หลวงปู่พิบูลย์ถูกถ่วงน้ำไม่ตาย

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย มากับพระครับ, 26 ตุลาคม 2009.

  1. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ยังไม่ได้เข้าไปซื้อตะกั่วเยย เกี๊ยกจาไปรับท่านมาวันที่ ๗ ก็ได้นะ เด๋วพี่โทรไปอาราธนาได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2010
  2. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    งานเสาร์๕มหาเศรษฐีต้องมาน้า...เพราะเป็นงานตอนเย็นไปตลอดคืน
     
  3. ksriuta

    ksriuta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,049
    ค่าพลัง:
    +2,966
    ขอแสดงความยินดีกับคุณฟ้าด้วยนะครับ
     
  4. odinid

    odinid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +878
    งานเสาร์๕มหาเศรษฐีนี่จัดที่ไหนครับพี่เอก
     
  5. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    น่าจะทุ่งครุนะ
     
  6. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ขอบคุณทุกท่านแทนคุณฟ้าด้วยครับ
     
  7. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    มีข่าวจากทางเชียงใหม่มาแจ้งครับ

    แมงวันคำครูบาธรกำลังฮือฮา เอกพุทธผดุงนำไปให้ชาวอ.เมืองบูชาที่ตลาดทิพเนตร ปรากฏว่าเกิดประสบการณ์เพียบ และที่พุ่งกระฉูดเลยยิ่งกว่าคือบรมครูปู่ฤาษีพัดโบกมีคนมาถามหากันตลอดจนโก๋ต้องนำจากวัดปางต้นเดื่อลงไปให้ร้าน เอก พุทธผตุงและบุญบารมีแม็คโครซุปเปอร์ พร้อมละงั่งครูบาแม้ว ใครที่อยู่เชียงใหม่ไปวัดปางต้นเดื่อ อ.แม่อาย ไม่ไหว ไปบูชาที่ร้านทั้งสองได้เลย ของมาจากวัดครับ
     
  8. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    แมงวันคำนั้นนอกจากจะดีทางมหาเสน่ห์แล้วยังออกค้าขายอีกด้วย สงสัยมาจากเคล็ดเรื่องสารฟีโรโมนที่ดึงดูดเพศตรงข้ามแถมดึงดูดลูกค้าอีก แปลกมากวิชานี้ ที่แปลกคือคนเหนือรู้จักแมงวันสเปนก่อนฝรั่งหรือฝรั่งรู้ก่อน
     
  9. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ข่าวใหม่ หลวงปู่หริป่วยอีกแล้วเป็นหวัดคราวแล้วยังไม่ค่อยหายเลย นี่ไข้ขึ้นอีก
     
  10. K_P

    K_P เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,151
    ค่าพลัง:
    +3,536
    ขอให้พระรัตนตรัย และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งมวลช่วยให้หลวงปู่หริหายจากโรคภัยไวๆด้วยเถิด

    พี่เอกเกี๊ยกคงไปรับไม่ได้หรอกครับเพราะเกี๊ยกขี่แมงกะไซค์ แว้นๆๆ
     
  11. ratsung

    ratsung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,354
    สวัสดีครับพี่เอก และขอแสดงความยินดีกับคุณฟ้าด้วยครับ<!-- google_ad_section_end --> โดนไข้หวัดใหญ่เล่นงาน ๒ วันหลังจากไปเฝ้าเด็กมา ๕ วัน
     
  12. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    อ๊ะอ๊ะ....ไปเฝ้าเด็กที่ไหนเอ่ย...
     
  13. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    เหมือน..โก๋เอี่ยมรึป่าว..ช่วงนี้แมงวันคำทำงานอีกแย้ว...เลยหายไปเฝ้าเด็ก ๒-๓วัน เด๋ววันที่ ๗ ลงมากะครูบาธร ให้เพื่อนๆตรวจสภาพเอาเอง..555.
     
