ลักษณะที่เกิดเวลาสวดมนต์และนั่งสมาธิ

ตอนนี้อากาศเป็นพิษกำลังจะถูกปล่อยจากข้างบนลงมาแล้วและกำลังกดต่ำลง

จะทำให้สัตว์และมนุษย์มีความเฉื่อยชามากขึ้น คนจะหลับในโดยไม่รู้ตัวมากขึ้น

ต่อไปอุบัติเหตุในท้องถนนจะมากขึ้นและชนกันทีละหลายๆ คัน หลังจากนั้นสัตว์ที่อยู่บนอากาศจะตายก่อนเพราะอากาศพิษเหล่านี้

สำหรับการ แก้ไขในจุดนี้เราใช้การกินอาหารจำพวกแป้ง..กินมันและเผือกจะทำให้ร่างกายชุ่มฉ่ำ ชุ่มชื้น และตื่น..ไม่หลับ

เมื่อรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก รู้สึกหนักที่จิตมาก รู้สึกมึนศีรษะอย่างแรง ใช้น้ำเปล่า ราดรดหัวและหน้าทั้งตัว

พร้อมดื่มกินเข้าไปด้วยเพราะ น้ำเปล่าที่บริสุทธิ์จะเข้าไปชำระล้างพิษที่

เกาะนอกกายและในกายแล้วให้เราขับออกมาทางรูขุมขนหรือผายลม อาการที่เกิดขึ้นนั้นหายทันที

เมื่อได้กลิ่นอะไรประหลาดๆ ให้นอนหลับเมื่อนอนหลับจะไม่หายใจทางจมูก

แต่หายใจทางผิวหนังแทน...ที่หลวง ปู่พุทธะอิสระสอนให้ฝึกหายใจ ทางผิวหนัง..

ในช่วงที่แกนโลก พลิก 3 วันแรกหลับแบบกบจำศีลก่อนตื่น (หายใจทางผิวหนัง)

สรุปว่าท่านทั้งหลายควรฝึกการหายใจให้ถูกต้องเพื่อรับกับสภาพมิติใหม่ที่จะเกิด

คนที่เป็นส่วนมากเก็บกด คิดมาก ฟุ้งซ่าน งานเยอะ พลังงานในตัวลบเยอะ

พลังในสมองมากเกินกว่าพลังร่างกายที่ใช้ออกไป

ต้องรู้จักหาวิธีระบายเช่นออกกำลังกายหนักๆ เดินบนหญ้า ร่างกายจะได้เบาขึ้น

ถ้าคนที่พลังบวกในตัวมากกว่า ได้อยู่ในสิ่งเเวดล้อมธรรมชาติมากกว่า

โดยเฉพาะอยู่ใกล้กับเด็กๆ จะไม่ค่อยเป็นอะไร เพราะคลื่นความถี่บริสุทธิ์

เสียงเพลง เสียงธรรมะ เสียงธรรมชาติ เสียงอะไรก็ได้ที่ทำให้เรารู้สึกดี คือ การปรับคลื่นความถี่ในสมองค่ะ

เนื่องจากภายในตัวเรา ตัวตนที่เเท้จริง คือ พลังงานคลื่นความถี่ (ความคิดต่างๆ,จิตวิญญาณ)

เมื่อรวมกันมากๆเป็น มวลเเสง เพราะฉะนั้น

การจะปรับให้คลื่นเท่ากับความถี่ปัจจุบันของเเม่เหล็กโลกต้องใช้เสียงปรับค่ะ

ถ้าปวดหัวเมื่อไร ให้เปิดเพลงใส่หูฟังค่ะ

เพราะเสียง คือ คลื่นความถี่ที่ซ่อมเเซม DNA ของเราได้ดีที่สุดค่ะ

เพิ่มเติมจากคุณ ชยุต กระทู้:การเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมและซ่อมแซม DNA ด้วยคลื่นเสียง - PaLungJit.com

 

