วัตถุมงคลพระพิราพ พ่อแก่ ฤๅษี พระอาจารย์ศิริพงศ์ ต้นตำหรับวัตถุมงคลพระพิราพ

<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->__________________

 

<!-- / message --><!-- edit note -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
<!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
<!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>

 

เอาเรื่องจากบ้านโน้น มาลงที่บ้านนี้บ้าง เป็นบทความของพระอาจารย์ เกี่ยวกับเรื่องการบูชาเทวรูปค่ะ

 

ดูแลเทวรูปที่บ้านดีพอหรือยัง

เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2008, 21:36:16
หลายวันก่อนทูตสวรรค์ (ผู้นำสาร) มาเล่าให้ฟังว่ารุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันชวนไปหาพระคเณศองค์ใหญ่ๆ ไหว้ เราจึงถามว่าที่ห้องทำงานไม่มีพระคเณศหรือ ได้รับคำตอบว่ามีหลายองค์ด้วยวางอยู่หลังตู้เอกสารหลายใบ (แสดงว่ามีมากจนต้องวางเกลื่อนใช้ที่วางหลายที่) เราจึงให้ข้อคิดว่า ถ้าได้ยินเสียงหรือสื่อสารกับเทวรูปพระคเณศได้ท่านคงพูดว่า "ลูกเอ๋ย พ่ออยู่ตรงนี้ยังถูกฝุ่นจับเลย ดูแลพ่อดีหรือยังจะไปไหว้รูปเคารพพ่อในที่อื่นๆ" เข้าตำราที่เราเขียนไว้ก่อนหน้านี้ว่า แต่แรกเริ่มเดิมทีก็เสาะแสวงหา พอได้มาก็ไม่เห็นเป็นแก่นสาร ที่ไหนใครว่าบูชาอะไรแล้วจะดีจะรวย ก็เที่ยวไปหามาจนเป็นสุสานเก็บของที่ว่าดีนั้น แล้วไม่สนใจจนฝุ่นจับ แล้วก็เที่ยวไปไหว้ที่อื่นๆ อีก ถ้าเทวรูปมีใจครองท่านคงคันและหายใจไม่ออกด้วยตราบฝุ่นจับตัว พวงมาลัยดอกไม้ที่ขึ้นรา และรกสายตากับแก้วน้ำที่มีคราบน้ำและฝุ่นตะกอนจับจนแห้งกรังมานานแล้วตั้งแต่บูชาครั้งที่แล้วยังไม่เคยเปลี่ยนเลย

การที่จะไปหาพระคเณศองค์ใหญ่ๆ โตๆ ไหว้ ก็แห่ตามโฆษณาและหวังขอพรให้กิจการผ่านพ้นอุปสรรคมีงานเข้ามามากๆ ลองคิดในมุมกลับบ้างถ้าพระคเณศท่านให้พรให้สำเร็จสมปรารถนาได้ ท่านก็งดพรพร้อมทั้งสาปส่งได้ ในเมื่อนำท่านมาแล้วไม่ปฏิบัติบูชาให้ดี จะองค์เล็กองค์ใหญ่ จะอยู่ที่ไหนกับใคร ถ้าจิตศรัทธามั่นคงปฏิบัติบูชาให้ดี พลังงานความศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเปี่ยมล้นไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ไม่ว่าองค์ไหนๆ ปางใดๆ ทั้งสิ้น แม้ไม่มีเทวรูปพระคเณศตั้งประดิษฐานแต่หลับตาแล้วน้อมจิตระลึกถึงด้วยศรัทธาที่ตั้งมั่น ผลลัพธ์แห่งความคุ้มครองก็มากมายเหลือจะคณะนับได้แล้ว

