อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ก็คิดเหมือน อ.โญ ครับ ถ้าไม่ได้ม้วนมาครับ
    น้อมกราบนมัสการ ลป.ประสาร
    เข้ากรอบแล้วสวยมากๆครับ
     
  2. วุฒิ สิงห์

    วุฒิ สิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +13,055
    พี่อ้วนเดินทางทำบุญบ่อยๆน่าจะเคยไปวัดท่านแน่ครับ..ผมยังไม่เคยไปเลยครับผ่านไปผ่านมาก็ไม่ใด้เวะสักที
     
  3. วุฒิ สิงห์

    วุฒิ สิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +13,055
    ยาวเป็นคืนนี่ต้องห้อยเดี่ยวครับพี่ตี๋..คงจะดูน่าเกรงขามมากๆเลยครับ
     
  4. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    ถ้าศรัทธาเสด็จเตี่ย เดี๋ยวผมจัดให้ด้วย ๑ เหรียญครับคุณวุฒิ

    พระใหม่แต่พิธีไม่เล็กครับ ว่าง ๆจะขอภาพเจ้าของกระทู้มาโพสต์ให้ชมครับ

    [​IMG]



    [​IMG]
     
  5. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    น้องที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต "จัดให้" ครับ :cool::cool::cool:
     
  6. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    อนุโมทนาทั้งผู้ให้และผู้รับครับ
     
  7. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  8. วุฒิ สิงห์

    วุฒิ สิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +13,055
    ผมต้องขอขอบคุณในน้ำใจของพี่โญเป็นอย่างสูงครับ..
     
  9. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    ผมยังไม่เคยไปกราบท่านพระอาจารย์ไพรวัลย์

    แต่ลึก ๆ รู้สึกศรัทธาและคิดว่าท่านมีบารมีมากครับ

    มากจนต้องมีวัตถุมงคลของท่าน

    เป็น ๑ ในพระปิดตาที่ชอบนำมาอาราธนาติดตัวครับ​




    [​IMG]

     
  10. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    นะโม อาจาริยะคุณนัง ศรัทธา ทานัง อนุโมทามิ
    เ--ยี่--ย--ม ค--ร๊--า--บ อ.--โ--ญ
     
  11. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ลต. บุญหนา สกลนคร สายวัดป่า หลาน ลป.ฝั้น
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  12. วุฒิ สิงห์

    วุฒิ สิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +13,055
    หลวงปู่ชอบ วัดเขารังเสือ ราชบุรี [​IMG][​IMG]
     
  13. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
  14. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ขอพักก่อนนะครับ พรุ่งนี้พบกันใหม่ ราตรีสวัสดิ์ทุกๆท่าน
     
  15. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448



    [​IMG] ----> [​IMG] ----> [​IMG]
     
  16. kravity

    kravity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +34,745
    สวัสสดีครับพี่ๆทุกท่าน พรุ่งนี้บ่ายก็ได้เดินทางกลับไทยแล้วคราบบบบบบ คิดถึงประเทศไทยขนาดดดดดดดด ^^

    วิวสวยๆจากห้องในโรงแรมที่สวิตครับ ^^



    [​IMG]
     
  17. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***สวัสดีครับ ปู โญ พี่ตี่ พี่อ้วน บอย กูน โอ๊ต กาน วุฒ เอ๊ะ เอ็ม
    และท่านเจ้าสัวทุกๆท่าน ร่ำรวย รุ่งเรือง ปลอดภัย และเจริญในธรรม นะครับ ทุกๆท่าน ***
     
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,811
    กระทู้เรื่องเด่น:
    81
    ค่าพลัง:
    +225,530
    หลวงพ่อดุมากๆ

    มาหาท่านครั้งแรก ไอ้เรามันไม่เคยเจอพระดุ เราก็เดี๋ยวจะไปเดี๋ยวจะถามยังงั้นยังงี้นะ รู้จักหลวงพ่อจากอ่านหนังสือหลวงปู่ปานอย่างเดียวครั้งแรกเลย ตอนนั้นบวชแล้วสิ มาท่านก็เลี้ยงหมาก๊อกก๊อก ฉันเพลเสร็จ ท่านจะมาเลี้ยงหมาท่านเป็นกะละมังๆเลยมาตักทำเองเลย ท่านบอกให้พระเลี้ยงนี่หมามันจะติดสีเหลือง อย่างน้อยก็เป็นเทวดา เสร็จแล้วก็ไปล้างชามท่าน้ำนั่นน่ะ เลี้ยงปลาอีกทีเรียกว่าปลาตะเพียนทอง มันก็มากิน ล้างกะละมังเสร็จก็กลับ

