เพื่อการกุศล วัตถุมงคลสายพญานาค ปรอทสายวิชาเก่า เครื่องรางหายาก น.สุดท้าย

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย ตันติปาละ, 9 พฤศจิกายน 2010.

  1. พระกาฬลพรี

    พระกาฬลพรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +58
    เมื่อคืนตกหนักมากข้าวของกระเด็นหมด
     
  2. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    เห็นอยากเห็นอะไรสีเหลืองๆ น้องไซเอามาให้ดูแล้ว
    งั้นจัดให้แล้วกัน1 รูป แต่ถ่ายไม่สวย (ใช้มือเดียวจับกล้อง)
    ถ่ายเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนเอาลงแช่น้ำมนต์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    อีกรูปถ่ายช่วงเวลาเดียวกันแหละ แต่มือสั่นหรือไงเนี่ยแหละอาจเป็นเพราะภาพไหวมั๊ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    อิๆๆ งั้นวันนี้ พี่ได้เลข ไร กระซิบบอกกันบ้างนะ อิๆๆ เกาะกระแสบุญด้วย อิๆๆ
     
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ป๊าดๆๆ ไม่ยอม งั้นเอา ลูกสีชา ไปข่ม 555
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. ศิวกา

    ศิวกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +779
    สวยๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ หุๆ นั่งชมความงดงามเพลินๆ ไปเลย



    ป.ล.หลานชายวัย 2 ขวบเพ่ิงให้หวยงวดที่แล้วเองค่ะ ออกตรงๆ เลย แต่หาซื้อไม่ได้ เสียใจT__T
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2011
  7. I_DreaM_PartY

    I_DreaM_PartY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +217
    เจริญพร แต่ละท่าน ไม่มีใครยอมใครจริงๆ ขนเอามาโชว์อีกนะจ๊ะ ชอบพลอยสีเหลือง
     
  8. I_DreaM_PartY

    I_DreaM_PartY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +217
    เขียนโดย Administrator
    อังคาร, 30 มีนาคม 2010
    แก้วโป่งข่าม ก็คือ หินเขี้ยวหนุมาน (Quartz) ชนิดหนึ่งที่อยู่ใต้ผิวดิน ซ่งมักจะมีหินอัคนี และยังหมายรวมเอาการพบแก้วหินทรายในหิน ชั้น อันได้แก่แร่ Chalcedony ที่มีสีต่างๆ แต่จะมีเนื้อขุ่นไม่ใสตามธรรมดา รวมทั้งแร่ feldspar อีกด้วย

    คนไทยรู้จักมา นานนับศตวรรษแล้วแต่ยังไม่แพร่หลายเท่านั้นเอง ซึ่งหินแก้ว หรือโป่งข่ามที่มีลักษณะงอก หรือเจริญเติบโตได้นั้น ชาวล้านนา เรียกหินแก้วเหล่านี้ว่า "ปวก" และถือเป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งด้วย
    สำหรับหินแก้วบางชนิดจะมีเม็ดภายใน เหมือนลายในก้อนน้ำแข็งละลายเหมือนฝ้า มี ชื่อเรียกว่า "หมอกมุงเมือง"ใช้เป็นเครื่องรางที่บอกนิมิตรในการเสี่ยงทาย หรือบางคนนำมาเพ่งเพื่อฝึกสมาธิ

    หินแก้วโป่งข่าม จะมีลักษณะก่อตัวเป็นผลึกเล็ก มี ความแวววาว เหมาะอย่างยิ่งในการทำเครื่องประดับ เนื่องจากโครงสร้างรูปผลึกของโป่งข่ามเป็นไปตามธรรมชาติ จึงมีลักษณะที่ไม่เฉะพาะเจาะจง บางอันมีความแปลกประหลาดแตกต่างออกไป เช่น งอกทับโป่งข่ามอันอื่น คือมีโป่ง่ามซ้อนอยู่อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งถูกเรียกว่า "แก้วเข้าแก้ว"


    คุณลักษณะของการเกิดลิมของแก้วจะ เป็นที่มาของลวดลายต่างๆ ในเนื้อของโป่งข่าม ซึ่งพอจะสามารถจำแนกตามการพิจารณาแก้วโป่งข่ามได้ดังนี้

    โดยธรรมชาติของผลึก quartz หรือหินเขี้ยวหนุมาน ที่มีลักษณะการก่อตัวเป็นผลึกที่มีลักษณะสมบูรณ์ทั้งหัวท้าย เราเรียกว่า "แก้วโตน" "โตน" คือ "โทน" แปลว่าเดี่ยว หรือหนึ่งนั่นเอง แก้วโตนเป้นแก้วที่หายาก และมีน้อย ซึ่งแก้วโตนบางลิ่มอาจจะแตกหน่อจิ๋วๆ งอกออกจากตัวเอง บางทีก็มีลวดลายอันเกิด จากแร่ธาตุบางชนิดที่ปะปนอยู่ในเนื้อแก้วด้วย ลิ่มแก้วแต่ละลิ่มเรียกว่า "หน่อ" และหน่อใดไม่มีเหง้า จะเรียกว่า "หน่อโตน"

