับผลกรรมได้เร็วขึ้นมากเดิม
    <O:p</O:p
    ที่เรียกกันว่าจิตเป็นทิพย์ เป็นพลังสั่งให้เป็นไปนั่นเอง เพราะฉะนั้น...เมื่อปฏิบัติทางสมาธิจนชำนาญในระดับหนึ่งแล้วต้องระวังรักษาจิต กาย วาจาไว้ให้ดี..มิฉะนั้นเราจักต้องรับผลกรรมที่เกิดกับตัวเองด้วยเช่นกัน..เปรียบไปแล้วก็เหมือนดาบสองคมนั้นเอง<O:p</O:p

    อันนี้จึงขอฝากมายังท่านผู้ปฏิบัติธรรมสมาธิทั้งหลายโดยเฉพาะสายเจโตวิมุติ ที่เพิ่งเข้ามาศึกษาปฏิบัติว่า ให้ระมัดระวังพลังจิตที่อาจเกิดจากการขาดความควบคุมที่ดีไม่สำรวมในกุศลบท 10 อาจสร้างกรรมอกุศลที่สร้างผลร้ายต่อผู้อื่น จะกลายเป็นบาปแก่ตนเองได้โดยไม่ตั้งใจได้ง่ายๆเช่นกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    จนมาถึงจุดสำคัญ ท่านก็วกมาคุยเรื่องรูปภาพถ่าย Aura และท่านพูดไปถึงเรื่อแสงฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าในภาพวาด และแสงสีต่างๆของเหล่าพรหมและเทวดาในแต่ละชั้น ว่ามีแสงสี ความสวยงาม รัศมีความสว่างที่ต่างกันไปตามการบำเพ็ญบุญบารมีที่สั่งสมไว้<O:p></O:p>
    การที่เทพเทวดาว่าองค์ใดได้เวลาที่จะต้องกลับไปจุติหรือที่เรียกว่าชาตะ ในโลกมนุษย์แสงที่ว่าก็จะหดลดกำลังลงไป เป็นอันที่ชาวสวรรค์ทั้งหลาย รับรู้กันว่าเทวดาผู้นั้นหมดเวลาบนโลกสวรรค์แล้ว เตรียมร่ำลา สั่งเสียกันได้แล้ว
    <O:p</O:p
    “เอ็งอยากดูแสงสีออร่าที่ว่านี้อีกทีมั๊ย..เดี๋ยวจะทำให้ดู.....”
    <O:p</O:p
    “อยากครับ.. อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นอย่างไงกันแน่?”
    <O:p</O:p
    “ งั้น ..เดี๋ยวจัดให้ดู ขอตั้งท่านิดหนึ่งก่อน... เอ็งก็เหมือนกัน ปรับจิตให้ดีซะ”
    <O:p</O:p
    จากนั้นท่านจึงห่มจีวรห่มคลุมร่าง หลับตาท่าสมาธิ ฝ่ายผู้เขียนก็เริ่มกำหนดลมหายใจสำรวจทั่วร่างกายวนไปมาจนได้สามรอบ จากนั้นจึงวางจิตดูลมหายใจแบบสบายๆต่อเนื่อง สายตาเพ่งมองไปที่ร่างของพระอาจารย์ท่านที่อยู่ตรงเบื้องหน้าห่างออกไปเพียงประมาณ1เมตรโดยมีฉากหลังท่านเป็นพื้นปูนฉาบเรียบ ทาสีขาวอมฟ้าอ่อนๆ<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2012
  10. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    [​IMG]

    ต่อ..ตอน#การแสดงสภาวะเปล่งแสงสีออร่าให้ดูโดยไม่ต้องใช้กล้องเคอเลี่ยนราคาล้าน



    ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับสายตาของผู้เขียนเป็นเหตุการณ์ดังนี้
    เริ่มจากมองไปที่ร่างท่านในท่านั่งสมาธิ
    เริ่มมีแสงสีแดงกระจายออกร่างท่าน จากขนาดวงรัศมีเรื่อๆโดยบริเวณรอบศรีษะจากขนาดเล็กๆห่างจากร่างท่าน 1นิ้วจนขยายวงใหญ่ไปเรื่อยๆจนเกือบครึ่งเมตร
    <O:p</O:p
    จากนั้นจึงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม =>สีเหลือง==> เขียว==>ฟ้า
    ==>ครามเข้ม==>ม่วง=>
    และเริ่มมีแสงสีแดง ส้ม เขียว ฟ้า คราม ม่วง เป็นแสงละเส้นผุดขึ้นซ้อนกัน ขึ้นมาถี่เรื่อยๆจนครบทั้ง7สี<O:p>==></O:p>
    เพียงระยะหนึ่งเหมือนกำลังเพิ่มขานดวงใหญ่จากเดิมเรื่อยๆ แต่แล้วแสงที่ว่านี้ก็เริ่มหรี่หดลง<O:p</O:p
    จนหายไปในที่สุด

