วิปัสสนาคืออะไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 11 มิถุนายน 2010.

  1. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    วิปัสนาคืออะไร...........ลองดู ของ ตำราพระวิสุทธิมรรค ของ พระพุทธโฆษาจารย์--------จาก ตำราพระวิสุทธิมรรค ชำระและสอบทานโดย มหาวงค์ ชาญบาลี------------------บัดนี้จะวินิจฉัยในวิปัสนากัมมัฎฐานสืบต่อไป พระบาลีนี้ เป็นคำแห่งพระพุทธโฆษาจารย์ผู้ตกแต่งคำภีร์พระวิสุทธิมรรค สำแดงไว้ในเบื้องต้นแห่งปัญญานิเทศว่าด้วยสมาธิสมเด็จพระพุทธองค์ตรสเทศนาด้วยจิตเป็นประธานในบาทพระคาถาว่า "สิลเล ปฎิฎฐาย นโร สปัญโญ จิตตัง ปญญจํ ภาวยํ" นั้น เมื่อ โยคาพจรภิกษุผู้เห็นภัยในวัฎสงสาร จำเริญพระกัมมัฎฐานโดยวิธีที่สำแดงแล้วในสมาธินิเทศ ได้สำเร็จกิจแห่งพระกัมมัฎฐานมีสันดานกอปรด้วยสมาธิอันตั้งมั่นโดยพิสดารพิเศษ ได้สำเร็จอานิสงค์คือ โลกิยอภิญญาห้าประการ มีอิทธิวิถีญานเป็นต้น ชำนิชำนาญในวิธีแห่งอภิญญาสิ้นเสร็จแล้วกาลใด พระโยคาวจรภิกษุนั้นได้ชื่อว่าจำเริญพระสมาธิภาวนาสำเร็จเสร็จสรรพด้วยอาการทั้งปวงในกาลนั้น ครั้นเสร็จในสมาธิภาวนาแล้ว ลำดับนั้น พระโยคาพจรภิกษุ นั้นพึงจำเริญซึ่งปัญญาภาวนาสืบต่อไป เพื่อจะได้สำเร็จมรรคผลและพระนิพพาน.............และวิปัสนาปัญญา ที่สมเด็จพระพุทธองค์ตรัสเทศนาไว้ในบาทพระคาถา "สีเล ปฎิฎฐาย นโร สปญโญ" เป็นต้น ยังสังเขปย่อนัก ยากที่กุลบุตรล่วงรู้ล่วงเห้นได้ แต่เพียงจะหยั่งรู้ยังสิยากแล้ว ก็จะกล่าวไปใยถึงที่จะจำเริญวิปัสนานั้นเล่า ดังฤากุลบุตรทั้งปวงจักจำเริญได้ เหตุดังนั้น ข้าพระองค์ชื่อว่าพุทธโฆษาจารย์จักสำแดงซึ่ง วิปัสนาปัญญานั้นโดยนัยพิสดารในกาลบัดนี้.............พระพุทธโฆษาจารย์กล่าวคำปฎิญญาฉะนี้แล้ว จึงตั้งปุจฉาปัญหากรรมไว้ในเบื้องต้นว่า สิ่งดังฤาได้ชื่อว่าปัญญา..........ซึ่งเรียกว่าปัญญานั้น ด้วยอรรถาธิบายดังฤา----ลักษณะแลกิจแลผลสันนการณ์แห่งปัญญานั้นเป็นดังฤา----ปัญญานั้นเป็นประการเท่าดังฤา-----จักจำเริญปัญญานั้นควรจักจำเริญโดยพิธีดังฤา------สิ่งดังฤาเป็นอานิสงค์แห่งปัญญาภาวนา..................พระพุทธโฆษาจารย์กล่าวคำปฎิญญาฉะนี้แล้ว จึงตั้งเป็นปุจฉาปัยหากรรมไว้ในเบื้องต้นด้วยประการฉะนี้แล้ว จึงกล่าวคำวิสัชนาแก้คำปุจฉาสืบต่อออกไป...........ในข้อปฐมปุจฉาที่ถามว่า สิ่งดังฤาชื่อว่าปัญญานั้น วิสัชนาว่าปัญญานั้น มีอาการเป็นอันมาก มีอย่างต่างต่างไม่ใช่น้อย มิใช่อย่างเดียว...........สภาวะฉลาดในศิลปะศาสตร์ วิชาแขนงต่างต่าง ฉลาดในไตรเภทต่างต่าง เป็นต้นว่าเป็นแพทย์ทายชาตา ทายนรลักษณ์ ทายจันทคาหะ สุริยะคาหะ เป็นแพทย์รักษาโรคพยาธิรู้นวดรู้ยา ฉลาดในสรรพวิชาแต่บรรดามีในโลกนี้แต่แล้วล้วนด้วยปัญญาทั้งสิ้นทั้งปวง โดยกำหนดเป็นที่สุด แต่กริยาที่ฉลาดในการไร่การนาการค้าขาย ขวนขวายให้เกิดทรัพย์สมบัตินั้น แต่ล้วนแล้วด้วยปัญญาทั้งสิ้นทั้งปวง............อันจะปรารภประเภทแห่งปัญญาทั้งปวงให้สิ้นเชิงแล้ว และจะวิสัชนาจำแนกแจกออกซึ่งประเภทปัญญาต่างต่างนั้น อรรถาธิบายจะฟุ้งซ่านฟั่นเฝือเสียเปล่า จะไม่สำเร็จประโยชน์ที่ต้องประสงค์ เหตุใดเหตุดังนั้น ข้าพระองค์ผู้ชื่อว่าพระพุทธโฆษาจารย์จะเลือกเอาแต่ปัญญาที่ต้องประสงค์นั้น มาสำแดงเป้นข้อวิสัชนาในภาวนานิเทศภานาวิธีที่ข้าพระองค์ประสงค์จะสำแดงบัดนี้................ในข้อปฐมปุจฉาที่ถามว่า สิ่งดังฤาชื่อว่าปัญญานั้น นักปราชฌ์พึงสันนิษฐานว่า วิปัสนาญานที่สัมปยุติประกอบด้วยกุศลจิตพิจารณาไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั้นแล ได้ชื่อว่า ปัญญา.........ในข้อทุติยปุจฉาที่ถามว่า ธรรมชาติที่ชื่อว่าปัญญา ด้วยอรรถาธิบายเป็นดังฤานั้น วิสัชนาว่า "ปชานนตุเถน ปญญา"ธรรมชาติซึ่งได้นามบัญญัติชื่อว่าปัญญานั้น ด้วยอรรถว่าให้รู้โดยประการ..........อธิบายว่า กริยาที่รู้ชอบ รู้ดี รู้พิเศษ โดยอาการต่างต่างนั้นได้ชื่อว่ารู้โดยประการ ถ้าจะว่าด้วยธรรมชาติอันมีกริยาให้รู้นั้น มี3คือสัญญา 1วิญญาน1ปัญญา1ทั้ง3ประการ มีกริยาให้รู้อารมณ์เหมือนกัน แต่สัญญากับวิญญาน2ประการนี้ ไม่รู้พิเศษเหมือนปัญญา............สัญญานั้นให้รู้แต่ว่าสิ่งนี้เขียว นี้ขาว นี้แดง นี้ดำ เพียงเท่านั้นอันจะให้รู้ไตรพิธลักษณะ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตานั้น สัญญารู้ไปไม่ถึง.....................ฝ่ายวิญญานนั้น ให้รู้จักเขียวแลขาวแลดำ ให้รู้ตลอดถึงไตรพิธลักษณะ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาด้วย แต่วว่ามิอาจจะเกื้อหนุนให้ ดำเนินถึง อริยมรรคอริยะผลได้ ส่วนปัญญานั้นให้รู้พิเศษให้รู้จัก ขาวเขียว แดงดำ ให้รู้จักไตรพิธลักษณะทั้งสามแล้วเกื้อหนุนให้ดำเนินถึง อริยะมรรคอริยะผล ให้สิ้นทุกข์สิ้นภัยในวัฎสงสารได้................แท้จริงธรรมทั้งสามประการ คือ สัญญาแลวิญญานกับปัญญานั้น เปรียบเหมือนชนสามจำพวก คือทารกน้อยน้อยหนึ่ง บุรุษชาวบ้านที่เป้นผู้ใหญ่หนึ่ง ช่างเงินจำพวกหนึ่ง ชนสามจำพวกนี้รู้จักกหาปณะและรูปมาสกไม่เหมือนกัน----------------------(มีต่อ):cool:
     
  2. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    ขออนุโมทนา สาธุ สาธุด้วยครับ

    อธิบายเรื่องศีลได้แจ่มแจ้ง เป็นเหตุให้เกิดสมาธิ
     
  3. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    เห็นกระทู้นี้แล้วอดคิดถึง บรรดาท่านผู้ยอมพ่ายแพ้ต่อมารที่มาผจญง่ายๆไม่ได้จริงๆ......
     
  4. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ประกาศ........
    ใครทำให้วัตถุโบราณ อันบอบบางแตก.........
    ช่วยนำไป ซ่อม และ นำกลับ มาวางที่เดิมด่วน..........
    เพราะ.......วัตถุโบราณชิ้นอื่นๆ.....เริ่มสบัดร้อนสบัดหนาว......
    เพราะ......มีช่องว่างเกิดขึ้น...........มากเกินไป
    แต๊ช้าแต๊.......หายงอนหรือยังเนี้ย...........
    กลับมาเหอะ......นะลุงนะ
     
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ไม่เห็นจะมีช่องว่างอะไรเลย

    ส่งจิตออกนอกอยู่อีกหรือ ถึงได้ไป เผลอเห็นว่า ช่องว่างจะกระจาย ไปทั่ว
    หากไม่มี กะลาแน่นๆหนาๆ เข้ามาช่วย

    ภาวนาให้แน่นอีกหน่อยซี่ แล้ว จะรู้เลยว่า ไอ้ที่ปริวิตกไปว่า ช่องว่างที่ปรากฏ
    จะลุกลามไปทั่วนั้น เป็นเรื่อง อุปทาน ที่เกิดจาก จิตไม่ตั้งมั่น ภาวนายังไม่
    เป็น รู้ไม่ถึงฐาน

    เลยทำให้เห็นว่า ธรรม นั้นถูกกลบลบเลือนได้ ......... โดน อะไรกระซิบหลอก
    ให้ "กู้โลก" แล้วหละ โง่นะ ไปเชื่อมัน กะลาหนาเปล่าๆ
     
  6. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +572
    - ผมอดคิดถึง หลวงตามหาบัว ไม่ได้เมื่อเห็นรูปท่าน

    - ใครมีข้อ ข้องใจ เกี่ยวกับ พุทธ ธรรม สงฆ์ ถามมาผมจะใช้เครื่องมือของ กิเลส ตอบปัญหา ธรรม เอง


    - ตอบตามประสาคนมีกิเลส


    - วิปัสสนา คือ มรรค 8
     
  7. นายพีจัง

    นายพีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +143
    ขออนุโมทนา

    สมถยานิก และวิปัสนายานิก
     
  8. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    โฮ้...พี่ท่าน
    ซักแว๊บก้ไม่ได้หรือใงเล่า

    ตามประสาคนเคยคุยกัน เคยชี้แนะ ไม่เห็นก็ ใจหาย อ่านแล้ว ก็ให้ นึกถึงนะจ๊ะ
     
  9. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    ใจถึงๆหน่อย....ท่าน จะว่าใคร ที่ หลงโลก กู้ชาติ ก้ว่าไปเลย ผม ไไม่เคยกลัวเลย..พระ รูปไหน หลอกชาวบ้าน พระรูปไหน ต้องการอะไร จาก ชาวบ้าน อย่ามาต้มผม ผม ดูออกหมด....ไอ้ที่นับถือ กันมานาน อีกหลายๆรูป..นั้น ผม กล้าชี้ด้วยว่า รูปไหนลวง รูปไหนแท้

    พระ หลายๆรูป ตั้งแแต่ อดีตมา มีหลายรูป ที่ต้มชาวบ้านจนสุก..เปื่อยไป ก็มาก

    แต่ มีสิ่งนึง ที่พระ พวกนี้ ทำดีไว้ บ้างคือ
    การ ชักนำ คนไทย หลายๆคนให้หันมานับถือ ศาสนา พุทธ ได้ แม้จะเพี้ยนไป เพราะโดรหลอก แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นศึกษา พระธรรม คำสอน ของ พระพุทธศาสดา อีกทางนึง..แม้ จะ แค่ เริ่มต้น...ก็ ยังดี..ครับ

    อย่างทุกวันนี้...พระ ธัมมไชโย..แห่งวัดธรรมกาย...
    คนที่ เรียนพระธรรม จนแยกแยะ เป็นแล้ว..๗ะ รู้ดีว่าพระ รูปนี้ เป็นอย่างไร
    คนที่ไป ศรัทธา พระ ไชโยนั้น ยังมีมาก..หาก วันนึง คนพวกนั้น((ที่ศรัทธาธรรมกาย)) เขา เรียนรู้ธรมมะ มากขึ้น เขาจะ หันมา ทางสัมมาทิฎฐิ แน่นอน.ยังดีกว่า เขาไป ถือ ศาสนาอื่น ที่ยังเป็น มิจฉาทิฎฐิ....

    ผม มองว่า ..พวกธรรมกาย ยังมี ส่วนดีบ้างครับ....
     
  10. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    มีพระในอดีต..หลายๆรูป...เก่ง ท่องตำรามาก..จนสอบได้ มหาเปรียญ...จะว่าไป มหา เปรียญ สมัยก่อน ยากกว่าสมัยนี้เยอะ..ใครจะเรียนจนได้ เปรียญ.นั้นไม่ใช่ของง่ายๆเลย...คำถามคำตอบต้องลึกซึ้งถึงใจจริง จึงจะสอบผ่าน

    มีพระ สมัยก่อน ได้ มหากันหลายๆรูป และ เทศนาเก่ง..เพราะความรู้ใน ตำราแน่น..เอาคำสอนใน พระไตรปิฏฏมา สอนคนทั่วไป..เก่ง ทีนี้ชาวบ้านทั่วๆไป..พอฟังพระเทศน์ ก็ ซาบซึ้ง เพราะสมัยก่อน การหาตำรา อ่านหรือเรียนรู้มันยากกว่าสมัยนี้...วิทยาการยังไม่เจริญเหมือนสมัยนี้..

    คนรุ่นเรา นี้ เกิด มามีบุญ อยากรู้ธรรมมะ แค่ กด กูเกิล..อยากฟังธรรม แค่ กด ยูทูป..สงสัยอะไร ทิ้งคำถามไว้..ใน เวบต่างๆ เดี๋ยวมีคน มา แก้ข้อสงสัยมากมาย..มันง่าย มาก...หาความรู้ แบบไร้พรมแดน..เลย

    คนสมัยก่อน มันไม่ได้แบบ เรา พอมี พระนักเทศน์ ไปเทศนา แบบ ถึงอกถึงใจ ซึ่งพระเหล่านั้น เขาจำพระไตรปิฏก มาเล่า..คน ก้ ศรัทธา สาธุ นับถือเป็นเทพเจ้า..ทีนี้ เงินทอง
    ก็ ไหลมาเทมา...สร้าง พระบูชาออกมาที ก้ เฮโลไป แย่งกันซื้อ....บอกให้ทำอะไร..ก็เชื่อ แบบงมงาย

    ท่าน เทศนาอะไรก้ เชื่อ และ ชาวบ้าน เนี่ย..จอม เพ้อ ฝันทั้งนั้น..ลองรัก พระรูปไหนแล้ว...ก็ ยกให้ท่านเป้น อรหันต์ หมด...พระ ก้ รับสมอ้าง..เออ กูเป็น อรหันต์ ก็ ได้ วะ..ทีนี้..รวยเลย ดังด้วย.....คนรุ้นหลัง มา ไม่ศึกษา ดีๆ ก้ ไม่รู้ว่่า.จริงมั้ย.ก็ เฮไป กับเขาด้วย..ว่า องค์ นี้เก่ง องค์ นี้ อรหันต์ คิด แล้ว ก็ ปลื้มม น้ำหู น้ำตาไหล

    ใคร มาชี้ ว่า พระแก เก๊ แกหลอกเอา..ก็ สาปแช่งให้ลงนรกไป....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2012
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    bankbankbank

    ท่านจำพรรษาที่วัดไหนเหรอครับ
     
  12. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    ผม จะบอกไรให้นะ....

    มีพระ บางองค์ ตอนนี้ อาศัย ชื่อเสียงเก่าๆของพระ ที่เคยดัง..เลยมา เกาะ กระแส หลวงพ่อ องค์ ก่อน..ที่อยูลุ่ม น้ำ สะแกกรัง...ทำตัวแบบใกล้ชิด..แบบว่าเคยอยู่กับท่านมา เทศนา โวหาร เรียกศรัทธา คน..จนตอนนี้ ร่ำรวยแล้ว มี พัดยศใหญ่โต เพราะอะไรล่ะ..ในวงการสงฆ์ เนี่ย...ทุกวันนี้ เขานับหน้าถือตา กันที่เงิน...

    พระ อยาก ใหญ่โต เนี่ย..ต้องเข้าหา พระืผู้ใหญ่ มีเงิน เดินหน้า หาซื้อของไปฝากบ่อยๆ เอาเงินไปฝากท่าน มากๆ...ชั้นยศ จะเลื่อนเร็วมาก...

    ยศช้าง ขุนนางพระ...พอ มี ดีกรี..ยศใหญ่ ใึครนิมนต์ไปไหนที ก้ ต้องใส่ซอง เงินเยอะๆ..พวก คุณนาย หรือ พวกเศรษฐี ก้ แปลก พระ รูปไหน มียศศักดิ์เยอะๆใหญ่ๆ..เนี่ย..ชอบกันจังเพราะ เหมือน มีตรา ประทับว่า ขลังดี...น่าจะเก่ง น่าจะเฮง..คน ไทย มี นิสัย อยู่อย่าง คือ บ้า ยศ บ้า ตำแหน่ง...พระรูปไหน ยศใหญ่ๆะก้อ..เป็นได้ เห่อๆ..จน งมงาย ถวาย ทีไม่มีอั้น กลัวไม่ดัง.....

    ปัญหา แบบนี้ มันครอบงำ ทั้งทางโลฃก และทางธรรมจริงๆ..
    ทุกวันนี้ ปัญหา บ้านเมือง ก็ มาจาก ส่วนนี้ด้วย...การงมงาย กับ สิ่ง ถือยศถือ ศักดิ์ ทำให้บ้านเมืองไทย วุ่นวาย มาจนทุกวันนี้...คน ฟฟิลิปปินส์ มัน ด่า คนไทย..ในทำนองเปรียบเทียบ ที่ เหยียดหยามไปแล้ววว่า....นาย ไทย มาก

    คนฟิลิปปินส์ เขาดูถูกคนไทยแล้ว เหมือน ที่เรา เคยดู ถูก คน..ประเทศ ลาว ยังไงยังงั้นเลย....

