ร่วมแลกเปลี่ยนเคล็ดลับในการประคองศีล 5 กันคะ่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ren, 22 กรกฎาคม 2009.

  1. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    นอแนนเห็นแต่สร้อยตะขาบ
    แต่กลับไม่เห็นคนใส่สร้อยตะขาบ
     
  2. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    เงามาจากไหน ทำไมไม่ดูเหตุแห่งเงา
    เพราะไม่สนใจเหตุแห่งเงา
    ก็เลยเอาแต่แล่นไล่ตะคลุบเงาอยู่ร่ำไป
     
  3. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    สลัดตัวตนได้เบอร์นั้น ก็อรหันต์ ล้วนๆ เอาจิงๆเวลาภาวนาระดับเราๆ ไม่ต้องไปสนใจในตัวผู้รู้ขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะตัวผู้รู้คือส่วนสำคัญในการเรียนรู้ เมื่อแจ้งถึงที่สุด ผู้รู้มาเห็นตัวเอง มันก็กระจายคืนธรรมชาติไป อันนี้คือเคยได้ยินมา ซึ่งในนี้ยังไม่มีใครถึงขั้นนี้แน่นอน ดังนั้นหน้าที่แค่เพียรกำหนดรู้ไม่ห่าง
     
  4. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ก็เพราะไม่สนใจผู้รู้
    มันก็เลยไม่แจ้งสักทียังงัยล่ะ
     
  5. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    การเห็นภายใน
    ....เป็นเพียงการกระเพื่อมไหวของคุณแนน
    ถูกต้องแล้วครับ...
    เพราะไม่ว่าจะกุศลจิต...หรืออกุศล
    ...ก็เป็นเพียงการกระเพื่อมไหวภายในเท่านั้น
    ต่างกันแต่ลักษณะ...
    ...ที่มันขัดเคือง...บีบคั้น...
    ...หรือพองฟู...เบิกบาน

    สัญญาให้ค่าจดจำ....ลักษณะแบบนี้ไว้
    เมื่อเกิดลักษณะนี้แก่จิตอีก....
    จึงเกิดการระลึกได้....
    ที่ผมบอกว่ามันเป็นธรรมดาของขันธ์อยู่แล้ว
    ฝึกมันยังไง....มันก็ระลึกอย่างนั้น

    แต่จุดสำคัญ...ไม่ใช่ตรงนี้

    .......................

    คุณแนนตอบ
    "โกรธหาย ก้อปล่อยมันหาย ถ้าเห็นอารมณ์ไหว อีก ก้อเห็นอีก"

    การดูจิตจริงๆ
    ...จะเป็นอย่างคำพระศาสดา..."เห็นจิตมีโทสะ"
    ...มันจะเห็นสิ่งหนึ่งที่แปลกปลอมเข้ามาที่จิต

    ไม่ใช่...เข้าไปดู....การกระเพื่อมนั้น
    ไม่ใช่การกระโดดลงไปรู้ใน...เจตสิก
    อย่างนี้ไม่เรียก ...ดูจิต เห็นจิต

    แล้วพอโกรธเชื้อยังไม่ดับ....
    ก็เฝ้าดูอารมณ์ไหวนั้นอีก
    .....คุณแนนตอบตัวเอง....
    ....จะกระโดดเข้าไปดูอะไรมันอีก....
    ถ้าโกรธนั้นยังไหวๆอยู่....
    ....คุณแนนจะดูเพื่อให้มันดับไป....
    แต่ไม่รู้ตัว....ว่าตรงนี้ตัณหา...มันเกิดแล้ว
    ตัณหาที่กระโดดไปดูซ้ำ...
    เมื่อไหร่เกิดตัณหา....อุปทานในรู้ก็เกิด
    มันเป็นอุปทานที่ก่อตัวเงียบๆ
    มันจะเกิดความอยากดูมัน....เงียบๆ

    หรือบางครั้งการเข้าไปรู้...แล้วมันดับ
    มันจะรู้สึกลึกๆ...นี่ไงสติทำให้ดับ
    โดนอุปาทาน....ไปอีกดอก

    และมาตกม้าตายอีกตรงที่บอกว่า
    เห็นทันการเกิด
    ถ้าไปจดจ้องอย่างที่เคยทำ
    ...เพื่อดูมันเกิด...
    มันจะหายหัวไป...เหมือนที่หายไปกลางอก
    แล้วยังหลงตามหาสิ่งนั้น
    ...ตรงนี้ก็ถูกตัณหา...ลากไป...
    เพื่อตามหา...สิ่งที่หายไปกลางอก
    เมื่อไหร่เกิดตัณหา...อุปทานย่อมเกิด
    ...เป็นปกติ

