หลวงปู่โต๊ะกับวัยเบญจเพสของข้าพเจ้า

สวัสดี พี่น้ำพี
อ่่านเรื่องราวต่าง ๆ แล้วชวนติดตามและมีคติสอนใจผมคนหนึ่งก็อยากเป็นลูกหลานหลวงปู่โต๊ะ บ้างครับ

 

พระหลวงปู่โต๊ะที่ผมมี พระปิดตากนกข้าง วัดถ้ำสิงห์โตทองเท่านั้นเอง

 

...วัดถ้ำสิงห์โตทอง จ.ราชบุรี เป็นที่ๆหลวงปู่ฯท่านใช้เป็นที่บำเพ็ญธรรมเนื่องจากมีความเงียบสงบ
...ฉนั้นคุณถิรวุษ มีหลวงปู่ฯไว้บูชาก็ไม่น่าแตกต่างจากที่วัดประดู่ฉิมพลีหรอกผมว่านะ
...เพียงขอให้มีความศรัทธาต่อท่านด้วยความรู้สึกภายในใจด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่ใช่เพราะความนิยมในตลาดพระ
...เพราะหลวงปู่ฯมีเมตตาธรรมสูงช่วยเหลือดูแลลูกศิษย์ที่ให้ความเคารพศรัทธาท่านอยู่แล้ว
...ขอเพียงเชื่อมั่นและเป็นคนดีเท่านั้นเองครับ

 

...แรกๆผมยังตัดรูปหลวงปู่ฯ ที่คู่กับในหลวง กับเศษจีวรและผ้ายันต์
...เลี่ยมอย่างดี ยังรู้สึกว่าเหมือนมีท่านอยู่ด้วยตลอดเลยทุกอย่างอยู่ที่ใจเราระลึกถึงท่านตลอดเวลาเท่านั้นเอง

 

...ใบรายการพระเครื่องของหลวงปู่ฯผมยังเก็บไว้เลยในยุคนั้น

 

เหรียญปั๊มพระสยามเทวาธิราช วัดป่ามะไฟ 2518 ดูรายชื่อครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสก หลวงปู่ฯหมายเลข ๓ ครับ เผื่อใครมีจะได้รู้ประวัติ

 

อินทสุวัณณศิรวาท
จาก หนังสือ "ภาสุรธรรม" ฉบับประกาศเกียรติคุณ หลวงปู่โต๊ะ ๑๐๘ ปี
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร

นาม สมณหนึ่งผู้ พิริยพล
โต๊ะ ชื่อสมมุติตน แต่น้อย
ช่วง กาลผ่านเพียรผล ธรรมผ่อง
โชติ ช่วงเพียรเพชรพร้อย พร่างแพร้วพราวแสง

อินทสุวรรณโณพ้น ภัยทุกข์
เห็นเหตุแห่งทางสุข สงบแล้ว
นำธรรมถ่องทำนุก นรชาติ
เย็นร่มภิมณฑ์แผ้ว ผ่องสร้างทางสรรค์

สังวราภิมณฑ์เรือง สมณศักดิ์
หนุนแผ่ธรรมนำชัก เนื่องชี้
ใครใคร่ขอสิ่งใดจัก มอบสมเหตุ
ด้วยเมตตาธรรมนี้ ดุจสร้อยคล้องใจ

สานุศิษย์น้อมศิรวาท อริยคุณ
หลวงปู่ผู้การุญ เลิศล้ำ
สานุศิษย์เทิดทูน ไว้เหนือเศียรเกล้า
หลวงปู่คือพระแท้ เลิศล้ำกัลป์สมัย

 

ขออนุโมทนากับเจตนาอันเป็นกุศลที่มีต่อหลวงปู่โต๊ะและพุทธศาสนาของคุณพีด้วยครับ....(^__^)

 

หากเมื่อใดที่นึกถึงหลวงปู่โต๊ะ....ภาพนี้จะผุดขึ้นมาเป็นภาพแรกเสมอ..... ^^

 

[
...ผมมีโครงการไว้ในใจ อยากหาเงินบริจาคเข้าวัดประดู่ฉิมพลี
...เป็นการแสดงความกตัญญูตอบแทนคุณครูบาอาจารย์หลวงปู่โต๊ะ
...จากพระเครื่องของท่านที่มีอยู่โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
...นัดกันที่วัด หย่อนเงินทุกบาททุกสตางค์ลงตู้บริจาคที่วัด นั่นแหละ
...เพราะจริงๆมีพระเครื่องของหลวงปู่โต๊ะอยู่พอสมควร
...และยังเกจิอาจารย์ต่างๆอีกหลากหลายจริงๆ
...ก็เก็บไว้ในตู้เพื่อเชยชมเป็นความสุขเฉยๆไม่มีประโยชน์อะไร
...ถ้ากระจายออกไปสำหรับผู้ที่เคารพศรัทธาแล้วนำเงินเข้าวัดน่าจะมีประโยชน์กว่า
...กำลังคิดอยู่ว่าจะมีวิธีการอย่างไรดี แต่คงเฉพาะบุคคลทั่วๆไปที่ต้องการมีไว้บูชา(ขึ้นคอ)
...จะได้มีของดีๆไปใช้กันไม่ใช่นำไปดันราคาในตลาดพุทธพาณิชย์
...เอากำไรไปเลี้ยงปากเลี้ยงท้องกัน อย่างนั้นผิดวัตถุประสงค์
...ส่วนเมื่อไรคงต้องติดตามกันต่อไป
...เพราะที่บ้านไม่มีใครสืบทอดเจตนารมณ์รักษาไว้ได้
...มีลูกสาวคนเดียวก็ไม่ค่อยสนใจสักเท่าไร
...เขาห้อยหลวงปู่โต๊ะที่ให้ไปอยู่แล้ว
...ตอนนี้อยู่อเมริกาคนละซีกโลกกันเลย
...มีความคืบหน้าเรื่องนี้อย่างไรแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ[/QUOTE]
อนุโมทนาบุญด้วยครับพี่

 

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
คัดข้อความบางส่วนจาก หนังสือ "ภาสุรธรรม" ฉบับประกาศเกียรติคุณ หลวงปู่โต๊ะ ๑๐๘ ปี
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร

หลวงปู่สามารถหยั่งรู้จิตใจคน ว่าผู้นั้นๆ จะต้องเทศน์สั่งสอนวิธีไหน
ใช้ธรรมะระดับไหนและหัวข้อใดจึงจะซึมซาบเข้าไปในจิตของคนทั่วไปได้
ดังข้อความบางตอนที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรได้ถวายพระธรรมเทศนา
ในงานบำเพ็ญพระราชกุศลถวายหลวงปู่ ณ วัดเบญจมบพิตร ๒๔ ก.ค. ๒๕๒๔
ข้าพเจ้าทราบดี เพราะครั้งหนึ่งที่หลวงปู่ไปอาพาธที่ ร.พ.จุฬาฯ
ข้าพเจ้าได้มีบุญไปจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาพระรัตนตรัยถวายพร้อมกับอัญเชิญพระพุทธรูป
จากสวนจิตรลดาไปประดิษฐานที่โต๊ะหมู่บูชาและได้พับดอกบัวสัตบงกช
ให้แย้มกลีบมากน้อยต่างๆกันไป ข้าพเจ้าเองรักที่จะบูชาพระรัตนตรัยด้วยดอกบัวชนิดต่างๆ
เนื่องด้วยพระสงฆ์ที่ท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติตรงตามพระธรรมวินัย ปฏิบัติชอบ เคยเล่าว่า
พระพุทธองค์เปรียบคนเสมือนดอกบัวในสภาวะต่างๆ ดอกบัวที่โผล่ขึ้นมาแย้มเหนือน้ำ
ได้รับแสงสว่างของดวงอาทิตย์ ดอกที่เพิ่งผุดปริ่มน้ำ บางดอกที่อยู่ในตมตกเป็นอาหาร
ของเต่าเสียก่อนที่จะได้มีโอกาสโผล่ขึ้นมา เมื่อมาคิดพิจารณาย้อนหลังไปจึงได้ทราบลึกซึ้งลงไปว่า
หลวงปู่มีเมตตาสูงมากต่อสัตว์โลกทั้งหลาย ท่านยอมเข้ามารักษาที่ ร.พ. จุฬาฯ
ก็เพราะอยากให้ข้าพเจ้าใจสบายว่าได้มีโอกาสสร้างกุศลคุณงามความดีรวมทั้งโต๊ะหมู่บูชา
พระรัตนตรัยถวายนั้น ด้วยหลวงปู่เองท่านเคยนั่งปฏิบัติธรรมในป่าในถ้ำมาตลอด
มาอาพาธเพียง 10 กว่าวันนั้น โต๊ะหมู่บูชาพระพุทธรูปนั้นก็ดูไม่สำคัญยิ่งยวดอะไรสำหรับท่าน
แต่เพราะพระเมตตาคุณของท่านที่อยากจะให้ข้าพเจ้าปลาบปลื้มใจว่าได้ทำบุญกับพระสาวกของพระพุทธองค์
เพราะความรู้สึกรู้ว่าได้ทำความดีนั่นเองที่จะทำให้จิตใจเป็นสุขที่สุด ขณะที่ใจเป็นสุขนั่นเอง
แหละที่จิตของตนเองเป็นกุศลจิตขึ้นทันที ทุกๆครั้งที่ข้าพเจ้าจัดดอกบัวสัตบงกชไปถวายหลวงปู่
เวลาท่านอาพาธอยู่นั้น ท่านจะต้องกล่าวว่าดอกบัวนี้งามทุกครั้ง ........

