ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสิทธิพระที่นั่งมหาบัลลังก์(ปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ) พ่ออาจารย์พล

โอนค่าจัดส่งพระผงพญาไก่เถื่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ที่อยู่ในการจัดส่งแจ้งทางpmครับ

 

แจ้งโอนค่าจัดส่ง พระผงพญาไก่เถื่อน
ที่อยุ่ทาง PM

 

แจ้งโอนค่าจัดส่ง พระผงพญาไก่เถื่อน
ที่อยุ่ทาง PM

 

แจ้งโอนเงินเรียบร้อยแล้วครับ ที่อยู่แจ้งทาง pm ครับ

 

แจ้งการโอนเงินค่ะ ที่อยู่แจ้งทางพีเอ็ม ขอบคุณค่ะ

 

โอนให้แล้วครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้ก็จะจัดส่งให้ครบทุกคนตามที่แจ้ง PM ไว้นะ เดี๋ยวจะมาโพสต์รหัส EMS บอกเช่นเคย

 

แจ้งการส่ง EMS

พี่ศิริพักตร์ EQ 6826 6735 5 TH

พี่สุภาพร EQ 6826 6736 4 TH

พี่ธรรมนูญ EQ 6826 6737 8 TH

พี่สิวริศร EQ 6826 6738 1 TH

พี่สมภพ EQ 6826 6739 5 TH

พี่ปภัสสร EQ 6826 6740 4 TH

พี่หน่อง EQ 6826 6741 8 TH

พี่อรรถพล EQ 6826 6742 1 TH

พี่พชร EQ 6826 6743 5 TH

พี่ธีรพจน์ EQ 6826 6744 9 TH

พี่สายเมธี EQ 6826 6745 2 TH

พี่คมกฤช EQ 6826 6746 6 TH

พี่อนุสรณ์ EQ 6826 6747 0 TH

พี่เรืองฤทธิ์ EQ 6826 6748 3 TH

พี่วิชัย EQ 6826 6749 7 TH

พี่สรวุฒิ EQ 6826 6750 6 TH

พี่ชัยวัฒน์ EQ 6826 6751 0 TH

พี่ศิระ EQ 6826 6752 3 TH

พี่สมพร EQ 6826 6753 7 TH

พี่จักรกฤษณ์ EQ 6826 6754 5 TH

พี่วีรภัทร EQ 6826 6755 4 TH

พี่ปภพ EQ 6826 6756 8 TH

พี่ปัญจพัฒน์ EQ 6826 6757 1 TH

พี่สุเมธ EQ 6826 6758 5 TH

พี่สมศักดิ์ EQ 6826 6759 9 TH

พี่ชไมพร EQ 6826 6760 8 TH

พี่ชนัฏทิชา EQ 6826 6761 1 TH

พี่ปฏิภาณ EQ 6826 6762 5 TH

พี่นฐมน EQ 6826 6763 9 TH

พี่นันทวัฒน์ EQ 6826 6764 2 TH

พี่อภิญญา EQ 6826 6765 6 TH

พี่ประพัทธพงศ์ EQ 6826 6766 0 TH

 

พรุ่งนี้มาติดตามกันต่อนะครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เช้านี้ก็ติดตาม วันนี้เดี๋ยวจะมาพูดคุยกันต่อ

 

ได้รับพระผงพญาไก่เถื่อนเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ

 

พูดคุยยามเย็น

ก็มาพูดคุยกันต่อนะครับ

สำหรับคนที่ได้รับแจกพระพิมพ์ตุ๊กตาวัดพลับไปก็เก็บกันไว้ให้ดี อย่าลืมนำออกมาบูชากันนะครับ พุทธคุณดีจริง โดยเฉพาะคาถาพญาไก่เถื่อนนำมากำกับเวลาอาราธนาด้วยยิ่งดี ที่เหนือกว่านั้นก็คือเมื่อบูชาพระแล้วก็ต้องตั้งใจ ตั้งจิตเอาไว้เลยว่าเราจะขยันทำมาหากิน อย่านั่งกินนอนกินแม้ว่าจะรวยชีวิตจะสบายแค่ไหนก็ตาม อย่าหลงไปกับสิ่งอำนวยความสะดวก เสพย์แต่ความสุขไม่รู้จักทุกข์ อย่าปล่อยให้ความคร้านความขี้เกียจมันมาเกาะตัวเราเพราะผลเสียที่จะตามมามีอีกเยอะ ไม่เฉพาะแก่หน้าที่การงานความรับผิดชอบ แต่มันเป็นการทำร้ายจิตวิญญาณตัวเองด้วย

