หากเราอธิษฐานพุทธภูมิ ให้มากกว่าวิริยาธิกะ

ไม่หลุดหรอกครับ
อดีตชาติของพระพุทธเจ้า ช่วงบำเพ็ญบารมีให้มากกว่านี้อีกครับ
ลองอ่านในพระชาดกในแต่ละพระชาติดูนะครับ

 

แล้วท่านน้องล่ะ
ทำต่อไปนะครับ เอาใจช่วยนะครับ

 

ผิดถูกขออภัยครับ ขอเปรียบเทียบว่า... ตุ่มน้ำที่ท่านกำหนดให้เลือกมีปริมาตรมากที่สุดบรรจุน้ำได้ 16 ลิตร ตักน้ำใส่ตุ่มจนเต็มแล้ว จะตักใส่อีกเท่าไหร่ก็ล้นไม่มากไปกว่านั้นแล้ว แล้วท่านไม่สงสารคนที่รอดื่มน้ำเหรอ น้ำเต็มแล้วแต่ไม่ยอมเปิดฝาตุ่มให้เขาได้ดื่มกินซักที คนที่รอดื่มน้ำก็คือบริวารที่ติดตามมานั่นแหละ เขาจะรอไม่ไหวซะก่อนนะซิครับ

 

ถ้าทำได้จริง ไม่เบื่อเหรอ

อยู่นานขนาดนั้น น่ะคับ

 

กำลังใจดีมั้ยครับ หินยังกร่อน เหล็กยังสึก เพชรว่าแข็งสุด ยังมีคนเอามาเจียรนัยเล่นได้ แล้วหัวใจเนื้อก้อนน้อยๆ จะทานอำนาจกิเลสไหวมั้ย ถ้าคิดว่าคุณแน่จริง ผมขอท้าคุณให้ไปให้ถึงน่ะครับ ผมเป็นกำลังใจให้ ก่อนนิพพาน

 

เป็นกำลังใจให้ครับผม.

 

เต็มที่ก็ 80 อสงไขย เทวดาเขาก็มาเชิญจากทั่วทิศแล้วครับ(เหมือนผลไม้สุกเต็มที่ เขาก็ต้องมาเก็บกันแล้ว ไม่ปล่อยให้แห้งเหี่ยวไร้ประโยชน์หรอกครับ)

ถ้ามี ก็ต้องมีการบัญญัติไว้แล้วนอกจาก 20,40,80 สิครับ..

 

ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้นะครับ อยู่ที่กำลังใจ

ขออนุโมทนาครับ^^

 

ลองเข้าไปสืบค้นระยะเวลาการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้าองค์แรก ของหลวงพ่อพระราชพรหมญาณดูครับ "สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ 1"

 

ถ้ากำลังใจถึง ก็ทำไปเถอะจ๊ะ ขอยืนยันว่า ความคิดนี้ทำได้นะจ๊ะ แต่จะไหวไหมเอ่ย ยกตัวอย่างนิดนึงว่า มีพระโพธิสัตว์ท่านหนึ่ง ตั้งความปรารถนาไว้ว่า จะช่วยสัตว์ในนรกให้หมด แล้วค่อยบรรลุพระโพธิญาณ แบบนี้มองหาที่สุดของการบำเพ็ญไม่ได้เลย เทียบกับแสนอสงไขย คงจะจิ๊บๆ เอ้า สู้ ๆ ทาเคชิ โมทนาสาธุด้วยจ๊ะ

 

เป็นไปได้ครับ เขาเรียกว่า บารมีพิเศษ ถ้าบำเพ็ญมาแบบวิริยาธิกะ จะเรียกว่า "วิริยาธิกะพิเศษ" อย่างศรัทธาธิกะ ก็เรียก "ศรัทธาธิกะพิเศษ" เป็นต้น

อ้างอิงจากข้อมูล

 

ขอความนอบน้อมจงมีแด่พระรัตนตรัยทุกๆขณะจิตเถิด

 

ผมเองนะคับโดยส่วนตัวคือปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าแบบ ปัญญาธิกะคับผม

 

ขอทราบเรื่องการแผ่เมตตา

อยากรู้วิธีการแผ่เมตตาให้คนเป็นนะคับ ทำอย่างไร
อธิฐานและเปล่งวาจาอย่างไร
และต้องการแผ่ให้คนเป็นๆที่อยู่ใกล้ๆเรา เช่นนั่งคุยกับเรา หรือนั่งหรือยืนข้างๆเราให้เขารู้ศึกเ็ย็นสบายใจเมื่ออยู่กับเราคับผม

 

ถ้านั่งคุยกันอยู่คงไม่ต้องใช้วิธีแผ่เมตตามั้งครับ เพียงแค่คุยแล้วใส่ความปรารถนาดีให้เขามีความสุขน่าจะได้ผลดีกว่า ผมเคยพบบุคคลที่พูดคุยแล้วมีความรู้สึกดีมีความสุข เพราะเขาเป็นคนที่มีทัศนคติบวกๆๆ พูดคุยในสิ่งที่ดีๆอยู่เสมอ ทั้งคำพูดคำจา ท่าทางที่เป็นมิตรและมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มเสมอๆครับ

 

ผมสนับสนุนการบำเพ็ญบารมีแบบมากๆเป็นพิเศษครับ เพราะมีประโยชน์กับมนุษย์และสรรพสัตว์มากมายมหาศาล จากที่ศึกษามาพบว่ามีอะไรอีกมากมายเหลือเกินที่ต้องเรียนรู้ครับ จนกว่ามนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายจะพ้นจากอำนาจปกครองของฝ่ายบาปอกุศลโดยสิ้นเชิง

