สัพเพเหระ

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย phanbuaphet, 4 ธันวาคม 2011.

  1. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    [​IMG]

    [​IMG]

     
  2. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2012
  3. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    [​IMG]



    [​IMG]
     
  4. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  5. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    [​IMG]
    one and only



    Have I told you lately that I love you
    Have I told you there's no one else above you
    Fill my heart with gladness, take away all my sadness
    Ease my troubles, that's what you do

    For the morning sun and all its glory
    Meets the day with hope and comfort too
    You fill my life with laughter, somehow you make it better
    Ease my troubles, that's what you do

    There's a love that's defined
    And it's yours and it's mine like the sun
    And at the end of the day
    We should give thanks and pray to the one, to the one

    Have I told you lately that I love you
    Have I told you there's no one else above you
    Fill my heart with gladness, take away all my sadness
    Ease my troubles, that's what you do

    There's a love that's defined
    And it's yours and it's mine like the sun
    And at the end of the day
    We should give thanks and pray to the one, to the one

    And have I told you lately that I love you
    Have I told you there's no one else above you
    You fill my heart with gladness, take away my sadness
    Ease my troubles, that's what you do

    Take away all my sadness, fill my life with gladness
    Ease my troubles, that's what you do
    Take away all my sadness, fill my life with gladness
    Ease my troubles, that's what you do

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.3011633/[/MUSIC]​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2013
  6. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    นิทานบำเพ็ญธรรมยุคโบราณ


    เรื่องที่ 1
    ยกเลิกประเพณีที่ไร้คุณธรรม

    ณ.เมืองสารนาถในประเทศอินเดียสมัยโบราณ มีประเพณีที่ไร้คุณธรรม ซึ่งชาวเมืองยึดถือปฏิบัติอยู่อย่างหนึ่ง กล่าวคือ หากผู้เป็นพ่อหรือหัวหน้าครัวมีอายุครบ 60 ปีแล้ว ก็จะได้รับมอบรองเท้าเก่า ๆ ขาด ๆ แล้วไปทำหน้าที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูบ้าน

    ในเวลานั้นพี่น้องสองคน พ่อของพวกเขาอายุล่วงเลย 60 ปีไปแล้ว วันหนึ่งผู้เป็นพี่จึงสั่งน้องชายว่า "เธอจงไปเอารองเท้าเก่า ๆ คู่หนึ่งมาให้พ่อใส่ แล้วพาไปนั่งเฝ้าประตูเสียซิ ! "

    น้องชายของเขาไม่พูดอะไร นอกจากเดินเข้าไปหยิบรองเท้าเก่ามาหนึ่งคู่ แต่ทว่าขณะเดียวกันก็ถือมีดใหญ่มาด้วย ไม่ทันที่พี่ชายจะถามไถ่ ผู้เป็นน้องจัดแจงเอารองเท้าเก่าวางซ้อนกัน แล้วใช้มีดสับลงอย่างแรง มีดที่คมกริบตัดรองเท้าออกเป็น 2 ซีก ! พี่ชาย เห็นน้องกระทำเช่นนั้นจึงเอะอะว่า

    "เธอตัดรองเท้าทำไม ? ทำไมไม่เอาไปให้พ่อดี ๆ ล่ะ?" น้องชายหันมาตอบว่า
    "ในบ้านเราเหลือรองเท้าเก่า ๆ อยู่คู่เดียว ถ้าไม่ตัดเก็บไว้ครึ่งหนึ่ง หากวันหน้ามีคนต้องใช้แล้วจะเอาที่ไหน?" พี่ชายจึงย้อนถามว่า
    "เธอคิดว่าจะเอาให้ใครใช้อีกล่ะ ?" น้องชายตอบว่า
    "อ้าว...แล้วตัวพี่ละ!...ไม่มีวันที่จะแก่ลงหรอกรึ? เมื่อเวลานั้นมาถึง ลูกชายของพี่ก็ต้องหารองเท้าเก่าๆมาให้พี่ใส่ แล้วพาไปนั่งเฝ้าประตูบ้านเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ฉันจึงแบ่งรองเท้าไว้ครึ่งคู่ เพื่อว่าวันข้างหน้าพี่จะได้ใช้ไงล่ะ"

    พี่ชายถึงกับตกตะลึง ยืนงงอยู่พักใหญ่แล้วรำพึงว่า "ต่อไปภายหน้า ต้องถึงคราวฉันแล้วรึ?" น้องชายสำทับว่า
    "ถ้าพี่ไม่ไปเฝ้าประตู แล้วใครเฝ้าล่ะ ! "
    ผู้เป็นพี่ชายได้แต่นิ่งเงียบ น้องชายจึงกล่าวว่า

    " ประเพณีที่ไร้คุณธรรม อันเป็นการอกตัญญต่อพ่อแม่เช่นนี้ ไม่ควรเลยที่จะสืบทอดกันต่อไป"
    จากนั้นสองพี่น้องจึงพากันเดินทางเข้าวัง เพื่อชี้แจงและแจ้งเรื่องนี้ให้ท่านอัครเสนาบดีทราบ ต่อมาท่านอัครเสนาบดีได้นำความขึ้นกราบถวายบังคมทูลต่อพระเจ้าแผ่นดิน
    ไม่นานจึงมีพระราชโองการ ให้ยกเลิกประเพณีที่ไร้คุณธรรมนี้เสียโดยเด็ด
    ขาด
     
  7. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    <CENTER>เรื่องที่ 2
    ประเพณีฝังคนแก่ทั้งเป็น
    </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER>หมู่บ้านแห่งหนึ่งในสมัยโบราณชายยากจน ผู้ซึ่งในบ้านต้องอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกชายหญิงหลายคน อีกทั้งยังมีพ่อแม่ที่แก่ชรามากให้ต้องเลี้ยงดู
    ต่อมาเกิดทุพภิกขภัยใหญ่ ทั่วทั้งหมู่บ้านขาดแคลนอาหารทุกครัวเรือนล้วนอดอยากแร้นแค้น แต่ละวันผู้คนอยู่อย่างทุกข์ยากลำบาก
    ชายยากจนจึงขุดหลุมแล้วนำพ่อแม่ที่ชราไปฝังทั้งเป็น ครั้นเพื่อนบ้านใกล้เคียงมาพบเห็น ก็ร้องถามด้วยความตกใจว่า
    "ทำไมแกถึง เอาพ่อแม่มาฝังทั้งเป็นเช่นนี้?"
    ชายยากจนผู้ไร้ศีลธรรมกลับตอบว่า
    "พ่อแม่ของข้าแก่มาก ยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว แต่ลูกๆ ของข้ายังต้องมีชีวิตอยู่อีกนาน ข้าเอาพ่อแม่ไปฝังก็เพื่อจะได้มีอาหารพอเลี้ยงลูก ๆ ได้"

    เพื่อนบ้านฟังแล้วก็เกิดความคิดคล้อยตาม พอกลับถึงบ้านก็ขุดหลุมแล้วเอาพ่อแม่ของตนไปฝังทั้งเป็นเช่นกัน ไม่นานทุกครอบครัวก็พากันเห็นดีเห็นงามจนทำตามกันทั่วทั้งหมู่บ้าน เมื่อกาลเวลาล่วงเลยไป ในที่สุดการฝังพ่อแม่ที่แก่เฒ่าก็กลายเป็นประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติกันอย่างแพร่หลาย โดยไม่มี ใครคัดค้าน ทว่า...ในหมู่บ้านนั้นยังมีลูกชายผู้เปี่ยมคุณธรรมมีความกตัญญูต่อพ่อบังเกิดเกล้าอย่างยิ่ง ตลอดระยะเวลาทิ่ผ่านมา เขารู้สึกเศร้าสลดใจต่อประเพณีที่ผิดหลักมนุษยธรรม แต่ก็ไม่มีอำนาจอะไรจะไปขัดขวางล้มล้างได้

    ครั้นต่อมา เมื่อพ่อแม่ของเขาเริ่มอายุมากแล้ว ลูกชายผู้มีความกตัญญจึงลงมือขุดอุโมงค์ ทำเป็นห้องลับไว้กลางบ้าน อีกทั้งจัดข้าวของเครื่องใช้ไว้อย่างพรั่งพร้อม จากนั้นก็เชิญพ่อแม่ลงไปหลบอยู่ และทุกวันเขาจะนำอาหารผลไม้อย่างดีลงไปร่วมรับประทานกับท่านด้วย

    เป็นเวลาหลายปีที่ลูกกตัญญเฝ้าปรนนิบัติดูแลพ่อแม่ที่หลบอยู่ในห้องใต้ดิน ทุกวันทุกคืนเขาเฝ้าแต่ครุ่นคิดหาหนทางที่จะล้มล้างประเพณีอันต่ำช้าเลวทรามในสังคมให้หมดสิ้น
    กตัญญุตาธรรมในจิตใจของชายหนุ่มเป็นทิ่แซ่ซ้องสรรเสริญ และซึ้งสะเทือนใจต่อเหล่าเทพยดาบนสรวงสวรรค์ เทพยดาทั้งหลายจึงมีมติเห็นพ้องต้องกันว่า จะต้องช่วยให้ลูกกตัญญผู้นี้บรรลุปณิธานความดีให้จงได้
    และแล้วเทพยดาองค์หนึ่งจึงเสด็จลงมาปรากฎเบื้องหน้าพระราชาโดยมีงู 2 ตัวอยู่ในพระหัตถ์ เทพยดาได้ตรัสแก่พระราชาว่า


    "ท่านจงแยกแยะให้ได้ว่างู 2 ตัวนี้ ตัวใดคือตัวผู้ ตัวใดคือตังเมีย หากภายใน 7 วัน ท่านตอบเราไม่ได้ เราจะทำลายอาณาจักรของท่าน "
    เวลาผ่านไป 6 วันพระราชาตลอดจนเหล่าอามาตย์ขุนนางมากมายก็ยังไม่สามารถตอบได้ พระองค์จึงมีพระราชโองการให้ติดประกาศหาผู้ที่สามารถตอบปัญหาได้ เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป เหล่าประชาราษฎรต่างพากันวิพากวิจารณ์ กันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็หวาดหวั่นว่าจะเป็นลางร้ายแก่บ้านเมืองแต่ทว่า...อย่างที่ไม่มีใครคาคคิด เช้าวันที่เจ็ดลูกกตัญญเป็นผู้แกะเอาประกาศออกแล้วเดินทางเข้าสู่พระราชวัง ณ ที่นั้น เทพยดาได้มาปรากฏพระองค์ต่อหน้าพระราชาเพื่อทวงเอาคำตอบ ลูกกตัญญจึงได้กราบทูลว่า

    "ปริศนาเรื่องงูนี้ไม่ยากเลย เพียงแต่นำผ้าแพรที่ประณีตผืนหนึ่งมาปูลงบนพื้น แล้วนำงูทั้งสองตัวไว้บนผ้า ปกติงูตัวผู้จะคลอ่งแคล่วว่องไว เมื่อต้องอยู่บนผ้าจะอยู่ไม่สุขมันจึงเคลื่อนไหวอยู่เสมอส่นงูตัวเมียมีนิสัยเชื่องช้ายามอยู่บนผ้าจนอนนิ่งเฉย...พระเจ้าข้า"
    เทพยดาทรงยิ้มและตรัสว่า
    "เจ้าตอบได้ถุกต้อง"
    แต่เทพยดาก็ยังตั้งคำถามใหม่อีกโดยให้นำช้างมาเชือกหนึ่งและตรัสว่า
    "ช้างตัวนี้หนักเท่าไร เราจะมาฟังคำตอบในวันพรุ่งนี้ หาไม่แล้วเราจะทำลายบ้านเมืองของท่านให้สิ้น !"

