วัตถุมงคลพระพิราพ พ่อแก่ ฤๅษี พระอาจารย์ศิริพงศ์ ต้นตำหรับวัตถุมงคลพระพิราพ

ขอบพระคุณสำหรับความรู้ที่ได้ให้อย่างละเอียดนะคะ

 

ประชาสัมพันธ์ครับ

งานนทรรศการพระพิราพ จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2551

เลื่อนจากกำหนดเดิมคือวันที่ 20 ไปเป็นวันที่ 23 มิถุนายน

งานจัดเป็นเวลา 3 เดือน ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2551

อย่าลืมย้ำอีกครั้งงานเริ่ม 23 มิถุนายนนี้นะครับ

งานนี้ผมทิพยจักรจะไปคอยดูแลและช่วยตอบคำถามเรื่องพระพิราพด้วยครับ (ไปวันไหนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง)

 

สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เกิดเหตุภัยพิบัติทั้งพายุที่พม่าและแผ่นดินไหวที่จีน
ทำให้มีผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุเหล่านี้ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุการณ์ปกติของปรากฏการณ์ธรรมชาติ
หรือเป็นผลกรรมต่างๆก็ตาม พวกเราจึงมิควรประมาทกับปัจจุบันขณะ
ทางเว็บไซต์มนต์นัทธ์จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสวดมนต์แปลวันเสาร์เวลา 15.30 น. ณ.วัดสุทธาราม
เพื่อเป็นการสร้างสมบารมีและพลังงานที่ดีเพื่อคุ้มครองตนเองและครอบครัวให้พ้นจากสิ่งไม่ดี
รวมถึง กราบบูชาองค์พระ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ทุกคน รวมถึงบูชาวัตถุมงคลพระพิราพเพื่อเป็นสิริมงคลคุ้มคองตัวครับ
http://www.monnut.com

 

" วันทิตวา อสุรเทพานัง มหันตพลัง อันตรายัง วินาสสันติ "

อ่านว่า

วัน ทิ ตะ วา
อะ สุ ระ เท พา นัง
มะ หัน ตะ พะ ลัง
อัน ตะ รา ยัง
วิ นาส สัน ติ

ขอองค์พระ จงรักษาให้ท่านอยู่เย็นเป็นสุข

 

พระศิริพงศ์.........อาจารย์หนูของใครๆ

หากกล่าวถึงพระเครื่องความมีอาคมขลังแล้วอาจารย์หนูไม่เป็นสองรองใครในเรื่องเวทย์วิทยาคมหากเป็นเรื่องสร้างหน้าครูหน้าโขนท่านอาจารย์หนูมีชื่อมาช้านานหลายสิบปี

คุณย่าบุญธรรมผมเองปรารถถึงท่านอาจารย์หนูว่า พระเหมือนย่าเหมือนทุกอย่างเวลาพระจะเป็นอะไรอยากอะไรเหมือนย่าทุกอย่างย่าเห็นพระตั้งแต่เล็กเพราะย่าอยู่ในวังหน้าเห็นพระช่วยแม่ตั้งแต่เล็กพระเป็นคนกตัญญู อาจารย์ของพระได้รับการเทิดทูนและให้เกียรติจากพระมาก

อาจารย์หนูไม่ใช่คนมีอาคมขลังอะไรผมไม่สนใจหรอกแม้หากท่านเหาะเหินเดินอากาศผมก็ไม่ได้สนใจ ท่านเป็นมากกว่าพระที่นุ่งห่มเหลืองท่านเป็นพระที่มีจิตใจท่านเป็นพระที่มีความกตัญญูอย่างเด่นชัดคุณธรรมข้อนี้ยืนยันได้แม้บวชแล้วหากอาจารย์คนได้ที่ท่านเคยเรียนเคยสอนท่านมาท่านมักจะไปเยี่ยมซื้อข้าวของไปกราบคาระวะอาจารย์เสมอๆ

แม้ท่านเองจะพูดจากตรงไปตรงมาไปบ้างบางท่านฟังว่าหยาบคายแต่นี่ท่านไม่ได้พูดเอาใจใครแบบโลกๆที่เขาเป็นกัน ท่านเป็นเสมือนกระจกเงาบานใหญ่ที่สะท้อนเงาของคนที่ไปกราบให้รู้ตัวรู้ตนก่อนเสมอๆ

หากใครไปกราบท่านอาจารย์โปรดเข้าใจในตัวตนของอาจารย์ด้วยว่าท่านเป็นพระ พระที่ผมอาจกล่าวได้ว่าท่านเป็นทั้ง พ่อแม่ เป็นทั้งพี่ชายที่แสนดีและเพื่อนที่ช่วยคิด ท่านเป็นอะไรมากกว่าคำว่าห่มเหลืองหรือพระที่สูงจนเข้าไม่ได้ เพราะท่านเข้าถึงได้ง่าย ไม่มีเลขา ไม่มียศตำเเหน่งอะไร ท่านเป็นเพียง.......คนดีของสังคม คนกตัญญูคนหนึ่ง ที่หาได้ยากเป็นคนมีคุณภาพที่สังคมต้องการ



กราบเท้าหลวงพ่อหนูพระที่สอนสั่งในปัจจุบัน


คนวังหน้า เด็กชายดนัย

 

พูดถึงเรื่องนะหน้าทอง........