วันนี้ก็จะมาพูดคุยกันสบายๆต่อ เชื่อว่าหลายคนที่คุยและสอบถามเข้ามา ส่วนใหญ่จะหนีกันไม่พ้นเรื่องทุกข์ ทุกข์ที่เกิดจากดวงชะตาพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เจอทุกข์เจอปัญหา ตัวนี้คือพอไปดูดวงแล้วก็เชื่อดวงมันจะยิ่งทุกข์มากขึ้น อย่างน้อยมันออกจากปากคนว่าต่อไปดวงเราจะแย่ชีวิตจะไม่ดี อย่างน้อยที่สุดใจเราก็เป็นกังวลแล้ว เหมือนเราเดินเข้าไปหาเรื่อเดือดร้อนใส่ตัวเอง ไปรับรู้มันแล้วก็กลุ้มกับมัน

เรื่องดวงชะตานี้เหมือนจะพูดกันหลายที ถ้าใจเรามีพระ หรือมีเครื่องมงคลใดที่คุ้มดวงอยู่แล้วก็อย่าไปใส่ใจมัน ยิ่งดูก็ยิ่งกังวลเมื่อปัญหาเข้ามาเราก็เดินหน้าแก้ไขไปเท่านั้น อันนี้อยากฝากหลายๆคนไว้จริงๆ กับเรื่องดวงชะตานี่เหมือนที่เคยบอกไปแล้ว มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่งาม ดูแค่ชีวิตเรามันเป็นยังไงแล้วจะแก้ไขได้แค่ไหนดีกว่า บางคนดวงยาจกเลยนะ แต่รวยเป็นร้อยล้านก็มี เพราะเค้ามีลูกเล่นให้คล้อยไปตามดวงชะตา ขัดเส้นชะตาด้วยตัวเอง ในเมื่อดวงจะไม่รวยก็จะทำยังไงเวลามีเงินให้เงินมันไม่อยู่กับตัวแต่ยังเป้นของเรา ยกตัวอย่างแบบนี้เป้นต้น นี่บางคนเค้าดูดวงมาเพื่อมาปรับมุมมองและความคิด พอเค้าทำไม่ขัดกับดวงปุ้ปก็ยิ่งมียิ่งได้ มากขึ้นๆ

ที่ยกตัวอย่างเช่นนี้เพราะพ่ออาจารย์ท่านเวลาตรวจดวงให้ใครท่านมักจะให้ไปหาทางแก้ด้วยสติตัวเอง หลายครั้งบอกวิธีทางแก้ไปมักจะเงียบหายกัน แต่พอให้ไปหาจุดบอดในสิ่งที่บอกไปและเติมเต็มเองปรากฏว่ากลับมาพูดคุยมีเรื่องเล่าเรื่องปรึกษาไม่จบ มือขึ้นร่ำรวยกันทุกคน แต่บางคนก็ยังคิดไม่ออก ทางยังไม่มา ท่านว่าบารมียังไม่ถึงเพราะเค้าไม่รู้ว่าทุกคำพูดนั้นมีค่ายิ่งกว่าทอง เค้าไม่รู้จักจะพลิิกเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นโชคดีอย่างไร ท่านพูดเสมอว่านี่ว่ากันในขอบเขตเฉพาะของเรื่องดวงชะตาเท่านั้นไม่เกี่ยวกับวิทยาคมหรือคาถาอาคมอันใด ตัวเราเองสามารถทำตัวเองและหนุนดวงตัวเองได้ ท่านว่าเช่นนั้น มันเป็นวิธีหนุนด้วยการกระทำที่คล้อยตามดวงดาวและดวงชะตา ไม่ขัดแต่ก็ไม่ยอมรับ