  14. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ช่างผู้หญิงตัดผมชายร้านป๋าเอาแมงวันคำไปพกอธิษฐาน ขอให้ลูกค้าที่ช่างแอบชอบให้มาหา วันรุ่งขึ้นมาตัดผมเลย
     
  15. odinid

    odinid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +878
    วันที่ 7 มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะครับ
     
  16. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ขอบคุณครับ ถ้าช่วยประชาสัมพันธ์ในเวปอื่นๆได้จะดีครับ
     
  17. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    เอาเบี้ยแก้เผื่อหนูด้วยน้า
     
  18. buakaew2007

    buakaew2007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,410
    ค่าพลัง:
    +6,221
    เอาไว้ใกล้ๆก่อนดิ บอกตอนนี้เดี๋ยวลืม
     
  19. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
    ครูบาศรี วัดป่าบุก ป่าซาง

    [​IMG]

    รูปแบบนี้หาไม่ได้ง่ายครับ แถมมียันต์ด้านหลัง นโมพุธธายะ

    ด้านหน้า มีคำว่า ครูบาศรีอริยวังโส วัดป่าบุก อ.ป่าซาง ลพ.(กลับด้าน)

    รูปเป็นบล็อคเดียวกับเหรียญครับ

    รูปนี้ออกจากวัดมาประมาณปี13 ก่อนเหรียญ ซึ่งผมได้ข้อมูลจากคนพื้นที่เล่ากันว่า เป็นรูปที่ปล็อดเอาแค่รูปครูบาศรีป่าบุก ซึ่งครูบาศรีได้ถ่ายร่วมกับคณะไว้แล้วประมาณปี 2480

    ประวัติโดยย่อเอามาฝากครับ

    ท่านครูบาศรี อริยวังโส นามเดิมชื่อ ศรีวงษ์ จันทร์แรง เกิดวันเสาร์ 10 ธันวาคม 2440 ณ บ้านต้นผึ้ง ม.3 ต.แม่แรง อ.ปากบ่อง(ปัจจุบัน อ.ป่าซาง) จังหวัดลำพูน ครูบาศรีเป็นเด็กวัดได้ 1 ปี เมื่ออายุย่างเข้า15 ปี พ.ศ. 2455 ก็บวชสามเณรที่วัดป่าบุก โดยมีพระครูวัดสันกำแพงงาม ต.มะกอก อ. ป่าซาง เป็นพระอุปัชฌาย์

    ท่านครูบาศรีเป็นสามเณรได้ 5 ปีเมื่ออายุครบ 20 ปี พ.ศ. 2460 ตรงกับสงครามโลกครั้งที่ 1 ท่านครูบาศรีก็ได้อุปสมบทเป็นภิกษุ ณ พัทธสีมาที่อุโบสถวัดดอนตอง มีท่านพระครูวัดดอนน้อยเป็นกรรมวาจาจารย์ พระอธิการแสน ณาณวุฒิ วัดหนองเงือกเป็นอนุสาวนาจารย์ หลังจากเป็นเป็นภิกษุแล้วท่านก็ได้ศึกษาธรรมะและปฎบัติธรรมะวินัยอย่างเคร่ง ครัด

    อนิจจาวตสังขารา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ท่านครูบาศรีรู้ตัวว่าจะมีอายุไม่ถึง 60ปี จะต้องตายแน่นอน เนื่องจากโรคริดสีดวงทวารมันกำเริบมากทุกวัน เหลือทนที่จะอยู่ต่อไปได้ พญามัจจุราชก็รีบเร่งให้ปลงสังขารเข้าสู่นิพพานเสียเถิด ก่อนมรณภาพวันที่ 20 ก.พ 94

