รวบรวมพระเครื่อง ของ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดินครับ (ที่สุดยอดเหรียญหล่อมหาเศรษฐี )

ตะกรุดไมยราพสะกดทัพพอกผงยา อันนี้ก็นิยมมาก พระที่ไม่มีการโปรโมต เขาเรียกว่าเสือซุ่มครับ

 

พระหลวงพ่อทรง ใครที่ชอบรอยจารก็ดี ไม่ชอบก็ดีครับ แล้วแต่ความพอใจครับ แต่ผมไม่ชอบเพราะผมสมสารท่าน ท่านอายุมากแล้ว สายตาก็ไม่ดี ยังต้องมานั่งจารพระให้อีก แต่ถ้าท่านเต็มใจจาร ก็แล้วแต่ท่านครับ



...หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ..มีรายละเอียด ดังนี้..
... ตะกรุดแม่ทัพ ถือเป็นตะกรุด หรือเครื่องรางอันทรงคุณวิเศษเหมาะแก่ขุนทหาร ข้าราชการ หรือสุภาพบุรุษทั้งหลาย เป็นที่เกรงขาม เกรงใจ มีอำนาจ วาสนามาก มีอุดมโภคทรัพย์มาก ..ที่สำญ.. ล.พท่านจารเอง ทุกดอก .. เป็นตะกั่วยาว 5 นิ้ว ตอกโค๊ต 3 แห่ง .ลงนะดวงแก้วพระสิวลี ..โค๊ต 83 ปี .. และชือล.พ...ทรง.. ตอกเลข ทุกดอก.. จำนวนสร้างเพียง 454 ดอก..อันนี้ก็ของดีครับ ขอบอก แต่ไม่มีใครรู้จัก เพราะไม่มีโปรโมต 555

 

เหรียญเต่าใหญ่ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน จ.อ่างทอง

มีหรือยังครับ ? พลาดหรือเปล่า

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
เหรียญเต่าใหญ่ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน จ.อ่างทอง</TD></TR></TBODY></TABLE>
วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักสะสม ได้แก่ "เหรียญเต่าใหญ่ หรือ เหรียญเต่าจัมโบ้" ของ หลวงพ่อทรง หรือ พระครูสุภัทรธรรมโสภณ อดีตเจ้าอาวาส วัดศาลาดิน ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง พระเถราจารย์ที่มีชื่อเสียงด้านการปลุกเสกวัตถุมงคลรูปหนึ่ง แม้ปัจจุบันท่านจะละสังขารไปแล้วก็ตาม

วัตถุมงคลที่หลวงพ่อทรงปลุก เสกนั้น ปัจจุบันเป็นที่นิยมเช่าหาในวงกว้าง ไม่เพียงแต่ศิษยานุศิษย์เท่านั้น ทั้งนี้ เพราะเชื่อพุทธคุณในวัตถุมงคลของท่าน ปรากฏผลแก่ผู้เลื่อมใส ศรัทธา มีประสบ การณ์กล่าวขานไม่รู้จบ โดยเฉพาะด้านทำมาค้าขาย เมตตามหานิยมด้วยแล้ว ยิ่งเห็นผลชัดเจนนัก จึงเป็นวัตถุมงคลที่เหมาะสมกับยุคสมัยนี้ ที่ภาวะเศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก

หลวงพ่อทรง ท่านได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมจากพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงยุคเก่า มากมายหลายรูปด้วยกันเช่น หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ, หลวงพ่อภัตร์ วัดโบสถ์ จ.อ่างทอง, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์, หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ และหลวงพ่อชวน วัดยางมณี ท่านจึงมีสมาธิจิตแกร่งกล้า ชำนาญในญาณสมาบัติ และปลุกเสกวัตถุมงคลได้ขลังนัก วัตถุมงคลที่ท่านสร้าง เช่น พระกริ่งบาเก็ง พระกริ่งนวโกฏิ และพระนักธรรม ล้วนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
<SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1590357468802909";/* 180x150, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 1/18/09 */google_ad_slot = "6286807148";google_ad_width = 180;google_ad_height = 150;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-RIGHT: 0px; BORDER-TOP: medium none; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 180px; PADDING-TOP: 0px; BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; HEIGHT: 150px"><INS style="BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-RIGHT: 0px; BORDER-TOP: medium none; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 180px; PADDING-TOP: 0px; BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; HEIGHT: 150px"><IFRAME id=google_ads_frame1 style="LEFT: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px" name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1590357468802909&output=html&h=150&slotname=6286807148&w=180&lmt=1254967544&flash=10.0.22.87&url=http%3A%2F%2Fwww.tumsrivichai.com%2F%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%2F%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%258D%25E0%25B9%2588-%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2587-%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2599-%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.google.co.th%2Fsearch%3Fhl%3Dth%26q%3D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2581%2B%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2587%26meta%3D&dt=1254967544104&correlator=1254967544120&frm=0&ga_vid=432987136.1254967544&ga_sid=1254967544&ga_hid=337332266&ga_fc=0&u_tz=420&u_his=10&u_java=1&u_h=800&u_w=1280&u_ah=800&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=515&bih=180&fu=0&ifi=1&dtd=62&xpc=79OY6n6eXS&p=http%3A//www.tumsrivichai.com" frameBorder=0 width=180 scrolling=no height=150 allowTransparency></IFRAME></INS></INS>
กล่าวสำหรับเหรียญเต่าใหญ่ หรือเหรียญเต่าจัมโบ้ ถือเป็นเหรียญหลักอีกรุ่นหนึ่งของท่าน ด้วยมีขนาดใหญ่กว่าเหรียญเต่าเรือนทั่วไป แกะแม่พิมพ์ได้สวยงาม ทำได้คล้ายหลวงพ่อทรงมาก วางอักขระยันต์ได้ถูก ต้องตามตำราโบราณ

เหรียญเต่าใหญ่ หลวงพ่อทรง นี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2549 หลวงพ่อทรงปลุกเสกตลอดไตรมาส สร้างด้วยกันทั้งหมด 3 เนื้อ คือ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ ตอกโค้ด และหมายเลขกำกับไว้ ส่วนเนื้อทองแดง ตอกโค้ดอย่างเดียวไม่มีหมายเลข มีพุทธคุณสูงในด้านเมตตา ค้าขาย บรรดาพ่อค้า แม่ขายนิยมเสาะแสวงหาติดตัวกันมาก เชื่อว่า ใครมี เหรียญเต่าจัมโบ้ หลวงพ่อทรงบูชาติดตัวแล้ว จะค้าขายของดี มีโชคลาภ เข้ามาเรื่อยๆ จะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีเงิน มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย

ถือเป็นเหรียญเต่าเรือนรุ่นใหม่ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ "เหรียญเต่าเรือน" ของ "หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง" เลยทีเดียว
ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด คอลัมน์ เปิดตลับพระใหม่

 

แล้วนี่หล่ะ มีหรือยัง ?


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ผ้ายันต์ไหว้ครู-พัดโบก หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2550 เวลา 22.50 น. "หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี" พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดศาลาดิน ผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในพุทธาคม ได้ถึงแก่กาลมรณภาพลงอย่างสงบ สิริอายุได้ 83 ปี 63 พรรษา ณ โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ

ก่อนหน้านั้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2549 "หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน" และคณะกรรมการวัด ได้ตกลงปรึกษากันว่าจะจัดให้มีพิธีไหว้ครูขึ้น ในวันสงกรานต์ที่ 13 เมษายน 2550 ซึ่งถือเป็นงานไหว้ครูครั้งแรกของวัดและของหลวงพ่อ