    แล้วปรากฏการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นนั่นคือ….<O:p></O:p>
    .....ร่างกายท่านที่เห็นอยู่ต่อหน้าต่อตาเพียงไม่ถึงหนึ่งเมตรเมื่อกี๊กลับหายไปซะ...เฉย<O:p</O:p
    คงเหลือไว้แต่จีวรคงทรงอยู่ในสภาวะเดิม แต่ไม่มีท่านอยู่แล้ว...<O:p</O:p
    อ้าวเฮ้ย...นี่ท่านหายตัวไปไหนแล้ว....คงอยู่แต่จีวรห่มตั้งอยู่เหมือนมนุษย์โปร่งแสงมองไม่เห็นร่างท่านแล้ว....<O:p</O:p

    ท่านครับ...ผมมองไม่เห็นร่างพระอาจารย์แล้ว...”ข้าพเจ้าพูดบอกท่านพระอาจารย์<O:p</O:p
    สักพักจึงเริ่มปรากฏภาพท่านขึ้นมาชัดขึ้นเรื่อยๆจนกลับสู่สภาพปรกติ<O:p</O:p
    สนทนากันต่อไป...

    <O:p</O:p
    เอ..ท่านว่าทำไมเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้หนอ...
    ลองดูทีสิว่าพระอาจารย์ท่านบอกว่าไว้อย่างไร<O:p></O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2012
  11. ภูมินทร์

    ภูมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +225
    อาจารย์แสดงให้เห็นแบบนี้ เป็นบุญตาของคุณจริงๆครับ
    ขอบคุณครับ
     
  12. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    เปรียบเหมือนร่างท่านแปรสภาพเป็นอากาศธาตุ
     
  13. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ#การแสดงสภาวะเปล่งแสงสีออร่าให้ดูโดยไม่ต้องใช้กล้องเคอเลี่ยนราคาล้าน

    <O:pในระหว่างที่พระอาจารย์จากถ้ำแดนไกลท่านแสดงสภาวะการเปล่งสีแสงคลื่นกายทิพย์
    จนครบทุกสีของแสงสีรุ้ง จากนั้นแสงก็กลับหดจางหายไปพร้อมกับร่างท่านกลายเป็นโปร่งแสง
    เหมือนมนุษย์ล่องหนในหนังทีวียุคเก่าๆก็นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้อยู่ในเจตนาเดิมที่ท่านต้องการแสดง เรียกว่าผิดคอนเซ็ปท์ ผิดเจตนาเดิมก็ว่าได้
    <O:p</O:p
    .”พระอาจารย์....ตัวท่านหายไปแล้ว ตอนนี้ผมไม่เห็นตัวท่านแล้ว”<O:p</O:p
    เมื่อท่านถอนจิตกลับคืน ท่านพูดว่า
    <O:p</O:p
    “แหม..ว่ะ เดินจิตผิดสเต็ปไปนิดหนึ่ง บวกกลับร่างกายข้ามันเหนื่อยเพลียจากการเดินทางด้วย กว่าจะมาบ้านงานนี้ ข้ามีกิจนิมนต์มาหลายที่ติดๆกันเลย..ไม่งั้นข้าจะโชว์อะไรสนุกๆกว่านี้ให้ดู..เดี๋ยวคราวหน้า คราวหน้า...(ฮั่นนแน่..รับปากแล้วนา ท่านนา..)
    <O:p</O:p
    “แบบนี้มันต้องเดินจิตไงครับเนี่ย?” อยากรู้จัง
    <O:p</O:p
    มันก็ต้องทำกสิน วรรณะสี ทุกสีให้ได้ก่อน จากนั้นก็ใช้กสินอากาศร่วมด้วย
    แต่ข้าลุยกสินอากาศหนักไปหน่อย ตัวข้าเลยโปร่งแสง จนเอ็งมองทะลุเป็นอากาศไปเลย
    ข้าก็ยังไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน เห็นภาพถ่ายออร่าของเอ็ง ก็เลยนึกสนุก
    อยากลองเล่นแบบใหม่ๆดูมั่งไง”
    <O:p</O:p
    ในช่วงที่ผู้เขียนดูการปรับเปลี่ยนคลื่นแสงกายทิพย์ของพระอาจารย์ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบเชียบบนบ้านชั้น2 ก็ปราศจากการพูดคุยของญาติๆ 3-4 คน ที่ได้แต่นั่งเงียบมองตากันปริบๆ เสียงบ่นให้ได้ยินภายหลังว่า
    <O:p</O:p
    ” ลูกศิษย์..อาจารย์คู่นี้เค๊าเล่นอะไรกันหนะ ไม่เห็นรู้เรื่อง”
    <O:p</O:p
    เดี๋ยวครับเดี๋ยว....<O:p</O:p
    มีก๊อกสองตอนต่อไป..เรื่องการแสดงสภาวะภาพครูบาอาจารย์สายเหนือโลก<O:p</O:p
    ดูทีซิว่าจะลงเอย..อย่างไร<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2012
  14. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004


    ขอขอบคุณมากครับ...สำหรับน้ำใจร่วมแสดงความคิดเห็นทุกๆท่าน...ยอมรับว่านับไม่ธรรมดาจริงๆ

    เอางี้ดีกว่า..ใครตอบมาได้โดนใจToplus99 มากสุดๆ 2 ท่าน
    รางวัลที่จะได้รับคือ พระชุดเนื้อแร่กายสิทธิ์ในถ้ำ จากการปลุกเสกของท่านพระอาจารย์จัดสร้างขึ้น เพื่อการเตรียมรับภัยพิบัติ จำนวน 2 รางวัล(2ชุด) ฟรีๆ
    ราคาปกติบูชาที่วัดชุดละ1,499บาท เชียวนะ

    พระผง1ชุด ประกอบด้วย พระผง 2 องค์
    (องค์ใหญ่ชาย/องค์เล็กหญิง)โดยแจ้งผ่านทาง PM ส่วนตัว

    แล้วจะประกาศรายชื่อแจ้งให้ทราบ
    ป่าวประกาศเกียรติคุณ ผ่านกระทู้นี้ให้ชื่นหน้าตาบานกันยิ่งนัก!
    ในหลังวันที่ 16 มีนาคม 55 นี้แน่นอน
    (ค่าจัดส่งฟรีตลอดงาน...ใจป้ำสุดๆ)

    ***เงื่อนไขคือต้องมีผู้ตอบคำถาม จำนวนมากกว่า 30 รายเท่านั้น

    (ถ้าไม่ถึงจำนวนที่ว่า..ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกรางวัลดังกล่าวทันที...เพราะฉะนั้นรีบๆหน่อยนะ)

    ถือว่าร่วมสร้างสรรค์กุศลจิตด้วยกัน..[/QUOTE]


    รายการนี้ยังมีอยู่นะครับ....

    มีโอกาสร่วมแสดง..ความคิดเห็นเพิ่มเติมได้

    ตอนนนี้มีคะแนนในใจในระดับหนึ่ง

    ขาดแต่คนที่เข้ามาตอบยังน้อยไปนิดหนึ่ง ก็เพิ่มตัวเลือกอีกหน่อย รับรองของเขาดีแน่ แล้วจะเล่าประสบการณ์ในระหว่างการแสวงหามวลสารตะกูลแร่ศักดิ์สิทธิ์..พิเศษ


    แล้วยังไงจะ PMแจ้งให้ทราบอีกครั้ง..สำหรับผู้ได้รับการคัดเลือก
     
  15. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ตอน #แสดงสภาวะ ภาพหลวงปู่ครูบาอาจารย์สายโลกทิพย์

    อ้างความเดิมจากตอน#การแสดงสภาวะเปล่งแสงสีออร่าให้ดูโดยไม่ต้องใช้กล้องเคอเลี่ยนราคาล้าน<O:p</O:p
    ผลตอนท้ายคือ จบที่ท่านบอก"ฝากไว้คราวหน้า..คราวหน้า"
    <O:p</O:p
    จนงานทำบุญขึ้นบ้านเสร็จสิ้นไป หลังจากนั้นผู้เขียนก็ยังคง วนแวะไปทำบุญบ้าง ถือศีลปฏิบัติธรรมบ้าง<O:p</O:p
    แล้วแต่โอกาสจะอำนวยที่ว่างจากงานประจำ<O:p</O:p
    ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ลืมเหตุการณ์ที่ท่านไว้ฝากไว้คราวหน้า เพราะส่วนใหญ่แล้วมีโอกาส
    ได้พูดคุยกับท่านแบบสองต่อสองนี้ค่อนข้างยาก เพราะท่านมีกิจการงานพัฒนาสำนักโดยตลอด และกิจนิมนต์เดินทางต่อเนื่องอยู่เรื่อยๆ <O:p</O:p
    แม้บางครั้งลาพักร้อนมาปฏิบัติธรรม 5 วัน ยังมีโอกาสคุยสนทนาธรรมกับท่านพระอาจารย์เพียงไม่กี่นาทีเอง<O:p</O:p

    จนเวลาล่วงเลยไปเกือบครึ่งปี ในช่วงกลางสัปดาห์นั้น ท่านไม่ติดกิจนิมนต์ ลูกศิษย์มาปฏิบัติธรรมกันเพียงเล็กน้อย หลังทำวัตรเย็นประมาณ4 ทุ่มเศษ
    การสนทนาของลูกศิษย์ พระอาจารย์จึงเริ่มขึ้น

    <O:p</O:p
    “พระอาจารย์ เห็นท่านมีกิจ มีงานไม่หยุดไม่หย่อนนี่ไม่เหนื่อยมั่งรึครับ

    <O:p</O:p
    “ทำไงได้ล่ะ งานศาสนาเหนื่อยได้...แต่หยุดไม่ได้ ข้าถือว่าข้าทำงานถวายพระพุทธเจ้า เหนื่อยได้แต่ไม่มีสิทธิ์ท้อ"

    <O:p</O:p
    “ข้าหนะมันเคยดื้อ เคยทำให้หลายชีวิตต้องมาเหน็ดเหนื่อย ลำบากใจกายเพราะข้าเยอะแล้ว ข้าต้องทดแทนเวรกรรมที่ข้าก่อ”
    <O:p</O:p
    “ครูบาอาจารย์อาจารย์ข้าที่พอจะเอ่ยอ้างบุญบารมีครูบาอาจารย์ที่เป็นสังขารมนุษย์ที่เป็นหลวงพ่อหลวงปู่ที่มีชิวิตอยู่บ้างก็ไม่มีชัดเจน เพราะข้ามีโอกาสได้ศึกษาปฏิบัติรับใช้ท่านบ้างก็น้อยนิดแค่ไม่กี่วัน กี่คืน
    ชะตาชีวิตข้าก็ต้องระหกระเหินเดินทางไปเรื่อย จะอ้างชื่อท่านเป็นว่าครูบาอาจารย์เรา ก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าท่านจะจำเราได้มั๊ยนะ เกิดอ้างชื่อท่านไป เกิดว่าท่านดันจำเราไม่ได้ เราก็หน้าแตกอีก
    นี่แหละการไม่มีครูบาอาจารย์ที่มีชีวิตช่วยอุปถัมภ์มันก็จะเหนื่อยยาก กว่าพระรูปอื่นๆนะไอ้ทิดนะ”
    <O:p</O:p
    แต่ข้าก็สู้ สู้เพราะข้ามีงานของพระพุทธเจ้าที่ท่านสร้างวางเป็นหนทาง มานับสองพันกว่าปีที่สงฆ์ทุกรูปต้องประพฤติปฏิบัติส่วนใครจะทำไม่ทำ ทำมากน้อยก็เรื่องของเขา ส่วนข้าเรื่องเลวๆชั่วๆทั้งหลายก่อนที่จะบวช ข้าก็ยังถือว่าสุดๆ

    <O:p</O:p
    “และเมื่อข้าบวชมากินข้าวน้ำญาติโยมแล้ว ข้าก็ต้องสุดๆแบบนักบวชของพระพุทธเจ้า อยู่ดีๆถ้าไม่ใช่พระใครมันจะเอากับข้าวกับปลามาให้กิน แถมยังคัดสรรหาแต่ของที่ถือว่าดีที่สุด มาถวายทำบุญ
    บางทีเฉพาะเจ้าตัวเองยังไม่กล้าซื้อมากินเองเลยนี่ อุตส่าห์หวังบุญเลย ก็ซื้อก็จ่ายมาให้พระได้ใช้ได้กินแถมให้เสร็จยังต้องยกมือไหว้คนรับอีก...มีที่ไหนในโลก
    เผลอๆมีค่าจ้างเป็นเงินใส่ซองถวายเป็นค่ากินอาหารเขาอีก..
    แลกค่าสวดงึมงึมๆ อะไรไม่รุ๊..ที่เจ้าตัวยังฟังไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก


    หนำซ้ำไอ้คนรับ.. หัวโล้นโกนหัว ครองผ้าเหลืองมันยังจองหอง ไม่เคยยกมือรับไหว้เขาอีกต่างหาก...พระไหว้โยมก็กลัวบาปอีกเอ็งคิดดูเถอะ ฮ่าๆ”

    <O:p</O:p
    “นี่... ถ้าไม่ใช่ลูกของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ได้ยูนิฟอร์มที่พระพุทะเจ้า (ผ้าไตรจีวร อัฐบริขาร)ท่านออกแบบไว้ให้ใช้จนถึงทุกวันนี้.... ไหนเลยจะได้อิ่ม จะอยู่ได้ดี มีที่อาศัยหลบลมหนาว แดดร้อนจากไหนกัน เอ็งว่าพระพุทธเจ้าท่านสุดยอดมั๊ยล่ะ ข้าว่าท่านสุดยอดสุดๆแล้วนะ “


    <O:p</O:p
    พระอาจารย์ท่านพูดกล่าวถึงพระพุทธเจ้าครั้งใด ท่านก็พนมมือยกขึ้นเหนือหัว หันหน้าไปทางพระพุทธรูปด้วยความเคารพนพนอบทุกครั้ง.... (ก็จริงอย่างท่านว่าทุกคำซะด้วย.. ซิแฮะ!)

    <O:p</O:p
    ส่วนใครที่จะสร้างบาปกรรมหนักทำลายพระพุทธรูปทองเหลืองทิ้ง เพราะบูชาลัทธิเทวทัตเข้าแทรก
    ก็ช่างหัวมันเถอะ! อย่ามาทำต่อหน้าต่อตาก็แล้วกัน..ฮึ่ม<O:p</O:p

    “ต้วข้าเองก็ไม่ได้ศึกษาปริยัติ ตำราบาลีอะไรมามายนัก แต่ข้ามีกำลังใจดีอยู่ทุกวันนี้
    เพราะข้ามีครูบาอาจารย์สายจิตสายธรรม ที่เรียกกันว่า..สายเหนือโลก ไง
    ที่เป็นกำลังให้ข้าสู้มาได้จนถึงทุกวันนี้...อย่างที่เอ็งเห็นนี้แหละ...<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2012
  16. น้ำใหลนิ่ง

    น้ำใหลนิ่ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +79


    ถูกใจครับถูกใจมาก ท่านเป็นพระแท้ๆจริงๆ
    อยากไปกราบขอเป็นลูกศิษย์กับท่านซักคน
    ตัวผมเองฝึกมาหลายอย่าง แต่ถูกจริตกับอานาปานสติมากที่สุด
    ตอนนี้ยังได้อยู่แค่นิ่งๆอยู่มานานแล้ว กลัวว่าจะหลงทาง
    เพราะขาดครูบาอาจารย์ชี้แนะ
    วัดท่านชื่อวัดอะไรครับ อยู่ที่จว.ใหนครับ
    ตอนนี้ลูกชายติดวิศวะลาดกระบังแล้ว หมดภาระแล้ว มีเวลาไปปฎิบัติธรรมได้แล้วครับ

     
  17. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ส่วนตัวพอได้ครับ.. แต่ขอสงวนสิทธิ์เปิดเผยต่อสาธารณะชน
    เพราะเรื่องมันจะยุ่งวุ่นวาย รบกวนท่านจนเกินไป น้อยรายที่จะตั้งใจไปปฏิบัติธรรมจริงๆลำบากหน่อยก็ถอยแล้ว..

    การปฏิบัติธรรมก็พรากเพียรไปเรื่อยๆ ย่อมเกิดผลบุญแก่ตนแน่นอน เป็นกำลังใจให้ครับท่าน..

    นี่เห็นเป็นแฟนคอลัมน์กันมานานนะเนี่ย..
     
  18. yutthana promnaimuang

    yutthana promnaimuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +344
    น่าจะอยู่ช่วงจังหวัดสระบุรีถึงโคราช เพราะมีป่าเขาเยอะครับพอดี
    บ้านอยู่ปากช่องอาจจะใกล้ๆอำเภอนี้ก็ได้
     
  19. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    คาดเดาได้เก่งมาก....ครับท่าน
    ;ปรบมือ
     
  20. chart2k

    chart2k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,131
    ค่าพลัง:
    +5,302
    ผมก็สนใจจะไปปฏิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์ ยังไงช่วย PM บอกด้วยนะครับ :)
     

แชร์หน้านี้

Loading...