เสียงธรรม เข้าใจธรรมดาของโลก / หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

ในห้อง 'ธรรมเทศนาทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 4 กรกฎาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ปัญญานำสมาธิ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 31 ก.ค. 2564

    Dhamma.com
    Jul 31, 2021

    ปัญญานำสมาธิ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 31 ก.ค. 2564
    "ทำกรรมฐานอะไรก็ได้ที่เราถนัด ทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำอันนั้น แล้วแทนที่มุ่งไปที่ความสุขความสงบ คอยรู้ทันจิตตัวเองไป เราจะเดินปัญญาอย่างนี้ เรียกปัญญานำสมาธิ ใช้สมาธิชนิดขณิกสมาธิ สมาธิทีละขณะๆ อย่างนี้ อย่างเรารู้ทันว่าจิตไหลไปปุ๊บ ตรงนี้สมาธิก็เกิดขึ้นชั่วขณะ เดี๋ยวก็ไหลไปอีกทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หมุนไปทุกหนทุกแห่งใน 6 ช่องทาง ตรงที่เรามีสติรู้มันจะมีจิตผู้รู้แทรกขึ้นมากั้นกลาง จิตหลงไปดูเรารู้ว่าหลงไปดูปุ๊บ จิตรู้ก็เกิดขึ้นมากั้น จิตหลงไปดูก็ดับ มีจิตรู้อยู่ชั่วคราว จิตหนีไปคิดแล้ว นี่หลงไปคิดหลงทางใจ เรามีสติรู้ทันว่าจิตหลงไปคิดปุ๊บ จิตหลงไปคิดก็ดับ เกิดจิตรู้ขึ้นมาคั่นอีกแล้ว จิตของเราจะขาดเป็นช่วงๆๆ ไป ตรงนี้เป็นการเจริญปัญญา"

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    31 กรกฎาคม 2564
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    บ้านที่แท้จริง :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 ก.ย. 2564

    Dhamma.com
    Sep 3, 2021

    บ้านที่แท้จริง :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 ก.ย. 2564
    ในโลกไม่มีบ้านที่แท้จริง ถ้าเราภาวนาเราจะเห็น บ้านที่แท้จริงของเราคือพระนิพพาน ถ้านอกนั้นยังเป็นที่ที่ไม่แน่นอน ไม่ยั่งยืน ต้องหมุนเวียนอยู่ ใจที่มันไม่หลงโลกมันเตือนตัวเอง บ้านนี้ก็ชั่วคราว คนที่เราอยู่ด้วยรอบๆ ตัวเราก็อยู่กันชั่วคราว จะรักหรือจะเกลียดก็อยู่ชั่วคราว อะไรๆ ในโลกเห็นมันเป็นของชั่วคราวทั้งหมดเลย ทั้งวัตถุสิ่งของทั้งผู้คน สุดท้ายกระทั่งร่างกาย สติปัญญามันสอดส่องลงมาในร่างกาย ร่างกายเป็นบ้านของจิต บ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านชั่วคราว
    (2)
    ร่างกายก็เป็นบ้านที่อาศัยของจิตใจ ฉะนั้นตัวเจ้าของบ้านที่แท้จริง ก็คือตัวจิตใจนั่นเอง ต้องค่อยๆ ฝึกจิตใจให้มันค่อยฉลาดๆ ขึ้น มันค่อยคลายความยึดถือ ทีแรกมันก็คลายของที่อยู่ห่างก่อน มันคลายความยึดถือง่าย ของที่มาถึงตัวเราเองมันคลายยาก ต้องอาศัยสติอาศัยปัญญามาก ค่อยภาวนาจะเห็นเหมือนเรามีบ้านที่ซ้อนๆๆ กันไป จากไกลเข้ามาสู่ใกล้ จากหยาบมาสู่ความละเอียด บ้านที่ละเอียดก็คือตัวเจตสิกธรรมทั้งหลาย เป็นที่อาศัยอยู่ของจิต เราภาวนาต่อไปเราก็จะเห็นความสุขก็พึ่งไม่ได้ ความทุกข์ก็ห้ามมันไม่ได้ ความดีก็พึ่งไม่ได้ ความดีเราจะรักษาไว้ก็ไม่ได้ ความชั่วเราก็พึ่งมันไม่ได้ จะรักษามันไว้หรือจะปฏิเสธมันก็ทำไม่ได้ สติปัญญามันเห็นไตรลักษณ์ เห็นบ้านอันนี้ที่เป็นนามธรรมมันก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ เหมือนกับรูปธรรมทั้งหลาย เหมือนกับโลกข้างนอกทั้งหลาย ฉะนั้นการเห็นไตรลักษณ์นี้จะทำให้เราเข้าใจ แล้วเราก็ค่อยๆ วาง วางจากสิ่งที่หยาบไปสู่การวางอย่างละเอียด แล้วสิ่งที่ละเอียดที่สุดคือตัวจิตผู้รู้ ตัวจิตผู้รู้นั้นละเอียดที่สุดเลย ฉะนั้นถ้าเราเห็นจิตผู้รู้เป็นไตรลักษณ์ เราก็จะวางจิตผู้รู้ลงไป คราวนี้เราจะไม่เอาขันธ์ 5 มาเป็นบ้านของเราอีกต่อไปแล้ว

