วิธีสร้างสติอัตโนมัติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย MindSoul1, 10 ตุลาคม 2012.

  1. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก็ต้อง พิจารณาเรื่องของ การเคยสดับ อันนี้ เรื่องหนึ่ง

    พิจารณาเรื่อง การประกาศไตรสรณะ อันนี้ อีกเรื่องหนึ่ง

    และ ก็ต้อง พิจารณาการหมั่นปฏิบัติ การปรารภความเพียร อีกเรื่องหนึ่ง

    ปรกติคนแค่สมาทานศีล ก็อาจจะยัง ........ ได้

    คนที่ปรารภ ไตรสรณะ ก็อาจจะยัง ........ ได้

    แต่ถ้า เคยสมาทานสิกขา ได้บ้างไม่ได้บ้าง อันนี้ ยกไปเลย ไม่ใช่เรื่อง
    ที่เราจะต้องไป ล้วงผู้ปราวณาตนเดินตาม "........"

    ถ้าเรายังไป กวักมือ ทักนู้น ทักนี่ เพื่อให้เขาหันหลังกลับมา ดื่ม งง กับ "....."

    อันนี้ก็พิน่าเอาเอง
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ส่วนการ ยกพระสูตรเป็นหลัก โดยไม่ค่อยแทรกความเห็น

    อันนี้ ก็บอกในตัวอีกเหมือนกันว่า ศรัทธามีมากหรือน้อย

    แต่ พวก โง่ บางพวก กางกั้นการสัมผัสพระพุทธองค์ ผ่าน
    การยก สัทธรรม บอกเอาไปเก็บเข้าตู้ แบบตามๆกันไปอย่าง
    ไม่รู้เรื่องรู้ราว เพียงเพราะ "............."

    แล้วยังเที่ยวไป อมคำเขามาพูด มาทัก คนยกตำราด้วย
    ศรัทธาที่ถูกต้องว่า "หนอนตำรา"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2012
  3. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    █████████████████████████████████████████████████████████
    ฝังหุ่น
    อืมมม ใช้กันได้แฮะ
     
  4. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    นี่ไม่เฉลียวใจอีกแล้ว...
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    พวก มี ธาตุ กลัว กรรมเวร ขึ้นสมอง เนี่ยะ เอาไปเก็บไว้ใช้ กับพวก
    ปัญญาอินทรีย์อ่อนเถอะครับ คนที่ เกิดมาจาก ทาส ปักจิตอยู่กับ
    ความเป็น ทาส

    ไม่เคยขึ้นมา บริหาร มันก็ไม่มีปัจจัยบางประการ จะมองข้าม ( วิสัยทัศน์ )

    การมองข้าม แบบการบริหาร ไม่ใช่ เพิกเฉย หรือ ไม่เห็น หรือ โบ๋เบ๋

    การมองข้าม ของปัญญาอินทรีย์ มันเป็นการข้าม เพราะมัน บริบูรณ์
    เพียงพอ

    ตอนนี้ ลาออกมาจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน มาตั้งบริษัทเอง
    เคยใช้ วิสัยทัศนบริหารหรือยังครับ หรือ ยังตุ่มๆต่อมๆ ทำแบบรูทีน
    เช้าปักธูป เย็นเก็บกระจาด ดึกสวดมนต์ อรุณนั่งแผ่เมตตา เช้า
    มานั่งดูข้าวมีกินหรือไม่มี บ่ายนั่งดีดผลกำไรจากการลงทุนทุก
    กิจชนิด บ่าย ตาย!! ลืมไปแบงค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2012
  6. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    อิอิ....สัมมาทิฎฐิมี สัมมาสติมี สัมมาวายามะมี..ย่อมไปได้ อิอิ เจ่ก:cool:
     
  7. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุคิดพล่านไปในธรรม ตามที่ได้ฟังได้เรียนมา,
    แต่เธอไม่รู้ความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้น ๆ ด้วยปัญญา. ภิกษุนี้ เรา
    เรียกว่า ผู้มากด้วยการคิด (นักคิด) ยิ่งมิใช่ธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรม.
    _________________________________________________________
    บาลี พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๐๐/๗๔, ตรัสแก่ภิกษุรูปหนึ่งผู้ทูลถามเรื่องนี้.