หนูเพิ่งเป็นเมื่อกี๊ค่ะ ขนลุกแขน ตัวร้อนวาบๆ ทั้งๆที่สวด คำบูชาพระ ถึงศีล5 เพิ่งขมาพระรัตนตรัยเองค่ะ เลยกลัว ทีแรกจะสวดบทแผ่เมตตาใหญ่ ตั้งใจตั้งแต่ดึกแล้ว พอเปิดหนังสือ บทสั้นเลย จะสวดพระคาถาชินบัญชร เกิดอาการ กลืนน้ำลายไม่ได้ ปากหนัก ขยับเกือบไม่ได้
เลยตั้งสติ สวดไปทีละคำ พอสวดได้ระยะหนึ่ง ก็กลืนน้ำลายได้ปกติ ทุกอย่างปกติ
เลยกลัว เพราะสาเหตุอะไรคะ ตอนนี้ยังหวิวไ อยู่เลย หนูกลัวค่ะ

 

สวัสดีค่ะ เพิ่งเข้ากระทู้นี้เป็นครั้งแรกค่ะ ปกติก็สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนค่ะ แล้วก็นั่งสมาธินิดหน่อยค่ะ ปกติก็จะสวดพระคาถาชินบัญชร ธรรมจักรกัปวัตนสูตร และคาถายอดพระไตรปิฎกค่ะ แต่พอเวลาสวดธรรมจักรกัปวัตนสูตร จะเกิดอาการปิติมาก ร้องไห้น้ำตาไหล แบบสุด ๆ ค่ะ เป็นมาหลายครั้งแล้วค่ะ ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยค่ะ

 

สวดมนต์เเล้วเกิดอาการเเปลกๆ

<iframe title="YouTube video player" width="640" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/HOt6R6RSvus" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
​

 

ขอบคุณมากค่ะ ผู้ตอบสวยด้วย เมื่อคืนนึกว่าจะโดนอำตอนมีสติเสียแล้ว
นึกว่า เขามารอบทเมตตาใหญ่ หรือบทยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกเเสียอีก
เลยไม่อยากให้ท่องพระคาถาชินบัญชร
ตอนสวดเลยนึกว่า ไม่ได้ไล่นะ มารับบุญด้วยกัน แล้วค่อยๆฝืนสวด

ขอบคุณมากค่ะ ดูไปยิ้มไปกับคนผู้ตอบด้วยเลย

 

มารายงานผลการสวดมนต์ค่ัะ สวดจบเมื่อกี๊
สวด คำบูชาพระ คำนมัสการพระรัตนตรัย คำอาราธนาศีล5
คำนมัสการพระพุทธเจ้า ไตรสรนคมณ์ ศีล5
คำขอขมาพระรัตนตรัย

นี่คือปกติค่ะ

วันนี้ มีบทยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
ตามด้วย พุทธชัยมงคลคาถา
ชะยะปริตตัง
คาถาชินบัญชร
แผ่เมตตาตัวเอง
แผ่เมตตาผู้อื่น
สวดแล้ว
จะมาเล่าเหตุการณ์โพสต์ภชถัดไปค่ะ

 

คือว่า วันนี้ตัดสินใจสวดพระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกก่อน เพราะเมื่อวาน ว่าจะสวดแต่ที่บอก ไม่ได้สวดเมตตาใหญ่ด้วย มาสวดคาถาพระชินบัญชรแทน
ปรากฎว่า เหมือน หนูคิดว่าใช่ แต่ไม่พยายามตกใจ ได้ยินเสียงซ้อนลักษณะกระซิบ แต่มาจากปากเรานี่แหละค่ะ เสียงเรานี่แหละ แต่ แผ่ว สวดก่อนเราบ้าง หลังเราบ้าง จับคำไม่ได้บ้าง จับได้บ้าง คิดในใจว่า ห้ามทำให้ตกใจ เลยมาๆหาย
ตอนแรกเสียงมาจากปาก บางทีเลื่อนไปที่ใบหู ข้างขวา พอไกล้จบ เสียงมากปากข้างซ้าย ลักษณะซ้อนมาเบา ฟังไม่ค่อยออกค่ะ ตามที่คุณสันโดษได้เตือนไปก็เลยตั้งใจว่าจะสวดไปเรื่อยๆไม่ตกใจค่ะ ขนลุกบ้าง อาการคือ จะวูบๆ ไม่เชิงขนลุกทีเดียวค่ะ ก็มี ที่หน้าผาก แขน2ข้าง
ข้างท้ายทอย2ข้าง เหนือศีรษะค่ะ อาจเพราะอากาศก็ได้