เป็นเรื่องราวของการที่ข้าพเจ้าเองโดนด่า? ........ด้วยความที่พ่อครูอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยโบราณท่านก็ปรารถนาให้ศิษย์ดำเนินตามเช่นนั้นฟังดูเเล้วอาจจะไม่น่าเชื่อเพราะพ่อครูเองเวลาเขียนพระยันต์ต่างๆท่านจะเขียนเป็นภาษาไทยท่านบอกว่า เมืองไทยไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของขอม...ประโยคนี้สาเเก่ใจดีไหมเเทงเข้าทะลุหัวใจข้าพเจ้าเลยทีเดียวเนื่องจากชอบเขียนขอมสวยๆเเล้วนำมาอวดพ่อครู ท่านเล่าว่าสมัยก่อนนั้นพระสมัยอยุธยาก็เขียนภาษาไทยเเล้วเผาเข้ากองไฟกระดาษสาลงพระยันต์นั้นยังไม่ไหม้เลยขึ้กับจิตเป็นสำคัญ

นอกจากนะหน้าทองเเล้วจะดีได้อย่างไร?

หลายคนที่อยากให้พ่อครูเป่าทองเนื่องจากอยากประสบความสำเร็จเเบบฉับพลันใครๆเขาก็คิดเช่นนั้นเป็นเรื่องธรรมดาๆที่ใครๆก็อยากดีเเบบชั่วข้ามคืนเดียวเป่าทองปุ๊บดีปั๊บ
เเต่ชีวิตจริงคนเราหาเป็นเช่นนั้นไม่

เสน่ห์มาจากทองคำหรือการกระทำ

เสน่ห์ของคนอยู่ที่รอยยิ้มอยู่ที่คำพูดเเละการกระทำเป่านะหน้าทองฤาจะสู้นะหน้ายิ้มนะหน้าดีนะหน้าจริงใจได้อย่างไร
พ่อครูเองสอนเสมอไม่ให้งมงายกับศาสตร์พวกนี้เเต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ปฏิเสธสักทีเดียวเนื่องจากพลังงานเหนือโลกนั้นมีจริงเเต่เราต้องใช้ให้ถูกทางใช้ให้ถูกต้องไม่ใช่ให้ถูกใจเสียอย่างเดียว
ถ้ามีนะที่ศักดิ์สิทธิ์ที่พ่อครูถ่ายทอดให้ทุกคนเเต่ผมเองได้ถ่ายทอดนอกจากนะที่เขียนให้ขลังเเล้วนะที่สำคัญของพ่อครูคือนะกตัญญู


วกกลับมาที่นะที่พ่อครูใช้ทราบมาว่าพ่อครูได้รับการถ่ายทอดมาจากหลายครูหลายอาจารย์เเต่ที่ท่านกล่าวถึงคือนะที่ถ่ายทอดโดยพ่อครูอาคม สายาคม เป็นการครอบถ่ายทอดของสายนาฏยศาสตร์เเบบโบราณที่สืบทอดมายังให้เกิดความเป็นสิริมงคลต่อผู้รับมอบนะเเละผู้ประสิทธิให้นับว่าเป็นวิชชาที่หาผู้รู้ทำได้จริงได้ยากเต็มที

พูดมากไปก็ไม่ดีสรุปเเล้วคือใครได้เป่านะหน้าทองจากพ่อครูเเล้วนับว่าเป็นวาสนายิ่งเพราะได้ฟังพ่อครูเล่าเรื่องการเป่านะได้เเต่นั่งน้ำลายไหลเมื่อสิบกว่าปีก่อนจนบัดนี้ยังไม่ได้รับการเป่านะจากพ่อครูเลยคงมีเเต่การอบรมจากท่านให้มีปัญญาในการคิดเท่านั้นเอง

สวัสดี
คนวังหน้า

 

ไว้จะขอจะให้คุณพ่อของผมถ่ายภาพวัตถุมงคลของพ่อครูที่ได้มอบไว้ให้เเต่ละอย่างลงเพื่อให้ชมผลงานของพ่อครูอาทิ
1หน้าพ่อครูพระภรตมุณีเเละพระพิราพลงสีปี2529ที่พิมพ์โดยสมเด็จพระญาณสังวรที่สร้างอย่างละ32องค์
2ศรีษะพ่อครูเเละพระพิราพที่สร้างจากชนวนพระพุทธนวมงคล
3ศรีษะพ่อครูฤาษีขนาดบูชา
4ศรีษะหลวงพ่อทวดภาคพระฤาษีขนาดบูชา
5พระพิราพเต็มองค์ปั้นเเละลงสีโดยพ่อครูขนาดเล็ก1คืบพ่อครูปั้นเอง
6พ่อหมอชีวกโกมาณภัตจ์ที่ปั้นด้วยผงจันทร์ขนาด5นิ้วปั้นโดยพ่อครู
7พ่อหมอชีวกโกมารภัตจ์ที่สร้างด้วยมวลสารครูอาคม สายาคม ขนาด3นิ้ว
8พระกริ่งพุทธโลกาจารย์ สร้าง19องค์รุ่นเเรกที่พ่อครูสร้างเเล้วผู้ที่จำนำไปบูชาต้องนำสร้อยทองมาให้ท่านดูว่าจะห้อยจริงๆไม่ได้เอาไว้เก็บท่านใส่พระกริ่งวัดสุทัศน์ของท่านย่าเเจ่มจันทร์สมัยอยู่เเถววัดสมัยสมเด็จใส่ไป1องค์เป็นชนวน
9 พระปิตตายอดยิ่งยศ
10พระกริ่งพุทธโลกาจารย์เนื้อผง เเละ เนื้อมวลสารครูอาคม
11หลวงพ่อทวดหลังราชันดำ
12หลวงพ่อทวดหลังตัวอักษรจีนตัวฮก
13หลวงพ่อทวดหลังฤาษี
14หลวงพ่อทวดหลังหลวงพ่อโต
15ราชันดำหลังอักษรจีน
16ราชันดำหลังฤาษี
17ปลัดขิกเนื้อผง ปลัดขิกเนื้อไม้
18เหรียญหล่อฤาษีเนื้อนวโลหะเเละเนื้อเงินสร้างน้อยมาก
เเละอื่นๆไว้จะนำมาให้ชมกันนะครับไว้ว่างๆเเล้วจะถ่ายรูป

