ลักษณะ ความรู้ขั้นโลกุตระ..ที่ควรสังเกตุ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย ปราบเทวดา, 8 ธันวาคม 2020.

  1. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430
    ที่ยกมาให้อ่านก็เพื่อจะบอกว่า สิ่งที่ท่านแนะนำผมก็ทำผ่านไปแล้วท่าน และเป็นทางที่ถูก ไม่สำคัญว่ากิเลสจะย้อมจิตหรือไม่ท่าน ทีจริงท่านเห็นวิถีในที่ผมยกมา น่าจะรู้นะท่านว่าตรงทางไหม? ส่วนผลก็เป็นอีกเรื่อง แล้วแต่คนกันไปท่าน... เพราะผมเห็นเมนหลักที่ท่านบอกมา "อาศัยความตั้งมั่นของจิตเพื่อเห็นสภาวะธรรม" แค่นั้นก็รู้ว่าท่านอยู่ในทางที่ถูก ก็แยกย้ายกันเดินต่อไปท่าน
     
  2. I sea you

    I sea you Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2020
    โพสต์:
    639
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,115
    คุณซีโร่ใช้วิธีกระจายผัสสะตัดภพชาติในจิตยังไงคะ ปวีอ่านมาแต่แรกยังไม่เก็ตเลย

    ปกติตามที่พระท่านมักจะสอนกัน คือสุขทุกข์ให้รู้เฉยๆ ใช่มั้ยคะ คือทำจิตให้อยู่เหนือลม (ลมคืออารมณ์กระทบนี่นั่นต่างๆ รู้ผ่าน รู้ผ่าน)

    วิธีออกจากสังสารวัฎคือใช้ วิปัสสนา รู้เฉยๆ อย่างเดียว ปุถุชนไปจนถึงอรหันต์ใช้วิธีนี้ทั้งนั้น เพราะจุดเริ่มต้นกับจุดสิ้นสุดเส้นเดียวกัน แต่พลังสติจากจุดเริ่มต้นต่างจากจุดสิ้นสุด

    ที่ปวีอ่านคนในนี้ ปกติจะมัวไปปกป้องสิ่งที่ถูกรู้(เจตสิก อารมณ์สุขทุกข์นี่นั่น) มากกว่าจะปกป้องผู้รู้ (การทำจิตให้รู้ซื่อๆ)

    ภาษาบ้านๆ อนุมาน จิตคือปลา
    ชาน ยาน ทุกๆ สภาวะ คือแหจับปลา

    มัวแต่ไปห่วงอุปกรณ์(อารมณ์ที่ถูกจิตรู้) แทนที่จะปกป้องปลา (จิตผู้รู้)
     
  3. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    อย่างนี้ครับ วิธีกระจายรูปนาม กระจายธาตุอะไรนี่ก็ดีอยู่ครับ มองในแง่การใช้เหตุใช้ผลมาช่วย (หรือจะว่าการทำจิตมาช่วยก็แล้วแต่) ก็คือเอาเหตุผลที่ดีกว่าเข้ามาหักล้างความเชื่อเดิมก็มีแค่นั้นเอง ได้ทัศนคติมุมมองใหม่ที่แจ่มกว่า ทีนี้ถ้ามองว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งในการอบรมจิต ช่วยสร้างสุขภาวะสัปปายะความพร้อมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจก็ว่ากันไป ยังไงก็ดี

    ถ้าทำแล้วช่วยให้จิตอยู่ในภาวะที่ปลอดโปร่งปลอดความกังวลได้บ้างชั่วคราว เป็นจิตปกติ เป็นกลาง ทำบ่อยๆเอา อีกหน่อยเมื่อกำลังสติทางธรรมมีพอ จะเฉลียวใจได้แยกได้เองว่า เวลาจิตหลงความคิดกับตอนจิตปกติไม่หลงอินความคิดมันต่างกันขนาดไหน ตอนนั้นแหละจะเริ่มเห็นทุกข์เห็นโทษของการหลงความคิด หลงสังขาร นี่ยังแค่เริ่มๆเองนะ ยังไม่ได้ขยับไปไหนไกลเลยด้วยซ้ำงานนี้ไม่ใช่มีหยวนๆเอา ทุกอย่างต้องค่อยๆเคลียร์ไปเรื่อยๆ กว่าจิตจะคลาย จนถึงขั้นที่มันดับทุกข์ได้ด้วยตัวมันเองนะครับ
     