จากนั้นมาสวดคาถาชินบัญชร ไม่เข้าใจ อาการเดิมเกิด
แต่ไม่แรงเท่าเมื่อวาน เหมือนไม่อยากขยับปากเฉยๆ กลืนน้ำลายไม่คล่องแล้ว
บทที่5 อึกแรกก็ลำบากแล้วค่ะ เลยหยุดชะงัก ดูตัวเอง แล้วกลืนน้ำลายใหม่ แต่สุดท้าย ลองกลืนที่บทที่11 กลับลื่นเป็นปกติ
ตอนนี้ไม่มีเสียงซ้อนแต่อย่างใด

ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เพิ่งเป็นวันนี้และเมื่อวานค่ะ
ปกติแล้ว จะท่องคาถาชินบัญชรเป็นประจำกว่าด้วย บางทีก็ท่องคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกต่อแบบไม่มีปัญาเลยค่ะ
หรือเป็นเพราะเริ่มท่องคาถาธัมมะจักรกัปปะวัตนะสูตร เมื่อ2วันที่แล้วรึเปล่าคะ
เพราะจุดสังเกตมีแค่นี้ กับอีกจุดคือ เมื่อว่าจะสวดเมตตาใหญ่ คิดไว้แต่ไม่ได้สวด

อาจมีอะไรที่ทำผิดก็ได้ อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์
รบกวนไขข้อข้องใจด้วยนะคะ

 

ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะคุณสันโดษสำหรับคำแนะนำในทุก ๆ ด้าน จะตั้งใจปฏิบัติต่อไปค่ะ

 

ขอท่านผู้รู้ช่วยเหลือด่วนครับ

แม่ของกะผมสวดมนต์และนั่งสมาธิเป็นประจำผ่านมาประมาณปีกว่าๆ แล้วพอสองเดือนที่ผ่านมาแม่บอกกับผมว่าแม่สามารถสื่อกับสิ่งศักดิ์ได้ แล้วพอถึงประมาณต้นเดือมกุมพาปี2554นี้ นะครับแม่ผมก็บอกว่ามีพระมาสอนจิตแม่ให้นั่งสมาธิในขั้นต่อๆไป(พระที่มาสอนนั้นรู้จักกันครับ) แล้วที่นี้สิ่งที่สอนแม่ของกะผมในจิต ก็มาบอกว่าให้แม่ของกะผมนั่งสมาธิต่อสู้กับผีตายโหง ช่วงนี้แม่ของกะผมเวลานอนก็นอนนานมากๆปลุกก็ไม่ตื่น นั่งสมาธิก็เรียกไปได้ยิน รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรจะเข้ามาสิงร่างแม่ผม แล้วต่อมาผมก็โทรหาพระรูปนั้นพระก็บอกว่าแม่ของกะผมนั่งสมาธิผิดวิธีให้แม่เลิกนั่ง แล้วผมก็ไปบอกกับแม่กะผม แม่ก็ไม่เชื่อ ผีที่อยู่ในตัวแม่ของกะผมบอกว่าเค้าจะเอาแม่ไปเป็นร่างทรง เค้าต้องให้แม่ผมนั่งสมาธิทั้งวันทั้งคืน แล้วสิ่งที่ผีตนนั้นมันเข้ามาสิงร่างแม่ผมสิ่งทีค่พูดออกมาเป็นสิ่งที่แม่ผมรู้แล้วทั้งนั้น และผีนั้นก็โกหกอีกด้วยแต่พอผ่านไปสักสามวันแม่ก็เริ่มฟังผม แล้วแม่ก็ไม่นั่งสมาธิอีกเลย สวดมนต์อย่างเดียว(ผีตนนั้นที่อยู่ในแม่เค้าไม่ให้แม่ผมสวดมนต์) แม่บอกกับผมว่าตอนนี้แม่ดีขึ้นแล้ว แต่เวลานอนเท่านั้นแหละพอนอนหลับไปแมบอกว่าไม่รู้ใครพาจิตแม่ออกไปไหน แม่บอกกับผมว่าแม่ไม่มีความสูขเลย สุดท้ายผมขอให้ท่านผู้ช่วยแม่ผมด้วยนะครับ ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะหายเป็นปกติเหมือนเดิม ผมอยากจะพาแม่ไปรักษาช่วยแน่นำด้วยนะครับว่าที่ไหนดี (ขอให้คุณสันโดดและท่านผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำหน๋อยนะครับ)

 

เเม่ผมโดนผีสิง

<iframe title="YouTube video player" width="640" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/2MPT0FTyFj0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
​