อนุโมทนากับศิษย์พ่อครูทุกท่าน
พ่อครูกล่าวเสมอว่าท่านมีครูดีเเละศิษย์ดีท่านบอกว่าท่านโชคดี
ผมก็ปลื้มใจที่พวกพี่ๆได้สืบทอดเจตนารมของท่านต่อในรูปเเบบของเวปซึ่งเหมือนบ้านอีกหลังหนึ่งของศิษย์พ่อครูไว้สนทนากัน
คงจะทำให้ผมเองคลายความคิดถึง ถึงพ่อครูไปได้บ้าง

เด็กชายดนัย คนวังหน้า

 

ผมเป็นเด็กชายที่ตอนนี้เป็นนายดนัย

เป็นศิษย์ พ่อครู พ่อครูมีศักดิ์เป็นพี่ของเเม่ บ้างครั้งพ่อครูเเทนตัวเองว่าหลวงพ่อบางทีก็หลวงพี่
พ่อครูเป็นคนดุเเต่ก็มีอารมณ์ขัน นึกเเล้ว วันเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน ผมเองมีวาสนาได้เจอพ่อครูเมื่อก่อนงานถวายพระเพลิงสมเด็จย่าเเละได้พบกับท่านย่าปราณี สำราญวงศืในปี2538 นับเเล้วก็กว่า12ปีที่รู้จักพ่อครู พ่อครูเป็นครูที่ธรรมดาเเละไม่ธรรรมดา เเต่สิ่งหนึ่งเเละอย่างเดียวที่ประทับใจในพ่อครู

ไม่ใช่หัวโขน
ไม่ใช่หน้าครู
ไม่ใช่วัตถุมงคลอาคมที่เเสนขลัง
ไม่ใช่อิทธิปาฏิหาริย์ใดๆ

เเต่พ่อครูสอนอย่างหนึ่งที่ท่านไม่ได้บอกเเต่ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมที่สุดคือท่านเองกตัญญูกับคุณย่า
มากท่านเองหาทุกสิง่ที่อย่างให้ท่านย่าถ้าท่านหามาให้ได้จวบจนวาระเเห่งการที่จากกัน

พ่อครูเป็นทั้งพ่อเเม่ พี่เเละเพื่อน ให้ข้อคิดต่างๆมากมาย

ใครรู้จักพ่อครูบ้างจะรู้ว่า

พ่อครูไม่ใช่เกจิ
พ่อครูไม่ใช่อาจารย์ขลัง
พ่อครูไม่ใช่....

เเต่พ่อครูเป็นกระจกเงาบานใหญ่ที่คนทุกคนสามารถมองย้อนมาสอนตัวได้เเละท่านได้ให้ข้อคิดที่ตรงเเละโดนใขมาที่สุด


กราบพ่อครู

คนวังหน้า

 

ขออนุโมทนากับคุณวังหน้าด้วยครับ

ในปัจจุบันหลวงพ่อพระอาจารย์ท่านไม่ค่อยสบาย เนื่องจากสุขภาพย่อมร่วงโรยไปตามวัย แต่กระนั้นด้วยใจที่ต้องการอนุรักษ์ครูบาอาจารย์คือองค์พระพิราพและพ่อครูฤาษีสืบสานศิลปะวัฒนธรรมไทยทั้งในสายนาฏศิลป์และดุริยางค์ศิลป์ รวมทั้งงานประติมากรรม จึงทำให้ท่านทำงานโดยตลอดทั้งๆที่สุขภาพไม่แข็งแรง ในปี ๒๕๕๑ นี้ท่านได้สร้างองค์พระพิราพในรูปวัตถุมงคลขึ้นมาอีกครั้งเพื่อหารายได้ในการจัดนิทรรศการพระพิราพในวันที่ 23 มิถุนายน 2551นี้ ซึ่งตอนนี้ก็เหลือไม่มากแล้ว มีพระพิราพเนื้องผงกลม บูชา 1000 บาท หัวโขนย่อส่วนไม่เพ้นท์ลาย บูชา 2000 บาท และพระพิราพขนาดบูชายืนเต็มองค์ในท่ารำองค์พระไม่เพ้นท์ลาย ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่องค์เท่านั้นครับใกล้หมดแล้ว รายได้นำไปเพื่อการอนุรักษ์แลสืบสานการสร้างหัวโขนพระพิราพ โดยหัวโขนพระพิราพและรูปปั้นองค์พระพิราพทั้งหมดจะขึนทะเบียนโดยกรมศิลปากรและต่อไปจะนำไปประดิษฐานที่ตึกใหม่ของหอสมุดแห่งชาติครับ

