รับประทานเนื้อวัวบาปไหมครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย chiwgim, 2 เมษายน 2010.

  1. ผู้เห็นภัย

    ผู้เห็นภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +476
    เรื่องนี้ต้อง
    ศึกษาข้อเท็จจริงไห้ดีนะครับ ถ้าไปเรียนน.ธรรม หรือไปถามท่านที่ได้ศึกษาพระไตรปิฏกมา

    หลักฐานยังอยู่ชัดเจน ไปศึกษาค้นคว้าได้ จากพระไตรปิฏก ถ้าอ้างอะไรมาลอยๆจะเป็นการตู่พุทธพจน์นะครับ เป็นโทษนะครับ


    จากพระไตรปิฏกนะครับ เอาแบบย่อนะครับ ที่กุสินารัง เป็นสถานที่ ที่องค์สมเด็จพระบรมครูได้ทรงเสด็จปรินิพานที่นั่น นายจุลทะ ได้ปรุงอาหารอย่างดีคือ เนื้อสุกรอ่อน หรือเนื้อหมูมาถวายพระพุทธเจ้า เป็นมื้อสุดท้าย ก่อนที่พระองค์จะทรงปรินิพพาน พอพระพุทธองค์ฉันเนื้อสุกร เสร็จ พระองค์ก็ทรงอาเจียร และถ่ายเป็นเลือด เพราะพระพุทธเจ้าทรงประชวรป่วยเป็นโรคกระเพราะอาหารอยู่แล้ว

    แต่เพื่อเป็นการไม่ขัดศรัทธา ประชาชน พระัองค์ก็ทรงฉันเนื้อสุกรที่นายจุลทะ นำมาถวาย

    จากพระไตรปิฏก หมวดพุทธประวัติ

    จากหนังสือเรียนน.ธรรมตรี หรือเป็นคู่มือสำหรับพระใหม่ หรือพระนวกะ

    พระัพุทธองค์ทรงห้ามฉันเนื้อสิบอย่าง ตามที่ท่านผู้รู้ได้ข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

    เนื้อสิบอย่างที่ว่า ที่ห้ามพระภิษุฉัน ก็มี เนื้อ ช้าง เนื้อม้า เนื้องู........เป็นต้น (นอกนั้นฉันได้)

    ก็จากพระไตรปิฏกเช่นเดีบวกัน ข้อมูลสอดคล้องกัน กับหัวข้อที่ผมได้ไห้ความกระจ่างไว้แล้ว เกี่ยวกับการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ข้อไห้ท่านทั้งหลาย

    ยึดหลักประไตรปิฏกไว้นะครับ นอกเหนือจากพระไตร จะเป็นการคิดไปเอง

    หรือบิดเ้บือน พุทธวจน นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2010
  2. po2pon

    po2pon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    จริงๆถ้าเราส่งเสริม ไม่กินเนื้อวัว ก็จะทำให้คนขายไม่ฆ่าวัวมากขึ้น



    แต่แปลกมากเลย เคยเห็นคนแถวบ้านขายเนื้อวัว รวยขึ้นเรื่อยๆ จนวันนี้ได้รถสวยๆมาขับ
     
  3. เขตปกครอง230

    เขตปกครอง230 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +324
    มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับเรื่องเนื้อวัว,ควาย เรื่องมีอยู่ว่ามันรู้นะว่ามนุษย์จะเอามันไปฆ่า บ้างจึงน้ำตาไหลไม่หยุด บ้างก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งกระจายหลังดึงเชือกล่ามจนขาด จึงคิดว่าพวกนี้คล้ายมนุษย์เอามากๆ
     