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนวันติธรรม
    4 กันยายน 2564
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    แก่นกลางของการปฏิบัติ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 มิถุนายน 2566

    Dhamma.com
    Jun 2, 2023
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ภาวนาต้องรู้จักปลีกตัว :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 มิถุนายน 2566

    Dhamma.com
    Jun 3, 2023
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    จิตใจเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 2 เมษายน 2566

    Dhamma.com
    Apr 6, 2023
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    เดินให้ถูกทาง :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 มิถุนายน 2566 (ช่วงบ่าย)

    Dhamma.com
    Jun 9, 2023
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    มิจฉาสมาธิ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ๑๔ ต.ค. ๒๕๖๑ (ไฟล์ 611014B ซีดี ๗๘)

    Dhamma.com
    Nov 28, 2018

    อย่าฟุ้งซ่านนะ เพราะภาวนามันต้องมีสมาธิ ถ้าใจฟุ้งซ่าน จะภาวนายาก สมาธิมี ๒ ชนิด คือ สัมมาสมาธิ กับ มิจฉาสมาธิ มิจฉาสมาธิ เป็นสมาธิที่ไม่ประกอบด้วยสติ อย่างเรานั่งแล้วเคลิบเคลิ้ม นั่งแล้วเคร่งเครียด ในขณะที่เครียดนั้น โทสะมันเกิด สติไม่เกิดหรอก ในขณะที่เคลิบเคลิ้ม ลืมเนื้อลืมตัวไป โมหะมันเกิด ก็ไม่มีสติ หรือนั่งแล้วก็เพลิดเพลิน ตอนที่เพลิดเพลิน นั่งมีความสุขเพลิน ๆ ไป อันนั้นมีราคะ ไม่มีสติ เพราะอย่างนั้น เราฝึกสมาธิ ให้มีสติกำกับใจของเราไว้ ทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่ง แล้วคอยรู้ทันใจของเราเองไว้ ราคะ โทสะ โมหะ ไม่ได้เกิดที่อื่นหรอก เกิดที่ใจ เกิดกับจิต เรานั่งภาวนา จิตเราฟุ้งซ่าน ให้รู้ว่าฟุ้งซ่าน อย่าไปดัดแปลงแก้ไข ฟุ้งซ่านรู้ว่าฟุ้งซ่าน
    --
    พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา
    วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๑
    ไฟล์ 611014B ซีดีแผ่นที่ ๗๘
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ภาพรวมของการปฏิบัติ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ๒๕ ส.ค. ๒๕๖๑ (ไฟล์ 610825A ซีดี ๗๘)

    Dhamma.com
    Sep 28, 2018

    กรรมฐานที่เราฝึก ฝึกเพือให้เราเห็นความจริงของร่างกาย จิตใจนี้ เท่านี้เอง คือสิ่งที่เราจะเรียนกัน กรรมฐาน ไม่ใช่มีแค่ว่าจะฝึกให้จิตสงบ ให้จิตมีความสุข ให้จิตดี อันนั้นตื้นเกินไป ไม่ได้ฝึกเพื่อเอาดี เอาสุข เอาสงบ แต่ฝึกเพื่อให้เห็นความจริงของรูปนาม กายใจ ถ้าเราเห็นความจริงของรูปนาม กายใจ เราจะไม่ทุกข์ เห็นความจริงของกาย ก็จะไม่ทุกข์เพราะกาย เห็นความจริงของใจ ก็จะไม่ทุกข์เพราะใจ --
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา
    วันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๑
    ไฟล์ 610825A ซีดีแผ่นที่ ๗๘
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    การมีสติในชีวิตประจำวัน :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 25 มิ.ย. 2565