    การคิดใคร่ครวญเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าคิดจิตหดหู่พระองค์ให้ใคร่ครวญธรรม เเต่ถ้าคิดฟุ้ง เกิดสภาวะสงบๆเเบบคิดเอาเเบบลวกๆโดยไม่ได้ตรวจสอบดูว่าต้องทำยังไงกันเเน่ นึกต่อว่าจะหลุดพ้นได้นั้นคงไม่ใช่ เพราะมันก็ครายๆกับ พวกพรามหณืหรือเดียรถียเล่าอื่นที่กล่าวความหลุดพ้นได้จาก ภพ ว่ามีได้เพราะ ภพ หรือ ออกจากภพได้ เพราะ วิภพ
     
  8. โกมีนัม

    โกมีนัม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +440
    ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนเลย ขอบคุณมากๆที่นำมานะ ^_^
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456

    จะยกมา ก็อย่าลืม กล่าว นัยสำคัญ ที่ว่าด้วย

    "แต่เธอไม่รู้ความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนั้น ๆ ด้วยปัญญา"

    เพราะ ถ้าเขารู้หละ ถ้าเขารู้ความหมาย ใส่ใจในความหมาย
    ไม่ได้กะท่องแบบอาขยาน มันก็ คนละเรื่องนะ

    ********************

    กรณี ภพ และ วิภพ หรือ ทิฏฐิว่าด้วยเรื่องตายแล้วไม่สูญ
    กับ ตายแล้วสูญ ตรงนี้ไม่ยาก

    เขาดูกันที่ การปรารภ ศรัทธาในไตรสรณะ หรือ เอาชัดก็
    พุทธานุสติ ก็ได้ หากมี ธรรมนี้ในจิต ก็เลิก เพ่งเพื่อนพรหม
    จรรย์ว่ามีทิฏฐิเข้าไปส่วนสุด ของ ภพ และ วิภพ ไปได้เลย

    ไม่เชื่อลอง ทำพุทธานสุติสิ ลองวางใจศรัทธามั่นคงในรัตนไตรสิ
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456

    นี่ๆ กัมมีโน จะอธิษฐานจิตสำเร็จเป็น อรหันต์ มีสติอัตโนมัติเป็นผลไหม

    ถ้าต้องการเจริญสติอัตโนมัติให้เป็นผล ก็ต้องหมั่นเจริญสติอัตโนมัติให้เกิดขึ้น เนืองๆ แล้ว
    ระหว่างเจริญก็ตามดูความเกิด ความดับ เกิดอย่างไร ดับไปอย่างไร

    ส่วนผลของการเห็นการเกิดดับ ของการ เพียรเจริญสติอัตโนมัติ จะเป็น
    อย่างไร ไปหามะนาวกินเอา
     
  11. โกมีนัม

    โกมีนัม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +440
    กินมะนาวไม่ได้ผลหรอก มันต้องหยุดกินวิตามิน บี 12กับเลซิติน ส่วนคาลาเจน ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 ตุลาคม 2012
  12. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    เพราะงั้นการคิดนี่ก็หมายถึงการ พิจรณาใคร่ครวญธรรมที่ทรงจำเอาไว้
    มันก็คือสังขารอย่าง1 ที่เมื่อทำอยู่ก็ไม่ใช่ว่าทำให้เกิดธรรมอันเอกขึ้นอะไร เเต่ให้ผลคือภพอยู่
    ปัญญา ก็หมายถึง เห็นด้วยปัญญาอันชอบ เเต่ถึงจะเห็นด้วยปัญญาเเละก็ไม่ใช่ว่า จะทำให้หลุดพ้นทันที
    คำว่า ยิ่งมิใช่ธรรมวิหารี - ผู้อยู่ด้วยธรรม. อีกพระสูตรจะมีคำวลี หมายถึง สติปัฏิฐาน4
    เพราะงั้นการคิดอย่างเดียวนั่น หรือ การปรุงเเต่งอยู่สังขาร ไม่ใช่เป็นที่เทียวของจิต ที่พระองค์เเนะนำ
    เเละก็ไม่ใช่สิ่งที่ให้ เพื่อการหลุดพ้นเหมือนกัน หรือให้เกิด สติ หรือสมาธิขึ้นอะไร เเต่เป็นสิ่งที่ทำให้เข้าใจเพื่อนำมาปฏิบัติต่อได้เท่านั้น
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    นี่ๆ คุณเคยใคร่ ครวญ ธรรมของพระพุทธองค์ แล้วเกิดความเข้าใจ
    และ บังเกิดความสุข ไม่ร้อนใจ หรือเปล่า