  4. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682

    สุดยอดคับผมเคยอ่านเจอ จริงครับเห็นด้วย ถ้าพระพุทธเจ้ไม่ฉันเนื้อสัตว์

    แล้วทำไมท่านอนุญาต ไห้พระภิษุฉันได้ล่ะ เห็นไหม ถ้าตอบแบบนี้มันไม่

    เป็นไปในทิศทาง มันสวนทางกัน มันไม่สอดคล้องจริงๆด้วย

    อย่างที่ที่านผู้เห็นภัยตอบนี่ ชัดเจน และถูกต้องที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 เมษายน 2010
  5. yommatood

    yommatood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +1,298
    อนุโมทนาสาธุ
    บางคนเขาว่า หนึ่งชีวิตเพื่อหลายอิ่ม กับหลายชีวิตเพื่อหนึ่งอิ่ม จะเลือกอย่างไหนดีละ
     
  6. batong

    batong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +107
    ผมเลิกทานแล้ว หมอดูทักว่าถ้าเลิกกินเนื้อวัวชีวิตจะเจริญมากกว่านี้มาก
     
  7. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    จะทานหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล ถ้าไม่โจมตีกัน ไช้ได้

    และก็ยึดหลักที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ก็ดีแล้วนะครับ

    เราสาวก (สาวกแปลว่าเป็นผู้ปฏิบัติตาม) ไม่ไช่สัพพัญญูผู้รู้แจ้งโลกด้วยตนเอง

    อะไรที่พระพุทธเจ้าบอกว่าไม่ผิด ก็คือไม่ผิด ง่ายๆ แค่นี้เอง

    แล้วใจก็จะสบายด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 เมษายน 2010
  8. oamiamgod

    oamiamgod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +3,223
    ผมว่าคิดแบบนี้สบายใจที่สุด

    ตอนนี้เราเชื่อพระองค์ท่านบอกไม่บาป(ตามหลักเกณฑ์)ก็คือไม่บาป

    แต่ให้เราตั้งใจว่าจะไม่ฆ่าสัตว์ ถึงอดตายก็จะไม่ฆ่าสัตว์

    แค่นี้ก็พอละ ท่านเป็นผู้รู้ทุกอย่างอะไรที่่ท่านกล่าวไว้น่ะถูกอยู่แล้วหละ
    อย่าไปลังเล-สงสัยในความดีท่านเลยครับ
     
  9. nichrom

    nichrom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +46
    เคยได้อ่านจากหนังสือและในกระทู้ที่บอร์ดพลังจิตนี้ว่าที่จริงแล้วพระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงฉันเนื้อหมู แต่เป็นเห็ดชนิดที่หมูชอบกินต่างหาก (เห็ดชื่อว่าสูกรมัทวะ เขียนยังไงไม่แน่ใจ ถ้าสะกดผิดก็ขออภัยด้วยค่ะ)
     
  10. ปราบจราจล

    ปราบจราจล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +220

    ช่วงนี้ชี้แนะ อย่าเอาคำพูดแบบลอยสิครับ

    พูดอะไรหลักฐานต้องมีนะครับ

    1 ไห้ไปศึกษา ที่มหามงกุฏราชวิทยาลัย เป็นมหาลัยสงฆ์

    หรือถ้าขี้เกียจไป ก็ไห้ไปหาหนังสือ เรียน สำหรับพระภิษูที่บวชไหม่ หรือ

    พระนวกะ หลักสูตร นักธรรมตรี นักธรรมโท หมวดพุทธประวัติ หรือนวโกวาท
    หลักฐานที่เป็นตัวหนังสือ จากพระไตรปิฏก ก็ยังอยู่ ยังไม่ได้สูญหายไปไหนครับ

    คุยกันข้อเท็จจริงนะครับ ก็คุยกันได้


    ถ้าคุยกันแบบ เอาความเชื่อส่วนบุคคล ก็คงจะคุยกันลำบาก

    หรือ ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด เวลาคุณไม่มี ก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นคนวัด

    ก็ไห้ไปถามพระ ที่ท่านจบมหาเปรียญนะครับ ย้ำนะครับ ต้องเป็นพระที่มีความรู้ด้านปริญัตินะครับ คือพระเรียนมานะครับ จึงจะไห้คำตอบชัดๆได้

    แต่ถ้าไปถามพระที่ท่านไม่ได้เรียน ท่านก็จะเอาความคิดส่วนตัวตอบ ไม่แนะนำนะครับแบบนี้

