วัตถุมงคลยอดขลัง พลังเวทสุดมหัศจรรย์"หลวงพ่อผินะ ปิยธโร"

มีเรื่องมาเล่าสู่กันให้รู้

องค์ที่นายบุญมีฯ สร้าง ได้ส่วนมาก ตั้งท่าสู้ทุกท่า เงี่ยงผงะ ตรงพึงผงาดตั้งท่าสู้เต็มที่ ( ตอนนั้นฅนมาเลเซียบูชาไปแล้ว ราคา ๔๐,๐๐๐.บาท(สี่หมื่นบาท).องค์ที่หลวงยูรฯ สร้าง ไม่ได้ส่วน เป็นเหมือนปลากระทงเหว ไม่มีใครอยากได้ ให้เอาไปใส่ในพระปางถวายเนตร เมื่อใครมาขอบุตรจะได้ดั่งสมใจ (ปัจจุบันที่ท่าเกยได้ผุและทำลายไปแล้ว)องค์ทีหลวงแอฯ สร้าง ได้ส่วนดี เฒ่าแก่เป่งหยู<O</O
จากจังหวัดศรีษะเกศ บูชาไป ราคา ๒๐,๐๐๐. บาท.<O</O
องค์ที่จ่าส่งฯ สร้าง ได้ส่วนดี แต่เบี้ยว จึงให้ไปใส่ไว้องค์พระอุ้มบาตร (ปัจจุบันที่ท่าเกยได้ผุและทำลายไปแล้ว)องค์ที่ทิศสมานฯ สร้าง ได้ส่วนดี ถูกใจว่างั้น <O</O
ให้นักข่าวที่หนองไผ่ไป.แต่ต่อนั้นมา ก็ได้สร้างเจ้าโลกด้วยไม้สัตตะบันมาเรื่อยๆ จนมาวันหนึ่ง ฅนมาขอของดีจากหลวงพ่อนะฯ จะเอาไปเล่นโปเล่นถั่ว หลวงพ่อนะฯ ท่านก็บอกให้ไปหาไม้แจงมา เพื่อทำลูกดิ้น( เวลาถั่วโปจะออกอะไรลูกดิ้นจะบอกได้) ทีนี้ก็ได้ไม้แจงมา ท่อนใหญ่ด้วย ทำลูกแจงเสร็จก็เหลือมาก ก็ให้หลวงถุงฯ กับนายบุญมีฯ สร้างเจ้าโลกไม้แจงขึ้น ได้ทั้งหมด ๒ อัน.ทีนี้ เจ้าโลกของหลวงพ่อนะฯ ก็ได้สำแดงผลฅนที่มีไว้ ได้นำไปใช้ตาอธิษฐาน ปรารถนาสิ่งใดก็สำเร็จถึงขนาดสั่งจองกันล่วงหน้าเป็นเดือนๆ ทั้งราคาและขนาดก็แตกต่างกันไป ผู้ที่ศรัทธาถวายมาก ทำบุญมาก ก็ได้สมปรารถนามาก แปลกๆดี.เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ท่านหลวงพ่อพระครูพินฯวัดบ้านแก้ง สระบุรี. ไปพบหลวงพ่อนะฯ ที่ท่าเกย พร้อมกับ ท่าน สจ.เปรื่อง ฯ น้าตี๋ใหญ่ฯ ไปนิมนต์หลวงพ่อนะฯ มาเสกของที่วัดบ้านแก้ง เนื่องด้วยงานฉลองกรุงรัตนโกสินครบ ๒๐๐ ปี ( สั่งบูชาของหลวงพ่อนะฯไปวัดบ้านแก้งด้วย คือ เจ้าโลกใหญ่ขนาดแขน จำนวน ๓๖ องค์ พระสูตรพิมพ์ใหญ่ ๕๖ องค์ พระยาปรมัติอีกจำนวนหนึ่ง)เมื่อถึงเดือนเมษายน ปีเดียวกันนี้ หลวงพ่อนะฯก็ได้ไปตามที่นิมนต์ ในงานฉลองกรุงรัตนโกสินครบ๒๐๐ ปี ของวัดบ้านแก้งฯนี้ ... หลวงพ่อนะฯ ได้แสดงมนต์โดยเสกฅนให้เป็นควายขวิดกันด้วย และได้ทดสอบวัตถุมงคลต่างๆโดยการขึ้นติดไว้ที่ปลายไม้ไผ่ ชักขะเย่อกันด้วย...........พักสักครู่นะครับเดี๋ยวจะมาเล่าต่อ(kiss) (kiss) (kiss) <O</O