 

ผมขอขอบคุณมากเลยนะครับ พี่สันโดษที่ได้ให้คำแนะนำ กระผมขอรบกวนถามอีกนิดนึงนะครับ คือว่า ตอนนี้จะต้องให้แม่ผมฝึกนั่งสมาธิต่อไปอีกได้ไหมครับ เพราะตอนนี้แม่ผมมีอาการกลัวมากๆเลยครับ แล้วมีวิธีอย่างไรบ้างครับที่พอจะให้แม่ของผมกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

 

การสวดขอขมา เพื่อลดและปลดหนี้กรรม ให้น้อยลง

การสวดขอขมา เพื่อลดและปลดหนี้กรรม ให้น้อยลง
คนเราเกิดมา หลายภพชาติ ต่างมีเจ้ากรรมนายเวรต่างกัน
การสวดขอขมา เพื่อลดและปลดหนี้กรรม ให้น้อยลง
อธิษฐานหน้าพระ พุทธรูป หรือสวดก่อนนอน
( นะโม 3 จบ )

" สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม เทอญ …
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต "

หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์
พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า
ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร
จะด้วย กายวาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุญาตมีคู่มีครอบครัว
ได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐานคำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต
ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน
ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูกที่ชอบที่ควร
ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง
จงเจริญด้วย อายุวรรณะ สุ ขะ พละลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ
อุปสรรคใดๆโรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่าง ทั้งทางโลก ทางธรรม
ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม
ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร
ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม เทอญ …

ขอผู้ได้รับใบคำขอขมาและอธิษฐานจิตนี้ กรุณาส่งให้ผู้อื่นต่อ
(เพื่อสร้างผลบุญบารมีต่อไป)

การสวดขอขมา เพื่อลดและปลดหนี้กรรม ให้น้อยลง | จอมยุทธ - Planet <!-- content add -->

 

​

<table style="padding: 0px 3px; table-layout: fixed;" width="100%" cellpadding="5" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="100%" height="100%" valign="top">คำแผ่เมตตาและขออโหสิกรรมแบบสายอริยะ

คำขออโหสิกรรม...อธิษฐานบารมี​

กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓ กรรมดีอันใดเป็นบุญกุศล ที่ข้าพเจ้าได้​

สร้างสม อบรมมา ด้วย กาย วาจา ใจ ณ ปัจจุบันชาตินี้ก็ดี ในอดีตชาติก็ดี ขอแผ่ให้แก่​

สรรพสัตว์ทั้งหลายที่มีชีวิต มีจิตมีวิญญาณ มีขันธสันดาร มีการกระทำ มีวิบากแห่งกรรม ​

มีเจ้ากรรมนายเวร เจ้าการบัญชี จตุโลกบาลทั้ง ๔ ท่านยมบาล มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖ ชั้น พรหม ๒๐ ชั้น อบายภูมิ ๔​

บัดนี้ข้าพเจ้าได้สร้างกองการกุศล ผลทาน ผลศีล ผลภาวนา ผลแผ่เมตตา ​

ขอแผ่ให้แก่ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้ กระทำกรรมไว้ ต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ​

รู้ก็ดี ไม่รู้ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ​

จงโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป​

เกิดชาติหนึ่งภพใด ขอให้ได้สร้างแต่กรรมดี สร้างบารมีแห่งตน ​

ขอให้พ้น ภัยพาล ลุล่วงบ่วงมาร ได้ถึงซึ่ง มรรค ๔ ผล ๔ พระนิพพาน ๑ ​

ในปัจจุบันชาตินี้.........ด้วยเทอญ​

คำแผ่เมตตาแบบอริยะ​

พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง ​

ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้า​

ที่สำเร็จไปแล้วมากกว่า เม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้ง ๔ ​

ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สำเร็จไปแล้ว ทั่วอนันตจักรวาล ​

ด้วย พุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆบารมี ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีของ​

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมเด็จพระพุทธกุกกุสันโธ สมเด็จพระพุทธโกนาคม ​

สมเด็จพระพุทธกัสสปะ สมเด็จพระพุทธมหาสมณโคดม สมเด็จพระศรีอริยะเมตตรัย​

ด้วยพุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆบารมี ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี ​

พระปัจเจกโพธิ์ พระอรหันตเจ้า พระอิติโพธิสัตว์ พระอริยะสงฆ์ พระอริยะสาวก พระสุปฏิปันโน ทุก ๆ พระองค์ ​