    แนะนำไห้แล้วนะครับผม อนุโมทนาคับ (คำโพส ของท่าน ผู้เห็นภัย น่ะถูกแล้วครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2010
  11. xxxxxx007

    xxxxxx007 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +13
    ถ้าสมมติว่าคุณเป็นวัวซึ่งโดนฆ่าเพื่อเอาเนื้อไปขาย คุณมีแนวโน้มว่าจะโกรธใครบ้าง คนงานที่ฆ่า เจ้าของกิจการที่สั่งให้ฆ่า พ่อค้าคนกลางรับซื้อไปขาย คนที่กินเนื้อของคุณเพราะความเอร็ดอร่อย คนที่กินเนื้อคุณเพื่อประทังความหิว? ใครบ้างครับที่คุณจะนึกโกรธ?
     
  12. nichrom

    nichrom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +46
    อ่า เข้าใจแล้วค่ะ ขอโทษที ที่จริงเราก็ควรจะบอกด้วย ว่าเป็นการตีความอีกลักษณะหนึ่ง ไม่มีถูกหรือผิด เพราะการเขียนข้อความแบบนี้จะส่งผลถึงความเชื่อของคนอื่นๆด้วย แต่ก็อยากให้รู้กันว่า มีการตีความแบบอื่นเช่นกัน
     
  13. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    ไม่ต้องไปสมมติหลอก สมมติแบบนี้มันจะได้อะไร ต่อความยาวสาวความยืดไปเฉยๆ ถ้าจะสมมติกันขนาดนั้นนะ เอางี้ถ้าหากฝ่ายที่ทานเนื้อเขาต่อความขึ้นมาหละว่า อ้าวใครบอกให้เกิดมาเป็นสัตว์ที่มนุษย์กินได้หละ ถ้าไม่อยากตากก็อย่าเกิดมาเป็นแบบนี้สิ อย่างนี้หละจะตอบเขาว่าไง

    มันแย้งกันไม่รู้จบหลอก ยิ่งหากท่านเป็นพระนะหากมัวแต่ไปนั่งบอกโยมเออ อันนี้อาตมาไม่ฉันนะ อาตมาจะฉันอันโน้น มันจะไม่น่าเกียดกว่าหรือ

    เขาทำอะไรถวายท่าน ท่านก็รับ รับเป็นอาหารเพื่อบันเทาความหิวและบำบัดทุกขเวทนา

    อยากต่อปากกับผมก็ต่อนะครับ ผมจะแก้ตามความสมควร ขอบคุณครับ
     
  14. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    มีครับ เป็นศิษย์สันติอโศก บ้านอยู่ปากช่อง เป็นมะเร็งเต้านมครับ เขาทานเจมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เพราะปกติครอบครัวเขาก็กินเจกันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคนไทยเชื้อสายจีนครับ
    และอีกหลายๆคน คนในสันติอโศกที่เป็นมะเร็งเสียชีวิตก็มีนะครับ ที่อ้างถึงสันติอโศกก็เพราะ สันติอโศท่านทานเจกันเป็นปกติครับ ขอบคุณมากครับ
     
  15. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    มีเมตตาต่อสัตว์ก็เพราะว่าสัตว์เขาไม่ได้ด่าคุณ ไม่ได้เถียงคุณหนะสิครับ หากวันไหนสัตว์มันเกิดไปขัดผลประโยชน์ของคุณ หรือ ไปขัดใจคุณเข้า คุณยังจะเมตตาต่อสัตว์หรือเปล่าครับ อย่างที่ผมกำลังค้านคุณอยู่เนี่ยนะครับ คุณรู้สึกเมตตาผมบ้างไหมครับ สงสารผมบ้างนะครับ อย่าเคืองผมแม้แต่น้อยนะครับ พี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2010
  16. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    สงสัยจังครับไปรู้ได้ไงว่ามีการบิดเบียน คุณกำลังกล่าวหาพระมหาเถระทั้งหลายที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกอยู่นะครับ