 

มีเรื่องมาเล่าสู่กันให้รู้

เดือนเดียวกันนี้ หลวงพ่อนะฯ ได้สั่งให้หลานท่าน ( หนูอ้อยฯ หนูเพ็ญฯ ) มาช่วยกดพิมพ์พระ โดยได้สร้างพิมพ์พระปางอาทิตย์ และพระสูตรปางสมเด็จราชาธิราชอีกพิมพ์พระปางอาทิตย์ ด้านหน้าจะเป็นรูปพระประทาน (นิ้วชี้ชี้ไปที่ตะวัน) ด้านหลังจะเป็นรูปธรรมจักรฟันเฟือง ตรงกลางธรรมจักรพิมพ์คำว่า

 

มีเรื่องมาเล่าสู่กันให้รู้

ในปีเดียวกันนี้ ก็ด้สร้างพระสังกัจจายนะโภคทรัพย์ ขึ้นอีกที่สำนักอโสโก ท่าเยี่ยม ดังภาพที่ส่งมาให้ชม.....เพราะเหตุนี้ หลวงยูรฯ จึงได้สร้างพระเครื่องไว้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ไปร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรมคือด้านหน้าจะเป็นพระสมเด็จ(ปางอาทิตย์) ด้านหลังจะเป็นพระสังกัจจายนะโภคทรัพย์ดังภาพที่ส่งมาให้ชม เพื่อจะได้ไม่สงสัยที่ไปที่มานะ.......<O</O

 

ขอขอบคุณพี่พรสวรรค์สรรหามากครับที่ได้กรุณาให้ข้อมูลอะไรที่ดีๆ มาให้อ่านกัน ยังไงแล้วก็ช่วยนำเสนอต่อไปเรื่อยๆ น่ะครับ ขออนุโมทนา และสาธุ ทุกๆ อย่างเลยครับ

ด้วยความนับถือ

หมู

 

ว่าว...!



นับถือครับ


It's Great...!

 

ใครมีคาถาปลัดหัวชะมดบ้างครับ

 

ทีนี้ก็มาว่ากันด้วยเรื่องเจ้าโลก กันต่อ..

เทวราช (ศิวะลึงค์) เจ้าโลกพ่อหัวหอม (พ่อฅนทั้งโลก.)(good) (good) (good)

 

มีเรื่องมาเล่าสู่กันให้รู้

ตัวครูอันแรกของวัดสนมลาว ทำด้วยไม้สัตตะบัน ซึ่งฅนแสดงฝีมือคือ ทิศสมาน ฯ (มีผู้ศรัทธาบูชาไปแล้ว)<O</O
ตัวครูอันที่สองของวัดสนมลาว ทำด้วยไม้โมกข์มัน จากช่างฝีมือ คือ คุณบินบน ฅนหน่ายโลก บรรจุดวงรับจากมือหลวงพ่อผินะ ฯ (ดังภาพที่ส่งมาให้ชม) (eek) (eek) (eek) <O</O

 

มีเรื่องมาเล่าสู่กันให้รู้

ตัวครูอันที่สามของวัดสนมลาว จะเป็นเทวราช พระอินทร์ ทำด้วยไม้สัตตะบัน จากช่างฝีมือคือ คุณคำสูงฯ บรรจุดวงหลวงพ่อนะฯ รับจากมือท่าน..(ดังภาพที่ส่งมาให้ชม) (good) (good) (good)

 

มีเรื่องมาเล่าสู่กันให้รู้

ชุดพิเศษ เทวราชพระอินทร์(หัวพังพอน) มีด้วยกัน <O</O
๖ องค์ แสดงฝีมือโดย คุณบินบน ฅนหน่ายโลก หลวงพ่อบรรจุดวงให้ และรับจากมือท่านด้วย.. (ดังภาพ)<O></O>

 

มีเรื่องมาเล่าสู่กันให้รู้

ชุดพิเศษ เทวราชพระอินทร์(แยกเขี้ยว)ทำด้วยแก่นมะขาม มีทั้งหมด ๔ องค์ แสดงฝีมือโดย คุณบินบน ฯ และคุณสถิตฯ<O</O
บรรจุดวงโดยหลวงพ่อนะฯ ส่งให้กับมือท่านด้วย.. (ดังภาพ)<O></O>(eek) (eek) (eek)

 

