เรื่องเด่น รวมหลวงพ่อตอบปัญหา/จากคำบอกเล่า

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 21 กรกฎาคม 2012.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    สมบัติพ่อให้ในอดีต


    ในหนังสือบันทึกชาโดว์เล่ม 2 หน้า 177 หรือ หนังสือบันทึกชาโดว์ ฉบับรวมเล่ม 1-2 หน้า 331 ป้าอัญเชิญ มณีจักร(ป้าชาโดว์)เขียนเล่าไว้ว่าตัวท่านมี "พระสุโขทัยกรุวัดต้นจันทร์" ซึ่งเป็นพระที่หลวงพ่อเมื่อเกิดในสมัยสุโขทัยและเป็นพระสังฆราชในสมัยนั้นและท่านเคยอยู่วัดต้นจันทร์มาก่อน ได้สร้างเอาไว้



    ผมขอนำเรื่องพระกรุวัดต้นจันทร์ และ วัดตาเถรขึงหนัง มาลงกันให้อ่านนะครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
    (พระนางพญาเสน่ห์จันทร์ กรุวัดต้นจันทร์ สุโขทัย)


    วัดต้นจันทร์ เป็นวัดในสมัยสุโขทัย ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่าอำเภอเมืองจังหวัดสุโขทัย ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย บริเวณทิศใต้นอกกำแพงเมืองสุโขทัย ปัจจุบันเป็นวัดร้าง มีซากปรักหักพัง ไม่ได้มีการบูรณะ ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานกรมศิลปากร โบราณสถานประกอบด้วย เจดีย์ประธานทรงระฆังขนาดใหญ่ก่อด้วยอิฐ มีคูหาหรือซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 4 ทิศ ส่วนยอดปล้องไฉนหักพังเหลือแต่องค์ระฆังเท่านั้น ด้านตะวันออกของเจดีย์มีวิหารก่ออิฐ มีเสาศิลาแลงรองรับหลังคามุงกระเบื้อง และยังปรากฏร่องรอยพระพุทธรูปประทับนั่งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในวิหาร

    วัตถุโบราณที่มีชื่อเสียงที่มาจากวัดต้นจันทร์คือ พระสมเด็จนางพญาเสน่ห์จันทร์ซึ่งพบเมื่อกองโบราณคดีกรมศิลปากร เข้าทำการอนุรักษ์เจดีย์ภายในวัดที่พังทลายลงมา พบกรุพระจำนวนมาก พระสมเด็จนางพญาเสน่ห์จันทร์มีกลิ่นหอมของว่านนางพญาเสนห์จันทร์จึงตั้งชื่อว่า พระสมเด็จนางพญาเสน่ห์จันทร์



    พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ เป็นพระที่กรมศิลปากรได้ทำการเปิดกรุพระได้จากวัดร้างนอกเมืองสุโขทัยเก่า 2 วัดด้วยกัน เมื่อคราวขุดแต่งบูรณะโบราณ สถานเมืองเก่าของจังหวัดสุโขทัย และได้ทำการเปิดกรุที่วัดต้นราวจันทน์เป็นวัดแรกเมื่อปี พ.ศ.2506 กับ วัดตาเถรขึงหนัง (วัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม) เป็นกรุที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2508

    สำหรับการเปิดกรุนั้น ปรากฏว่ามีกลิ่นหอมตลบอบอวลออกมาเป็นกลิ่นหอมที่รัญจวนใจยิ่งนักกลิ่นหอม ประหลาดนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นกลิ่นหอมดอกว่านเสน่ห์จันทน์ พุทธคุณส่วนใหญ่ดีเยี่ยมในด้าน เมตตามหานิยม และก็มีบ้างในด้านของ ความแคล้วคลาด และ ปลอดภัย พระเครื่องที่พบภายในกรุนั้นก็อบอวลด้วยกลิ่นว่านเหมือนกัน จึงได้ขนานนามเป็นมงคลว่า พระนางพญาเสน่ห์ ด้วยมีพุทธลักษณะขององค์พระละม้ายกับพระนางพญาของ เมืองพิษณุโลก และกำแพงเพชร

    พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ที่ได้เปิดกรุทั้ง 2 ครั้งนี้ปรากฏว่ามีแต่เนื้อดินผสมว่าน กับ ผงเกสรหอม เนื้อค่อนข้างร่วนแก่ดินมีทั้งกรวดและทรายผสมอยู่ ในบางองค์ที่พบยังมีคราบของรักน้ำเกลี้ยงกับชาดทาทับไว้ ส่วนด้านหลังขององค์พระจะมีลายนิ้วมือปรากฏอยู่เท่านั้นพระเนื้อชินไม่มี ปรากฏเลย



    พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ของวัดตาเถรขึงหนัง หรือ วัดศรีพิจิตกิรติกัลยาราม โดยที่วัดนี้ทางกรมศิลปากรได้พบหลักศิลปากรได้พบหลักศิลาจารึกครึ่งท่อน หลักหนึ่งได้บอกไว้ว่าเป็นวัดที่พระมเหสีของพระเจ้าลิไทเป็นผู้ทรงสร้างไว้ โดยที่วัดตาเถรขึงหนังนั้นปรากฏว่าเมื่อปี พ.ศ. 2499 นายมะลิ โคกสันเทียะ อดีตหัวหน้าหน่วยศิลปากรที่ 3 สุโขทัย ได้พบหลักศิลาจารึกจมดินอยู่ที่บริเวณวัดทางด้านทิศตะวันตกของพระเจดีย์ใหญ๋ เข้าหลักหนึ่ง ศิลาจารึกหลักนี้เป็นหินชนวนเขียวชำรุด โดยศิลาจารึกท่อนบนที่พบสูง 72 ซม. กว้าง 68 ซม. จารึกเป็นอักษรภาษามคธ เขียนด้วยอักษรขอมมี 2 บรรทัด ส่วนภาษาไทยเขียนด้วยอักษรไทย สมัยสุโขทัยมี 15 บรรทัด


    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    (พระนางพญาเสน่ห์จันทร์กรุวัดตาเถรขึงหนัง)


    จากข้อความในศิลาจารึกกล่าวได้ความว่า วัดนี้ในสมัยสุโขทัยมีนามว่า วัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม สร้างเมื่อ พ.ศ. 1943 ตรงกับสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 2 (พระยาไสยลือไท) ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระมหาธรรมราชาที่1(พระยาลิไท) โดยโปรดให้ไปอาราธนา สมเด็จพระมหาศรีกิรติฯ ซึ่งเป็นพระสังฆราชมาจากเมืองกำแพงเพชรให้มาเป็นประธานในการจัดสร้าง ด้วยเหตุนี้ วัดจึงมีนามว่าวัดศรีพิจิตรกิรติกัลยารามตามนามพระสังฆราชพระองค์นั้น ทั้งนี้สมเด็จพระราชชนนีศรีธรรมราชมาดาผู้สร้างพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ จากพระนามแสดงว่าทรงสืบเชื้อสายมาจากเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช รวมทั้งพระนามของสมเด็จพระมหาศรีกิรติฯ พระสังฆราชศาสนาด้วยเช่นกัน ที่น่าจะสืบทอดมาจากเมืองนครศรีธรรมราชตามประวัติพระพุทธศาสนาลังกาวงศ์ใน สมัยสุโขทัย

    ดังนั้นพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ที่กรมศิลปากรขุดได้จากในพระเจดีย์ใหญ่ที่วัดนี้ จึงเป็นพระสำคัญเพราะเป็นพระที่พระมเหสีพระเจ้าแผ่นดินสุโขทัยและพระสังฆราช สมัยสุโขทัยทรงสร้าง ด้วยเหตุดังกล่าวพระนางพญาเสน่ห์จันทน์นี้ จึงเป็นพระเครื่องที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง

    พุทธลักษณะ พระนางเสน่ห์จันทน์เป็นพระปางมารวิชัยประทับนั่งขัดสมาธิราบบนฐานชั้นเดียวอยู่ในทรงกรอบรูปสามเหลี่ยม


    พระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นพระเครื่องสกุล พระนางพญาที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุความเก่าถึงประมาณ 600 ปี สร้างขึ้นในยุคสมัยสุโขทัยก่อนพระนางพญาพิษณุโลก ซึ่งสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระนางพญาเสนห์จันทน์มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดด้วยพุทธศิลปะยุคสุโขทัย บริสุทธิ์มีความอ่อนช้อยหวานซึ้งเป็นเลิศ จัดเป็นพระที่มีตระกูลสูง


    พ่อขุนศรีเมืองมาน - หลวงตาศรี - สมเด็จพระมหาศรีกิรติฯ


    ในสมัยสุโขทัย หลวงพ่อได้ลงมาเกิดเป็นพ่อขุนศรีเมืองมาน เมื่อพ่อขุนศรีเมืองมานมีประชนม์ได้ 35 พรรษาพระมเหสีท่าน(ก็คือท่านแม่ศรี)ได้สวรรคตลง หลังจากนั้นอีก 5 ปีเมื่อพระองค์ทรงประชมมายุได้ 40 พรรษาจึงทรงผนวช เรียกกันว่าหลวงตาศรี และต่อมาท่านได้เป็นพระสังฆราชในสมัยนั้นมีพระนามว่า "สมเด็จพระมหาศรีกิรติฯ"

    เรื่องโดยละเอียดหลวงพ่อเล่าไว้ในหนังสือ " ล่าพระอาจารย์และท่องเชียงแสน โดยฤาษีลิงดำ " หน้า 164 และในหนังสือ " เรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ " หน้า 72 เป็นต้นไป


    เรื่องด้านล่างนี้คัดตอนมาจากหนังสือ " ล่าพระอาจารย์และท่องเชียงแสน โดยฤาษีลิงดำ " หน้า 164 - 170 ครับ