    พระราชา และเหล่าขุนนางไม่รู้จะทำอย่างไร จึงหันไปถามลูกผู้กตัญญ แต่เขาขอกลับไปบ้านก่อน พรุ่งนี้จะกลับมาให้คำตอบ

    วันต่อมา ลูกกตัญญกลับเข้าวัง แล้วให้เจ้าพนักงานจูงช้างไปลงเรือใหญ่ แล้วทำเครื่องหมายขีดวัดระดับที่ข้างเรือไว้ หลังจากนาช้างขึ้นจากเรือแล้ว จึงใส่ก้อนหินลงไปในเรือกระทั่งเรือจมลงถึงขีดที่ท่าไว้ จากนั้นจึงค่อยขนหินขึ้นมาชั่งรวมทั้งหมด นั่นก็คือน้ำหนักของช้างที่ถูกต้อง
    ต่อมาเทพยดาได้นำท่อนไม้จันทร์ซึ่งเหลาให้เป็นแท่งยาวเสมอกันโดยตลอด พร้อมกับตรัสถามว่า
    "ไม้จันทร์ท่อนนี้ ด้านใดเป็นโคนต้น? ด้านใดเป็นปลายต้น?"
    ลูกกตัญญขอกลับไปบ้าน และวันรุ่งขึ้น เขาก็กลับมาตอบว่า
    "ให้นำไม้จันทร์วางลงในอ่างน้ำ ด้านที่จมลงมากกว่า คือ โคนต้นส่วนด้านที่ลอยกระดกสูงขึ้น คือ ปลายต้น"

    เทพยดาได้นำม้าขาวมา 2 ตัว ม้าทั้งสองมีขนาดรูปร่างและสีขนเหมือกัน ซึ่งดูราวกับเป็นฝาแฝด พร้อมกับตรัสถามว่า
    "ม้า 2 ตัวนี้ ตัวใดเป็นลูก...ตัวใดเป็นแม่ ?" พระราชาและขุนนางทั้งหลาย ได้แต่มองหน้ากันไปมองหน้ากันมา เพราะไม่รู้คำตอบ ลูกกตัญญก็ขอกลับไปบ้านก่อน และวันรุ่งขึ้น เขาก็กลับมาตอบว่า

    "ขอให้นำหญ้าอ่อนที่สดใหม่มาวางไว้ตรงหน้าม้าทั้งสอง ม้าตัวที่ใช้จมูกดุนหญ้าไปให้อีกตัวหนึ่งคือแม่ม้า เพราะแม่รักลูกจึงอยากให้ลูกได้กินหญ้าก่อน" ถึงตอนนี้เทพยดาทรงพระสรวลดังกึกก้อง แล้วตรัสว่า

    "บ้านเมืองนี้ยังมีคนดีมีคุณธรรมเหลืออยู่ เราจะให้ความคุ้มครองดูแล ต่อไป"
    จากนั้นก็อันตรธานหายวับไป พระราชาหันมาตรัสกับลูกกตัญญว่า
    "ก่อนที่ข้าจะปูนบำเหน็จรางวัลตามแต่เจ้าจะขอ ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดทุกครั้งที่เทพยดาถามคำถาม เจ้าจะต้องขอกลับไปบ้านก่อนเสมอ?"

    ลูกกตัญญคุกเข่า พร้อมกับกราบทูลว่า "ข้าบาทมิได้ทำตามประเพณีที่ให้ฝังพ่อแม่ผู้ชรา แต่ได้ซ่อนพวกท่านไว้ในห้องลับ คำตอบทั้งหมดข้าบาทมิได้คิดออกเอง ท่านพ่อท่านแม่เป็นผู้สอนข้าบาท

    เมื่อครู่พระองค์ตรัสว่าจะประทานรางวัลแก่ข้าบาท ข้าบาทไม่ปรารถนาสิ่งใดเลย นอกเสียจากขอพระองค์ได้โปรดลบล้างประเพณีฝังพ่อแม่ผู้ชราด้วยเถิดพระเจ้าข้า"

    พระราชาทรงซาบซึ้งพระทัยยิ่ง จึงมีพระราชโองการห้ามมิให้ผู้ใดในแผ่นดินฝังพ่อแม่ของตน แต่จะต้องเลี้ยงดูปรนนิบัติด้วยความกตัญญกตเวที หากผู้ใดไม่ปฏิบัติตามจะต้องโทษถึงประหารชีวิต !



     
  8. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    <CENTER>เรื่องที่ 3
    เศรษฐีขี้เหนียว
    </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER>นานนมแล้วมีเศรษฐีคนหนึ่ง เป็นผู้มั่งคั่งพรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติมากมาย แวดล้อมด้วยบ่าวไพร่รับใช้นับร้อย ไร่นาที่ครอบครองก็อุดมสมบูรณ์มีข้าวเต็มยุ้งฉางไม่เคยหมด

    แต่ทว่าเขาเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว ในแต่ละวันจะใช้เงินสักสตางค์ก็คิดแล้วคิดอีกด้วยความเสียดาย แต่ไหนแต่ไรมาเศรษฐีผู้นี้ไม่เคยจะให้อะไรใครเลยแม้แต่น้อย ทุกวัน ๆเขาใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้น เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ปะแล้วปะอีก อาหารที่กินแต่ละมึ้อ ดูแย่ยิ่งกว่าอาหารของคนยากจนเสียอีก


    ช่างน่าประหลาด...ข้างบ้านเศรษฐี มีชายคนหนึ่งไม่ได้ร่ำรวยเท่าไรนักแต่ทุก ๆ วันเขากินอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเชิญชวนเพื่อน ๆ มาร่วมรัประทานอาหารที่บ้านอยู่บ่อย ๆ


    เศรษฐีขี้เหนียวเห็นแล้วก็เกิดความไม่พอใจ พลางคิดไปว่า
    "ตัวข้ามีทรัพย์สินเงินทองมากกว่ามันหลายเท่านัก กลับอยู่อย่างลำบากยากแค้น ในขณะที่มันกินอย่างราชา ช่างไม่เหมาะสมเลยจริง ๆ"


    เมื่อคิดถึงตรงนี้ เศรษฐีจึงตัดสินใจออกไปซื้อข้าวปลาอาหารอย่างดีมาสำรับหนึ่ง แล้วแอบขี่ม้าไปยังที่ที่ไม่มีใครเห็นเพื่อจะได้นั่งกินให้หายอยากสักที


    แต่ทว่าการกระทำของเขามิอาจรอด พ้นสายพระเนตรขององค์ท้าวสักกะเทวราชเจ้าไปได้เลย พระองค์จึงทรงจำแลงกายเป็นสุนัขตัวหนึ่ง เข้ามาเดินวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ประหนึ่งว่าจะขอเศษอาหาร