 

การบำเพ็ญบารมีเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่การบำเพ็ญยาวนานตามท่าน จขกท. กล่าวข้างต้นนั้นค่อนข้างที่จะหนักเกินไป
ถ้าเรามาวิเคราะห์ตามพระพุทธเจ้าทรงตรัสคือ ทางสายกลางจะดีที่สุด ไม่ลำบากเกินไป ไม่พัวพันในกามในความสบายเกินไป ถ้าบำเพ็ญตามท่าน จขกท. จะทำให้ลำบากเกินไปครับ

วัฏสงสารที่น่ากลัวนี้อาจทำให้ท่าน จขกท. ติดในวังวนจนลืมการปรารถนาก็เป็นได้ครับ
อีกอย่างหากท่าน จขกท. บำเพ็ญมา 100,000อสงไขยแสนกัป เมื่อพระชาติสุดท้ายที่ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พุทธสาวกจะสงสัยในคำสั่งสอนของพระองค์นะครับ ด้วยเหตุที่ว่า เมื่อพระองค์ตรัสว่า วัฏสงสารที่น่ากลัวยิ่งนัก ควรหลุดพ้นอย่างยิ่ง
พุทธสาวกก็จะทูลถามต่อว่า ถ้าน่ากลัวขนาดนั้นแล้วทำไมพระองค์ถึงยึดทางที่ลำบากเกินไป ที่ไม่ใช่ทางสายกลาง อยู่ในวัฏสงสารที่น่ากลัวอย่างนั้น

การบำเพ็ญเพื่อบรรลุพระโพธิญาณ ไม่ใช่เพื่อบรรลุความเป็นอัตตาครับ ถึงจะทรงอนุภาพแห่งบารมีแต่ไหนก็อยู่ภายใต้สัจธรรม มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นธรรมดาครับ

ผมเชื่อว่า พุทธะธรรมเนียม และสิ่งที่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ล้วนมองเห็นตรงจุดนี้ครับ
ขออนุโมทนากับท่าน จขกท. ในการปรารถนาบำเพ็ญบารมีเพื่อบรรลุสิ่งที่ทำได้ยากด้วยครับ

 

... องค์สมเด็จพระทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายนั้น

... สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณเจ้า สมเด็จองค์ปฐมบำเพ็ญบารมีนานที่สุดคือ ตั้งแต่เป็นนิยตะโพธิสัตว์ตราบจนพระบารมี ๓๐ ทัศ เต็มบริบูรณ์ นับได้ ๔๐ อสงไขย กำไรแสนกัป นับด้วยพระชาติที่เกิดเป็นมนุษย์และสัตว์รวมกัน ที่พระนิพพานพระวรกายของพระองค์เป็นสีทองคำแตกต่างจากพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น

... รองลงมาคือ สมเด็จพระวิริยาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า นับระยะเวลาตั้งแต่เป็นนิยตะโพธิสัตว์ จนมีพระบารมี ๓๐ ทัศ เต็มบริบูรณ์ เป็นระยะกาล ๑๖ อสงไขย กำไรแสนกัป

... รองลงมาอีกคือ สมเด็จพระสัทธาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า นับระยะเวลาตั้งแต่เป็นนิยตะโพธิสัตว์ จนมีพระบารมี ๓๐ ทัศ เต็มบริบูรณ์ เป็นระยะกาล ๘ อสงไขย กำไรแสนกัป

... รองลงมาอีกคือ สมเด็จพระปัญญาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า นับระยะเวลาตั้งแต่เป็นนิยตะโพธิสัตว์ จนมีพระบารมี ๓๐ ทัศ เต็มบริบูรณ์ เป็นระยะกาล ๔ อสงไขย กำไรแสนกัป

... จะเห็นได้ว่าระยะเวลา ๔ อสงไขย กำไรแสนกัป เป็นระยะกาลต่ำสุดในการสร้างพระโพธิญาณ สามารถบรรลุพระอภิเษกสัมโพธิญาณตรัสเป็นสมเด็จพระสยัมภูญาณเจ้าได้ แต่ความอุดมสมบูรณ์ ความสุขสบาย ความสวยงาม ความร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง จะแล้วแต่กรรมของสัตว์เอง

... ในเมื่อสมเด็จพระชินสีห์สัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งปวง ก็ไม่มีพระองค์ใดบำเพ็ญพระบารมีเกินหลักสูตรนี้เลย เราเป็นลูกศิษย์ก็อย่าคิดเอาดีเกินครูสอนเลยครับ จะเอาดีเกินไปมันจะไม่ได้ดี จะไพล่เป็นดีแตกไป

... จะว่าไปแล้ว ๑ อสงไขยนี่นานมากนะครับ เก็บเอาเส้นผมเส้นขนชาติละเส้นตลอดระยะเวลาที่มาเกิดในโลกมนุษย์ ๑ อสงไขยมาทอเป็นผ้านี่ สามารถคลุมประเทศไทยทั้งประเทศได้เลยนะครับ

... คิดว่า... น่ะมันดูง่ายๆ นะครับ ลองเอาเข็มสอยโยนลงกลางมหาสมุทรแปซิฟิก แล้วงมเก็บคืนมาดู คุณคิดว่าทำได้หรือเปล่า