    หน่อแก้วที่มีความสมบูรณ์มักจะ อยู่รวมเป็นกลุ่มเรียกว่า "เหง้าแก้ว" หรือ "เรือนแก้ว" และจะเรียกหน่อแก้วในเหง้าเดียวกันว่า "หน่อแม่" ส่วนหน่อเล็กๆที่งอกแซมกันเป็นหมู่เรียกว่า "บริวาร"


    คุณภาพของเนื้อแก้วในหน่อแม่จะดีกว่าหน่อบริวาร ทั้งนี้เพราะการก่อตัวเนิ่นนานกว่า จึงมาความใส และแข็ง กว่า

    ในหน่อแก้วหนึ่งๆจะแบ่งออกได้เป็น 3 วรรณะ คือ

    1. ส่วนบนสุด น้ำจะดีที่สุด กล่าวคือ มีความใสมาก

    2. ส่วนกลาง จะมีความเด่น กล่าวคือ จะมีลวดลายในเนื้อแก้ว เรียกว่ามีน้ำแก้วปานกลาง

    3. ส่วนโคนสุด จะมีความขุ่น ในลักษณะที่เรียกว่า "แก้วน้ำขุ่น"


    การกำหนดลักษณะลวดลายจากธรรมชาติ ของแก้วโป่งข่าม ที่นอกจากน้ำแก้วนั้นลาย ในแก้วก็เป็นตัวกำหนดคุณค่า และ ราคาของแก้วเม็ดนั้นๆเช่นกัน

    เนื่องจากแก้วโป่งข่ามเองเป็นผลึก quartz ที่มีแสงแวววาว ประเภทที่เรียกว่า Vitreous Luster แก้วจึงได้มีการตั้งชื่อ และพรรณนาควาระยิบระยับแพรวพราวของน้ำแก้วที่ชาว ล้านนาโบราณได้กำหนดในการเยกขานไว้อย่างน่าฟัง ซึ่งสามารถพรรณนาถึงคุณลักษณะแก้วโป่งข่ามได้ดี คือ

    วาวแก้ว ที่มีประกายระยิบระยับ เรียกความระยิบระยับเป็นภาษาถิ่นว่า "มาบเม็บ"

    วาวแก้วที่ให้แสงแพรวพราย เรียกตามภาษาถิ่นว่า "มิงๆมองๆ"

    แก้วโป่งข่าม คือแก้วที่ก่อกำเนิดมาจากผลึกแร่ quartz หรือหินเขี้ยวหนุมาน ซึ่งจะมีแววประเภท Vitreous Luster หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วาวแก้ว"มีการสะท้อนแสงแบบแก้วประกายรุ้งค่ะ

    ซึ่งจากลักษณะน้ำในแก้วทั้งสอง ประการนี่เองที่ใช้เป็นพื้นฐานสำคัญในการตั้งชื่อลวดลายต่างๆในเนื้อแก้ว โป่งข่าม

    คำว่าแก้วโป่งข่ามนั้น หมาย ความเอาจากหินแก้วจากบริเวณต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของดอยโป่งหลวงใน เขตตำบลแม่ถอด อำเถอเถิน จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของความเชื่อต่างๆ และ ยังมีความเป็นมาตั้งแต่โบราณกาล

    หินแก้วต่างๆที่พบในเขตดอยโป่งหลวงเป็นพวกใสขาว และสีฟ้าหม่น ตามดอยโป่งแพ่งพบพวกปวกต่างๆ และแบบเส้นโลหะต่างๆ แต่เป็นเส้นเล็กๆไม่ เกินเส้นผม ที่ดอยผาแดง มีแก้วใสที่แกร่ง และมีพวกเส้นโลหะ ต่างๆอยู่ภายในดอยๆอื่นๆ ส่วนมากจะมี แก้วสีต่างๆอีกมากมาย