มีเรื่องมาเล่าสู่กันให้รู้

ชุดพิเศษ เทวราช(ศิวะลึงค์) พ่อหัวหอม, ทำด้วยรากไม้อินทรีย์ชี้ไปทิศตะวันออก มีแค่ ๑ องค์เท่านั้น.( คุณสุรชัย ฯ) ทีนี้ ก็จะมีการสั่งจองพ่อหัวหอม และเทวราชพระอินทร์ จะมีช่างฝีมือด้วยกัน ๔ ฅน คือ คุณรัฐ ฯ คุณสมานฯ คุณบินบนฯ และสุดท้ายคือ คุณโมช ฯบรรจุดวงผู้สั่งจองทุกๆองค์ เสมอไป.<O</O
ตัวครูอันที่สี่เทวราชพระอินทร์(แยกเขี้ยว)ทำด้วยไม้จันทร์หอม ฝีมือคุณโมช ฯ อยู่ที่ วัดเกาะสวรรค์ จังหวัดอุทัยธานี.<O</O
ตัวครูอันที่ห้า เทวราชพระอินทร์(แยกเขี้ยว) ทำด้วยไม้หนามเรียง ฝีมือคุณบินบน ฯ อยู่ที่วัดสนมลาววิหาร สระบุรี.<O</O
ชุดพิเศษ เทวราชพระอินทร์(แยกเขี้ยว)และพ่อหัวหอม (พ่อฅนทั้งโลก) ทำด้วยไม้จันทร์หอม ฝีมือคุณโมช ฯ มีเฉพาะสำหรับผู้สั่งจอง(หลวงพ่อนะฯบรรจุดวงให้ทุกฅน). พิเศษสุดๆ ก่อนหลวงพ่อผินะ ฯจะเข้าโรงพยาบาล<O</O
พ่อหัวหอม ((เท่าของจริง)) ทำด้วยไม้จันทร์หอม ฝีมือคุณโมช ฯ สุดท้ายก่อนมรณภาพ.. (มีภาพให้ชม)..<O></O>(ping) (ping)

 

มีเรื่องมาเล่าสู่กันให้รู้

เป็นอันว่าเท่านี้ก่อนนะ ไว้มีโอกาสจะมาเล่าต่ออีก ด้วยความปรารถนาดี จากผมพรสวรรค์สรรหา..<O</O
สวัสดีขอให้มีสตางค์ใช้เยอะๆนะครับ.สวัสดี.

 

ขอนับถือในน้ำใจอันดีเยี่ยม ของคุณพรสวรรค์สรรหา
ที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ความรู้ในครั้งนี้
นับว่าเป็นประโยชน์อย่างหาที่สุดมิได้ครับ
ขอบคุณครับ

 

รบกวนถามประดับความรู้เพิ่มนะครับ

1. เห็นที่เล่ามาถึงดาวแม่เนื้อหอมรุ่นหนึ่งรุ่นสองแล้วก็จบไป เลยอยากทราบต่อว่าดาวในรูปนี้เป็นรุ่นที่เท่าไหร่ครับ และเป็นรุ่นที่ไม่มีน้ำมันนั้นผสมอยู่ใช่ไม๊ครับ คือ ห้อยคู่กับพระได้

2. เวลาทาด้วยน้ำหอม, จำเป็นต้องแตะโดนตัวดาวไม๊ครับ หรือว่าเลี่ยมกรอบ และทาที่กรอบพลาสติกได้ และให้ทาด้านดาวห้าแฉก หรือแปดแฉก ?

3. ผมใช้วิธีภาวนา นะเตสุเต อายุลบ ๑ (แล้วตามด้วยมหาสุเตนะชา), แต่เห็นข้อมูลบนเวปบางที่ใช้เท่าอายุ (แล้วตามด้วยมหาสุเตนะชา) (ซึ่งน่าำจะผิด).

4. ยังไม่เห็นลงที่ไหน เลยขอแชร์วิธีทาน้ำหอม และก็ขอเช็คว่าข้อมูลผมถูกต้องไม๊ครับ คือเวลาท่องนะเตสุเตทีนึง ก็ใช้นิ้วแตะน้ำหอม ทาวนเป็นวงกลมไปทางขวารอบนึง (เช่นถ้าท่อง 30 จบ ก็ทาวน 30 รอบ) และเลือกนิ้วที่ใช้ดังนี้
นิ้วโป้ง สำหรับเข้าหาผู้ใหญ่
นิ้วชี้ สำหรับลาภเงินทอง
นิ้วกลาง สำหรับเพื่อน
นิ้วนาง สำหรับหญิงอายุเยอะกว่า
นิ้วก้อย สำหรับหญิงอายุน้อยกว่า