อันมี.........หลวงพ่อพระสีวลี หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด สมเด็จพุฒาจารย์โต หลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า ​

ท่านเจ้าคุณนรฯ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ปานวัดบางนมโค หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ​

หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นต้น ​

อีกทั้ง พระแม่กวนอิม และ มหาโพธิสัตว์ทั้งหลาย..........​

จงมาช่วย เปิดทิศ เปิดทาง เปิดแสงสว่าง เปิดบารมี ​

ที่ข้าพเจ้าได้สร้างสม อบรมมาตั้งแต่อดีตชาติ...........จนถึงปัจจุบันชาตินี้​

เพื่อตั้งจิตอุทิศถวายแก่เทพ แก่พรหม มหาเทพมหาพรหม อริยะเทพ อริยะพรหม ​

ทุกชั้น ทุกสวรรค์ ทุกตำแหน่ง ทุกวิมาน ที่ได้มา ร่วมอนุโมทนา ฟังธรรมสาธยายมนต์ บำเพ็ญกุศลจิต ​

ขอให้พุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆบารมี ที่ข้าพเจ้าได้ อาราธนามานี้ ​

จงมีผลสำเร็จแก่ท่านทั้งหลาย........ ด้วยเทอญ​

ด้วย พุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆบารมี ที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา ​

เพื่อให้ รู้แจ้ง เห็นจริง ในพระไตรลักษณ์ ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีทั้งหลาย เพื่อตั้งจิตอุทิศถวายให้แก่ ​

คุณมารดาบิดา ครูบาอาจารย์ ญาติสนิทมิตรสหายสายบุญทั้งหลาย และบุตรบริวารในสายเลือดสายโลหิตของข้าพเจ้า ​

จงมีส่วนร่วมใน พุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆบารมี ในบุญบารมี ​

ที่ข้าพเจ้าได้อาราธนามานี้.........ด้วยเทอญ​

ด้วย พุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆบารมี ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีที่ข้าพเจ้าได้สร้างบุญ ​

สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างทานบารมี ตั้งแต่อดีตชาติ.................จนถึง ปัจจุบันชาตินี้ ​

ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีทั้งหลาย เพื่อตั้งจิตอุทิศถวายให้แก่ เจ้าบุญและนายคุณ ​

เจ้ากรรมและนายเวร สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุก ๆ ดวงวิญญาณ ​

ไม่ว่าจะเป็น เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน สัมภเวสี โอปาติกะ สังเสธะชะ ​

อัณฑะชะ ทุก ๆ ดวงจิต ทุก ๆ เจตสิก ที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารแห่งนี้ ​

ขอให้ท่านทั้งหลาย จงมารับเอาบุญ เอากุศลผลสำเร็จ ที่ข้าพเจ้าตั้งจิตอุทิศให้แล้วนี้........ด้วยเทอญ​

เมื่อท่านทั้งหลายได้รับ บุญบารมีของข้าพเจ้าไปแล้วนั้น ขอให้ท่านทั้งหลายจงโปรดอโหสิกรรม ​

เลิกเบียดเบียน เลิกจองเวรจองกรรมที่ข้าพเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้ง ​

ด้วยรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี ตั้งใจก็ดี มิได้ตั้งใจก็ดี ที่ได้กระทำลงไปแล้วนั้น ​

ขอให้ท่านทั้งหลาย จงงดเว้นโทษที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินนั้น........ด้วยเ ทอญ​

เมื่อท่านทั้งหลายได้รับบุญบารมีของข้าพเจ้าไปแล้วนั ้น ​

ขอให้ท่านทั้งหลาย จงไปผุดไปเกิดในภพภูมิ ที่สามารถสร้างบุญ สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร ​

สร้างทานบารมี สร้างมหาเทวสถาน จนกว่าจะได้เข้าสู่โลกุตระ พระธรรมเจ้าทั้ง 9 ประการ ​

ได้เข้าสู่กระแสแห่งพระนิพพานในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน ้น........เทอญ​