    เราไปใหม่ก็ไปนั่งรับท่านข้างใน โอ้โหตาท่านคมกริบ มองเพ่ง....ไอ้คนสมัยนี้มันบวชเป็นพิธีกรรมเท่านั้นแหละ มันบวชมันกลัวมีเมียไม่ได้มันถึงบวช ว่าเราหรือเปล่าวะเนี่ย ว่าเราหรือเปล่า(หัวเราะ) แข็งปั้กลงมาถึงใจเลยนะ ตอนหลังนี่

    " เดี๊ยวสิ เดี๊ยวสิ หลังจากนั้นมีอะไรต่อหรือเปล่า "

    ตอนนี้บอกไม่ได้ (หัวเราะ) เป็นความลับพูดเป็นสาธารณะชนไม่ได้ (หัวเราะ) โอ้ ท่านจวกปั๋งๆๆมาเลย

    " โดนดีเลยนะ "

    พระครูสุรินทร์ท่านก็มาฝากบอกว่าฝากด้วยพระท่านอยากจะปฏิบัติธรรม ท่านบอกระงับนิวรณ์ได้หรือยัง เราบอกนิวรณ์นี่อะไรวะ (หัวเราะ) ไม่ต้องรู้ว่ามีอะไรเลย คือ ไม่รู้เรื่องเลย

    " เรียกว่ามาอย่างบริสุทธิ์เลยนะ...แหม..เอ้ออย่างนี้ก็ดีนะ ลูกหลานจะได้รู้ไว้ "

    เราบอกอะไรวะ ตัวอะไรวะ ไม่รู้เรื่องเลย

    " นี่ต้องอย่างนี้เจ้าอาวาสต้องเก่งมาอย่างนี้นะ "

    บอกหลวงพ่อครับญาติผมที่อยู่นี่นครววรรค์ แล้วก็แถวๆนี้มโนรมย์นี่มีญาติเยอะครับ มีพี่น้องอยู่แถวนี้ครับ ท่านบอกเออพีน้งพี่น้องไม่สำคัญน่ะ ระวังนะอย่าฟังเสียงนกเสียงกาหมาเห่าหมาหอนให้มากนักนะ เราก็เอ..หมายความว่ายังไงวะ คิดไปคิดมาพี่น้องเราด่าหลวงพ่อทุกคนเลย (หัวเราะ) ก็พี่น้องเราอยู่แถวนั้นใช่ไหม พี่น้องเกลียดหลวงพ่อทั้งนั้น ท่านถึงบอกว่าอย่าฟังหมาเห่าหมาหอนมากนัก

    ทีนี้วันแรกก็ ไอ้เราก็ส่วนมากอาบน้ำแม่น้ำน่าน มาถึงที่นี่มันก็น้ำประปาใช่ไหม ไอ้ตรงพระฉันเก่า มันมีอยู่ห้องหนึ่ง ก็อาบซู่ๆ ออกมา ฮื่อน้ำท่ามันก็มีอยู่ข้างๆไม่ใช้ สำอางค์มาอาบน้ำนี่ (หัวเราะ)

    " อู้ฮู้ ประเดิมใหม่ๆเลยหรือ "

    อู้ฮู้ จวก..เขาให้คนอาบน้ำในแม่น้ำไงเล่า แถวนั้นเขาอาบน้ำในแม่น้ำกันทั้งนั้น ตั้งแต่นั้นเข็ดเลยไม่อาบอีกแล้ว (หัวเราะ) ต้องอาบน้ำที่แพ ท่านประหยัด แถวนั้นไม่มีปลูกดอกไม้อะไรหรอก ตึกเสริมศรีนะ เพราะว่าท่านให้ตักน้ำในแม่น้ำมารดนี่ (หัวเราะ) น้ำก๊อกอะไรนี่ท่านไม่ให้รดหรอก เพราะว่าเปลืองมันต้องใช้คลอรีน ต้องใช้ไฟฟ้าสูบมา ใครจะขยันนักล่ะ

    ทีนี้บางคนก็เอาน้ำประปาไปล้างรถ พอท่านเห็นท่านก็จวกเอา ไอ้ขี้ข้าไอ้พวกนี้ โอ้ด่าเจ็บทั้งนั้นเลย

    " เรียกว่าล้างทีเดียวชาตินี้ไม่ได้ล้างอีกต่อไปเลย "