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

 

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
คัดข้อความบางส่วนจาก หนังสือ "ภาสุรธรรม" ฉบับประกาศเกียรติคุณ หลวงปู่โต๊ะ ๑๐๘ ปี
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร

หลวงปู่สามารถหยั่งรู้จิตใจคน ว่าผู้นั้นๆ จะต้องเทศน์สั่งสอนวิธีไหน
ใช้ธรรมะระดับไหนและหัวข้อใดจึงจะซึมซาบเข้าไปในจิตของคนทั่วไปได้
ดังข้อความบางตอนที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรได้ถวายพระธรรมเทศนา
ในงานบำเพ็ญพระราชกุศลถวายหลวงปู่ ณ วัดเบญจมบพิตร ๒๔ ก.ค. ๒๕๒๔
ข้าพเจ้าทราบดี เพราะครั้งหนึ่งที่หลวงปู่ไปอาพาธที่ ร.พ.จุฬาฯ
ข้าพเจ้าได้มีบุญไปจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาพระรัตนตรัยถวายพร้อมกับอัญเชิญพระพุทธรูป
จากสวนจิตรลดาไปประดิษฐานที่โต๊ะหมู่บูชาและได้พับดอกบัวสัตบงกช
ให้แย้มกลีบมากน้อยต่างๆกันไป ข้าพเจ้าเองรักที่จะบูชาพระรัตนตรัยด้วยดอกบัวชนิดต่างๆ
เนื่องด้วยพระสงฆ์ที่ท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติตรงตามพระธรรมวินัย ปฏิบัติชอบ เคยเล่าว่า
พระพุทธองค์เปรียบคนเสมือนดอกบัวในสภาวะต่างๆ ดอกบัวที่โผล่ขึ้นมาแย้มเหนือน้ำ
ได้รับแสงสว่างของดวงอาทิตย์ ดอกที่เพิ่งผุดปริ่มน้ำ บางดอกที่อยู่ในตมตกเป็นอาหาร
ของเต่าเสียก่อนที่จะได้มีโอกาสโผล่ขึ้นมา เมื่อมาคิดพิจารณาย้อนหลังไปจึงได้ทราบลึกซึ้งลงไปว่า
หลวงปู่มีเมตตาสูงมากต่อสัตว์โลกทั้งหลาย ท่านยอมเข้ามารักษาที่ ร.พ. จุฬาฯ
ก็เพราะอยากให้ข้าพเจ้าใจสบายว่าได้มีโอกาสสร้างกุศลคุณงามความดีรวมทั้งโต๊ะหมู่บูชา
พระรัตนตรัยถวายนั้น ด้วยหลวงปู่เองท่านเคยนั่งปฏิบัติธรรมในป่าในถ้ำมาตลอด
มาอาพาธเพียง 10 กว่าวันนั้น โต๊ะหมู่บูชาพระพุทธรูปนั้นก็ดูไม่สำคัญยิ่งยวดอะไรสำหรับท่าน
แต่เพราะพระเมตตาคุณของท่านที่อยากจะให้ข้าพเจ้าปลาบปลื้มใจว่าได้ทำบุญกับพระสาวกของพระพุทธองค์
เพราะความรู้สึกรู้ว่าได้ทำความดีนั่นเองที่จะทำให้จิตใจเป็นสุขที่สุด ขณะที่ใจเป็นสุขนั่นเอง
แหละที่จิตของตนเองเป็นกุศลจิตขึ้นทันที ทุกๆครั้งที่ข้าพเจ้าจัดดอกบัวสัตบงกชไปถวายหลวงปู่
เวลาท่านอาพาธอยู่นั้น ท่านจะต้องกล่าวว่าดอกบัวนี้งามทุกครั้ง ........