เมื่อท่านทั้งหลายได้ รับบุญบารมีของข้าพเจ้าไปแล้วนั้น​

“ ขอให้ท่านทั้งหลาย จงมาช่วยอุดหนุน ค้ำจุน เปิดทิศ เปิดทาง​

เปิดแสงสว่าง เปิดบารมี ให้เป็นอริยะทรัพย์ภายนอก อริยะทรัพย์ภายใน​

ที่หลั่งไหลมา เทมา สู่ตำหนัก เคหะ บ้านเรือน และตัวข้าพเจ้านี้....ด้วยเทอญ “​

อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ​

ปัฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง​

อิทัง เม ญาตินังโหตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย​

อิทัง เม เปตะวิญญาโนโหตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย​

อิทัง เม สรรพสัตว์ตานังโหตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย​

ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอุทิศผล ส่วนกุศลนี้ แผ่ไปให้ ไพศาล…ถึงมารดา บิดาและอาจารย์ ​

ทั้งลูกหลาน ญาติมิตรสนิทกัน คนเคยร่วมทำงาน การทั้งหลาย ​

จงได้รับส่วนกุศลผลของฉัน ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ ขอให้ท่านได้กุศลผล.........นี้เทอญ​

สัมมา สัมพุทโธ พระศรีอริยะเมตตรัยโย นะโมพุทธายะ​

พุทธะประสิทธิ์ ธรรมะประสิทธิ์ สังฆะประสิทธิ์​

ขอประสิทธิ์ด้วย นะ โม พุท ธา ยะ​

พุทธังสว่างโลก ธัมมังสว่างโลก สังฆังสว่างโลก ​

ขอให้สว่างโลกด้วย นะโมพุทธายะ พุทธะชนะมาร ธรรมะชนะมาร สังฆะชนะมาร ​

ขอให้ชนะหมู่มารด้วย นะโมพุทธายะ​

โอม ชัยยะ มหาเทวะ ประสิทธิ เม​

ขอประสิทธิ์ด้วย นะ โม พุท ธา ยะ นะ มะ พะ ธะ ฯลฯ​

​

</td></tr><tr><td class="smalltext" width="100%" valign="bottom"><table style="table-layout: fixed;" width="100%" border="0"><tbody><tr><td class="smalltext" colspan="2" width="100%" align="left">
</td></tr><tr><td class="smalltext" id="modified_100" valign="bottom">

ที่มา ​

</td><td class="smalltext" align="right" valign="bottom">

http://www.tonkwamdee.com/forum/index.php?topic=29.0​

</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

การขออโหสิกรรม คือ การขอโทษเจ้ากรรมนายเวร

เพื่อที่ กรรมจะได้จบที่เรา ณ ปัจจุบัน ไม่ให้เกิด การอาฆาต หรือ คาราคาซังไป ภพอื่นคะ

เมื่อเรา อโหสิกรรม วิบากกรรมจะสิ้นสุดที่เรา

เเต่ วิถีกรรมยังคงอยู่ ดังนั้น ถึงเราจะขอโทษเเละ เสียใจ เเละ ฝ่ายตรงข้ามให้อภัย

เเต่ กรรมยังคงอยู่ เช่น คุณตบหน้า เพื่อน เเต่เพื่อนให้อภัย เพราะจบที่ ขอโทษเเละ อโหสิกรรม

เเต่เมื่อถึงเวลาที่วิบากกรรมมาถึง คุณก็จะโดนตบหน้าจาก อุบัติเหตุ หรือ อาจจะ เกิดอุบัติเหตุหัวชนโต๊ะ เป็นต้น

อย่างใดอย่างนึง เเต่ จะไม่หนักเเละไม่เกิด การจองเวรต่อไปคะ

ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท พยายามทำบุญให้มากกว่าบาป

ศีล ทาน สมาธิ จะทำให้ พ้นวิบากกรรม วิบากกรรม เปรียบเสมือน หมาล่าเนื้อคะ

ถ้าหยุดทำความดี วิบากกรรมก็จะไล่ตามทันนั้นเอง

 

ขอบคุณมากครับพี่สันโดษ

 