ผลงานจากหลวงพ่อพระอาจารย์ศิริพงศ์นั้นนอกจากงดงามในด้านศิลปะแล้วยังคงคุณค่าแห่งความเป็นไทยสืบสานศิลปะวัฒนธรรมและเต็มไปด้วยความศํกดิ์สิทธิ์ คือเปี่ยมด้วยศักดิ์ศรี และสิทธิ์อำนาจพลังเหนือธรรมชาติโดยแท้ ผู้ที่ได้รับย่อมปลื้มใจเนื่องจากถือว่าได้รับจากครูสายนาฏศิลป์โดยตรง เป็นสายตรงที่ได้รับสืบทอดมาจากครูรุ่นก่อน เป็นสายตรงที่ได้รับการร่ำเรียนมา เป็นสายตรงแหงการอนุรักษ์โดยแท้ ดังนั้นทุกท่านที่ได้รับวัตถุมงคลจากหลวงพ่อพระอาจารย์จึงต่างภาคภูมิใจในสิ่งที่ตนรับและภูมิใจที่เราเป็นศิษย์มีครู

 

เมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมาชาวลูกศิษย์พ่อครูฤาษีภรตมุนีทุกท่านได้มารวมตัวกัน ที่ วัดสุทธาราม
เพื่อทำการถือศีล 8 ปฏิบัติธรรมกัน รวมถึงฟังพ่อครูเทศน์ ทำให้ทุกท่านอิ่มบุญกันทั่วหน้าครับ

............

 

กราบเท้าครูด้วยความเคารพยิ่ง

 

ไปถือศีลมาเหมือนกันครับ เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้า แต่มาปฏิบัติกันจริงๆ ก็ช่วงบ่าย น่าอนุโมทนาทุกท่านครับเพราะตั้งใจกันเต็มที่แม้จะเพียงครึ่งวันก็ตาม แต่ก็ตั้งใจกันทุกคน

ขออนุโทนาทุกท่านครับ

 

หัวข้อที่พ่อครูพระอาจารย์ศิริพงศ์ เทศน์เช้าวันวิสาขบูชา คือ กุศลกรรมและอกุศลกรรม ซึ่งท่านได้อธิบายและสาเหตุของกรรมทั้ง 2 เช่น ลูกและพ่อแม่ได้มีกรรมที่ไม่แตกต่างกันจึงเกิดมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เป็นต้น....

 

เรื่องที่เล่าจากมนต์นัทธ์ มาฝากค่ะ

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>ผู้เฝ้าเรือนพระภรตมุนี
ศิษย์พ่อครู
Newbie

กระทู้: 35



=@= ตาปีศาจ =@=





</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>Re: โชคลาภที่องค์พระประทานให้
&laquo; ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2008, 07:23:51 PM &raquo;

</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>พี่นางฟ้ามาแชร์เรื่องโชคลาภที่องค์พระประทานให้
วันนี้ผมจึงนำเอาเรื่อง
"ประสบการณ์ความคุ้มครองและลาภผลจากผู้บูชาวัตถุมงคลพระพิราพรุ่นย้อนยุคปี ๒๕๒๙"
มาให้ทุกท่านอ่านกันครับ


ติดตามต่อในโพสถัดไปครับ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>ภูดิศ
ผู้เฝ้าเรือนพระภรตมุนี

ศิษย์พ่อครู
Newbie

กระทู้: 35



=@= ตาปีศาจ =@=




</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>Re: โชคลาภที่องค์พระประทานให้
&laquo; ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2008, 07:59:28 PM &raquo;

</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>ประสบการณ์ความคุ้มครองและลาภผลจากผู้บูชาวัตถุมงคลพระพิราพรุ่นย้อนยุคปี ๒๕๒๙

เรื่องที่ ๑

เมื่อครั้งจัดบูชาครูเป็นกรณีพิเศษ
คุณปัญญาวัฒน์ เมืองน่าน พาครอบครัวมารับการครอบจากศีรษะองค์พระพิราพที่เก่าที่สุด (ยุคต้นรัตนโกสินทร์)จากพ่อครูของเรา
และท่านได้มอบหัวโขนเสนายักษ์ (ซึ่งเป็นบริวารขององค์พระ) จำนวน ๒๒ หัวให้คุณปัญญาวัฒน์
ซึ่งคุณปัญญาวัฒน์นำบรรจุกล่องกระดาษปิดผนึกด้วยเทปใสใส่รถเพื่อเชิญกลับบ้าน
โดยได้บรรทุกหัวโขนเสนาขึ้นทางด้านท้ายกะบะรถแต่มีกล่องกระดาษที่ขึ้นท้ายไม่หมดอยู่ในรถกล่องหนึ่ง

ขณะขับรถถึงจังหวัดพิษณุโลก มีรถมอเตอร์ไซด์วิ่งตัดหน้า
คุณปัญญาวัฒน์หักหลบ มีผลทำให้รถที่ขับอยู่พุ่งออกจากถนนเข้าพื้นที่นาข้างทาง
เข้าชนต้นไม้ใหญ่ ช่วงหน้ายุบเข้ามาถึงที่นั่งด้านหน้า กระจกรถแตกละเอียด...