วันนี้มาพูดลงรายละเอียดกันส่วนหนึ่งแบบให้แง่คิดและมุมมองที่ต่างออกไป เพราะหลายคนพอดูดวงมีอยู่สองอย่าง ไม่เชื่อดวง ก็เชื่อหมอ พอดวงดีก็ยิ้ม พอดวงไม่ดีก็ถามทางแก้ โดยลืมคิดไปว่ามันคือชีวิตเรา ไม่มีทางแก้ใดในโลกที่มันดีกว่าทางแก้ของเราเพราะมันคือชีวิตตัวเอง เค้าไม่ได้เชื่อตัวเองและไม่ได้ช่วยตัวเอง อย่างมากก็แค่ทำตามคำพูดหมอว่าจะแก้อย่างไรเท่านั้น บางคนโทรมาปรึกษาบอกว่าสูญเงินไปรวมตกสี่ห้าหมื่น บางคนร่วมแสนรึมากกว่านั้น แก้สารพัดจนลามเข้ามาในบ้าน ทุบนั่นทุบนี่ ย้ายนั่นย้ายนี่ ไม่มีอะไรดีขึ้น ที่มากขึ้นคือความกังวลและปัญหาใหม่ที่รอแก้ต่อไป ตรงนี้ฟังดูเรารู้สึกกันมั๊ยว่าแปลก ทำไมคนเราถึงมืดมัวไปเจอปัญหาซ้ำซากอย่างนั้นโดยไม่ฉุกคิด เหมือนหน้ามืดหรือมีอะไรบังตา เราก็ได้แต่บอกว่าถ้าพี่คิดซักนิด ความจริงก็เสียแค่ค่าดูหมอทีแรกไม่มีอะไรมากกว่านั้น แล้วก็เอาดวงที่เค้าดูนั่นแหละมาใส่มุมมองของตัวเองลงไปว่าเรื่องไหนควรแก้ไขอย่างไร มันง่ายเพียงนั้นจริงๆ

ก็มาพูดคุยกันสบายๆ หลายๆคนถามเข้ามาเกี่ยวกับตะกรุดว่าจะมีอะไรออกให้บูชาที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันมั๊ย ก็ไว้ติดตามกันวันพรุ่งนี้ นานๆครั้งจะมีโอกาสได้บอกเล่า ก็พูดกันแบบตรงๆ ตะกรุดนี้เรียกว่าตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ ไม่ค่อยจะมีอะไรที่พ่ออาจารย์ท่านบอกแบบเฉพาะว่าแรงเว่อร์ คำว่าแรงเว่อร์นานๆถึงจะได้ยินท่านออกปากมาเองเช่นนี้กับตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ ก็ไว้ติดตามวันพรุ่งนี้

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์

ที่ผ่านมาถือว่าน้อยนักที่พ่ออาจารย์ท่านจะสร้างเครื่องมงคลอันมีอิทธิคุณเกี่ยงโยงกับเรื่องของกรรมโดยตรง

ท่านว่าสัตว์ทั้งหลายนั้นล้วนแต่ถูกผูกอยู่ในกฏแห่งกรรม มีเกณฑ์ชะตาที่จะเกิดสุขทุกข์ระคนกันไป ซึ่งเกณฑ์ชะตาเหล่านี้สามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยความประพฤติและการกระทำ หากแต่กฏแห่งกรรมนั้นแก้ไขไม่ได้

สัตว์ทุกรูปนามนั้นปรารถนาความสุข ซึ่งสุขนั้นก็มีทั้งสุขที่ฉาบฉวย ปราณีต ไปจนถึงบรมสุข ไม่ว่าจะสัตว์ชนิดใดหรือมหาสัตว์โพธิสัตว์ก็ตาม ล้วนบำเพ็ญบารมีทนรับความลำบากอย่างยิ่งเพื่อไปให้ถึงความสุขนั้นนั่นคือพระนิพพาน

พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้น โดยท่านได้ทำตามวิชาเฉพาะซึ่งสมเด็จองค์ปฐมได้ประทานให้แก่ท่านไว้ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาที่พิเศษมาก เนื่องจากเกี่ยวเนื่องด้วยธาตุนิพพาน อันต่างจากเครื่องมงคลใดๆที่จะพึงมีหรือปรากฏมี ซ้ำวิชาที่ใช้ลงนั้น ก็เป็นของสูง เป็นวิชาชั้นสูงยิ่งกว่าตำรับใดๆ ท่านว่าไม่ว่าวิชาในมนุษย์โลก หรือเทวะโลก ตลอดจนพรหมโลกก็ดีนั้น ล้วนเทียบกันไม่ได้ เพราะวิชานี้มีเฉพาะเหล่าพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้ แม้พระอริยสาวกผู้เป็นอรหันต์ขีณาสพก็ไม่สามารถรู้ได้ จะมีที่รู้ก็คือเหล่าพระพุทธเจ้า นอกจากนั้นก็คือผู้ที่รับวิชาจากเสด็จพระใหญ่ท่านโดยตรง

สำหรับพ่ออาจารย์นั้นท่านพิจารณาเห็นแล้วว่า กระแสแห่งพระนิพพานนั้นนอกจากเหล่าพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์แล้ว ยากที่บุคคลทั้งหลายจะเข้าถึง ท่านจึงได้สร้างตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้นมาครั้งหนึ่ง ท่านว่าตะกรุดนี้แค่ได้ทำก็ถือเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งแล้ว