    มันต้องเคยบ้างสิ

    นี่คงไม่บอกผมหรอกนะว่า เวลาอ่านพระไตรปิฏกแล้ว คุณเกิด
    แต่ความร้อนใจ ไม่เกิดความสุข ไม่เกิดความปรกติของใจ ขึ้นเลย

    ไหนๆ มาลองอ่านพระสูตรนี้ หน่อยสิ

    อ่านดีๆ นะ เพราะ อันนี้ถ้าอ่านไม่ดี จะกลายเป็น "ไม่ต้อง ไม่ตั้ง"

    แต่สมมติว่า อ่านยังไง ก็เห็นว่า พระพุทธองค์กำลังบอกสวนทางสาวก
    ที่ สาวกบอกว่า เฮ้ย มันต้องตั้งใจสิ แต่ นี่พระพุทธองค์มาบอกว่า
    "ไม่ต้องตั้งใจ" สวนทาง ครูของตน

    ก็ลองพิจารณา ซักค้านพระพุทธองค์ดู ไม่แน่ อาจจะทำให้ พระไตร
    ปิฏกหายไปได้อีกหนึ่งพระสูตรตามแผน ก็ได้

    เป็นไง ไม่ต้องตั้งใจ "......." แต่ วิมุตติได้

    เอาไง ดี


    ****************************

    ปล. อวิปฏิสาร คือ อาการร้อนใจ ( อรรถกถาแปล )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2012
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ว่าไงๆ อ่านบทนี้แล้ว ได้ ใคร่ครวญอยู่ นานไหม

    มีความเข้าใจบ้างหรือเปล่า เพียงพอให้เกิดความปรกติ
    ของใจได้บ้างไหม มีความปราโมทย์ในสัทธรรมที่ประทาน
    ไว้ให้ไหม มีปิติไหม ถ้ามี อย่าลืมพิจารณาเห็น กายสงบ
    แล้วอย่าลืมพิจารณา สมาธิที่เกิดขึ้นเองอัตโนมัติ ไม่ต้องตั้งใจ
    ให้เกิด แต่ มันเกิดเอง เป็นอนัตตา .... ถ้าได้แบบนี้ ก็ดีใจ
    ด้วย เพราะ ย่อมบอกได้ว่า จะมีวิมุตติ

    แต่ถ้า ไม่เข้าใจเว้ยเฮ้ย ไม่ขอรับ ขอ ตะไว้ก่อน ร้อนใจ วิ่ง
    ไปนั่นไปนี่ ก็ไม่ต้องไปไหน ก็ไม่ต้องไปไหน

    ย้อนกลับไปพิจารณาที่คุณยกมาก่อนหน้าได้เลย

    พวกอ่านพระไตรปิฏก แล้วใคร่ครวญไม่ได้ ไม่เข้าใจ
    ด้วยปัญญา เนี่ะย เขาเรียกว่า พวก ".............." ( ไม่ได้พูดนะ )
     
  15. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    ธรรมก็ต้องย่อมไหลไปสู่ธรรมอยู่เเล้ว

    การรักษาศิลนี่ก็เป็นการสำรวม เป็นข้อปฏิบัติทาง กาย กับ วาจา เท่านั้น เพราะงั้นต้องรู้ก่อนว่าการรักษาศิลนั้นไม่เกียวกับทาง มโน ทาง จิต
    ผู้ที่มีปราโมทย์ เกิดขึ้นได้ ก็ต้องทำเหตุปัจจัยให้เกิดขึ้นมาก่อน ก็คือการสำรวมอิทรีย์ สำรวมมโน สำรวมจิต สำรวมวิญญาณ คือการอยู่กับกาย ให้จิตอยู่กับที่ ผู้ที่สำรวมอินทรีย์ ปราโมทย์ย่อมเกิดขึ้น เพราะปราโมทย์จะเกิดได้มันเกียวกับ ทางจิต ไม่ใช่เกียวกับทางกายกับวาจา ด้วยการสำรวมอินทรีย์ หรือการเจริญอานาปานสติ ก็คือการอยู่กับกาย เเละการเจริญอาปานสติอย่างเดียวก็ทำให้ถึง วิมมุติได้นั้นเเละ มันก็อยู่ที่การสร้างเหตุปัจจัย คนเจริญอานาปานสติอย่างเดียว ก็หลุดพ้นได้เหมือนกัน หรือจะเห็นอนิสงส์ที่ว่า จะเป็นถึง อนาคามี หรือ พระอหันตร์ เพียงเเค่เจริญอานาปานสติอย่างเดียว
    เพราะงั้น ถ้าจะพูดกันง่ายๆมันก็ง่าย เเต่ถ้าให้พูดยากๆมันก็ได้ เหมือนกัน เเต่มันก็ต้องเข้าใจโพชฌงค์7 ดีๆด้วย ตรงนี่สำคัญ
    งั้นถึงต้องดูพระสูตรอื่นๆด้วย ต้องมองโดยรวมเเละกว้างๆ ไม่งั้นจะไปคิดว่าการรักษาศิลอย่างเดียวหลุดพ้นได้ อย่างพระสูตรที่เคยอ่านผ่านมา ประมานว่า ที่ปริพาชกไปเห็นบางคนที่รักษาศิล เเต่ยังได้ไปเกิดในนรก มันก็เกียวกับเรื่องที่ไม่สำรวม เเละ ประมาทนั่นเอง
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ขอทักอีกนิดเดียว ตรงนี้ ผมว่า คุณยังกล่าวเจือด้วย ทิฏฐิแล่นไปข้างหน้า หรือ
    ไม่ก็ อดีต แล้วแต่ประวัติการณ์ของจิต ของตน

    แต่ถ้าเรา มีสติ พิจารณา รู้เท่า เอาทัน การปรารภปรามาสศีล จะไม่เกิด !!

    อนึ่ง คุณต้องตั้งสติให้ดีๆ ว่า กำลัง คุยกับ มนุษย์ผู้ใฝ่เจริญ

    ดังนั้น เปิดใจให้กว้างๆ หากเขามาอยู่ในร่มพระศาสนา ก็ถ้อยที ถ้อยอาศัย บ้าง จะเป็นไรไป
     
