อยากรู้เรื่องจักรวาลคู่ขนาน

4. อาจด้วยเพราะดิฉันยังต้องใช้กรรมใช้เวรใช้เวลา
ณ สถานที่แห่งนั้น ให้หมดกรรมหมดเวรเสียก่อน
แล้วจึงจะถึงคิวมาเกิดบนโลกมนุษย์แห่งนี้


แต่ ..... ด้วยความซนคะนองล่ะมัง
ที่แอบหนีพ่อแม่ที่โน่นมาเที่ยวบนโลกแห่งนี้
พอเกิดมาแล้วก็ยังไม่ใช่เวลาที่ต้องมาเกิด
(หลวงพ่อท่านบอกว่า...มันหนีพ่อแม่มันมาเที่ยว
มันยังไม่ถึงเวลาที่จะมาเกิด .... อะไรประมาณนี้)


ทีนี้ ไอ้เส้นใยความผูกพันในตัวดิฉันกับครอบครัวเดิม
คงจะยังมีอยู่อย่างแน่นเหนียว(แบบว่า ประมาณว่า
ความทรงจำเก่า สัญญาเก่ามันติดมา มันตามมาด้วย)
เลยทำให้"ทางโน้น ดินแดนที่โน่น" เสมือนมี"แรงดึงดูด"(อะไรสักอย่างล่ะ)
ที่ทำให้ดิฉันต้องกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่จากมา
แต่..........เป็นช่วงเวลาในยามหลับ(ผ่านความฝัน).....

 

5. จริงๆคำตอบที่ดิฉันหามานาน สงสัยมานาน
เข้าใจว่าหลวงพ่อท่าน hint มาให้รู้ตั้งแต่เกิดแล้ว
แต่ดิฉันมองข้าม และไม่เชื่อ เพราะเรื่องราวฟังดูเหลือเชื่อ


แต่เมื่อมานั่งคิดลำดับเหตุการณ์มาจนถึงปัจจุบัน
กับสภาวะที่ดิฉันไม่เข้าใจและมีความสงสัยว่า.....
ไอ้เมืองที่ดิฉันโผล่ไปใช้ชีวิตอยู่กับอีกครอบครัวนึงนี่
ที่นั่น สถานที่แห่งนั้น มันคืออะไรกันแน่ ?
พอนั่งคิดแล้วเอาจิ๊กซอ(เหตุการณ์ต่างๆที่ไม่ได้นำมาเล่าในที่นี้)
มาประกอบภาพ ก็เห็นภาพชัดขึ้น 70 %


และตอนนี้ก็(พยายาม)จะเข้าใจและทำใจแล้วว่า
ไอ้ตัวเรานี่ก็เหมือนคนมีกรรมไปอีกแบบ
คนอื่นเขามาเกิดบนโลกนี้ได้เพราะว่า
เขาใช้กรรมเวรในแต่ละภพแต่ละภูมิอื่นๆหมดแล้ว
เมื่อถึงคิวถึงเวลามาเกิดเขาก็มาเกิดตามเวลาที่กำหนด


แต่ไอ้เรานี่เข้าข่ายเสียเวลาในการใช้กรรมใช้เวรซะเฉยๆ 1 เที่ยว
นั่นคือถ้าดิฉันตายไป ก็คงต้องกลับไปใช้กรรมใช้เวร
.....ณ สถานที่ๆดิฉันจากมา.....
ให้ครบให้หมดกรรมหมดเวรที่นู่นเสียก่อน
นั่นล่ะ จึงจะถึงเวลา(กลับ)มาเกิดเป็นคนบนโลกนี้(จริงๆ...อีกรอบ)


ซึ่งก็ไม่มีวันรู้หรอกว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน
ไอ้การเวียนว่าย ตายเกิด วัฏสงสารแบบนี้นี่เอง
ที่ทำให้ดิฉันอยากหลุดออกไปจาก"วงกลม" ตรงนี้
รู้ค่ะว่ายากที่จะทำ แต่ก็จะพยายาม(ต่อไป)

 

mamboo อ่านๆดูแล้ว ก็เหมือนชื่อคุณแหละค่ะ Andromeda Galaxy

อีกชีวิตหนึ่ง คุณคงอยู่ที่นั่นอ่ะ ><

mamboo ฝากคุณ Andromeda ดูมาให้หน่อยได้ไหมคะ ?? ว่าโลกในฝัน ไปถึงไหนแล้ว มีการปกครองอย่างไร ใครเป็นนายกฯ ภาษา เขาพูดภาษาอะไร และเขามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Milky Way Galaxy อย่างไร ที่นั่นแบ่งเป็นประเทศๆเหมือนเราไหม ???