_/|\_ ขอบคุณครับ

 

(good) (good) (good) ข้อมูลเยอะจริงๆเลยนะครับ คุณช่างสรรหา.:555: :555: :555: ตอนนี้พวกที่ชอบสะสมวัตถุมงคลของหลวงพ่อผินะวิ่งหาของกันฝุ่นตลบเลย5555555.
ว่าแล้วก็ขอโชว์บ้าง
-ปลัดหัวหอมพร้อมตะกรุดโทนเป็นของกระผมเองครับ.
-ปลัดหัวสิงห์ลิ้นทองคำเป็นของญาติกัน

 

ถ้ำแก้วสุรกานต์

หวัดดีครับ คุณ laykabin คุณ youri และเพื่อนๆ ทุกๆ ท่าน ตามที่ได้ข้อมูลเรื่องถ้ำแก้วสุรกานต์ จากคุณ laykabin นั้น วันนี้ได้ไปตามที่ได้ตั้งใจแล้วครับ ออกเดินทางจากสุราษฎร์ประมาณ 11.00 น. เดินทางไปถึง อ.ลานสะกา ประมาณ 12.30 น. และก็ไปหาปากทางเข้าถ้ำจนพบ และได้ไปติดต่อทางเจ้าหน้าที่ว่าผมจะขอเข้าไปในถ้ำเพื่อชมและไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทางพี่เขาก็ตอบว่าอ๋อ " ท่านนะ " ได้สร้างไว้และอยู่ที่นี่เมื่อหลายปีก่อน (ผมขออนุญาตชี้แจงนิดหน่อยว่า คนใต้นั้นจะเรียกชื่อหลวงพ่อผินะว่า ท่านน่ะ บ้าง หรือไม่ก็ พ่อท่านนะ บ้าง แต่เป็นที่แน่นอนครับว่าคนบริเวณนั้น รู้จักหลวงพ่อผินะล้านเปอร์เซ็นต์ตามที่หนังสือประวัติได้เขียนไว้ครับ

พี่เขาที่ดูแลชื่อพี่สาคร ครับ เป็นผู้หญิงครับ พี่เขาก็ได้ให้ลงชื่อไว้เป็นหลักฐานว่าเราได้เข้ามาเยี่ยมชม และขอบอกก่อนครับว่า การเข้าไปเยี่ยมชมนั้นทางวนอุทยาน ไม่ได้มีการเก็บเงินหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทีแรกก็ตกใจมาก เพราะพี่สาครได้มอบเทียนมาให้ผมคนละ 1 เล่ม พวกผมไปกัน 3 คน มีผมและน้องผู้หญิงอีก 2 คน พวกเราก็ตกใจมาก เพราะตอนที่แกมาส่งที่ปากถ้ำมองเข้าไปมืดมากๆ ครับ และเทียนแค่นี้จะไปเห็นอะไรได้ พี่เขาเลยบอกว่าเดี๋ยวพาเข้าไปเอง พอได้ยินเช่นนี้ก็ใจชื้นขึ้นเป็นกองครับ

พอเดินเข้าไปสภาพภายในมีลมเย็นๆ มาปะทะกับตัวเราครับ จากนั้นก็จะได้ยินเสียงของค้างคาวและเสียงน้ำที่หยดจากภูเขาด้านบน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีฝนตกทำให้มีน้ำซึมลงมา แต่ขอบอกให้คำหนึ่งว่า น้ำเย็นเจี๊ยบอย่างธรรมชาติมากๆ ครับ พอเข้าไปได้สักครูสิ่งที่พบสิ่งแรกเลยก็คือ

รูปปั้น " แม่ชีสุก " ก็ได้สอบถามว่าท่านเป็นใคร คำตอบจากพี่สาครที่ได้มาก็คือท่านเป็นคนเฝ้าถ้ำแก้วสุรกานต์นี่เองครับ ก็ได้ยกมือขออนุญาตท่านเพื่อเข้าเดินในถ้ำต่อไป

ไปอีกสักพักก็พบรูปปั้น พระสังคัจจาย จึงรีบยกมือไหว้ขอพรจากท่านเช่นกันครับ จากนั้นก็ตรงดิ่งเข้าไป อีกสักพัก ก็จะพบ รูปปั้นพญาหงษ์ และต่อจากนั้นก็จะเป็นพระนอนครับ จากพระนอนก็ถึงจุดหักเห ไปซ้ายและขวา แต่เราไปทางซ้ายก่อน สิ่งที่พบต่อมาก็คือ รูปปั้น พระปางชนะมาร และพระปางนั่งสมาธิครับ จากจุดนี้ก็ตรงเข้าไปต่ออีกสักพัก แต่ตรงจุดนี้สิครับ เดินยากมากเพราะข้างในนั้นมีน้ำที่หยดอยู่ตลอดเวลาทำให้เกิดความลื่นเป็นอย่างยิ่ง บวกกับดินเลนที่เปียก แต่ก็ลุยต่อครับ เพราะถ้าผ่านจุดนี้ไปไม่ได้ ก็จะไม่ได้ไปพบสิ่งที่ตั้งใจ แต่ก็ผ่านไปได้ และพบกับพระปางปราบท้าวชมพูบดี พระแม่ธรณี และพระแม่โภสพครับ รูปปั้นทั้งสามก็เหมือนกับพระเครื่องที่เราเห็นอยู่โดยทั่วๆ ไปครับ แต่องค์ท่านดูสง่างามมากครับ พอถึงจุดนี้ก็รีบจัดแจงนำเทียนตั้งและจุดธูปถวายส้มไปในทันที จากนั้นก็ได้ขอพรจากท่านไป พอเสร็จจากตรงนี้ ก็จะเป็นทางที่เดินไปสู่ท้ายของถ้ำ แต่พี่สาครบอกว่าไปไม่ได้ เนื่องจากน้ำท่วมทางในถ้ำถ้าจะมากก็ต้องมาตอนหน้าแล้ง เลยทำให้ไปไม่ถึงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ครับ แต่ต้องหาโอกาสไปใหม่ครับ แต่ถ้ามองเข้าไปดีๆ ตรงจุดนี้ก็จะมีรูปปั้นอีก ก็คือ วัวกระทิงครับ

จากนั้นก็ตัดสินใจเดินย้อนกลับมาตรงทางแยก เราก็ไปทางขวา สิ่งที่พบต่อมาก็คือ รูปปั้น เกิด แก่ เจ็บ และตาย และเลยออกไปอีกหน่อยเป็นงูครับ รู้สึกว่ามีงูนอนขวางทางอยู่ 2 ตัวเลยไม่กล้าไปต่อครับ จากนั้นก็ตัดสินใจเดินออกมาทางปากถ้ำ ลืมบอกไปครับว่าจากปากถ้ำถ้าเราเข้าไปได้ถึงสุดก็จะลึกประมาณ 700 เมตรครับ

จากนั้นก็ได้ร่ำลาพี่สาคร และขอเบอร์โทรศัพท์ไว้เป็นที่เรียบร้อยเผื่อว่าจะได้ตรวจสอบก่อนว่าน้ำยังท่วมทางอีกหรือไม่ และก็ได้ลากพี่สาครกลับครับ

trip ในการเดินทางวันนี้มีแรงบันดาลใจมาจากหลายๆ ท่านต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ ทำให้เราได้ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดีๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เราอยู่เลยครับ

ขออนุญาตพระเดชพระคุณหลวงพ่อผินะ นำสิ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลวงพ่อมาเผยแพร่ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

ด้วยความนับถือ

 

ตอนนี้ผมเห็นมีโฆษณาหัวชะมดที่สร้างจากเกจิที่บอกว่าเรียนมาจากหลวงพ่อในหนังสือพระเล่มหนึ่ง แต่จำไม่ได้ครับว่าเล่มไหนเพราะไปยืนอ่านมาที่แผง

ถ้าจำไม่ผิดพระรูปนั้นท่านชื่อ "หลวงพ่อเอิบ"

ไม่ทราบว่าพี่ๆมีข้อมูลบ้างไหมครับ

 

ขอบคุณครับ

(deejai) สวัสดีครับ คุณ sksontisuk ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาเผยแพร่แก่เพื่อนสมาชิกครับ ผมก็รอฟังข่าวอยู่เหมือนกันครับ เห็นเงียบหายไป โอกาสหน้า คุณไปใหม่อย่าลืมรีบนำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ ผมจะคอยอ่าน สมาชิกท่านอื่นหากมีข้อมูลอะไรที่เป็นการเผยแพร่ชีวประวัติและเกียรติคุณของหลวงพ่อ ก็นำมาลงให้อ่านกันบ้างนะครับ ถือว่าเป็นกุศลอย่างแรงเลยนะครับ(deejai)

 

ได้มาใหม่ครับ........ง