  4. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430
    การตัดภพชาติ ผมตัดลงตั้งแต่การรับกระทบสัมผัส จะเกิดเวทนาหลังผัสสะ ตัดตรงนี้ท่าน... ตัวอย่าง ท่านปวีเดินไปตลาด เห็นรองเท้าสวยๆ มันเกิดความพอใจ ชอบใจ ก็ตัดออก ณ ตอนนั้น เมื่อตัดออก สิ่งที่ตามมาคือ ตัณหาความอยากได้รองเท้า การยึดมาเป็นของตัว การหวงแหนไว้หลังจากนั้น ก็ไม่เกิดท่าน นี้เป็นเวทนาหลังผัสสะท่าน...

    แต่การกระจายผัสสะคือการ เห็นโลกสักว่าเห็น แค่ตากระทบรูป ธาตุกระทบธาตุ ธรรมชาติหนึ่งกระทบธรรมชาติหนึ่ง ตัดลงที่ต้นทาง...ตัดลงที่เหตุแห่งทุกข์.... ส่วนมรรควิธีที่ทำกัน คือ การตามเห็น สภาวะที่เกิดไปขึ้น จนเข้าใจความจริง ว่าทุกอย่างทุก สรรพสิ่ง มีสภาพเดียวกันจนจิต มันไม่เอา ไม่เห็นเป็นของดี เลยพ้นไปท่าน
     
  5. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430
    สิ่งนี้คือต้นทางของทุกข์เลยท่าน ถ้าเห็นวงจรปฎิจ ท่านจะทราบ ทุกขณะจิตหมุนวนสร้างภพในจิตไม่หยุด การตัดวงจรปฏิจในจิต คือการตัดภพชาติ เลยท่าน
     
  6. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    พวกเครื่องมือนี้ถ้าใช้ให้เป็นประโยชน์ก็ดีอยู่ ถ้าไปติดเครื่องมือ พวกนี้จะกลายเป็นตัวหลอกทันที เพราะสาระจริงๆคือให้จิตได้เรียนรู้ความจริงด้วยตัวจิตเอง เราอาจจำต้องแทรกแซงในกรณีที่กำลังสติปัญญายังไม่พอ เห็นท่าจะเอาไม่อยู่ หรือเป็นการไม่ประมาทก็แค่นั้นเอง เครื่องมือเหล่านี้เป็นแค่ตัวช่วย แต่ถ้าหลงเครื่องมือจากตัวช่วยจะกลายเป็นตัวหลอก

    ดังนั้นผมว่าอยู่ที่การรู้จักเอาไปใช้ ถ้าใช้เครื่องมือแบบหลงๆ มันก็คือสีลพตปรามาส ถ้าใช้อย่างรู้เหตุรู้ผล มันก็คืออิทธิบาท อย่าลืมนะครับ พระอรหันต์ท่านอาจอยู่ได้เป็นกัปล์ถ้าท่านอยู่ด้วยอิทธิบาท อ้าว! จะอยู่ทำไม ขันธ์ 5 ไม่ใช่เรา ไม่ควรยึดไม่ใช่หรือ! ก็แปลว่าถ้าใช้เพื่อยังประโยชน์ รู้เหตุรู้ผลที่จะใช้เพื่ออะไร ไม่ได้ใช้อย่างหลงเครื่องมือก็ย่อมจะใช้ได้นะครับ
     
  7. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430
    การมีสติระลึกรู้ว่า จิตหลง จิตคิด คือการที่จิตสร้างภพไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้บอกนะท่านว่าทางนั้นผิด
     