ขอบคุณสันโดษที่ให้ความรู้ในหลายๆเรื่องที่ช่วยอธิบาย ให้เข้าใจ
ขอถามคุณสันโดษ
1.การนั่งสวดมนต์ผมไม่ค่อยสวดนานมาก และสวดแต่บทพื้นฐานทั่วไป แต่ใช้ใช้จิตระลึกรัตนตรัยและคุณบิดา มารดา เพราะจำไม่ค่อยได้ บ้างครั้งจะเพี้ยนไปอย่างอื่นแต่พยามกลับมาตั้งสติให้อยู่กับปัจจุบัน
2.การนั่งสมาธิจะกำหนดรับรู้ลมหายใจ เข้าออก หากมีอาการแปลกๆจะกำหนดให้เป็นฟุ้งซาน และพยามกลับมาที่ลมหายใจ บางครั้งมีอาการหนาวหรือร้อน หรือเย็นสบายก่อกำหนดรับรู้ที่ร้อนหนอ หนาวหนอ
การที่ผมปฎิบัตินี้ถูกต้องหรือต้องปรับปรุงให้ถูกในส่วนไหนบ้างครับ และเป็นกำลังให้คุณสันโดษครับ

 

ขอบคุณสันโดษที่ให้ความรู้ในหลายๆเรื่องที่ช่วยอธิบาย ให้เข้าใจ
ขอถามคุณสันโดษ
1.การนั่งสวดมนต์ผมไม่ค่อยสวดนานมาก และสวดแต่บทพื้นฐานทั่วไป แต่ใช้ใช้จิตระลึกรัตนตรัยและคุณบิดา มารดา เพราะจำไม่ค่อยได้ บ้างครั้งจะเพี้ยนไปอย่างอื่นแต่พยามกลับมาตั้งสติให้อยู่กับปัจจุบัน
2.การนั่งสมาธิจะกำหนดรับรู้ลมหายใจ เข้าออก หากมีอาการแปลกๆจะกำหนดให้เป็นฟุ้งซาน และพยามกลับมาที่ลมหายใจ บางครั้งมีอาการหนาวหรือร้อน หรือเย็นสบายก่อกำหนดรับรู้ที่ร้อนหนอ หนาวหนอ
การที่ผมปฎิบัตินี้ถูกต้องหรือต้องปรับปรุงให้ถูกในส่วนไหนบ้างครับ และเป็นกำลังให้คุณสันโดษครับ

 

อาการ

ขนหัวลุกซู่ค่ะ แล้วก็หนักบ่ามากค่ะ บางทีก็รู้สึกเหมือนมีใครจ้องมอง :boo:

 

สวัสดี คุณสันโดษ

เมื่อเดือนก่อนผมได้บวช เป็นเวลา 1 เดือน ในช่วงระหว่างนั้นเป็นพระจะฝึกซ้อมสวดมนต์เพื่อจะทำวัตรเช้า-เย็น ทุกวัน
แต่มีเหตุการณ์หนึ่ง สวดบทอิติปิโส (ทำวัตร)
ครั้งแรกก็สวดปกติ ครั้งที่2 ถึงบทช่วง สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ...อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.
เกิดน้ำตาไหล ไม่หยุด ถามตัวเองเป็นอะไรนี้..แล้วครั้งที่ 3 สวดปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สรุปแล้วเกิดแค่ครั้งเดียวตั้งแต่ที่ได้กระทำมา

ถึงเวลาทำวัตรช่วงเย็นมีการทำสมาธิ จิตนิ่ง เกิดเหน็บชาที่เข้า ก็ดูอาการแล้วปล่อยไปมันก็หาย

แต่สึกออกมาปฏิบัติที่บ้านเหมือนจิตไม่นิ่งเหมือนตอนบวชเลย ข้างในสับสนอย่างบอกไม่ถูก จึงขอคำแนะนำจากคุณสันโดษด้วยครับ

ขอขอบคุณล่วงหน้า ที่คุณทำอยู่นี้เป็นบุญเป็นกุศลแล้วกระทำเช่นนี้ต่อไป
อนุโมทนาครับ

 

ขอบคุณทุกข้อความดีๆจากท่านสมาชิกทุกคนครับ

ปกติผมเเวะเข้ามาอ่านกระทู้เด่นเพียงหน้าหลักเท่านั้นเพื่อต้องการรับทราบข้อมูลข่าวสารสำคัญๆแต่เมื่อได้อ่านกระทู้นี้และได้อ่านการให้ธรรมทานจากท่านผู้มีความเข้าใจในธรรมอย่างลึกซึ้งจากคุณสันโดษแล้ว ยอมรับว่าขนลุกแทบทุกข้อความที่ได้ให้ความกระจ่างแก่เพื่อนสมาชิก ขออนุโมทนากับการให้ธรรมทานของคุณสันโดษขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะครับ