หลวงปู่โต๊ะกับวัยเบญจเพสของข้าพเจ้า

หลวงปู่โต๊ะกับหลวงปู่มั่น
คัดข้อความบางส่วนจาก หนังสือ "ภาสุรธรรม" ฉบับประกาศเกียรติคุณ หลวงปู่โต๊ะ ๑๐๘ ปี
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร

...จากคำบอกเล่าของหลวงปู่ท่านเคยปรารถไว้ว่า "อาตมากับอาจารย์มั่นคุ้นเคยกันตั้งแต่อาตมายังเป็นพระหนุ่มๆอยู่
เคยบอกเจ้าคุณอุบาลี วัดบรมนิวาสไว้ว่า เมื่อพระอาจารย์มั่นลงมา ช่วยบอกด้วยเพราะอยากจะไปฟังธรรมจากท่าน"
หลวงปู่ท่านเล่าว่าในยามที่ได้พบกับหลวงปู่มั่นท่านรู้สึกเย็นใจ ท่านอุปมาว่าเหมือนอยู่ในที่ร้อนแล้วเข้าอยู่ในร่ม
หลวงปู่ท่านได้กราบเรียนถามถึงการปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งหลวงปู่มั่นท่านได้กล่าวกับหลวงปู่ว่า
กรรมฐาน๔๐ นั้นแหละคือวิธีให้เลือกเอาตามใจชอบและท่านย้ำว่า"อาณาปานัสสติ"เป็นยอดของกรรมฐาน
ให้ตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออก ว่าสั้นยาวอย่างไรและครั้นเมื่อภาวนาไปจนลมละเอียดคำบริกรรมภาวนาพุทโธก็จะหายไป
ไม่ต้องบริกรรมอะไรแล้วและให้ตามดูลมหายใจที่ละเอียดนั้น เมื่อลมหายใจละเอียดมากยิ่งขึ้น
ผู้ปฏิบัติก็ไม่สามารถรู้ได้ว่ากำลังหายใจอยู่หรือไม่ แต่ไม่ใช่เผลอสติ เพราะมีสติผูกจิตไว้
เมื่อหลวงปู่มั่นท่านได้แสดงธรรมมาถึงในขั้นนี้ หลวงปู่โต๊ะท่านได้กราบเรียนถามไปว่า ลักษณะเหมือนจะเหาะได้ ควรจะทำอย่างไร
หลวงปู่มั่นท่านก็ตอบว่าให้ดูเฉยๆและท่านยังกล่าวอีกว่าเวลานั้นจะเกิดความสว่างไสวท่านบอกว่ามันเป็น
วิปัสสนูปกิเลสมิให้ไปติดไปหลง เพราะมันมีฤทธิ์ และสมถะก็ละทิ้งไม่ได้เพราะมันเป็นบาทฐานของวิปัสสนา ฤทธิ์เดชมีมากมาย
แต่พระพุทธเจ้าไม่ทรงแสดงเพราะไม่เป็นธรรมที่จะนำไปเพื่อประโยชน์ ไม่เป็นไปเพื่อดับทุกข์
ส่วนที่เป็นสาระประโยชน์คือการพิจารณาขันธ์๕ พิจารณารูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ให้เห็นด้วยปัญญาว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา
ธรรมนี้ไม่ใช้หลักของพระพุทธเจ้า แต่เป็นหลักธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่เป็นธรรมดาในโลก
หลวงปู่มั่นยังกล่าวกับหลวงปู่โต๊ะอีกว่า การปฏิบัติต้องถือกระทำในทุกอริยาบถ ทั้งยืน เดิน นั่ง นอน
ต้องทำไปเรื่อยๆ ยืนในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นอนในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไปหมด
นี่เป็นความหลุดพ้นที่เรียกว่า วิมุติ ความชั่วก็จะหามีกับเราไม่ ด้วยอาศัยการปฏิบัติที่เราถือกุญแจลูกนี้ไขไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงหลักพระนิพพานที่เป็นแก่นสาร

 

การรักษาศีล

คัดข้อความบางส่วนจาก หนังสือ "ภาสุรธรรม" ฉบับประกาศเกียรติคุณ หลวงปู่โต๊ะ ๑๐๘ ปี
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร

..."รักษาศีลเพื่ออะไร เพื่อกำจัดกิเลส เมื่อกำจัดกิเลสไม่ได้ ศีลของเราก็ไม่มีสิทธิ์เป็นของเรา เป็นของกิเลสไปหมด"

" ศีลจะบริสุทธิ์ หรือ ไม่บริสุทธิ์ อยู่ที่ตน เกิดที่ตนปฏิบัติ "

"เมื่อศีลของเราบริสุทธิ์หมดจดฉะนี้แล้ว จะไปไหน จะไปไหน ไปชั้นสวรรค์ก่อน เอ้า เอาลูกกุญแจลูกนี้ไป
ลูกกุญแจนี่ นี่จะไปสวรรค์ ท่านให้ไป ท่านไข ท่านไขไปดูศีลของท่านนะ มันลึกซึ้งแค่ไหน
ศีลบริสุทธิ์หมด จะไขเข้าไปอีก สมาธิ สมาธิ ของดียังอยู่ในนั้นเยอะ ท่านค้นดูเถอะ เอาลูกกุญแจนี่ไขไปเรื่อย
แล้วจะพบขุมทรัพย์ที่เราไม่เคยพบ ที่เราไม่เคยเห็น ด้วยลูกกุญแจลูกนี้ กุญแจคืออะไร
ศีล สมาธิ ปัญญา เมื่อเรามี ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ นี่ไขเอาทรัพย์ได้ ค่อยไขเอาทรัพย์ได้ มีประโยชน์ แต่ต้องหมั่นไขนะ
ไม่ใช่ไขหนเดียวแล้วก็ไปหลายๆเดือน ไม่ใช่ ไขเรื่อย ศีลบ้าง สมาธิบ้าง ปัญญาบ้าง วิมุติ หลุดไปเอง
เมื่อเราไขถึงปัญญาแล้ว เบา เพราะเห็นโทษ ความดีเกิดขึ้นก็รู้เท่าทัน ความชั่วเกิดขึ้นก็รู้เท่าทัน
รับประกันได้ว่า กิเลส ๒ ประการนั้นหาเกิดขึ้นกับเราไม่ เพราะเรารู้เท่าทันความเป็นไปของกิเลสนั้น
เพราะเรามีกุญแจไข ไขไปถึงจุดพระนิพพาน....."

 

การรักษาศีล (ต่อ...)

คัดข้อความบางส่วนจาก หนังสือ "ภาสุรธรรม" ฉบับประกาศเกียรติคุณ หลวงปู่โต๊ะ ๑๐๘ ปี
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร

...มีธรรมะประจำในอิริยาบถอยู่เสมอๆ ความไม่ดีไม่งามก็เกิดขึ้นไม่ได้เพราะความดีความงามมันสูงกว่าและสุดเอื้อมของเขา
เขาก็นิ่งไปเอง เขาก็ดับของเขาเอง เขาก็ล้มละลายของเขาเองโดยความดีของเรานั่นเอง
จึงไม่มีโจรเข้ามาปล้น ทางหู ทางตา ทางใจของเรา

...ผู้ปฏิบัติ เป็นอุบาสก อุบาสิกา สมณะชีพราหมณ์ หวังพระนิพพาน เพราะเป็นยอดของความสุข
พระนิพพานน่ะ หยิบยกให้กันไม่ได้ ได้แต่บอก ได้แก่บอกหนทางให้ว่า ทำอย่างนี้นะ
นี่ทุกข์ นี่เหตุเกิดทุกข์ นี่ดับทุกข์ นี่หนทางดำเนินถึงทางดับทุกข์เรียก มรรค๘
เมื่อเราเข้าไปในมรรค ๘ ได้ เข้าไป เข้าขั้นอริยะ.......

 

สายธรรมของกองทัพธรรมจากพระอาจารย์มั่นคือหนทางหลุดพ้นจริงๆเลยครับ... (^___^)

 

เหรียญปั๊มพระสยามเทวาธิราช วัดป่ามะไฟ ถือว่าเป็นของดีราคาเบาครับ
คนปราจีนจะถือว่าเป็นหนึ่งในเหรียญที่หลวงพ่อเอียวัดบ้านด่านปลุกเสก
ราคาอยู่ในหลักร้อยถึงพันต้นๆแต่เนื่องจากมีความนิยมและเป็นเหรีบญที่พิธีดีจึงมีของปลอมออกมาให้ปวดใจมากมายเช่นกันครับ

 

กราบหลวงปู่โต๊ะ สวัสดีคุณพี,คุณนอร์.คุณตี่,น้องปูอันและสมาชิกทุกท่านครับ...