    ท่านเป็นคนละเอียดถี่ถ้วน ใช้คุ้มค่า เงินที่บริจาคไปนี่ใช้คุ้มค่าไม่ฟุ่มเฟือย ท่านละเอียดเรื่องเงิน แล้วไม่ไว้ใจคนหรอกเรื่องเงินน่ะ ต้องรู้ทุกอย่างเรื่องเงินทอง

    ทีนี้ก็เอ๊ะทำไมถึงดุ ชักกลัวละสิคราวนี้ ทีนี้ลงเทศน์เมื่อไรเอาเมื่อนั้น (หัวเราะ) ก็เทศน์กันที่แคบๆ นี่อย่างกับห้องนี้ มันเล็กกว่าอีกนี่

    " ไม่มีทางหลบเลยหรือครับ "

    ก็หนีกันไม่จนหรอกมองเห็นกันหมด

    " อ๋อ..คนน้อยก็เทศน์คนมากก็เทศน์ "

    เทศน์ ลงทุกวัน เราคุยกันอย่างนี้เราจะรู้เราคุยอะไรกันบ้าง ทีนี้มีพี่สะใภ้ท่านอยู่คนหนึ่ง ท่านก็เทศน์เรื่องอะไร เรื่องคนในครัวนะ เออ..พระท่านก็บิณฑบาตมานะ ท่านก็ฉันอย่างนั้น แต่อีแม่ครัวจัญไรนี่สิ มันต้องทำพิเศษกินอีก ท่านก็ว่า เราก็แหม...กูว่าแล้วมันต้องยายนี่แน่ เต็มที่เลย (หัวเราะ) พอตกกลางคืนเอาใหม่ท่านเทศน์อีก ให้ทุกคนมันดูตัวมันนั่นแหละไม่ใชไปดูตัวบุคคลอื่น ดูจิตของตัวเอง ไอ้ตัวมันเองดูตัวเองซะบ้าง อู้ฮู้..ว่ากูนี่หว่านี่ (หัวเราะ) ไม่ต้องไปฟ้องนะ คิดในใจนะ เราคุยกันนึกๆว่าโอ้ว่ายายคนนั้นแหละ

    ครูบาอาจารย์นี่รู้จริงไม่มีโมเม ตอนหลังหลังนี่ชักเบาแล้ว ซักห้าปีสิบปีนี่นะ เบาเรื่องนี้ เมื่อก่อนนี่นะโอ้โฮ เรียกว่าพรรษาแรกพูดกันไม่รู้เรื่อง ว่าเอ๊ะหลวงพ่อทำไมถึงสั่งงานอย่างเดียวกันนี่สามคนสี่คน สั่งคนนี้ พอเจอเราสั่ง เจอพี่โอสั่ง แต่งานอย่างเดียวกัน มันเบลอเพราะกลัวกันนี่ เดี๋ยวมันไม่ทำ มันเบลอ มันกลัวจนลานเกินไป

    " เรียกว่าพอเข้าไปใกล้ พอสั่งอะไรก็ ครับ ครับ ครับ "

    พระฉันอาหารกันท่านดูว่าเออ...พระฉันอาหารมีรสชาติอย่างไรบ้าง เป็นห่วง แต่เมื่อฉันเสร็จแล้วสักพักหนึ่ง ท่านบอกว่าได้ยินเสียงหมามันกัดกันหรือไงนี่ (หัวเราะ)

    " อู้ฮู้ ใช้ศัพท์อย่งนั้นเลยหรือครับ "

    ใช้อย่างนี้ กินข้าวดังจ๊วบๆนี่มันไม่ใช่คน ไม่ใช่พระหรอก คนก็ยังเลวเกินไป นี่เขาเรียกหมู หมูคือสัตว์เดรัจฉาน อู้ฮู้

    (หลวงพ่อดุมาก พระที่อยู่ทันหลวงพ่อกลัวมาจนทุกวันนี้)


    เรื่องพิธีสะเดาะเคราะห์


    สะเดาะเคราะห์นี่มันเป็นการบำเพ็ญ ไม่ใช่รับเคราะห์แทนเขานี่ ต้องเชื่อกฏของกรรมอย่งที่พระพุทธเจ้าตรัส ไม่ใช่ว่าพอทำพิธีสะเดาะเคราะห์แล้วเคราะห์มาเข้าตัวเองอะไรอย่างนี้ พิธีสะเดาะเคราะห์คือทำความดีหนีความชั่ว หมายความว่าช่วงจังหวะนี่ อกุศลกรรมมันจะมาทันเราพอดี ทันพอดีเลยเวลานี้ เราเดินมาพอดีมันก็ถึงพอดี แต่ถ้าเราวิ่งไวกว่ามันก็พลาดเหมือนกัน คือวิ่งสปีดให้มันไวกว่าปกติสักหน่อย

