สมเด็จพระอนุตรธรรมมารดา (เอี่ยวตี้กิมบ้อ)

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ฉั่วปิงหาน, 21 ตุลาคม 2008.

  1. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    ยินดีที่ได้สนทนาธรรมกับท่านปรมิตร

    แม้ว่าคำถามและคำตอบดู อาจเป็นเรื่องอจินไตยไปบ้าง ซึ่งเป็นวิสัยที่ไม่ควรรับรู้
    ตามหลักการของกาลามาสูตรและโยนิโสมนสิการ

    อย่างไรก็ตาม การล่วงรู้เรื่องราวของจิตเอกภพ เป็นการสื่อสารทางจิต ที่ต้องใช้ข้อมูลพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ในการให้เหตุผลประกอบข้อเท็จจริง ย่อมทำให้เกิดโลกทัศน์เชิงวิทยาศาสตร์

    ไม่ยังงั้น ย่อมถูกแย้งได้เสมอ เพราะไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ ที่สามารถยืนยันได้ ยกเว้นผู้นั้นพิสูจน์ด้วยจิตตนเองเป็นปัจจตัง

    สิ่งที่สาธารยายให้ฟังไม่ได้หมายความว่าจะเพ่งโทษท่านนะ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
    เพียงแต่เห็นท่านมีจิตใจเป็นกลางอยู่แล้ว นับว่าประเสริฐดีแล้ว
     
  2. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    แนวทางของท่านน่าจะเป็นแบบสุขวิปัสโก ผู้มุ่งเน้นโลกุตรธรรม

    ข้อมูลหรือองค์ความรู้เป็นเพียงข้อเท็จจริง ที่ทำให้เกิดปัญญา แต่ไม่ยึดมั่นนั่นดีนักแล

    บางตำรากล่าวว่ามี 3 อย่างแรก บางตำรากล่าวว่ามี 4 อย่าง แล้วแต่จะเชื่อ จงใช้ปัญญาไตร่ตรอง



    กล่าวเป็นกลางๆ สำหรับสุขวิปัสโกก็ขอให้มองข้าม เพราะไม่มุ่งเน้นอยู่แล้ว
    ถามว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำหรือพระอภิญญา เชื่อเรื่องอย่างนี้ไหม
     
  3. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    สิ่งนั้นคือนิพพานหรือ

    เพราะมีใจเอนเอียงหรือเปล่า

    ครับ จะรับไว้พิจารณา

    อนุโมทนาเช่นเดียวกันครับ
     
  4. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    อนุโมทนาครับ
    เราเองก็ยินดีเช่นกัน
    เมื่อได้พบกัญญาณมิตรผู้มีปัญญาไตร่ตรอง ไม่งมงาย
    มีสติและคุณธรรมเสมอตนหรือสูงกว่าพึงยินดี

    นับถือๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2008
  5. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    เราใช้อานาปานสติในการน้อมนำสู่การปฏิบัติ ท่านละใช้วิธีการใด
     
  6. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ขอกล่าวก่อนว่า ผมพิจารณาอย่างเป็นกลางจริงๆครับ สิ่งที่พระพุทธเจ้ากล่าว เป็นสิ่ง ที่พระองค์เห็นด้วยใจเป็นกลางจึงไม่มีประเด็นโต้แย้ง ตอนนั้นผมเลยอยากลองสนทนากับพระพุทธเจ้าดูบ้าง

    เช่นกันครับ
    เหตุด้วยว่า ลมหายใจเป็นสิ่งที่กำหนดได้ง่าย
    เคยลองใช้กายแล้ว(ยุบหนอพองหนอ คู้เเขนเหยียดขา ก็กลับมา เป็นหายใจเข้าออก)

    แต่อาศัยการพิจารณากายเมื่อ ประกอบอริยาบท
    ผมเองไม่ได้ปฏิบัติทุกเเต่หาก ทำตามสติ และกำลัง ที่จะทำได้เท่านั้นเองครับ