เนื่องจากตะกรุดนี้มีอานุภาพต่อต้านกรรมโดยตรง ท่านว่าเหนือกว่าวิชาหนุนดวงหรือวิชาที่เสกโดยคุณแห่งวิปัสนาญาณทั้งหลาย กอปรกับอักขระเลขยันต์นั้นซับซ้อนต้องลงถึงสองแผ่นด้วยกันและนำมาประกอบกันท่านจึงตั้งใจจะทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

พ่ออาจารย์ท่านได้ประกอบวิชา ลงอักขระเดินธาตุนิพพานโดยขอความอนุเคราะห์และสงเคราะห์จากเสด็จพระใหญ่โดยตรง ได้จารมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้นมาโดยใช้แผ่นโลหะสองชนิด คือ
- แผ่นทองเหลือง การใช้แผ่นทองเหลืองนั้นต่างจากตะกรุดทุกประเภทที่ท่านเคยสร้างมาเพราะส่วนมากจะใช้แต่โลหะตะกั่ว ด้วยหนนี้ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านให้ใช้ทองเหลืองนั้นแทนแผ่นทองคำ เนื่องจากมีความสุกสว่างมีรัศมีในตัวเอง ท่านว่าวิชานี้เป็นของสำคัญนักแม้ตกในพรหมโลกหรือเทวโลกก็ดี ทั้งพรหมและเทพยดาทั้งหลายย่อมให้ความเคารพนบนอบดุจเข้าเฝ้าเบื้องหน้าสมเด็จพระชินสีห์เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าธาตุนิพพานในวิชามงคลปิดกรรมนี้ มีผลเกี่ยวเนื่องกับบรมสุขโดยเฉพาะ เมื่อธาตุนิพพานอยู่กับผู้ใดก็ย่อมถือได้ว่าผู้นั้นถึงซึ่งบรมสุขอย่างแท้จริง เมื่อนั้นความทุกข์ทั้งหลายย่อมจะไม่มากล้ำกรายได้ แม้แต่กรรมเวรหรือภัยจากอมนุษย์ทั้งหลายก็ดี
พ่ออาจารย์ท่านว่า โดยปกติแล้วแม้เหล่าสมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อทรงตรัสรู้นั้นตลอดไปจนสิ้นอายุขัยและพระชนม์ชีพ ท่านก็ยังรับผลของกฏแห่งกรรมอยู่ จวบจนท่านเข้านิพพานจึงจะพ้นกฏของสิ่งสมมติทั้งหลาย ดังนั้นมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ท่านว่าจะเกิดขึ้นในวาระสำคัญเท่านั้น แม้พระศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองหรือตกต่ำเพียงใดหากเสด็จพระใหญ่ท่านไม่เปิดให้แก่ผู้ใดแล้ว วิชานี้ย่อมไม่เกิดขึ้นเลย เพราะมีผลใหญ่หลวงให้ล่วงกรรมได้โดยตรง ท่านว่าแม้มีทุกข์เข็ญใดเป็นปัจจัยให้เผชิญอยู่ก็ดีให้ระลึกถึงองค์ปฐมเป็นที่สุด กาลแห่งทุกข์นั้นย่อมคลี่คลายและล่วงผ่านไปได้เสมอดุจว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลย แม้ทุกข์นั้นจะมีผลสืบมาจากกฏแห่งกรรมก็ตาม ท่านว่าตรงนี้ศรัทธามีส่วนมาก ยิ่งศรัทธามากก็ยิ่งได้ผลมาก
พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาแล้วว่าเหตุในปัจจุบันนั้น คนลืมสุขตกทุกข์นั้นมีมาก ด้วยว่าวาระเวรกรรมนั้นหนุนสัตว์ให้โลกปั่นป่วนวุ่นวาย ผู้มีอำนาจล้วนทุศีลขาดความสุจริตยุติธรรม ส่งผลตามมาถึงคนกลุ่มใหญ่ในทุกๆประเทศล้วนเดือดร้อนตามกันไปทั้งหมด ท่านจึงเสี่ยงสัตย์เพื่อสร้างมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้นให้ผู้ที่มีบุญในศาสนาพระสมณะโคดมและมีบุญสัมพันธ์กับเสด็จพระใหญ่องค์ปฐมได้นำไปบูชา
- แผ่นทองแดง ในส่วนนี้ท่านนำมาลงจารด้วยวิชาพุทธพรหมกายสิทธิ์ โดยได้ม้วนสอดบรรจุไว้ภายใน ท่านว่าวิชานี้ดีทางเสริมบารมี คนเราเมื่อปิดกรรมแล้วก็ต้องเร่งสร้างบารมีหนุนชีวิตตัวเอง วิชานี้เป็นวิชาที่หนุนบารมีให้กุศลกรรมส่งผลท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ นอกจากเสริมบารมีแล้วยังเกี่ยวกับการสร้างฤทธิ์ เป็นวิชาที่มีอิทธิฤทธิ์วิเศษ
ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วจะหาวิชาใดที่จะเสริมส่งให้ผู้ครอบครองนั้นล่วงอิทธิฤทธิ์วิเศษได้ย่อมไม่มีอยู่เลย ท่านว่าฤทธิ์วิเศษนี้คือฤทธิ์ทางใจไม่ใช่จะไปดำดินเหิรฟ้าที่ไหน ท่านพิจารณาแล้วว่าเป็นของมงคลชั้นเลิศ ท่านว่าติดตัวเอาไว้เดี๋ยวก้รู้เอง มันจะพอกพูนและเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณติดตัวไปถึงภพหน้าไม่ตายตามกายสังขาร คนที่ไม่เคยมีสัมผัสพิเศษ ไม่เคยมีลางสังหรณ์ ไม่เคยมีฤทธิ์ทางใจทั้งหลาย ท่านว่าเดี๋ยวก็จะมี จะค่อยๆมีค่อยๆเกิดขึ้น ค่อยๆเป็นค่อยๆไปและมากขึ้นแม่นยำขึ้นพอกพูนไปเรื่อยๆ ท่านว่านี่มันวิเศษถึงปานนั้น หากคนไหนใช้เป็นนำมาประกอบการทำสมาธิเข้าฌานหรือฝึกพลังทางจิต ท่านว่ายิ่งกว่าเสือติดปีก จะไปชมป่าหิมพานต์ จะไปพิภพนาคา หรือจะไปคุยกับเทวดาหรือพรหมทั้งหลายก็ย่อมทำได้ทั้งสิ้น ท่านว่ามันจะสั่งสมพอกพูนขึ้นเองเวลาเราสร้างบารมีหรือนำมาใช้เวลานั่งสมาธิวิปัสนา แม้พกไว้ปกติก็ยังเป็นมหาอำนาจทำให้คนเคารพ หวั่นเกรงมาจากจิตใจของเค้า

พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดมาอุดมวลสารอิทธิมงคลอันมีพรรณคุณวิเศษอีกคำรบหนึ่งก่อนจะทำการปิดผนึกไว้ ท่านว่าของที่อุดไว้ข้างในนั้น แม้ไม่เสกก็ยิ่งกว่าขลัง เนื่องจากท่านบรรจุตะกรุดทองแดงไว้ภายใน ปลายทั้งสองด้านท่านจึงนำมาอุดของที่มีอิทธิคุณสูง ดังนี้
- สีผึ้งหลวงปู่ภู วัดอินทร์ ท่านว่าสีผึ้งนี้เป้นของโบราณสืบทอดมา อย่างที่ทราบกันว่าหลวงปู่ภูท่านเป็นพระทองคำ เป็นศิษย์ในเจ้าพระคุณสมเด็จโต แต่น้อยคนนั้กจะรู้ว่าท่านมีวาจาสิทธิ์ พูดอะไรก็เป็นไปตามปาก สำหรับสีผึ้งนี้เป็นของใช้แต่เดิมของท่าน พ่ออาจารย์ว่าไม่รู้ท่านได้มาแต่ไหนหรือท่านทำขึ้นเอง แต่เอาแน่ว่าเป็นของที่ท่านใช้ มันแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นของดีที่สุดไม่มีอะไรดีกว่านี้ ท่านว่าคนจะเล่นทางมหานิยมหรือมหาเสน่ห์ควรมีไว้ ท่านว่าไม่ต้องดูไกล ดูแค่องค์หลวงปู่ภูท่านมีคนรักคนเคารพกันทั่วเมือง มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกล พ่ออาจารย์ว่าสีผึ้งนี้แต่ก่อนมีทั้งอาจารย์ทั้งคนมาขอบูชาท่าน เขาว่าแค่เม็ดกลมๆเท่าปลายเข็มหมุดให้ก่อนละหมื่น ถึงกระนั้นท่านก็ยังเงียบท่านยังไม่เคยนำออกมาให้ใครทั้งสิ้น ท่านว่าเอาไว้รอเวลาเสด็จพระใหญ่ใช้งานแล้วจะนำออกมาทำของ โดยครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ปั้นและอุดไว้ปลายตะกรุดก่อนจะลงผนึกทุกดอก
- ผงโพธิ์นิพพาน ท่านว่าผงนี้ท่านปรุงขึ้นจากไม้ที่มีพรรณคุณวิเศษหลายชนิด แต่เพื่อให้ตรงตามชื่อตะกรุดจึงเรียกว่าผงโพธิ์นิพพาน โดยท่านได้นำผงไม้โพธิ์นิพพาน มาผสมกับผงไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง ผงไม้กาตอมซาก ผงไม้ตะเคียนหลักเมืองนคร ผงไม้เสาตะลุงช้างโบราณ ผงไม้เสาชิงช้าโบราณ ท่านว่าไม้แต่ละอย่างนั้นล้วนมีอิทธิคุณแฝด มีสิริมงคลและพุทธคุณอย่างสูงต่างกันไป ท่านว่าบางอย่างเป็นของโบราณอย่างไม้เสาตะลุงต้นนี้อายุกว่าสี่ร้อยปีนานกว่าอายุกรุงเทพเสียอีก ส่วนใหญ่เป็นของโบราณที่มีอำนาจลึกลับรักษาหวงแหนทั้งนั้น ท่านพลีมาและก็เชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเหล่านั้นมาช่วยหนุนช่วยเสริมผู้บูชาโดยเฉพาะ โดยนำผงไม้เหล่านี้อุดไว้ที่ปลายอีกข้างหนึ่ง

