หลวงปู่โต๊ะกับวัยเบญจเพสของข้าพเจ้า

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย nahpee, 15 สิงหาคม 2011.

  1. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...ใครเคยดูรายการ "คนอวดผี" บ้างครับ????
    ...ช่อง 7 สี ทุกวันพุธ เวลา 23.05-00.50 น. โดยประมาณ
    ...เป็นแฟนขาประจำไปแล้ว เพราะประสบการณ์แต่ละคนวิทยาศาสตร์ยัง งง!!!กันอยู่
    ...ส่วน คุณริว จิตสัมผัส ก็เป็นวัยรุ่นธรรมดาทั่วๆไปแต่ได้รับสิ่งพิเศษติดตัวมาช่วยเหลือคนมีทุกข์
    ...จะเห็นว่าช่วงนี้จะมีทั้งพระ แม่ชี ฆราวาส ออกมาช่วยกันแนะนำคนในสังคมไทยทางสื่อต่างๆเยอะมาก
    ...ให้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม และให้พยายามรักษาศีล๕ กันไว้เพราเหตุการณ์ทั่วโลกจะวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ
    ...แต่สำหรับประเทศไทยแม้จะมีเหตุการณ์ไม่ปกติแต่ก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราวไม่ลุกลามยืดเยื้อดีกว่าประเทศอื่นๆในขณะนี้
    ...ก็เพราะแผ่นดินไทยเรานี้เป็นพุทธภูมิ มีครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายกำลังช่วยเหลือกันอยู่แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงถ้ายังหลงกับกิเลสกันอยู่
    ...ทางเดียวที่จะรอดคือต้องหันกลับมาสนใจรักษาศีล๕ ให้มีกระแสพลังงานความดีผนึกกำลังรวมกันให้มากที่สุด
    ...จะเห็นว่าฝรั่งยังเชื่อเรื่องพลังงานความดีกับความชั่ว เช่น ซาตาน กับพระผู้เป็นเจ้า
    ...ช่วงไหนประชาชนหลงงมงายกับซาตาน ฮีโร่ที่จะมาปราบตามคำสั่งจากพระผู้เป็นเจ้าจะเก่งและเหนื่อยหน่อยเรียกว่าพระเอกในเรื่องเสมอๆ
    ...และในที่สุดก็สามารถปราบซาตานสะกดวิญญาณลงไปอยู่ในหลุมดำเช่นเคย
    ...ฉนั้นความดีเท่านั้นสามารถชนะความชั่วทั้งปวง
    ...........วันนี้มาแนวหนังเลย
     
  2. Puthapower

    Puthapower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +1,001
    ขอบคุณครับ ตอนนี้ก็พยายามสวดมนต์นั่งสมาธิเกือบทุกวันและพยายามกำหนดสติให้ระลึกได้กับลมหายใจและคำภาวนา แต่ก็ยังเผลออยู่บ่อยๆ นั่งสมาธิก็ไม่สงบหรอกครับ พยายามทำเรื่อยๆแบบว่าสะสมหน่วยกิตไว้ ตามที่หลวงพ่อจรัลท่านสอนครับ
     
  3. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...อนุโมทนาสาธุ ด้วยครับ
    ...ส่วนใหญ่เวบนี้มีแต่ กัลยาณมิตร ที่ใฝ่ธรรม ทั้งนั้น
    ...คุยแล้วไปทางเดียวกันหมดไม่ค่อยมีเรื่อง โลกสมมุติหรือกิเลสทั้งหลายเข้ามาแทรก
    ...ก็คงต้องพยายามฝึกฝนต่อไปครับ

    ...สำหรับ น้าพี ตอนศีล๕ ง่อนแง่น สมาธิไม่ค่อยมั่นคงเท่าไร เรื่องอกุศลมันแว๊บเข้ามาบ่อย
    ...แต่หลังจากเข้มงวดกับศีล๕ มากขึ้นรู้สึกได้เลยว่า จิตมีสมาธิดี ง่ายและเร็วขึ้นจริงๆ
    ...เคยทดลอง ยุบหนอ พองหนอ ของหลวงพ่อจรัญฯ ไปไม่รอดอาจไม่ถูกจริตกัน
    ...คำสอนหลวงปู่โต๊ะแนวเดียวกับหลวงปู่มั่น บริกรรม พุท-หายใจเข้า โธ-หายใจออก
    ...เป็นแนว อานาปานสติ ตามลมหายใจเข้าออก ช้าก็รู้ว่าช้า เร็วก็รู้ว่าเร็ว
    ...พอจิตมันไหลออกจากลมหายใจ ไปคิดเรื่องอื่น รีบดึงกลับมาที่ลมหายใจให้เร็วที่สุดเหมือนกดรีโมทเลือกช่องทีวี
    ...เหมือนว่ากำลังดูหนังช่วงกำลังมันอยู่แล้วมือพลาดไปโดนปุ่มรีโมทต้องรีบกดรีโมทกลับมาช่องเดิมกลัวพลาดฉากสำคัญนั่นแหละ
    ...ฉนั้น "สติ" สำคัญมากๆต้องจดจ่อติดตามลมหายใจตลอดแบบประกบตัวเลยเหมือนตามสาวๆตอนจีบใหม่ๆนั่นแหละเรียกว่าไม่พลาดสายตา
    ...ใหม่ๆอาจจะมีทุกข์เวทนาปวดปวดนั่น ปวดนี่ โดยเฉพาะอาการคันหน้ายิบๆเหมือนมดละเอียดมาไต่ ตามหู ตามจมูก หน้าผาก ขอบอกว่าคันมากๆ
    ...แต่ถ้าทนได้ให้ทนความรู้สึกคันจนมันผ่านพ้นไป ก็จะง่ายขึ้นแล้วคราวนี้
    ...บางทีอาการคันไม่มีตัวมดจริงๆหลอกนะ มันคล้ายอุปาทาน บางทีก็ต้องใช้วิธีแผ่ส่วนกุศลไปให้เขาตรงที่คันๆนั่นแหละ ไม่ค่อยไปง่ายๆหรอก
    ...ถ้าเลยจุดนี้ไปได้ตั้ง สติ กับลมหายใจดีๆ ลมที่ผ่านเข้าออกตรงปลายรูจมูกจะเบาบางลงไปเรื่อยๆ
    ...คำบริกรรมพุทโธก็เริ่มจะหายไปเอง กลายเป็นลมละเอียดเหมือนเราไม่มีลมหายใจแต่จริงๆยังหายใจอยู่ตลอดแต่นิ่งมากๆ
    ...ช่วงนิ่งมากๆ อย่าเพลินกับอารมณ์นั้นต้องพยายามตั้งสติไว้ นึกถึง พุทโธ ต่อคือให้รู้ว่าเรามีสติรับรู้ตลอดเวลา
    ...เพราะเสียงต่างๆรอบๆที่เข้ามาผ่านหูเรามันอาจจะดังจนตกใจได้ แต่สักพักก็ชินขึ้นมันจะรู้ว่าต้นเสียงคืออะไรแล้วก็ผ่านไปไม่ติดใจสงสัยอะไรกับเสียงนั้นเกิดขึ้นแล้วดับไป
    ...จะกลับมาสนใจความนิ่งในสมาธิต่อเนื่องไปเรื่อยๆเบากาย เบาใจสบายๆบอกไม่ถูก
    ...แต่ยังไงๆ ก่อนนั่งสมาธิก็ต้องสวดมนต์ไหว้พระ ขออำนาจบารมีตั้งแต่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    ...พระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ เทวดาทั้งหลาย และอย่าลืมเทวดารักษาตัวเราด้วย พระอริยสงฆ์ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพนับถือโปรดมาคุ้มครองป้องกันระหว่างนั่งสมาธิ
    ...จะทำให้เรามั่นใจอุ่นใจขึ้นให้ท่านช่วยดูแลปกปักษ์รักษาระหว่างเราทำความดี
    ...ซึ่งจริงๆ หลวงปู่สอนว่า พร้อมเวลาไหนก็ทำเวลานั้น จะ 5 นาที 10 นาที 15 นาทีหรือยาวไปเรื่อยๆสัก 1 ชั่วโมงก็ได้
    ...อย่าไปทรมานสังขารจนเกินไปเอาพอดีๆ ที่เราพร้อมทุกๆอย่างคือ ร่างกาย และ จิตใจ
    ...จะอาบน้ำชำระร่างกายใส่ชุดขาว หรือจะใส่ชุดปกติ ไม่มีข้อห้าม สำคัญใจต้องสะอาด พร้อมที่จะทำ อิสระมากทุกอย่างแม้แต่สถานที่ห้องพระก็ได้ ไม่ใช่ก็ได้
    ...ขอให้สงบ เหมาะสมกับการภาวนาพอสมควรไม่เฉพาะเจาะจง สำคัญอยู่ที่ลมหายใจซะส่วนใหญ่
    ...ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป อยู่ที่ความตั้งใจแต่พอเข้าที่ก็มักจะเริ่มติดเหมือนเราเล่นคอมฯนี่แหละถึงเวลาต้องเปิดเครื่อง

    *****ป.ล.
    ...พอจะออกจากสมาธิก็เช่นเดียวกันครับ อย่าลืมแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่เราทำความดีในวันนี้ให้ ตั้งแต่พระพุทธเจ้าเรื่อยมา
    ...เทวดาทั้งหลาย พระเจ้าอยู่หัว พระราชินี บิดามารดา ครูบาอาจารย์ลงมาจนถึง สัมภเวสี เปรต อสูรกาย ฯลฯ ด้วยล่ะครอบจักรวาล 3 โลกไว้เลย (มีตำรามากมายตามใจชอบครับ)
    ...โชคดีครับขอให้คุณ puthapower ประสบความสำเร็จกับการปฏิบัติธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2011
  4. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ขอบคุณครับ พี่พี ของผม บางครั้ง ก็ภาวนาว่า พุทโธ

    บางครั้งก็ภาวนา พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ แล้วแต่ ความสงบครับ

    อย่างนี้ได้หรือเปล่าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2011
  5. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...ดูที่ภาวะจิตของเรา รู้สึกว่าภาวนาแบบไหนแล้วใจสงบไวไม่อึดอัด
    ...เบาๆ สบายๆ โล่งๆ ก็ทดสอบไปได้ทุก คำบริกรรม
    ...เพราะจริงๆแล้วความสำคัญอยู่ตรงลมหายใจเข้า-ออก มากที่สุด
    ...จะ พุทโธ สัมมาอะระหัง นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ ยุบหนอ พองหนอ ฯลฯ
    ...ก็แค่ให้เราจดจ่อกับคำภาวนามีสิ่งยึดเหนี่ยวคือ พระพุทธเจ้า นั่นเอง
    ...เคยอ่านเจอ ในช่วงแรกๆ ในหลวง ท่านถนัดนับเลข หายใจเข้า 1- หายใจออก 2
    ...จะรูปแบบไหนวิธีไหนขอให้สบายๆไม่เครียด ทั้งร่างกายและจิตใจนั่นแหละคือเราพร้อมที่จะปฏิบัติแล้ว
    ...และก็ไม่ต้องไปกำหนดว่าจะต้องนานเท่านั้นเท่านี้ แค่จิตนิ่งสักแป๊บเดียวก็ได้แล้วบุญ
    ...แต่ถ้าหมั่นฝึกฝนไปเรื่อยๆ 1 ชั่วโมงนี่แป๊บเดียวนะ กำลังดีเชียวแหละ
    ...หรือถ้าไม่เป็นทางการ นึกพุทโธได้ ก็นึกได้ทุกเวลา จะนั่งรถเมล์ จะไปวิ่ง จะเดิน จะนอน ทุกอิริยาบทนั่นแหละที่เรานึกขึ้นมาได้
    ...แล้วจะเริ่มชินไปเรื่อยๆเอง แบบคิดถึงหน้าแฟน นั่นแหละ
    ...ขอให้โชคดีและสู่ความนิ่งที่สงบของจิตครับ คุณคนกันเอง

    *****ป.ล. น้าพีก็ไม่ได้เก่งอะไรหลอกครับแต่สนใจและพยายามตามครูบาอาจารย์แนะนำจากการอ่านหนังสือ ฟังคลิป นี่แหละแล้วก็ลงมือทดลองปฏิบัติ อย่ามัวแต่อ่าน แต่ฟัง ในชีวิตทางโลกก็เช่นเดียวกันอ่านตำราอย่างเดียวถ้าไม่ลองคุ้ยแคะแกะซ่อมลงมือปฏิบัติ ก็แค่เสือกระดาษทำอะไรไม่เป็นก็ได้แต่พูดๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าไม่ทำบ่อยๆก็ไม่คล่องมันเป็นไปโดยธรรมชาติจากสิ่งที่มีอยู่แล้วภายในตัวเราเองโดยเฉพาะเรื่องจิต น้าพีว่าทุกคนมีเหมือนๆกัน เพียงแต่เราเพลินกับสิ่งสมมุติบนโลก กิเลสรอบตัว เลยยังไม่สนใจกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2011
  6. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,850
    มาติดตามครับน้าพี ^ ^
     
  7. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    Tricks สไตล์น้าพี

    ...เมื่อไรที่เราเริ่มเข้าใจเห็นความจริงว่า จิต กับ ร่างกาย แยกกันชัดเจนไม่ใช่เนื้อเดียวกันแน่ๆ
    ...ไป search หาอ่านจากคำสอนพระพุทธเจ้า หรือครูบาอาจารย์
    ...ทดลองนำไปใช้ดูได้นะ
    1. สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย ตามแต่ชอบของครูบาอาจารย์ท่านใดก็ได้ที่เคารพศรัทธา
    2. นั่งท่าขัดสมาธิ หรือถ้าไม่ถนัดก็นั่งกับเก้าอี้ธรรมดาไปก่อน
    3. มองพระพุทธรูปในห้องพระหรือรูปครูบาอาจารย์ก็ได้พูดในใจกับท่านขอบารมีท่านคุ้มครองอย่าให้มีสิ่งใดเข้ามารบกวนและชี้ทางสว่าง
    4.หลับตาหายใจลึกๆยาวๆแรงๆ เข้า-ออก 3ครั้ง
    5.ระบบลมหายใจมันจะเริ่มปกติไม่แรงไม่เบาแบบติดขัด
    6.สร้างจินตานาการให้เห็นว่าตัวเรานั่งท่าไหนทั้งๆที่หลับตานั่นแหละพอเห็นชัด
    7.ลองจินตานาการเป็นหมอผ่าตัดศพ (จำมาจากคลิบyoutube)
    8.ใช้มีดกรีดไปบนหน้าอกผิวหนังของเรา(ลำดับขั้นตอนเดียวกันกับใน youtube)
    9.เห็นเนื้อแดงๆ มีกล้ามเนื้อ มีเอ็น เหมือนหมูในตลาดเลย
    10.เอาคีมตัดเซาะเอ็น กล้ามเนื้อ ซี่โครง เปิดออกมา
    11.เห็นปอด หัวใจ ไส้ แบบตือฮวนเลย
    12.จากนั้นนึกสภาพเหมือนเริ่มเน่าเสียละลายเหลือแต่โครงกระดูกตัวเรานั่งท่าที่นั่งอยู่
    13.กำหนดโครงกระดูกแตกสลายเป็นเถ้าถ่าน ฝุ่นผงหายไปในอากาศ
    14.จะไม่เห็นร่างกายของเราแล้วเป็นสภาพบรรยากาศโล่งๆ
    15.แต่สิ่งที่เหลือคือดวงจิต ที่กำลังจะทำสมาธิ คือลมหายใจเข้า- ออก
    16. ภาวนาไปเรื่อยๆ ลมหายใจจะเบาจนรู้สึกถึงความละเอียดเนียนๆ นิ่งสงบ
    17. บางที่ลืมว่าเรามีร่างกายหรือเปล่าแต่ความรู้สึกปวดขา ชาขา ยังจับได้บ้างแต่มันจะสบายๆบอกไม่ถูก ลองดูนะ

    ...เราเริ่มจะทำจิตให้สงบได้เร็วขึ้นกว่าปกติ เพราะเราจะเริ่มไม่ยึดติดตัวเรา ของเราแบบเดิมๆ
    ...หรือสิ่งสวยงามทั้งหลายที่ตาเห็น เกิดดับ ตึงเหี่ยว หอมเหม็น เน่าสลายไปในที่สุดเป็นเพียงธาตุลงสู่ผืนดิน ปลิวไปในอากาศ ไหลลงน้ำ เป็นพลังงานความร้อนทางธรรมชาติ
    ...คน สัตว์ สิ่งของ เหมือนกันหมดมีอะไรคงทนมั่งเพียงแต่ระยะเวลาในการย่อยสลายไม่เท่ากันเท่านั้นเอง
    ...ถ้ามองเห็นความเป็นจริงของชีวิตตรงนี้เมื่อไร กิเลสที่เห็นมันเป็นสิ่งสมมุติที่มนุษย์ประดิษฐ์ให้เกิดความอยากเท่านั้นเอง
    ...ความอยากทุกชนิดจะลดทอนลงไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ จนบางอย่างมันก็แค่นั้นเองจริงๆ
    ...เพียงแต่มันค่อยๆเป็นไปตามจังหวะธรรมชาติของกิเลส และจะเริ่มใช้ปัญญาพิจารณามากขึ้น
    ...ประมาณพระราชดำรัสของในหลวงนั่นแหละ "เศรษฐกิจพอเพียง" พอดีๆ
    ...วันนี้ น้าพี ลด ละ เลิก สิ่งที่เป็นอบายมุขไปได้หลายๆเรื่อง หลักๆมีในศีล๕ นั่นแหละเรื่องใหญ่
    ...แต่ในเมื่อเรายังมีความเป็นมนุษย์ที่ต้องอยู่คู่กับความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้
    ...กิเลสบางตัวมันก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว เช่นชอบถ่ายรูป ก็ยังสนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ
    ...หรือ ท่องเที่ยว ก็ยังอยากที่จะไปสัมผัสธรรมชาติ ความแตกต่างทางวัฒนธรรมฯลฯ
    ...แม้แต่ความนึกคิด บางทีก็มีบ้างตามอารมณ์อกุศลแต่ดับเร็วไม่ค้างเติ่งเยิ่นเย้อเกิดเมื่อไรดับให้เร็ว

    ...วันนี้กำลังฝึกจิต ของตนเอง รู้ทุกข์ รู้เหตุแห่งทุกข์ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเพื่อตัวเองเท่านั้นไม่ใช่เพื่อใครเลย
    ...ใครอ่านแล้วเฉยๆ หรือจะนึกว่าเพี้ยนไปหรือเปล่า ก็ไม่เป็นไรไม่เกี่ยวกัน ใครทำใครได้..คริคริ
    ...ก็ลองลงมือปฏิบัติ ไม่เช่นนั้นใจมันจะค้านเสมอ จริงหรือ??? หรือมั่วนิ่ม???????????
    ...พอได้ผล ก็จะเริ่มเห็นความเป็นจริง พระพุทธเจ้าท่านสอนมาตั้ง ๒๕๐๐ กว่าปีแล้วทันสมัยจริงๆ
    ...ไม่รู้สินะมันเป็น ปัจจัตตัง เฉพาะตน ไม่ใช่ว่าเป็นวิธีที่ดีและเหมาะสมกับทุกคน
    ...แต่สำหรับ น้าพี โอเค แล้วพิสูจน์ได้ด้วยตนเองใช่เลย
    ***ป.ล.ปฏิบัติเพื่อความสงบ ลด ละ เลิก กิเลส ไปเรื่อยๆยังไม่ได้นึกถึงกับต้องไปแบบอิทธิฤทธิ์ใดๆ หรือท่องเที่ยวภพภูมิต่างๆแค่ จิตสงบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2011
  8. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,506
    มาติดตามอ่านทุกวันครับ ขอบพระคุณมากครับผม....
     
  9. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735

    ขอบคุณครับน้าพี...ผมจะลองนำไปปฏิบัติครับ.....(^_^)
    ส่วนรายการคนอวดผี....ผมเองก็ติดงอมแงมเช่นกันครับบ
     
  10. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...น้าพี ชอบดูมากเลย "คนอวดผี" จากเมื่อก่อนนั่งดูคนเดียวเสียวๆอยู่
    ...เดี๋ยวนี้โอเคแล้ว ก็ได้เห็นมุมมองอีกด้าน ได้ข่าว rating ดีขึ้นเรื่อยๆ
    ...จะมีสัญจรไปตามจังหวัดต่างๆทั่วไทยแล้ว ประเภทตามล่าสิ่งลึกลับที่ปิดซ่อนไว้กันเลย
    ...ก็ถือว่าเป็นรายการที่แปลกดี (แต่ไม่แปลกใจเลย...ประสบการณ์บางคนคล้ายน้าพีมากๆ จากกลัว กลายเป็น ขำๆ)
     
  11. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...คุณนอร์ ดูคลิปที่นี่เลยแล้วจำให้ได้เพราะชัดที่สุด เหมาะกับพวกติดหล่อ ติดสวย ได้ผลฉมังนัก..คริคริ
    ...คิดเป็นยันต์กันผีก็พอได้นะถ้าใจกลัวผีขึ้นมา ก็นึกว่าเราลอกหนังออกแข่งกับผีก็ไม่ต่างกับผีเหมือนกันนะ จริงมั๊ย????
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=8RbWBJg5zfo&feature=related"]อสุภะ กรรมฐาน 2 ผ่าศพ ระบบหายใจ - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=gIy99b-Joa0&feature=related"]????? ??????? 4 ????? ???????????? - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2011
  12. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ขอบคุณครับ น้าพี:cool:
     
  13. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ดูแล้วรู้สึกปลงมากครับน้าพี.....ชีวิตเนื้อกายเราๆนั้น..ที่เห็นว่าสวยว่างาม..แท้จริงแล้วก็ห่อหุ้มไปด้วยของสกปรกและสิ่งไม่น่าดู......ขอบคุณน้าพีที่หามาให้ชมเป็นเสมือนการเตือนสติ..ไม่ให้ยึดติดกับ รูป รส กลิ่น เสียง ครับบบบบ (^___^)

    ปล.แอบหวาดเสียวนิสสสส..นึงงงงงงง อิอิ ^^
     
  14. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...ดูให้เป็น ธรรมะ เดี๋ยวจะเพลินกันจนนึกว่าเราไม่ตายกัน
    ...อยู่ๆพรุ่งนี้เกิดไม่ตื่นขึ้นมาเพราะลมหายใจหยุด บุญก็ยังไม่สร้าง บาปก็ยังล้น
    ...เรียกว่าไม่มีการเตรียมตัวกันเลย นรกไม่ใช่อยู่ที่ใจอย่างเดียว อยู่ในภพภูมิหลังความตายด้วย
    ...ดูร่างคนอื่นอาจรู้สึกกลัว แต่ถ้านึกเป็นตัวเองมันจะเฉยๆเพราะตัวเราก็ลักษณะแบบนี้เพียงแต่เดินได้มีหน้ากากสวยๆ หล่อๆ หลอกล่อกันไป
    ...ต่อให้ห่อหุ้ม สวย หล่อ ถ้าไม่อาบน้ำ ไม่แปรงฟัน ไม่ขับของเสีย ไม่เขียนคิ้วทา ปาก ไม่หวีผม ฯลฯ มีอะไรดีบ้าง
    ...ครูบาอาจารย์ ท่านยังเปรียบเทียบ เทวดาเจอมนุษย์ บอกว่าเหม็นเหมือนหมาเน่าเลยเพราะอะไรรู้มั๊ย???
    ...มนุษย์เรากินซากสัตว์ที่ตายแล้ว ไปหมักหมมอยู่ในลำไส้ ในท้องถ้าไม่ขับถ่ายออก ก็เน่าอยู่ในร่างกายนั่นแหละ
    ...พอพิจารณาก็เห็นภาพตามความเป็นจริงจากตัวเรานั่นเอง เออ!!!!! จริงๆด้วยสิ
    ...นี่คือวิธี ลด ละ เลิก กิเลส จากความเป็นจริงในตัวเราเองนั่นแหละ ก็จะลดดีกรีกับความหลงภาพลวงตา ไปชั่วขณะหนึ่ง
    ...จึงต้องพยายามฝึกบ่อยๆ เพราะกิเลส มันแรงจริงๆ สามารถฉุดความอยากได้ตลอดเวลาง่ายๆด้วย
    ...น้าพีเคยสังเกตุตัวเองสมัยก่อน เพื่อนชวนไปดื่ม ไปกิน ไปสารพัดในที่อโคจร เพียงคำเดียวไม่มีอิดเอื้อน go go go!!!!
    ...แต่พอพ่อ แม่ ชวนไปฟังธรรม เข้าวัด ทำธุระ ยืดยาดยืดยาด ย้วยไปย้วยมาอยู่อย่างนั้นแหละมันช่างตัดสินใจยากซะเหลือเกิน
    ...ทำดีจึงยากกว่าทำชั่ว มันเห็นชัดเจนอยู่แล้ว ฉนั้นคนที่เขาทำความดีตั้งแต่ต้นต้องยอมรับว่าจิตใจเขาใฝ่ดีและเข้มแข็งต่อสู้กับกิเลสจริงๆ
     
  15. Puthapower

    Puthapower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +1,001
    สวัสดีครับ
    การปลงอศุภกรรมฐานให้เห็นความไม่งามของสังขาร ใช้เป็นอุบายให้จิตสงบเร็วขึ้นโดยพิจารณาขณะนั่งสมาธิ( จิตยังไม่สงบ) หรือให้พิจารณาหลังจากจิตสงบแล้วครับ และระหว่างพิจารณายังต้องกำหนดลมหายใจกับคำภาวนาด้วยหรือไม่ ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
     
  16. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...สำหรับน้าพี ก่อนจะเข้าสมาธิหลัก ก็คือก่อนจะเริ่มเข้าสู่การภาวนา "พุทโธ"
    ...พิจารณาสังขารตัวเราเอง จะได้ไม่ติดกิเลส โดยการสร้างมโนภาพแปรสภาพร่างกายของเราจากถลกหนังจนกลายเป็นเถ้าถ่านฝุ่นละอองหายไปในอากาศไม่ถึง 1 นาทีเอง
    ...สมมุติธาตุ๔ เราดับหายไป ขันธ์๕ ก็เลยพลอยหายไปด้วยแบบสมมุติ เหลือแต่ดวงจิตกับลมหายใจ คือเราตั้งใจสมมุติว่าตัดร่างกายไปแล้วไง
    ...หลังจากนั้นก็มาจดจ่อกับลมหายใจเข้าออก กับคำบริกรรมที่ถนัดที่สุดอย่างเดียว
    ...บางครั้งความคิดอกุศลทั้งหลายจะแว๊บบ เข้ามาก็รีบตัดออกไปเร็วๆ ยิ่งถ้าเป็นภาพผู้หญิงสวยๆยั่วๆที่เป็นสัญญาเดิมๆที่เราชอบ
    ...ถ้าฝึกคล่องๆจะเห็นเป็นแบบอสุภะพอไม่สวยก็ไม่สนใจกลับมาอยู่ที่ลมหายใจเช่นเดิม
    ...ต้องบอกว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คือต้อง ลด ละ เลิก แล้วพอสมควร ต้องเห็นความจริงของชีวิตนั่นแหละ
    ...น้าพีทำได้เพราะวัยมันเริ่มถดถอยเบื่อหลายๆอย่างเพราะก็เห็นมามาก ทำเอง เป็นเอง แล้วคิดได้เองจากคำสอนของพระพุทธเจ้า ช่างเหมือนจัง สุข ทุกข์ ไม่เที่ยงจริงๆ
    ...คือถ้า คุณ puthapower ยังมีความกังวลหลายๆอย่างยังมีห่วงโซ่ชีวิต ครอบครัว การงาน เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง สังคมรอบข้าง เริ่มต้นแบบใจสบายๆดีกว่า
    ...อสุภะ ก็อย่าเพิ่งไปแตะก็ได้ น้าพีเอามานำเสนอเพื่อจะได้ปรามๆใจตัวเองไว้บ้างสำหรับผู้มี่ทำใจศีลข้อ๓ ลำบาก
    ...นึกถึงพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ดีกว่าสบายใจ แต่ถ้ารู้สึกใจมันอึดอัดเครียดๆก็หยุดอย่าฝืนทำต่อ
    ...ลุกออกไปใช้ชีวิตปกติ ดูหนัง ฟังเพลง ไป shoping คุยกับแฟนฯลฯ ใจพร้อมเมื่อไรก็เริ่มใหม่ ค่อยเป็นค่อยไป
    ...ข้อสำคัญอย่าไปอยากเห็นอะไรอย่างที่ศึกษาจากเรื่องเล่าอิทธิฤทธิ์ของคนอื่นแค่ขอให้ใจเราสงบ มีสติก็พอแล้ว สบายๆ
    ...เดี๋ยวก็จะพัฒนาไปโดยอัตโนมัติด้วยตัวของเราเองเพราะถ้าสนใจทางนี้แล้วก็จะเริ่มแสวงหาทางหลุดพ้น ทำอย่างไรจะไม่เวียนว่ายตายเกิดอีกนะ
    ...สไตล์ของ น้าพี ก็เฉพาะตนทดลองแล้วเออเข้าท่าดี นำวิธีของครูบาอาจารย์หลายๆท่านมาอย่างละนิดอย่างละหน่อยมาผสมผสานประยุกต์ให้เข้ากับจริตเรา
    ...แต่จุดเริ่มต้นคือ จากคำสอนของ หลวงปู่โต๊ะ นี่แหละ "พุทโธ" หรือบางครั้งก็ "พุทโธ อินทสุวรรณโณ"
    ...เมื่อวันสองวันที่ผ่านมา ก็ลอง บริกรรม "นะโมพุทธายะ หายใจเข้า - ยะธาพุทโมนะ หายใจออก" (พระพุทธเจ้า๕พระองค์) ก็โอเค
    ...ไม่บริกรรมอะไรเลยได้มั๊ย???? จับแต่ลมหายใจก็ได้นะ ก็เลยพิจารณาว่า ลมหายใจสำคัญที่สุด คำบริกรรม ก็เพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ไว้คุ้มครองไม่ให้ลืมท่าน
    ...ต้องทดลองปฏิบัติ บ่อยๆแล้วปรับปรุงให้ตรงจริตมากที่สุดเท่านั้นเอง
    ...ทำได้แน่ๆครับ ขอให้ตั้งใจลงมือปฏิบัติเดี๋ยวมีคำตอบในใจให้กับตนเองในที่สุด
    ...ขอให้ประสบความสำเร็จกับสิ่งที่กำลังค้นหาในธรรม ครับ
    ***มาแชร์ประสบการณ์มุมมองหนึ่งเท่านั้นเองคงไม่ใช่ guru ควรศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าดีที่สุดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2011
  17. SpringDove

    SpringDove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,488
    ค่าพลัง:
    +4,807
    ขอสมัครเป็นสมาชิกด้วยคนค่ะน้าพี พี่ท่านหนึ่งส่งลิ้งค์กระทู้ของน้าพีมาให้ เลยนั่งอ่านซะเพลินเลย(เพิ่งอ่านจบไปสามหน้าเองค่ะ) ได้แง่คิดในการดำเนินชีวิตที่ดีมากค่ะ
     
  18. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735

    สวัสดีครับคุณนก....สบายดีมั้ยเอ่ยยย...ไม่ได้ทักทายกันนานเลยยย ^^
     
  19. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...ยินดีครับ คุณ springdove
    ...เข้ามาอ่านความคิดของผู้ชายธรรมดาทั่วๆไปมันเป็นเช่นนี้จริงๆ
    ...โลกสมมุติ ไม่ว่ามุมไหนของโลก แค่นี้เองจริงๆ ครับ
    ***สายแห่งธรรม หญิงชายมีสิทธิเท่าเทียมกันเสมอด้วยความดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2011
  20. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...มีสิ่งที่อยากบอกกล่าวกัน แม้จะมีครูบาอาจารย์ที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาในการปฏิบัติธรรม
    ...แต่อย่าลืม พระอรหันต์ ที่บ้านนะครับ พรใดที่ไปขอแล้วท่านให้ประเสริฐทั้งนั้นขลังด้วย
    ...วันนี้ น้าพีจะ 56 ปี ยังต้องไป ไหว้พ่อ ไหว้แม่ เรียกว่าทุกวันที่เราเจอกัน
    ...เพราะบ้านเราปลูกอยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกันเดินไปมาหาสู่กันได้
    ...เรียกว่าเมื่อตอนเด็กๆก่อนไปโรงเรียน กลับมาจากโรงเรียน วันละ 2 ครั้ง
    ...และก็ทำมาตลอด แม้แต่เข้าทำงาน จนมีลูก และวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม
    ...วันเกิดแต่ก่อนก็ ไปเฮกันข้างนอกบ้านตามสมัยกิเลสนิยมยังคิดไม่เป็น คิกคักๆสนุกเต็มที่แล้วก็กลับบ้าน
    ...ลืมไปเลย ที่เกิดมาเห็นโลกได้เพราะใคร ใครเลี้ยงดูเป็นห่วงเป็นไยจนวันนี้ก็ยังเป็นห่วงอยู่เหมือนเมื่อ 56 ปีที่แล้วใครเอ่ย??ถ้าไม่ใช่ พ่อ แม่
    ...หลังๆมานี่เป็น 10 ปีแล้วไม่มีวันเกิดอีกต่อไป แค่ไปทำบุญตักบาตรตอนเช้ามืดวัดชลประทานฯ 9 องค์
    ...ไปซื้อชีวิตปลาไหล ปลาดุกหรือปลาช่อนที่ตลาดสดบนเขียงที่เขาจะเจี๋ยน 9 ตัวไปปล่อยรอดพ้นความตายทุกๆปี
    ...ซื้อพวงมาลัยกลับมากราบเท้า พ่อ แม่ ขอบคุณที่ให้เกิดมา ขออโหสิกรรมที่อาจพลาดพลั้งให้เกิดความเสียใจโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
    ...แล้วขอพรจากท่านต่อ มีแต่คำอวยพรดีๆทั้งนั้นให้ลูกเจริญรุ่งเรือง มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ฯลฯ
    ...ไม่ใช่ไปตะรึม ตรึมๆ ตามผับ ตามบาร์ ตามสวนอาหารเหมือนแต่ก่อน ง่ายๆประหยัด สบายใจ
    ...ชีวิตก็ไม่เคยตกต่ำเรื่องใดๆ เป็นไปตามความรู้ความสามารถสมกับตำแหน่ง ไม่ต้องวิ่งเต้นอะไรกับใคร
    ...คนที่มีลูกแล้วจะรู้ดี ความรักที่เราให้กับลูกขนาดไหน ซึ่งไม่แตกต่างจาก พ่อ แม่ ที่เคยให้กับเราเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...