แต่ด้วยบารมีปู่องค์พระที่คุณปัญญาวัฒน์นับถือมากนั้น
หัวยักษ์เสนาที่อยู่ในกล่องกลับกระเด็นออกมาจากกล่อง
ลงมาครอบศีรษะของบุตรสาวที่นั่งอยู่บนตักภรรยาในที่นั่งด้านข้างคนขับ อย่างพอดิบพอดี
:: น่าแปลกนะครับ ทั้งๆ ที่คุณปัญญาวัฒน์ได้แพ็คแล้วเป็นอย่างดี
:: ในวันนั้นมีพยานหลายคนเพราะช่วยกันแพ็คอยู่ ๒ ถึง ๓ คน

และที่สำคัญสองสามีภรรยา และบุตรสาวกลับไม่บาดเจ็บใดๆ เลย ซึ่งเป็นการเหนือความเป็นไปได้อย่างสิ้นเชิง
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่น่ารอด
พอเห็นคุณปัญญาวัฒน์ออกมาจากรถได้ ก็ถามไถ่กันใหญ่ว่าใส่พระอะไรทำไมถึงไม่เป็นอะไรเลย

ผมจำได้ว่าพ่อครูได้กรุณาเล่าให้ผมฟังว่า
เย็นวันเสาร์ หลังจากที่สวดมนต์ทำวัตรเย็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ประมาณ ๖ โมงเย็น พ่อครูได้รับโทรศัพท์จากคุณปัญญาวัฒน์
ซึ่งได้เล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดในวันนั้นให้พ่อครูได้ทราบ
แล้วพ่อครูก็แจ้งให้พวกที่อยู่บนเรืองได้ทราบว่า
คุณปัญญาวัฒน์ประสบอุบัติเหตุแต่ไม่เป็นอะไรเลยทั้งครอบครัว

สร้างความตื่นเต้นตกใจระคนยินดีกับคนบนเรือนเป็นอย่างมาก
ที่คุณปัญญาวัฒน์ได้รับอุบัติเหตุที่น่าจะทำให้ถึงชีวิตแต่กลับปลอดภัยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ที่สำคัญบุตรสาวตัวน้อยนั้นนั่งอยู่บนตักของภรรยาเฉยๆ ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย
แต่กลับไม่มีริ้วรอยแผลให้เห็นเลย

ท่านสมาชิก "บนเรือน" ที่อ่านแล้ว ถ้าใครอยู่ในเหตุการณ์ช่วงไหน ช่วยเข้ามายืนยันด้วยครับ
จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งที่ช่วยกันเผยแพร่คุณของครูที่คุ้มครองลูกศิษย์ให้เป็นที่ประจักษ์

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>ภูดิศ
ผู้เฝ้าเรือนพระภรตมุนี

ศิษย์พ่อครู
Newbie

กระทู้: 35



=@= ตาปีศาจ =@=




</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>Re: โชคลาภที่องค์พระประทานให้
&laquo; ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2008, 08:03:48 PM &raquo;

</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>ประสบการณ์ความคุ้มครองและลาภผลจากผู้บูชาวัตถุมงคลพระพิราพรุ่นย้อนยุคปี ๒๕๒๙

เรื่องที่ ๒

ขอเล่าอย่างย่อๆ แล้วกันครับ
บรรดาผู้ที่มาลง "นะหน้าทอง" พร้อมรับวัตถุมงคลจากพ่อครูทุกรุ่น
ทุกคนมีชีวิตที่เปลี่ยนไปในทางบวก ทั้งหน้าที่การงาน การเงิน และครอบครัว
มีโชคลาภฟลุคเสมอๆ เช่น
คุณอุดม หนวดงาม, คุณคมกฤช, คุณจตุรวิทย์, คุณธรรมจักร และคนในวงการบันเทิงหลายคน
ต่างมาเล่าสู่กันฟังเสมอๆ เมื่อพบปะกัน

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>ภูดิศ
ผู้เฝ้าเรือนพระภรตมุนี
ศิษย์พ่อครู
Newbie

กระทู้: 35





=@= ตาปีศาจ =@=



</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>Re: โชคลาภที่องค์พระประทานให้
&laquo; ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2008, 08:05:37 PM &raquo;
</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20> </TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>นี่คือประสบการณ์เรื่องเสน่ห์หาเมตตาและโชคลาภ

เก็บตกจากเรือนพ่อครูมาเผยแพร่ ใช้ปัญญาพิจารณากันเองนะครับท่าน
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>jaruvat
Newbie

กระทู้: 42



</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>Re: โชคลาภที่องค์พระประทานให้
&laquo; ตอบ #5 เมื่อ: วันนี้ เวลา 01:52:04 PM &raquo;
</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>หนึ่งในประสบการณ์เกี่ยวกับองค์พระ