    โครงสร้างโป่งข่ามตามหลัก ธรณีวิทยา

    แก้วโป่งข่ามทั้งหมดที่ซื้อขายกันอยู่ขณะนี้จัดว่า เป็นแร่อย่างหนึ่ง ซึ่งในวิชาแร่ (Mineralogy) เรียกว่า ควอทซ์ (Quartz) ซึ่งในภาษาไทยมักเรียกทับศัพท์บ้าง เรียกว่าเขี้ยวหนุมานบ้าง หรือเรียกหินดินสอก็มี quartz ส่วนมากเกิดเป็นรูปผลึก รูปร่างเป็นแท่งอย่างแท่งดินสอที่เป็นเหลี่ยมหกด้าน ปลายมักแหลม ผลึกมักเกิดเกาะกันเป็นหมู่ หรือแม้แต่เบียดกันเป็นผลึกซ้อนก็มี ส่วน มากผลึกมีขนาดใหญ่ เล็ก ยาว สั้น ไม่เท่ากัน ชาวเหนือมักเรียกว่าหน่อแก้ว ถ้าผลึกเล็กมากไปก็มองไม่เห็นรูปร่างของผลึก ถ้าโตพอ เช่นตั้งแต่ขนาดเข็มหมุด ขึ้นไปจะเห็นรูปผลึก ผลึกของ quartz ยาว 10 ถึง 30 ซม. กว้าง 4-55 ซม. ถึง 10 ซม.ก็มีมาก ซึ่งผลึกอาจใส หรือขุ่นอย่างน้ำนมสด และ อาจมีสีได้ต่างๆกันตามแต่ชนิดของแร่ที่เจอปนอยู่ในเนื่อ

    quartz เป็รแร่ที่แข็งมากอย่างหนึ่ง มาตรฐานความแข็ง (Moh' scale of hardness) ได้ จัด quartz ไว้ในอันดับความแข็งที่ 7 (จาก 10 ขั้น ซึ่งเพชรมีความแข็งที่สุดคือที่อันดับ 10) ความแข็งขนาดนี้ทำให้ quartz คงทนต่อการสึกหรอได้ดีพอควร quartz จะแข็ง แต่ไม่เปราะ ขอบของผลึกที่เจียรไนแล้วจะไม่แตกง่ายอย่างเพทาย ประกอบกับการมีสีสรรสวยงามพอสมควร และ มี variety มาก quartz จึงจัดเป็นรัตนะชาติตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง

    รัตน ชาติตระกูล quartz ซึ่งจำแนกโดยชนิด ได้แก่

    ๑. Amethyst คือแก้วสีม่วง ที่เราเรียกว่า"แก้วนางขวัญ" หรือ "พลอยสีดอกตะแบก" เป็นหินแก้วที่ตกผลึกใส โปร่งตา หรือโปร่งแสง ในประเทศไทยเท่าที่เคยมีการพบเห็น จะพบที่ จ.นครนายก, บ้านแม่สรอย จ.แพร่, อำเภอขลุง จ.ตราด และที่พบมากและมีเนื้อดี นั้นพบที่ บ้านแม่วะ อ.เถิน จ.ลำปางค่ะ

    ๒. Green Quartz หินแก้วสีเขียว

    ๓. Madeira Quartz หรือหิน quartz สีเหล้าองุ่นมะ เดียร่า หรือสีน้ำผึ้งแก่อมแดงเล็กน้อย ไม่เคยได้ยินว่าพบในประเทศไทย จะพบโดยมากที่ ประเทศพม่า

    ๔. Rose Quartz หิน quartz สีชมพูอ่อนดังสีกุกลาบ เคยพบที่บ่อเหมืองแร่ดีบุก จ.ระนอง และอ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

    ๕. Smoky Quartz หิน quartz สีฟ้า สีเทา สีควันไฟ ได้แก่หิน quartz แก้วโป่งข่ามที่ อ.เถิน และนับว่าเป็น โป่งข่ามที่ราคาดีกว่าที่มาจากแหล่งอื่นๆ

    ๖. Smoky Quartz ที่เป็นหิน quartz ที่มีสีเหลือง ได้แก้วแก้วโป่งข่ามที่ อ.เถิน เช่นกันค่ะ

    quartz เหล่านี้จะตกผลึกใสโปร่งตา มีบางประเภทที่ใส แต่มีแร่ชนิด อื่นๆปนอยู่ด้วยเช่นพวก ใยหิน (Asbestos) รูไทล์ (Rutile) ทัวร์ มาลีน (Tourmaline) กลีบหิน หรือบางคนเรียก กุหลาบทะเลทราย (Mica) คลอไรท์ (Chlorite) แร่ เหล็กแดง (Hematite) และ แร่เหล็กเหลือง (Limonite) เป็นต้น

    quartz ที่มาจากแก้วโป่งข่าม ดอยหมูไหล และดอยห้วยตาด ซึ่งรวมเรียกว่าโป่งข่ามนั้นส่วนใหญ่เป็นหิน quartz จำพวกนี้มากมาย หลายชนิด จำแนกแก้วโป่งข่ามออกเป็นชนิดต่างๆได้ถึงกว่า ๑๓๐ ชนิด ความรู้เรื่องการ จำแนก quartz แสดงให้เห็นว่าต่างประเทศสนใจ quartz จำพวกเดียวกับ โป่งข่ามเช่นกัน และแสดงว่าโป่งข่ามของเราบางชนิดก็เข้ากับวิชา รัตนชาติ (Gemmology) ของต่างประเทศได้เช่นกันค่ะ

