วัตถุมงคลครูบาคำเป็งอิทธิมหาพลังดูดบูชาร่วมสร้างวัดมะค่างาม(ไว้อาลัย อ.โคมฉาย#324)

ใครมีผ้ายันต์ลายมือหลวงปู่ สามารถนำผ้ายันต์มาแล้วชูขึ้นฟ้า อาราธณาบารมีคุณพระรัตนตรัยโดยมีบารมีรวมหลวงปู่เป็งเป็นที่สุด จงมาเป็นกำแพงแก้ว 7 ชั้น คุ้มครองปัดเป่าอุปัททวะทั้งหลาย(ชาติ,ศาสนา,พระมหากษัตริย์,โลก)ขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล

แล้ว เฮี่ยง 3 รอบ (จบพิธี)

 

หวะดี ครับผม พี่ตุ้ย กินแล้วได้สรรพคุณ ยังไง ครับผม

 

ขอโทษนะครับที่เข้ามาขัด ผมอ่านดูแล้วแปลกดีครับ คุณเป็นอะไรกับผ้ายันต์มากหรือเปล่าครับ หรือแค่มาโปรโมทผ้ายันต์

 

สวัสดีน้องวาตานาเบ้ผู้มีพระคุณอย่างสูง หายไปไหนนานคงสบายดีนะครับ คิดว่าลืมเพื่อนคนนี้ซะแล้ว

ผมหลังไมค์ไปให้แล้วครับลองไปอ่านดูจ้า

 

เปล่าครับเพียงแต่ผมมีเจตนาดีครับ เพียงแต่ผมแค่ค้นเจอครับและนำมาแค่บอกกล่าวครับเจตนาผมก่อนเขียนนะครับ
ส่วนเรื่องโปรโมทผมไม่ได้บังคับครับ แล้วแต่ศรัทธาครับ

และเจตนาดีของผมหลังเขียนคือ มีความรักและเคารพหลวงปู่ทั้งก่อนและหลังที่ลับและที่แจ้ง ผมมองเห็นทุกคนที่เคารพหลวงปู่คือครอบครัวเดียวกันครับ

ขอบคุณครับ

 

อนุโมทนา สาธุ กับ ทุกท่าน ขอรับ
มาสร้างบารมี สะสมบุญ ช่วยหลวงปู่สร้างวัดกันครับ

 

ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างเขื่อนกั้นน้ำ อาศรมสุขาวดี จ.กำแพงเพชร<!-- google_ad_section_end -->​

<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->
เนื่องจากสำนักสงฆ์มะค่างาม อาศรมสุขาวดี ซึ่งเป็นที่พำนักของครูบาคำเป็ง
ประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วมทุกปี น้ำที่ท่วมดังกล่าวเอ่อล้นขึ้นมาจาก
คลองลาน ที่อยู่หลังวัดบริเวณหลังวัดนี้ เป็นที่ตั้งของกุฎิสงฆ์
ติดกับลำคลอง คลองลาน สุดเขตวัดพอดี

หลวงปู่เคยดำริว่าหากมีการสร้างเขื่อนขึ้นมากั้นไม่ให้น้ำเอ่อล้นท่วมขึ้นมา
ก็จะเป็นการดี ทำให้พระสงฆ์อยู่อย่างไม่ลำบากและยังช่วยไม่ให้เกิดความเสียหาย
ต่อทรัพย์สินอาคารปลูกสร้างภายในสำนักสงฆ์แห่งนี้อีกด้วย

คณะศิษยานุศิษย์ได้ทราบความตามดำริดังกล่าวของหลวงปู่แล้ว
จึงใคร่ขอเรียนเชิญคณะผู้ศรัทธาในองค์หลวงปู่มาร่วมทำบุญสร้างเขื่อน
เพื่อประโยชน์ดังได้กล่าวมาแล้ว

ขอให้อานิสงค์แห่งการสร้างเขื่อนครั้งนี้จงเป็นพลวปัจจัย
เสริมส่งให้ทุกท่านที่ร่วมบุญมีความมั่นคงในชีวิต
มีทรัพย์สินพอกพูนเพิ่มเติมมากมายมหาศาลและปลอดภัยจากการเก็บรักษา
บริเวณที่อยู่ที่อาศัยปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายมีความเป็นอยู่อย่างสุขสมบูรณ์ในชีวิตโดยทั่วหน้ากันเทอญ


ร่วมทำบุญสร้างเขื่อนนี้ได้โดยการโอนเงินเข้าบัญชี
พระเป็งโชย ฐิตปัญโญ
ธนาคารกสิกรไทย สาขาแฉล้มนิมิตร ประดู่ 1
เลขที่บัญชี 729-2-41504-9
ออมทรัพย์

