อยากถามคนที่อ่านใจคนอื่นได้ครับ

จิ-โป<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3501769", true); </SCRIPT>
สมาชิก

ทำตัวให้โปร่งโล่ง รู้สึกให้เหมือนสายลมพัดผ่านร่างกายเรา
เมื่อมีลมอ่อนๆพัดมา ให้โน้มใจตามกระแสลมให้พัดผ่านทะลุ
อืมมมมม ช่างจินตนาการดีจริงๆ...

อันนี้เรียกว่า สุตมยปัญญาครับ ปัญญาบางคนอาจไม่มาถึงขั้นนี้
สุตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการสดับตรับฟัง
ต้องการสื่อสารอะไร สงสัยปัญญาฉันคงไม่ถึง อ่านแล้วไม่เข้าใจข้อความของคุณ



กำหนดจิตอยู่นอกกาย แลเห็นสายลมภายใน ภายนอก
อยู่ข้างในไม่ดีแล้วเหรอ

อยู่ข้างในก็ไม่อาจเห็นลมทั้งภายในและภายนอกพร้อมกันครับ
เรื่องมากจัง งั้นก็ยังไม่แจ๋วจริงน่ะสิ

เมื่อนั้นจิตก็จะอยู่เหนือธาตุขันธ์ ขณะนั้น แม้เทวดาผู้มีตาทิพย์ก็หาเราไม่เจอ
แจ๋วขนาดหาไม่เจอด้วย
แจ๋วครับ ลองมาแล้วกับผู้ที่มีตาทิพย์ด้วยกัน ทำแบบนี้แล้ว มองแบบทิพย์หาไม่เจอครับ
ทิพย์แน่หรือเปล่า เอามาหลายๆตาแล้วทิพย์มาทางนี้หน่อยสิ ก็อยากเจอที่มันสมราคาคุยหน่อย
อย่ามัวแต่ทิพย์กันเอง เออกันเอง ปิ๊งๆมาทางนี้บ้างให้เป็นขวัญตาขวัญใจ


อย่าว่าแต่อ่านใจเลย เพราะขณะนั้น แม้ความคิดปรุงแต่งก็มีไม่มากอย่ามาอ่าน
ใจซะให้ยากคับ ...
ทำไมและอะไรถึงทำให้แน่ใจว่าเป็นอย่างที่พูด ทำได้แล้ว หรือว่าเคยเป็นเทวดา ถึงได้รู้ว่าจะหาอะไรเจอหรือจะหาอะไรไม่เจอ มองเห็นหรือไม่เห็นอะไร

เทวดาก็เคยเป็นครับ และแน่ใจเพราะลองกับเพื่อนและพระที่มีตาทิพย์ ลองกันมาแล้ว นี่เป็นวิชาครับ
เพื่อนๆก็คงจินตนาการเก่งเหมือนกันหรือเปล่า
วันนี้ฉันได้คุยกับอดีตเทวดาทีเดียว นับเป็นโอกาสอันดี
ตอนเป็นเทวดาดีมั๊ยครับ


จบคับ ง่ายๆ
แล้วทำได้อย่างที่พูดหรือยัง ถ้าทำได้ถึงขั้นหมดปรุงแต่งก็คงจบจริงๆ

ทำได้ครับ ทำไม่ได้ก็คงไม่พูด นี่เอาข้างในและความรู้มาพูดให้ฟัง แล้วเคยอ่าน หรือได้ยินแบบนี้มารึเปล่าล่ะครับ นี่ล่ะ ผมเอามาจากประสบการณืล้วนๆครับ หมดปรุงแต่งนั้น ทำแบบนี้ยังไม่หมดครับ แค่ปรุงก็รู้ว่าปรุง แต่ทำให้ใครๆมองหาเราไม่เจอครับ<!-- google_ad_section_end -->
ตกลงว่าหมดปรุงแต่งแล้วหรือว่าแค่รู้ตามอารมณ์ปรุงแต่ง
เอาให้แน่สิ
จะอวดรู้คุยโวทั้งทีก็ให้มันเนียนๆหน่อย



จบคับ ง่ายๆ
คำพูดลักษณะนี้ น่าจะมาจากคนที่ทำได้แน่นอนแล้ว
แต่คนที่ทำได้ ใครเขาจะมาพูดจาพาทีด้วยอาการแบบนี้

สภาวะของจิตที่หมดการปรุงแต่งทางอารมณ์จริงๆ กับ สภาวะนั่งจินตนาการว่าทำได้หรือไม่ได้ มันไม่เหมือนกันนะท่านอดีตเทวดา

 

ก็อดีตเทวดาคับ ผมรู้เท่าที่มี ไม่ได้วิเศษอะไรหรอก เอาที่เห็นกันง่ายๆก็แล้วกันจะได้เห็นภาพ ว่าการวัดคนนั้น เอากันง่ายๆแค่ไหน

วันนี้วันพระครับ หิ้งพระผมมีดอกใม้ ขันหมากเบง ครบทั้ง8 คู่ และหิ้งพระผมไม่เคยขาดดอกใม้บูชาพระรัตนตรัยเลยตลอดมา ไม่อาจนับได้ว่ากี่วันพระ เอาว่า 8-9 ปีนี้ วันโกนขึ้นดอกใม้ตลอด ไม่ขาด

ส่วนใครที่ว่าปฏิบัติดีนักหนา รู้ไปหมด แต่คุณธรรมการแสดงออกแม้เพียงดอกใม้บูชาก็ไม่
เห็นความสำคัญ ก็ แล้วกันไปครับ นี่ขนาดบ้านอยู่ใกล้วัดแท้ๆยังไม่สนใจถวายก็มี

นี่แม้ไม่อาจวัดได้ว่าคนที่ถวายดอกใม้ทุกวันพระเป็นผู้วิเศษใหม แต่ วัดได้ว่า มีใจอ่อนน้อม ระลึกถึงรัตนตรัยอยู่เสมอ ไม่ได้ทำแค่ลมปาก

ส่วนจะให้ไปดูทางโน้น ไม่ไหวละครับ ผมไปดูสิ่งที่ดีกว่านั้นดีกว่า เพราะการแนะนำเจ้าของกระทู้ถึงวิธีหลบหลีกไม่ให้ถูกคนอ่านใจ มันก็เลยเถิดไปกันใหญ่จากการปรุงแต่งของอีกคน มากคนก็มากความครับ ท่านจะคิดยังไงก็สุดแล้วแต่ ไม่มีคุณประโยชน์ใดๆต่อผมอยู่แล้ว

 

ไม่ต้องกลัว

ถ้ากลัวแสดงว่ายัง

ยึดติดกับภาพพจน์อยู่

ใครจะมองยังไงก็ช่าง

ความคิดคนอื่นเราห้ามไม่ได้อยู่แล้ว

เรารู้ตัวเราเองพอ

 

อ่านจิต

การอ่านจิตคนอื่นได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ถ้าจิตไม่ได้ถึงขั้นญาญขั้นสูงๆ จริงจริง การรับรู้อาจจะไม่จริง และถ้ากล้าอวดต่อใครใครว่าอ่านจิตได้ อาจทำให้เสียจริตกลายเป็นบ้าได้นะครับ ยิ่งถ้าไม่มีคุณธรรมประจำตัวก็จะยุ่งกันไปใหญ่ละครับ ของแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ จะต้องเป็นผู้ที่ได้อภิญญา ได้ณาณขั้นสูงๆจริงจริง จึงจะสามารถรับรู้ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำครับ
ปัจจุบันหาคนแบบนี้ยากครับ

 

อันนี้เท่าที่รู้มานะคะ..

ถ้าเรารู้สึกว่า ไม่อยากให้ใครมาอ่านตรงนั้น.. แค่นี้ คนๆนั้นก็จะอ่านไม่ได้แล้วล่ะค่ะ แต่เขาจะรับรู้ได้แค่ว่า คุณมีความรู้สึกผิดและละอายอยู่ แต่เขาจะมองไม่เห็นภาพว่าเกิดอะไรขึ้น (เพราะคุณไม่อนุญาติให้เขาดู มันก็จะดูไม่ได้ค่ะ)

อันนี้ที่รู้ ก็เพราะว่า เคยมีนักสะกดจิตคนหนึ่ง พยายามจะให้เจ้าตัวเข้าไปดูภาพอดีตที่เจ้าตัวไม่อยากให้ดู แล้วเขาก็ดูไม่ได้

มันก็คล้ายๆ สิทธิ์ ของเราอ่ะ เรื่องของเรา ถ้าเราไม่อยากให้ดู เขาก็ดูไม่ได้ ไม่ต้องไปบอกอะไรเขา แค่เรารู้สึกว่าเราไม่อยากให้ดู แค่นี้เขาก็ดูไม่ได้แล้วค่ะ

 

เจโตปริยญาณ หรือ นักจิตวิทยา ไม่เหมือนกัน แต่ ให้สามารถทำให้ผลที่ออกมา ใกล้เคียงกัน
หรือ เหมือนกันได้ ราวกับ ของก๊อป เกรดเอ

 

เราว่าไม่น่ากลัวหรอกนะ เพราะคนที่อ่านใจได้ เท่าที่เจอมาไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องคนอื่นเท่าไหร่หรอก (ตัวเขาเองก็ไม่อยากรู้เรื่องชาวบ้านแต่มันรู้เอง) ยกเว้นพวกที่อ่านใจได้จากการฝึกฝนหรือจากจิตวิทยา พวกนี้น่ากลัวหน่อยที่อาจจะมารู้เรื่องของเราได้ แต่ก็ไม่ต้องกังวลมาก เพราะเท่าที่ศึกษามา พลังพวกนี้ถ้าใช้ในด้านกิเลสมากๆ เช่น อ่านเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัว หรือเพื่อบงการคนอื่นมันจะเสื่อมถอยไปเอง อย่างพระที่ท่านรู้จิตของคนท่านก็รู้แต่ไม่พูด ถ้าไม่ใช่ว่ามีดวงต้องมาอุปถัมภ์กัน หรือมีกรรมหนักหนาจริงๆ

 

ปูว่า ปูทำได้ค่ะ... อ่านจิตคนอื่น... เคยลองมาหลายรอบละ แต่ใช้พลังสูง...

แล้วแต่จะเชื่อนะ...

 

จริงๆ มีอีกวิธีที่ไม่อยากให้ปูอ่าน ก็คือ ปิดใจตัวเองซะ..ไม่นึกเรื่องที่อยากถาม... เวลาคุยกัน ก็จะไม่เห็นความนึกคิดที่ไม่อยากให้เห็น...มีหลายคนที่คุยแบบปิดใจ... ก็เลยบอกว่า "ปิดใจอยู่ค่ะ อ่านไม่ได้" ฉะนั้น เวลาปิดใจ ... ปัจจุบัน อนาคต ก็จะไม่เห็นด้วย ฉะนั้นเวลามีคนเข้ามาถามปู ปูก็จะบอกว่า ขอล่วงเข้าไปเห็นอนาคตของคุณหน่อยเถอะ ...อยากเห็นภาพ O.O" (แล้วแต่ความเชื่อของบุคคลค่ะ... มันยากจะเชื่อได้ แหะๆ)

 

ผู้ที่สามารถอ่านใจคนอื่นได้นั้น มีอยู่จริงเป็นเรื่องจริง เป็นหนึ่งในอภิญญาเกิดจากอำนาจฌาน เป็นพระก็ได้ส่วนฆราวาสก็มีอยู่มาก แต่โดยปกติคนเหล่านี้จะไม่ไปก้าวก่ายเพ่งเล็งผู้อื่นไปทั่ว ยกเว้นกรณีที่อยากรู้คำตอบในบางสิ่งบางขณะ เช่นทดสอบว่า โกหกหรือไม่ ใจคิดอย่างไรในขณะนั้น มีอิจฉาริษยา ละโมภโลภมากอยากได้ของเขาหรือไม่ เป็นต้น

จขกท ไม่ต้องเป็นห่วงเกินวิสัยปกติ ผู้ที่ได้อภิญญาขั้นนี้ต้องเป็นผู้ฝึกตนมาดีแล้ว มักไม่ไปเที่ยวจับจ้องเพ่งจิตดูผู้อื่นให้ต้องวุ่นวายกับตนเองเป็นแน่

 

ผมก็ไม่มีเซนต์ครับ มีแต่การ รับรู้ อารมณ์ ของ คนที่เรารู้เรารัก เรารู้จัก คนที่เรา คิดถึง คนที่เราเป็นห่วง อ่ะครับ

และ คนที่เขารู้จักเรา เวลาเขาคิดถึงเรา ด้วยเรื่องอะไรเขาไม่บอก อ่ะครับ ส่วนมาก ..เรื่องที่เขามีความสุข คนส่วนมากไม่ค่อยคิดถึงกันครับ กลัวความสุขของตนเอง พร่องหรือน้อยลงไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ...
ส่วนมาก จะคิดถึงเรา เวลาที่ตนเองมีปัญหาครับ เวลามีความทุกข์ คิดถึง คนอื่นให้มาช่วยจังเลย คนเรา ทำไม ถึงเป็นเช่นนี้นะ



เช่น อารมณ์ ความรู้สึก ของพ่อแม่ที่หวังดีต่อเรา อารมณ์ความรู้สึกของลูกที่ อยากให้เราทำอะไร ทำอย่างไรกับเขา

และ แมวที่บ้าน อยากเล่นกับเรา สุนัขที่เราเลี้ยงอยากเล่นกับเรา ..ผมก็รู้ครับ เวลาเราไปเล่นบ้านเพื่อน หรือ บ้านคนอื่น เรารู้ว่า สุนัขตัวไหน ดุ หรือไม่ดุ เป็นต้น

ส่วนเรื่อง ที่คนอื่น จะรู้หรือไม่นั้น ไม่สำคัญครับ ผมถือคติที่ว่า...ถ้าคนอื่นรู้ว่า เราทำไม่ดี ถ้าเรา กลัวว่า มัน จะส่งผลไม่ดีกับเรา เราก็ ละวาง การกระทำที่ไม่ดีนั้นซะ

เช่นถ้ามีคนเขามาว่าเราเป็นขโมย หรือโกหก....ถ้า หากเราเป็นขโมยหรือโกหก จริง แล้ว ถ้าเรา กลัว ผล แห่งกรรมที่ไม่ดีนี้ เราก็ต้อง เลิกขโมย เลิกโกหก เสีย...และ ยอมรับ ว่า ที่เราทำมานั้น มันไม่ดี จะไม่ทำมันอีก เพราะ การกระทำนั้น มัน อาจส่งผลร้ายกับเรา

แต่ถ้าหากว่า เราไม่ได้ ขโมย เราไม่ได้โกหก เราก็ ต้องไม่กลัวอะไร และไม่หนีปัญหาด้วยครับ เราต้อง พิสูจน์ตนเอง ด้วยความอดทนอดกลั้น เพื่อ ที่ จะแก้ปัญหาที่คาใจคนอื่น ให้ เขา มาเข้าใจเราให้มันถูกให้ได้ครับ

ดังนั้น...ผมว่า ที่พ่อแม่ สอนลูกให้เป็นคนดี ที่ครูอาจารย์สอนลูกให้เป็นคนดี
ถ้าหาก เราเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เราต้อง ยอมรับในความรักความหวังดี และเจตนาดี ของพ่อแม่นะครับ และเช่นกัน ถ้าเราเป็นศิษย์ เราก็ต้อง ยอมรับในคำสอนของครูอาจารย์ เพราะครูอาจารย์ก็ เปรียบเหมือน พ่อแม่ คนที่สอง เช่นกันครับ

ดังนั้น...เราคือ ผู้ กำหนด กรรมของเราเอง อนาคตของเราเอง

เมื่อ พ่อแม่ ครูอาจารย์ กัลยาณมิตร ชี้ หนทางแห่ง ความดี ความถูกต้อง..เราถ้า เป็นคน มีเหตุผล และรักดี เราก็ต้อง ยอมรับความจริงครับ

ไม่ผิด ก็ไม่ต้องถือโทษโกรธเคือง คนที่เข้าใจเราผิด
ถ้าเราผิด เราก็ต้องยอมรับ และแก้ไข ตนเองไห้ดีกว่าเดิมครับ

1.ละชั่ว
2.ทำดี

3.ถึงไม่ได้ดี แต่ก็ ได้ทำดี ...ไม่ได้ขาดทุนอะไรครับ

 

ถูกต้องครับ...หมอ พยาบาล ทั้งหลาย ที่ ทำหน้าที่รักษา คนป่วย ฉีดยา จัดยา ให้คนไข้ คนเหล่านี้ ก็ ฝึกมาดี มีจรรยาบรรณดีแล้วครับ ถึง ถูก ผู้มารักษาเขาไว้วางใจครับ

ทัก เพราะ รู้ เข้าใจ ....ช่วยได้ ยอมช่วยด้วย
แต่ถ้า ไม่ช่วย ช่วยไม่เป็น ช่วยไม่ได้ ..แต่ทักเพราะ อยากอวดว่าตนเก่ง...ไม่มีประโยชน์ครับ

คนเขาไม่สรรเสริญ ครับ พวกดีแต่ทัก เพื่อ อวดว่าตนเองเก่ง แต่ ช่วยเป็น

 

แมงมุมอยู่ไหน แมงมุมอยู่ไหน อยู่นี่จะ อยู่นี่จ๊ะ จะหากินอีกแล้วหรือไร จะหากินอีกแล้วหรือไร ระวังนะ สวัสดี

 

"ฟุ้งซ่าน"

ไม่อยากให้คนอ่านใจได้ก็กำหนดรู้ที่ตัวเองสิ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเรากำลังกำหนดรู้
แต่หากแน่วแน่ในสมาธิ ก็ไม่จำเป็นว่าเขาจะรู้หรือไม่รู้ในเรื่องที่อยากให้รู้หรือไม่อยากให้รู้

 

ไม่อยากได้น่ะ ไม่อยากรับรู้ด้วย เรื่องของใจตัวเองยังเอาไม่อยู่ เสือกไปรู้ใจคนอื่นอีก โอ้ยยย ปวดหัว รู้ใจคนอื่น รู้ทุกข์ของคนอื่น วุ่นวายจริงหนอ

 

อ่านใจออกค่ะ แต่อ่านอดีตกับอนาคตไม่ได้ (ไม่มีเจตนาร้าย) แค่รู้ว่าคนๆนี้เป็นยังไง นิสัยยังไง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร กำลังจะพูดอะไร ฯลฯ แบบนี้อะค่ะ (วิธีสังเกตเมื่อเข้าใกล้คนอ่านใจได้นะคะ คือ คนที่มองตัวเรานานๆ หรือมองๆหลบๆแล้วทำตาลอกแล่ก เหมือนคิดอะไรซักอย่าง แต่ก็อย่ากังวลเลยค่ะ สาเหตุที่เค้าเพ่งเลงคุณเป็นเพราะคุณต้องมีบางอย่างที่น่าสนใจ ^^) ++คนที่อ่านใจออกส่วนใหญ่ไม่ใช่คนที่ชอบพูดหรอกค่ะ เป็นคนเก็บความลับซะมากกว่า++

 

จงยอมรับสิ่งที่ตนเป็น จงเชื่อมั่นในสิ่งที่เป็นตน

 

(ต่อจากข้างบน)
เคยมีคนมาอ่านใจเหมือนกันค่ะ ตอนที่อยู่ในที่แออัด แต่เราเองก็รู้ตัว ก็กลับไปมองคนๆนั้นจนเขาต้องเลิกมอง แต่ก็อย่ากังวลเลยค่ะ