ห้องพระเครื่อง "ศิลป์พระ๙" พระเครื่องทั่วไทย

225.รูปถ่ายหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ((( บูชา 750 บาท ))) ปิดรายการ
เก่าๆครับ

 

226.เหรียญหยดน้ำหลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ปี 2521 จ. ชุมพร ((( บูชา 650 บาท )))

เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่ออกแบบมาสวยงามไม่ค่อยพบเจอเหรียญทรงนี้ในพระเครื่อของท่าน ออกแบบสวยราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับรุ่นนิยมของท่านหลายๆหมื่น น่าบูชา สะสมเลยทีเดียว อีกทั้งไม่พบของเลียนแบบอีกด้วย หลวงปู่สงฆ์ท่านเป็นพระเกจิที่มีชื่ออันดับต้นๆของจังหวัดชุมพร มีวาจาสิทธิ์ พระเครื่องของท่านแทบทุกรุ่นได้รับความนิยม เครื่องรางของท่านไม่ว่าจะเป็นยาฉุนหรือ สายคล้องคอรถ ศักดิ์สิทธิ์มาก พระเครื่องท่านเน้นทางแคล้วคราด

​

หลวงพ่อสงฆ์ เป็นชาวชุมพรโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันอังคาร เดือน 6 ปีขาล ปี พ.ศ.2433 ที่บ้านวินัยเหนือ อ.สวี จ.ชุมพร โยมบิดา-มารดาชื่อ นายแดง-นางนุ้ย ประกอบอาชีพทำนา ท่านใฝ่ใจศึกษาหาความรู้และรักการอ่านเขียนมาตั้งแต่เยาว์วัย พออายุได้ 18 ปี บิดามารดาจึงได้บวชให้เป็นสามเณรที่วัดสวี ศึกษาด้านพระธรรมวินัย พระปริยัติธรรม และอักษรขอม จนอายุครบบวชจึงได้อุปสมบทที่วัดวิสัยเหนือ โดยมี หลวงพ่อชื่น วัดแหลมปอ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา"จันทสโร"
จำพรรษาอยู่ที่วัดวิสัยเหนือได้ระยะหนึ่ง จึงเดินทางมาจำพรรษาที่วัดควน ต.วิสัยเหนือ เพื่อศึกษาด้านกรรมฐานและวิทยาคมต่างๆ อีก 1 พรรษา จากนั้นออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ จนมาถึงภูเก็ต ได้พบกับ พระอาจารย์รอด วัดโต๊ะแซ หรือ ตอแซ พระเกจิชื่อดังผู้ทรงฌานสมาบัติสูงรูปหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ซึ่งผู้คนให้ความเคารพนับถือมาก ท่านจึงฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมต่างๆ จนหมดสิ้นเป็นเวลา 2 พรรษา จากนั้นกราบลาอาจารย์ออกธุดงค์อีก 7 ปี

ในราวปี พ.ศ.2462 วันหนึ่ง นางร่อยพร้อมด้วยลูกชายเดินทางไปทำนา ซึ่งไกลจากบ้านหลายกิโลเมตร ขณะเดินทางพลันได้ยินเสียงของนกร้องว่า "หนักก็วางเสีย หนักก็วางเสีย" เมื่อมองหานกตัวนั้นพบ นกก็บินไปแล้ว สองแม่ลูกจึงตามไป พอตามมาถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งก็พบพระสงฆ์รูปหนึ่ง นุ่งห่มจีวรเก่าขาดรุ่งริ่ง ท่าทางสงบนิ่ง เมื่อได้สติจึงเข้าไปกราบสอบถามอย่างละเอียด ด้วยความเลื่อมใสจึงได้นิมนต์ท่านไปจำพรรษา ณ วัดร้างใกล้หมู่บ้าน ซึ่งมีแต่ซากสิ่งก่อสร้างที่ทรุดโทรมมาก กุฏิเก่าๆ โบสถ์เหลือแต่เสาต้นใหญ่ 4 ต้น พระพุทธรูปองค์ใหญ่ก็ชำรุด มีต้นไม้ต้นหญ้าขึ้นรกรุงรังทั่วบริเวณ แม้จะเป็นเพียงซากปรักหักพังต่างๆ แต่ตามสภาพโดยรวมแล้วสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาและถูกทิ้งรกร้างมายาวนาน

หลังจากหลวงพ่อสงฆ์รับนิมนต์จากชาวบ้านมาจำพรรษาที่วัดร้าง ก็ได้รับความร่วมมือและช่วยเหลือจากชาวบ้านมาช่วยกันหักร้างถางต้นไม้และบูรณะสิ่งก่อสร้างและเสนาสนะต่างๆ ขึ้นมาใหม่ จนเป็นวัดที่มั่นคง โดยให้ชื่อวัดตามชื่อหมู่บ้านว่า “วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย” เหตุที่มีคำว่า ‘เจ้าฟ้า’ นำหน้านั้น ด้วยหลวงพ่อสงฆ์บอกว่า ... ในอดีตเป็นวัดที่มีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเคยมาบวชเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ... และท่านมักกล่าวเสมอๆ ว่า ... เจ้าวัดที่นี่ไม่ใช่เรา แต่เป็นปู่เจ้าฟ้า ... ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการบวชนาค จะต้องนำเจ้านาคไปฝากตัวกับปู่เจ้าฟ้าก่อน ซึ่งได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาจนเป็นประเพณีสืบจนปัจจุบัน

หลวงพ่อสงฆ์ เป็นพระเกจิที่เคร่งในวัตรปฏิบัติ มีปฏิปทาและเมตตาธรรมสูงส่ง เป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชน รวมทั้งสรรพสัตว์ทั้งหลาย เล่ากันว่า ... ครั้งหนึ่งเคยมี ‘กวาง’ ตัวหนึ่งหลงเข้ามาในวัด ท่านก็ได้ให้ผลไม้และอาหารมันกิน มันอยู่ที่วัดได้ปีหนึ่งก็กลับเข้าป่าไป ปรากฏว่ามันสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ทุกครั้ง บางครั้งมันจะกลับมาหาหลวงพ่อที่วัด อยู่ 2-3 วัน ก็กลับเข้าป่าไปอีก กระทั่ง ‘เต่า’ ที่อยู่แถวป่าไผ่ใกล้วัดที่มีบ่อและสระน้ำ เป็นเต่าตัวโตๆ มาจากไหนไม่รู้ บางครั้งก็เห็นมันเดินมาหาหลวงพ่อที่กุฏิ อยู่ที่เชิงบันไดหลายสิบตัว พอถึงวันพระใหญ่หรือวันสำคัญทางศาสนา พวกเต่าก็จะพากันมาอยู่ที่หน้าหอสวดมนต์ จนพระทำวัตรเสร็จ พวกมันได้พบหลวงพ่อสงฆ์แล้ว ก็เข้าไปอยู่ในป่าไผ่ดังเดิม ...