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

 

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
คัดข้อความบางส่วนจาก หนังสือ "ภาสุรธรรม" ฉบับประกาศเกียรติคุณ หลวงปู่โต๊ะ ๑๐๘ ปี
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร
...หลวงปู่ฉันแต่ผักและผลไม้มาเป็นเวลาช้านานแล้วจะถวายของบำรุงจริงๆไม่ค่อยสะดวก
ท่านผอมมาก ถุงลมในปอดของท่านก็เสีย ท่านจึงไม่ค่อยได้เทศน์แม้แต่จะพูดเสียงท่านก็เบามาก
แต่มีสิ่งมหัศจรรย์มากอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านมีไข้สูงไม่มีกำลังเลย หมอและบุรุษพยาบาลบอกว่าท่านเพิ่งจะลุกนั่งตอนค่ำที่ข้าพเจ้าไปกราบ
ข้าพเจ้าได้ขอร้องท่านอย่าให้ท่านลุกนั่งเลยเพราะที่มานี้ก็มาอย่างลูกศิษย์อยากมีโอกาสได้รับใช้หลวงปู่
พอกราบแล้วข้าพเจ้าก็รีบไปทำความสะอาดที่โต๊ะหมู่บูชาซึ่งเป็นเฉลียงที่กั้นไว้เป็นห้องต่างหากเล็กๆ
รีบเปลี่ยนดอกไม้ เปลี่ยนธูปเทียนถวายใหม่ตั้งใจว่าจะรีบกลับเพราะท่านจะต้องเกร็งตัวอยู่อย่างนั้นทั้งๆที่ไข้สูง
พอคลานออกมาเห็นเจ้าประคุณหลวงปู่อยู่ในท่าสมาธิ ก็รีบก้มกราบหน้าเตียงของท่านขณะกำลังกราบนั้นเอง
หลวงปู่เทศน์โปรดทันที เสียงของท่านใหญ่กังวานดังมากดูราวกับเสียงนั้นมิใช่ออกมาจากลำคอของท่านเลย
เสมือนเสียงที่ก้องกระหึ่มสะท้อนมาจากในถ้ำแต่ชัดเจนมากทุกคำ ท่านเทศน์ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธองค์
พระปัญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ เทศน์นานอยู่ประมาณ ๔๐ นาทีแล้วท่านก็ประทานพร ข้าพเจ้ากราบลาท่านอีกครั้งแล้วรีบกลับ
จิตใจแจ่มใสเบิกบาน ชุ่มชื่นยิ่งนัก เสียดายไม่ได้มีเครื่องอัดเสียงของท่านไว้ในขณะนั้น
ลูกศิษย์ใกล้ชิดเล่าว่า ปกติวันๆมีคนไปกราบท่านมากแทบไม่มีเวลาจำวัด แต่หลวงปู่ท่านเมตตาล้นเหลือ
ใครมีทุกข์มุ่งหาท่านต้องได้รับกระแสเมตตาจากท่านถ้วนหน้า พวกเราทั้งหลายที่ยังมีกิเลสหนาแน่นยึดรูปกายของหลวงปู่
และรบกวนอยู่ตลอดเวลา ต่างคนต่างมุ่งนึกถึงเรื่องของตัวเองทั้งนั้น เจ้าพระคุณหลวงปู่ยอมผ่อนให้กับคนทุกประเภท
ท่านมุ่งให้ทุกคนมีจิตเบิกบานขึ้นตามวาระของเขาเหล่านั้นที่จะพึงทำได้
ใครอยากได้ธรรมะขั้นสูงสุดท่านก็ให้ ใครอยากได้โชคลาภ ขอน้ำมนต์ ขอพระจากท่าน ท่านก็ให้
แต่ท่านจะต้องเน้นให้ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยอยู่เสมอไม่ให้ก่อความชั่วเพิ่มขึ้น อยู่ใกล้หลวงปู่เข้า
รู้สึกว่าไม่มีศัตรูคู่อาฆาตเสียเลยมีแต่คนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ น่าสงสารเขาทั้งนั้น ถ้าเขาเหล่านั้นเกิดปัญญาขึ้นแล้ว
ก็จะไม่กระทำเช่นนั้นดอก อภัยให้เขาเถิดถ้าแม้นมีทุกข์โศกซึ่งไปกราบหลวงปู่ ท่านก็ว่าความทุกข์โศกเป็นของเก่าแก่
หลายร้อยหมื่นพันปี เป็นเรื่องของโลกเขาเรื่องทุกข์โศกเศร้าเสียใจนี่น่ะ แต่มีทางแก้
พระพุทธเจ้าของเราท่านพบทางพ้นทุกข์แล้ว และด้วยพระมหากรุณาธิคุณต่อมวลสัตว์โลกทั้งหลาย
จึงได้ทรงประดิษฐานพระบวรพุทธศาสนาขึ้นในโลกนี้ เพื่อให้พวกเราทั้งหลายได้มีโอกาสอยู่ในโลกนี้
ด้วยความทุกข์ทรมานที่น้อยที่สุด อยู่อย่างนี้ผู้ที่รู้จักเข้าใจเรื่องราวของโลกที่ดี ไม่ประมาท ลุ่มหลง มัวเมา จนพาตนไปสู่ความวิบัติ.........