    อนุโมทนาในกรรมดีของท่านครับ
     
  7. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    อาปานสติดีนะ เพราะรวมสติภาวนา สมถภาวนา และวิปัสสนาเข้าด้วยกัน

    โดยสติ รู้กาย เวทนา จิต ธรรม
    โดยสมาธิ รู้ปราโมทย์ ตั้งมั่น อุเบกขา
    โดยปัญญา รู้เกิดดับ ลด ละ วาง

    ได้ถึงณาน 4 นะ ฝึกบ่อยๆ เข้าสมาบัติได้ด้วยนะ
     
  8. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    อนุโมทนาครับ
    จะน้อมนำมาปฏิบัติเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2008
  9. นาย 3

    นาย 3 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +10
    ไม่ได้เข้ามาเสียนาน
    สรุป
    ก็ยังไม่เข้าใจกันอยุ่ดี
    สักวันหนึ่งก็คงจะเข้าใจเองเมื่อวันที่บุญวาระนั้นมาถึงวันที่ใจเหมือนดั่งแก้วน้ำที่ว่างเปล่าเพื่อเตรียมรับน้ำอมฤต
    วันนั้นท่านจะรุ้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้
    ท่านจะแจ้งในสิ่งที่ลี้ลับ
    ท่านจะเข้าใจในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต
    อำนาจแห่งธรรมทั่งมวล
    ท่านจะได้ยินและยล
    ท่านจะรู้แจ้งแทงตลอดในสิ่งต่างๆที่ถูกปกปิด

    เมื่อถึงวันนั้น
    สิ่งที่เรียกว่าวิสุทธิแดนจะอยุ่ไม่ไกลจากตัวท่าน

    南无本师释迦牟尼佛
     
  10. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ครับ อนุโมทนา
    คุณเองก็เช่นกัน เมื่อถึงเวลาก็จะเข้าใจทุกอย่างว่า
    ถ้าเรา ทำตนให้ดี เราย่อมเป็นที่พึ่งให้เราได้เอง
    ไม่ได้ว่าตนดี ตนเลิศ หรือเก่งกว่าใครแต่ ไม่มีใครที่จะเป็นที่พึ่งให้เราได้ตลอดเวลา
    ผมอาจเป็นคนอาภัพในที่พึ่งอ่ะนะครับ เลยคิดได้แบบนี้ ว่าเราต้องยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง
    เพียงแต่รู้ว่าต้องเดินไปทางใดจากพระมหาเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณของพระศาสดาโคตมะพุทธเจ้า
    ท่านได้บอกทางเดินของท่าน เราเองก็ได้บอกทางเดินของเราแล้ว
    เชื่อมั่นและเดินต่อไป สู้ๆครับ
    อนุโมทนาในความดีที่จะเกิดขึ้นนะครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2008
  11. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    คุณ นาย 3<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1643627", true); </SCRIPT>

    สรุปว่าท่านยังเข้าใจว่า พระพุทธองค์อยู่แดนสุขาวดี อันเป็นวิสุทธิภูมิ
    ช่างจินตนาการกันเสียเหลือเกิน

    แล้วจงรับรู้ไว้ว่า พระองค์นะไร้รูป ไร้มิติ ไร้กาลเวลา เป็นสภาวะจิตใหญ่แห่งพลังธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์ เปรียบแห่งดาราจักรแห่งอนันตเอกภพ

    เลิกสร้างวิมานได้แล้ว สงสัยมัวแต่สวดก๊กเต็กอยู่ละซิ
    ปฏิบัติให้ได้เยี่ยงพระโพธิสัตว์เสียทีเถิด พ่อมหาจำเริญ
     
  12. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ขอโอกาสแสดงความคิดสักนิดนะครับ
    ผมเห็นว่า มีผู้รู้กล่าวว่า หากตำหนิผู้อื่นเช่นไร ก็ไม่พึงทำตนเช่นนั้น
    เมื่อท่านกล่าวว่าไม่ยึดติด ไม่เอาดีเข้าตัว กล่าวว่าคนอื่นยึดคติตนถูก ก็มิพึงกล่าวตำหนิผู้อื่นเช่นกัน เพราะตนก็เป็นเช่นเดียวกันกับเขา