  8. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430
    ถ้าแยบคาย ท่านจะเห็นประโยชน์ของเครื่องมือนี้ท่าน เหตุและผลบอกอธิบายครบ อาจะเพราะท่านมองไม่ออก ว่าอะไรคือเหตุของทุกข์ ถ้าเข้าใจจะรู้เลยว่านี้ล่ะการดับทุกข์ที่เหตุท่าน
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ตัดตั้งแต่มันจะคิดว่าเป็นธาตุเป็นอะไรนั่นแหละครับ ครูบาอาจารย์บางท่านเรียก หยุดคิด บางท่านเรียก ดับความคิดเสียตั้งแต่เนิ่นๆครับ จนจิตมันนิ่งขึ้นถึงค่อยรู้ตามความเป็นจริง ใหม่ๆต้องรู้จักทวนกระแสไปก่อน เปลี่ยนนิสัยความเคยชินเดิมๆก่อน พอมันนิ่งขึ้นค่อยตามรู้ตามดูเห็นความจริงได้ง่ายขึ้น เห็นความต่างระหว่างตอนจิตปกติแล้วคิด กับจิตไม่ปกติแล้วคิด ถึงจะได้เครื่องมือว่า เวลาไหนควรคิดไม่ควรคิด ถ้าคิดแล้วจิตเกิดไม่ปกติก็ดับก็ควบคุมเอาไว้ก่อนอีก แบบนี้ถึงจะได้กำลังสติเพิ่มขึ้นไป ต่อไปก็จะค่อยๆเฉลียวใจได้มากขึ้น ตัวเฉลียวใจได้นี่คือสติทางธรรม ก็จะเป็นเครื่องมือต่อไปอีกที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2020
  10. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    รู้ว่าจิตหลงรู้ว่าจิตคิด
    ไม่ใช่การสร้างภพคับคุณสองศูนย์
    รู้ว่าจิตหลงรู้ว่าจิตคิดคือการเข้าสู่รู้แจ้งเห็นจริงคับ
    คืออยู่ในช่วงจะตัดภพก็ได้จะสร้างภพก็ได้
    ปราถนาหลุดพ้นก็ตัดภพ
    ปราถนาพุทธภูมิก็สร้างภพ
    ดูที่ใครปราถนาอะไรคับ
     
  11. I sea you

    I sea you Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2020
    โพสต์:
    639
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,115
    ก็คือ ทำจิตรู้ซื่อๆ เฉยๆ สักแต่ว่าเห็น แบบปวีบอก
    ถ้าไม่ทำแบบนี้ คือสร้างความว่างเข้าไปในจิต(วิชชา) ตัวปัญญาจะไม่ทำงานเลย เพราะสติต้องเข้าไปสัมปยุตกับความว่าง (ว่างจากโลภ โกรธ หลง) ปัญญาถึงจะทำงาน ทำมากรู้มาก ทำน้อยรู้น้อย
     
  12. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    คุณปวีร์กล่าวก็ตรงอยู่ สักเกตเลย มันจะไปที่จุดนัดพบเดียวกัน ที่ป.ปราบเขาโพสต์คำสอนของ ลป.พ.เรื่องสมถะหรือวิปัสสนาเป็นเพียงเครื่องมือนั่นแหละครับ ผมว่าเรื่องเดียวกันเลย
     
  13. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    พวกเจริญอสุภะก็ใช่ สัญญา10.. ทั้งหมดจะลงไปสู่จุดเดียวกัน จุดนัดพบ ที่เริ่มต่างกันเพราะจริต อนุสัย วิบากแตกต่างกันไป ถ้าใครจับหลักได้ ก็จะเห็นว่าเป็นมรรคเป็นเส้นทางสายเดียวกัน ที่สุดต้องปล่อยจิตเห็นความจริงด้วยตัวจิตเอง ถ้าเราไม่รู้ไม่เข้าใจ แล้วเราไปแทรกแซงก็เท่ากับว่าเราหลงเอาความมีทิฏฐิแบบสักกายทิฏฐิเข้าไปจัดการ
     
  14. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430
    *อันนี้เฉพาะผมนะท่าน
    ไม่ใช่การตัดก่อนการเห็น ไม่ใช่การหยุดคิด ไม่ใช่การเลี่ยงผัสสะ... แต่ตากระทบรูป แล้ว "เห็น"เป็นธรรมชาติหนึ่ง
    *สิ่งที่ผมเห็นเองตรงนั้นละไว้ท่าน