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน<!-- google_ad_section_end -->

 

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
คัดข้อความบางส่วนจาก หนังสือ "ภาสุรธรรม" ฉบับประกาศเกียรติคุณ หลวงปู่โต๊ะ ๑๐๘ ปี
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร

....ในคราวที่เครื่องบิน บดท. ตกและท่านอาจารย์วันและพระอริยเจ้าผู้ร่วมเดินทางมากรุงเทพฯ
พร้อมกันหลายองค์มรณภาพหมด ข้าพเจ้ามีความทุกข์โศกมากกราบเรียนหลวงปู่ว่า
รู้แล้วว่าคนเรานั้นตายเมื่อไรก็ได้ทั้งนั้นแต่กลับไปคิดว่าพระอริยเจ้าทั้งหลายนั้นท่านปฏิบัติแต่กรรมดีเท่านั้น
เลยมิได้คิดว่าพระอริยเจ้าท่านจะต้องมาประสบอุปัตทวเหตุเช่นนี้ หลวงปู่กล่าวว่า โลกนี้เขาเป็นของเขาอย่างนี้แหละ
ไม่มีอะไรที่ยึดถือได้ว่าแน่นอน ถ้าคนเรามีศรัทธาว่าพระพุทธองค์ท่านหยั่งรู้ซึ้งถึงโลกนี้เป็นอย่างดี
ด้วยพระปัญญาคุณของพระองค์ท่านเอง พระองค์ทรงสงสารเมตตาสัตว์โลกว่าวนเวียนอยู่ในความทุกข์ทรมานไม่มีที่สิ้นสุด
พระพุทธองค์ได้ทรงพบทางพ้นความทุกข์โดยสิ้นเชิงแล้ว ด้วยพระปัญญาคุณ ทรงพระเมตตาบอกทางพ้นความทุกข์ให้แก่ทุกๆคน
จะไปหาที่ไหนอีกล่ะ ผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตาอันบริสุทธิ์ต่อมวลมนุษย์ เจ้าพระคุณหลวงปู่สอนข้าพเจ้าเช่นนี้
หลวงปู่หยั่งทราบได้ว่าสำหรับข้าพเจ้านั้นพระพุทธองค์คือ องค์พระประทีปแก้วของสัตว์โลกทั้งปวง
และข้าพเจ้าเองนั้นมีบุญเหลือหลายที่ได้ฟังพระธรรมจากพระอริยสาวกของพระบรมโลกนาถเจ้าเอง.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ขอบคุณคุณพี..ที่ได้นำเรื่องราวดีๆอันเกี่ยวกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์และหลวงปู่โต๊ะมาให้อ่านกัน...