ขออนุโมทนา มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

เครดิตภาพ omoshiroi <!-- google_ad_section_end -->

 

ท่านใด มีพระเครื่อง ของ ครูบาคำเป็ง ที่ให้โชคลาถ ทางด้านค้าขาย บ้างครับ

กระผม อยากจะขอบูชา มาไว้กับตัวเพื่อเสริมเรื่องการค้าขายให้ดีขึ้น บ้าง เป็นองค์แรกที่อยากจะบูชามาคล้องคอไว้กับตัวครับ

รบกวนผู้ที่ใจดี ทิ้งข้อความไว้ด้วยครับ

 

ผมแนะนำนะครับ
1.นางกวัก
2.แม่เป๋อน้ำมัน
3.แม่อุมาหลังเจ้าแม่กวนอิม
4.ขุนแผนหลังขุนคำป้อ

หรือสนใจองค์ไหนดูได้ที่หน้า 509 ครับ

 

ผมขออนุญาติ มอบพระผงอมิตาภะ ให้กับ 2 ท่านที่ร่วมบุญกับหลวงปู่ในนี้นะครับ ให้โพสหลักฐานมาทาง pm และแจ้ง ชื่อ-นามสกุล,ที่อยู่

 

ไม่ทราบว่า องค์อื่นๆ จะเสริมดวงเรื่องโชคลาภการค้าขาย หรือเปล่า ครับ.
ที่เลือกมา เพราะผมคิดว่าสวยดี และอยากบูชา ช่วยตอบทีนะครับว่าคุณสมบัติเป็นอย่างไร

1.ยอดขุนพล เนื้อดินเผา
2.รูปหล่อลอยองค์ รุ่น2 2554
3.ขุนแผนหลังขุนคำป้อ
4.แม่อุมาหลังเจ้าแม่กวนอิม

และถ้าจะบูชา ต้องทำยังไงบ้าง

โอนไปทางไหน ผมเพิ่งเข้ามาไม่ค่อยรอบรู้เท่าไหร่ครับ

 

ผมจะลองไปขอหญ้าแฝกจากกรมพัฒนาที่ดินให้พวกเราไปปลูกริมตลิ่งดูครับ
- เพื่อป้องกันในชั้นแรก+กันดินทรุด คืบหน้ายังไง จะแจ้งให้ทราบ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
พิภพ

 

อนุโมทนาบุญทุกท่านครับ..ช่วยหลวงปู่สร้างวัด

 

อนุโมทนา สาธุ กับ ทุกท่าน ขอรับ
มาสร้างบารมี สะสมบุญ ช่วยหลวงปู่สร้างวัดกันครับ

 

ผม pm รายละเอียดไปให้แล้วนะครับ

 

อนุโมทนา สาธุ ครับ

 

ขอบคุณครับ สุดเขตถ้าได้ไปปลูกตอนกฐินได้ยินดีครับ

 

