เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่

กราบหลวงปู่ทิมกันก่อนนอนครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

สิ่งที่ผมได้ฟังจากผู้ที่มีโอกาสได้พบกับหลวงปู่ในครั้งก่อน ซึ่งเป็นคำบอกเล่า
จากหลายๆ คน ไม่ใช่จากคนเพียงคนเดียวแน่นอน ผมพยายามจะเลี่ยงกับคำว่า
เขาเล่าว่า เขาว่าว่า เขาไหน ใครเล่า สำหรับคนที่ไม่เชื่อ ต่อให้ฟิ้นฝอยมาทั้ง
ทะเลก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี มีเพียงวิจารณญาณส่วนบุคคลเท่านั้นที่พอจะช่วยได้

ครับ....พระหลวงปู่ส่วนใหญ่ ไม่ได้เน้นเรื่องจาร ท่านเป็นผู้ที่สำเร็จเรื่องจิต ท่านจึง
เน้นจิตเป็นสำคัญกว่าเรื่องอื่น ท่านไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ผู้สมถะเรียบง่าย ใจดี
ส่วนการจาร ก็มาจากหลายบุคคลที่ทั้งจารแท้ และจารไม่แท้ ขอสงวนไว้ก็แล้วกันครับ
ว่าใครเป็นคนจาร แต่คงไม่ขยันจารเท่าไรหรอก คนเราก็เมื่อยเป็น ร้อยตัว มีสักสามตัว
ก็ถือว่าดีถมไป เมื่อของเสกมาแล้ว จะมาจารเพื่ออะไร ในเมื่อของสำเร็จเสร็จสิ้นมาแล้ว

การสร้างสิ่งใดสักอย่างขึ้นมา เป็นธรรมชาติที่ต้องมีการลองผิดลองถูกกันบ้าง แล้วของ
เหล่านั้นไปไหน ชาวบ้านไม่ใช่นักสร้างพระ ไม่มีวิทยาการมากมายเช่นปัจจุบัน ทำไมพระ
ของวัดละหารไร่ ถึงได้มีพัฒนาการรุดหน้า กว่าพระที่ถูกสร้างในละแวกเดียวกัน หรือดึงมา
คนละเทคโนโลยีมาใช้ ผมฟังแล้วก็ได้แต่ ผงกหน้า....อืม น่าคิดๆๆๆ

ศึกษาวัตรปฏิบัติที่แท้จริง แล้วจะช่วยเรามองภาพอะไรออกอีกเยอะครับ ผมก็พึ่งเริ่มเรียนรู้
ไม่ได้มีความรู้มาจากที่ไหน แต่ด้วยความที่ไม่ได้รู้อะไรมาเลย เวลาจะจับยัดสิ่งใดลงไปก็
ง่ายกว่าความเชื่อเดิมๆ แต่ใช้ความเดิมมาวิเคราะห์หาความน่าจะเป็นที่ควรเกิดขึ้นจริง กับ
สิ่งที่เกิดขึ้นจริงมาแล้ว มันผิดแผกแตกต่างจากสิ่งที่ควรจะเป็นเช่นไร...(น้าต๋อยฯ)

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่



(KonDernTaang@ตากลม)

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ผู้สวดมนต์ก็จะต้องทำจิตของตนให้นิ่งหรือสงบเพื่อให้จิตของตนเป็นสมาธิ และด้วยอำนาจของจิตที่เป็นสมาธินี้เองก็สามารถทำให้เกิดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อต่างๆขึ้นได้ ซึ่งอำนาจจิตนี้ก็จะต้องได้รับการฝึกฝนเพื่อให้เกิดอำนาจของจิตนี้เป็นพลังซึ่งเราอาจจะรวมเรียกกันว่าพลังจิตก็ว่าได้ซึ่งสามารถทำให้เกิดฤทธิ์เดชหรืออิทธิปาฏิหารย์ต่างๆได้อย่างเหลือเชื่อและตัวพลังจิตนี้ถ้าวิเคราะห์ให้ดีน่าจะเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เราได้เห็น ทำให้เราได้ยิน และทำให้เราเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างๆ ถ้าทำจิตหรือสมาธิไม่ถึงขั้นคาถาบทนั้นก็ยังใช้ไม่ได้ผล หรืออาจบางทีการที่จะเสกของหรือวัตถุสิ่งใดก็แล้วแต่เพื่อให้เกิดสัมฤทธิ์ผลขึ้นมาถ้าจิตหรือสมาธิของผู้เสกยังไม่ถึงระดับอภิญญาญาณก็ยังไม่สามารถทำได้ อภิญญา 6 คือสามารถแสดงฤทธิ์หรืออิทธิฤทธิ์ได้ เป็นทิพโสตมีหูทิพย์ ตาทิพย์ สามารถรู้การตายของคนและสัตว์สามารถรู้วาระจิตรู้ความคิดของคน สามารถระลึกชาติได้และสามารถหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้ถ้าจะให้บังเกิดผลได้ก็จะต้องทำปัญญาให้เห็นแจ้งซึ่งเรื่องของปัญญานี้ย่อมเป็นตัวสำคัญในการดำเนินชีวิตและเป็นตัวชี้นำในการแก้ปัญหาต่างๆในชีวิตประจำวัน และจะต้องมีความตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรมให้จิตเกิดความสงบได้ทั้งกายวาจาใจคือจะต้องมีการเจริญสมถะวิปัสสนากรรมฐาน เรียนรู้เรื่องการภาวนาต้องมีความเชื่อมั่นศรัทธาเชื่อมั่นในการบริกรรมภาวนาอันเป็นอารมณ์ของจิต การที่จะภาวนาแล้วจะต้องบังเกิดผลนั้น จะต้องมีใจที่แน่วแน่ มั่นคง ให้จิตอยู่กับพุทโธและให้พุทโธเข้าถึงจิต ซึ่งจะทำให้จิตนั้นกลายเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ทำให้มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและสิ่งสำคัญนี้ก็จะไม่เกิดในจิตของการภาวนาพุทโธนี้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการฝึกฝนจิตและทำจิตให้สงบ เพื่อการเจริญกรรมฐานเพื่อที่จะขจัดนิวรณ์ทั้ง 5 คือ1. กามฉันทะคือความใคร่ในกาม 2.พยาปาทะคือความพยาบาทเคียดแค้น 3.ถีนะมิทธะคือความง่วงเหงาหาวนอน 4.อุทธัจจะกุกกุจจะคือความฟุ้งซ่านรำคาญ 5.วิจิกิจฉาคือความลังเลไม่ตกลงใจที่จะประพฤติปฏิบัติธรรมโดยเอาชีวิตเข้าแลก และการให้จิตภาวนาว่าพุทโธซึ่งการฝึกฝนจิตนั้นจะต้องตั้งมั่นอยู่ในคำบริกรรมพุทโธนี้และให้เอาสติไปควบคุมอยู่ในพุทโธเป็นอารมณ์เดียวและการภาวนาพุทโธไปเรื่อยๆจะทำให้ใจเป็นกลาง วางจิตให้เสมอ เอาสติไปกำหนดจิตและบริกรรมภาวนาพุทโธไปเรื่อยๆนี้จะทำให้กิเลสความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงมันจะค่อยๆหายไปเอง และขอให้เชื่อมั่นในพุทโธซึ่งคำว่าพุทโธนี้ก็เปรียบเสมือนการระลึกถึงพระพุทธเจ้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระทิมท่านได้ยึดมั่นและถือมั่นในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้จริง หลักปฏิบัติในพระพุทธศาสนาคือให้มีศีล สมาธิ ปัญญา ดั่งคำบาลีกล่าวไว้ว่าสีเล ปติฏฐายนโร สปญโญ จิตฺตํ ปัญญญ จ ภาวยํ อาตาปิ นีปโก ภิกขุ โสอิมํวิชฏเย ชฏํ “บุคคลใดตั้งอยู่ในศีล ทำสมาธิให้เกิด ยังวิปัสสนา ปัญญาให้แจ้ง บุคคลผู้นั้นก็จะสางความยุ่งเหยิงในโลกนี้ได้” ซึ่งความยุ่งเหยิงก็คือ กิเลส มี โลภะโทสะ โมหะ หรือความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่มาวุ่นวายในจิตใจเราตลอดเวลา

 

หลวงปู่ทิมท่านสอนให้รู้จักคำว่า...นิ่ง....เมื่อเกิดปัญหาใดๆก็แล้วแต่อย่าไปตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ มนุษย์ทุกคนเกิดมาย่อมมีปัญหาและอุปสรรคมากหลายที่จะเจอ แม้แต่พระพุทธเจ้าเองกว่าท่านจะตรัสรู้ได้ท่านก็ต้องยอมอดทนต่ออุปสรรคต่างๆที่ได้ประสบพบต่างๆนาๆ เพราะพระพุทธองค์ท่านจะนิ่งต่อสิ่งที่เกิดขึ้น สติมาปัญญาก็จะเกิด

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

กายกับใจอาศัย ซึ่งกันอยู่
เราต้องรู้ว่ามัน ต่างกันหนา
สุขทุกข์แต่ละอย่าง ก็ต่างนา
ถ้าเอามาคลุกกัน มันยุ่งใจ
ปล่อยให้ยุ่งแล้วมันแย่ แก้มันยาก
ยิ่งยุ่งมาก ยิ่งแย่ แก้ไม่ไหว
อย่าปล่อยให้ยุ่งนุงนัง จะหนักใจ
จงแก้ไขอย่าให้ยุ่ง นุงนักนา
โกรธเขาเราก็รู้ อยู่ว่าร้อน
จะนั่งนอนก็เป็นทุกข์ ไม่สุกใส
แล้วยังดื้อด้านโกรธ จะโทษใคร
น่าแค้นใจจริงหนา ไม่น่าชม
จะเป็นสุขก็ต้องทุกข์ ลงทุนก่อน
จะเป็นก้อนทีละน้อย ค่อยประสม
จะเป็นพระก็ต้องละ กามารมณ์
จะเป็นพรมก็ต้องเพียร เรียนทำฌาน
มีกายอย่าได้หมาย ว่าเป็นสุข
กลับมีทุกข์มากมาย หลายสถาน
จะหาสุขที่กาย จนวายปราณ
คงไม่พานพบแท้ เป็นแน่นอนฯ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ผมได้ทดลองตรวจสอบจากหลายแขนงสาขา เกี่ยวกับพระเนื้อขาวเหล่านี้
ทำให้ได้ข้อสรุปขั้นต้นว่า....พระนี้มีตัวตนจริง หากจะอธิบายให้ผู้ที่ไม่ได้ทราบเกี่ยวกับคำ
จำกัดความที่กล่าวมา ก็จะประมาณได้ว่า พระนี้มีผู้ปกปักรักษาจริง ซึ่งใช้คำว่ามี "ตัวตน"
คำว่า "ตัวตน" ในภาษาพระเครื่องไม่ได้จำแนกออกว่าเป็นประเภทใด พอกล่าวแล้ว คน
ส่วนใหญ่ก็จะนึกถึง "ผี" "พราย" "กุมาร" เป็นต้น แต่คำว่า ตัวตน ยังหมายถึง ผู้รักษาที่
เป็น "จิต" "วิญญาณ" "เทพ" "ผู้รักษา" จากที่ได้รวบรวมมาแล้ว ผมขออนุญาตสรุปให้
เข้าใจได้ว่า พระของหลวงปู่มีผู้รักษาประจำองค์พระ และผมไม่เคยเรียกว่า "พราย" แต่
จะใช้คำจำกัดความที่ว่า "ผู้รักษา" และอีกนัยยะหนึ่งคือ "เทพ" "เทวา"

อาจารย์ท่านนึง ได้สัมผัสลูกอมขาวนี้ แล้วบอกว่า ลูกอมนี้มีตัวตนหรือ ลูกศิษย์จึงได้ตอบ
ไปว่า เห็นเขาว่าไม่มีนะครับ ท่านจึงตอบกลับมาว่า มันหลอกเข็มไม่ได้หรอก ในช่วงจังหวะ
นั้น เข็มทองที่อยู่ในตัวท่านได้วิ่งตรงมาที่ฝ่ามือทั้งหมด.....(เป็นร้อยนะครับในตัวท่าน ถ้าผมจะไม่ผิด)

ผมเคยได้ลองเก็บข้อมูลสำหรับสิ่งที่ผู้ที่ได้รับพระไปแล้ว พบเห็นบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะต่อหน้า
หรือในความฝัน ซึ่งก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ ลักษณะที่ถูกบรรยายมา ช่างตรงกันกับท่านอื่นๆ
แบบไม่น่าเชื่อ และยังมีอะไรอีกมากมายที่ผมได้รับฟังมาจากสมาชิกของเราหลายๆ ท่าน
เกี่ยวกับเรื่องตัวตน จนไปถึงสิ่งที่น่าเหลือเชื่อในปาฏิหาริย์

พระของท่านเป็นพระที่มีดวงจิตบริสุทธิ์รักษา ถึงแม้สุดท้ายจะเป็นพรายก็ตามที นั่นก็แล้วแต่
ความเข้าใจของแต่ละท่าน และเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็จะได้พบแต่สิ่งดีๆ
หลวงปู่ท่านเน้นเรื่องจิต สมาธิ และความดี ไม่ได้เน้นเรื่องผงพราย รับรู้กันเช่นนี้แล้ว คงจะมี
คำตอบสำหรับตัวเองกันแล้ว.....ลองใช้วิจารณญาณกันดู

สำหรับผู้ที่ยังลังเล หรือยังสับสน ว่านี่ใช่พระของหลวงปู่ท่านได้เสกไว้จริงหรือเปล่า เหตุใดถึง
นำมาแจกกันง่ายๆ เช่นนี้ ลองเข้าอ่านดูครับ คำตอบอาจจะมีอยู่ และดั่งที่ผมได้กล่าวไปบ่อยๆ
ท่านใดที่ยังลังเล ให้ถามกับตนเอง หากพระที่ท่านนำไปบูชานี้ ใช้แล้วดี ชีวิตเราดีขึ้น
ท่านจะสนใจทำไมว่าใครเสก หรือไม่ได้เสก......อย่าได้ไปยึดติดในส่วนนั้น ชีวิตเรายังต้องดำเนินต่อไป (น้าต๋อยฯ)

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

พระผมไม่เยอะหรอกครับ อาศัยว่าเก้บๆ มาเรื่อยๆ ครับ แจกไปบ้าง ให้เพื่อนไปบ้างครับ ซึ่งผมแขวนสลับอยู๋ไม่กี่องค์หรอกครับ ในความเห้นส่วนตัวของผมคือ ไม่มีประสบการณ์คือมีประสบการณ์ครับ ผมแขวนพระองค์ไหน แล้วใจรักจะแขวนอยู่เรื่อยๆ นี้ต้องเป็นพระดีๆ แน่ในใจผมบอกแบบนั้นครับ ซึ่งพระชุดเนื้อขาวนี่ผมแขวนแล้วสบายใจ ทำอะไรก็ราบรื่น มีคนเมตตา พอแขวนองค์อื่น ที่นับถือ วันสองวัน ก็ต้องกลับมาแขวนอีก ซึ่งใจผมเชื่อนานแล้วว่าเป้นพระ ลป.ทิม แน่ๆ ตั้งแต่เห้นองค์พระใจมันบอกว่าใช่จริงๆ (poman)

 

กราบหลวงปู่ทิม
กราบลุงสาย
สวัสดีอ.แก้วสว่าง น้าต๋อย คุณรักรังสิต สวัสดีทุก ๆ ท่านยามดึกดื่นค่ะ

เมื่อกี้มีเหตุการณ์แปลก ๆ ค่ะ ทำให้ตกใจระคนตื่นเต้นตอนนี้เลยยังไม่หลับไม่นอนต้องมาพิมพ์เล่าแชร์ประสบการณ์ก่อน
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณอ.แก้วสว่าง วันนี้ดิฉันได้รับพัสดุแล้วค่ะ เปิดออกมาเป็นนางกวักพิมพ์เนื้อขาว ดิฉันก็พนมมือยกขึ้นหัว และเอาวางไว้ที่หัวเตียงนอนค่ะ ก็ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปดูละครจนละครจบ ก็นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง พอเคลิ้ม ๆ เหมือนกำลังจะหลับค่ะ ก็มีความรู้สึก(ขณะเคลิ้ม ๆ จะหลับนะคะ)ว่าตัวเองเดินตามใครก็ไม่รู้คล้ายว่าเป็นผู้หญิงเข้าไปในหมู่บ้าน ระหว่างทางเดินเห็นคนแว๊บๆ ที่หางตานั่งอยู่ ดิฉันเลยหันไปดูปรากฏว่าเป็นหลวงปู่ทิมค่ะ ตกใจมากสะดุ้งตื่นเลยค่ะ พอตื่นมางงมาก บรรยายไม่ถูกทั้งตกใจ ทั้งออกแนวงงๆ แปลกใจ ฯลฯ พอลุกมาได้ก็ไปอาบน้ำแต่งตัว และมานั่งพิมพ์ประสบการณ์อยู่ตอนนี้ล่ะค่ะ
คือต้องสารภาพตามตรงว่าทุกครั้งที่ได้พระเนื้อขาวมาดิฉันจะรู้สึกอุ่นใจเหมือนมีสิ่งคุ้มครองและยึดเหนี่ยวจิตใจค่ะ แต่ไม่เคยฝันหรือเกิดความรู้สึกอย่างอื่น แบบแนวปาฏิหาริย์หรือเหนือธรรมชาติอ่ะค่ะ ครั้งนี่ครั้งแรกเลยค่ะ เหตุการณ์ตอนเคลิ้มๆ นี่มันเร็วมากนะคะ ประมาณชั่วสามพริบตาได้ แล้วดิฉันก็สะดุ้งตื่น ตอนนี้ตาใสแจ๋วเลยอ่ะค่ะ

ภาพประกอบค่ะ

 

น้อมกราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

น้อมกราบหลวงปู่

deeja__a อรุณสวัสดิ์เช้าวันศุกร์ครับทุก ๆ ท่าน

 

ขอให้มีใจที่เชื่อมั่นและศรัทธากันนะครับ

 

น้าต๋อยครับไม่ทราบว่าตอนนี้มีพระผงห้าเหลี่ยมเหลืออยู่ไหมครับ
พอดีพี่ที่รู้จักกันเขากำลังจะไปสอบสัมภาษงานใหม่เลยอยากได้วัตถุมงคลหลวงปู่ไว้ติดตัวอะครับแล้วก็จะตอบแทนผู้ใหญ่ที่มีบุญคุณต่อผมด้วย
ค่าจัดส่งเท่าไหร่ครับน้าต๋อย

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

" ทุกชีวิตมีเวลาจำกัด อย่างมากไม่เกินร้อยปีก็จะต้องละร่างนี้

..ละโลกนี้ไป อย่าผลัดวันประกันพรุ่งที่จะทำความดี

..เพราะถ้าสายเกินไปเมื่อไร ก็ตนเองนั่นแหละ

..จะต้องได้เสวยผลของการไม่กระทำกรรมดี

..ไม่มีผู้ใดอื่นจะรับผลของความดีความชั่วที่ตนเองทำไว้"

 

ไม่มีใครมาลิขิตชีวิตเราได้นอกจากตัวเราเอง
อุปสรรคคือความแข็งแกร่ง
ปัญหาคือการฝึกฝน
ความผิดพลาดคือการเรียน
เวลาไม่เคยหวนกลับ เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขวันวานได้
เก็บความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียนสำหรับอนาคต
อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ แล้วก็อย่าบอกว่าเวลาไม่เคยพอ
ทำวันนี้ให้มีความสุขก็พอ
อดีตไม่สำคัญ..ปัจจุบันทำให้ดีที่สุด
สุดท้ายยย '' Nobody Perfect '' ไม่มีใครในโลกนี้สมบูรณ์.......

 

ถ้าพูดถึงวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม หลาย ๆ คนสามารถสัมผัสได้เมื่อจิตนิ่งและระลึกถึงท่าน นึกถึงสิ่งใดก็จะประสบแต่ความสำเร็จ จะขอยกตัวอย่างเรื่องความอัศจรรย์และเป็นจริง เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2554 เวลาประมาณ 17.31 น. เกิดฝนตกหนักและลมแรงมาก แรงจนน่ากลัว ข้าพเจ้าอยู่ในเหตุการนั้น ในตัวข้าพเจ้าแขวนพระขุนแผนพรายกุมาร พิมพ์ใหญ่ที่ได้รับจากคุณปราโมทย์ ในใจนึกขอชมบารมีหลวงปู่ ขอให้ลมหยุดพัดด้วยเถิด ในมือของข้าพเจ้ากำพระขุนแผนพรายกุมารอยู่ ประมาณ 3 นาทีต่อมา ลมหยุดพัดนิ่งสนิท แต่ฝนยังคงตกหนักเหมือนเดิม มันเป็นสิ่งแปลกที่ได้ประสบด้วยตัวเอง (วังน้ำ)

 

เหม่อมองไปจุดสุดปลายฟ้า อยู่บนทางที่ยังสบสน
ชีวิตคนเวียนวกวน หนีไม่พ้นต้องทนสู้
แต่ละคนมุ่งสู่จุดหมาย เพื่อจะไปให้ได้ดังหวัง
บ้างล้มลงตรงข้างทาง พลังแห้งเหือดหายไป
อยากเป็นเหมือนเปลวเทียน ส่องให้เห็นเป็นทาง
อยากเป็นเหมือนสะพานข้ามฝั่ง
ส่งใจเสริมกำลังให้เรานั้นก้าวเดินต่อไป
เหนื่อยก็พักเอาแรงจะมัวท้อทำไม
บนหนทางยังมีคนเหมือนเรา
ในเมื่อยังมีลมหายใจ ก้าวไปให้สุดกำลัง
ก้าวเดินไปไม่หวั่นขวากหนาม ข้ามลำธารไม่หวั่นภูผา
มาร่วมเป็นกำลังใจ ทางแสนไกลร่วมฟันฝ่า
เกิดเป็นคนจงอย่าหยุดยั้ง เพื่อนร่วมทางจงอย่าอ่อนล้า
มาร่วมเป็นกำลังใจ จุดหมายคงอยู่ไม่ไกล..........

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เรื่องเมื่อคืนนี้...
หลังจากออกมาจากบ้านพี่โมทย์ ประมาณ 18.00 น นั้น พี่รัก น้าต๋อยและผบ 15 ค่ำ
ก็ไปนั่งทานข้าวกันที่ร้านบูรพาไม่แพ้ แถวๆโรงบาลกรุงเทพ ระยอง
ประมาณ 20.30 น ผมได้รับโทรศัพท์จากคุณ 15ค่ำว่าให้ออกมาทานข้าวกัน ผมก็ขับรถออกไปทันที (ตอนแรกนึกว่าพี่รักและคณะไม่ได้ค้างที่ระยองแล้ว)
หลังจากไปถึง ก็นั่งพูดคุยกันจนถึง 23.00 น โดยประมาณ พวกเราก็ตัดสินใจหาที่พักริมทะเล โดยผมและคุณ 15 ค่ำ ได้นำไป ไปที่แรกที่เคยพาขุนแผนสุโขทัยไปพักครั้งก่อน เต็ม เลยไปที่ที่ 2 ก็ยังเต็ม เลยไปที่ที่ 3 ปรากฏ ไม่เต็ม ตอนแรกพี่รักจะเข้าไปพักในตัวเมือง แต่ผมบอกว่าน้าต๋อยและผบ อาจจะชอบอากาศริมทะเลนะครับ เพราะพึ่งมากัน(ผบน้าต๋อย) พี่รักเลยตกลง เลยได้ไปดูที่พัก และก็มานั่งคุยกันหน้าห้องนอน ซึ่งมีโต๊ะยาวๆอยู่
นั่งคุยกันสักพัก ลุงที่ดูแลก็เดินมาคุยด้วยกับเรา เราก็ถามเล่นๆว่า ลุงรู้จักหลวงปู่ทิมไหมครับ เพราะแกอายุเยอะน่าจะมีของดี ลุงบอกว่าแกไม่มีหรอก แต่เคยไปวัดสมัยหนุ่มๆ
ลุงเคยเป็นตำรวจมาก่อนครับ เคยโดนแทงตรงกระพุ้งแก้มทะลุอีกด้านเลย แต่ไม่เป็นไรมาก (ลุงแอบเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ) ลุงแกพกจตุครามครับ แกโชว์ให้เราดูอย่างมีความสุขมากๆ จากนั้นน้าต๋อยเลยนำพระที่ได้มาจากบ้านพี่โมทย์ นำมาให้ลุงดู พอลุงเห็นขุนแผน ลุงแกบอกเคยเห็นนะ คุณเตอร์เลยถามว่าแล้วลุงรู้จักลุงสายไหม แกสวนมาทันทีเลย สายเหรอที่ขาไม่ดีข้างหนึ่งใช่ไหม คุณเตอร์ก็บอกว่าใช่ๆๆ อ๋อ ฉันรู้จักเคยไปบ้านสายมา บ้านชั้นเดียวใหญ่นะบ้านสายหนิ่ สายมีพระและรู้จักทั้งหมดที่เกี่ยวกับพระเครื่องที่หลวงปู่ทิมทำขึ้นนะ และสายเค้าจะจัดผงต่างๆเก่งมาก เพราะ ลปทิมท่านเหมือนสอน โดยให้ สายไปหัดผสมผงทั้งหมดแล้วนำมาให้ ลป ทิมดู เหมือน ลป ให้การบ้านไปทำ
ฉันเคยไปนั่งตำผงอยู่เลย รุ่นแรกเลยละ คนทำบล็อกเป็นหลาน ลปทิม ชื่อนายสำราญ
มีผงลป มีกระเบื้องเก่าหลังคาโบสถ์หลังคาวัด มาตำใส่ในครกนั่นแหล่ะ มีทั้งหมด 99 องค์

น้าต๋อยเลยให้ลุงแกดู ขุนแผนอีกครั้ง แกบอก นี่รุ่นสองนะ ฉันเคยเห็น ส่วนลูกอมนี้มีส่วนผสมเป็นข้าวเหนียวด้วยนะ
น้าต๋อยเลยมอบพระให้ลุงไป 1 องค์ถ้าไม่ผิดเป็นสมเด็จคะแนน ลุงแกกำพระยกมือขึ้นเหนือหัวสาธุ ทันที
ก็ถามกันต่อ แล้วทำไมไม่เห็นพระขาวๆแบบนี้เลยละลุง แกบอกทำกันแรกๆ ไม่สวยหรอก เลยไม่ได้ให้เค้าทำบุญ สายเลยเก็บไว้ บล็อกที่ทำครั้งแรก ทำมาจากไม้รักนะ นายสำราญเป็นคนทำเองกับมือ ส่วนฉันตำอย่างเดียว กดพิมพ์จะคล้ายกับ กดกล้วยปิ้งเลยละ
นายสำราญยังมีชีวิตอยู่นะ แต่ฉันไม่ได้ติดต่อนานเลย และเดินลงไปหาสมุดที่จดเบอร์โทรศัพท์ไว้ พอเดินขึ้นมาก็หาแต่ไม่เจอ ลุงเลยถ้าจะไปหา ลุงว่างตอน 11.00 เพราะลุงจะตื่นตอนนั้น จะพาไปหา (namo_2009)