    เก็บศพได้ 7 วันเกิดอภินิหาริย์ คณะศรัทธา ครูบาอาจารย์ศิษยานุศิษย์ก็ได้ทำพิธีเก็บศพท่านครูบาศรีไว้ที่กุฏิซึ่งเป็น ที่นอนเดิมของท่าน พอถึงวันที่ 28 ก.ค 2494 ไมพระภิกษุสามเณรที่อยู่ที่วัดก็ได้ทำวัตรเย็นบนกุฎิ ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นและมีแสงสว่างไสวไปทั่วกุฏิเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ทำให้พระภิกษุสามเณรทั้งหลายพากันตกตลึงไปตามๆกัน จึงพากันวิ่งออกมาดูก็เห็นเป็นแสงสีเขียวขาวพุ่งขึ้นสูอากาศ แล้วก็ลอยไปทางตัวเมืองลำพูน ทิศตะวันออกแล้วก็หายไป พอถึงวันเดือนเพ็ญหรือเดือนดับขึ้น 15 ค่ำ และแรม 15 ค่ำ ก็มักจะมีแสงสว่างพุ่งขึ้น จึงเป็นที่ประหลาดกับผู้ที่ได้พบเห็น ว่าเป็นธาตุของท่านครูบาศรีนั่นเอง ท่านเป็นอรหันต์แล้ว คณะศรัทธาจึงประชุมตกลงกันเก็บศพของท่านครูบาศรีไว้นานถึง 8 เดือนเศษ

    เกิดอภินิหาริย์มีแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนประชุมเพลิง 1 วัน

    ประชุมเสร็จ อัฐิกลายเป็นพระธาตุ ส่วนกระดูกของท่านบางชิ้นก็เกิดเป็นแก้วไปหมดเช่น กระดูกมือ กระดูกเท้าเกิดกลายเป็นแก้วไปหมด แก้วนั้นมีสีคล้ายกับยางไม้ฉำฉา(ก้ามปู) สีเหลืองๆหม่นๆ เดี๋ยวนี้ยังเก็บใส่หม้อบรรจุไว้บนหอสรงน้ำนั่นเอง เวลานี้อัฐิของท่านที่กลายเป็นธาตุมี 250 ดวง (เม็ด) มีใหญ่บ้างเล็กบ้าง ทางคณะศรัทธาจึงจัดให้มีงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุของท่านครูบาศรี ตรงกับเดือน 9 เหนือ ขึ้น 12-13 ค่ำเป็นประจำทุกปี ฯลฯ
     
  20. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
    [​IMG]

    ประวัติของหลวงปู่ปัน โพธิรังสี
    (อายุ 102 ปี พรรษา 80)

    หลวงปู่ปัน โพธิรังสี เป็นคนลำพูน เกิดเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2435 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 (เหนือ) ปีมะโรง ณ บ้านสันดอนรอม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โยมบิดาชื่อ นายเฮือน โยมมารดาชื่อ นางเป็ง บัวทิพย์ทอง นามเดิมของหลวงปู่ปัน คือ ปัน บัวทิพย์ทอง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 12 คน เรียงตามลำดับดังนี้

    1.พ่อหลวง วุฒิทอง สมรสกับ แม่คำ มีบุตร 2 คน คือ นายสม วุฒิทอง และ นาง
    น้อย อินต๊ะประเสริฐ

    1.แม่เอ้ย บัวทิพย์ทอง
    2.แม่จา ผดุงฐาน สมรสกับ พ่อทา มีบุตร 1 คน คือ นายอมร ผดุงฐาน (พี่หนานคำ)
    3.แม่ปัก บัวทิพย์ทอง
    4.แม่แหวง บัวทิพย์ทอง
    5.แม่เปี้ย ตาวงศ์ สมรสกับ พ่อแก้ว ไม่มีบุตร
    6.พ่อมา บัวทิพย์ทอง
    7.แม่ป้อ บัวทิพย์ทอง
    8.แม่ปั่น ตาสุวรรณ สมรสกับ พ่อปัน มีบุตร 2 คน คือ นายแก้ว ตาสุวรรณ และ
    นางบัวเขียว ชิตทะวงศ์

    1.แม่นวล ยศยิ่ง สมรสกับ พ่ออิ่น มีบุตร 3 คน คือ แม่ชีบัวผัด ไชยรังสี , ครูบัว
    ลอย ยศยิ่ง และ นางสาวจันทร์แก้ว ยศยิ่ง