    อำนาจ ของโป่งข่ามย่อมเกิดจากการแผ่ของสนามแม่เหล็กโลกที่ครอบคลุมโลกอยู่ ที่เหนี่ยวนำ และอิทธิพลต่อ บรรดาสรรพสิ่ง ยกตัวอย่างการที่นกสามารถบินกลับรังได้นั้นแม้ว่าจะ ไปไกลแค่ไหนก็ตามนักวิทยาศาสตร์ได้วิจัยแล้วว่าการที่มันบินกลับรังได้นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความจำ เพราะนกมีสมองที่เล็กมาก แต่พบว่าการที่ มันหาเส้นทางกลับได้นั้นมันอาศัยสนามแม่เหล็กโลกนี่เอง คลื่นสนามแม่ เหล็กโลก

    จะมีการกระเพื่อมขึ้น-ลงตลอดเวลา แต่เราไม่รู้สึก หรือถ้าเครื่องวัดไม่ละเอียดพอก็ไม่สามารถตรวจ พบได้เลย

    การกระเพื่อมของสนามแม่เหล็กโลกนี้ทำให้ เกิดศักย์ทางไฟฟ้าที่แก้วโป่งข่าม เหมือนถ่านไฟฟ้าที่ประจุชาร์ ทพลังงานเลยทีเดียว เมื่อนานนับร้อยนับพันปีแก้วเหล่านี้ก็จะสะสม พลังงานมากขึ้นจนมีพลังในตัว ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีพลังงานที่ต่างกันไป ดังนั้นแร่ Quartz หรือ Crystal ในที่ต่างๆจึงมีคุณภาพที่แตกต่าง กันออกไปเช่นกันทั้งด้านความแข็ง และอานุภาพต่างๆในแง่พลังงาน โดยที่คุณสมบัติ พื้นฐานของแร่ซิลิก้าจะเป็นตัวกักเก็บพลังงานไว้ โดยมีสินแร่ต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ ที่แทรกตัวรวมเข้ากับแท่งแก้ว และก่อตัวทำให้ เกิดสีสัน วรรณะของแก้วนั้นๆให้มีความแตกต่างกันออกไป ตลอดจนแสดง พลังงานออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปจนคนโบราณสังเกตพบ และกำหนดชื่อ เรียกขานแก้วแบบนั้นๆ ตามลักษณะ และรูปแบบพลังงานที่แสดงออกมา เพื่อสะดวกแก่การจดจำ และใช้สอย

    แหล่งแก้ว Crystal ในเมืองไทยนั้นมีมากมายหลายแห่ง แต่ที่เรียกกันว่า "แก้วโป่งข่าม" คือที่ อ.เถิน จ.ลำปาง เพราะความมีชื่อเสียงมากที่สุดในเรื่องความมี เอกลักษณ์ของเนื้อแก้วที่มีความสดใส ที่เรียกว่า "น้ำแก้ว"ที่งดงาม และความมี คุณวิเศษในเรื่องความเชื่อถือว่าแหล่งแก้วที่นี่มีความศักดิ์สิทธิ์จนมีชื่อ เสียงล่ำลือมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ซึ่งมีตำนาน และประสบการณ์เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของแก้วโป่งข่าม ณ ดอยขุมแก้วแห่ง นี้มากมาย