ผมเองเป็นผู้ทำงานในทีมถ่ายทำโทรทัศน์รายการหนึ่งซึ่งเคยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับองค์พระพิราพ ในปี 2548

ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของความมหัศจรรย์หลายๆอย่าง

ในปี 2548 นั้นก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำนั้น มีการประชุมทีมงานเพื่อกำหนดเรื่องถ่ายทำ

ผู้ใหญ่หลายท่านนึกไม่ออกว่าจะทำเรื่องอะไร จึงหันมาถามตัวผม ด้วยความศรัทธาพระพิราพเป็นทุนเดิมจึงนำเสนอเรื่องพระพิราพไป

ผู้ใหญ่หลายท่านรวมทั้งทีมงานไม่มีใครรู้จักพระพิราพเลยครับ ผู้ใหญ่บางท่านบอกว่าประเด็นนี้น่าจะตกขณะเดียวกันก็มีการนำเสนอเรื่องอื่นๆเพื่อทดแทน

แต่น่าแปลกที่ใจผมกลับคิดว่าถ้างานนี้เราจะทำเพื่อบูชาครูบาอาจารย์แล้วอะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประสงค์ให้เราทำก็ย่อมได้ทำแน่นอน

และน่าอัศจรรย์จริงๆ หลายๆเรื่องที่หลายคนนำเสนอกลับตกไปหมด ที่ประชุมกลับตกลงที่จะนำเสนอเรื่องพระพิราพแทน

เช้าวันจันทร์มีโทรศัพท์ด่วนมาถึงผมขณะที่กำลังถ่ายทำเรื่องพระอุมาที่วัดแขกสีลม ซึ่งทางทีมงานว่าต้องการถ่ายทำเรื่องพระพิราพภายในหนึ่งอาทิตย์นี้ และย้ำว่าด่วน

จากจุดนี้แหละครับผมจึงพาทีมงานเข้าถ่ายทำที่หอสมุดแห่งชาติ ซึ่งตอนนั้นผมก็เพิ่งทราบพอดีเหมือนกันว่า ทางสำนักหอสมุดกำลังจัดนิทรรศการพระพิราพเมื่อปี 2548 เป็นความบังเอิญอย่างยิ่ง และเป้นความบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ

ในการถ่ายทำนั้นได้ถ่ายทำหัวโขนรูปแบบต่างๆรวมทั้งได้สัมภาษณ์พ่อครูออกถ่ายทอดแก่สาธารณะชน เป็นที่ชื่นใจผมจริงๆ

ก่อนถ่ายทำทางเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลได้ให้ผมจุดธุปบอกกล่าวองค์พระพิราพก่อน ซึ่งผมก็ทำตามด้วยความศรัทธาอย่างยิ่ง ในช่วงนั้นที่จุดธุปบอกกล่าวก็น่าแปลกที่ว่าผมรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ทั้งนี้ก็เข้าใจว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านคงรับรู้ในเจตนาที่ดีของเรา

นั่นแหละครับนับเป้นจุดเริ่มต้นของปาฏิหาริย์จากองค์พระที่ตามมาอีกมากต่อมาก

ผู้ที่ศรัทธาจริง ศรัทธามั่นคง มีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา ครูบาอาจารย์บุพพการี อยู่ในศีลธรรมที่ดีย่อมพบกับปาฏิหาริย์จากองค์พระท่านอย่างแน่นอน
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>UniQue_AnGeL
อสุรเทพ

Administrator
Full Member

กระทู้: 159





นางฟ้า = นางมาร




</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>Re: โชคลาภที่องค์พระประทานให้
&laquo; ตอบ #7 เมื่อ: วันนี้ เวลา 06:24:24 PM &raquo;

</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20> </TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>อ้างจาก: ภูดิศ ที่ พฤษภาคม 20, 2008, 08:03:48 PM
ประสบการณ์ความคุ้มครองและลาภผลจากผู้บูชาวัตถุมงคลพระพิราพรุ่นย้อนยุคปี ๒๕๒๙

เรื่องที่ ๒

ขอเล่าอย่างย่อๆ แล้วกันครับ
บรรดาผู้ที่มาลง "นะหน้าทอง" พร้อมรับวัตถุมงคลจากพ่อครูทุกรุ่น
ทุกคนมีชีวิตที่เปลี่ยนไปในทางบวก ทั้งหน้าที่การงาน การเงิน และครอบครัว
มีโชคลาภฟลุคเสมอๆ เช่น
คุณอุดม หนวดงาม, คุณคมกฤช, คุณจตุรวิทย์, คุณธรรมจักร และคนในวงการบันเทิงหลายคน
ต่างมาเล่าสู่กันฟังเสมอๆ เมื่อพบปะกัน


สวัสดีค่ะคุณภูดิศ
เรื่องนี้มีชื่อพี่คนที่นางฟ้าเล่าที่กระทู้ข้างบนด้วยแน่ะ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>UniQue_AnGeL
อสุรเทพ
Administrator
Full Member

กระทู้: 159



นางฟ้า = นางมาร




</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>Re: โชคลาภที่องค์พระประทานให้
&laquo; ตอบ #8 เมื่อ: วันนี้ เวลา 07:14:12 PM &raquo;