    *สำหรับท่านอื่น
    ตากระทบรูป แล้ว "คิดนึก"หรือ "ปรุงแต่ง"มองเห็นว่ามันเป็นแค่ธาตุ

    ผมจะยกให้เห็นประโยชน์ในมรรควิธีนี้ แม้แต่ของท่านอื่นที่ใช้คิดปรุงแต่งนำ ว่าผัสสะกระทบนี้แค่ธาตุหนึ่ง แล้วเห็นตามจริงว่านี้แค่ธาตุหนึ่ง

    เปรียบเหมือนคนที่รู้เรื่องอยู่ เห็นอยู่ ประจักษ์อยู่ แต่ไม่เข้าไปในเนื้อเรื่อง

    เหมือนดังการได้ข่าวคนตาย ได้ยินเสียงด้วยหู เห็นด้วยตา แล้วใจไม่ทุกข์ เพราะไม่ใช่ ญาติเรา หรือลูกเราตาย

    เมื่อไม่ก่อตัวตน ก็ไม่มีตัวตนขึ้นมารับ ขึ้นมาทุกข์ ... กระบวนการนี้จึงไม่มีใคร ไม่มีแม้ผู้เข้าไปรู้เข้าไปเห็นความจริงด้วยซ้ำไปท่าน.... ถ้าธรรมนี้สุดที่การสิ้นทุกข์ไม่ก่อตัวตน มรรควิธีนี้ก็พิสูจน์ผลได้ที่ปัจจุบันขณะเลยท่าน
     
  15. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430
    อย่างนี้ท่าน เมื่อเราคิด มันไม่ใช่จิตจะเกิดขณะเดียว... แล้วตามระลึกได้ทัน... แต่คิดจนเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว จึงตามระลึกทัน

    ตัวอย่างท่าน.. เมื่อเราคิดถึงลูก คิดว่าตอนนี้ลูกเป็นอย่างไร ลูกทำอะไรอยู่.. แล้วมีสติ ระลึกได้ว่า คิดเกิด...

    สภาวะธรรมภายในได้ก่อตัวตน มีลูก มีเรา มีเราคิดถึงลูก ภพ ชาติแห่งจิตเกิดขึ้นแล้ว...เราแค่อาศัยตามระลึก แบบนี้ท่าน
    .
     
  16. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430
    เมื่อเห็น ได้ยิน เป็นแค่ธาตุได้ เป็นธรรมชาติหนึ่งได้ ไม่ไปหยิบฉวยมันขึ้นมาเป็นตัวตน ไม่มีผู้รู้ ไม่มีสิ่งถูกรู้... ไม่มีผู้รู้ความว่าง ว่างก็ไม่หยิบฉวยขึ้นมา ทิ้งลงไปตั้งแต่เห็นเป็นธรรมชาติหนึ่งแล้ว ถ้าเปรียบอาจจะไม่ใช่ความว่างท่าน... แต่สภาวะนี้อาจนับเป็นนิพพานเป็นขณะๆเลยท่าน

    ถึงได้กล่าวว่าแม้ การทำที่ยังมีผู้รู้ สิ่งถูกรู้อยู่ แล้วอาศัยความตั้งมั่นเห็นความจริงตามสภาวะนั้น ก็เป็นทางที่ถูกท่าน แต่ทางนี้การกระจายผัสสะก็เป็นทาง ให้สิ้นทุกข์ พ้นอุปทานได้ไม่ต่างกันท่าน อยู่ที่จะแยบคายว่าใครจะมองเห็นมันไหม? มรรควิธีมันหลากหลาย แค่เลือกว่าอันไหนเดินสะดวกสำหรับเราท่าน
     
  17. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    เห็นการก่อตัวของอุปทานเหรอครับ
     
  18. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430
    เห็นวงจรท่านดีเจ
     
  19. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    จะสำรวมอินทรีย์ได้เป็นการยากสำหรับชาวบ้านละเนาะต้องเจอทุกสภาวะเลย
     
  20. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430
    การจะเห็นของที่อยู่ตรงหน้าเป็นแค่ธาตุ ต้องใช้กำลังจิต กำลังสติ พอสมควรท่าน เพราะผัสสะมันกระทบตลอด
     

แชร์หน้านี้

Loading...