    *******************************

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์มาก็ยกมือไหว้ แล้วก็คุยกัน ท่านถามบอกว่า จำผมได้ไหม ตอบว่าเรื่องอะไรที่มนุษย์จะไปจำผี ไม่มีละ ไม่มีใครนั่งจำผีกัน จำไม่ได้ ก็เลยถามท่านบอกว่า นี่รู้จักฉันได้ไงว่าฉันเป็นอะไรกับท่าน ใช้คำว่าจำได้นี่ แสดงว่ามันต้องเคยรู้จักกัน ท่านก็เลยบอกว่าพระคุณท่านสมัยนั้นนะ เป็นอาจารย์ของพวกผมขอรับ ถามว่าสมัยไหน ท่านก็เลยบอกว่าสมัยที่พวกผมจะกู้ชาติ ตั้งชาติไทยขึ้นมา เพราะเราเป็นทาสของขอม สมัยนั้นพระคุณท่านเป็นพระ ถามว่าเป็นพระชื่ออะไร ท่านบอกว่าชื่อ " ศรี " มาทราบทีหลังว่าชื่อเต็มๆ ก็คือ " ศรีเมืองมาน " สมัยที่เป็นฆราวาส แต่เป็นพระเขาเรียกหลวงตาศรีเฉยๆ สมัยนั้นท่านบอกว่าท่านเป็นลูกศิษย์เพราะท่านเป็นคนเด็กกว่า หลวงตาศรีเป็นคนรุ่นพ่อ เห็นจะเป็นเพื่อนกันมากับคราวๆพ่อ

    พอท่านบอกอย่างนั้นนึกเอะใจว่า นี่ต้องหาหลักฐาน เราจะนั่งพูดกันอย่างนี้มันไม่ถูกหรอก เลยถามว่า ถ้าฉันเป็นพระสมัยนั้นจริงๆ เวลานี้มีอะไรเป็นเครื่องยืนยันบ้าง แล้วฉันเป็นพระวัดไหน ท่านก็ตอบว่า พระคุณท่านเป็นพระ วัดต้นจันทร์ ขอรับ เดิมทีอยูวัดมหาธาตุ ทีนี้สมเด็จแม่ คือ พระเจ้าย่าสมัยปัจจุบันที่เขาเรียกกันว่าพระเจ้าย่า สมเด็จแม่เป็นผู้อุปการะ คือเป็นโยมปราวณาส่งอาหารและให้การบำรุง แล้วต่อมาพระคุณท่านเห็นว่าการอยู่วัดมหาธาตุมันใกล้พระราชฐาน มีบุคคลพลุกพล่านมาก ไม่ชอบ ชอบที่เงียบสงัดจึงไปปลูกกระต๊อบอยู่ที่ดงจันทร์ มันมีต้นจันทร์อยู่ไม่กี่ต้น

    ต่อมาสมเด็จแม่จึงไปสร้างวัดให้พวกกระผมด้วย ก็ไปสร้างวัดให้ได้นามว่า วัดต้นจันทร์ แล้วเวลานั้นพระคุณเจ้าสร้างพระเครื่องเข้าไว้ มีรูปหน้าจั่วคล้ายสมเด็จนางพญา เป็นเนื้อดิน แกก็เอารูปพระมาให้ดู แล้วเวลานี้พระยังอยู่ในที่นั้นประมาณ 2 ปีป แต่ว่าใส่ไหไว้ หากว่าพระคุณเจ้าไปที่สุโขทัยจะพบประวัติ จะพบพระอันนี้ ต้องไปที่เมืองสุโขทัยเก่า เขามีอยู่ที่พิพิธภัณฑ์


    ก็เลยนั่งคุยกันว่านี่รถไปแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ท่านก็เลยบอกว่าเลยเมืองตากไปประมาณ 10 กิโลเศษ เลี้ยวเข้าทางสุโขทัย ตอนนั้นรถยางจะแตก แต่ไม่มีอันตราย ในขณะที่เขากำลังเปลี่ยนยางรถ ขอให้คนในรถนั่งห่างๆ กัน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ทั้งนี้ก็เพราะว่ากันคนร้ายที่จะเข้ามาจี้ปล้น เพราะตรงนั้นเป็นทางเปลี่ยว ถ้าปรากฏว่ามีคนออกมาจากพุ่มไม้ 3 คน ให้ทุกคนเตรียมพร้อมไว้ ถ้าทุกคนเตรียมพร้อมไว้เขาจะไม่กล้าทำอันตราย ถ้านั่งรวมกลุ่มกันโดยเฉพาะ เขาจะใช้ปืนบังคับไม่ให้ทุกคนขยับเขยื้อน ถ้าใครขยับเขาจะยิง พวกเราที่ไปกันทั้งชายและหญิง ก็จะพากันเสียทรัพย์สิน ท่านแนะนำ

    ก็เลยลืมตาขึ้นมาบอกพระครูวิชาญ บอกนี่พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ท่านมาเล่าให้ฟังแบบนี้ แล้วเขียนรูปพระคร่าวๆให้ท่านดู ท่านเลยบอกว่าดีแล้ว วันพรุ่งนี้เราไป วันนี้เราถึงอุตรดิสถ์ พรุ่งนี้เรามาเมืองสุโขทัยเก่า หาเรื่องหาราวให้พบจะจริงหรือไม่จริง