หลวงปู่โต๊ะท่านมีความเมตตาสูงยิ่งครับ...ขนาดท่านป่วย..ก็ยังต้อนรับลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปที่มีความทุกข์ร้อนเสมอ..

 

เหรียญที่ออกวัดพระธาตุสบฝางหลวงปู่ได้ปลุกเสกใหมครับ อยากรู้ประวัติการสร้างครับ เพราะมีอยู่1เหรียญ ช่วยตอบด้วยนะครับ ศรัทธาหลวงปู่เหมือนกันครับ

 

...เรื่องของประวัติพระเครื่องที่ วัดพระธาตุสบฝาง อ.แม่อาย เชียงใหม่
...ที่หลวงปู่โต๊ะท่านเคยไปบำเพ็ญธรรม ที่นั่นแม้อาจจะไม่บ่อยนัก
...ต้องบอกว่าไม่ทราบจริงๆครับ แต่ขึ้นชื่อ วัดพระธาตุ
...ปกติก็มีความศักดิ์สิทธิ์ชัดเจนอยู่แล้ว
...ฉนั้นจงมั่นใจว่า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
...ย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์ในการดำเนินการอยู่แล้วครับ

 

ขอบคุณมากครับที่ช่วยตอบครับ เหรียญพระสยามวัดป่าไฟผมมีอยู่1เหรียญเหมือนกันครับ

 

...เหลือเฟือแล้วครับ ที่เหลือระลึกถึงหลวงปู่ฯบ่อยๆจนจำแม่นในหัวใจ
...ก้าวต่อไป คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี รักษาศีล๕ ไม่ตกอบายภูมิแน่ๆครับ

***แนะนำพระสยามเทวาธิราช ปิดทองคำเปลวหรือพ่นสีทอง(พิเศษ)สำหรับพระพุทธรูปแล้วเลี่ยมใส่คอสวยงามมากครับ

 

วรคุณานุโมทนา
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (สมเด็จพระญาณสังวร)
คัดข้อความบางส่วนจาก หนังสือ "ภาสุรธรรม" ฉบับประกาศเกียรติคุณ หลวงปู่โต๊ะ ๑๐๘ ปี
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร

...เทศนาธรรมคำสอนในการเจริญกรรมฐานที่ท่านได้แสดงไว้ด้วยมีกุศลเจตนามุ่งให้เกิดความสุขสงบแก่ผู้สามารถรับไปปฏิบัติได้จริง
การสนองพระคุณของท่านที่แท้จริงจึงอยู่ที่การปฏิบัติตามที่ท่านเหนื่อยยากสอนไว้ สิ่งใดที่ท่านสอน
สิ่งนั้นท่านอัญเชิญที่สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้มาบอกต่อ ด้วยมีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย
สำนึกในพระคุณของท่าน คิดถึงท่าน จะพบท่านได้ก็ต่อเมื่อปฏิบัติตามท่าน
หลวงปู่โต๊ะนั้นเมื่อเอ่ยถึงท่าน ภาพที่ปรากฎชัดเจนในใจคือภาพของสมณะผู้สงบงดงามเป็นมงคลแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง
และด้วยความรู้สึกจริงใจ ท่านมิใช่ผู้สงบภายนอกให้ใครๆเห็นเท่านั้น ภายในของท่านย่อมสงบด้วย นี้เป็นมงคลยิ่งใหญ่แก่องค์ท่าน
แม้ภูมิใจที่จะอ้างว่าเป็นศิษย์ของท่าน ก็ต้องตั้งใจรับมงคลจากท่านให้ได้ ดำเนินตามท่าน ทำกาย วาจา ใจ ให้สงบ
เพื่อได้พบท่าน ได้มีมงคลที่ได้รับจากท่านได้ แม้เมื่อท่านจากไปแล้วนานเพียงใด

ประธานดำเนินการงาน ๑๐๘ ปีหลวงปู่โต๊ะฝ่ายบรรชิต
กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๘