    คุยไปคูยมา ลงไปที่ นิสัยคนไทย จนได้ เห้อออ
     
  13. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    ผม พระกระจอกครับ..บวช แค่ พรรษา ที่ 3 เอง..กำลังจะสอบนักธรรมเอก
    มัน หมูมาก เลย วิชานักธธรม ที่ออกโดย แม่กองธรรม สนามหลวงเนี่ย..ผม ขอดูถูกไว้เลย..

    ผม อยู่ราชบุรีครับ..
     
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    พระคุณเจ้า น่าจะให้ทางเวปเขา ลงไว้ ว่าเป็นนักบวช
    ผมมีคำถาม
    ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง เวลาญาติโยม คนมีอายุ เยอะๆ เขาก้ม ลงกราบครับ
    แม้กระทั่ง โยมพ่อ โยมแม่ ก็ยังก้มกราบ
     
  15. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    ในหมู่ .พระสาย ธรรมยุติ..นั้น

    ด้วยวัตรปฏิบัติ ที่ ประกาศตัวไ้ว้ก่อนว่า จะเคร่งครัด พระวินัยมากๆ..จน เป็น บท การันตี..ว่า พระสายนี้ คือ ของจริง..ผม จะบอกให้นะ....มันไม่แน่ไป ทุกๆรูปหรอก.พระแท้ๆนั้น..เขา จะเป็นนิกายไหน..หาก เขาถึงธรรมจริงๆ เขา ดี ทุกองค์ อย่างธรรมยุติ เนี่ย หาก บวชมาใหม่ๆ จะ เคร่งวินัยมาก พออยู่ไปนานๆ ธรรมแท้ไม่ กระดิกใจ..สุดท้าย ก็ จะหลอก ชาวบ้าน แบบ ลุ่มลึกไป อีกชั้น...ทีนี้...ชาวบ้านเนี่ย

    พอ ลงได้ รักใครแล้ว...จะมตาบอด..ไม่ว่าอะไร จะเกิด ภายหลัง หาก เป็นเรื่องไม่ดี ก็ จะ หา ข้อแก้ต่างให้ พระ ที่ตนเองรัก เสมอๆ..เพราะ ความรัก ทำใหห้คน ตาบอดไป..จริงๆ..ไม่มีเหตุ ไม่มีผล จะเชื่ออย่างงมงาย.งไปเรื่อยๆ....

    มีตัวอย่างมากมายหลาย รูป ที่ เป็นข่าว...มาตลอดหลายๆปี..พระบางรูป ทำผิด ชัดเจน ก้ยังมีคนรัก และกราบไหว้ไม่หยุด....เพราะ อะไรล่ะ คนไทย เป็นคน ชอบความงมงายครับ...ลองปักใจเชื่อแล้ว อะไร ก็ มาล้าง ไม่ได้ เพราะ ไม่มียาหยอดตา แบบ พิเศษ ที่สามารถ หยอด แล้ว ตาหายบอด และ ใจ หหายบอด ด้วยนั่นเอง
     
  16. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    เมื ่อ มีคนกราบผม เหรอ...

    ผม จะมองที่ตนเองเสมอว่า ผม มีดีพอให้เขากรายมั้ย.
    ทุกๆวันที่ผม เดินบิณฑบาตร...มีคน พม่า มาใส่บาตร..ใส่เสร็จ
    เขากราบที่แทบเท้า..ผม จะ มองที่ใจ ทันทีว่า เราดีพอให้กราบหรือยัง
    ผม มอง ใจผม ตลอด อะไร ที่ เป็น อาบัติ ผม จะพยายามระลึกไว้
    หาก เราดีไม่พอ เขามากราบเรา เราจะยืนไม่ไหวครับ..ต้องล้ม ไปแน่ๆ...
    คน เขากราบ ี่คูณธรรม..กราบความละได้ ของ พระ...