​

วันมาฆบูชา (บาลี: มาฆปูชา; อังกฤษ: Magha Puja) เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของชาวพุทธเถรวาทและวันหยุดราชการในประเทศไทย<SUP id=cite_ref-.E0.B8.A7.E0.B8.B1.E0.B8.99.E0.B8.AB.E0.B8.A2.E0.B8.B8.E0.B8.94.E0.B8.A1.E0.B8.B2.E0.B8.86.E0.B8.B0_0-0 class=reference>[1]</SUP> "มาฆบูชา" ย่อมาจาก "มาฆปูรณมีบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ ตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน 3 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย (มักอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคม) ถ้าในปีใดมีเดือน อธิกมาส คือมีเดือน 8 สองหน (ปีอธิกมาส) ก็เลื่อนไปทำในวันเพ็ญเดือน 3 หลัง (วันเพ็ญเดือน 4) <SUP id=cite_ref-1 class=reference>[2]</SUP>
วันมาฆบูชา ได้รับการยกย่องเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ท่ามกลางที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ พระสงฆ์สาวกที่มาประชุมพร้อมกันทั้ง 1,250 รูปนั้นได้มาประชุมกันยังวัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย, พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดต่างล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" หรือผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง, พระสงฆ์ทั้งหมดที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6, และวันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณมีดิถี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4<SUP id=cite_ref-.E0.B8.AA.E0.B8.B1.E0.B8.99.E0.B8.95.E0.B8.B4.E0.B9.80.E0.B8.81.E0.B8.99.E0.B8.B4.E0.B8.97.E0.B8.B2.E0.B8.99_.E0.B9.82.E0.B8.84.E0.B8.95.E0.B8.A1.E0.B8.9E.E0.B8.B8.E0.B8.97.E0.B8.98.E0.B8.A7.E0.B8.87.E0.B8.A8.E0.B9.8C_2-0 class=reference>[3]</SUP><SUP id=cite_ref-3 class=reference>[4]</SUP>
เดิมนั้นไม่มีการประกอบพิธีมาฆบูชาในประเทศพุทธเถรวาท จนมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระองค์ได้ทรงปรารภถึงเหตุการณ์ครั้งพุทธกาลในวันเพ็ญเดือน 3 ดังกล่าวว่า เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญยิ่ง ควรมีการประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาเพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความศรัทธาเลื่อมใส จึงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชกุศลมาฆบูชาขึ้น<SUP id=cite_ref-4 class=reference>[5]</SUP> โดยการประกอบพระราชพิธีคงคล้ายกับวันวิสาขบูชา คือมีการบำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ มีการพระราชทานจุดเทียนตามประทีปเป็นพุทธบูชาในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระอารามหลวงต่าง ๆ เป็นต้น โดยในช่วงแรกพิธีมาฆบูชาคงเป็นการพระราชพิธีภายใน ยังไม่แพร่หลายทั่วไป จนต่อมาความนิยมจัดพิธีมาฆบูชาจึงได้ขยายออกไปทั่วราชอาณาจักร
ปัจจุบันวันมาฆบูชาได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการในประเทศไทย<SUP id=cite_ref-.E0.B8.A7.E0.B8.B1.E0.B8.99.E0.B8.AB.E0.B8.A2.E0.B8.B8.E0.B8.94.E0.B8.A1.E0.B8.B2.E0.B8.86.E0.B8.B0_0-1 class=reference>[1]</SUP> โดยพุทธศาสนิกชนทั้งพระบรมวงศานุวงศ์<SUP id=cite_ref-5 class=reference>[6]</SUP> พระสงฆ์ และประชาชน จะมีการประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น การตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เป็นต้น เพื่อเป็นการบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว ที่ถือได้ว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์<SUP id=cite_ref-.E0.B8.97.E0.B8.B5..E0.B8.A1._.E0.B8.A1.E0.B8.AB.E0.B8.B2.E0.B8.9B.E0.B8.97.E0.B8.B2.E0.B8.99.E0.B8.AA.E0.B8.B9.E0.B8.95.E0.B8.A3_6-0 class=reference>[7]</SUP> ซึ่งกล่าวถึงหลักคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตของตนให้ผ่องใส เพื่อเป็นหลักปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั้งมวล
นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยได้ประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็น "วันกตัญญูแห่งชาติ" เนื่องจากปัจจุบันสังคมไทยวัยรุ่นสาวมักจะเสียตัวในวันวาเลนไทน์หลายหน่วยงานจึงพยายามรณรงค์ให้วันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรัก (อันบริสุทธิ์) แทน
สำหรับในปี พ.ศ. 2555 นี้ วันมาฆบูชาจะตรงกับ วันพุธที่ 7 มีนาคม ตามปฏิทินสุริยคติ

 

ความสำคัญ

"วันมาฆบูชา" เป็นวันที่ระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์แก่มหาสังฆสันนิบาตในมณฑลวัดเวฬุวันมหาวิหาร ซึ่งในวันนั้นมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 4 ประการคือ

1. พระสงฆ์ 1,250 รูปที่พระพุทธองค์ได้ส่งไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาตามแว่นแคว้นต่างๆ ได้กลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้าอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย
2. พระสงฆ์ทั้งหมดล้วนเป็นเอหิภิกขุที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ด้วยพระองค์เองทั้งสิ้น ซึ่งเรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา
3. พระสงฆ์ทั้งหมดล้วนเป็นพระอรหันต์ คือผู้ได้อภิญญา 6 ข้อ
4. วันที่พระสงฆ์ทั้งหมดมาชุมนุมกันนี้ตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3)

ด้วยเหตุการณ์ประจวบกับ 4 อย่าง จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า จาตุรงคสันนิบาต (มาจากศัพท์บาลี จตุ+องฺค+สนฺนิปาต แปลว่า การประชุมอันประกอบด้วยองค์ประกอบทั้งสี่ประการ) โดยประชุมกัน ณ วัดเวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ หลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว 9 เดือน (45 ปี ก่อนพุทธศักราช)

 

อนุโมทนา สาธุ กับ ทุกท่าน ขอรับ
มาสร้างบารมี สะสมบุญ ช่วยหลวงปู่สร้างวัดกันครับ __________________