    ความศักดิ์สิทธิ์ของแร่ quartz ที่พบที่ อ.เถิน จ.ลำปางนั้น มีลักษณะทางกายภาพเฉพาะตัวที่แตกต่างจาก โป่งข่าม ที่อื่นๆ ซึ่งปรากฏเรื่องราวเล่าสืบต่อกันมานับแต่ครั้งโบราณกาลจนถึงปัจจุบันอย่าง ต่อเนื่อง แม้ว่าโป่งข่ามจะเป็นเครื่องประดับที่ยังไม่สูงเท่าในอดีตเมื่อ ๒๐ กว่าปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่ก็ยังเป็นที่สนใจของผู้ที่ชอบสะสม และแสวงหาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลที่ว่ามักมีผู้พบเจอประสบการณ์ หรือความศักดิ์สิทธิ์ของโป่งข่ามมาก่อนนั่นเอง ผู้ที่พบอำนาจลี้ลับเหล่านั้นต่างซุ่มเงียบคอยแสวงหาเก็บแก้วโป่งข่ามรูปแบบ ต่างๆไว้เป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัว และหวังให้เป็นมรดกกับลูกหลานที่อาจจะไม่ได้เห็นความงดงาม และพบเจอความศักดิ์สิทธิ์ของอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสมบัติจากพระแม่ธรณี นี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่รีบแสวงหาเป็นเจ้าของเสียแต่ตอนนี้ และนับวันก็ยิ่งจะหาครอบครองได้ยากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนกล่าวว่าเสียดายที่เมื่อก่อนไม่รู้สรรพคุณความศักดิ์สิทธิ์ดีพอจึงทำ ให้พลาดโอกาสเก็บแก้วลายพิเศษ รูปสวย และเรืองอานุภาพมาเป็นของตน แม้ปัจจุบันจะมีหลงเหลืออยู่บ้างแต่ที่จะมีลวดลายครบถ้วนตามตำราก็ยิ่งหายาก ยิ่งขึ้นไป หรือแทบไม่มีเลย ฉะนั้น หากไม่รีบสะสม หรือแสวงหาแต่ตอนนี้ก็เป็นไปได้อย่างแน่นอนว่า สักวันหนึ่งเราคงได้ยิน "แก้วโป่งข่าม" แต่เพียง ชื่อเท่านั้น

    หากถามว่าแก้วโป่งข่ามต่างจาก quartz หรือ crystal ที่พบในจีน และบราซิลอย่างไร ประเด็นคืออัญมณีประเภท quartz หรือ crystal ที่นำเข้าจากเมืองนอกนั้นมีทั้งส่วนที่ได้จากธรรมชาติ แท้ และที่เกิดจาก การนำเศษ crystal มาอัดด้วยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ได้แก้วอัด ซึ่งจะมีราคาไม่สูงมากนัก แต่ว่าความสวยงามผิวเผินอาจจะคล้ายกัน แต่ถ้าท่านได้เห็นแก้วโป่งข่ามแท้ๆแล้วท่านจะรู้ว่า ต่างกันมาก ทั้งน้ำ แก้วที่ปรากฏออกมาที่ระยิบระยับ หรือแวววาว ส่วนคุณสมบัติด้านจิตศาสตร์ที่เป็นอำนาจลี้ลับ นั้นแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะที่ดอยขุมแก้ว อันเป็นที่กำเนิดแก้วโป่งข่ามนั้นเป็น ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มีตำนานว่ามีเทพเจ้าผู้ทรงมเหศักดิ์มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้รักษา ดอยขุมแก้วแห่งนี้ ซึ่งทำให้อานุภาพของแก้ว หรือแร่ quartz ที่นี่มีความลี้ลับศักดิ์สิทธิ์ที่โดด เด่นเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่นชนิดที่เรียกว่าหัวแก้วโป่งข่าม ไม่ว่าจะยังไม่เจียระไน หรือเมื่อขึ้นรูปเป็นเรือนแหวนแล้วก็ ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองโดยไม่ต้องอธิษฐานจิตปลุกเสกจากผู้ทรงจิตตานุ ภาพแต่อย่างใด

    หลายท่านอาจไม่ทราบว่าพระแก้วที่พบในถ้ำตามที่ต่างๆ นั้นไม่ใช่การเล่นแร่แปรธาตุจนได้แก้วที่เรียกว่า "แก้วน้ำประสาน" ซึ่งเป็นวิธีสังเคราะห์แก้วแบบโบราณตาม ที่เข้าใจกันทั่วไป แต่ใช้การแกะสลักจากหินแก้วโป่งข่ามที่เป็นแก้วศักดิ์สิทธิ์จาก ธรรมชาติที่บรรพชนของเราค้นพบนี่ล่ะค่ะนำมาสร้างเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ให้เราชาวพุทธได้สักการะ และเสริมศรัทธาในพระพุทธศาสนา เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของมเหศักดิ์เทวราชที่คุ้มครอง รักษาแก้ววิเศษแห่งนี้นี่เองค่ะ

    บางท่านที่ศึกษาทางเวทมนตร์คาถา หรือเรื่องลี้ลับคงเคยได้ยินเรื่อง แก้ววิเศษ หรือ มณีรัตนะ ที่ปรากฏในตำนานชาวพุทธโบราณ หรืออาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า แก้วจักรพรรดิ ที่ทรงพลานุภาพควรคู่ผู้มีบุญญาธิการ ซึ่งหากจะถามว่าแก้วมณีรัตนะเป้นอย่าง ไร คงตอบได้ว่าเป็น แก้วชนิดหนึ่งที่ปรากฏบนพื้นพิภพ ที่มีอานุภาพในตัวเอง ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับแก้วโป่งข่ามที่ เราพูดถึงอยู่นี้ค่ะ