    เขาไไม่ได้กราบผม นะ เขากราบ ความละ ได้..
    กราบความไม่ยึดติด ตัวตน..ของเรา..ที่หห่อหุ้มด้วย กาสาวพัตร์ แห่งพระศาาสนา
     
  17. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    ผม อยู่ราชบุรี..
    อยู้แม่กลอง....หลวงพ่อ สายนี้เก่ง อภิญญาทั้งนั้น
    หลวง ปู่เนื่อง..แห่งวัด จุฬามณี..หลวงพ่อ จรูญ วัดเฉลิมอาสน์
    พระเหล่านี้ จริยวัตร ปกติ แต่ท่านเมตตา..ให้ โชคลาภ แก่ คน ที่มีโชคเสมอๆ..

    ผม ใบ้หวย ด้วย นิมิตฝัน ผมเอามาเล่า..ให้ฟัง..
    ใครตีถูก ถืือเป็น โชค เขา..ผม ผิด วินัยตรงไหน ผมไม่ได้หลอกเอาเงินใคร..
    ผม เขียนไว้เสมอว่า อย่า เชื่อผม ให้ดูเฉยๆ หาก จะซื้อ ซื้อน้อยๆ แต่สนุกๆ...
    ที่สำคัญ ผมไม่ได้บอกว่า ผม มี ฤทธิ์ นะ การฝันๆ เอา..ใครก้ ฝันได้..

    การ เล่าขานเรื่อง เลขหวย ด้วยการ ตี ความฝัน มัน ผิดตรงไหน..และ ฝันที่ผมเล่า มันมี ต้น มีปลายครับ ไม่ได้มั่ว.

    และผมไม้เคยเรียกร้องเงินกับใครด้วย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2012
  18. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ผมชอบ คติเตือนใจ หลวงปู่คูณ ปริสุทโธ
    หากคนกราบพระที่การห่มผ้า
    ลองเอาผ้าไปให้สุนัขห่มดู

    ผมหมดคำถามแล้วครับพระคุณเจ้า
    มีโอกาส ผมคงได้ขอฟังธรรมต่อหน้าครับ
    เมื่อท่านเป็นพระตามที่ท่านตั้งใจไว้

    นมัสการพระคุณเจ้าครับ _/\_ ยุติแต่เพียงเท่านี้ครับ
     
  19. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    พระ ที่บวช ยังไม่ถึง พรรษา ที่ 6 เนี่ย เขาเรียกว่า นวกะ..ที่แปลว่าพระใหม่ จะไปไหน เอง ไมไ่ด้..ต้อง อยู่ วัด อยู่ อาราม ไปก่อน

    ต้องอยู่ใกล้ อุปัชฌาย์ อาจารย์..เรียรู้ การดำำรง ชีวิตพระ แบบ เต็มส่วน ก่อน
    ต่อเมื่อ ครบ 5 พรรษาไปแล้ว เข้าเขต มัชฌิม...จึงคอยวางใจให้ไปไหนมาไหนได้เอง...
     
  20. bankbankbank

    bankbankbank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +885
    ในสาย มหานิกายนั้น.....

    จะว่าไป นี่คือ สาย แห่ง พระพุทธศาสนาอันยาวนานในเมืองไทย..แม้ธรรมยุติ จะมา ตั้งภายหลัง และมีการดูแคลน จาก พระสายธรรมยุติ บางสำนัก เขา ดู แคลน พระสาย มหานิกายมาก..ถึงกับไม่ยอม รับไหว้ ก้มี แอละ ไม่ร่วมสังฆกรรมก็ มี

    ผม อยากเตือนสติ พระสาย ธรรมยุติ มากๆ..ว่า หาก ไม่มี นิกายมหานิกาย ในเมืองไทย ที่รักษา พระธรรมวินัยมานาน...และตำรา พระไตรปิฏก ก็ สืบสายมานานใน มหานิกายนี้ แล้ว...ก็ ไม่มีทาง ที่ประเทศนี้จะมี สายธรรมยุติได้ แน่ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...