    1.หลวงปู่ปัน โพธิรังสี เจ้าของประวัตินี้เอง
    2.แม่เฝือ บัวทิพย์ทอง สมรสกับ พ่อหนานจันทร์ มีบุตรด้วยกัน 5 คน คือ นายฟั่น
    หม่องพะสั่น, นางบุญณพ ดวงสว่าง, นางศรีจันทร์ บัวทิพย์ทอง, นางสมศรี บิลอารีย์ และ นางศรีพรรณ บัวทิพย์ทอง
    หลวงปู่ปัน เป็นลูกชาวนามาแต่กำเนิด ต้องช่วยพ่อแม่พี่น้องทำนาเลี้ยงควายด้วย และ
    กำพร้าบิดามารดามาแต่เล็กๆ ต้องอยู่ในความปกครองของพี่ชายและพี่สาว ต่อมาเมื่ออายุได้ 14 ปี ได้เข้าศึกษาเล่าเรียนอักษรลานนาที่วัดสันดอนรอม ซึ่งมีครูบามาในขณะนั้นเป็นผู้สอน จนสามารถอ่านออกเขียนได้อักษรลานนา
    บรรพชา หลวงปู่ปัน ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี ก็ประมาณ พ.ศ. 2450 ที่วัดสันดอนรอม โดยมีครูบามาเป็นพระบรรพชา ให้ท่านอยู่วัดสันดอนรอม ไม่นานก็ย้ายไปอยู่วัดประตูลี้ หรือ วัดสังฆาราม ปัจจุบันนี้ ต่อมาพี่น้องของหลวงปู่ปันได้ขอร้องให้สึกเพื่อไปช่วยกันทำนา เพราะทางบ้านยากจนมาก แต่หลวงปู่ปันไม่สึก ได้ย้ายไปอยู่วัดชัยมงคล ขณะนั้นครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งลานนาไทย ได้มาเป็นประธานสร้างวิหารและเจดีย์พอดีท่านจึงถือโอกาสไปช่วยงานจนกระทั่งอายุล่วงเข้า 22 ปี จึงได้อุปสมบท
    อุปสมบท หลวงปู่ปัน เป็นคนยากจนจึงไม่ได้อุปสมบทในเวลาอันควร เจ้าราชภาติกวงศ์เห็นว่า หลวงปู่ปันเป็นเณรโข่งก็สงสาร จึงเป็นเจ้าภาพอุปสมบทให้ โดยมี ครูบากัณฑา วัดพระธาตุหริภุญไชย ลำพูน เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีครูบากัณฑะวงศ์ กับ ครูบาตัน เป็นคู่สวด ท่านได้จำพรรษาอยู่วัดไชยมงคลหลายพรรษา จึงออกเดินทางมาอยู่จังหวัดตาก
    จาริกแสวงบุญ หลวงปู่ปัน ออกจากลำพูนมุ่งสู่จังหวัดลำปาง ต้องเดินทางผ่านดอยขุนตาลมา จนถึงจังหวัดลำปาง ได้พบกับหลวงปู่ฟ้าเยื้อนกำลังจะเดินทางไปนมัสการพระธาตุตะโก้ง ประเทศพม่าก็ขอเดินทางไปด้วย โดยเดินทางผ่านจังกวัดตากและเข้าประเทศพม่าทางอำเภอแม่สอด เมื่อไปนมัสการพระธาตุตะโก้งแล้ว ก็อยู่ในพม่าอีกหลายเดือน และได้กลับมาจังหวัดตาก ก่อนจะเข้าพรรษาในปีนั้นและได้กลับมาจำพรรษาอยู่วัดพร้าว อำเภอเมืองตาก จากนั้นไปวัดดงยาง อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก 1 พรรษา ต่อมาได้ไปอยู่วัดป่ายางกิ่ง อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เมื่อเจ้าอาวาสวัดดงยางมรณภาพไป ทางวัดได้นิมนต์หลวงปู่ปันไปรักษาการแทนเจ้าอาวาสระยะหนึ่ง ต่อมาเมื่อทางวัดมีเจ้าอาสาวแล้ว หลวงปู่ปันก็ได้รับนิมนต์ไปอยู่วัดหัวบ้าน อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก (ขณะนี้เป็นวัดร้างไปแล้ว) ท่านอยู่ 2 พรรษาก็ป่วยเป็นไข้มาเลเรีย พระครูอินตา วัดป่ายางไปรับเอามารักษาตัวอยู่วัด แม่ยะ เมื่อหายดีแล้วก็เลยจำพรรษาอยู่ วัดแม่ยะ และอยู่ต่อมาจนกระทั่งเจ้าอาวาสวัดแม่ยะมรณภาพลง ท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสแทนจนถึงปัจจุบันนี้ และได้มรณภาพที่วัดนี้สิริรวมอายุ 102 ปี พรรษา 80 รวมเวลาที่จำพรรษาที่วัดแม่ยะนี้ 64 ปี
    การศึกษา หลวงปู่ปัน ชอบการศึกษาหาความรู้ทั้งทางอักษรศาสตร์โหราศาสตร์ และไสยศาสตร์ สมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนต้องไปหาครูเรียนที่วัด ท่านเรียนอักษรลานนา เมื่อบวชแล้วก็สวดปาฏิโมกข์ได้แม่นยำ สามารถสอนอักษรลานนาให้ลูกศิษย์ได้จำนวนมาก ท่านเดินทางไปพม่าหลายครั้ง ได้วิชาไสยาศาสตร์และโหราศาสตร์มาจากพม่า สามารถพูดภาษาพม่าได้ นอกจากนี้ยังมีความรู้ทางแพทย์แผนโบราณ ปรุงยาสมุนไพรช่วยรักษาผู้ป่วยได้ จนเป็นที่เลื่องลือของคนในละแวกนั้น
    ด้านการอบรมสั่งสอน ท่านได้อบรมศีลธรรม จารีตประเพณีให้แก่ศรัทธาประชาชนทั่วไป ตลอดจนญาติพี่น้อง จนทำให้การอบรมของท่านได้ผล ศรัทธาวัดแม่ยะ และหมู่บ้านใกล้เคียงใจบุญสุนทานมีความประพฤติปฏิบัติดี มีความสามัคคีกัน โจรผู้ร้ายไม่มีทุกคนมีความเชื่อถือในหลวงปู่ปันมาก ลูกศิษย์ของท่านเคารพยำเกรงขยันหมั่นเรียน จนเรียนจบชั้นสูงๆ ก้าวหน้าในการงาน บางคนได้ไปทำงานต่างประเทศ นำความผาสุกมาสู่ครอบครัว หมู่บ้านแม่ยะ จึงเป็นหมู่บ้านแผ่นดินทองแผ่นดินธรรมโดยแท้
    ด้านสาธารณูปการ หลวงปู่ได้ร่วมกับศรัทธาประชาชนสร้างศาสนสถานหลายอย่าง เช่น วิหาร ศาลาธรรม ศาลาบาตร กุฏิหอระฆัง ห้องสรงน้ำ กำแพง ของวัดแม่ยะ ช่วยทะนุบำรุง โรงเรียนวัดแม่ยะ สุขศาลาบ้านแม่ยะ ให้ทุนการศึกษานักเรียนยากจน สร้างศาลาของฌาปนสถานบ้านแม่ยะ เป็นต้น
    หลวงปู่ท่านมีความเมตตา กรุณา โอบอ้อมอารี ท่านช่วยเหลือผู้ที่มาของความช่วยเหลือเสมอ แม้ชาวเขาก็เคยลงมาขอความเมตตาจากท่านอยู่เสมอ แม้ว่าท่านจากลำพูนมานานแล้ว ท่านก็ยังไม่ลืมได้ไปทอดผ้าป่าทางโน้นอยู่เนืองนิตย์ ก่อนท่านจะมรณภาพ ท่านได้บริจาคเงินจำนวนหนึ่งช่วยสร้างเจดีย์วัดสังฆารามด้วย จึงนับว่าหลวงปู่ของเราเป็นนักบุญโดยแท้ ที่พวกเราจะลืมไม่ได้
    วาระสุดท้ายของชีวิต หลวงปู่ปัน ได้ป่วยด้วยโรคชรามีอาการอ่อนเพลีย และได้มรณภาพลงเมื่อวันที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 สิริรวมอายุได้ 102 ปี ขอดวงวิญญาณหลวงปู่จงสถิตสถาวรอยู่ในสรวงสวรรค์ทิพย์วิมาน เทอญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...