</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>อ้างจาก: ภูดิศ ที่ พฤษภาคม 20, 2008, 07:59:28 PM
ประสบการณ์ความคุ้มครองและลาภผลจากผู้บูชาวัตถุมงคลพระพิราพรุ่นย้อนยุคปี ๒๕๒๙

เรื่องที่ ๑

เมื่อครั้งจัดบูชาครูเป็นกรณีพิเศษ
คุณปัญญาวัฒน์ เมืองน่าน พาครอบครัวมารับการครอบจากศีรษะองค์พระพิราพที่เก่าที่สุด (ยุคต้นรัตนโกสินทร์)จากพ่อครูของเรา
และท่านได้มอบหัวโขนเสนายักษ์ (ซึ่งเป็นบริวารขององค์พระ) จำนวน ๒๒ หัวให้คุณปัญญาวัฒน์
ซึ่งคุณปัญญาวัฒน์นำบรรจุกล่องกระดาษปิดผนึกด้วยเทปใสใส่รถเพื่อเชิญกลับบ้าน
โดยได้บรรทุกหัวโขนเสนาขึ้นทางด้านท้ายกะบะรถแต่มีกล่องกระดาษที่ขึ้นท้ายไม่หมดอยู่ในรถกล่องหนึ่ง

ขณะขับรถถึงจังหวัดพิษณุโลก มีรถมอเตอร์ไซด์วิ่งตัดหน้า
คุณปัญญาวัฒน์หักหลบ มีผลทำให้รถที่ขับอยู่พุ่งออกจากถนนเข้าพื้นที่นาข้างทาง
เข้าชนต้นไม้ใหญ่ ช่วงหน้ายุบเข้ามาถึงที่นั่งด้านหน้า กระจกรถแตกละเอียด...

แต่ด้วยบารมีปู่องค์พระที่คุณปัญญาวัฒน์นับถือมากนั้น
หัวยักษ์เสนาที่อยู่ในกล่องกลับกระเด็นออกมาจากกล่อง
ลงมาครอบศีรษะของบุตรสาวที่นั่งอยู่บนตักภรรยาในที่นั่งด้านข้างคนขับ อย่างพอดิบพอดี
:: น่าแปลกนะครับ ทั้งๆ ที่คุณปัญญาวัฒน์ได้แพ็คแล้วเป็นอย่างดี
:: ในวันนั้นมีพยานหลายคนเพราะช่วยกันแพ็คอยู่ ๒ ถึง ๓ คน

วันนั้นอยู่ในเหตุการณ์ด้วยค่ะ อยู่บนเรือนนะคะ ^^"

สงสัยกันล่ะซิว่าอยู่ดีๆ ไปโผล่ในเหตุการณ์ตรงนี้ได้ยังงัย

วันนั้น (วันศุกร์ เราครอบครูนัดพิเศษกันวันพฤหัส) นางฟ้าเอารถไปเข้าอู่ค่ะ
ระหว่างรอรถเลยไปที่วัด เพราะอยากชมบารมีปู่หน้าเก่าอีกรอบ
ตอนที่ไปถึงก็เจอพี่อาร์ทกับลูกและภรรยา กำลังนั่งคุยกับพ่อครูอยู่ ลูกสาวแกน่ารักมากเลยล่ะค่ะ
เราก็ไปนั่งจุ้มปุ๊กมั่งดูท่านผู้ใหญ่คุยกัน อิอิ....

พี่เค้าขอหน้าเสนาจากพ่อครู พ่อครูเลยยกให้หมดเลยตรงนั้น แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าจำนวนเท่าไหร่เพราะไม่ได้นับ
นางฟ้าก็ร้องอู้ฮู้.... พี่จะขนหมดเลยเหรอคะ (อันนี้คิดในใจ)

เห็นพี่ท่านเค้าบอกว่าจะเอากลับไปที่น่าน
เราก็เพิ่งรู้ว่าแกเดินทางมาจากน่าน ก็โห.... พี่ขาศรัทธาแรงเจรงๆ นางฟ้านับถือๆ

เราก็เห็นพี่เค้ากำลังแพ็คศีรษะเสนายักษ์ลงกล่องกระดาษติดเทปกาวใสหน้ากว้างราวๆ 2 นิ้ว หลายกล่องมาก
ส่วนที่เอาไว้ท้ายพี่เค้ายกใส่ลังพลาสติกสีฟ้าอีกทีค่ะเพราะกลัวว่าจะโดนฝนตอนกลับบ้าน
ตอนที่ลำเลียงๆ กันอยู่ก็เดินขึ้นเดินลงกันอยู่หลายเที่ยว
แล้วได้ยินแกพูดแว่วๆ ว่า ใส่กล่องพลาสติกไม่หมด ต้องเอาไปไว้ใน แค็ป กล่องนึง

แล้วก็นั่งคุยกันจนได้เวลาที่อู่รถโทรมา ก็....บ่ายแก่ๆ แล้วล่ะค่ะ
นางฟ้าเลยลาพ่อครูกลับ พี่อาร์ทก็ลากลับพร้อมครอบครัว
แกขับรถกระบะออกไปก่อน เราก็ยังมองตามกล่องสีฟ้าที่อยู่หลังรถอยู่เลย...