    มีอยู่คราวหนึ่งไปชลบุรีกับหลวงพ่อ มีหลวงพ่อ หลวงปู่ธรรมชัย ฉัน แล้วก็หลวงพี่โอ หลวงพ่อบอก เฮ้ย ! สามโมงออกเดินทางนะ สามโมงปุ๊บนายทหารชั้นผู้ใหญ่ก็มา จะเจิมนั่นจะเจิมนี่ จะให้หลวงปู่ธรรมชัยเจิม

    หลวงพ่อท่านก็บอก " หลวงปู่ เวลาก็ต้องเป็นเวลา ไป "

    หลวงปู่ก็งง (หัวเราะ) หลวงพ่อดุนี่

    " อ๋อ..หลวงปู่นี่เคยถูกดุเหมือนกันเหรอครับ "

    โดน (หัวเราะ) หลวงปู่ธรรมชัยนะ หลวงปู่ธรรมชัย พอมาในรถท่านก็บอกตอนสามโมงน่ะ ที่ออกสามโมงนั่นน่ะ มันจะคลาดกันที่ตรงไหน รถมันจะชนกัน ถ้าเราไปช่วงหลัง จากนั่นน่ะมันจะชนกัน ตรงนั้นเราไปไปชนกันพอดี เราไปช่วงนี้มันจะคลาดกันตรงนั้น

    สะเดาะเคราะห์มันมีอะไรล่ะ เราไม่ได้เรียกเป็นเงินเป็นทองห้าบาท สิบบาท ร้อยบาท พันบาท แต่แสนบาทเราก็เอาใช่ไหม (หัวเราะ) การเจริญภาวนาก็ถือว่าเป็นบุญ การฟังพระสวดอภิธรรมก็ถือว่าเป็นบุญ มีอานิสงส์ใช่ไหม การรักษาศีลก็ถือว่าเป็นบุญสะเดาะห์เคราะห์ เดินมานี่ให้ภาวนาพุทโธ ก็เป็นพุทธานุสสติเป็นบุญใหญ่ ไม้ที่แตะนี่ (คธาเสก) ก็พระพุทธเจ้าทำใช่ไหม ก็เป็นพุทธานุสสติ บุญสามสี่อย่างมารวมกันนี่ มันก็มากกว่าธรรมดา มันก็เพิ่มพลังขึ้น ทำให้หนีได้เร็วขึ้น ไวขึ้น เอ้าหมดเวลาแล้วหรือ แหม กำลังมีเรื่องคุยหมดเวลาเสียได้

    (จากคำบอกเล่า ธัมมวิโมกข์ สิงหาคม 2537)


    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99.310631/page-148
     
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,811
    กระทู้เรื่องเด่น:
    81
    ค่าพลัง:
    +225,530
    สวัสดีครับพี่รุ่ง

    ช่วงนี้มาดึกนะครับพี่ ^_^
     
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,811
    กระทู้เรื่องเด่น:
    81
    ค่าพลัง:
    +225,530
    คำว่า " อุเบกขา "

    ผู้ถาม : อุเบกขาของพระโสดาบันกับอุเบกขาของพระอนาคามีเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรครับ

    หลวงพ่อ : นายสบสันต์เวลานี้กับสบสันต์ตอนเป็นเด็ก กำลังเท่ากันหรือเปล่า

    ผู้ถาม : ไม่เท่าครับ

    หลวงพ่อ : แล้วถามทำไม เดี๊ยวขว้างหัวเลย

    ผู้ถาม : คือผมไม่เข้าใจทำไมจึงใช้คำว่า อุเบกขาเหมือนกัน ควรจะมีคำอื่นที่แตกต่าง

    หลวงพ่อ : แสดงว่าหูไม่ได้ฟัง หรือใจไม่ได้ฟังที่ฉันพูด บอกว่าตั้งแต่พระโสดาบันไปเขาใช้สังขารุเปกขาญาณ อุเบกขานั่นมันฌานโลกีย์เข้าใจไหม ระวังกระโถนลอยนะ