    แก้วจักรพรรดิ หรือมณีรัตนะที่ได้มีปรากฏในตำนาน จักรวาลเล่มแรกของสุวรรณภูมิที่เขียนโดยคนไทย คือเรื่อง "ไตรภูมิพระร่วง" ซึ่งได้กล่าวถึงเรื่องตำนานเรื่องพระ จักรพรรดิไว้จนเป็นคติความเชื่อที่กษัตริย์โบราณในสุวรรณภูมิทั้งหลายต่าง ใฝ่ฝันจนต้องแสดงพระบรมเดชานุภาพขยายอาณาจักรออกไป ไม่เว้นแม้แต่พระเข้าบุเรงนอง ซึ่งที่พระองค์ได้รับสมญาว่า "ตะละพะเนียะทอ เจาะ หรือ ผู้ชนะสิบทิศ" นั้นก็ได้มาจากตำนานพระเจ้าจักรพรรดิ ที่รับมาจากชมพูทวีปที่เป็นแรงผลักดันให้พระองค์ขยายอาณาจักรออกไปนั่นเอง ค่ะ

    แก้วมณีรัตนะ ๑ ใน ๗ ประการของพระเจ้าจักรพรรดินั้นได้บรรยายไว้ว่า มีสัณฐานดังหนึ่ง ลูกฟัก ซึ่งจากการเปรียบเทียบดูแล้วพบว่าแก้วชนิดหนึ่งมีสัณฐานกว้างกลม และยาวออกดังฟักนั้น คือ "แก้วโตน" นั่นเอง ต่างแต่วาตามตำนานนั้นมีขนาดใหญ่ และงดงามกว่าที่เราจะสามารถพบได้ทั่วไป ซึ่งตามตำนานมีเค้ามาจาเรื่องจริงอยู่มากเพราะแก้วตาม ธรรมชาติที่มีลักษณะดังกล่าวนั้นมีจริง จึงได้เกิดประเพณีการสร้าง "พระแก้ว" ขึ้นเพื่อเสมือนหนึ่งเป็นการสรรเสริญ พระเกียรติยศของกษัตริย์โบราณว่าเป็นพระเจ้าจักรพรรดิองค์หนึ่งนั่นเองค่ะ

    แก้วโป่งข่ามที่เรียก ว่า "แก้วโตน" ที่นำมาเล่านั้นเป็นตระกูลหนึ่งของแก้ว ที่กำลังก่อตัวที่เราอาจจะเรียกได้ว่ากำลังบำเพ็ญบารมีสู่การเป็น "แก้วมณีรัตนะ" หนึ่งในรัตนะ ๗ ประการของผู้ทรงบุญญาธิการอย่างพระเจ้า จักรพรรดิ ตามตำนานของชาวพุทธโบราณ ซึ่งอาจพอสรุปได้ว่า แก้วโป่งข่ามเป็น แก้วที่สูงค่า และเสริมบารมีกับ ผู้ครอบครองที่เชื่อถือ และศรัทธามาแต่ครั้งบรรพกาล และสืบต่อมาถึง ปัจจุบัน พร้อมกับวิถีความ เชื่อทั้งเก่าและใหม่ที่ดำเนินควบคู่กันได้อย่างสอดคล้อง และลงตัวค่ะ

    ในปัจจุบันลักษณะความ เชื่อถือแก้วโป่งข่ามนั้นมาจากประสบการณ์ต่างๆ ทั้งจากอดีตที่เล่าต่อกันมา และจากประสบการณ์เองโดยตรง ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลเป็นไปได้ดีก็เมื่อเราได้แก้วที่โฉลกกับวันเกิด และการคุณสมบัติการใช้งานว่าแก้วใดช่วย ทางใดด้วยนะคะ

    เป็นเวลานานนับมาแล้วที่มนุษย์เราได้พบว่า หิน กรวด ทราย เพชร พลอย แก้ว แสง และอัญมณีต่างๆ รวมถึง crystal ล้วนแล้วแต่มีแหล่งที่มาอันน่าอัศจรรย์ อีกทั้งยังเป็นที่รวมของความมหัศจรรย์ แห่งความเชื่อกับในบางวัฒนธรรม หรือบางท้องถิ่น crystal และอัญมณีทุกรูปแบบนับเป็นสิ่งที่ต้อง ให้ความเคารพยำเกรงอย่างสูง แต่ความน่าสนใจจะอยู่ตรงที่ว่า ผลึกแร่ต่างๆ มักจะถูกค้นพบตามซากโบราณสถานต่างๆ นับย้อนหลังไปกว่า ๓,๘๐๐ ปี