"หลวงพ่อทรง" ท่านบอกให้สร้างผ้ายันต์ขึ้น 2 ชนิด เพื่อจะเสกและออกจำหน่ายในวันไหว้ครู ในตอนนั้นสุขภาพท่านยังแข็งแรงมาก โดยท่านออกแบบลายยันต์ในผ้าทั้งหมด กำชับว่าให้ทำผ้ายันต์ทั้ง 2 แบบให้เสร็จโดยเร็ว จะเอาไว้เสกนานๆ หน่อย โดยผ้ายันต์ผืนใหญ่ หรือผ้ายันต์พัดโบก หรือผ้ายันต์โบกขรพัตรนั้น ท่านปลุกเสกด้วยวิชาจินดามณี และวิชาด้านการเสริมดวงชะตา และผ้ายันต์ไหว้ครู ท่านได้ปลุกเสกโดยรวมสายวิชาของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้เล่าเรียนมาจนครบถ้วน

"ผ้ายันต์พัดโบก" หลวงพ่อทรง วัดศาลาดินมีขนาดใหญ่กว้าง 20.5 นิ้ว ยาว 32 นิ้ว มีหลายสี คือ สีขาว (ผ้าบังสุกุลเป็น) สีเหลือง (สีวันพ่อ) สีจีวร, สีฟ้า, สีเขียว และสีน้ำตาล มีลวดลายสวยงามมาก เรียกว่า รวมสรรพมงคลของสายวิชาหลวงพ่อไว้ครบถ้วน คล้ายท่านจะสร้างไว้เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ ลวดลายและพระยันต์ บนผ้ายันต์พัดโบกนั้น หลวงพ่อทรงท่านออกแบบเองทั้งหมด

หากใครได้เรียนทางพุทธาคม แล้วจะรู้ว่าเป็นการออกแบบอย่างรู้จริง และรู้ลึกยิ่งนัก เพราะสวยงามด้วยเทวศิลปและอุดมด้วยพุทธาคม ท่านให้เขียนเป็นรูปเทวดา 2 องค์ เชิญผ้ายันต์ มีรูปหลวงพ่อทรง นั่งอยู่ตรงกลางภาพ พญานาค 4 ตน ขนดตัวเป็นยันต์จินดามณี หลังหลวงพ่อ, ด้านบนศีรษะท่านเป็นยันต์ประทีปพระพุทธเจ้า แวดล้อมด้วย อิติปิ โส มงกุฎเพชรและมงคลจักรวาล ด้านล่างเป็นหงส์ทอง และยันต์ดอกบัวบาน ที่ท่านให้เอาไปใส่ไว้ในหลังเหรียญน้ำมนต์ของท่าน

ล่างสุดเป็นสัตว์พาหนะ คือเต่าและจระเข้ ซึ่งเป็นวิชาที่ท่านเลือกนำมาสงเคราะห์คน มีข้อความอ่านโดยรวมว่า "ผ้ายันต์โบกขรพัตร (พัดโบก)" ของหลวงพ่อทรง ฉันทโสภี วัดศาลาดิน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง บูชาอยู่กับบ้านเป็นสิริมงคล เจริญโภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรือง ค้าขายร่ำรวย ทั้งเป็นเมตตามหานิยม จะนำมาซึ่งสิ่งไชยมงคล ไชยลาภา มีแต่ความเจริญ จงตั้งปรารถนาเอาเถิด

สำหรับผ้ายันต์ไหว้ครูและผ้ายันต์พัดโบก ซึ่งถือว่าเป็นมรดกทางวัตถุชิ้นสุดท้าย ที่หลวงพ่อทรงสร้างทิ้งไว้ให้ศิษย์ที่เคารพนับถือ ยังมีให้ทำบุญที่วัดศาลาดินได้ ผ้ายันต์ไหว้ครู บูชา 300 บาท ผ้ายันต์พัดโบก บูชา 500 บาท ร่วมบุญบูชาได้เลยที่ วัดศาลาดิน ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง 14110
คอลัมน์ ซูมโฟกัส
เซียนบ้านดอน ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด

 

ของดีๆ ของมีประสบการณ์ ของหลวงพ่อทรง มีลงหนังสือพิมพ์ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ที่เกิดประสบการณ์ แต่คนส่วนน้อยไม่ได้อ่าน เลยพลาดของดี ที่ไม่มีการโปรโมตไปครับ

 

เหรียญหล่อหน้าเสือ จัมโบ้ ขนาดใหญ่ เนื้อชนวนเก่าผสม ใช้ชนวนเก่าจากพระของหลวงพ่อทั้งหมดล้วนๆ ปลุกเสกนานจนหลวงพ่อบอกว่า เสกไม่เข้าอีกแล้ว มหาอำนาจ เมตตามหานิยม กันเขี้ยวงา มีหรือยัง สร้างน้อยนา ไม่ต้องรอครับ หาได้ก็บูชาเก็บกันได้เลย

 

หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน เสือหล่อรุ่นแรก เนื้อชนวนผสม

มหาอำนาจ ตบะและเดชะ หากินคล่องแคล้ว มีฤทธิ์ มีเดช เป็นเจ้าคน นายคน

 

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smallfont vAlign=bottom align=middle></TD><TD class=smallfont vAlign=bottom align=middle></TD><TD class=smallfont vAlign=bottom align=middle></TD></TR><TR><TD class=smallfont vAlign=bottom align=middle></TD><TD class=smallfont vAlign=bottom align=middle></TD><TD class=smallfont vAlign=bottom align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

ตะโพน เนื้อเงิน หลวงพ่อพ่อทรง วัดศาลาดิน ของแท้ มีการสร้างที่ชัดเจน ที่วัดออกใบโบชัวร์สั่งจอง มีการนำไปลงหนังสือพระเกจิ มีญาติโยมไปกันมากในพิธีนี้ ไปกันเต็มวัด แน่นขนัด

ที่มีการจัดสร้างจริง พิธีใหญ่ปลุกเสกใหญ่ที่วัด ขนาดตัวครู ตัวใหญ่ หนังกลองแท้ หลวงพ่อท่านจารลงหนังกลองทุกอัน แต่ที่ให้บูชา เป็นตัวลูก สำหรับใส่ติดตัว

สร้างจากแผ่นยันต์เงินพดด้วง 88 แผ่น ซึ่งหลวงพ่อทรงนั่งลงจารย์ลงยันต์โภคทรัพย์ทั้งสิ้น ผสมกับเงินพดด้วง 9 ตราเก่า เพราะถือเคล็ดว่า เงินต่อเงิน ทองต่อทอง ต่อกำไร ต่อฐานนะ ไปไม่มีที่ส้นสุด ลูกหนึ่งหนักประมาณ 5 บาท ..เนื้อเงินจำนวนสร้างเพียง 183 ลูก ตอกโค๊ต คำว่า ..ทรง.. และรูปศาลา ไว้ที่หน้าตะโพน เป็นสัญญลักษณ์ อีกอย่างของวัด ที่ไม่มีใครรู้..สภาพคัดสวยๆ..จากวัด.

ขนาดเล็กพกพาติดตัว ตัวจริง หายากสุดๆๆๆ เมตตามหานิยม ชื่อเสียงโด่งดัง เหมือนตะโพนยิ่งตียิ่งดัง ส่วนมากพวกลิเกนิยมพกพาติดตัวไว้ใช้ครับ ตะโพน หลวงพ่อทรง นับเป็นเครื่องรางที่ถือได้ว่าสุดยอด ด้านเมตตา มหานิยม สมัยหลวงพ่อยังไม่มรณะภาพ มีคณะลิเกไปเล่นที่วัด แล้วไม่มีคนดู หลวงพ่อสงสารเลยได้ลงอักขระไว้ที่กลองตะโพนคณะลิเกคณะ นั้นได้กลายเป็นคณะลิเกโด่งดังถึงทุกวันนี้ ถือว่าเป็นเครื่องรางที่ชาวอ่างทอง เสาะหากันมากแต่หายากเหลือเกินครับ