    การเดินมรรคอย่างคุณแนน...
    ไม่มีทางเห็นการเกิดของสภาวะต่างๆได้
    ถ้าจ้องดู....ก็จะเป็นอย่างที่บอก
    เกิดตัณหาจดจ้อง....
    เรียกว่า....โดนทั้งขึ้นทั้งร่อง
    จิตที่มีตัณหาอุปาทาน...จะตั้งมั่นยังไง

    เมื่อคุณแนนกลับไปทำอย่างเก่า....
    ก็จะปรากฎว่า..ไม่เห็นทันการเกิด....อยู่ดี
    อย่างมาก...
    จะเห็นแค่ความดับไป...
    ดับแล้ว...ดับเล่า....
    ไหนคือการ...เห็นเกิดดับ....

    หรือเห็นแค่การดับอย่างเดียว
    เวลาเห็นแจ้ง....
    มันต้องเห็นการ"เกิด"ของสิ่งนั้นด้วย

    ....เวลาเกิดปัญญา
    จะเห็นสิ่งใดเกิดเป็นธรรมดา...
    ....สิ่งนั้นดับลงเป็นธรรมดา
    ....และจิตจะสาวไปหาเหตุ
    เหตุของสิ่งนี้....เหตุของทุกข์

    อย่างคุณแนนทำ ...
    คือทำอย่างนักภาวนาทั่วไป...
    ที่ผมผู้รู้จัก... ผ่านๆมา
    ถ้ายังเดินมรรคแบบนี้...จบชาตินี้
    ...ก็อาจจะไม่ถึงปลายทาง....ถ้าไม่ปรับ
    จิตมันไม่ได้ดำเนินไปเอง....
    อย่างที่คิดครับ....มันคนละทาง
    ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ดีทั้งหมด
    ลองกลับไปดูอีกครั้ง....ท่านให้ทำไง
    เราเข้าใจไปตามความคิดเราเองหรือเปล่า?

    ผมไปดูธรรมของหลวงปู่ดุลย์
    ที่ลป.ท่าน....เน้นการดูจิต
    ท่านยังต้อง....มีวิหารธรรมคือพุทโธ
    เพื่ออาศัยจิตที่เป็นอุเบกขา ตั้งมั่น
    ตรงนี้เพื่อ....เห็นจิต

    คุณแนนกำลังเข้าใจอะไรผิดไหม
    การเวียนรู้ในฐานทั้งสี่....
    โดยปราศจากความตั้งมั่น....
    วิปัสสนาจึงคู่ไปกับสมถะเสมอ...
    จึงเกิดปัญญา

    เป็นความเข้าใจผิด....ที่คิดว่าวิปัสสนาเลย
    วิปัสสนาเลย....ไม่เป็นวิปัสสนา
    เพียรรู้ให้ตาย....ถ้าไม่ยกระดับจิต....
    ให้ตั้งมั่นเป็นปกติของจิต
    โดยตัณหาลากไป.....จิตที่ไหนจะตั้งมั่น
    จะเกิดปัญญาขึ้นมาได้ยังไงครับ
     
  6. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    ของคุณแนน จิตมีกำลัง มีอุเบกขาเกิดแล้ว รู้ตรงๆ ที่ผู้รู้ได้เลยค่ะ ตามที่ ลต. เคยบอกคุณแนนว่าดูจิตได้เลย

    ถ้ารู้ตามอายตนะ คือจะอยู่กับเงาจิต
    ถ้ารู้ที่ผู้รู้ กลางอก ไม่ต้องวิ่งตามอายตนะ จะรู้ที่ต้นเหตุของเงาเลย

    ยก ตย. เตาผิงไฟฝรั่ง อายตนะคือปล่องควันข้างบน แต่ไฟมันอยู่ข้างล่าง ถ้ารู้ตามอายตนะจะหลงกลคว้าแต่เงาของมัน จะแกะอนุสัยให้ออกจากจิตไม่ได้

    จิตที่มีกำลัง มีความตั้งมั่น รู้ที่ผู้รู้ได้ ถ้าไม่มีกำลัง ไม่มีอุเบกขา จะไปอรูปแทน ...อย่าไปสนใจคำพูดคนอื่นที่บอกจะยึดผู้รู้ สนใจแค่อย่าแช่ อย่าปักแรง อย่ากดแรง ที่จุดกลางอก ให้มันเป็นสมถะ ก้อใช้ได้ จะเห็นความคิดในจิตผ่านลมหายใจเองค่ะ ลมมันจะสั้นๆ ยาวๆ นิ่งๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ตามอารมณ์ และพยามรู้เบาๆ แล้วความรู้สึกรู้ที่ผู้รู้ มันจะกระจายไปทั่วๆ ตัว

    ที่เขาบอกทำผู้รู้ให้ชัด ทำสิ่งถูกรู้ให้ไม่ชัด คือจุดนี้แหล่ะค่ะ
    มันไม่ใช่ขั้นไปวางผู้รู้ที่จะทะลุไปอรหันต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2021
  7. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    คุณแนนฝึกสายหนอ ของลพ.จรัญเป็นสมถะผสมวิปัสสนา และมีอานาปา
     
  8. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ลองตรวจสอบตัวเองดูคับ
    ถ้ามีครบ 6 คุณสมบัตินี้ ท่านกำลังอยู่บนเส้นทางอริยบุคคลแน่นอน
    1.ไม่มีความยึดมั่นในอัตตาตัวตน
    2. ไม่มีความสงสัยในพระรัตนตรัย

    3.ไม่มีความเชื่อผิดๆในศีลพรต
    4.ไม่มีความตระหนี่
    5.ไม่มีความริษยา
    6. ไม่มีราคะชนิดที่รุนแรง
     
  9. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ก็ถ้าเห็นมันก็คือเห็น จะให้แกล้งบอกว่าไม่เห็น ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่มี ไม่เกิด การภาวนา ก็ต้องซื่อตรงต่อสิ่งที่เห็น จิตมันรู้สึกอะไร รู้อะไร แค่นั้นเอง โอเค หากคุณว่ายน้ำไม่เก่งจะเอาห่วงยางมาเกาะเพื่อฝึกว่าย เพราะกลัวจมน้ำไม่ว่ากัน เช่นฝึกบริกรรม เอาจิตเกาะลม อะไรก็ตาม แต่เมื่อฝึกจนชำนาญแล้ว ลองปล่อยห่วงยางแล้วลอยด้วยตัวเองดูบ้าง(คือการเจริญสติเข้าได้ทุกฐานไม่เลือก) ถ้ายังไม่ไหว จะไปเกาะห่วงยางบ้าง ปล่อยบ้าง พอชำนาญๆเข้า ห่วงยางก็ไม่จำเป็น เพราะเรารู้วิธีใช้ร่างกายทุกส่วนในการพยุงตัวเองลอยน้ำ กลายเป็นพึ่งพาตัวเองได้ในที่สุด หรือเคยชินกับห่วงยางจะใช้ไปตลอด ก็ไม่ว่ากันค่ะ ไม่มีอะไรผิด แค่ทำให้ตัวเองไม่จมเป็นดี

    ตรงนี้จะอธิบายคนไม่เคยเห็น ไม่เคยผ่าน พูดให้ตายมันก็ได้แค่พูด …แนนว่าเหนื่อยเปล่าที่จะพูดไป ใครเจอสภาวะแบบนี้จะรู้ซึ้งในใจตนเอง มันไม่สามารถไปซึ้งในใจคนอื่นได้หรอกค่ะ…เรื่องสภาวะของแนน…ถ้ามันหนักใจคุณมาก ก็ ปล่อยวางเถอะค่ะ…แนนไม่ได้ซีเรียสอะไร

    แนนมั่นใจที่จะเดินทางนี้ต่อไป ไม่ว่าใครจะมาบอกว่าบ้าบอ เพ้อเจ้อ อะไร เพราะยังไงเราก็เห็นพัฒนาการในจิตตนเพียงผู้เดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2021
  10. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    เรื่องสลัดผู้รู้ มันคงยังไม่ถึงเวลาของเรา แต่จิตมันก็ไม่ได้หยุดเรียนรู้ มันค่อยกระจ่างขึ้นเรื่อยๆ รอเวลาสุกงอม หากวาสนาพอมี ชาตนี้เท้าคงแตะฝั่งกันสักที
     
  11. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    โหวว เก่ง เดาแนนได้หมด แต่จิงๆ มีดูกายเคลื่อนไหวด้วยค่ะ
     
  12. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    เอาจริงๆ แนนไม่จิงจังเรื่องขั้นเท่าไหร่ค่ะ ถึงรู้ไปก้อไม่เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติ ไม่ว่าอยู่ระดับไหน เราก็ต้องฝึกเหมือนเดิม เหมือนพอรู้แล้วมันได้แค่ความภูมิใจ ได้ตัวตนมาเสริมตัวเองให้หนักขึ้นไปอีก
     
  13. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    พี่เเนนครับ
    ผมว่าพี่ตีความหมายที่พี่หมูไม้เค้าจะสื่อ ผิดอีกเเล้ว
     
  14. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ไม่วกกลับไปพูดแล้วค่ะ ส่วนตัวไม่เคยบอกเลยว่าสิ่งที่เกาะนั้นไม่ถูก ถูกและดี ทำต่อเถอะ หากจริตชอบแบบนั้นแล้วจิตมีพัฒนาการในทางดี ไม่แย้งเลย