    ทีนี้พอเลยเมืองตากไปแล้ว 10 กิโล รถยางรั่วจริงๆ เมื่อรถจอดก็เลยบอกให้บรรดาท่านชายและหญิงทั้งหมดที่ไป บอกนั่งห่างๆกัน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม แยกกันอยู่ตามคำสั่ง เพราะเรื่องมันปรากฏจริงขึ้นมาแล้ว เป็นอันว่าผีพูดตรง แล้วต่อมาขณะที่เขาทำการเปลี่ยนยางรถ ก็มีคนออกมาจากพุ่มไม้ 3 คน แต่ว่าท่าทางเขาแสดงอาการปรกติเหมือนกับคนจะไปหากินที่ไหน เขามาถึงเขาก็มานั่งคุยด้วยกับอาตมา คือเห็นหน้าเขาก็เลยเรียกเข้ามาหา ถามเขาว่าไปไหนกันล่ะพ่อคุณ เขาบอกว่าจะไปหาหน่อไม้ในป่าหรือจะไปหาเผือกหามันอะไรก็ไม่ทราบ จำไม่ชัด คุยไปคุยมานัยน์ตาเขาก็มองไปมองมา มองตาแล้วไม่น่าไว้ใจ เพราะตาคนนี่สังเกตได้ง่ายว่าสุจริตหรือทุจริต แม้แต่จะซ่อนความรู้สึกเพียงใดก็ตามที แต่ลักษณะของตานี่มันบอกชัด เมื่อแกคุยไปแกก็ยิ้มไป ถามว่าคนทำไมนั่งเป็น 3 กลุ่ม ทำไมจึงไม่รวมกัน ก็เลยบอกแกว่า แถวนี้น่ะ โจรมันมาก ที่เขานั่งกันเป็น 3 กลุ่มนี่น่ะ แต่ละกลุ่มเขาพร้อมที่จะตาย ถ้าอันตรายเกิดที่กลุ่มไหนอีก 2 กลุ่มจะยิงสาดเข้ามาทันที สัญญากันไว้อย่างนี้ ก็เลยถามว่าคุณ 3 คนนี่เคยเป็นโจรมาแล้วใช่ไหม แกสะดุ้งสุดตัว ว่าเปล่าขอรับ ก็เลยพูดยิ้มๆ บอกว่านี่ ไอ้ลักษณะอย่างนี้ฉันเคยเป็นมานะ เคยเป็นมาแล้วอย่าโกหกกันเลย นี่มองคุณแม้แต่เพียงเดินลีลามันก็บอกอยู่แล้ว เพราะคุณมีลักษณะเรียบร้อยเกินไป นี่มันลักษณะของโจรปล้นชาวบ้าน ตา 3 คนเห็นท่าไม่ดี คิดว่าเจ้าหัวเหน่งนี่ถ้าจะรู้ท่า แกก็เลยบอกว่าไม่มีไรขอรับ กระผมไม่ได้มาทำร้าย แล้วก็ไม่ได้เป็นโจร ก็เลยบอก ดีแล้วพ่อคุณ ในฐานะที่เราเป็นคนไทยด้วยกัน ที่พูดเมื่อกี๊นี้น่ะพูดเล่นๆ หรอกนะ ไม่ได้ตั้งใจจะว่าคุณจริงๆหรอก เพราะว่าท่าทางคุณเป็นคนดีก็เลยล้อเล่นในฐานะเป็นกันเอง แกก็เลยนั่งคุยอยู่จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เขาเปลี่ยนยางรถเสร็จแล้วพวกเราก็จะขึ้นรถก็อำลาแก แกก็อำลา เดินเข้าป่าไปตามเดิม นี่เป็นจุดแรก เป็นหลักฐานทีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์บอก ตรงเป๋ง ในชั่วระยะเวลาแรก

    จากนั้นก็เดินทางไปอุตรดิสถ์ ซึ่งไม่มีอะไรนัก ไม่เป็นข่าวจะบอกให้ทราบ แต่ว่าเวลานอนกลางคืนมีข่าวอีก มีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ก็สองขุนนั่นแหละพ่อขุนลือ แล้วก็พระยาวชิรปราการ แล้วมีอีกหลายสิบท่านไม่รู้ว่าใคร ไปคุยเสียเกือบสว่าง แสดงว่าเป็นคนรู้จักกันมาดี ก็เลยบอกว่าพรุ่งนี้ถ้าจะไปสุโขทัยเก่ให้ไปแวะที่วัดช้างล้อม ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ถามว่าไปถูกรึ ท่านบอกว่าถูก ทางมันผ่าน ถามว่ามีอะไร ท่านเลยบอกว่าไปก็แล้วกัน แล้วจะพบของจริง สิ่งที่ไม่เคยคิดจะปรากฏ เอาเข้านั่นอกก็ไม่บอกเสียด้วย

    เวลานั้นเป็นฤดูหนาว หนาวจัด พอตอนเช้าฉันอาหารเช้าแล้วไปสุโขทัยเก่า แวะเข้าไปที่วัดช้างล้อม เห็นจะเป็นที่ศรีสัชนาลัย อีตอนนั้นเห็นทหารสารวัตรของพิษณุโลกไปตั้งกระโจมเต้นท์กันอยู่ ไม่ทราบว่าเขาตั้งกันทำไม มีตาสิบเอกคนหนึ่งแกนั่งสั่นง๊อกๆๆๆ อยู่ข้างธารน้ำเป็นธารไม้ใหญ่ ข้างล่างเป็นหิน มองข้ามฝั่งตรงข้าม ฝั่งแคบๆ เห็นเจดีย์ใหญ่มีรูปช้างล้อมรอบตัว คือที่สุโขทัยมีเจดีย์คล้ายกันอยู่ 2 องค์ วัดช้างล้อมวัดหนึ่ง วัดช้างรอบวัดหนึ่ง เจดีย์รอบตัวเหมือนกัน นี่ต้องเข้าใจให้ดี ดีไม่ดีจะย่องไปวัดช้างรอบ รอบคืออยู่รอบๆ จะเข้าใจว่าช้างล้อม ถ้าช้างล้อม ต้องมีธารน้ำขวางหน้า ถ้าวัดช้างรอบละก็เราวิ่งรถเข้าไปถึงได้เลย

    นี่ไปยืนเห็นอีตาสิบเอกคนนั้น แกนั่งสั่นในเครื่องแบบ ก็มีบรรดาท่านขุนทั้งหลาย แล้วท่านญาติผู้ใหญ่เก่าๆ สุโขทัยกระซิบบอกว่า ในธารน้ำนี่น่ะ มีพระอยู่หลายองค์ พระเครื่อง คือว่ากรุของวัดช้างล้อมนี่แตกแล้วพระก็ไหลออกมา ชาวบ้านเขาไปกันได้มาก แต่ทว่าที่ค้างอยู่ในธารน้ำใสนี่น่ะเยอะ น้ำไหลเยอะ แต่มันหนาวจัด ก็เลยบอกอีตาสิบทหารสารวัตรคนนั้นบอกว่านี่ หมู่ จะไปนั่งสั่นอยู่ทำไม โดดลงไปในน้ำซี จะได้พระเก่าๆจากเจดีย์ พระกรุนี่แตกนี่ ต้องไปเอา เขาถามจริงหรือครับ บอกจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ ไปเอาก็แล้วกัน เดี๊ยวก็ได้ แกทำท่าจะผลัดผ้าขาวม้ามา บอกไม่ได้ๆ พระนี่เป็นพระดีมาก เพราะพระสมัยสุโขทัยเป็นพระอรหันต์เยอะท่านทำไว้ ของที่รับจากพระดีๆ มีคุณค่าสูงจะต้องลงไปทั้งเครื่องแบบ ลงไปแบบนี้แหละเอาออกไม่ได้ รองท้งรองเท้าเอาออกไม่ได้ ไอ้ที่บอกอย่างนั้นน่ะ ความจริงไม่ได้ตั้งใจให้แกลงไปเอา เพราะคิดว่าแกจะกล้าลงไปทั้งเครื่องแบบรึ หนาวแสนหนาว นั่งอยู่บนบกยังสั่นจะตาย แต่ว่าที่ไหนได้ พ่อเทวดาโดดลงไปทั้งเครื่องแบบเลย พอแกโดดลงไปนึกในใจว่า นี่ถ้ามันไม่ได้นะ แกขึ้นมาคงไล่เตะอาน แต่ก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ น้ำลึกเพียงเอว ก้มตัวลงไป เอาแขน 2 ข้างจุ่มลงไปด้วย พอจุ่มลงไปนั่งพับแล้วก็ลุกขึ้นมาชูพระขึ้นมา ติดมือมา 3 องค์




    อีคราวนี้เองแหละท่านผู้บังคับหมวดบ้าง ผู้บังคับหมู่ และบรรดาสารวัตรทั้งหลาย ไม่มีใครถอดเครื่องแบบ โดดกันตูมตามๆ เป็นอันว่าทุกคนได้พระกันหมด คนละองค์เดียวบ้าง 2 องค์บ้าง 3 องค์บ้างตามอัธยาศัย ควานกันใหญ่ ไม่มีใครหนาวก็เลยดีใจที่ไม่ถูกเตะ แล้วดีใจที่หลักฐานของบรรดาท่านพ่อทั้งหลายนี่ หรือว่าท่านแม่ทั้งหลายด้วย ขอเรียกทั้งพ่อและแม่ เพราะท่านมีความดีมาก บอกให้เป็นความจริง นี่แสดงว่าท่านยืนยันความจริงในสมัยก่อน นี่สัจจธรรมประเภทนี้คือความจริง น่าจะเคารพกันเข้าไว้ เราจงอย่าคิดว่าเราเป็นคนสมัยใหม่ มีความรู้เกินสมัยเก่า นี่ผีมีความรู้ดีกว่าเรา