ตะโพนนี่เป็นเครื่องดนตรีเอก จะขึ้นก่อนเครื่องดนตรีชนิดอื่น แม้จะเล็กกว่าเขาก็ตาม แต่เสียงและจังหวะดังเร่งเร้ากระตุ้นจิตใจให้คนสนใจให้คนดู เป็นเคล็ดอย่างหนึ่ง...ว่าดังเป็นหนึ่ง เป็นเมตตามหานิยม ดนตรีเองก็เป็นเมตตามหานิยมอยู่แล้ว มากกว่าทุกศาสตร์อีก เพราะฟังได้ทุกชาติ ศาสนา

พวกนักการเมือง ผู้ใหญ่แถวอ่างทอง วิเศษ จะมีตะโพนหลวงพ่อทรงติดตัวแทบทั้งสิ้น ไชยามิตรชัย พระเอกลิเกชื่อดัง ยังพกตะโพนลูกนี้ติดตัวทุกวันนี้ครับ

หลวงพ่อทรง ท่านเป็นพระที่ทรงอภิญญาจิตชั้นสูง เรียบง่ายและสมถะ วิชาเด็ดของท่านนอกจากเบี้ยแก้ที่มีพุทธคุณสูงเป็นที่ประจักษ์มานานแล้ว ยังมีอีกวิชาหนึ่งที่เรียกว่าโด่งดังไม่แพ้เบี้ยแก้ของท่านก็คือ "ตะโพน" บางทีก็เรียกว่า "กลองตะโพน" "ตะโพนเรียกคน"

หลวงพ่อทรงเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนแรกเริ่มเดิมทีคณะลิเกหอมหวลนั้น ยังเป็นคณะลิเกเร่รอนไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเปิดการแสดง แต่เนื่องจากชื่อเสียงยังไม่เป็นที่รู้จักจึงทำให้มีคนมาชมการแสดงในแต่ละรอบน้อยมาก เมื่อคณะลิเกหอมหวลเดินทางมาถึงจังหวัดอ่างทอง สมัยนั้นชื่อเสียงของหลวงพ่อพักตร์นั้นเป็นที่รู้จักกันดี หัวหน้าคณะจึงเข้านมัสการและขออนุญาตท่านเพื่อจัดการแสดงลิเกที่วัดโบสถ์ ซึ่งท่านก็อนุญาตตามนั้น คณะลิเกหอมหวลจึงตั้งโรงลิเกขึ้นและเริ่มการแสดงในวันถัดมา ปรากฎว่าผ่านไป 3 วันแล้วก็ยังมีผู้ชมมานั่งชมการแสดงในแต่ละคืนน้อยมาก จนหัวหน้าคณะเริ่มถอดใจและคิดจะย้ายโรงลิเกไปแสดงยังสถานที่อื่นต่อไปจึงได้ขึ้นมากราบเรียนความประสงค์ให้ท่านทราบ หลวงพ่อท่านมีความเมตตาจึงบอกหัวหน้าคณะว่าให้ไปนำตะโพนมาให้ท่านแล้ววันรุ่งค่อยมานำกลับคืนไป หัวหน้าคณะจึงนำตะโพนลูกเดียวของคณะไปให้ท่าน พอวันรุ่งก็ได้ไปรับกลับมาซึ่งหลวงพ่อท่านย้ำว่า ให้ออกแขก (การแสดงเริ่มต้นเพื่อเปิดโรง)