    แต่สิ่งที่คนอื่นทำได้ เหนือจากตรงนั้นก็มี ก็ควรมองให้กว้างกว่านั้น ประสบการณ์ที่คนอื่นเขาทำได้นั้นก็มีมาก ก็น่าจะพอยืนยันได้ว่า มันทำได้เช่นกัน
     
  15. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    โอเครครับ ตามนั้น
     
  16. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ธรรมแท้ไม่มีการประณีประนอม
    จึงอาจจะถึงขั้น
    บาดเจ็บล้มตายบ้าง 55
     
  17. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ใช่แล้วครับ นั่งอ่านอยู่ ทำไมโง่ดักดานจริงๆ ข๊ำขำ:D
     
  18. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    .....คุณแนนครับ...
    ลต.มหาบัว...ลป.ดุลย์
    ท่านเหล่านั้นว่ายน้ำไม่เก่ง
    กลัวจมน้ำ....หรือเปล่า?
    ทำไม...
    ท่านถึงต้องมีวิหารธรรม...ให้จิต

    เปล่าเลยครับ
    ....ท่านเหล่านั้นกำลังทำตามพระศาสดา
    เพื่อให้จิต....ยกนะดับจิตขึ้น
    มีความอุเบกขา...ตั้งมั่นเป็นปกติของจิต
    เพื่อ
    เห็นความจริง...ธรรมชาติของกายใจนี้

    จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม....
    ...สำคัญตนว่ามีปัญญา....
    ...หรือตีความการภาวนาผิด...ก็ตาม
    ที่ทำให้กระโดดไปรู้จิตเลย....
    สำคัญว่า...ทำวิปัสสนาไปได้เลย
    ....ไม่เอาสมถะ
    จริงๆมันแก้ไข้ได้....

    อย่างคุณแนน...
    มันพลิกการภาวนากลับมาไม่ยาก
    เดินต่อสู่ทางที่ถูก....
    อาจจะเป็นทางเก่า...
    .....ที่คุณแนนเคยเดินมาแล้วก็ได้

    ถ้าการอธิบายมรรคนี้...
    ....แสดงทั้งเหตุ...ทั้งผล
    ตลอดเส้นทางของมรรค
    แทบจะครบทุกแง่ทุกมุม
    พลิกคว่ำตะแคงหงาย...แจกแจง
    ถ้าไม่ใช่....ยูซ..หมูไม้ละ5บาท
    ....เมื่อคุณแนน...พิจารณา
    ก็อาจเกิดปัญญา
    ....เห็นเส้นทางโน้นไปแล้ว

    แต่ไงก็ช่าง....
    ....วันนึงภาวนาไปถึงทางตัน...เดินต่อไม่ได้
    คุณแนนจะรู้ด้วยตัวเอง
    ....ว่าผมปรารถนาชี้ทางให้จริงๆ
    หรือแค่....
    ...อยากถกเถียงเพื่อเอาชนะครับ
     
  19. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    แนนไม่รู้หรอก ว่าระดับพระอรหันต์จิตท่านเป็นยังไง ท่านพึงใจจะวางจิตที่ไหน มันเป็นเรื่องเกินจะคาดเดา จากนักภาวนาทั่วไป

    ท่านจะยกระดับจิตไปที่ไหนอีกคะ ในเมื่อถึงปลายทางแล้ว

    แนนไม่ใช่อยู่ดีๆมาดูจิตเลยนะคะ แนนเริ่มหัดนั่งสมาธิตั้งแต่ 10 ขวบจากสายพองยุบของหลวงพ่อจรัญ แล้วมาเน้นดูกายเคลื่อนไหว แล้วล่าสุดถึงมาดูจิตค่ะ แม้แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้ทิ้งสมถะนะ ยังนั่งสมาธิอยู่ คุณบิดเบือนการปฏิบัติแนนมั่วไปหมดทุกบรรทัด แนนเขียนไปอย่าง คุณก็สรุปไปอีกอย่าง จนแนนไม่อยากตามแก้ต่างละค่ะ เหนื่อยเปล่า ตอบไปแก้ไป คุณก็ดึงแนวทางแนนจมไปไปกับความคิดแบบที่คุณฟันธงให้ได้เหมือนเดิม

    แนนคงจะพิเศษสำหรับคุณหมูมากใส่ใจสุดๆ แอบคิดอะไรมั้ยคะ?
     
  20. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    เราไม่จำเป็นต้องเก่งต้องดีเสมอไป

    ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ในการภาวนา
    จุดอ่อนเราอยู่ตรงไหน หากเห็นจิตกระเพื่อมไหวเพราะเหตุอะไร มันจะบอกจุดอ่อนเราตรงนั้นแหล่ะ

    ว่างานเรายังไม่จบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...