พระพ่อพระแม่ พระที่มีเลือดเนื้อชีวิตจิตใจ พระที่ต้องการอาหาร เครื่องนุ่งห่มยารักษาโรคและการดูแลเอาใจใส่ นั่งอยู่ในบ้านดูแลดีหรือยัง ทั้งๆ ที่ชีวิต และลมหายใจที่ลูกๆ มี ลูกๆ เป็นอยู่ทุกวันนี้ พระพ่อพระแม่เป็นผู้ประทานให้ ไม่ใช่เทวดานอกบ้านที่ไหน ความรู้ความสามารถสติปัญญามากเล่ห์ร้อยเหลี่ยมที่เอาชนะคู่แข่งทางการค้า ใครเล่าที่เพาะบ่มปลูกฝังให้ลูกมีวันนี้ ใครจ่ายเงินซื้อสารพัดสรรพวิชาความรู้มาใส่สมองลูกทั้งภาคปกติและภาคเสริมความรู้ในการกรวดวิชา ปฏิบัติบูชาพระพ่อพระแม่ดีหรือยัง จะไปปฏิบัติบูชาเทวรูปไม่มีใจครองถ้าเทวรูปท่านสามารถมีญาณวิถี ท่านย่อมต้องประทานความสำเร็จสมปรารถนาต่อบุคคลผู้กระทำการตอบแทนบุญคุณผู้ให้ชีวิตก่อน เพราะท่านย่อมคิดว่าขนาดผู้ให้ชีวิตและลมหายใจมึงยังไม่ดูแลให้ดีเลยถ้ามึงบูชากูแล้วไม่สมหวัง เพราะสิ่งที่กูประทานให้เกินกรรม (การกระทำที่มึงประกอบ) แล้ว มึงจะนับถือกูอย่างจริงจังจริงใจได้อย่างไร



สวัสดีมีโชคชนะชัย





ยังไม่จบครั้งหน้าจะว่ากันเรื่องศาสนพิธีพราหมณ์ในการปฏิบัติต่อเทวรูปให้ทราบกัน

 

การปฏิบัติต่อเทวรูป

เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2008, 22:52:40

พราหมณ์ถือว่าเทวรูปแทนองค์เทวดาที่ตนเคารพมีชีวิตจิตใจ มีความปรารถนาความต้องการเหมือนมนุษย์ เพราะฉะนั้นการปฏิบัติต่อเทวรูปจึงกระทำเหมือนท่านเป็นมนุษย์ และการจะไปบูชาเทวรูปประจำหมู่บ้าน เทวรูปประจำเมืองนั้นต้องกระทำภายหลังจากการปฏิบัติบูชาเทวรูปในบ้าน

เมื่อรุ่งอรุณของวันใหม่หลังจากการกระทำกิจวัตรส่วนตัวแล้วจะเข้าห้องบูชาถวายน้ำสรงเทวรูป, แต่งตัวด้วยผ้าอาภรณ์, ถวายจุณเจิม, ถวายเครื่องหอม, ถวายไฟ, ถวายนม น้ำ และผลไม้, พร้อมทั้งการสาธยายมนต์เพื่อบูชา เมื่อพระอาทิตย์อัสดงในตอนเย็นก็ปฏิบัติเช่นเมื่อเช้านั้น เรามักเตือนลูก และศิษย์ เสมอว่า พร้อมหรือยังที่จะสรรหาเทวรูปมาเป็นภาระในการปฏิบัติบูชา เพราะถ้าทำได้ตามระเบียบที่วางไว้ย่อมส่งผลดีดีต่อตนเองและครอบครัว แต่ถ้าปฏิบัติไม่ได้เห่อแต่เฉพาะได้มาใหม่ๆ แล้วละเลยทิ้งเสียโดยอ้างว่าไม่มีเวลา มันไม่คุ้มกันเลยกับบทสรุปที่ไม่งามนัก

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงประทานคำสอนในการดำรงชีวิตว่า การปฏิบัติด้วยอามิสเครื่องสักการะอื่นใดก็สู้การปฏิบัติบูชาด้วยการลงมือทำด้วยตนเองไม่ได้ ซึ่งการปฏิบัตินั้นคือ ตั้งตนอยู่ในวินัยของศีล ๕ ไม่ทำร้ายผู้อื่นจนกระทั่งห้ามคร่าชีวิต ไม่ลักขโมยครอบครองทรัพย์สินที่มิใช่ของตน ไม่ละเมิดล่วงเกินร่างกายจิตใจของชายและหญิงที่มีเจ้าของ ไม่ล่อลวงให้ผู้อื่นให้เสียหาย ไม่เสพย์สิ่งเสพติดที่บั่นทอนร่างกายและทรัพย์สินของตน กตัญญูรู้จักตอบแทนคุณผู้ให้อุปการะแก่ตน ดำเนินชีวิตอยู่ในกรอบระเบียบขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีที่สังคมยอมรับ เพียงเท่านี้ตัวเองคนรอบข้างรวมจนถึงโลกก็สงบสุขถ้าทุกคนรู้หน้าที่ทำสิ่งที่ตนได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดเต็มกำลังความสามารถ


สวัสดีมีโชคชนะชัย

 

บูชาเทวรูปดีทวีโชค

เรื่องพลังศรัทธาต่อเทวรูปนั้นย่อมเห็นผลเเน่ ถ้าผู้ปฏิบัติบูชามีศรัทธาอย่างมั่นคงไม่หวั่นไหว มุ่งจิตพุ่งตรงต่อองค์เเละรูปเคารพที่บูชา โดยไม่ต้องไปหาที่บูชาจากเทวสถานอื่นนอกบ้านตน ยกตัวอย่างเมื่อประมาณ ๑๗ ปีที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวเทวรูปหินไม่มีใจครองสามารถดื่มนมได้ ผู้คนก็เเห่กันไปตามสถานที่ที่ว่านั้นเเน่นขนัด ส่วนตัวเราให้ศิษย์กลุ่มใหญ่จุดธูปเทียนถวายเครื่องสักการะเทวรูปพระศรีมหาอุมาเทวีที่ประดิษฐานอยู่บนเรือนเเล้วนำภาชนะใส่นม มาใช้ช้อนตักนมป้อนถวายที่ปากของเทวรูป ปรากฏว่านมในช้อนนั้นหายเข้าปากเทวรูปหมดช้อน เราจึงบอกศิษย์ว่าขอให้ทุกคน ปฏิบัติอย่างนี้ต่อเทวรูปที่มีที่บ้านของตนเพื่อพิสูจน์ ความศรัทธาของตนที่มีต่อพระศรีมหาอุมาเทวีว่า ตนปฏิบัติบูชาดีเเล้วหรือยัง
รุ่งขึ้นศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์กลับมารายงานว่าเทวรูปที่บ้านตนก็เสวยนมจากช้อนหมดเหมือนกัน เป็นเครื่องยืนยันว่า ถ้าเราถึงพร้อมด้วยพลังศรัทธาอย่างจริงจังจริงใจ ไม่ว่าเทวรูปจะเป็นองค์ใด ปางไหน ประทับอยู่ที่ใดๆก็ตามย่อมเเสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ได้ทุกที่ทุกเเห่งที่เปี่ยมด้วยพลังศรัทธา
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเเสดงความคิดเห็นเรื่องปาฏิหารย์ไว้ว่าอิทธิฤทธิ์
ปาฏิหารย์ใดๆก็ตามก็สู้เทศนาปาฏิหารย์ไม่ได้ เทศนาปาฏิหารย์หมายถึงการกล่าวเเนะนำชี้ทาง
ให้คนเข้าใจถึงเรื่องทุกข์ เเละหนทางพ้นทุข์ ให้มหาชนดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้เเละโลกหน้าอย่างปราศจากทุกข์ นั้นคือ เทศนาปาฏิหารย์

"จะทุกข์หรือสุข สำคัญที่ใจ"
สวัสดีมีโชคชนะชัย

 

พระเหงื่อออก?
เมื่อ: ธันวาคม 25, 2008, 17:15:05

เมื่อวันพฤหัสที่แล้วผมไปหาพ่อครูที่เรือนพระภรตมุนี เห็นมีพระสีดำๆ กลมๆ หลายอันตากเอาไว้หลังองค์พระหลายองค์ พ่อครูบอกว่าของพี่นางฟ้าฝากมาตากแดดหลายวันแล้ว ผมถามว่าไปตกน้ำมาหรอครับ พ่อครูไม่บอกครับ ผมเลยขออนุญาตหยิบ ข้างหน้าเป็นเทวดา (พ่อครูบอกว่าเป็นพระวิศวกรรม) ข้างหลังเป็นตัวภาษาจีน ดูเห็นเป็นเม็ดน้ำเหมือนเหงื่อเล็กๆ เกาะอยู่ ไม่มีกลิ่นอะไรเลย ผมสงสัยเลยอยากจะถามพี่นางฟ้าครับ ว่า เกิดอะไรขึ้นกับพระครับ เห็นพ่อครูบอกตากไว้หลายวันแล้ว ผมหยิบดูก็ยังมีน้ำเกาะอยู่เลยหรือใครรู้บอกผมทีนะครับ

บี หลานยักษ์

 

Re: พระเหงื่อออก?
ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2008, 17:24:11
งานเข้าเลย อธิบายปรากฎการณ์ไม่ถูกหรอกค่ะ ต้องรอผู้รู้มาตอบอีกที เล่าได้แต่เหตุการณ์

เรื่องมันเกิดเมื่อเสาร์กลางเดือนนี่เองค่ะ วันนั้นจะเอาพระที่พ่อครูให้มาแจกพนักงานที่บริษัทฯ ออกมาดูว่าเหลืออยู่จำนวนเท่าไหร่และมีสภาพเป็นอย่างไร พอแกะอันแรกออกจากซองพลาสติกสองชั้นเห็นน้ำเกาะอยู่เต็มก็ตกใจและสงสัยมากเพราะไม่ได้เก็บไว้ในที่ชื้น เลยถ่ายรูปเก็บเอาไว้ดูเป็นที่ระทึก

​

กะว่าจะเอาไปตากแดดที่บ้าน แต่คิดๆ แล้วเสี่ยงกับ สิ่งที่ควบคุมไม่ได้ (เช่น เพื่อนบ้าน นก แมว หมา และเด็ก) ก็เลยหอบทั้งหมดไปฝากพ่อครูตากเอาไว้ในวันถัดมา

ตอนมาถึงเรือนท่านก็ถามว่าหิ้วอะไรมาด้วย พอท่านรู้ ท่านก็ว่า วันนี้มีแต่พระวิษณุกรรมมาเยือนเรือน เรามองขึ้นไปที่ โต๊ะตั้งพ่อแก่ก็เห็น... อ้าว มีพระวิษณุกรรมขนาดย่อมสูงราวๆ 10 นิ้ว ตั้งอยู่ ก็แอบคิดตามท่าน เออ... สงสัยวันนี้จะเป็นชุมนุมพระวิษณุกรรม พอแกะพระทั้งหมดก็พบความแปลกอีกอย่าง ปรากฎว่า ในถุงเหลือพระอยู่สองอย่างคือ

พระวิษณุกรรมหลังตัวฮก (ภาษาจีน) เนื้อสีดำ
พระวิษณุกรรมหลังหลวงปู่ทวดเนื้อสีดำ

ความแปลกที่ว่าคือ ที่มีเหงื่อจะเป็นพระวิษณุกรรมหลังตัวฮกทั้งหมด ทั้งๆ ที่ลักษณะการเก็บก็มีแตกต่างกันคือ มีทั้งอยู่ในซองพลาสติกสองชั้น และบางอันม้วนกับแอร์บับเบิลเอาไว้เฉยๆ (ปล่อยให้มีช่องระบายอากาศไม่ได้ห่อทึบ) แต่อันที่เป็นหลังหลวงปู่ทวดนั้น ม้วนแอร์บับเบิลใส่ซองพลาสติกแต่กลับไม่มีเหงื่อออก
พอถามท่านว่าทำไมถึงเป็นเหงื่อออก ท่านว่าเป็นอะไรนะ...มันเป็นศัพท์ของคนเล่นพระน่ะ พี่ก็จำไม่ได้ ถ้าคุณไก่หรือพี่หมึกเข้ามาช่วยมาเขียนอธิบายทีนะคะ วันนั้น คุณไก่ กับพี่หมึก อยู่ด้วยพอดี

น้องบีบอกว่าน้องบีไปเจอวันพฤหัส แสดงว่าตากมา 5 วันก็ยังไม่แห้ง !!!
เมื่อวันอาทิตย์ (รวม 8 วันพอดี) พี่ไปเก็บก็แห้งทุกองค์
แต่วันนี้ (13 วันแล้ว) แกะออกมาดูอีกครั้ง กลายเป็นมีบางองค์ยังไม่แห้ง

​

องค์ที่แห้งก็ตกสะเก็ดขาวๆ

​

ถ่ายภาพมาให้ดูคิดว่า ปรากฎการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เกิดข้อสงสัยว่าทำไมผ่านมาตั้งสองอาทิตย์แล้ว ยังมีเหงื่อออกอีก

`* น า ง ฟ้ า ~･ﾟ*`

 

Re: พระเหงื่อออก?
ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2008, 08:55:17

แบบนี้ ใช่ไหมหนอ ที่เขาเรียกว่า พระน้ำผุด
คือน้ำจะผุดออกมา คล้ายๆ พระประธานวัดน้ำฮู อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
ที่มีน้ำผุดออกมาในเศียร บริเวณที่เป็นมวยผม เปิดออกได้
มีคนจำนวนมาก ไปคอยซับน้ำ นำมาเป็นน้ำพระพุทธมนต์
รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เป็นอย่างดี

เคยมีรายการโทรทัศน์ ช่องหนึ่ง จำไม่ได้ว่าช่องอะไร
เดินทางไปพิสูจน์ เรื่องน้ำผุดจากพระพุทธรูป
มีการปิดพระอุโบสถ 24 ชั่วโมงไม่ให้ใครเข้าออก
แล้วทำความสะอาดพระเกศให้แห้ง
หลังจากครบ 24 ชั่วโมง เข้าไปดู ก็พบน้ำผุดออกมาเกือบเต็มมวยพระเกศ
เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

เมื่อสิบกว่าปี ผมก็เคยแวะไปกราบและพระประธาน ที่วัดน้ำฮู มาแล้ว

วัดน้ำฮู - ข้อมูลทั่วไป

วัดน้ำฮู อยู่ที่หมู่ที่ 5 ตำบลเวียงใต้ ห่างจากตัวอำเภอไปทางโรงพยาบาลปายประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานของพระอุ่นเมือง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม (ศิลปะล้านนา) ปางมารวิชัยทำด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ มีลักษณะพิเศษคือพระเศียรกลวง พระโมฬีปิดเปิดได้และมีน้ำซึมออกอยู่เสมอประวัติการสร้างไม่แน่นอนแต่เชื่อกันว่าสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นพระราชกุศลถวายพระพี่นางพระสุพรรณกัลยา นักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปนมัสการพระอุ่นเมืองทางวัดเปิดให้เข้านมัสการทุกวัน

จาก
http://www.ezytrip.com/travel/images/10000/00800/000767.htm

"วัดน้ำฮู้ซึ่งมีพระพุทธรูปที่ชาวเมืองเรียกกันว่าหลวงพ่ออุ่นเมือง ซึ่งไม่เหมือนกับพระพุทธรูปใดๆ เพราะยอดพระเกศสามารถยกขึ้นได้เหมือนฝาผะอบ ตัวพระเศียรเองภายในกลวง แต่ที่แปลกคือภายในจะมีน้ำซึ่งเกิดขึ้นเอง จากคำบอกเล่าของลุงที่เป็นคนดูแลบอกว่า ประมาณ 10 วันก็จะเต็ม ผมกะดูความจุไม่ต่ำกว่า 1 ลิตร แต่ระยะหลังนี้ไม่เคยเต็ม เพราะลุงแกตักน้ำลงมาผสมกับอ่างน้ำใหญ่เป็นน้ำมนต์สำหรับผู้ที่เข้าไปกราบนมัสการ แต่ที่ผมประทับใจคือไม่มีพระสงฆ์มานั่งคอยประพรมพระพุทธมนต์และรับบริจาค เห็นแต่แม่ชีเดินจงกรมอยู่ 2-3 คน

ผมคงไม่ขอออกความเห็นว่าจริงเท็จประการใดเรื่องน้ำที่เกิดขึ้นได้เอง เพราะน้ำศักดิ์สิทธิ์ใดๆในโลก ก็ไม่สามารถช่วยให้ท่านพ้นทุกข์ได้ ถ้าท่านไม่ลงมือปฏิบัติอย่างถูกวิธีด้วยตัวของท่านเองครับ แต่อย่างไรก็ตามได้เคยมีการพิสูจน์กันมาแล้ว โดยนายอำเภอกับประจักษ์พยาน ใช้วิธีตักน้ำออกและใช้สำลีซับน้ำออกจนแห้ง ปิดยอดพระเกศ หยอดครั่งประทับตรา ปิดโบถส์ ใส่กุญแจ หลังจากนั้นอีก 15 วันถ้าผมจำไม่ผิด ก็ไปเปิดดูพร้อมๆกัน
ปรากฏว่ามีน้ำเกือบเต็ม วัดนี้จึงเป็นวัดที่ผู้คนที่มาอำเภอปายควรจะเข้ามากราบนมัสการ "






จากhttp://www.moohin.com/trips/maehongson/namhu/

พุทธบุตร

 

เอ.. จำได้ว่า พระที่พี่เม้าท์ได้ไปตอนงานนวราตรีเมื่อปีที่แล้ว ที่เนื้อผงดิลกน่ะค่ะ ก็เป็นแบบเดียวกันนี่คะ ที่ว่าเป็นเนื้ออะไรซักอย่างผุดออกมาเป็นสีขาวเกาะพราวไปทั้งองค์ นางฟ้าว่าน่าจะเป็นปรากฎการณ์แบบนั้นมากกว่าค่ะ (ความเห็นส่วนตัวนะคะ)

`* น า ง ฟ้ า ~･ﾟ*`

 

หรืออาจเป็นมวลสารว่านที่ระเหยน้ำว่านออกมา
เมื่อแห้งแล้วจะจับเป็นฝ้าสีขาว
นานๆไป จะเกิดเป็นเม็ดเป็นปุ่มนูนขึ้น เหมือนอะไรบางอย่างเกาะอยู่บนผิวพระ
และยิ่งนานไปอีก ก็จะกลายสภาพ เสมือนพระธาตุ เกาะอยู่ตามผิวพระ
ใครได้พบเจอ นับว่าเป็นสิริมหามงคล โชคดี เหลือคณานับ นะจะบอกให้

พุทธบุตร

 

ดีนะไม่เอาไปทิ้งเพราะนึกว่าขึ้นรา เกือบเป็นวานรได้แก้วซะแล้ว

(นี่แหละหนาคนไม่เล่นพระก็จะไม่มีความรู้อย่างนี้)

 

ยก นิทรรศการพระพิราพฯ มาไว้ที่นี่
http://www.monnut.com/board/index.php?topic=659.0

 

<!-- / message --><!-- attachments -->

 

<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>สิริ ๘ ประการ
&laquo; เมื่อ: มกราคม 02, 2009, 17:01:55 &raquo;

</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE>

สิริ๘ประการ
สิริแปดประการโบราณกล่าว เป็นเรื่องราวมีมาแต่ไหนไหน
โลกเกิดขึ้นตั้งอยู่แต่ครั้งใด สิริชัยก็มีอยู่คู่โลกา
สิริพรแปดประการท่านว่าไว้ ใครทำได้เทพเจ้าเฝ้ารักษา
มีลาภยศสุขสรรเสริญจำเริญตา มีเดชาทั่วด้าวกระเดื่องแดน
ถ้าผู้ใดไม่รักษาตามบัญญัติ เป็นกิจวัตรดีงามตามแบบแผน
เทพสามานย์กาลกิณีที่เมืองแมน เข้าดูแคลนเลื่อมยศหมดมงคล

สิริข้อที่หนึ่ง
วันเจ็ดค่ำแปดค่ำนี้สำคัญ รวมทั้งวันจันทร์ศูนย์อาทิตย์ศูนย์
สิบสี่ค่ำสิบห้าค่ำล้ำค่าคุณ วันทำบุญตรุษสงกรานต์วันเกิดตน
วันเหล่านี้ควรเว้นกามรส ให้หมดจดราคีจักมีผล
เหล่าทวยเทพเข้าป้องปกครองตน เป็นมงคลศรีสวัสดิ์พัฒนา
ถ้าผู้ใดนิสัยไม่งดเว้น เทพที่เป็นสามานย์พาลโทษา
ให้เสื่อมยศลดน้อยถอยลงมา เสื่อมโภคาสิ้นมงคลมลทินแล

สิริข้อที่สอง
บริโภคอาหารโบราณว่า ควรผินหน้าหาทิศที่เป็นศรี
ควรบ่ายเบื้องบรูพาท่านว่าดี ย่อมจักมีเทพามาคุ้มครอง
เหล่าทวยเทพชื่นบานประทานสุข นิรทุกข์โรคภัยไม่มีหมอง
จะไปสู่ทิศใดเทพหมายปอง เข้าคุ้มครองร่มเย็นเป็นสุขแล

สิริข้อที่สาม
ถ้าคราใดต้องถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะผินหน้าให้เหมาะสม
ไม่ควรถ่ายเป็นไปตามอารมณ์ ให้ชื่มชมจึงจะดีเป็นศรีตน
จงบ่ายเบื้องทางด้านปัจฉิมทิศ โชคสัมฤทธิ์ตำราว่ามีผล
เหล่าเทพไท้อวยชัยให้มงคล สาธุชนเยี่ยงนี้ศรีประจำ

สิริข้อที่สี่
ถึงครานอนจงนอนให้มีหลัก ควรรู้จักหญิงชายนอนข้างไหน
หญิงนอนซ้ายชายนอนขวาอย่าข้องใจ ตามวิสัยของกามโภคี
มวยเทพาอวยชัยจงใจรัก คอยพิทักษ์รักษาเป็นราศี
ด้วยการนอนถูกหลักเทพภาดี ล้วนแต่มีมงคลแก่ตนแล

สิริข้อที่ห้า
เครื่องนุ่งห่มกลางคืนและกลางวัน ควรแยกกันเอาไว้ให้เป็นส่วน
การนุ่งห่มรวมกันนั้นไม่ควร จงจัดส่วนคืนวันกันไว้ดี
ถ้านุ่มห่มรวมกันนั้นมีโทษ เพทพิโรธเป็นภัยไม่สุขี
แยกเป็นส่วนคืนวันท่านว่าดี เทพไมตรีพลีสุขทั่วทุกคน