    แล้วต่อมาก็มาที่สุโขทัย ไม่รู้จะไปไหนดี ไม่เคยไป รถเขาพาเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์บอกว่าไปที่พิพิธภัณฑ์ก่อน พอไปถึงพิพิธภัณฑ์ก็ไปถามหาเจ้าหน้าที่ ว่าใครเป็นหัวหน้า เขาก็พามา คนนี้เป็นเปรียญ แล้วเป็นอดีตเจ้าคณะอำเภอ เคยเป็นพระครู สึกออกมาเป็นเจ้าหน้าที่ศิลปากร ถามว่านี่คุณ เคยเป็นพระใช่ไหม ตานั่นมองหน้า ถามว่าท่านทราบรึ ตอบว่าท่าทางมันบอกยี่ห้อ คนเคยเป็นพระมาละยี่ห้อมันมี เข้าวัดเข้าวาหรือเข้าพระสนิทสนม บอกว่าใช่ครับ ผมเป็นเปรียญ แล้วก็เป็นพระครู และเป็นเจ้าคณะอำเภอ

    เลยถามว่าสึกทำไม ทำไมไม่เป็นให้มันตลอดไป เป็นพระแล้วนี่ แกบอกว่าเห็นท่าว่าดีไม่พอ อารมณ์ดีไม่พอจึงสึก ถ้าขืนอยู่ไปมันก็ขาดทุน เราจะทำตนอย่างพระจัญไรที่บวชเข้าไปแล้วหวังความร่ำรวย หวังยศฐาบรรดาศักดิ์ ยังงั้นผมทำกับเขาไม่ได้ขอรับ แล้วมาสมัยนี้ พระระดับปกครองไม่ค่อยจะดี แกว่ายังงั้น มันจะไม่รักษาพระธรรมวินัย ถามว่าพระที่ไหน ก็ตอบว่า มีหลายท่าน เวลานี้ตายไปบ้างแล้ว พ้นตำแหน่งไปบ้างแล้วก็มี ผมอยู่กับเขาไม่ได้นี่ เขาทำไม่ดีแบบน้นผมสึกดีกว่า มารับจ้างรัฐบาลกิน ได้เท่าไรก็พอ ไม่กินเหล้าเมายาเสียอย่าง มันก็หมดเรื่อง แกก็ดีเหมือนกัน เลยถามว่าลุง ไอ้วัดต้นจันทน์น่ะมันมีไหม แกขอกว่ามีขอรับ มี ๆ มันอยู่ลึกเข้าไป แกหยิบหนังสือมาก็มีแผนที่ เออ เอาเข้าแล้ว เอาเข้าหนึ่งแล้วซี เรื่อของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์

    แล้วเลยถามว่า ถ้าอย่างนั้นละพระวัดต้นจันทน์เคยปรากฏไหม พระเครื่อง บอกมีครับ เวลานี้เขาเอาพระในกรุวัดต้นจันทน์ออกมาจำหน่ายองค์ละ 50 บาท ยังมีอยู่ที่พิพิธภัณฑ์นี้มาก นี่ๆ ตรงนี้ยังไงล่ะครับ พระวัดต้นจันทร์ แก็พาไปดูที่เขาวางโชว์เข้าไว้ เห็นตรงกับภาพที่เขียน คือเป็นพระหน้าจั่วแบบนางพญา แต่ขนาดใหญ่หน่อย เลยเชื่อได้ว่า อ๋อ ที่ท่านพ่อขุนศรีอินทราทิตย์พูดน่ะจริงนะ เป็นเรื่องจริงๆ ไม่ใช่โกหก อีตอนนั้น ที่ท่านบอกว่าอาตมาเป็นพระชื่อว่าหลวงตาศรีน่ะ หัวล้านหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ต่อมาภายหลังท่านเรียกว่าศรีเมืองมานคือว่าเคยรับตำแหน่ง เขาเรียกว่าพ่อขุนศรีเมืองมาน แต่ความจริง คงจะไม่ใช่ศรีเมืองมานคงจะเป็นศรีหัวล้าน เพราะเวลานี้หัวล้านนี่ คงจะเป็นยังงั้น แล้วก็เป็นพระ บวชเมื่ออายุ 40 ปี เพราะว่าอีตอนนั้นชายาคือว่า...เอาอย่างงี้ก็แล้วกัน คนคู่บารมีที่เป็นหญิง ท่านตายไปเสียก่อน ก็เลยเป็นพ่อม้ายมา 5 ปี แล้วจึงได้บวช บวชแล้วก็ตั้งตนเป็นใหญ่ ความจริงพระนี่ก็ใหญ่ นั่งสูงกว่ากษัตริย์



    [​IMG]
    (สมเด็จนางพญาเสน่ห์จันทน์ กรุวัดต้นจันทร์ สร้างโดยหลวงตาศรี สมณศักดิ์ของท่านคือ สมเด็จมหาศรีกิรติฯ พระสังฆราชในสมัยสุโขทัย)