    เศรษฐีขี้เหนียวไม่พอใจสุนัขตัวนี้เป็นอย่างยิ่ง และพูดออกไปว่า
    " ถ้าแกสามารถนอนเหยียดขาทั้ง 4 ยกขึ้นชี้ฟ้าค้างไว้อย่างนั้น ข้าจะแบ่งเศษอาหารให้เจ้าสักนิดหนึ่ง"


    พอพูดจบ...สุนัขตัวนั้นก็นอนเอาขาทั้ง 4 ยกขึ้นชี้ฟ้าค้างไว้อย่างนั้น เศรษฐีขี้เหนียวถึงกับสะดุ้ง แต่ครั้นจะแบ่งอาหารให้ตามที่พูด ก็ยังรู้สึกเสียดายดังนั้นเขาจึงคิดอุบายใหม่ แล้วพูดขึ้นว่า " ถ้าตาของแกหลุดออกมากองอยู่กับพื้นเมื่อไหร่ ข้าจะแบ่งให้เจ้ากิน !"
    พูดยังไม่ทันขาดคำ ตาทั้งสองของสุนัขตัวนั้นก็หล่นลงมาบนพื้นเสียงดัง "ตุ๊บ"
    เศรษฐีเจ้าเล่ห์เห็นดังนั้นก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะคิดว่า ตาของสุนัขบอดแล้ว ย่อมไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก เขารีบยกอาหารออกเดินหนีไปเสียไกล จากนั้นจึงลงมือนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อยจนหมดเกลี้ยง

    ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง องค์ท้าวสักกะเทวราชเจ้าได้จำแลงกายเป็นตัวเศรษฐีขี้หนียว แล้วขี่ม้ากลับไปที่บ้านทันที พอเข้าบ้านแล้วก็สั่งคนเฝ้าประตูว่า

    "หากมีใครกล้ามาแอบอ้างว่าเป็นข้า เจ้าจงใช้ไม้พลองเฆี่ยนตีแล้วขับไล่มันไปเสียโดยเร็ว !"


    จากนั้นพระองค์ได้สั่งให้นำเอาทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ในบ้านทั้งหมดออกมาแจกจ่ายให้ทานแก่คนยากคนจน จนหมดเกลี้ยง


    ฝ่ายเศรษฐีขี้เหนียว เมื่อเสร็จจากการกินอาหารอันเลิศรสแล้ว ก็เดินลูบท้องด้วยความพึงพอใจ แต่เมื่อจะกลับบ้านพบว่าม้าของตนหายไป จึงจำใจเดินกลับด้วยอารมณ์ทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด

    พอถึงประตูบ้านตน คนเฝ้าประตูก็เข้ามาขวางไว้ไม่ให้เขาเข้า เศรษฐีขี้เหนียว ทั้งเหนื่อยทั้งโมโห จึงตะคอกว่า

    " ไอ้โง่ นี้ข้าเป็นนายแก ! ตาบอดรึไง"
    คนเฝ้าประตู หัวเราะแล้วตอบว่า


    " มิน่าล่ะ ! นายท่านสั่งไว้ไม่มีผิด เจ้านี่เองที่กล้าบังอาจมาแอบอ้างเป็นนายท่าน !"
    ว่าแล้วคนเฝ้าประตูก็ใช้ไม้พลองทุบตีขับไล่เขาไป


    เศรษฐีขี้เหนียวโกรธแทบคลั่ง ยิ่งต่อมารู้ว่าทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตน ถูกแจกให้แก่คนยากคนจนเสียหมดสิ้น ก็คิดมากจนเป็นบ้า นับจากนั้นเขาก็กลายเป็นขอทาน ระเหเร่ร่อน กินนอนตามถนนเรื่อยมา

    To Be Continued....


    ข้อมูล mindcyber.com




     
  9. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
    เชื่อมั่นและศัทธาในพระพุทธองค์พระรัตนตรัยและท่านครูบาอาจารย์


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=QsshlR92RpA&feature=related]ยิ่งให้ยิ่งได DMC.TV 1/4 - YouTube[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=3sAnElQZtoU&feature=related]ยิ่งให้ยิ่งได DMC.TV 2/4 - YouTube[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=cI93uyI8kRI&feature=related]ยิ่งให้ยิ่งได DMC.TV 3/4 - YouTube[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=pdBS5re-Axs&feature=related]ยิ่งให้ยิ่งได DMC.TV 4/4 - YouTube[/ame]
     
  10. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    [​IMG]
    one and only
     
  11. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    กินช้าๆ สร้างหุ่นสวยทันใจ


    [​IMG]


    อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต แนะนำให้เคี้ยวอาหารคำละ 50 ครั้ง ล่าสุด มีงานวิจัยพบว่า กินอาหาร 1 คำ เคี้ยว 40 ครั้ง ช่วยลดน้ำหนักได้! โดย Harbin Medical University ประเทศจีน ศึกษาวิจัยพบว่า การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดช่วยลดระดับฮอร์โมนเกรลิน (ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญ ที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกหิว

    นักวิจัยแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 2 กลุ่ม จากนั้นให้กลุ่มแรกเคี้ยวอาหาร 15 ครั้งก่อนกลืน ส่วนกลุ่มที่สองเคี้ยวอาหาร 40 ครั้งก่อนกลืน หลังตรวจเลือดพบว่า อาสาสมัครกลุ่มหลังมีระดับฮอร์โมนเกรลินน้อยกว่า ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วกว่า จึงกินอาหารน้อยลง ทั้งยังพบอีกว่า อาสาสมัครที่มีรูปร่างอ้วน ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมกลืนอาหารเร็ว เนื่องจากใช้เวลากินอาหารน้อยกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติ
    ฉะนั้น หากคิดจะลดน้ำหนัก ไม่เพียงต้องควบคุมปริมาณอาหาร แต่ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียดตามคำแนะนำ พร้อมกับกินอาหารให้ช้าลง ตามขั้นตอนต่อไปนี้
    ตักอาหารใส่จานในปริมาณที่กินแล้วอิ่มพอดี
    • พิจารณาอาหารในจาน กำหนดสติว่ากำลังจะกินอาหาร แล้วจึงตักใส่ปาก
    • เคี้ยวอาหารช้าๆ โดยพยายามเคี้ยวให้ได้อย่างน้อยคำละ 40 ครั้งก่อนกลืน
    • ตัก เคี้ยว และกลืนอาหาร อย่างมีสติทุกคำจนหมดจาน
    • เมื่อกินอาหารหมดแล้วไม่ควรตักเพิ่ม
    • หากรู้สึกอิ่มก่อนกินอาหารหมดจาน ควรหยุดกิน แล้วอย่าลืมลดปริมาณการตักอาหารในมื้อต่อไป เคี้ยวให้ละเอียดลดหุ่นสวยจะยิ่งได้ผลดี เมื่อกินอาหารชีวจิต โดยเฉพาะสูตร 2 ค่ะ


    sanook.com
     
  12. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    หุ่นเพียว กระชับใน 5 นาที

    [​IMG]


    หากคุณไม่มีเวลาที่จะออกกำลังกาย ให้ใช้เวลาเพียง 5 นาที กับ 4 ท่าง่าย ๆ จะช่วยทำให้คุณมีหุ่นเพียวกระชับ ได้เหมือนออกกำลัง 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ควรจะทำครั้งละ20-30 ครั้ง หรือตามความพอใจ และถ้าจะให้ได้ผลดีมากยิ่งขึ้น ควรทำแต่ละท่า และเกร็งไว้แล้วนับช้า ๆ จาก 1-3 แล้วคล่อย ๆ คลายโดยนับ 1-3 เช่นกัน 4 ท่าง่าย ๆ มีดังนี้คือ1. ซิตอัพ
    เป็นท่าที่ดีต่อการกระชับหน้าท้องและส่วนล่าง วิธีการให้นอนอยู่ในท่าหลังตรงและงอหัวเข่า อาจจะใช้ปลายเท้าเกี่ยวที่ใต้เก้าอี้หรือเตียง ซิตอัพแล้วค้างไว้ 3 วินาที ยิ่งนานมากยิ่งจะทำให้ได้ผล
    2. วิดพื้น
    เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและกระชับกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกและหัวไหล่ได้เป็นอย่างดี วิธีการโดยให้คว่ำตัวลงโดยให้หัวเข่าแตะที่พื้น ทำแต่ละครั้งช้า ๆ เมื่อหน้าอกลดลงไปจนถึงพื้นให้นับถึงสาม และเมื่อยกตัวขึ้นให้นับสามเช่นกัน ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนครั้งให้มากยิ่งขึ้นในแต่ละวัน
    3. ยกตัว
    เป็นวิธีการทำให้รูปร่างดีและเพิ่มความแข็งแรงให้กับหัวไหล่และแขนส่วนบน วิธีการโดยหาเก้าอี้ที่ดูแข็งแรง นั่งบริเวณขอบและวางแขนไว้ด้านข้างลำดัว ใช้มือยันไว้ที่โต๊ะ เหยียดขาออกไปให้มากที่สุดโดยให้ลงน้ำหนังตัวไว้ที่แขน ค่อย ๆยกก้นขึ้น ซึ่งก้นจะอยู่ที่ด้านหน้าของโต๊ะ แต่ให้อยู่ชิดขอบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ค่อย ๆ ลดส่วนก้ลงมาเท่าที่จะทำได้แล้วค้างไว้ จากนั้นค่อย ๆ ยกตัวขึ้นใหม่ วิธีการนี้หากนั่งทำงานอยู่ ก็สามารถที่จะทำได้
    4. ย่อตัว
    เป็นวิธีการกระชับสะโพกและต้นขาได้อย่างดี โดยยืนแยกเท้าห่างระยะสะโพก ยืนตรงใช้มือเท้าที่สะโพกหรือมือหนึ่งจับเก้าอี้เพื่อพยุงตัว ก้าวเท้าขวายาว ๆ ไปข้างหน้า งอเข่าและย่อตัวลงต่ำเท่าที่จะทำได้ แต่ต้องมั่นใจว่าหัวเข่าไม่ได้เลยเท้าขวาออกไป จากนั้นค้งไว้ แล้วค่อยลากขากลับมาในท่าเริ่มต้น ทำซ้ำกับขาข้างซ้าย

    4 ท่านี้จะได้ผลต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ หากไม่สามารถทำได้ทุกวัน ควรทำอย่างน้อย2 วันต่อครั้ง เป็นเวลา 5 นาทีเท่านั้น
     
  13. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    กินผักช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ??


    [​IMG]


    เมนูลดความอ้วนยอดฮิตที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า หากจะลดน้ำหนักควรกินผักหรือ
    ผลไม้แทนมื้ออาหาร จะทำให้น้ำหนักลดลงได้ และผักชนิดไหนล่ะที่จะสามารถลดน้ำ
    หนักได้จริง ๆ


    ในข้าว มันเทศ และมันฝรั่ง จะมีน้ำตาลโมเลกุลเชิงซ้อนที่ต้องผ่านการย่อย
    หลายครั้ง และในผลไม้จะมีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นพลังงานอย่าง
    รวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จึงทำให้รู้สึกหิวเร็ว ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบกิน
    ผลไม้ จึงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจากน้ำตาลในผลไม้ ซึ่งจะทำให้ลดได้ยาก หากกินผัก
    เช่นมะเขือเทศ หัวผักกาดขาว แครอต มันเทศ ใจผักกาด และหัวผักกาดหวาน จะช่วย
    ลดอาการท้องผูกจากการควบคุมอาหารได้ และทำให้น้ำหนักลดลงได้อีกด้วย


    หากจะใช้ผักในการลดหรือควบคุมน้ำหนักนั้น ขอแนะนำสูตรผักกระทะร้อน
    วิธีการง่าย ๆ คือนำผักมาต้ำและใส่เครื่องปรุงรสอย่างซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู และน้ำมัน
    งา ใส่เต้าหู้หรือสาหร่ายทะเล
     
  14. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    เทคนิค! วิธีการกินอาหารลดความอ้วนเชื่อว่า คุณผู้หญิงหลายท่านกำลังมองหาวิธีการกินอาหารลดความอ้วนกันอยู่ใช่ไหมค่ะ และวันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ก็มี วิธีการกินอาหารลดความอ้วน มาฝากกันด้วยค่ะ อย่าลืมทำตาม วิธีการกินอาหารลดความอ้วน กันอย่างเคร่งครัดเชื่อได้เลยค่ะว่า หุ่นสวย หุ่นดี ไม่ไกลเกินเอื้อมจากความพยายามของคุณผู้หญิงกันอย่างแน่นอนค่ะ และเทคนิค วิธีการกินอาหารลดความอ้วน ที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) นำมาแนะนำกันในวันนี้ก็เป็น วิธีการกินอาหารลดความอ้วน ซึ่งก็ง่ายๆ เชื่อว่าคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านคงทำตามกันได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ นั้นเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) พาคุณผู้หญิงมาพบกับ 35 วิธีการกินอาหารลดความอ้วน กันเลยดีกว่าไหมจ๊ะ

    35 วิธีการกินอาหารลดความอ้วน

    1. รับประทานผัก ผลไม้มากๆ

    อย่าละเลยการรับประทานผัก ผลไม้ เด็ดขาดค่ะ เพราะ ผัก ผลไม้ มีทั้งเส้นใยและสารอาหารต่างๆ ที่ดีกับคุณสาวๆ แถมทานมากเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนด้วย


    2. หลีกเลี่ยงการทานอาหารทอดๆ และติดมัน

    อาหารทอดๆ มาพร้อมกับน้ำมันที่จะมาทำให้คุณอวบอั๋นขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นเดียวกับอาหารเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น กุนเชียง หมูสามชั้นทอดกรอบ หนังไก่ กากหมู ถ้าไม่อยากอ้วน อดใจไว้ค่ะ


    3. ทานดาร์กช็อกโกแลต

    ใช่ค่ะคุณหูไม่ฝาดเรากำลังแนะนำให้คุณทานช็อกโกแลต แต่ไม่ใช่ว่าช็อกโกแลตทั่วๆ ไปก็ทานได้หรอกนะค่ะ ต้องเป็นดาร์กช็อกโกแลตเท่านั้นถึงจะมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์และเป็นประโยชน์กับร่างกายของคุณสาวๆ


    4. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

    แทบจะทุกบทความ ที่แนะนำให้คุณดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จึงช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินให้คุณด้วย ซ้ำยังช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นด้วย หากคุณดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนทานอาหารทุกครั้ง แต่อย่าชะแว้บ! ไปมอง "น้ำอัดลม" หรือ "น้ำผลไม้" เชียว ยกเว้น "น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง" ที่เราแนะนำให้คุณดื่มได้


    5. ดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้วหลังตื่นนอน

    จำและทำให้เป็นนิสัยเพราะการดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้ว ทันทีหลังจากที่คุณเพิ่งตื่นนอนจะทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังจะช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายทั้งหนักทั้งเบาทำงานได้อย่างคล่องตัว


    6. ทานอาหารเช้า

    จำได้ไหมว่า อาหารเช้าคืออาหารมื้อสำคัญที่สุดของวัน ถ้าหากคุณสาวๆ พลาดอาหารเช้าในช่วงเวลา 6.00-10.00 น. ไปล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกหิวในมื้อต่อๆ ไปมากขึ้น ทีนี้ล่ะคุณอาจจะเผลอตัวเผลอใจสวาปามอาหารที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ยั้งแล้วจะลดน้ำหนักได้อย่างไรล่ะจ๊ะ


    7. กินเพื่ออยู่ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน

    การไดเอทไม่ได้สำคัญที่ว่าคุณทานอะไรเข้าไป แต่สำคัญที่ว่าทำไมคุณถึงทานเข้าไปต่างหาก ฉะนั้นแล้วหากใครชอบกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์เพียงเพื่ออยากทานสิ่งนั้นจงเปลี่ยนพฤติกรรมด่วนค่ะ ทานให้แต่พออิ่มจะดีกว่า และควรทานเมื่อเวลาที่หิวจริงๆ


    8. ออกกำลังกายสำคัญสุดๆ

    แน่นอนว่าหนึ่งในวิธีที่คนทั่วโลกแนะนำก็คือ การออกกำลังกายนี่แหละเพราะมันจะช่วยรักษาน้ำหนักให้คงที่ในระยะยาวได้ แถมยังจะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีให้กลายเป็นพลังงานได้คราวละมากด้วย หากคุณสาวๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอลองหาเวลาเดินวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน นอกจากคุณจะควบคุมน้ำหนักได้ดีแล้วยังจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงอีกด้วยล่ะ


    9. หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ไดเอท

    เขาว่า "คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย" ใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นอย่ามาท้อแท้กับการไดเอทเพียงลำพังเลย ลองหาเพื่อนที่มีแนวคิดเดียวกันแล้วชวนมาลดความอ้วนด้วยกันดีกว่า เพราะการมีเพื่อนหัวอกเดียวกันจะทำให้คุณมีกำลังใจขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ


    10. อย่ากักตุนอาหารในตู้เย็น

    สาวๆ มักจะชอบซื้ออะไรต่อมิอะไรมาเก็บไว้ในตู้เย็น อ้างว่า เตรียมไว้รับรองแขกบ้าง ไว้เลี้ยงเพื่อนบ้างล่ะ แต่สุดท้ายก็มักจะเหลือเต็มตู้เย็นจนคุณสาวๆ นั่นแหละต้องมาทานเอง เพราะฉะนั้นหากไม่อยากอ้วนกำจัดของกินในตู้เย็นโดยด่วน คุณจะได้ไม่เผลอหยิบติดมือมาทานได้ง่ายเกินไปนั่นเอง แต่ถ้าอยากจะมีอาหารติดในตู้เย็นแนะนำว่า ผักผลไม้และบรรดาอาหารเพื่อสุขภาพทั้งหลายจะเวิร์กที่สุดค่ะ





    11. อย่ากินไป ดูทีวีไป


    12. ใส่ใจ "ข้าวกล้อง" กันให้มากขึ้น


    13. "น้ำตาล" และ "เกลือ" จอมวายร้าย


    14. ระวัง!!! สลัดน้ำข้น


    15. สรรหาจานสีเข้มๆ


    16. ใช้ภาชนะให้เล็กลง


    17. ลด ชา , กาแฟ , ครีมเทียม


    18. เคี้ยวช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม


    19. หลีกเลี่ยงไข่แดง ให้ทานไข่ขาว


    20. อย่าให้รางวัลตัวเองด้วยการไปทานอาหาร

    สอบผ่าน! โปรเจกท์ผ่าน! พรีเซนต์งานผ่าน! ไปฉลองกันดีกว่า!!! หยุดความคิดนี้เลยค่ะ เพราะการที่คุณให้รางวัลกับความสำเร็จของตัวเองด้วยการไปรับประทานอาหารตามใจปากอาจทำให้คุณอ้วนได้เหมือนกัน ทางที่ดีให้รางวัลกับตัวเองด้วยการทำสิ่งที่ตัวเองปรารถนา ยกเว้นเรื่องกิน!!! เช่น ไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยวพักผ่อน นวดหน้า ทำผม ขัดผิว ฯลฯ จะดีที่สุดค่ะ


    21. จำไว้อย่าอด

    ใช่ว่าการไดเอทคือการอดอาหาร เพราะยิ่งคุณอดอาหารเท่าไหร่จะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังทำให้คุณหิวมากขึ้นมากขึ้นจนทำให้คุณสามารถทานได้มากกว่าปกติในมื้อต่อไป


    22. แบ่งทานบางส่วนไม่ต้องทานให้หมด

    สาวๆ หลายคนบ่นเสียดายอาหารที่อยู่ตรงหน้าไม่อยากเหลือทิ้งไว้ แต่สำหรับกฎเกณฑ์ของการลดความอ้วนคุณไม่จำเป็นต้องทานหมดหรอกค่ะ โดยคุณควรจะแบ่งอาหารในจานไว้ 4 ส่วน แล้วทานเพียงแค่ 3 ส่วนก็เพียงพอแล้ว


    23. อย่าทานอะไรหลังมื้อเย็นอีก

    ไม่ดีแน่หากคุณทานขนมหรืออาหารอะไรหลังจากคุณทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว ทางที่ดีคือควรจะให้ร่างกายได้พักผ่อนจากการย่อยอาหารแล้วไปเริ่มทำงานใหม่ในมื้อเช้าของวันรุ่งขึ้นจะดีกว่า


    24. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่า หากคุณพักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพออาจจะมีผลกระทบต่อฮอร์โมนเลปตินซึ่งทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร ดังนั้น อาจทำให้คุณยับยั้งชั่งใจในการรับประทานไม่อยู่และอ้วนขึ้นได้ นอกจากนี้หากคุณนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้วก็สามารถช่วยให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้เช่นกัน


    25. ทานหลายๆ มื้อเล็กๆ ในหนึ่งวัน

    ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การทานอาหาร 4-5 มื้อเล็กๆ ในแต่ละวัน จะช่วยควบคุมระบบการเผาผลาญและความอยากอาหารได้ดีกว่าการทานอาหารมื้อปกติ 3 มื้อ โดยระหว่างมื้ออาหารคุณอาจทานสแน็กหรือผลไม้เพื่อให้คุณอิ่ม และไม่หิวมากจนกระทั่งถึงมื้อต่อไป ทีนี้ในมื้อต่อไปคุณก็จะทานอาหารได้น้อยลงแล้ว


    26. โปรตีนตัวช่วยลดความอ้วนในทุกๆ มื้อ

    มีคำแนะนำให้ในแต่ละมื้ออาหารต้องมีอาหารประเภทโปรตีนผสมด้วย เพราะโปรตีนจะช่วยคงสภาพล้ามเนื้อและกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น โดยโปรตีนที่แนะนำก็คือ อาหารจำพวกถั่ว นม โยเกิร์ตนั่นเอง


    27. เผ็ดหน่อยอร่อยดี

    การศึกษาพบว่า "พริก" ช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายและช่วยในการเผาผลาญจึงมีประโยชน์เรื่องการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้การกินพริกจะไม่ทำให้รู้สึกอยากกินหวานอีก รับรองว่า กินพริกแล้วลืมเรื่องความอ้วนไปได้เลย


    28. ดื่มชาเขียว

    มหาวิทยาลัยสวิสเซอร์แลนด์พบว่า การดื่มชาเขียวเป็นทางหนึ่งที่ช่วยลดน้ำหนักเพราะจะช่วยเรื่องการเผาผลาญแคลอรี่ได้ ดังนั้นควรพยายามดื่ม 3 ถ้วยต่อวัน แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า ต้องเป็นชาเขียวบริสุทธิ์จริงๆ ไม่ใช่ชาเขียวในขวดที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณมากแบบนี้ลดความอ้วนไม่ได้แน่นอนค่ะ


    29. ดื่มนมก็ช่วยลดความอ้วน

    หากไม่ชอบดื่มชาเขียวจะลองหันมาดื่มนมก็ช่วยลดความอ้วนได้เพราะนมเป็นแหล่งอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งมีการศึกษาพบว่า การที่ร่างกายได้รับวิตามินดีและแคลเซียมสูงจะช่วยให้น้ำหนักของเราลดลงได้แถมนมยังทำให้เรารู้สึกอิ่มจนไม่อยากทานอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรที่มีน้ำตาลด้วย


    30. อ่านฉลากรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ด้วยล่ะ

    ก่อนซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มลองอ่านรายละเอียดที่ติดอยู่ข้างผลิตภัณฑ์ หีบห่อ ฯลฯ ดูก่อนทุกครั้ง เพราะมันจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีแคลอรีสูงหรือไขมันสูงได้ แต่ขอย้ำว่ายามใดที่ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตควรหลีกเลี่ยงการไปเดินในบริเวณที่ขายคุ้กกี้ พิซซ่าแช่แข็ง และไอศกรีม เพราะคุณอาจจะไม่ทันได้อ่านฉลากข้างกล่องก็ซื้อมันได้ง่ายๆ เพราะติดใจในความอร่อยของมันนั่นเอง


    31. จดบันทึกประจำวันให้เป็นนิสัย

    แต่ละวันคุณกินอะไรไปบ้างลองจดบันทึกไว้ทุกๆ สัปดาห์ดูสิ เพราะมันจะช่วยให้คุณยับยั้งชั่งใจและควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหารได้ดีเลยทีเดียว


    32. ทานผลไม้สดดีกว่าผลไม้ดองหรือน้ำผลไม้ปั่น

    น้ำผลไม้ปั่นมักผสมน้ำเชื่อม น้ำตาล ทำให้คุณสาวๆ ได้รับน้ำตาลเกินความจำเป็น ขณะเดียวกัน ผลไม้ดอง ก็อาจมีสารแซคคารีนหรือที่เรียกว่าขัณฑสกรผสมอยู่ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้วิตามินที่ครบถ้วน เลือกทานผลไม้สดดีกว่าแน่นอนค่ะ


    33. ความเครียด คือ จุดอ่อน

    รู้ไหมคะว่าเมื่อฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้นก็ทำให้ความต้องการอาหารในร่างกายเพิ่มขึ้นหรือทำให้หิวนั่นเองแถมหิวบ่อยชนิดที่ไม่รู้ตัวเลยด้วย เพราะคนเครียดส่วนใหญ่มักจะจมอยู่กับความเครียดจนลืมสังเกตพฤติกรรมารกินของตัวเอง ดังนั้นทำตัวเองให้ห่างไกลจากความเครียดเถอะค่ะ


    34. หัวเราะช่วยลดความอ้วน

    งานวิจัยระบุว่า การหัวเราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นขณะเราหัวเราะจะหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปได้มากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อท้องได้ออกกำลังไปในตัว


    35. ชั่งน้ำหนักอาทิตย์ละครั้ง

    ไม่จำเป็นที่คุณจะรีบร้อนชั่งน้ำหนักตัวทุกๆ วัน เพราะหากคุณลดไม่ได้ดังใจปรารถนาแล้วจะยิ่งทำให้คุณเครียดเสียเปล่าๆ เพราะฉะนั้น ชั่งน้ำหนัก และเปลือยกายสำรวจตัวเองในห้องน้ำอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอแล้วล่ะ

    ขอขอบคุณข้อมูล
    วิธีลดความอ้วนจาก คู่สร้างคู่สม
    <INS style="POSITION: relative; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; HEIGHT: 60px; VISIBILITY: visible; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; HEIGHT: 60px; VISIBILITY: visible; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_1_anchor></INS></INS>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2012
  15. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    "กิน" อาหารต้านเซลลูไลท์วันนี้เป็นข่าวดีเชียวนะค่ะสำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลายที่ไม่อยากมีเซลลูไลท์ด้วยวิธีง่าย ๆ นั้นคือ การกินอาหารต้านเซลลูไลท์นั้นเองค่ะ ฮันแน่...ดีใจล่ะซิเพราะเป็นวิธีที่ง่ายมากมายเลยเพียงแค่ กิน กิน กิน และก็ กิน เท่านั้นเอง คุณจะไม่ต้องมีเจ้าเซลลูไลท์มาเป็นเพื่อนกวนใจคุณอีกต่อไปว่าแล้วเราก็มาดู อาหารต้านเซลลูไลท์ กันเลยดีกว่าค่ะ

    อาหารต้านเซลลูไลท์


    [​IMG]


    เซลลูไลท์ คือ ผิวหนังที่ขรุขระคล้ายผิวเปลือกส้มเกิดจากสาเหตุสำคัญคือ เซลล์ไขมันที่สะสมตัวเป็นก้อนอยู่บริเวณใต้ชั้นหนังแท้มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างผิดปกติจนทำให้ผนังหุ้มเซลล์เกิดการบิดเบี้ยวเพราะถูกดึงรั้งอยู่ใต้ผิวหนังและเกิดเป็นรอยตะปุ่มตะป่ำคล้ายผิวของเปลือกส้มที่อาจมองเห็นได้ชัดเจนจากผิวหนังชั้นนอก

    รับประทานอาหารกระชับผิว

    เน้นรับประทานผักผลไม้สดให้มาก ๆ เพราะวิตามินซีและวิตามินอีนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ผิวหนังกระชับขึ้น


    เสริมสร้างการไหลเวียนของโลหิต

    การรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันรวมทั้งน้ำมันปลา ถั่ว และเมล็ดพืช ก็ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตได้


    รับประทานอาหารโปรตีนไขมันต่ำเป็นประจำ

    เซลลูไลท์เป็นเซลล์ที่สะสมของเหลวได้มากกว่าเซลล์ทั่วไปจึงมีทั้งของเหลว ไขมัน และสารพิษอยู่ ทำให้กระบวนการไหลเวียนของโลหิตกับน้ำเหลืองไม่คล่องตัว ซึ่งสารแอลบูมินที่มีอยู่ในอาหารกลุ่มโปรตีนไขมันต่ำจำพวกถั่วสามารถช่วยลดระดับของเหลวนี้ได้และควรจะลดอาหารเค็มควบคู่กันไปด้วย

    ลดอาหารมันและหวาน

    อาหารทั้งมันและหวานจะเพิ่มอนุมูลอิสระทำให้ผิวหนังหย่อนยานลง เกิดริ้วรอย และยิ่งเป็นอาหารที่มันเยิ้มและหวานเจี๊ยบก็ยิ่งจะไปเพิ่มแคลอรีให้กับร่างกายด้วยทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น

    ถ้าไม่อยากให้ผิวมีเซลลูไลท์มากเกินไป ก็ลองหันมารับประทานอาหารที่แนะนำกันดู


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

    ข้อมูล N3.IN.TH
     
  16. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    ฟังเทศวันละนิดจิตอิ่มบุญใด้ความรู้ดั๊ว ขอให้เจริญในธรรมทุกท่านค่ะ
    เชื่อมั่นและศัทธาในพระพุทธองค์พระรัตนตรัยและท่านครูบาอาจารย์


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=S7dOTH5Bvlg&feature=related]63 พลังงานและโลกของวิญญาณ - YouTube[/ame]
     
  17. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ue3nmTJO_xQ&feature=endscreen&NR=1]113 ฐานเกิดจากการสวดมนต์ - YouTube[/ame]
     
  18. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=SuS0IG-Pkjk&feature=related]109 ภาษาในโลกทิพย์ใช้ภาษาอะไร - YouTube[/ame]
     
  19. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=jYm7BviXsvs&feature=player_embedded]วิธีชนะกามารมณ์ ก่อนตัดลงรายการ 1/2 - YouTube[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=cpGDr8pkTKU&feature=player_embedded]วิธีชนะกามารมณ์ ก่อนตัดลงรายการ 2/2 - YouTube[/ame]#!
     
  20. phanbuaphet

    phanbuaphet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +2,180


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...