วิทยาศาสตร์ของเขาเป็นอย่างไร ???

mamboo เคยอ่านเรื่องของคนๆหนึ่ง เขาก็มาจากโลกอื่นเหมือนกัน แล้วโลกนั้น ก็เหมือนๆกับโลกของเรา คล้ายๆกัน ผู้คนก็หน้าตาเหมือนกัน แบ่งเป็นประเทศเหมือนๆกัน

ถ้ายังไง ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ ^^

อีกอย่าง...

คุณ Andromeda ลองทำสมาธิก่อนนอนทุกคืนสิ่คะ แทนที่จะนอนหลับตาไปเฉยๆ ลองทำสมาธิไปเรื่อยๆจนกว่าจะหลับ..

เพราะว่า mamboo สับสนว่า.. เวลาที่คุณอยู่ในความฝันอ่ะ คุณฝันไหม?? แล้วคุณจำได้ไหมว่า อีกโลกใบนี้ (หรือเวลาอยู่โลกใบนี้ คุณค่อยจำได้ว่า มีโลกใบนั้น) แล้วเวลาอยู่โลกใบนั้น จำได้ไหมว่ามีโลกใบนี้

ขอบคุณค่ะ ^^

 

ขออนุญาตตอบคุณ mamboo แบบสั้นๆ(ก่อน)นะคะ
เพราะเป็นคนไม่ชอบพิมพ์(แต่ชอบเล่าด้วยคำพูดมากกว่า)


ชื่อนามแฝงตอนสมัครเวบนี้ บอกตรงๆว่าไม่ทันได้นึกอะไร
แต่มีคำว่า Andromeda Galaxy มันปิ๊งแวบขึ้นมา
ในหัวเดี๋ยวนั้น ตอนกำลังสมัครสมาชิก
และชอบชื่อนี้ทันทีเหมือนเป็นชื่อที่คุ้นเคยจัง
ทั้งๆที่ก็เพิ่งปิ๊งแว่บขึ้นมาแท้ๆ ( สัญญาเก่าจากที่เดิมด้วยมั๊ง แฮ่ะ)


จริงๆโลกที่อยู่ในความฝันดิฉันนั้น
ก็เป็นเหมือนกับโลกปัจจุบันที่เราๆใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี่ละ
(เลยเป็นที่มาของคำถามว่า
เอ๊ มันคือจักรวาลคู่ขนานหรือเปล่าน๊า ? )


เพียงแต่มันมี "จุดตัด" ที่แยกให้รับรู้ได้ว่า
โลกในความฝันของดิฉันจะมีความสงบสุขกว่าโลกของเรา
ถ้าเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติก็จะสวยกว่าโลกเรา
ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล ทุ่งหญ้า สวยกว่าจนอยากเรียกว่าสวรรค์


มีคนหน้าตาแบบเราๆท่านๆนี่แหละค่ะ มีการทำงานเหมือนโลกเรา
( เพราะในฝันดิฉันยังนั่งรถเมล์ไปทำงานตามปกติ)
แต่สิ่งที่สถานที่แห่งนั้น " ต่างจาก" โลกเรา
เพราะว่ามันเหมือนเมืองในฝันน่ะค่ะ
คือมีผู้คนเป็นมิตร จิตใจดีงาม สังคมสงบสุข
(ไม่มีโจรขโมย ไม่มีตำรวจ ไม่มีทหาร)
ตัวบ้านเมืองเจริญปานกลาง
(ให้นึกภาพโลกเรายุค 70 ยุค 80 ประมาณนั้น)
แต่มันรู้สึกร่มเย็น น่าอยู่อะไรแบบนี้ วิวทิวทัศน์สวย
พูดง่ายๆว่า .... ดู"น่าอยู่"กว่าโลกจริงๆของเรา


ส่วนช่วงเวลาที่ดิฉันอยู่ในโลกความฝันนั้น
ส่วนใหญ่เหมือนเป็นการชีวิตกลางวันน่ะค่ะ
เช่นว่า ดิฉันตื่นเช้ามา(ในความฝันนะคะ)
เป็นภาพตัวเราลุกจากเตียงในห้องนอน เดินมาห้องน้ำอะไรแบบนี้
แล้วก็ไปตลาด กลับจากตลาดมาอาบน้ำ แต่งตัวไปทำงาน
กลับจากทำงานก็มาทำกับข้าว ล้างจาน รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ
เหมือนชีวิตปกติทั่วไปในเวลากลางวันของคนเรา