    Dhamma.com
    Jun 27, 2022
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    จิตเป็นตัวแม่ทัพ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 8 ตุลาคม 2565

    Dhamma.com
    Oct 17, 2022
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    หลวงปู่ดูลย์สอนหลวงพ่อให้ดูจิต :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 11 มิถุนายน 2566

    Dhamma.com
    Jun 11, 2023
    หลวงปู่ดูลย์สอนหลวงพ่อให้ดูจิต :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    11 มิถุนายน 2566

    หลวงปู่ดูลย์ท่านสอนตัดตรงเข้ามาที่จิต เป็นการสอนที่ลัดสั้นที่สุด หลวงปู่สุวัจน์ก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ท่านก็เคยบอกหลวงพ่อ ท่านบอกว่าตอนท่านไปเรียนกับหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นก็สอนบอกว่า “ดูจิตได้ให้ดูจิต ดูจิตไม่ได้ให้ดูกาย ดูจิตไม่ได้ ดูกายไม่ได้ ให้ทำสมถะ” ทำสมถะเพื่อให้มีกำลังกลับมาดูจิตได้ ดูกายเพื่ออะไร เพื่อให้เกิดกำลังไปเห็นจิต ดูจิตเพื่ออะไร เพื่อให้เห็นธรรม ธรรมะเป็นอย่างไร ก็ของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา นั่นล่ะคือตัวธรรมะ เราดูลงไปเลย จิตนี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เพราะฉะนั้นสิ่งที่หลวงปู่ดูลย์สอน เป็นทางที่ลัดสั้นที่สุดแล้ว ถ้าเราสามารถตัดตรงเข้ามาที่จิตเรา การปฏิบัติจะเหลือนิดเดียวเลย แต่ถ้าเรายังเข้ามาที่จิตไม่ได้ เราก็อ้อมๆ ไปก่อน ไปดูกาย ดูเวทนา ดูสังขารอะไรไป แต่ถ้าตัดตรงเข้ามาเห็นจิตได้ เห็นจิตสุขเกิดแล้วดับ จิตทุกข์เกิดแล้วดับ จิตดีเกิดแล้วดับ จิตโลภ โกรธ หลงเกิดแล้วดับ อย่างนี้ดูจิตไปเลย วันไหนดูไม่ไหว จิตไม่มีกำลัง ไปดูกาย หายใจเข้าพุท หายใจออกโธอะไรก็ทำไป จิตมันมีกำลังขึ้นมา มันก็จะเข้ามาดูจิตได้เอง นี่เส้นทางที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนหลวงพ่อมา แล้วหลวงพ่อก็เอามาทำ ใช้เวลาไม่มาก
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดบูรพาราม
    11 มิถุนายน 2566
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    แก้ปัญหาที่สาเหตุ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 5 มิถุนายน 2566

    Dhamma.com
    Jun 10, 2023

    แก้ปัญหาที่สาเหตุ ::
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 5 มิถุนายน 2566
    เรามาหัดทำกรรมฐานแล้วสังเกตไป ความอยากเกิดทีไร ความทุกข์เกิดทุกที ไปหัดดูตัวนี้ไว้ แล้วเราจะรู้เลยว่า ไม่มีใครมาทำให้ใจเราทุกข์ได้ เราทุกข์เองเพราะอำนาจของความอยาก ส่วนปัญหาทางโลกๆ มีปัญหาก็แก้ไป ใช้สติ ใช้ปัญญา ไม่ใช่ใช้ความอยาก อย่างเราค้าขายไม่ดี เคยขายดีแล้วก็ขายไม่ดีขึ้นมา เราก็ต้องใช้เหตุผลไปดูว่าทำไมคนไม่เข้าร้านเรา แต่เดิมเข้า มันอาจจะมีร้านอื่นที่น่าสนใจกว่า คนก็ไป นี่คือปัญหา ไปดูว่าปัญหามีสาเหตุที่ไหนก็ไปแก้ที่นั้น เราก็จะแก้ป้ญหาทางโลกได้ ส่วนทางจิตใจเรา ตัวทุกข์นั้นเป็นปัญหาใหญ่ของเรา เราก็ดูอะไรเป็นเหตุของทุกข์ ก็คือตัวตัณหา ตัวความอยาก ถ้าเรารู้ทัน ความอยากดับ ความทุกข์มันก็ดับ เพราะฉะนั้นเวลามีปัญหาเกิดขึ้น จะปัญหาในจิตใจเราเอง หรือปัญหาข้างนอกก็ตาม ปัญหาในชีวิตก็ตาม เวลาแก้ปัญหา ให้ไปพิจารณาให้ดี สาเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหนแก้ที่นั่น แก้ที่ตัวสาเหตุ