วัตถุมงคลต่างๆ ที่หลวงปู่สงฆ์จัดสร้างนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างเสนาสนะต่างๆ ในวัด และเพื่อประโยชน์แก่พระบวรพุทธศาสนาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น พระเครื่อง เครื่องราง ลูกอม ยาฉุนหรือยาเส้น ซึ่งล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์และมีพุทธานุภาพมากมายเป็นที่ปรากฏ ทั้ง เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย และมหาอุด นอกจากนี้ยังเป็นที่ร่ำลือกันว่าหลวงพ่อสงฆ์มีวาจาสิทธิ์ยิ่งนัก แม้น้ำล้างก้นบาตรของท่าน หรือน้ำปลา ถ้าท่านบอกว่าเป็น “ยา” ก็จะเป็นยารักษาโรคแก่ผู้เลื่อมใสศรัทธาโดยทั่วหน้า แต่ท่านไม่เคยทำรูปของตนเองเลย จะมีก็แต่ลูกศิษย์ลูกหาที่จัดสร้างแล้วนำไปให้ท่านปลุกเสกเดี่ยว กระนั้น ท่านก็ได้อนุญาตให้ลูกศิษย์จัดสร้างพระเครื่องรูปท่านอยู่หลายรุ่นเหมือนกัน ทั้งพระรูปหล่อและเหรียญรูปเหมือน

หลวงพ่อสงฆ์ มรณภาพด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2526 ท่านครองวัดเจ้าฟ้าศาลาลอยอยู่ถึง 64 ปี เผยแผ่สืบสานพระบวรพุทธศาสนา ช่วยเหลือผู้คนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย การจากไปของท่านสร้างความเศร้าโศกแก่ชาวบ้านและศิษยานุศิษย์ แม้กระทั่งสรรพสัตว์ที่ท่านเคยดูแล โดยเล่ากันว่า ... ตอนที่หลวงพ่อสงฆ์มรณภาพ ท่ามกลางสายตาชาวบ้านนับพันที่มาอาบน้ำศพหลวงพ่อ พวกเต่าได้คลานขึ้นศาลาและเข้าไปนอนใต้ที่ตั้งโลงศพของหลวงพ่อ พวกมันร้องไห้ทุกตัว น้ำตาไหลจนเห็นได้ชัด ... แสดงให้เห็นถึงความมีเมตตาบารมีอย่างสูงส่ง

ปัจจุบัน สรีระของหลวงพ่อสงฆ์ ยังคงประดิษฐาน ณ โลงแก้ว ใน ศาลาธรรมสังเวช เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและศิษยานุศิษย์ได้กราบสักการบูชาด้วยความเลื่อมใสศรัทธาสืบไปตราบนานเท่านาน

cr.บทความโดย รามวัชรประดิษฐ์

 

227.ล๊อคเก็ตหลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ (((บูชา 550 บาท ))) ปิดรายการ

 

228.เหรียญครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน ((( บูชาคู่ละ 750 บาท )))

 

229.พระลีลา วัดพลับพลาชัย ปี 2516 จ.นนทบุรี ((( บูชา 650 บาท )))
พิธีใหญ่

พระคณาจารย์ที่เมตตาเข้าร่วมพิธีปลุก เสกพระรุ่นนี้มีดังนี้

วันที่ 29 ตุลาคม 2516
ชุดแรก เวลา 17.50-19.00 น.
1. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
2. หลวงพ่อคำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
3. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์ ลพบุรี
4. หลวงพ่อคล้าม วัดกุ่มหัก สระบุรี
5. หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา

ชุด ที่สอง เวลา 19.00-20.00 น.
1. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
2. หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี
3. หลวงพ่อแก้ว วัดปทุมวนาราม อยุธยา
4. หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
5. หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา ปทุมธานี

ชุดที่สาม เวลา 20.00-21.00 น.
1. หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก ระยอง
2. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
3. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณ์ กทม.
4. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
5. หลวงพ่อโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม.

ชุดที่สี่ เวลา 21.00-22.00 น.
1. หลวงพ่อพระโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิต กทม.
2. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
3. หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
4. หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง เพชรบุรี
5. หลวงพ่อพยนต์ วัดเกตุมวดีย์ สมุทรสาคร

ชุดที่ห้า เวลา 22.00-23.00 น.
1. หลวงพ่อพระพุทธมนต์วราจารย์ วัดสุทัศน์ฯ กทม.
2. หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
3. หลวงพ่อกาหลง (ไม่ทราบวัด) จังหวัดจันทบุรี
4. หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ นนทบุรี
5. หลวงพ่อสะอาด วัดฝาง นนทุบุรี

 

230.เหรียญพระครูมงคลรังษี วัดศรีมงคล(ก๋ง)ท่าวังผา จ.น่าน ปี 2518 ((( บูชา 750 บาท )))

พระครูมงคลรังสี นามเดิม "พรมา ไชยปาละ" บิดาชื่อ ธนะวงศ์ มารดาชื่อ อูบแก้ว เกิดเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๔๕ ณ บ้านดอนมูล ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน

การศึกษา หลวงปู่เข้าศึกษาที่โรงเรียนประชาบาลบ้านดอนมูล จบชั้น ป.๓ จากนั้นได้เรียนหนังสือไทยล้านนา และไทยกลาง ณ วัดดอนมูล จนสามารถอ่านออกเขียนได้คล่อง

บรรพชาเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๕๙ ขณะอายุ ๑๔ ปี โดยมี พระอิทธิยศ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาพระธรรมวินัย และจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านดอนมูล

เมื่ออายุครบ ๒๑ ปี ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดดอนมูล โดยมี พระอิทธิยศ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระพรหมวาท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอินต๊ะวงศ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้นามฉายาว่า “มงคโล ภิกษุ”

เมื่ออุปสมบทแล้วหลวงปู่ได้ศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐาน และถวายตัวเป็นศิษย์ ครูบาหลวงพุทธวงศ์, ครูบาอุปละ, ครูบาญาณะ วัดสวนดอก, ครูบาก๋าอาธะ วัดไฮ่สบบั่ว, ครูบากิตต๊ะวงศ์, ครูบาอินต๊ะ, ครูบาบ้านส้าน, ครูบาขัตติยะ ได้ศึกษาและปฏิบัติอยู่เป็นเวลา ๒ ปี จึงอำลาครูบาและพระอุปัชฌาย์ เพื่อออกไปบำเพ็ญเพียรด้วยตนเอง ตามป่าเขาลำเนาไพร จ.น่าน แล้วออกทะลุป่าดงใหญ่ไปยัง จ.เชียงราย เชียงตุง แล้ววกกลับมาทางเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ ตามป่าเขาอันเงียบสงบ และในป่าช้า ใช้หลุมฝังศพเป็นที่ปฏิบัติธรรมอยู่เป็นเวลา ๖ ปี


เนื่องจากหลวงปู่ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัด ในปี ๒๔๓๒ คณะศรัทธาชาวบ้านก๋งในขณะนั้น มีจำนวน ๑๕ หลังคา ได้ส่งตัวแทนไปนิมนต์หลวงปู่มาอยู่ประจำที่วัดบ้านก๋ง เพราะเป็นวัดร้าง ไม่มีพระภิกษุและสามเณรจำพรรษา ให้ชาวบ้านได้ทำบุญสุนทาน ด้วยบุญบารมีแห่งเมตตาธรรมของหลวงปู่ที่ได้อบรมชาวบ้านทุกวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ แต่มีชาวบ้านบางคนยังขาดความสามัคคี เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น พกแต่ความโลภะ โทสะ และโมหะ หลวงปู่จึงสร้างพระพุทธรูป และประกาศแก่ชาวบ้านให้ทุกคนนำปอยผมของแต่ละคนมามอบให้ แล้วหลวงปู่ก็นำเอาปอยผมของทุกคนบรรจุไว้ในฐานพระ


ในพิธีบรรจุปอยผม ไม่ว่าเด็กเล็กชายหญิง คนหนุ่มคนสาว คนเฒ่าคนแก่ มาพร้อมเพรียงกันทุกคน แล้วหลวงปู่ก็ประกาศว่า...ต่อแต่นี้ไป ชาวบ้านก๋งผู้ใดขืนกระทำความชั่ว พระพุทธรูปจะไม่ให้ความคุ้มครองเป็นอันขาด แต่ถ้าผู้ใดทำความดี ละความชั่ว ให้หมั่นเข้าวัด รักษาศีล ฟังธรรม พระพุทธรูปจะให้ความคุ้มครองแก่เขาเหล่านั้น ให้มีแต่ความสุข ความเจริญ อายุยืนนาน

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปรากฏว่า หมู่บ้านก๋ง เริ่มเป็นดินแดนแห่งความร่มเย็น ชาวบ้านต่างมีเมตตาธรรม มีความสามัคคี รักใคร่กลมเกลียว เลิกอบายมุขทั้งหลายจนหมดสิ้น ทั้งกลับมาฝึกกรรมฐานกันทั้งหมู่บ้าน จนทำให้ชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงปู่ขจรขจายไปทุกหมู่บ้าน ทั่วทั้ง จ.น่าน

 

ปิดรายการ

227.ล๊อคเก็ตหลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ (((บูชา 550 บาท )))

 

231.พระลีลาหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ประมาณปี 2460 ธนบุรี ((( บูชา 4,800 บาท )))

​

พระเนื้อดินหลวงพ่อพริ้งมีมากมายหลายพิมพ์ องค์นี้เป็นพิมพ์ลีลาข้างกระถางดอกไม้ หรือซุ้มแจกันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีความสวยงาม องค์นี้มีสภาพสวย ผิวแห้งเก่าได้อายุ จัดเป็นพระแท้ที่ดูง่าย ปัจจุบันพระพิมพ์นี้แท้ๆหายากพอสมควรสำหรับประวัติของพระพิมพ์นี้คาดว่าสร้างราวๆปีพ.ศ.2460 เท่าที่พบเห็นส่วนใหญ่เป็นเนื้อดิน แต่จริงๆแล้วมีการสร้างด้วยมวลสารหลายชนิดอาทิเช่น เนื้อดิน เนื้อผงน้ำมัน เนื้อผงพุทธคุณ เป็นต้น หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ธนบุรี ท่านเป็นเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมและโด่งดังมากในอดีต เป็นพระอาจารย์ของกรมหลวงชุมพร พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการและขุนนางมากมาย พิธีพุทธาพิเษกหลายๆพิธีในสมัยนั้นจะขาดท่านไม่ได้ เหรียญรุ่นแรกท่านเล่นหาเป็นแสนและหายาก แต่พระเครื่องรุ่นต่างๆของท่านยังพอหาได้ พระของท่านประสบการณ์มากมาย พุทธคุณพุทธคุณครอบจักรวาลของแท้ ของดีของดังไม่จำเป็นต้องแพงก็ได้ พระครูวิสุทธิ์ศีลาจารย์ หรือ หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ธนบุรี หนึ่งในพระเกจิผู้ทรงพุทธาคมเป็นเลิศ มีชื่อเสียงโด่งดังในยุค “สงครามอินโดจีนและสงครามโลกครั้งที่ 2” และไม่ว่าพิธีพุทธาภิเษกใดๆ จะมีชื่อของท่านร่วมด้วยเสมอ ประวัติหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ท่านพระครูประศาสน์สิกขกิจ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดบางปะกอก ตำบลบางปะกอก อำเภอราษฎร์บูรณะ กทม. ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๓ ท่านเป็นชาวบางปะกอกโดยกำเนิด โยมบิดาชื่อเอี่ยม โยมมารดาชื่อสุ่น ท่านบวชเป็นสามเณรตั้งแต่ยังเล็กๆ ที่วัดพลับ โดยอยู่กับพระน้าชายชื่อพระอาจารย์ดี ต่อมาเมื่ออายุครบบวช ท่านจึงอุปสมบทที่วัดทองนพคุณ และต่อมาท่านได้ถูกนิมนต์ให้มาอยู่ที่วัดบางปะกอก อีก ๒-๓ ปีต่อมาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางปะกอก หลังจากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูวิสุทธิ์ศีลาจารย์ และเป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในยุคสงครามอินโดจีน สมณศักดิ์สุดท้ายที่ท่านได้รับก็คือ พระครูประศาสน์สิกขกิจ พระครูชั้นพิเศษ แต่ชาวบ้านมักเรียกท่านว่า หลวงพ่อพริ้งบ้าง หลวงปู่พริ้งบ้าง การศึกษาวิชาของท่านนั้นสืบไม่ได้ว่าท่านเรียนมาจากที่ใดเข้าใจว่าท่านคงศึกษามาจากที่วัดพลับนั่นเอง หลวงพ่อพริ้งท่านมีชื่อเสียงทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม และทางหมอยา ในสมัยที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดบางปะกอกใหม่ๆ ในย่านนี้มีนักเลงหัวไม้อยู่หลายก๊ก งานวัดเมื่อไรก็จะมีการตีกันอยู่เป็นประจำ ต่อมาเมื่อท่านเป็นเจ้าอาวาสแล้ว พวกนักเลงหัวไม้ต่างๆ ก็เกรงกลัวท่านไม่กล้ามาก่อเรื่องอีก บ้างก็ฝากตัวเป็นศิษย์หรือไม่ก็หายหน้าหายตาไปเลย ในสมัยก่อนนั้นการเดินทางไปยังวัดบางปะกอกยังยากลำบาก ต้องเดินทางโดยเรือพาย แต่ก็มีผู้คนมากมายเดินทางมากราบท่านอยู่เป็นประจำ ตลอดจนเจ้านายเชื้อพระวงศ์ต่างๆ เช่นเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ซึ่งท่านได้รับการบอกกล่าวมาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ว่ายังมีพระอาจารย์ที่เก่งมีวิทยาคมสูงอยู่ทางบางปะกอก ชื่อหลวงพ่อพริ้ง ครั้นต่อมาเสด็จในกรมฯ ท่านจึงได้มาลองวิชากับหลวงพ่อพริ้ง จนฝากตัวเป็นศิษย์ และนำพระโอรสมาบวชเป็นสามเณรกับท่านถึง ๓ พระองค์ นอกจากนี้ทหารเรืออีกมากมายก็เป็นศิษย์ของหลวงพ่อพริ้ง บางครั้งมีเรือจอดกันที่หน้าวัดแน่นขนัดไปหมด ผู้ที่เคารพเลื่อมใสหลวงพ่อพริ้งต่างก็มาขอของขลังบ้าง ลงกระหม่อมบ้าง รดน้ำมนต์บ้าง เวลามีงานไหว้ครูประจำปี ขบวนเรือจะจอดกันยาวเหยียดไปจนถึงปากคลอง ซึ่งจรดแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นระยะทางเกือบกิโลทีเดียว พระเครื่องหลวงพ่อพริ้ง ท่านได้สร้างพระเครื่องและเครื่องรางของขลังไว้หลายอย่าง เช่น ลูกอมหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก เหรียญรูปท่านปี พ.ศ. ๒๔๘๓ พระเนื้อผงพิมพ์ต่างๆ เช่น พิมพ์ไพ่ตอง พิมพ์พระคง และสมเด็จพิมพ์ต่างๆ ธงผ้ายันต์ เชือกคาดเอว ตะกรุด ฯลฯ เป็นต้น พระเครื่องของท่านล้วนมีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย เมื่อครั้งตอนสงครามอินโดจีนพระเครื่องและเครื่องรางของท่านก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว หลวงพ่อพริ้ง ท่านมักจะได้รับนิมนต์ให้เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ๆ ด้วยทุกครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อสมเด็จพระสังฆราชแพ ท่านนิมนต์หลวงพ่อพริ้งลงแผ่นทองแดงเพื่อนำไปหลอมในการสร้างพระกริ่งของท่าน ปรากฏว่าเมื่อช่างได้นำแผ่นทองแดงของท่านลงในเบ้าหลอมรวมกับแผ่นทองแดงของอาจารย์ท่านอื่นๆ มีแผ่นทองแดงที่ไม่หลอมละลายอยู่แผ่นหนึ่ง จึงนำขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นแผ่นทองแดงของหลวงพ่อพริ้ง จึงได้ทำการหลอมต่อ แต่ทำอย่างไรแผ่นทองแดงนั้นก็ไม่ละลาย ถึงกับต้องนิมนต์หลวงพ่อพริ้งมาจากวัด เมื่อท่านกำกับ ปรากฏว่าแผ่นทองแดงนั้นละลายไปอย่างง่ายดาย ทำให้ชื่อเสียงของท่านขจรขจายไปอย่างกว้างขวาง หลวงพ่อพริ้ง ท่านมรณภาพลงในวันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๙๐ ในวันที่ท่านมรณภาพนั้นท่านได้ให้ลูกศิษย์ประคองท่านลุกขึ้นนั่ง แล้วท่านก็ประสานมือในท่าสมาธิ ครู่เดียวท่านก็มรณภาพลง สิริอายุได้ ๗๘ ปี

 

232.เหรียญพระพุทธดอนศาลาปาละ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ปี 2530 ((( บูชา 5,800 บาท )))

พระพุทธดอนศาลาปาละ
พระพุทธดอนศาลาปาละรุ่นแรก เนื้อธาตุกายสิทธิ์ วัดดอนศาลาพัทลุง พศ.2530 รูปแบบสวยงามมากจัดสร้างโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล(เสด็จองค์ชายใหญ่) แห่งวังอัศวิน เพื่อหารายได้ปรับปรุงสร้างโรงธรรมของวัดดอนศาลา ชนวนมวลสารที่นำมาสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์จากเกจิที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศหลายร้อยแผ่น รวมไปถึงสำริดยอดปราสาทวัดหลวง ,ตะกรุดเก่า,พระบูชาที่ชำรุดและกำไลสำริดบ้านเชียง นำมาหลอมเป็นเนื้อธาตุกายสิทธิ์ พุทธาภิเษกโดยเกจิสายเข้าอ้อและดอนศาลา ด้านหลังมีตราพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ด้านล่างตอกโค๊ต 2 ตั

พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ผู้สร้างเหรียญอาจารย์นำเป็นประธานการสร้างคณะ กรรมการที่สร้างได้แก่ เสธ.เกรียงพล ชัยบุตร ,คุณประกอบ กำเนิดพลอย .คุณสุ ธน ศรีหิรัญ คุณมนูญเลาหวนิช คุณถวิล ศรีอินท,คุณณรงค์ เรติกุล ,รศ.กมล ฉายาวัฒน วัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อหาทุนบูรณะปฏิสังขรณ์โรงธรรมวัดดอนศาลา และเพื่อฉลองในงานครบรอบ10ปีที่พระอาจารย์นำมรณะภาพ คำวัตถุมงคลที่สร้างในครานี้ได้แก่
1.พระปรกใบมะขาม"ภปร."เนื้อธาตุกายสิทธิ์นี้สร้าง5000องค์ทำบุญองค์ ละ50บาท
2.พระปรกใบมะขาม"ภปร."เนื้อผงมหาวิเศษสร้าง2000องค์ทำบุญองค์ ละ100บาท
3.พระพุทธรูปบูชาปางนาคปรก ลพบุรี ศิลปะนครวัด หน้าตักกว้า8นิ้ว สูง20นิ้ว ด้านหลังจารึกพระปรมาภิไทยย่อ"ภปร." (ต้องขอโทษด้วยครับกระทู้แรกผม พิมพ์ผิดพระปรามาภิไทยเป็นพระนามาภิไทย) สร้างตามจอง ทำบุญองค์ละ 5000บาท
4..พระเครื่องนาคปรกลพบุรี ศิลปะนครวัด ด้านหลังจารึกพระปรมาภิไทยย่อ" ภปร." ขนาดสูง1.5นิ้ว สร้างตามจอง ทำบุญองค์ละ 1000 บาท
5.เหรียญหล่อพระพุทธดอนศาลาปาละ"ภปร.เนื้อธาตุกายสิทธิสร้างเท่าจำนวน จอง ทำบุญองค์ละ300บาท
6.สังกัจจารย์ชินวโร ขนาดจิ๋ว 9มม.(ใต้ฐานเป็นยันต์นอโมแบบหลังเหรียญ อาจารย์นำ)เนื้อธาตุกายสิทธิ์ สร้าง1000องค์ ทำบุญองค์ละ 200 บาท
7.พระพิฆเนศวร์เนื้อธาตุกายสิทธิ์สร้าง200องค์ทำบุญองค์ละ50บาท
ปลุกเสกวันที่15เมษายน 2530 ที่พระอุโบสถวัดดอนศาลาโดยคณาจารย์สายเขาอ้อและเจจิผู้ทรงวิทยาคมในภาคใต้ พิธีพุทธาภิเษกที่วัดดอนศาลา จ. พัทลุง เมื่อวันที่ 9 กค. 2530 เวลา 8.00 น. - 23.00 น. โดยมีพระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก คือ พระะครูกาชาด ( บุญทอง ) วัดดอนศาลา
หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
หลวงพ่อฤทธิ์ วัดบ้านสวน
พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
พระครูพิพิธวรกิจ ( หลวงพ่อคล้อย ) วัดภูเขาทอง พัทลุง ปลุกเสกเดี่ยว โดยพระคณาจารย์อีก 5 ท่านคือ
1) พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีฯ
2) หลวงพ่อบุญรักษ์ วัดคงคาวดี นครศรีฯ
3) หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร
4) หลวงพ่อมุม วัดนาสักชุมพร
5) หลวงพ่อสมพงษ์ สำนักสงฆ์ขุนทะเล สุราษฎร์ธานี ( ลูกศิษย์พ่อท่านเขียว วัดหรงบล นครศรีฯ )
พระพุทธดอนศาลาปาละรุ่นแรก เนื้อธาตุกายสิทธิ์ วัดดอนศาลาพัทลุง พศ.2530 รูปแบบสวยงามมากจัดสร้างโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล(เสด็จองค์ชายใหญ่) แห่งวังอัศวิน เพื่อหารายได้ปรับปรุงสร้างโรงธรรมของวัดดอนศาลา ชนวนมวลสารที่นำมาสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์จากเกจิที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศหลายร้อยแผ่น รวมไปถึงสำริดยอดปราสาทวัดหลวง ,ตะกรุดเก่า,พระบูชาที่ชำรุดและกำไลสำริดบ้านเชียง นำมาหลอมเป็นเนื้อธาตุกายสิทธิ์ พุทธาภิเษกโดยเกจิสายเข้าอ้อและดอนศาลา ด้านหลังมีตราพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ด้านล่างตอกโค๊ต 2 ตัว พระพุทธดอนศาลาปาละ
พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ผู้สร้างเหรียญอาจารย์นำเป็นประธานการสร้างคณะ กรรมการที่สร้างได้แก่ เสธ.เกรียงพล ชัยบุตร ,คุณประกอบ กำเนิดพลอย .คุณสุ ธน ศรีหิรัญ คุณมนูญเลาหวนิช คุณถวิล ศรีอินท,คุณณรงค์ เรติกุล ,รศ.กมล ฉายาวัฒน วัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อหาทุนบูรณะปฏิสังขรณ์โรงธรรมวัดดอนศาลา และเพื่อฉลองในงานครบรอบ10ปีที่พระอาจารย์นำมรณภาพ วัตถุมงคลที่สร้างในครานี้ได้แก่
1.พระปรกใบมะขาม"ภปร."เนื้อธาตุกายสิทธิ์นี้สร้าง5000องค์ทำบุญองค์ ละ50บาท
2.พระปรกใบมะขาม"ภปร."เนื้อผงมหาวิเศษสร้าง2000องค์ทำบุญองค์ ละ100บาท
3.พระพุทธรูปบูชาปางนาคปรก ลพบุรี ศิลปะนครวัด หน้าตักกว้า8นิ้ว สูง20นิ้ว ด้านหลังจารึกพระปรมาภิไทยย่อ"ภปร.สร้างตามจอง ทำบุญองค์ละ 5000บาท
4..พระเครื่องนาคปรกลพบุรี ศิลปะนครวัด ด้านหลังจารึกพระปรมาภิไทยย่อ" ภปร." ขนาดสูง1.5นิ้ว สร้างตามจอง ทำบุญองค์ละ 1000 บาท
5.เหรียญหล่อพระพุทธดอนศาลาปาละ"ภปร.เนื้อธาตุกายสิทธิสร้างเท่าจำนวน จอง ทำบุญองค์ละ300บาท
6.สังกัจจารย์ชินวโร ขนาดจิ๋ว 9มม.(ใต้ฐานเป็นยันต์นอโมแบบหลังเหรียญ อาจารย์นำ)เนื้อธาตุกายสิทธิ์ สร้าง1000องค์ ทำบุญองค์ละ 200 บาท
7.พระพิฆเนศวร์เนื้อธาตุกายสิทธิ์สร้าง200องค์ทำบุญองค์ละ50บาท
ปลุกเสกวันที่15เมษายน 2530 ที่พระอุโบสถวัดดอนศาลาโดยคณาจารย์สายเขาอ้อและเจจิผู้ทรงวิทยาคมในภาคใต้ พิธีพุทธาภิเษกที่วัดดอนศาลา จ. พัทลุง เมื่อวันที่ 9 กค. 2530 เวลา 8.00 น. - 23.00 น. โดยมีพระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก คือ
พระะครูกาชาด ( บุญทอง ) วัดดอนศาลา
หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
หลวงพ่อฤทธิ์ วัดบ้านสวน
พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
พระครูพิพิธวรกิจ ( หลวงพ่อคล้อย ) วัดภูเขาทอง
ปลุกเสกเดี่ยว โดยพระคณาจารย์อีก 5 ท่านคือ
1) พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีฯ
2) หลวงพ่อบุญรักษ์ วัดคงคาวดี นครศรีฯ
3) หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร
4) หลวงพ่อมุม วัดนาสักชุมพร
5) หลวงพ่อสมพงษ์ สำนักสงฆ์ขุนทะเล สุราษฎร์ธานี ( ลูกศิษย์พ่อท่านเขียว วัดหรงบล นครศรีฯ )
พระพุทธดอนศาลาปาละรุ่นแรก เนื้อธาตุกายสิทธิ์ วัดดอนศาลาพัทลุง พศ.2530 รูปแบบสวยงามมากจัดสร้างโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล(เสด็จองค์ชายใหญ่) แห่งวังอัศวิน เพื่อหารายได้ปรับปรุงสร้างโรงธรรมของวัดดอนศาลา ชนวนมวลสารที่นำมาสร้างได้รวบรวมแผ่นยันต์จากเกจิที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศหลายร้อยแผ่น รวมไปถึงสำริดยอดปราสาทวัดหลวง ,ตะกรุดเก่า,พระบูชาที่ชำรุดและกำไลสำริดบ้านเชียง นำมาหลอมเป็นเนื้อธาตุกายสิทธิ์ พุทธาภิเษกโดยเกจิสายเข้าอ้อและเกจิทั่วภาคใต้ ด้านหลังมีตราพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ด้านล่างตอกโค๊ต 2 ตัว วันที่ 25 ก.ค. 2530 นี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล จะเสด็จไปทรงเป็นประธานในการ ทอดผ้าป่า - วางศิลาฤกษ์ ศาลาโรงธรรม และทรงเททองหล่อพระประธานประจำศาลาโรงธรรม ณ วัดดอนศาลา ต. มะกอกเหนือ อ. ควนขนุน จ. พัทลุง จึงขอเรียนเชิญท่านสาธุชนไปร่วมการกุศลในครั้งนี้โดยทั่วกัน
ในโอกาสนึ้ คณะกรรมการได้จัดสร้างพระผงกายสิทธิ์ที่ระลึก เพื่อสมนาคุณแก่ผู้ร่วมทำบุญช่วยการกุศลครั้งนี้ เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาโรงธรรมนั้นให้สำเร็จลุล่วงให้แล้วเสร็จในคราวเดียวกัน
ท่านที่ร่วมทำบุญตั้งแต่ 200 บาท ขึ้นไป จะได้รับพระพุทธดอนศาลาปาละ “ภ.ป.ร.” เนื้อผงกายสิทธิ์ สมนาคุณ 1 องค์ ทั้งนี้กำหนดให้ทำบุญบูชาได้ท่านละไม่เกิน 5 องค์ เนื่องจากจำนวนสร้างมีเพียง 2,530 องค์เท่านั้น
ผงวิเศษอันสำคัญยิ่ง ที่ได้นำมาใช้เป็นมวลสารในการสร้างพระผงกายสิทธิ์ พระพุทธดอนศาลาปาละ ภ.ป.ร.
1. ผงกายสิทธิ์ ของสำนักเขาอ้อโดยเฉพาะ
2. ผงของท่านพระคูรสิทธิยาภิรัต (พระอาจารย์เอียด) วัดดอนศาลา
3. ผงของท่านพระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา
4. ผงพระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
5. ผงพระครูพิพัฒนสิริธร ( หลวงพ่อคง ) วัดบ้านสวน
6. ผงของพระอาจารย์พรหม วัดบ้านสวน
7. ผงพระอาจารย์ฤทธิ์ วัดบ้านสวน
8. ผงของหลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
9. ผงพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศรีฯ
10.ผงพ่อท่านเขียว วัดหรงบล นครศรืฯ
11. ศงพ่อท่านแดง วัดเขาหลัก นครศรีฯ
12. ผงพ่อท่านคลิ้ง วัดกลุงทอง นครศรึฯ
13.ผงพ่อท่านจับ วัดท่าลิพง นครศรีฯ
14. ผงพ่อท่านหีต วัคเผียน นครศรีฯ
15. ผงดินจากใจกลางองค์พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
16.ผงพระภูธราวดี นครศรีฯ
17. ผงดินกรุท่าเรือ - กรุนางตรา นครศรีฯ
18. ดินจากสังเวชนียสถาน ประเทศอินเดีย
19. ดินอาถรรพณ์ 7 โป่ง 7 ป่า
20. ผงพระวัดสามปลื้ม
21. พระเครื่องที่หักชำรุดจำนวนมากของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล
22. ผงหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
23. ผงหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
24. ผงหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม
25. ผงหลวงพ่อวงศ์ วัดทุ่งผักกรูด นครปฐม
26. ผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
27. ผงพระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
28. ผงหลวงพ่อสังข์ วัดเทพมงคล นครศรีฯ
29. ผงว่านพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี รุ่นแรก พ.ศ. 2497 พระพุทธดอนศาลาปาละ
พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ผู้สร้างเหรียญอาจารย์นำเป็นประธานการสร้างคณะ กรรมการที่สร้างได้แก่ เสธ.เกรียงพล ชัยบุตร ,คุณประกอบ กำเนิดพลอย .คุณสุ ธน ศรีหิรัญ คุณมนูญเลาหวนิช คุณถวิล ศรีอินท,คุณณรงค์ เรติกุล ,รศ.กมล ฉายาวัฒน วัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อหาทุนบูรณะปฏิสังขรณ์โรงธรรมวัดดอนศาลา และเพื่อฉลองในงานครบรอบ10ปีที่พระอาจารย์นำมรณะภาพ คำวัตถุมงคลที่สร้างในครานี้ได้แก่
1.พระปรกใบมะขาม"ภปร."เนื้อธาตุกายสิทธิ์นี้สร้าง5000องค์ทำบุญองค์ ละ50บาท
2.พระปรกใบมะขาม"ภปร."เนื้อผงมหาวิเศษสร้าง2000องค์ทำบุญองค์ ละ100บาท
3.พระพุทธรูปบูชาปางนาคปรก ลพบุรี ศิลปะนครวัด หน้าตักกว้า8นิ้ว สูง20นิ้ว ด้านหลังจารึกพระปรมาภิไทยย่อ"ภปร." (ต้องขอโทษด้วยครับกระทู้แรกผม พิมพ์ผิดพระปรามาภิไทยเป็นพระนามาภิไทย) สร้างตามจอง ทำบุญองค์ละ 5000บาท
4..พระเครื่องนาคปรกลพบุรี ศิลปะนครวัด ด้านหลังจารึกพระปรมาภิไทยย่อ" ภปร." ขนาดสูง1.5นิ้ว สร้างตามจอง ทำบุญองค์ละ 1000 บาท
5.เหรียญหล่อพระพุทธดอนศาลาปาละ"ภปร.เนื้อธาตุกายสิทธิสร้างเท่าจำนวน จอง ทำบุญองค์ละ300บาท
6.สังกัจจารย์ชินวโร ขนาดจิ๋ว 9มม.(ใต้ฐานเป็นยันต์นอโมแบบหลังเหรียญ อาจารย์นำ)เนื้อธาตุกายสิทธิ์ สร้าง1000องค์ ทำบุญองค์ละ 200 บาท
7.พระพิฆเนศวร์เนื้อธาตุกายสิทธิ์สร้าง200องค์ทำบุญองค์ละ50บาท
ปลุกเสกวันที่15เมษายน 2530 ที่พระอุโบสถวัดดอนศาลาโดยคณาจารย์สายเขาอ้อและเจจิผู้ทรงวิทยาคมในภาคใต้ พิธีพุทธาภิเษกที่วัดดอนศาลา จ. พัทลุง เมื่อวันที่ 9 กค. 2530 เวลา 8.00 น. - 23.00 น. โดยมีพระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก คือ พระะครูกาชาด ( บุญทอง ) วัดดอนศาลา
หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
หลวงพ่อฤทธิ์ วัดบ้านสวน
พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
พระครูพิพิธวรกิจ ( หลวงพ่อคล้อย ) วัดภูเขาทอง พัทลุง ปลุกเสกเดี่ยว โดยพระคณาจารย์อีก 5 ท่านคือ
1) พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีฯ
2) หลวงพ่อบุญรักษ์ วัดคงคาวดี นครศรีฯ
3) หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร
4) หลวงพ่อมุม วัดนาสักชุมพร
5) หลวงพ่อสมพงษ์ สำนักสงฆ์ขุนทะเล สุราษฎร์ธานี ( ลูกศิษย์พ่อท่านเขียว วัดหรงบล นครศรีฯ )

 

233.เหรียญพระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา ปี 2541 จ.พัทลุง (((บูชา 7,000 บาท))) "จอง">>>พี่j999

​

เหรียญพระอาจารย์ศรีเงินรุ่นแรก เนื้อเงิน ปี2541 เหรียญรุ่นนี้และวัตถุมงคลอื่นๆในรุ่นนี้พระอาจารย์ศรีเงินท่านดำริให้สร้างขึ้น เพื่อนำรายได้ไปช่วยรัฐบาลไทยใช้หนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF (Iternational Moneytary fund) จึงให้ชื่อว่า "รุ่นรวมจิตช่วยชาติพ้นภัย" ท่านอาจารย์ศรีเงินเป็นพระที่ผูดน้อย ไม่จำเป็นจะไม่เปล่งวาจา มีจิตเมตตาต่อเหล่าลูกศิษย์ ช่วยเหลือลูกศิษย์มากมาย เปิดจองวัตถุมงคลรุ่นรวมจิตช่วยชาติพ้นภัย3วัน ได้ยอดเงิน3 ล้านบาท พระอาจารย์ศรีเงินมอบเงินให้รัฐบาลไทยทั้ง3ล้านบาท เป็นการช่วยเหลือบ้านเมืองของสำนักเขาอ้อครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง แม้ไม่ใช่ยามสงครามรบเหมือนเช่นเคย ไม่การยิง ไม่มีระเบิด ไม่ต้องพึ่งวิชามหาอุตม์คงกะพัน แต่เป็นสงครามเศรษฐกิจ ท่านอาจารย์ศรีเงิน ท่านก็ใช้วิชาฝ่ายโชคลาภเมตตาของสำนักเขาอ้อ ตามสูตรตำราพิชัยสมบัติ ที่ท่านร่ำเรียนมาช่วยเหลือประเทศไทยในยามบ้านเมืองคับขัน เป็นหนึ่งในเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้พ้นวิกฤตเศรษฐกิจ ณ เพลานั้น มีพระเกจิอาจารย์ไม่มากหรอกครับที่ได้ช่วยเหลือประเทศชาติได้ในระดับนี้ เปรียบเสมือนยาม สงครามโลกครั้งที่2 ที่พระอาจารย์เอียด ปทุมสโร แห่งวัดดอนศาลา ได้ปรารภกับลูกศิษย์ ว่า "สงครามเกิดขึ้นแล้ว เราน่าจะช่วยชาติได้บ้าง" จึงเป็นกำเนิดของพระมหาว่าน และพระมหายันต์ ของสำนักเขาอ้อ ครั้งปี2541มีสงครามเศรษฐกิจ พระอาจารย์ศรีเงินท่านก็ได้สร้างวัตถุมงคลเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลไทย
สำหรับเหรียญพระอาจารย์ศรีเงินรุ่นแรก เนื้อทองแดง สร้าง40,000เหรียญ ส่วนผสมของทองแดงไม่ใช่ทองแดงธรรมดาอย่างพระโรงงาน แต่เป็นเนื้อทองแดงผสมชนวนมากมาย แบบเนื้อโลหะ บ้านเชียงของเหรียญอาจารย์นำ ปี2519 ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่าน จะเรียกเหรียญอาจารย์ศรีเงินว่าเนื้อบ้านเชียงก็ได้ ไม่แปลกเลย
เหรียญเนื้อเงิน เนื้อเงินที่ใช้สร้าง มีส่วนผสมของตะกรุดเงินมากมาย และผสมโลหะเจ้าน้ำเงินอันโด่งดังของสำนักเขาอ้อ
ถือเป็นเหรียญสำคัญของสายเขาอ้อ ที่น่าสะสมเป็นอย่างยิ่ง เป็นเหรียญดีนอกดีใน เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ หลังสร้างไมกี่ปี พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2543 สิริอายุได้ 72 ปี พรรษา 51
ตลอดชีวิต พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา อาศัยในร่มเงาพระพุทธศาสนา ประกอบคุณงามความดีด้วยจิตใจที่ผ่องแผ้ว แม้ว่าพระอาจารย์ศรีเงินจะละสังขารลาโลกไปแล้วก็ตาม แต่คุณงามความดีที่ได้ประกอบศาสนกิจมาตลอดชีวิต จะเป็นที่จดจำของชาวพัทลุงและศิษย์เขาอ้ออย่างมิลืมเลือน อาจารย์ศรีเงินเป็นศิษย์สายตรงพระอาจารย์ปาล อาจารย์นำและอาจารย์คง ท่านต่อวิชากับครูบาอาจารย์สายเขาอ้ออีกหลายท่าน เป็นปราชญ์ทางอาคมเขาอ้อ ยามท่านจากไปเรียกได้ว่าเหลือใครที่รอบรู้วิชาเขาอ้อเทียบเท่าท่านจนมีคำพูดว่่า "สิ้นอาจารย์ศรีเงินสิ้นเขาอ้อ"
เหรียญรุ่นนี้มีชนวนของโลหะเจ้าน้ำเงินอันศักศิทธิ์ของท่าน่ผสมอยู่ด้วย ท่านใดที่หาพระเครื่องเนื้อเจ้าน้ำเงินของพระอาจารย์ศรีเงินซึ่งหายากและราคาสูงมากไม่ได้ก็บูชาเหรียญรุ่นนี้แทนได้ครับ

 

234.เหรียญหลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล รุ่นแรก ปี 2510 ((( บูชา 4500 บาท ))) "จอง">>>พี่j999

 

โชว์พระจากร้านเพชร พัทลุง และ ต้า พัทลุง

พระปิดตาพระอาจารย์ชัย วัดควนปิยาราม ปี 2485

พระปิดตาพระอาจารย์ชัย ในยุคก่อน เป็นพระปิดตายอดนิยมท๊อปไฟท์ ของพัทลุงสมัยก่อนแพงกว่าหลายๆพระปิดตาเมืองลุงเสียด้วย ด้วยกระแสพระต้นวัดดังฟีเวอร์ในยุคหลังๆมานี้ทำให้ราคาค่างวดของพระปิดตาวัดควนปริงมีราคาคงที่คงวาไม่ขึ้นมากมายเหมือนสายปากสระ สายเขาอ้อ หรือสายเขาแดง แต่ด้วยชื่อชั้นที่นักเล่นยุคเก่าต่างยกนิ้วให้ว่า เป็ยยอดปิดตาแห่งเมืองลุงลูกหลานสายเขาอ้อ ที่นักสะสมต้องมีในคอลเลคชั่นต้องขาดปิดตาสายควนปริงไปเสียไม่ได้ ปัจจุบันราคาปิดตาสายควนปริงแท้ๆ อยู่ที่หลักหมื่นต้น เมื่อเทียบกับสายปากสระ หรือ เขาอ้อ ที่หลายๆองค์ไปถึงหลายหมื่น(หมื่นกลาง-หลักแสน) ยังห่างกันเรื่องค่านิยมมากนัก แต่อิทธิคุณและชื่อชั้นอย่างไรเสียคำว่า ท๊อป 5 ปิดตาเมืองลุงขาดสำนัก/วัดนี้ไปไม่ได้เลยทีเดียว

พระปิดตาวัดควนปริงฯ สร้างด้วยโลหะผสมคล้ายๆสายเขาอ้อ ปากสระ เขาแดง เลยครับ ซึ่งเป็นไปตามยุคสมัยสงครามสมัยนั้นโลหะเป็นสิ้งหายากและมักหล่อกันเองแต่ละสำนักโลหะอาศัยรับบริจาคจากชาวบ้าน หรือ โลหะมงคลต่าง มีทั้งทองคำ เงิน ทองแดง จ้าวน้ำเงิน ฝาบาตร ปลอกลูกปืน ฯลฯ นำมาหลอมเทออกมาเป็นพระเกิดเป็นกระแสโลหะที่หลากหลายในเบ้าหลอมเดียวกัน อย่างวันนี้ได้นำพระ 2 กระแสเนื้อมาให้ชมมีทั้งกระแสเหลืองอมเขียว และ เนื้อออกขาวขันลงหิน พระเครื่องท่านสร้างด้วยกรรมวิธิเบ้าเหล็ก เมื่อหล่อมาแล้วพระมีเนื้อหาย่นแต่ตึง ใช้เบ้าประกบ มีขอบข้างส่วนมากแต่งตะไบเก็บชิ้นงาน รอบองค์ พิมพ์พระเป็นพระปิดตาลักษณะปิดทวารมหาอุตต์ หน้าหลัง มือปิดตาลักษณะไขว้มือ สวยงาม

“พระอธิการชัย อินทสโร วัดควนปริง ท่านเป็นศิษย์ผู้ร่วมยุคสมัยเดียวกับ พระครูสิทธิยาภิรัตน์ (อ.เอียด แห่งวัดดอนศาลา) ท่านเกิดเมื่อปี 2441 ที่ ต.นาขยาด ละแวกบ้านเกาะยาง เป็นลูกคนเดียว เนื่องจากบิดาของท่านได้เสียชีวิต ตั้งแต่ยังเด็กๆ อีกทั้งมารดาก็เจ็บป่วยด้วยโรคทางสติ ญาติจึงให้บวชเรียนเป็นสามเณร และบรรพชาเป็นพระภิกษุเมื่อ อายุ 21ปี ตลอดชีวิตท่านอุทิศตนให้กับงานพัตนาวัดควนปริง และการศึกษาในชุมชน จะเห็นได้จากเมื่อปี2476 ท่านได้ร่วมสร้างโรงเรียนมัธยมเรืองศิลป์ ร่วมกับครูเรือง อินทร์แก้ว และในปี 2485 ในยุคที่บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะสงคราม ท่านได้สร้าง พระเครื่อง และเครื่องรางของขลัง แจกจ่ายให้กับชาวบ้านเพื่อสร้างขวัญ และกำลังใจ โดยเฉพาะพระปิดตาของท่านเป็นที่กล่าวขวัญถึงมาช้านาน..ในเรื่องคงกระพันชาตรีทีนักนิยมพระเครื่องรุ่นเก่าให้การยอมรับ ท่านได้มรณะภาพลง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2497 เวลา 8.15 น.รวมสิริอายุ 57 ปี 37 พรรษา

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจอง ทั้ง 2 รายการ ครับ ขอบพระคุณพี่มากๆครับที่อุดหนุนตลอดมา

 

โชว์พระจากร้านเพชร พัทลุง และ ต้า พัทลุง

พระปิดตาตะพาบ มหาลาภ พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง

สืบเนื่องจากพระมหาว่านพระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา คอมเม้นท์ก่อน เมื่อพระอาจารย์เอียดได้ไปประจำวัดสาขาที่วัดดอนศาลาแล้วนั้น ภายหลังท่านปรมาจารย์อาจารย์ทองเฒ่า ได้ละสังขารไป จึงเป็นเหตุให้ท่านอาจารย์ปาล ขึ้นเป็นเจ้าสำนัก แห่งวัดเขาอ้อสืบต่อมาในฐานศิษย์ผู้ใหญ่มีความอาวุโส รองลงมาจากพระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อจากท่านปรมาจารย์ เมื่อท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อก็ได้ดำเนินการตามจารีตปฏิบัติ ตามรอยพระอาจารย์ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อเกิดเภทภัยสงครามท่านก็ได้สร้างพระเครื่อง เครื่องราง แจกให้ทหารไปรบเช่นกันปรากฎแล้วว่าพระเครื่อง แลเครื่องรางของท่านอาจารย์ปาล เชื่อขนมกินได้เลยทีเดียวว่าทั้งคุ้มครองทั้งเหนียว ทั้งแคล้วคราดเป็นอันดับ1 ไม่เป็นสองรองใครในยุคนั้น วันนี้ทางร้านได้นำเสนอพระปิดตายอดนิยมสูงสุดตอดกาลแห่งสายเขาอ้อ นั่นก็คือ ปิดตาเนื้อทองผสม เซียนยุคเก่าเรียกปิดตาตะพาบ(คล้ายตะพาบน้ำ) ภายหลังต่อมามีการแยกพิมพ์มหาอุตต์ มหาลาภ ขัดสมาธิเพชร พระปิดตาของท่านอาจารย์ปาล หากคนที่ไม่คุ้นชิน ถือว่าดูได้ยากพอสมควร เหตุด้วยพระของท่านมีหลายขนาดหลายไซท์หลายทรงพิมพ์ ตามตำราของนักสะสมยุคก่อนเล่ากันว่า การสร้างพระอาจารย์ปาลเป็นการใช้กรรมวิธีแบบเบ้าขนมครก คือแกะพิมพ์พระลงในวัสดุ ซึ่งว่ากันว่าเป็นกระดองหมึก แล้วจึงเทโลหะลงในเบ้า ก็หล่อได้ตามสภาพวัสดุไม่กี่องค์เบ้าก็พังลง จึงต้องแกะใหม่ หล่อใหม่ พระเครื่องท่านจึงมีขนาดและพิมพ์ทรงหลากหลาย อีกทั้งจะไม่มีตะเข็บข้างเหมือนพระหล่อเบ้าประกบแบบสำนักอื่นๆ นักสะสมรุ่นเก่าบอกว่าต้องเข้าใจ"งาน" จึงอ่านออกว่าพระองค์ไหนแท้เก๊ ซึ่งภายหลังการเล่นหาเป็นมาตรฐานสากลมากขึ้นนักสะสมหลายต่อหลายคนสามารถพิจารณาเองได้ตามหลักการ จึงเป็นพระที่มีการเปลี่ยนมือง่าย สวยๆพิมพ์ฟอร์มดีๆอาจจะหลักหมื่นปลายถึงหลายแสนเลยทีเดียว หากนับเฉพาะพิมพ์พระปิดตาของพัทลุง จะว่าพระปิดตาของท่านอาจารย์ปาลเป็นพระปิดตายอดนิยมอันดับหนึ่งก็ไม่ผิดนัก พระปิดตาของท่านสร้างด้วยเนื้อทองผสม หล่อโลหะแบบชาวบ้าน หากคนเทโลหะเทช้าหรือความร้อนที่หลอมโลหะไม่ถึง โละจึงจะเกิดความข้นเมื่อเทลงเบ้าหลอมแล้วด้านหลังองค์พระจะมีรอยย่น เหมือนขนมกวน หากโลหะที่เท เทได้ไวหรือมีอุณภูมิที่เหมาะสมรอยย่นก็จะน้อยหรือไม่มี พระท่านสร้างด้วยเนื้อโลหะผสมคล้ายสายปากสระ เขาแดง พระที่ออกมามีหลายวรรณะ ในแง่การสะสมไม่ค่อยมีกระทบต่อความนิยมเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่ที่ความสวย ฟอร์ม พิจารณาง่าย เป็นหลัก

รูปพระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ ในอริยาบทเรียบง่าย ผู้มีวิชานิ้วเพชรของสายเขาอ้อ​

 

ปิดรายการ

213. พระผงพิมพ์พระพุทธชินราช หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ปี พ.ศ.2516 ((( บูชา 5,500 บาท )))

 

ปิดรายการ

225.รูปถ่ายหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ((( บูชา 750 บาท )))

 

235.พระหลวงพ่อลบ วัดตรังคภูมิ ปี 2506 จ.ตรัง ((( บูชา 650 บาท ))) ปิดรายการ

พระหลวงปู่ลบ สร้างและปลุกเสกโดยหลวงปู่รุ่ง วัดตรังคภูมิ พระเครื่องของท่านมีอิทธิคุณสูงด้านโภคทรัพย์ เมตตา เจริญรุ่งเรือง

 

236.เหรียญหลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน จ.พัทลุง ((( บูชา 850 บาท ))) ปิดรายการ