สิริข้อที่หก
ยามเช้ามืดตื่นนอนตอนตีห้า จงล้างหน้าเสกมนต์บ่นคาถา
ล้างหน้าผากก่อนอื่นตื่นนอนมา ศรีอยู่หน้าตอนเช้าเราทุกคน
ถือเป็นกิจสำคัญขยันเถิด เป็นบ่อเกิดโภคาสถาผล
หมู่ทวยเทพเข้าป้องปกครองตน ทั่วทุกคนเป็นศรีดีนักแล

สิริข้อที่เจ็ด
เวลาสายเที่ยงวันท่านว่าไว้ ที่หัวใจนั้นหนาเป็นราศี
หรือน่าอกแยบยลมงคลดี โยคีศรีเนาว์อยู่คู่ทุกคน
จงอาบน้ำทาแป้งเจิมหน้าอก ทั้งทารกผู้ใหญ่จักได้ผล
เจิมหัวใจเบื้องซ้ายในกายตน เทพจักดลบันดาลประทานพร

สิริข้อที่แปด
เมื่อยามค่ำตำราท่านว่าไว้ ที่กลางใจแห่งเท้าศรีเข้าอยู่
หัวแม่เท้าอีกแห่งแจ้งคำครู ศรีเนาว์อยู่ประจำทุกค่ำคืน
ก่อนเข้านอนจงอาบน้ำชำระเท้า กิจนี้เราควรทำก่อนกิจอื่น
เทพาเฝ้ารักษาตลอดคืน จะยั่งยืนด้วยพรแปดประการ

สรุปพรแปดประการ
จบสุนทรคำกลอนพรลิขิต ไว้เตือนจิตญาติมิตรศิษย์ทั้งหลาย
อนุชนหนุ่มสาวเหล่าหญิงชาย ใครทำได้ศัตรูร้ายพ่ายแพ้ไป
แม้นใครคิดเป็นภัยดลใจรู้ ดุจดังผู้ร้ายนั้นมาขานไข
บอกเหตุการณ์ให้รู้หมู่มารภัย ด้วยเทพไทเข้ามารักษาตน

ถ้าผู้ใดไม่รักษาสิรินี้ เทพที่มีใจมารบันดาลผล
ให้อาภัยอัปลักษณ์ศักดิ์มงคล จะยากจนต่ำต้อยถอยลดลง
อันแม่นกจึงบอกลูกนกว่า จงรักษาสิริไว้อย่างไหลหลง
เทพท่านมารักษาอย่าพะวง จักดำรงมงคลไว้ได้มั่นคง
อันตนเราผู้ประพันธ์สรรกลอนนี้ จิตไมตรีอนุชนคนเบื้องหลัง
นำเบาราณของเก่าเล่าให้ฟัง คงดีบ้างมากน้อยค่อยวิจารณ์

ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๒ มกราคม ๒๕๕๒​

 

วัตถุรูเคารพสัญลักษณ์แทนครูที่ พระอาจารย์ได้แจกเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ที่ผ่านมาค่ะ



รูปออกจะเล็กไปหน่อยเพราะไปขอยืมรูปที่ท่านสมาชิกโพสเอาไว้
ไม่ได้ถ่ายเองค่ะงานนี้ ^^"

 

ภาพบรรยากาศแจกวัตถุรูปเคารพ ครบรอบ1ปี มนต์นัทธ์ วันที่ 27 ธันวาคม 2551
ที่หอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ห้องสมุดดนตรีทูลกระหม่อมสิรินธร ในบริเวณหอสมุดแห่งชาติ

โดยพ่อครูเมตตาให้นำหนังสือพระพิราพ กับ เหรียญวัตถุรูปเคารพ ให้เป็นที่ระลึกครับ

 

.

 

วัตถุมงคลรูปเคารพสัญญลักษณ์แทนครู ที่ได้รับแจกกันไปนั้น สวยงามมากครับ ใครได้ไว้ก็เก็บรักษาบูชาให้ดี จะเป็นสิริมงคลติดตัวตลอดไป