    คือว่าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป อารมณ์ธรรมดาเริ่มเกิด ความรู้สึกว่ามันเบา อันดับแรกก็ถือว่าเป็นธรรมดาของการเกิด แต่ความมั่นคงจะน้อยหน่อย แต่ถึงแม้ว่าจะมีความมั่นคงน้อย ถึงเขาจะโกรธขนาดไหนก็ตาม เขาไม่ละเมิดศีล ใช่ไหม ทุกอย่างอยู่ในขอบเขตของศีลหมด จึงชื่อว่าเป็นสังขารุเปกขาญาณของพระโสดาบัน ถ้าเป็นสังขารุเปกขาญาณของพระสกิทาคามี ก็อยู่ในขอบเขตของกรรมบท 10 ละเอียดกว่า จะถือว่าไม่โกรธน่ะไม่ได้ พระโสดาบันกับสกิทาคามียังโกรธ แต่มันโกรธเบากว่าชาวบ้าน แล้วก็โกรธขนาดไหนก็ตามไม่ละเมิดศีล 5 ชาวบ้านละเมิดได้ใช่ไหม แค่ด่าศีล 5 ยังไม่ขาด ถ้าด่ากรรมบถ 10 ขาด เมื่อถึงอนาคามีก็เลิกโกรธ ทีนี้เราจะอยู่ด้วยอารมณ์หยาบมันไม่ได้ มันจะต้องเข้าถึง ถ้าฉันจะพูดถึงวิชาหมอ ฉันก็พูดได้ แต่มันไปตรงกับหมอสบสันต์พูด เพราะเป็นการเดา คือคนที่มีความรู้จริงพูดกับคนทีมีความชำนาญพูด มันพูดให้คนอื่นฟังได้ แต่ความรู้เช่นหมอไม่มี เข้าใจ๋ ?


    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ มิถุนายน 2530)

    การสูบบุหรี่เป็นกิเลส

    ผู้ถาม : การสูบบุหรี่เป็นความอยากไหมครับ เป็นกิเลสไหมครับ ?

    หลวงพ่อ : ถ้าไม่อยากก็สูบ มันเป็นกิเลสข้อไหนล่ะ ในเมื่อพระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงห้าม ทำไมจึงว่าเป็นกิเลส พระอรหันต์ก็สูบ หมากท่านก็กิน นางสิริมาที่ต้องเป็นหญิงโสเภณีก็เพราะละอองน้ำหมากของพระอรหันต์

    ผู้ถาม : อย่างนั้นการสูบบุหรี่ก็ไม่เป็นกิเลสซิครับ

    หลวงพ่อ : ถ้าจะให้เป็นก็เป็น ไม่ให้เป็นก็ไม่เป็น อยู่ดีๆ คิดว่าเป็น กิเลสจิตเศร้าหมองก็ลงนรกไปลงนะ สิ่งที่ไม่เป็นโทษคิดว่าเป็นโทษมันเอานะ ต้องดูว่าพระพุทธเจ้าเจ้าท่านห้ามหรือเปล่า สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม สิ่งนั้นผิด สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงห้ามสิ่งนั้นไม่ผิด ไอ้กิเลสเขาแปลว่าความชั่วของจิตแปลว่าอารมณ์เศร้าหมอง อารมณ์เศร้าคือความชั่ว พระพุทธเจ้าไม่ทรงปรับ เราจะปรับเกินพระพุทธเจ้า ถ้าเราปรับเกินพระพุทธเจ้าเราก็ลงนรกเอง โดยที่ไม่ต้องบาป ลงนรกเพราะจิตเศร้าหมอง ต้องไปดูพระอรหันต์พระพุทธเจ้าปรับข้อไหนบ้าง บางคนก็มีความรู้เลยไป พระพุทธเจ้าไม่ทรงปรับการตัดต้นไม้ว่าเป็นบาป บางคนคิดว่ามีนั่นมีนี่ แกลงนรกไปเถอะ คนอื่นเขาจะพลอยลงด้วย คนประเภทนี้มีเยอะ ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะกิเลสยังหนาอยู่ ที่คิดแบบนั้นนะ ต้องคิดแค่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติเท่านั้น

    ทีนี้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัส รวมความว่าการศึกษาพระพุทธศาสนาต้องศึกษาจริงๆ หมายความว่าฟังพระพุทธเจ้าท่านตรัสว่ามีอะไรบ้าง ถ้าคิดมากเกินไป อย่างพระนางมัลลิกา สะดุดเท้าสามี ความจริงไม่มีความผิดแต่คิดว่าผิด ลงนรกไปหน่อยแค่ 7 วัน

    นักปฏิบัติกับนักตำรา อารมณ์คนละอย่าง ตำราเป็นพื้นฐานจริง ถ้าอารมณ์จิตไม่ถึงเขา เขาก็เข้าใจยังไม่ถูกต้อง ตำราเขาเขียนถูก แต่อารมณ์เข้าถึงไม่ถูก


    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ มิถุนายน 2530)
     

แชร์หน้านี้

Loading...