 

สำหรับเรื่องราวของหลวงปู่ทิมนั้นจากหลายๆคนที่ได้ประสบพบเจอเหตุการณ์ต่างๆนั้น เพราะทุกคนมีความยึดมั่นและศรัทธาโดยแน่แท้ คนเรานั้นยึดมั่นทำดีก็ย่อมได้รับผลดีตอบแทน ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ย่อมเป็นผลพวงที่ดีต่อไปในอนาคตทั้งตัวเราเองและครอบครัวและในหมู่สังคมที่ดีและมีแต่ความจริงใจอยู่เสมอก็เพราะการกระทำของตัวเราเอง ขอให้ทุกคนยึดมั่นในความดีอยู่เสมอ โดยยึดในหลักของ มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ซึ่งเป็นคำสอนของหลวงปู่ทิมที่ได้กล่าวแก่ลูกศิษย์อยู่เสมอ และท่านยังได้กล่าวอีกว่าให้ระลึกถึงคุณบิดามารดาที่เลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ และครูบาอาจารย์ที่ได้สั่งสอนให้เราเป็นคนดีและมีความรู้ และสอนให้เรามีความกตัญญูกตเวทีต่อไปก็จะมีแต่ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต และการงานต่างๆทั้งหลาย

 

ตอนนี้คล้องลูกอมหลวงปู่อยู่ทุกวัน สุดยอดครับ เรื่องการงานต้องบอกว่าคล่องตัวมาก ทุกอย่างดูง่ายไปหมด ทำงานแบบค่อนข้างสบายๆครับ การเงินแม้จะมีภาระมาก คิดว่าน่าจะติด แต่ก็มีมาเติมเรื่อยๆ ทำให้คลายกังวลไปเยอะ และยังรู้สึกว่าแนวโน้มทั้งการงาน การเงิน กำลังดีขึ้นเรื่อยๆครับ และเรื่องเมตตาคนรอบข้างให้ความเอาใจใส่ผมดีมาก (ญาณพล)

 

มีประสบการณ์เล็กๆ มาเล่าสู่กันฟังครับ
มีเด็กคนนึง ขายของที่สนามหลวง ได้พระจากผมไปองค์หนึ่ง (อุบไว้ ไม่บอกว่าพิมพ์อะไร)
หลังจากวันที่ได้ไป ผมก็ได้ถามประสบการณ์เป็นระยะๆ เช่นกัน
ทุกวันนี้ ได้งานทำเป็นหลักเป็นแหล่งไปแล้ว เนื่องจากมีผู้ใหญ่ใจดีท่านนึง เมตตามา
ก่อนหน้านั้น ขายของดีมากๆ บางครั้งเหมือนจะไม่ได้ก็ได้ บางครั้งก็ได้ก้อนใหญ่แบบคาดไม่ถึง
เคยมีคนมาขอซื้อพระจากน้องเขาเป็นจำนวนเงินถึง 5000 บาท (ทีแรกให้ 3000 แล้วไม่ยอมปล่อย)
แต่ผมก็ภูมิใจน้องเขานะครับที่เขายึดมั่นในคุณพระ เขาบอกเขาขายไม่ได้ ผมขอพี่เขามาใช้ ถ้าแกรู้ว่าเอามาขายจะเสียน้ำใจกัน

แล้วพี่รู้เหรอ ว่านี่คือพระที่ไหน....???
ชายคนนั้นเป็นตำรวจเกษียณอายุ ประมาณ 60 กว่าๆ ตอบกับเขาสั้นๆ ว่า " พี่เป็นคนระยอง"
น้องเขาจึงไม่ถามต่อครับ...แค่นี้ก็รู้ซึ้งแล้ว

น้องเขาบอกผมว่า " ถ้าเราขยันซะอย่าง....ผมเชื่อว่า หลวงปู่หลวงพ่อ ท่านไม่ทิ้งเราแน่นอน" ฟังแล้วประทับใจจริงๆ (น้าต๋อยฯ)