    ในความเชื่อโบราณ แก้วโป่งข่ามเป็นสิ่งจุดประกายแสงสว่าง ให้แก่ชีวิต เพราะ ความเชื่อในด้านดีย่อมก่อให้เกิดความหวัง โดยเป็นต้นเหตุสำคัญของการทำแต่สิ่งที่ ดีต่อไปได้ด้วยค่ะ ซึ่งแท้จริงแล้ว แก้วโป่งข่ามไม่ ใช่ตัวตนที่ทำให้เกิดสิ่งต่างๆ แต่เป็นตัวตนที่ ก่อให้เกิด ให้เราสามารถมองเห็นบางสิ่งที่เรามองข้าม มองไม่เห็นได้ อย่างชัดเจน และยังเป็นตัว กระตุ้นกระแสพลังภายในของเราให้ปรับสภาพภายในเราให้เกิดสมดุล




    ชนิด ของแก้วโป่งข่าม


    แก้วโป่งข่ามมีมากมายนับร้อยชนิด หากจำแนกออกให้ละเอียดอาจมีมากกว่าร้อยแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลวดลายต่างๆที่ปรากฏ ในเนื้อแก้ว ซึ่ง เป็นเอกลักษณ์สำคัญของแก้วแหล่งนี้

    การ วิเคราะห์ตามหลักธรณีวิทยากับการกำเนิดลวดลายต่างๆ

    โดย ปกติแล้ว แก้ว โป่งข่ามจะเป็นหน่อแก้วคริสตัล แก้วผลึกที่เกิดตามธรรมชาติมีรูปทรงที่ค่อนข้างสมบูรณ์ แบบ มีความสวยงาม มีสีสรรและรูปแบบหลากหลาย มีพลังที่บรรจุอยู่ภายในตัว จะเป็นพลังที่สะอาด ใส บริสุทธิ์ และมีความเยือกเย็นอยู่ภายในตัว ถือว่าเป็นสิ่งทรงคุณค่าจากธรรมชาติอย่างแท้จริง

    การ ก่อตัวของแก้วในระยะแรกจึงมีข้อสันนิษฐานเช่นเดียวกับอัญมณีชนิดอื่นๆที่ เกิดจากแมกม่าใต้ผิวโลกที่ทะลักออกมาด้วยการระเบิดของภูเขาไฟ แล้วหินหลอมเหลว หรือลาวาที่ทะลักออกมาย่อมมีแร่ธาตุต่างๆผสมปนเปอยู่มากมาย




    เมื่อลาวาไหลผ่านชั้นหินบนผิวดินก็เกิดการเคลือบเอาแร่ ธาตุดังกล่าวไว้ภายใน โดยต่อมาได้กลายเป็นอัญมณีรัตนชาติชนิดต่างๆ ซึ่งหลังจากที่เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ แล้ว ต่อมาผิวดินด้าน บนได้เกิดการล้างป่าเปลี่ยนสภาพด้วยการทับถมของเท้าภูเขาไฟ และดินใหม่ที่เกิดจากการเน่าเปื่อยผุ พังของพืชและสัตว์จนเป็นชั้นผิวดินอย่างที่พบในปัจจุบัน โดยข้อสันนิษฐานนี้ได้รับการยืนยันโดย หลักฐานที่สำคัญทางธรณีวิทยา คือ รอยเลื่อนตัวของแผ่นดินที่ อ.เถิน จ.ลำปาง มีระยะทางยาวถึง ๙๐ กิโลเมตร โดยรอยเลื่อนดังกล่าวยังถูกจัดเป็น "รอยเลื่อนที่มีพลัง" คือเกิดการไหวตัวเป็นระยะ อันแสดงว่าแมกม่าใต้โลกนั้นยังมีการประทุอยู่ ซึ่งลวดลายต่างๆที่เกิดขึ้นกับแก้วใน เขต อ.เถิน นี้จึงพอสรุปได้ว่า

    - การหลอมตัวผสมปนเปของ แร่ธาตุต่างๆ กับของ แมกม่าที่ทะลักเป็นลาวาในอดีต

    - การก่อตัวของแก้วในเวลา ต่อมาที่มีกสนตกผลึก ผ่านความร้อน และแรงกดทับของแผ่นดินเป็นเวลานาน

    หาก แก้วโป่งข่ามที่พบนั้น แม้ส่วนใหญ่จะเป็นตระกูลแก้ว quartz ที่อาจแยกเป็น quartz ใส สีแบบแร่รูไทล์ (Rutile) ซึ่งอาจเรียกว่า รูทิเลเตท ควอทซ์(Rutilated Quartz) ซึ่งเรียกกันในภาษาไทยว่า เข็มเหล็ก หรือขนเหล็ก บางแห่งก็เรียกฝอยเหล็ก ส่วนที่มีมลทินของแร่ Crocidolite จะมีลักษณะของไหมทอง ส่วนที่เป็นผลึกละเอียดยิบ หรือเนียนสะอาด ซึ่งไม่สามารถมองเห็นรูปผลึกด้วยตาเปล่า ต้องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ แบ่งออกได้เป็น ๒ แบบคือ

    ๑) แบบเนื้อเสี้ยน (Fibrus)

    ๒) แบบเนื้อเป็นมวลเมล็ด (Granular)

    แบบเนื้อเป็นเสี้ยน ได้แก่หินตระกูล Chalcedony ได้แก่ Carnelian, Sard และ Agate, Mosagate, Jasper, Blood Stone และ Onyx

    มีการแอบอ้างเอาหินจาก สถานที่แหล่งอื่นที่ไม่ใช่ที่ อ.เถิน มาเป็นแก้วโป่งข่าม ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายตำนานและ วัฒนธรรมที่สืบสานมาของบรรพชน เพราะความแตกต่างกันในเรื่องความงดงามตามตำนานนั้นมี คุณค่าที่แตกต่างกันมาก และขอยืนยันคำว่า "โป่งข่าม" นั้น ใช้เรียกเฉพาะ "แก้ว" ที่พบใน อ.เถิน จ.ลำปาง เท่า นั้นจึงจะถูกต้อง

    ขอขอบคุณ แหล่งข้อมูลอ้างอิง:-

    ๑) หนังสือมณีรัตนะ จากพระแม่ธรณี

    ๒) Scratchpad Wiki Labs
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. I_DreaM_PartY

    I_DreaM_PartY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +217


    เจริญพร งดงามมาก
     
  10. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    อนุโมทนาสาธุ หลวงตา นำข้อมูลดีๆ มาให้ชมอีกแล้น อิๆๆๆ
     
  11. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ป๊าดๆๆๆ งั้นงวดนี้เอาใหม่ เผื่อฟลุ๊ค อิๆๆ
     
  12. I_DreaM_PartY

    I_DreaM_PartY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +217


    โฮ พระโดนแซวอีกและ เจริญพร
     
  13. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    [​IMG]

    คุณน้องพี่ว่าออกสีเหลืองเข้มนะคะ

    สีชาตรงไหนหว่า สงสัยเมาชาเย็นแหงมๆเลย
     
  14. jumpahom

    jumpahom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,747
    ค่าพลัง:
    +11,036
    มีเพื่อนมาหา ดันปากดีด้วย มันบอกว่า โอ้โหหหหห มาเป็นหน้าด่าน สึนามิเลยน้อ ได้เราก็ยิ่งเสียวๆอยู่ ว่าจะย้ายหนีขึ้นไปประมาณ 20 เมตร อ่ะค่ะ แฮ่แฮ่ ดีกว่าอยู่หน้าหาดเนาะ
     
  15. ุเพตารี

    ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,048
    ค่าพลัง:
    +800
    อยู่ริมหาดสบายเลยเวลาซึนามิมาก็นั่งสมาธิดับจิตหนีไปชั้นพรหมเลย มันตามเราไม่ทันหรอก:cool:
     
  16. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649

    ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ
    ใฝ่ใจเอาใส่ห่อ มิหลงใหลใครขอดู
    จะใคร่ลงเรือใบ ดูน้ำใสและปลาปู
    สิ่งใดอยู่ในตู้ มิใช่อยู่ใต้ตั่งเตียง
    บ้าใบ้ถือใยบัว หูตามัวมาใกล้เคียง
    เล่าท่องอย่าละเลี่ยง ยี่สิบม้วนจำจงดี
    </pre>
     
  17. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467

    หุหุ ลุงลมก็ไปลองทำเป็นตัวอย่างให้คุณจำปาหอมดูก่อนดิ คุณจำปาหอมจะได้ทำตามได้ถูก:boo:
     
  18. jumpahom

    jumpahom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,747
    ค่าพลัง:
    +11,036
    ดับจิต แต่ร่างหายแว๊บบบบบ ไปก่ะสายน้ำ:'(
     
  19. ุเพตารี

    ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,048
    ค่าพลัง:
    +800
    ถ้ามาก็ตั้งใจทำงั้นแหละงัยก็หนีไม่ทัน

    แผ่นดินไหว เอาแล้วงัย:z16
     
  20. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    อ.ลมอยากขึ้นเหนือก็ไปสิ

    [​IMG]


    วันนี้วันเกิดน้องไซ(^)ของขวัญวันนี้ 6.7 ริกเตอร์HBDs
     

แชร์หน้านี้

Loading...