    คุณยืนยันคำพูดของคุฯไหมครับ ตัวตนจริงๆของคุณเป็นใครครับ ผมอยากจับมือกับคุณแล้วให้คุณไปพูดคำประโยคนี้ทั้งหมดให้พระมหาเถรานุเถระได้รับฟังกัน

    ทุกๆสมัยที่มีการสังคายนาพระธรรมวินัย ก็ร้วนมีแต่พระมหาเถระที่เป็นพระอรหันต์เป็นผู้กระทำทั้งนั้น มีการปรารภเหตุความเสื่อมต่างๆเป็นเหตุแห่งการสังคายนา แล้วยังจะมาบอกว่ามีการบิดเบือน คุณจะมั่วเกินไปไหมครับ

    ไปกับผมไหม ไปพูดเหมือนที่คุณพูดเนี่ยให้พระมหาเถระฟัง ให้ท่านพิจารณาท่าน
     
  17. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    เถียงอยู่เถียงกินครับ
     
  18. sss12

    sss12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +1,081
    จริงๆน่าจะอยู่จาก เจตนานะค่ะ ผู้ที่มีเจตนาละเว้น ไม่กิน เพราะด้วยเห็นเป็นสัตว์ใหญ่ ผู้นั้นก็จะได้บุญจากการละเว้นนั้น เพราะจิตมีกุศล หากยังทานอยู่ ด้วยคิดว่าเป็นอาหารที่ต้องหล่อเลี้ยงร่างกายตามปกติ ก็ไม่น่าจะถือว่าบาปอะไรนะค่ะ ถ้าไม่ได้ลงมือต่อชีวิตของวัวด้วยตัวเอง ก็ไม่น่าจะผิดศีลข้อหนึ่งด้วย เพราะพระพุทธเจ้า และ พระ ส่วนมากท่านก็ฉันเนื้อได้ แต่เข้าใจว่า ท่านมิได้มีเจตนาร้ายต่อสัตว์นั้น เพียงแต่ฉันเพื่อบำรุงร่างกายให้คงอยู่ได้ค่ะ
     
  19. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    เห็นทุกท่านเถียงกัน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นความตั้งใจที่ดี

    ผมไม่ได้มาเพื่อเถียงด้วย

    แต่

    ผมขอมากล่าวอะไรสักเล็กน้อย

    เรื่องของพระวินัยของสงฆ์นั้น ผมไม่ขอกล่าวถึง

    แต่เรา ผู้เป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา การปฎิบัติยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่นี่หล่ะ

    เวลาเรากิน เราอยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เพราะว่ามันมีเนื้อหรือเปล่า
    เราอยากกินหูฉลาม เพราะว่ามันมีหูฉลามหรือเปล่า
    ที่เรากินเสต๊กไก่ เพราะเราอยากจะกินเนื้อไก่หรือเปล่า
    แล้วที่เราไปซื้อเนื้อหมูสันในมา เราซื้อมาทำอะไร

    เวลาเรากิน เราพิจารณาถึงเจ้าของเนื้อที่เรากินเข้าไปไหม

    ถ้าเวลาที่เรากินเนื้ออะไรก็ตามแต่แล้วไม่รู้สึกว่าบาปหรือผิดเนี่ย แล้วทำไมเวลางูที่มันกินลูกของเรา หรือเสือที่มันมากินคนในครอบครัวของเรา ทำไมเราจึงต้องไปฆ่ามันล้างแค้นด้วยหล่ะ หรือฆ่าเพราะกลัวว่ามันจะกินคนอื่นๆต่อหล่ะหรือ มันก็แค่หาอาหารกินเท่านั้นเอง คนที่ถูกกินนั่นไม่ใช่ว่าเป็นกรรมของเค้าที่ต้องชดใช้หรอกหรือ

    สำหรับผู้ที่คิดว่าการกินเนื้อสัตว์เป็นบาปนั้น ก็คงเนื่องด้วยว่า เค้าเป็นผู้มีจิตเมตตาฝังอยู่ จึงทำให้รู้สึกว่า ไม่อยากเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น คิดถึงใจเขาใจเรา