    ก็เลยคุยกันไปว่าคนในสมัยนั้นน่ะ เวลาที่เขาปกครองประเทศชาติ เวลาปกครองประชาชนนี่ เขาทำกันยังไง ท่านก็คุยให้ฟัง อีตอนนี้มันคุยกันตรงไหนล่ะ ไปเห็นพระวัดต้นจันทน์เข้าแล้วนี่ มีวัดต้นจันทน์ด้วยก็เลยหาที่เงียบๆ บอกท่านเจ้าคณะอำเภอเก่าคนนั้นว่า มีเตียงผ้าใบไหม ท่านบอกว่ามี ถามทำไม ? มันเมื่อยก็อยากจะเอนสักหน่อย ท่านก็หามาให้ไปตั้งอยู่ที่มุมเงียบ ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะนอน จะคุย แล้วบอกคนอื่นว่า ใครอยากจะชมที่ไหนก็ตามอัธยาศัย ฉันนอนตรงนี้แหละ จะกลับเมื่อไรก็บอกด้วยนะ ถ้าไปก่อน ฉันเดินไม่ไหว เขาก็เลยปล่อยให้นอน

    ความจริงก็ไปนั่งคุยกัน เพราะท่านผู้ใหญ่สุโขทัยไปพบกันมาก แกเลยทำพิธีการ คือพากย์ เหมือนฉายภาพยนตร์ให้ดูว่าการปกครองคนทำแบบไหน การเข้าถึงคนทำแบบไหน และความรู้สึกของใจแต่ละท่านที่เป็นนักปกครอง ท่านทำให้ดูชัดสมัยนั้นไม่มีพรรค เป็นคนกลุ่มเดียวกัน นักปกครองทำตนเป็นเพื่อนกับประชาชน แล้วมักจะเข้าถึงประชาชนที่วัด วัดเป็นศูนย์จุดกลางใจของคน ท่านทำความสนิทสนมกับพระ ไปพบพระอยู่เสมอ พบพระแล้วพบคน ส่วนใหญ่มักจะเลือกไปในวันพระหรือวันเทศกาล เวลาไปทุกท่านไม่ทำตัวเป็นเจ้า ทำตัวเป็นเพื่อนกับคนทุกคน นั่งคุยได้กลางลานวัด ไม่ต้องปูเสื่อ คนคุยล้อมรอบ มีหลายท่านเป็นนับขบขันโดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อขุนศรีอินทราทิตย์นี่เก่ง บรรดาพระญาติพระวงศ์ของพระองค์ก็เก่ง เก่งมาก คุยแบบกันเองเฮๆฮาๆ ดีไม่ดีก็นอนเขลงลงไปกลางสนามหญ้ากับพวกประชาชน คนไทยชอบใจ เพราะไม่มีใครเขาถือตัว ถือว่าเป็นเพื่อน ความจริงไม่ใช่ เป็นพ่อ

    แล้วท่านก็แสดงภาพของพ่อขุน ขุนอะไร เชียงแสน พ่อขุนเสลา พ่อขุนผาเมือง นึกไม่ออกต้องไปไล่พ่อขุนเสลาขึ้นมาก่อน ตอนนั้นก็เป็นนักรบชั้นเยี่ยม ท่านมาหากันเสมอนี่ มาถึงก็ทำท่านั้นแหละ ลีลาของพ่อขุนผาเมือง ก็ไม่ต่างอะไรกับพ่อขุนบางกลางท่าว พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เข้าสนิทสนมกับประชาขนพลเมือง คุยกันไปคุยกันมาแบบนั้น เป็นการช่วยกันป้องกันขอม นี่คนสมัยนั้นเขาไม่มีพรรค เขามีแต่พวก คือเป็นพวกเดียวกัน ใจก็เป็นกำลังใจกลุ่มเดียวกัน จะว่าระบบราชาธิปไตยเป็นระบบกดขี่ข่มเหงคน มันไม่ถูก นี่ราชาธิปไตยกลายเป็นประชาธิปไตยไป

    ถามท่านว่าเวลาจะรบเวลาจะรับ หรือเวลาจะปกครองจะทำยังไงกัน ทำให้ประเทศชาติทรงตัวอยู่ได้ ตอบว่าก็ต้องประชุมกัน ประชุมกระทั่งพ่อบ้าน คือ กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านประชุมหมด นี่เป็นผู้แทนราษฏรจริงๆ หาความเห็นจากท่านเหล่านั้น แล้วก็ออกไปตามศาลาวัดอีก ไปเข้าถึงประชาชน ขอความคิดขอความเห็น คุยกันแบบกันเอง ก็จะได้ความคิดความเห็นที่ถูกต้อง เป็นการไม่ขัดกับอัธยาศัยของคนไทย แล้วก็เป็นไปเพื่อความเจริญ เข้าถึงความจริงทุกอย่าง แบบนี้น่าเลียนแบบไหมประวัตศาสตร์ นี่เราพูดกันถึงแค่นี้พอทีละมัง ต่อไปนี้ก็ยังไม่เดินไปซี เดินมาชนเอานครสวรรค์ ก็เอาแค่นี้ก่อน




    (จากหนังสือ " ล่าพระอาจารย์และท่องเชียงแสน " หน้า 164-170)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2016
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    หนังสือของป้านิภาเล่มแรกนี้มีอยู่ 3 ส่วนคือ ก่อนพบท่านพระราชพรหมยาน, ท่องเที่ยวในอเมริกา และ สู่ทางสายธรรม(เขียนโดยพี่เล็กลูกสาวป้านิภา) ผมจะทยอยนำมาลงครบทั้งเล่มนะครับ



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]
     
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]
     
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    จบในส่วน " ก่อนพบท่านพระราชพรหมยาน "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2014
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    ในเรื่องนักเทศน์เก่า ยังมีอีกตอนที่ผมยังไม่ได้นำมาลงเสียแต่ทีแรกเพราะเห็นว่าในธัมมวิโมกข์ฉบับไม่นานมานี้เคยนำมาลงเอาไว้แล้ว คือตอน " พบพระกาฬ "แต่ลงไม่ครบทั้งเรื่อง ขาดไปเสียแต่ตอนท้าย แต่มาคิดว่ามีหลายท่านไม่มีโอกาศได้อ่านธรรมวิโมกข์ประจำ เลยขอนำเรื่องนี้มาลงกันที่นี้ไว้อีกเรื่องครับ


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    (จากธัมมวิโมกข์ฉบับรวมเล่ม ปีที่ 1 * 2523 * 1-8 หน้า 433-436)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2015
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    หลวงพ่อเล่าถึงยา " พระประทาน " ลองอ่านกันดูนะครับ

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2015
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    DSC00352.jpg


    DSC00357.jpg


    DSC00358.jpg

    DSC00364.jpg

    (จากสนทนาที่สายลม ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 131 มกราคม 2535 หน้า 81-87)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2021
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    เทปวิดีโอ " อิริยาบถหลวงพ่อ " นำไปแปลงเป็นดีวีดีแล้วมาถ่ายลงยูทูป ต้องแบ่งเป็น 3 คลิปตามไฟล์ที่บันทึกในแผ่นดีวีดีครับ ผมไม่สามารถนำมาลงรวมต่อเนื่องกันในคลิปเดียวได้ และตอนท้ายที่หลวงพ่อเทศน์ก็ไม่สามารถโหลดลงยูทูปได้อีกเช่นกัน โหลดแล้วเกิด error หลายรอบแล้วครับ เอาเป็นว่าดูเพียงอิริยาบถหลวงพ่อแล้วกันนะครับ เป็นภาพหาดูยากชุดนึงทีเดียว


    <object width="480" height="360"><param name="movie" value="
    "></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="
    " type="application/x-shockwave-flash" width="480" height="360" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>


    <object width="480" height="360"><param name="movie" value="
    "></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="
    " type="application/x-shockwave-flash" width="480" height="360" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

    <object width="480" height="360"><param name="movie" value="
    "></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/-NWl6Iur24o?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="480" height="360" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2020
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <object width="480" height="360"><param name="movie" value="
    "></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="
    " type="application/x-shockwave-flash" width="480" height="360" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>


    หลวงพ่อเทศน์ในวันมาฆบูชา ตอนท้ายคลิปหลวงพ่อเ่ล่าเรื่องหลวงปู่โตให้ฟัง สนุกทีเดียวครับ ลองชมกันดูครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2020
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528


    มาฟังหลวงพี่นันต์ท่านสวดให้พรกันครับที่บ้าน พล.อ.อ.อาทร โรจนวิภาต เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2556
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2021
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    เป็นส่วนที่ 2 " ท่องเที่ยวในอเมริกา " ของหนังสือป้านิภา มีเกร็ดความรู้หลายเรื่อง

    ผมเคยขอกับท่านประธานาธิบดีลินคอลน์และถวายเครื่องสังฆทานที่ท่านบอกแก่ป้านิภาแล้วสำเร็จผลมาครับ แต่เป็นเรื่องที่มีเหตุเกี่ยวกับเรื่องในประเทศอเมริกานะครับ ใครอยากลองขอกับท่านก็สามารถลองดูได้ครับ



    DSC00381.jpg


    DSC00383.jpg


    DSC00386.jpg

    DSC00388.jpg


    DSC00390.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2020
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    จบส่วนที่ 2 ของหนังสือป้านิภา ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2014
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2014
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2020
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แหวนเพชรลพบุรี ก็คือแหวนจักรพรรดิ์ ครับ

    แหวนเพชรลพบุรีรุ่นแรกปลุกเสกพร้อมกับเหรียญขวัญถุงหรือเรียกว่าเหรียญมหาลาภรุ่น 2 เมื่อวันมาฆะบูชา 12 กุมภาพันธ์ 2530 ตรงกับวันพฤหัสบดี ก่อนวันงานพิธีสะเดาะเคราะห์และต่ออายุ(เผาศพจำลอง) 14-15 กุมภาพันธ์ 2530

    มีคนถามถึงแหวนเพชรลพบุรีและหลวงพ่อได้เล่าถึงการปลุกเสกแหวนเพชรลพบุรีเอาไว้ดังนี้ครับ




    [​IMG]

    [​IMG]


    (จากหลวงพ่อตอบปัญหา ธัมมวิโมกข์ มีนาคม 2530)


    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...