พ่ออาจารย์ท่านสร้างมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้น ท่านได้ทำไว้ทั้งหมดเก้าดอก ท่านว่าไม่ต้องพูดกันมากเพียงผงไม้ต่างๆที่นำมาอุดนั้นแต่ละอย่างถ้านำมาบอกกล่าวกันจริงๆแล้ว ก็เป็นทั้งหนุนดวงอย่างที่สุด เป็นของสูงที่สุด เป็นเสน่ห์อย่างที่สุด เป็นมงคลอย่างที่สุดทั้งสิ้น เมื่อได้ตะกรุดแล้วท่านว่าเสกนั้นยากกว่า การจะเสกให้ได้ตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านมีบัญชาไว้ไม่ใช่ง่าย นอกจากเสกบนพื้นดินแล้ว ท่านยังให้เสกบนฟ้ากับใต้ดินอีกด้วย

พ่ออาจารย์ท่านรู้ว่าเป็นอุบายธรรม หลังจากเชิญเสด็จพระใหญ่มาบรรจุวิชาแล้วท่านจึงดำเนินการณ์เสกให้ครบทั้งสามภพภูมิดังกล่าว โดยเสกบนฟ้าท่านก็นำตะกรุดนั้นขึ้นไปเสกบนยอดเขายอดภูเชิญเทพพรหมทั้งหลายมาเป็นสักขีพยาน เสกใต้ดินท่านก็ปิดถ้ำทำเชิญพญานาคคนธรรพ์วิทยาธรมาเป็นสักขีพยาน ท่านว่าให้คิดกลับไปใหม่ ท่านว่าคงทำไม่ได้อีกเป็นครั้งที่สองเพราะใช้เวลานานมาก เสกแต่ละครั้งอย่างต่ำสามวันสามคืน ต่อไปคงทำไม่ได้อีก เพราะเทพพรหมและนาคราชทั้งหลายต้องลงมาช่วยหนุนช่วยกันทำอย่างต่อเนื่อง ท่านว่าทุกการกระทำไม่มีเสียเปล่าตะกรุดนี้มีฤทธิ์พิเศษอย่างแท้จริง

คาถาบูชา
นะมะพุทธัง นะพุทธะสังสะตะอุอิ ปาสุอุชาวิระสติ พุทธิจะติสิวังพุทธัง อิมังคะมังทิตวิสัง อรหังโลกะวิทู ยะวะโลกะวิทู สัพพะอะระหา พุทธะสังมิ พุทธะสังอิ อิสวาสุ สะระณะมะ ทุสะนิมะ ผะเวสัจเจเอหิ อะนิโสสะ เอตังสะตึง เยตะมังคะลัง

* ตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของเฉพาะทาง ใครที่มีกรรมหนัก ยังไม่ลืมตาอ้าปาก อยากสำเร็จ อยากมั่นคงท่านว่าค่อยมานำไปบูชา รายการนี้คนที่สบายแล้ว รวยแล้ว ท่านว่าไม่ต้องใช้เพราะของมีน้อยเพียงเก้าดอกจะได้บูชากันอย่างทั่วถึง สำหรับผู้ที่ต้องการบูชาก็รับจองเฉพาะ PM ให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมประสิทธิ์ตะกรุดอีกคำรบหนึ่ง

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ บูชา 4,000 บาท

 

แจ้งการส่ง EMS

พี่สายเมธี EQ 6826 8063 5 TH

 

มีบางคนแจ้งมาว่าได้ผงพญาไก่เถื่อนตุ๊กตาวัดพลับไปงวดนี้ถูกหวยเลย ดีเยี่ยมแต่ก็อย่าลืมตั้งใจทำมาหากินกันนะครับ ขยันๆยิ่งรวย

 

วันพรุ่งนี้เดี๋ยวมาพูดคุยเนื้อหาความรู้กันต่อนะครับ ติดตามๆ

 

อรุณสวัสดิ์ครับเช้าวันเสาร์ เดี๋ยวมาพูดคุยสาระความรู้กัน

 

เมื่อวานมีท่านที่โอนเงินมาแต่ยังไม่ได้ PM แจ้ง อย่าลืมแจ้งเข้ามาด้วยนะครับ

 

ได้รับพระผงพญาไก่เถื่อนแล้ว ขอบคุณครับ

 

พูดคุยยามเย็น

วันนี้ก็มาพูดคุยกันต่อจากเรื่องที่ถามเข้ามา

เรื่องนี้เหมือนเคยตอบไปแล้วหนหนึ่งแต่วันนี้ก็จะมาพูดอีกครั้ง ซึ่งคำถามนี้ก็ได้ถามพ่ออาจารย์ท่านแล้วก็เลยจะนำมาพูดคุยกัน

เกี่ยวกับเรื่องของชูชก หลายคนไปเห็นว่าเป็นอดีตชาติของพระเทวทัต พอมีก็เลยเกิดความลังเลว่าควรจะบูชาหรือไม่ หรือควรนำไปวางทิ้งดี

เรื่องนี้ก็จะตอบแบบรวมๆในส่วนของเครื่องรางของขลังไปเลยทีเดียว อย่างชูชกนี่คงไม่มีเกจิเชิญบารมีของพระเทวทัตมาทำแน่นอน เครื่องรางของขลังทั้งหลายนั้นส่วนใหญ่ที่เป็นรูปร่างสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ต่างๆ มักจะคล้ายกับพยนต์คือการผูกรูปนามขึ้นมา จะมีฤทธิ์มากเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับการอธิษฐานจิตและวิธีเสกของแต่ละท่าน

พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมีอยู่สามอย่าง หนึ่งคือเชิญบารมีของดวงจิตนั้นๆให้มารับรู้และเป็นสื่อ สองคือการผูกขึ้นใหม่ตั้งธาตุรูปนามและตั้งชื่อเช่นเดิมได้แก่ชูชก กัณหาชาลีที่เป็นกุมารทองอะไรพวกนี้ และก็สามนั่นคือเสกแบบสมมติเทพ

ท่านว่าทุกวิธีก็ล้วนดีทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้เสกเองจะสำเร็จสิ่งต่างๆนั้นด้วยวิธีใดก็ต้องพิจารณากันไปตามความถนัด ความเหมาะสม วาระและโอกาส แต่ท่านว่าถ้าจะให้ดีกับคนใช้มากที่สุดต้องทำให้ของนั้นๆเป็นสมมติเทพไปเลย

โดยวิธีนี้จะอาศัยบารมีของเทพยดาสัมมาทิฏฐิมีความประสงค์อยากช่วยเหลือสงเคราะห์มนุษย์โดยเฉพาะมาพิทักษ์รักษาสิ่งนั้นๆ ท่านว่าจำพวกนี้มีฤทธิ์มากกว่าที่จะไปผูกขึ้นมาเองแน่นอน แต่จะเป็นของสูงก็ต้องดูอีกว่าเมื่อเป็นของสูงแล้วควรเก็บรักษาอย่างไร ควรบูชาพกพาอย่างไรท่านว่านี่ก็อีกกรณีนึง