อ้างจาก: ภูดิศ ที่ พฤษภาคม 20, 2008, 07:59:28 PM
เย็นวันเสาร์ หลังจากที่สวดมนต์ทำวัตรเย็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ประมาณ ๖ โมงเย็น พ่อครูได้รับโทรศัพท์จากคุณปัญญาวัฒน์
ซึ่งได้เล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดในวันนั้นให้พ่อครูได้ทราบ
แล้วพ่อครูก็แจ้งให้พวกที่อยู่บนเรืองได้ทราบว่า
คุณปัญญาวัฒน์ประสบอุบัติเหตุแต่ไม่เป็นอะไรเลยทั้งครอบครัว

สร้างความตื่นเต้นตกใจระคนยินดีกับคนบนเรือนเป็นอย่างมาก
ที่คุณปัญญาวัฒน์ได้รับอุบัติเหตุที่น่าจะทำให้ถึงชีวิตแต่กลับปลอดภัยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ที่สำคัญบุตรสาวตัวน้อยนั้นนั่งอยู่บนตักของภรรยาเฉยๆ ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย
แต่กลับไม่มีริ้วรอยแผลให้เห็นเลย

ขยายความต่อจากคุณภูดิศเลยแล้วกัน เพราะนางฟ้าก็อยู่อีกนั่นแหละ - -"
(บังเอิญจริงๆ ได้ร่วมรับรู้และอยู่เหตุการณ์ต้นเรื่องกับท้ายเรื่องเนี่ย)

พอวันเสาร์
เราก็ไปสวดมนต์กัน พอนั่งอยู่เกือบๆ ทุ่ม กำลังคุยกันเรื่องอะไรก็จำไม่ได้ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง

พ่อครูก็รับเอาขึ้นมาดูเบอร์ ถามในสายว่าถึงแล้วเหรอ ...

... เงียบ ...

เป็นอะไรมากรึเปล่า??

... เงียบ ...

เราก็มองหน้ากันเลิ่กลั่กนึกว่าใครไม่สบายเป็นอะไร พ่อครูก็พูดเบาๆ ว่าพี่อาร์ทโทรมา

เราเลยคุยกันเบาลงนิดหนึ่ง จนกระทั่งพ่อครูคุยโทรศัพท์จบ
พวกเราถึงได้รู้ว่า พี่อาร์ทรถชน ตกถนนลงไปในทุ่งนา รถยับ จนชาวบ้านนึกว่าไม่รอด

พวกเราถามว่า พี่อาร์ทเป็นอะไรรึเปล่า

พ่อครูบอกว่าไม่เป็นอะไรซักนิดเดียว รอยเท่าแมวข่วนยังไม่มีเลย อาร์ทบอก

เราก็เหวอกันแล้ว ที่เหวอกว่านั้น พอถามถึงลูกสาวพี่อาร์ท ด้วยความเป็นห่วง
เพราะถ้านั่งรถกระบะ เด็กเล็กอย่างนั้นน่าจะนั่งตอนหลังของแค็ป ไม่ก็นั่งอยู่บนตักแม่ ต้องบาดเจ็บแน่ๆ

พ่อครูบอกว่าไม่เป็นอะไร

เราก็ซักกันซิว่าเด็กนั่งตรงไหน
พ่อครูบอกนั่งบนตักแม่

เราก็ถามแล้วหัวกระแทกรึเปล่า
พ่อครูบอกว่า หัวเสนากระเด็นมาครอบหัวพอดีเลยไม่เป็นอะไร

เราก็เอ๊ะ เค้าแกะออกมาจากกล่องเหรอ
พ่อครูบอกไม่ใช่ อาร์ทไม่ได้แกะ แต่ไม่รู้ว่ากระเด็นออกจากกล่องได้ยังงัย

เราก็ว่าลูกเค้าแกะออกมาเล่นรึเปล่า
พ่อครูบอกว่า ไม่มีทาง อาร์ทไม่ชุ่ยขนาดนั้นเพราะอาร์ทนับถือปู่มาก อาร์ทไม่ให้เด็กเล่นเด็ดขาดเพราะรู้ว่าของแบบนี้มีพลังงานจริงๆ

พอพิจารณาท่าทางพี่อาร์ทวันนั้นก็เห็นจะจริงอย่างที่พ่อครูบอกว่า พี่อาร์ทไม่น่าจะให้เด็กเล่นแน่ๆ
เพราะท่าทางแกออกจะเคารพขนาดนั้น
นางฟ้าจำได้ว่าก่อนแกจะยกหัวเสนาขึ้นมาดู แกยังพนมมือไหว้ก่อนเลย พอวางก็ไหว้อีก
ตอนจะขนย้ายยังจุดธูปบอก ไม่น่าให้เด็กเล่นแน่ๆ

แล้วที่สำคัญ นางฟ้าเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มแพ็คกล่องแรกจนถึงตอนที่ยกลงไป
ว่าแกปิดเทปหมดทุกกล่อง แล้วยังยกกล่องสีฟ้าขึ้นมาเอากล่องกระดาษใส่ลงไป ตอนอยู่บนเรือนด้วย

ตบท้าย... พ่อครูบอกว่า พี่อาร์ทจะเอาหัวเสนาทั้งหมดไปปิดทองเพราะช่วยคุ้มครองครอบครัวเค้าให้ปลอดภัย

</TD></TR></TBODY></TABLE>