เท่าที่จำได้....ดิฉัน(น่าจะ แทบจะ)
ไม่มีการนอนหลับในความฝันเลย
เพราะทุกครั้งที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกของความฝันนั้น
มักจะเป็นกิจกรรมภาคกลางวันที่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว
หรือแม้แต่เพื่อนในที่ทำงานด้วยกัน(ที่ทำงานที่อยู่ในความฝัน)


และดิฉันมักจะตื่นนอน ตอนที่โลกในความฝันนั้นจะเป็นตอนที่
นั่งทานข้าวเย็นกับครอบครัว ล้างจานเสร็จก็จะเตรียมตัวเข้านอน
ซึ่งตรงนี้(ตอนนี้)แหละค่ะ ที่ดิฉันก็จะตื่นนอนขึ้นมาเป็นเช้าบนโลกเรา
มันก็เป็นวัฏจักร วนเวียนๆไปแบบนี้ค่ะ

อ้อ - ภาพในความฝันดิฉันชัดเจนแจ่มแจ้งค่ะ
เป็นภาพสีด้วย เพราะว่าเวลาตื่นนอน
ถ้านึกถึงเรื่องที่ปรากฎอยู่ในความฝัน
จะสามารถจำได้ หรือสามารถนึกถึงสิ่งนั้นได้
จากสี(ของสิ่งนั้นเรื่องนั้น)ได้เลยค่ะ


อย่างเช่น ถ้าเล่าว่ามีทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างใหญ่
มันก็เป็นสีเขียววววววววววววม๊ากกกกกกกกก
จนสีเขียวมันติดตามา...แม้ยามตื่นสีนั้นยังชัดเจนอยู่ในหัว


อาจจะตอบคำถามคุณ mamboo ได้ไม่ตรงนักนะคะ
แต่จะพยายามค่อยๆเรียบเรียงออกมา
ให้อ่านแล้วรู้เรื่อง เท่าที่จะทำได้ค่ะ

 

ความฝันก็เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้นแหละครับ ถ้าจะให้จริงต้องลงมือปฎิบ้ติด้วย

 

ก็แล้วแต่คุณเล่าปังจะคิดพิจารณาค่ะ
เพราะชีวิตของแต่ละคนก็ดำเนินไป
ตามบุญตามกรรมของแต่ละคนที่ทำ(กรรมเก่า)มา
ซึ่งก็จะมีมาไม่เท่ากัน บางคนมีมากมาก บางคนมีมาน้อย
บุญที่ทำมาของดิฉันอาจจะไม่มากไม่สูงส่งเท่าคุณเล่าปังไงคะ
ดิฉันถึงยังต้องมาวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏแห่งนี้อยู่


ดิฉันมารู้จักคำว่าวงกลม หรือวงจรที่ว่านี้
จากการได้ไปเข้าร่วมเรียนการทำสมาธิฯกับ
ท่านพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
นั่นเอง - จึงได้เข้าใจในความหมาย
ของการวนเวียนเวียนว่ายตายเกิด


เป็นบุญและความโชคดีของดิฉันได้เรียนรู้
ในสิ่งที่พระอาจารย์ท่านสอนวิธีการหลุดพ้น
ท่านพยายามบอก และสอนลูกศิษย์
ให้(รู้จัก)หาทางหลุดออกมา
ให้พ้นจากวงจรหรือวงกลมที่ว่านี้ - ให้ได้

อย่างน้อยดิฉันก็ดีใจที่มีคนมาชี้ทางสว่าง บอกทางออก
รู้วิธีการหาทางออกจากวงจรหรือวงกลมนี้แล้ว
แต่การจะทำได้อย่างที่พระอาจารย์รัตน์ท่านชี้ทางไว้นั้น
ใครจะสามารถทำได้ ทำได้เร็ว ทำได้ช้า
หรือยังทำไม่ได้(เพราะยังไม่ได้เริ่มต้นทำ)
เป็นเรื่องของปัจเจกชนแต่ละคนแล้ว


สำหรับดิฉันถือว่ามีพระอาจารย์บอกทางหลุดพ้นให้แล้ว
แต่ดิฉันไปทำได้มากน้อยแค่ไหน
ก็เป็นเรื่องของดิฉันที่อยากหลุดให้พ้นจากวงกลมที่ว่านี้
ให้ได้ก่อนจะหมดอายุขัย....(ทำได้)หรือเปล่า
เท่านั้นเอง


เพียงแต่ดิฉันสงสัยว่าผู้มากไปด้วยบุญที่สูงส่งอย่างคุณเล่าปัง
เอาอะไรมา judgement ชีวิตของคนอื่นคะ ?


ดิฉันยังไม่กล้าไป judgement ชีวิตของใครเลยค่ะ
เพราะตัวเรายังไม่ดีพอหรือสูงส่งมากพอที่จะไป judgement ชีวิตของใคร