ท่านว่าเรื่องญาณเทพนี่เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะหนึ่งนั้นเทพในระดับต่ำก็ยังมีอารมณ์รักได้เกลียดเป็น ให้คุณได้ก็ย่อมให้โทษได้ด้วยเช่นกันเรียกว่ามีทั้งพระเดชและพระคุณนั่นก็เป็นจำพวกหนึ่ง

อีกจำพวกหนึ่งนั้นก็เป็นสัปบุรุษผู้เอื้อเฟื้อในธรรมซึ่งพวกหลังนี้เขาจะอดทนอดกลั้นได้กับความไม่รู้และความผิดพลาดของมนุษย์ ไม่คอยถือโทษ เพ่งโทษ ให้โทษแก่มนุษย์ ท่านว่าอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าครูบาอาจารย์ใดจะเชิญเทพจำพวกไหนลงมาด้วย ท่านว่าสุ่มเชิญไม่ได้ถึงได้ก็เสี่ยงที่จะไม่ดี ถ้าจะให้ดีให้ชัดเจนต้องระบุนามไปเลยว่าใคร จะรับหน้าที่มั๊ย ถ้ารับก็ถึงเชิญมา ท่านว่าจะไปบังคับยัดเยียดกันไม่ได้ ต้องทำเช่นนี้ถึงจะได้ของที่ดีที่สุด

เดี๋ยวนี้คนมักนิยมพกเครื่องรางบูชาเครื่องรางกันมากกว่าห้อยพระ ในเมื่อกล่าวถึงเครื่องรางที่เป็นสมมติเทพแล้วก็จะกล่าวให้จบไปเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องรางที่เป็นสมมติเทพ หรือจะพูดให้กว้างกว่านั้นก็คือเทพพรหมทั้งหลายนี้ ย่อมให้คุณรึโทษแก่เราได้ บางคนมักจะไม่บูชาเทพเพราะเกรงโทษ เกรงว่าจนจะพลั้งเผลอไปทำผิดไว้ เหมือนก่อกรรมให้สวรรค์เห็น และตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเทพเหล่าใดประเภทไหนที่สถิตย์อยู่ในสิ่งเคารพบูชานั้น แต่ในกรณีเดียวกันมนุษย์เองนั้นก็มีความสามารถที่จะสั่งหรือจะใช้งานเทพพรหมเหล่านั้นได้ด้วยเช่นกัน

ท่านว่าง่ายๆเลย คือมนุษย์คนนั้นต้องมีบารมีและบรรลุคุณธรรมพิเศษในระดับที่สูงกว่าเทพพรหมเหล่านั้นขึ้นไป เช่นนี้เขาย่อมไม่ปองร้ายและเชื่อฟังเราด้วยดี นี่ก็เป็นอีกทางหนึ่ง พูดง่ายๆคือคุณธรรมของความเป็นอริยบุคคลนั่นเองสิ่งนี้เทพยดาทั้งหลายบูชานัก

มาเข้าเรื่องกันต่อ ในเรื่องของชูชก คำว่าชูชกฟังแล้วคงนึกไปถึงพระเทวทัต แต่เชื่ออย่างยิ่งว่าคงไม่มีเกจิใดเสกชูชกให้ร้ายหรือเชิญบารมีพระเทวทัตมาทำมาสร้าง คงจะเพียงนำตำนานชาดก คุณลักษณะพิเศษของสิ่งนั้นๆมาเพื่อเป็นรูปนามเท่านั้น

สุดท้ายเครื่องรางทุกอย่างควรบูชาหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้เสกว่าเสกอย่างไร เชิญอย่างไร ทำอย่างไรเท่านั้น และเหนือกว่านั้นมันอยู่กับตัวเราเองว่าจะศึกษาดีพอหรือไม่ก่อนจะไปนำมาใช้ ที่พูดไปทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ควรจะเป็น

แต่ในอีกมุมหนึ่ง อันนี้ไม่อยากกล่าวถึงเท่าไหร่เพราะเป็นการสำเร็จด้วยอาถรรพ์และจิตวิญญาณฝ่ายต่ำที่ยังมีแรงอาฆาตพยาบาทอยู่ ที่ยังมีห่วงมีความยึดติดอยู่ นั่นคือสำเร็จด้วยคุณผี ของเหล่านี้มักจะนำไปปลุกเสกในป่าช้าบ้าง หน้าเมรุบ้าง ในหลุมฝังศพบ้าง ท่านว่าอันนี้ก็ต้องศึกษาให้ดีเพราะท่านไม่อยากพูดถึง ท่านว่าไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่ผู้เสกต้องไปพึ่งอาถรรพ์เหล่านั้น