    พึงกล่าว แนะนำดีๆด้วยจิตเป็นกุศล หากไม่เป็นดังเจตนาก็วางอุเบกขาจิตแล้วก็จากไปอย่างสงบ ไปทำในสิ่งและแนวทางที่ตนเชื่อมั่นศรัทธาต่อไป ผมก็ไม่ได้ดีเลิศเพียงแต่เห็นว่าเราพึงกระทำเช่นนี้ๆเท่านั้นเองเพียงแค่ความคิดของผมเฉยๆ เป็นแค่คำที่ผู้รู้น้อย ด้อยปัญญากล่าวแสดงความเห็น หากเห็นควรประการใดผู้มีปัญญาพึงพิจารณาเองเถิด สาธุ
    อนุโมทนาในความดีที่จะเกิดขึ้นนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2008
  13. จิตเอกภพ

    จิตเอกภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +48
    ปรมิตร
    มันเกี่ยวอะไรกับคุณ ผมเห็นคุณพยายามที่จะติเตียนผมอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของคุณ ตัวคุณเองดีแล้วหรือไร จึงเพ่งโทษผู้อื่น ปากก็บอกว่าใจพระ แต่สันดานก็คงไม่ต่างกับไพร่ เวลาพูดนะปากกับใจให้มันตรงกันหน่อยนะ

    แล้วเวลาจะนำเสนออะไร ก็อย่าแสดงข้อคิดเห็นที่พ้อเจ้อ เที่ยวไปก๊อปข้อความเขามา ไร้ปัญญาหรือไร นี้แหละที่เขาเรียกพวกขอบกระด้งมือสองละ
     
  14. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    ครับๆ ขอขมากรรมนะครับ
    ผมเพียงแต่แนะนำไปตามความคิดนะครับ นึกว่าจะเป็นกุศลเวรแท้เรา
    โอ้ช่างน่ากลัวจริงๆ นะเนี่ยจิตใจคนเรา
    ขอขมากรรม ขอขามากรรม สาธุๆ
    ผมมิได้เพ่งหรือกล่าวโทษท่าน แต่เห็นว่าเพื่อนกัลญาณมิตรพึงกระทำกรรมอันห้ามผู้อื่นหรือเตือนผู้อื่นว่ามิพึงกระทำแล้ว
    จึงได้กล่าวออกไป ด้วยใจเป็นกุศล
    ด้วยเหตุนั้นหวังว่าสักวันจะมีคนมาเตือนผมเช่นนี้ มีคนมาหวังดีบอกผมว่าผมทำกรรมอันมิควรลงไป ก็แค่นี้เอง มิได้เฉพาะบุคคลนะครับถ้าเป็นคนอื่นกล่าวผมเองก็จะกล่าวแสดงความคิดเช่นนี้เหมือนกัน
    ด้วยเจตนานั้น อย่าได้ถือโทษผมเลย

    ถ้ากระทู้นี่ว่าไปอย่างเพราะเค้าบอกว่าจะมาโพสต้องมีที่มา อะนะครับ จะไปเอาความคิดคนอื่นมาแล้วไม่บอกที่มา อันนี้ผมคงทำมิได้เพราะเคารพในสติปัญญาผู้อื่น ปัญญารู้ด้วยการสนทนา เรารู้แล้ว เรารู้เเล้ว หึ หึ
    แล้วก็ขอโทษครับ มิได้เจตนาจะเพ่งโทษท่านเลยนะครับ
    จะคิดเห็นประการใดตามแต่ท่านเถิดเพราะผม มิได้มีอำนาจครอบงำท่านเลย

    ท้ายสุดขอโอกาสชี้แจงนะครับ ผมมิได้ ไปก๊อปใครมาแสดงความคิดนะครับ ทุกประโยคล้วนพิจารณาดีแล้ว คิดเอง บางครั้งต้องอ้างว่ามีคนกล่าว หรือได้ยินมาเพราะบางคนมาอ่านมันลึกซึ้งเกินไปเด่วจะหาว่าผมอวดดี อวดเก่ง ในบางครั้ง มันลึกซึ้งซะจนละอายตัวเองในการกล่าวพุทธวจนะออกไปจึงได้อ้างผู้รู้ ผู้มีปัญญาพึงเห็นโทษในการกล่าวแสดงความคิดโดยโอ้อวดผมจึงงดการกระทำเช่นนั้น
    เพราะว่าตนก็ไม่ได้ดีไปจากผู้ที่เรากล่าวให้ฟัง เพียงแต่นึกขึ้นได้เพราะภาวะวางใจเป็นกลาง หากตกอยู่ในอารมณ์ของกิเลสอาจนึกไม่ถึงจึงได้กล่าวเผื่อไว้เพื่อเป็นเหตุและปัจจัยในคราวที่ตนหลงกระทำบ้างก็เท่านั้น ถ้ามิเห็นประโยชน์ก็มิเป็นไรครับ

    อนุโมทนาในความดีที่จะเกิดขึ้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2008
  15. นาย 3

    นาย 3 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +10
    สิ่งศักสิทธิ์ตรัสว่า
    อริยะกลัวเหตุ ปุถุชนกลัวผล

    ผมก็เข้าในอย่างที่คุณเข้าใจแหละคับ
    พระองค์ทรงเป็นอรูปและรูป
    เป็นอนามและนาม
    สุขาวดีมันก็เป็นเพียงแค่กุศโลบาย



    ธรรมคือสิ่งที่ไร้ขอบเขต
    ธรรมคือนาม
    ธรรมคือรูป
    ธรรมคือความว่าง
    ธรรมคือสิ่งที่ประทับในใจแห่งสัตว์ทุกผู้
    จงเรียนรุ้ธรรมที่อยุ่ในใจตน
    แล้วจะค้นพบพระพุทธในใจ
     
  16. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    อนุโมทนาในศรัทธาจิตเเห่งความดี ของกัลญาณมิตร
    ผมเองผู้เดินทางไกล ตามคติของตน
    เมื่อพบผู้ศึกษาและศรัทธาเดินทางที่น่าสนใจอยู่ก่อน ตามคติของเขาแล้ว
    (เพราะเหตุใดเขาถึงศรัทธา ยังเหตุนั้นให้ขาพเจ้าสงสัยใคร่รู้ มิได้จะลองภูมิเลยนะครับแม้ตนจะมีคติของตนแต่มิได้ถือตนว่าดีแล้วประเสริฐที่สุด จึงใคร่ถาม)
    สำคัญตนว่าเราเป็นผู้รู้น้อยอยู่ ยังต้องศึกษาอีกมาก จึงใคร่ขอถามวิถีแห่งการปฏิบัติตามคติของท่านว่า
    อนุตรธรรมนั้น เป็นเช่นไร
    คำสอนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเช่นไร สิ่งใดได้บ้างชื่อว่ากุศล ในคติของท่าน
    การบรรลุอนุตรธรรมนั้นมีผู้บรรลุที่เป็มนุษย์แล้ว หรือไม่
    การบรรลุอนุตรธรรมมีสุขภาวะจิตเช่นไร เป็นวิมาน เป็นภพ เป็นภาวะธรรม
    เพื่อการเทียบเคียงตามคติและความเข้าใจของตน และความใคร่รู้

    โปรดสงเคราะห์ผู้รู้น้อยสนใจศึกษาตามเมตตาและกรุณาจิตของท่านเถิด
    ขอบพระคุณในคำตอบเพื่อชี้ทางแจ้งนะครับ
    และอนุโมทนาในความดีที่เกิดขึ้นนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2008
  17. somdeth

    somdeth Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +37
    นับถือคำสอนของพระพุทธองค์เถิดครับ

    คัมภีร์พระไตรปิฏกของแท้แน่นอน คัมภีร์ดังกล่าวเป็นคัมภีร์มหายาน
    พระพุทธองค์ไม่เคยตรัสไว้
     
  18. CHOTIYA

    CHOTIYA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +359
    ในคัมภีร์มหายานก็ไม่มีเหมือนกันจ้ะ
     
  19. สุริยทรงศีล

    สุริยทรงศีล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +1,873
    ถก กันมันดีนะครับ

    ผมเคยไปอบรม อนุตรธรรม ที่ว่า ไม่ใช่ศาสนาใดใด เอาแต่จุดดีของแต่ละศาสนามา
    แต่พอพูดอะไรดีดี มา พุทธวจนะ ทั้งนั้นเลย

    ไม่เห็นสอนให้ ละมาด หรือ ล้างบาป สารภาพ บาป อะไรประมานนี้เลย

    และบอกว่าไร้รูป ไร้ลักษณ์ กินเจ จึงจะดี ใครไม่กิน เหม็นสาป มนุษย์

    มีรูปเคารพ มีคาถา มีตราลัญจกร มีจุดญาณทวาร เหม็นสาป มนุษย์ที่ไม่กินเจ แต่

    ผมว่า เวลาผมกินเนื้อวัว(ไม่ต้องถึงเนื้อควาย) ผมว่ามันเหม็นนะ วัวควายกินหญ้าเป็น เจ ป่าวครับ

    พระโพธิสัตย์ อีก คำคำนี้ พูดกัน เท่ เชียว แต่ เข้าใจ บ้างมั้ย

    ว่า พระโพธิสัตย์ เขาต้องการช่วยหมู่สัตว์โลกทั้งปวงไปสุขคติ ภูมิ ถึง นิพพาน

    ยุคปัจจุบัน อยู่ในศาสนา ของพระพุทธเจ้า องค์ปัจจุบัน คาดว่า พระธรรม สมัยไหน คง ไม่ต่างกันมาก

    ทำความดี ละความชั่ว ทำใจให้เบิกบาน คงมีสรุปได้แค่นี้

    แล้วทำไมต้อง ขนกัน เกณกัน ไปเกิดใน สมัย พระ ศรีอาริยเมตรัย

    ถ้าเรียนกันได้ สอนกันได้ ส่งกันได้ ทำไม พระโพธิสัตย์ ที่อยากเป็นกัน ไมไม่ส่งคนที่เขาพอจะ
    ไาปชาตินี้ ได้

    ไปก่อน มัวแต่บอกไปเกิดยุค ตนเอง มั่งหล่ะ ยุคอาจารย์ตนมั่งหละ

    พระโพธิสัตย์น่ะ เขาส่งได้ เขาส่งไปชาตินี้เลย

    อย่าอ้างว่ายังไม่สำเร็จธรรม พระไตรปิฎก ชาตินี้ มีอยู่ คำสอนพระ มีอยู่ สอนกันสิ เรียนกันสิ

    แล้วก็พระโพธิสัตย์ คือผู้ปราถนาเป็นพระพุทธเจ้า เลิกเอาไปเคารพสูงกว่าพระพุทธเจ้าได้แล้ว
     
  20. emperron

    emperron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +432
    การถกเถียงกันไม่ใช่สิ่งที่ดีนะครับ มีหรือไม่มี ดีหรือไม่ดี ใช่หรือไม่ใช่ ล้วนเกิดจากปัญญาของมนุษย์ทั้งสิ้น
    แต่จุดที่มองเห็นว่าเค้าสามารถเปลียนคนให้เป็นมนุษย์ได้ก็พอ เป็นประโยชน์แก่บุคคลต่างๆ อย่างน้อยก็ทำให้เป็นคนดีได้ก็พอ
    มัวแต่เถียงกันไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ มีแต่จะทำให้มานะเรามากขึ้น เมือถึงเวลาก็ยากที่จะสลัดออก
    ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ อนุโมทนาครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...