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัด
    สวนสันติธรรม
    5 มิถุนายน 2566
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    เคล็ดวิชาการฝึกดูจิตดูใจตนเอง :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 17 มิถุนายน 2566

    Dhamma.com
    Jun 16, 2023
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ปัญญารวบยอด :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 18 มิถุนายน 2566

    Dhamma.com
    Jun 17, 2023

    ปัญญารวบยอด :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 18 มิถุนายน 2566
    ถ้าจิตเกิดคิดขึ้นมาแล้วเราเป็นคนรู้ ความคิดนั้นจะขาดสะบั้นทันทีเลย แล้วเราจะเห็นสภาวะสุขเกิดดับ เกิดแล้วดับ ทุกข์เกิดแล้วดับ ดีเกิดแล้วดับ ชั่วเกิดแล้วดับ รูปหายใจออกเกิดแล้วดับ รูปหายใจเข้าเกิดแล้วดับ รูปยืนเกิดแล้วดับ รูปนั่งรูปนอนรูปอะไรก็ตามเกิดแล้วก็ดับ เห็นซ้ำๆๆ สุดท้ายจิตมันจะสรุป มันปิ๊งขึ้นมาเลยนะว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดดับเป็นธรรมดา ทำไมใช้คำว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่จริงก็คือ Everything ที่เกิด ทุกสิ่งที่เกิด ทำไมไม่บอกว่าสุขเกิดแล้วดับทุกข์เกิดแล้วดับ เพราะปัญญาตัวนี้เป็นปัญญารวบยอด รวบยอดว่าทุกสิ่งที่เกิดล้วนแต่ดับทั้งสิ้น มันรวบยอดระดับนี้ มันถึงจะเข้าใจแจ่มแจ้งเลย
    กายเรานี้พอเราเข้าใจแจ่มแจ้ง ก็แค่วัตถุยืมโลกมาใช้ชั่วคราว ไม่ใช่ตัวเราไม่ใช่ของเรา ความรู้สึกสุขทุกข์ ความรู้สึกดีชั่วอะไรก็ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา จิตเองก็เป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา เราสั่งจิตไม่ได้ สั่งจิตให้ดีตลอดก็ไม่ได้ ห้ามจิตชั่วก็ไม่ได้ สั่งให้จิตสุขก็ไม่ได้ ห้ามจิตทุกข์ก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    บ้านจิตสบาย
    18 มิถุนายน 2566

     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    วิธีฝึกสมาธิ :: หลวงพ่อปราโมทย์ 29 ก.ย. 2562 (ไฟล์ 620929A ซีดี 84)

    Dhamma.com
    Nov 21, 2019
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    สิ่งที่เราต้องทำ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 10 ธันวาคม 2565

    Dhamma.com
    Dec 15, 2022
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    หลวงพ่อปราโมทย์ แสดงธรรม ณ วัดสวนสันติธรรม 7 ต.ค. 2560 ช่วงสาย

    Dhamma.com
    Nov 17, 2017
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ฝึกจิตให้มีกำลังเพื่อเดินปัญญา :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 25 มิถุนายน 2566

    Dhamma.com
    Jun 24, 2023
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    จะออกจากวัฏสงสารต้องเด็ดเดี่ยวอดทน :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 2 กรกฎาคม 2566

    Dhamma.com
    Jul 1, 2023
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,567
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    มรรค คือศีล สมาธิ ปัญญา :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 1 กรกฎาคม 2566

    Dhamma.com
    Jun 30, 2023
     

แชร์หน้านี้

Loading...