  17. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    อกุศลกรรมบถ ๑๐
    จุนทะ ! ความไม่สะอาดทางกาย มี ๓ อย่าง
    ความไม่สะอาดทางวาจา มี ๔ อย่าง
    ความไม่สะอาดทางใจ มี ๓ อย่าง
    จุนทะ ! ความไม่สะอาดทางกาย มี ๓ อย่าง
    เป็นอย่างไรเล่า ?
    (๑) บุคคลบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้มีปกติทำ??
    สัตว์มีชีวิตให้ตกล่วง หยาบช้า มีฝ่ามือเปื้อนด้วย
    โลหิต มีแต่การฆ่าและทุบตี ไม่มีความเอ็นดูในสัตว์มีชีวิต.
    (๒) เป็นผู้มีปกติถือเอาสิ่งของที่มีเจ้าของ
    มิได้ให้ คือวัตถุอุปกรณ์แห่งทรัพย์ของบุคคลอื่นที่อยู่ใน
    บ้านหรือในป่าก็ตาม เป็นผู้ถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ได้ให้
    ด้วยอาการแห่งขโมย.
    (๓) เป็นผู้มีปกติประพฤติผิดในกาม (คือ
    ประพฤติผิด) ในหญิง ซึ่งมารดารักษา บิดารักษา พี่น้องชาย
    พี่น้องหญิงหรือญาติรักษา อันธรรมรักษา เป็นหญิงมีสามี
    หญิงอยู่ในสินไหม โดยที่สุดแม้หญิงอันเขาหมั้นไว้ (ด้วยการ
    คล้องพวงมาลัย) เป็นผู้ประพฤติผิดจารีตในรูปแบบเหล่านั้น.
    จุนทะ ! อย่างนี้แล เป็นความไม่สะอาดทาง
    กาย ๓ อย่าง.
    จุนทะ ! ความไม่สะอาดทางวาจา มี ๔ อย่าง
    เป็นอย่างไรเล่า ?
    (๑) บุคคลบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้มีปกติกล่าวเท็จ
    ไปสู่สภาก็ดี ไปสู่บริษัทก็ดี ไปสู่ท่ามกลางหมู่ญาติก็ดี
    ไปสู่ท่ามกลางศาลาประชาคมก็ดี ไปสู่ท่ามกลางราชสกุลก็ดี
    อันเขานำ?ไปเป็นพยาน ถามว่า “บุรุษผู้เจริญ !
    ท่านรู้อย่างไร ท่านจงกล่าวไปอย่างนั้น” ดังนี้, บุรุษนั้น
    เมื่อไม่รู้ก็กล่าวว่ารู้ เมื่อไม่เห็นก็กล่าวว่าเห็น เมื่อเห็นก็
    กล่าวว่าไม่เห็น, เพราะเหตุตนเอง เพราะเหตุผู้อื่นหรือ
    เพราะเหตุเห็นแก่อามิสไรๆ ก็เป็นผู้กล่าวเท็จทั้งที่รู้อยู่.
    (๒) เป็นผู้มีวาจาส่อเสียด คือฟังจากฝ่ายนี้
    แล้วไปบอกฝ่ายโน้น เพื่อทำ?ลายฝ่ายนี้ หรือฟังจากฝ่ายโน้น
    แล้วมาบอกฝ่ายนี้ เพื่อทำ?ลายฝ่ายโน้น เป็นผู้ทำ?คนที่
    สามัคคีกันให้แตกกัน หรือทำ?คนที่แตกกันแล้วให้แตกกัน
    ยิ่งขึ้น พอใจ ยินดี เพลิดเพลินในการแตกกันเป็นพวก
    เป็นผู้กล่าววาจาที่กระทำ?ให้แตกกันเป็นพวก.
    (๓) เป็นผู้มีวาจาหยาบ อันเป็นวาจาหยาบคาย
    กล้าแข็ง แสบเผ็ดต่อผู้อื่น กระทบกระเทียบผู้อื่น
    แวดล้อมอยู่ด้วยความโกรธ ไม่เป็นไปเพื่อสมาธิ เขาเป็น
    ผู้กล่าววาจามีรูปลักษณะเช่นนั้น.
    (๔) เป็นผู้มีวาจาเพ้อเจ้อ คือเป็นผู้กล่าวไม่ถูก
    กาล ไม่กล่าวตามจริง กล่าวไม่อิงอรรถ ไม่อิงธรรม ไม่อิงวินัย
    เป็นผู้กล่าววาจาไม่มีที่ตั้งอาศัย ไม่ถูกกาละเทศะ ไม่มีจุดจบ
    ไม่ประกอบด้วยประโยชน.์
    จุนทะ ! อย่างนี้แล เป็นความไม่สะอาดทาง
    วาจา ๔ อย่าง.
    จุนทะ ! ความไม่สะอาดทางใจ มี ๓ อย่าง
    เป็นอย่างไรเล่า ?
    (๑) บุคคลบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้มากด้วย
    อภิชฌา (ความโลภเพ่งเล็ง) เป็นผู้โลภเพ่งเล็งวัตถุอุปกรณ์
    แห่งทรัพย์ของผู้อื่น ว่า “สิ่งใดเป็นของผู้อื่น สิ่งนั้นจงเป็น
    ของเรา” ดังนี้;
    (๒) เป็นผู้มีจิตพยาบาท มีความดำ?ริในใจ
    เป็นไปในทางประทุษร้ายว่า “สัตว์ทั้งหลายเหล่านี้
    จงเดือดร้อน จงแตกทำ?ลาย จงขาดสูญ จงพินาศ
    อย่าได้มีอยู่เลย” ดังนี้ เป็นต้น;
    (๓) เป็นผู้มีความเห็นผิด มีทัสสนะวิปริตว่า
    “ทานที่ให้แล้ว ไม่มี (ผล), ยัญที่บูชาแล้ว ไม่มี (ผล), การบูชา
    ที่บูชาแล้ว ไม่มี (ผล), ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำ?ดีทำ?ชั่ว
    ไม่มี, โลกนี้ ไม่มี, โลกอื่น ไม่มี, มารดา ไม่มี, บิดา ไม่มี,
    โอปปาติกะสัตว์ ไม่มี, สมณพราหมณ์ที่ไปแล้ว ปฏิบัติแล้ว
    โดยชอบถึงกับกระทำ?ให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่นด้วยปัญญา
    โดยชอบเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็ไม่มี” ดังนี้.
    จุนทะ ! อย่างนี้แล เป็นความไม่สะอาดทางใจ
    ๓ อย่าง.
    จุนทะ ! เหล่านี้แล เรียกว่า อกุศลกรรมบถ ๑๐.
    จุนทะ ! บุคคลประกอบด้วยอกุศลกรรมบถ
    ๑๐ เหล่านี้ ลุกจากที่นอนตามเวลาแห่งตนแล้ว แม้จะลูบ
    แผ่นดิน ก็เป็นคนสะอาดไปไม่ได้, แม้จะไม่ลูบแผ่นดิน
    ก็เป็นคนสะอาดไปไม่ได้; แม้จะจับโคมัยสด ก็เป็นคน
    สะอาดไปไม่ได้, แม้จะไม่จับโคมัยสด ก็เป็นคนสะอาด
    ไปไม่ได้; แม้จะจับหญ้าเขียว ก็เป็นคนสะอาดไปไม่ได้,
    แม้จะไม่จับหญ้าเขียว ก็เป็นคนสะอาดไปไม่ได้; แม้จะ
    บำ?เรอไฟ ก็เป็นคนสะอาดไปไม่ได้, แม้จะไม่บำ?เรอไฟ
    ก็เป็นคนสะอาดไปไม่ได้; แม้จะไหว้ดวงอาทิตย์ ก็เป็น
    คนสะอาดไปไม่ได้, แม้จะไม่ไหว้ดวงอาทิตย์ ก็เป็นคน
    สะอาดไปไม่ได้; แม้จะลงน้ำ?ในเวลาเย็นเป็นครั้งที่สาม
    ก็เป็นคนสะอาดไปไม่ได้, แม้จะไม่ลงน้ำ?ในเวลาเย็นเป็น
    ครั้งที่สาม ก็เป็นคนสะอาดไปไม่ได้.
    ข้อนั้นเพราะเหตุไร ?
    จุนทะ ! เพราะเหตุว่า อกุศลกรรมบถ ๑๐
    ประการเหล่านี้ เป็นตัวความไม่สะอาด และเป็นเครื่อง
    กระทำ??ความไม่สะอาด.
    จุนทะ ! อนึ่ง เพราะมีการประกอบด้วยอกุศล-
    กรรมบถทั้ง ๑๐ ประการเหล่านี้เป็นเหตุ นรกย่อม
    ปรากฏ กำ??เนิดเดรัจฉานย่อมปรากฏ เปรตวิสัยย่อม
    ปรากฏ หรือว่า ทุคติใดๆ แม้อื่นอีก ย่อมมี.
    ทสก. อํ. ๒๔/๒๘๓-๒๘๙/๑๖๕.



    อย่างดูในอกุศลกรรมบถ10 ก็จเห็นว่า

    อกุศลธรรมทาง กาย กับ วาจา เนี่ย เกียวกับการผิด ศิล5

    ส่วนทางใจ นี่เกียวกับ กาม เเละ อกุศลธรรมทั่งหลาย
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    คำว่า เดียรถีย์ ปริพาชก หากเป็นผม ผมจะ พิจารณา

    การมี ศาสดาอื่น ที่ไม่ใช่พระสมณะโคตม การหวงศาสดาอื่น การมีครูอื่นนอกศาสนา

    ถ้ามีร่องรอย อันนี้ ผมก็จะ จัดเต็ม !!
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    กั๊กๆ

    นี่ๆ คุณ แมวหัวกบ

    ผมถามหน่อย คุณมีความอยากฆ่า ไหม .... ฆ่ากิเลส เนี่ยะ

    แล้ว คุณมีความคับแค้นใจ พยาบาทไหม ..... ที่ตัณหา มันย่ำยีหัวใจอยู่เนี่ยะ


    นี่ถ้า คุณ ยังไม่เอาธรรมเป็นใหญ่ แต่ เอา บุคคล ตัวตน มาเที่ยว ร่อนรับ

    ก็ช่วยไม่ได้หน่า
     
  20. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    เพราะงั้นจะมาบอกว่า ไม่ต้องทำสมาธิ เอาเเต่นั่งคิด เดียวหลุดพ้น เเละการรักษาศิล5ก็เพียงพอเเล้ว
    เเต่นี้
    ศิล5 ก็ยัง ด่างๆอยู่ เเล้วจะหลุดพ้นกันได้ยังไง

    ถึงต้องดูให้กว้างๆไง บทเดียวยังสรุปไม่ได้หรอก ธรรมพระองค์จะรวมกันเป็น1 ก็คือหลายๆบท ไม่ใช่เอาบทเดียว
     

แชร์หน้านี้

Loading...