    ผมเองก็เป็นผู้ปฎิบัติกรรมฐานกำหนดจิตด้านเมตตา ผมพิจารณาดูเขาดูเราอยู่เสมอ ผมเองก็รู้สึกว่าไม่อยากกินเนื้อสัตว์เช่นกัน ผมชอบหาเก็บพวกคลิปการฆ่าสัตว์รูปแบบต่างๆ รวมถึงการที่มนุษย์ถูกสัตว์ฆ่าด้วย นำมาพิจารณาอยู่เสมอ

    ผมไม่ใช่ผู้ที่เลือกกิน ผมเองกินตามที่ ที่บ้านจะมีให้กิน เพราะผมไม่ได้ทำงานมาประมาณ 1 ปีกว่าๆแล้ว อยู่เฝ้าสมบัติให้ครอบครัวเฉยๆ (เพราะเตรียมตัวจะบวช)

    ทุกครั้งที่มีเนื้อสัตว์ ผมก็จะพิจารณาถึงสัตว์ชนิดนั้นว่าเค้าถูกฆ่ายังไง เค้าตายยังไง เค้าทรมานยังไง กว่าที่จะมาเป็นอาหารให้เรากิน ผมพิจารณาทุกครั้งที่กิน แล้วก็แผ่บุญกุศลให้เค้าเหล่านั้น

    สิ่งเหล่านี้ผมเองก็ไม่อาจรู้ได้ว่าบาปหรือไม่บาป แต่ผมก็รู้สึกสงสารกับอาหารของมนุษย์เหล่านี้เหลือเกิน

    เรื่องเหล่านี้จะรู้ได้เฉพาะตน และผลการปฎิบัติของตนเท่านั้น ตามหลักของ กาลามสูตร ถ้าอยากพิสูจน์ให้ได้จริงๆ คงต้องปฎิบัติให้รู้ได้ด้วยตนเอง

    การปฎิบัติที่ได้ผลจริง จิตจะต้องโปร่งเบา สว่าง สงบ และไม่ทุกข์ร้อน

    ทุกท่านได้ผลของการปฎิบัติบ้างหรือยัง

    ผมพอจะเห็นผลของการปฎิบัติบ้างแล้ว

    วันนี้วันพระครับ



    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
  20. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    มีคน คนหนึ่ง..........

    อยากกินเนื้อสัตว์ เขาจึงฆ่าสัตว์ ด้วยมือเขาเอง

    มีคน คนหนึ่ง.........

    อยากินเนื้อสัตว์ เขาเดินไป ตามป่า เจอสัตว์ ที่นอนตายแล้ว

    อยู่ในป่า แต่ยังไม่เน่า เขาจึงนำมาปรูง ทำเป็นอาหาร เพราะอยากกิน

    พิจรณา พิจรณา.....................

    สำหรับพระสงฆ์แล้ว พระพุทธองค์ ทรงมีกฏ มีข้อห้ามไว้ ว่าห้านพระภิกษุฉัน

    คือ มีเนื้อสิบอย่าง มี เนื้อช้าง เนื้อหมี เนื้องเสือ เนื้องู........ เป็นต้น

    แต่เนื้อสัตว์ที่นอกเหนือจากนั้น ฉันได้ หรือกินได้นั่นเอง

    ส่วนปุถุชน คนธรรม พระพุทธองค์ ไม่ได้มีกฏ หรือข้อห้ามใดๆ หรือตำหนิใดๆ ในเรื่องการกินเนื้อสัตว์

    ในพระไตรปิฏกไม่มีเลยนะ ทั้งสามหมวด ทั้ง วินัย พุทธประวัติ อภิธรรม รวม๔๕ เล่ม

    มีแต่ทรงตำหนิเรื่องการฆ่า ทรงไห้ละเว้น ว่ามันเป็นบาป

    เรื่องการกิน มันขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ละท่าน ถ้าทำใจไห้ลงตรงนี้ได้จริงๆ

    คือไม่ล้ำเส้น ของแต่ละฝ่าย

    ความขัดแย้งจะไม่เกิดขึ้น (เอาตัวเราไห้รอดได้จริง เอาเฉพาะเราก่อน อย่าพึ่งไปเผื่อคน

    คนอื่นเขาก็มีทางของเขา)

    แต่พรพุทธเจ้า ทรงสอนว่า กาฆ่าเขา ทำร้ายชีวิตผู้อื่น มันเป็นบาป

    ควรงด หรือหลีกเลี่ยง ถ้ามีอาชีพที่เกี่ยวข้อง อย่างโรงฆ่าสัตว์

    ถ้ามีโอกาส หาอาชีพอื่นทำได้ก็ควรหลีกเลี่ยง

    พิจรณรณานะ.................


    องค์ของการทำบาป หรือ ทำครบองค์ประกอบสามอย่าง เป็นผลชั่วบริบูรณ์

    พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า

    1 คิดจะฆ่า

    2 ลงมือฆ่า สั่งไห้ผู็อื่นฆ่า หรือพยายามฆ่า ไมว่าจะด้วยวิธีใดๆ

    3 สัตว์นั้นตายลง

    พิจรณา.....................

    พระพุทธองค์ ไช้เวลาเป็นอสงไขย กว่าบรรลุโมกธรรม ๘๔๐๐ พระธรรมขันธ์

    แล้วจึงนำมาพร่ำสอน อะไรที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

    เราทำตาม ไม่ฝืน ชีวิตก็จะพบหนทางสุข หนทางสว่าง

    เอาตัวรอดได้ รอดจากบ่วงมาร มีนรกเป็นต้น

    เราเป็นสาวก = ผู้เรับฟัง ผู้ปฏิบัติตาม

    ไม่ไช่สยุมภู = รู้แจ้งโลกเอง

    ถ้าเป็นความรู้ไหม่ นอกออกไป

    คิดขยายวงออกไป ก็ไม่ผิด หรือ ถูก แต่ผู้ที่คิด

    ยังไม่ได้เป็นสัพพัญญููที่รู้แจ้งทั้งสามโลก เพียงแต่ไช้ตรรกะของตัวเราเอง ว่าน่าจะเป็น

    น่าไช่แบบนี้ เป็นความรู้สึกส่วนตัว ของแต่ละคน

    เป็นแนวทาง แต่ยังไม่เข้าถึงผลรับ

    มีทางเดียว ก็คือต้องไปค้นคว้าเอาไหม่ ไห้ได้ผลรับจริง

    อาจจะต้องถึงกับตั้งศาสนาไหม่กันเลยที่เดียว

    แต่กฏ ข้อห้าม พระธรรมคำสอน ของพระพุทธองค์

    พระพุทธเจ้า พระองค์ เข้าถึง รู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว

    ทรงรับรอง

    กินเนื้อสัตว์ หรือไม่กินเนื้อสัตว์ แต่เชื่อถ้าทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์

    อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ และมีความสุขสงบอย่งแท้จริง ในสังคมชาวพุทธ

    แต่ถ้าเราเริ่มเอาความคิดเรามาใส่ เอาความรู้สึกส่วนตัวมามีส่วนร่วม

    ความขัดแย้งเกิดขึ้นแน่นอน ความไม่พอใจเกิดขึ้นแน่นอน ความขุ่นข้องใจมแน่

    ในเมื่อเราเป็นผู้สร้างเหตุ ก่อเหตุของความขัดแย้ง ทะเลาะวิวาท ถามว่า ที่ว่าเราพบ

    ความสุข พบจริงหรือ?

    สร้างความไม่พอใจ สร้างความทุกข์ เกิดขึ้นในใจผู้อื่น

    เราจะสว่าง สงบ โปร่ง เบา สบาย

    อยู่ได้อย่างไร จริงไหม

    ( ถ้ารู้เกิน พระพุทธเจ้าทีไร ปัญหาเกิดทุกที แรงต้านมันมีแน่

    นี่ชาวพุทธคุยกับชาวพุทธนะ ยังขนาดนี้ ถ้าคนละศานสนาละ?

    คิดดูเอาและกัน)

    ................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...