 

สวัสดีครับ พี่พี พี่เฉียงฟง คุณนอร์ และ พี่ๆ ทุกท่าน

ขอมาฟังด้วยคนนะครับ

 

...ธรรมะสวัสดีครับ ทุกๆท่าน
...คุยกันและเรียนรู้แลกเปลี่ยนเรื่องธรรมะ
...มีแต่ได้ กับได้ เป็นประโยชน์ที่สุดกับชีวิตคนเรา

 

กราบหลวงปู่โต๊ะ...และสวสัดียามเย็นๆทั้งสามท่านครับบบ ^^

องค์นี้เป็นเสมือนอนุสติไว้คอยย้ำเตือนให้ระลึกถึงหลวงปู่โต๊ะครับบบบ (แม้ไม่ทันหลวงปู่) ^^

 

...เยี่ยมแล้วคุณ นอร์

 

ขอบคุณครับคุณพี.....(^_^)



ผมชอบรูปนี้ครับบบบบ... ^^
มีโอกาศ..รบกวนนำพระหลวงปู่โต๊ะมาให้ชมกันบ้างนะคร้าบบบ.. ^^

 

กราบหลวงปู่ครับ ขอบคุณข้อมูลและธรรมะดีๆครับ

**"ไม่มีการให้ใดชนะการให้ธรรม"**

 

รูปนี้ผมทำขึ้นเองจาก photoshopcs2 ครับ
นำภาพสมมุติองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า+ ภาพหลวงปู่ฯ+ภาพกรอบพระมา retouch กัน
ใส่ effect ที่มือท่าน จะได้สร้างมโนภาพเวลาระลึกถึงท่านพร้อมๆกันครับ
****ส่วนที่ลงไปก่อนหน้านั่นของแท้ทั้งหมดไว้มีโอกาสจะ ถ่ายรูปที่มีทั้งหมดมาให้ชมกันครับ

 

รูปหลวงปู่ฯรูปนี้สวยครับ คุณ dacool น่าจะเป็นภาพสีน้ำมันหรือเปล่า

 

ตัดต่อภาพสวยและเนียนมากครับพี่พี... ^^

 

...มีใครเชื่อเรื่อง "พญานาค" บ้างมั๊ยครับ?????
...ธันวาคม 2553 ผมขับรถไปกันเองกับพี่น้องทัวร์วัดต่างๆในอีสานกัน
...เรียกว่าส่วนใหญ่แวะทำบุญพระธาตุตั้งแต่ ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม อุดรฯ หนองคาย
...แต่ที่น่าแปลกคือ หลังจากตัดสินใจจองทำบุญใหญ่ที่ "วัดป่าภูก้อน" กระจกส่องแสงแกะสลักรูปพระวิศวกรรมบานใหญ่(ปัจจัยมากที่สุดในชีวิต )
...พระวิหารพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี เพื่อน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลพิเศษ แด่ในหลวง ครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา
...ลงมาพักที่รีสอร์ท อำเภอสังคม หนองคายติดริมโขง
...ขณะถ่ายภาพเล่น อยู่ดีๆ คล้ายมีควันไฟที่เขาเผาหญ้าลอยมาเป็นภาพอย่างที่เห็น
...มีทั้งหัวหันมา และหัวหันกลับไปด้วยลักษณะคล้ายๆ พญานาค ขนลุกเลย
...หรือว่าเขามาอนุโมทนาบุญ ก็ไม่รู้ ซึ่งก็แปลกมากๆ โดยเฉพาะเหนือแม่น้ำโขง

 

ลองเข้าไปชมกันครับทริปทำบุญอีสาน
http://www.thailandoffroad.com/freestyle/freestyleboard/Question.asp?ID=10138

 

เป็นภาพที่อัศจรรย์มากครับคุณพี...โดยส่วนตัวเชื่อเรื่องแบบนี้ครับ... ^^

อนุโมทนาบุญด้วยครับ...เคยคิดไว้ว่าสักวันต้องไปกราบพระธาตุพนมให้ได้สักครั้งในชีวิต ^^

 

มาชมปูชนียมงคลของหลวงปู่โต๊ะที่ผมพอจะมีกันครับ