ตั้งแต่เย็นแล้วบรรเลงดนตรีไปเรื่อย ๆ แล้วจะมีคนมาดูเอง หัวหน้าคณะเมื่อได้ยินดังนั้นก็ไม่เชื่อเท่าไหร่ เพราะปกติการออกแขกจะนิยมเริ่มแสดงตอนหัวค่ำถ้าเริ่มตอนเย็นแล้วใครจะมาดูเย็นวันนั้นด้วยความอยากรู้ว่าหลวงพ่อท่านนั้นจะเก่งเหมือนที่ใคร ๆ ว่ากันหรือเปล่า จึงสั่งให้คณะลิเกของตนเริ่มออกแขกตั้งแต่เย็นและให้บรรเลงดนตรีไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาเริ่มแสดงจริงตอนหัวค่ำ ปรากฎว่าเย็นวันนั้นเสียงตะโพนที่บรรเลงนั้นได้ยินไปไกลหลายหมู่บ้าน เสียงนั้นดังนุ่มนวลและมีพลัง ทำให้ผู้คนที่ได้ยินเสียงมีความเคลืบเคลิ้มจนต้องเดินทางมาชมการแสดงในเย็นวันนั้น ประมาณว่านั่งไม่ติดแล้วยังจูงลูกจูงหลานมานั่งชมการแสดงลิเกอีกด้วย จากเมื่อเย็นคนมาไม่กี่คนพอหัวค่ำปรากฎว่ามีคนมานั่งชมการแสดงกันมากมาย เรียกได้ว่าตั้งแต่ตั้งคณะลิเกมาไม่เคยมีคนมานั่งชมมากแบบนี้มาก่อน ผ่านไปหนึ่งวันหัวหน้าคณะก็ยังไม่เชื่อว่าเกิดจากตะโพนที่หลวงพ่อท่านปลุกเสกให้ พอวันที่สองก็สั่งให้คณะเริ่มการแสดงเหมือนวันแรกก็ปรากฎว่าไม่มีอะไรผิดเพี้ยนจากวันแรก และก็ลองอีกในวันที่สามผลก็ออกมาเช่นเดิมที่น่าแปลกใจก็คือขนาดฝนตกผู้ชมก็นั่งชมการแสดงแบบไม่ยอมกลับกันเลย แม้ว่าฝนจะตกแต่ก็ยังนั่งทนเปียกกันอย่างนั้น พอรุ่งเช้าวันที่สี่หัวหน้าคณะพร้อมนักแสดงในคณะก็เลยพากันมากราบลานมัสการและขอบคุณหลวงพ่อและกราบเรียนให้ท่านทราบว่าในวันรุ่งคณะลิเกจะย้ายไปจัดแสดงยังสถานที่อื่นต่อไป

พอวันรุ่งทั้งคณะก็มากราบลาท่านด้วยความเคารพรัก หลังจากนั้นไม่นานชื่อเสียงของคณะลิเกหอมหวลนั้นก็เริ่มโด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ จนคณะลิเกอื่น ๆ ในสมัยนั้นทราบข่าว ต่างก็พากันมาฝากตัวเป็นศิษย์และนำตะโพนของคณะมาให้หลวงพ่อท่านเสกกันมาก และปรากฎว่าทุกคณะก็มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น จากเหตุนี้เองทำให้งานประจำปีของหลวงพ่อท่านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจะมีคณะลิเกไปตั้งโรงแสดงเพื่อเป็นการบูชาคุณหลวงพ่อท่าน

และจากประสบการณ์ที่เลื่องลือเกี่ยวกับตะโพนของหลวงพ่อท่านทำให้คนพื้นที่แถววัด โดยเฉพาะเด็กหนุ่มจะมาคะยั้นคะยอให้ท่านจัดสร้างตะโพนขนาดเล็ก (บางคนเรียก "ลูกกลอง" ไว้ให้ลูกหลานได้ใช้กัน ทุกวันนี้หายาก

หลวงพ่อทรงจึงได้จัดสร้างตะโพนที่รับการถ่ายทอดมาจากอาจารย์ ให้ศิษย์ไว้ใช้ ตะโพนหลวงพ่อทรงนั้นเป็นที่ประจักษ์เรื่องมหาลาภ เมตตาและมหานิยมอย่างเอกอุ เลื่องลือมาแต่โบราณแต่ด้านอื่น ๆ ก็ครบเครื่องชายชาตรี ว่ากันว่าตะโพนของท่านนั้นเป็นเครื่องรางที่สร้างได้ยาก และจะหาคนสร้างได้ขลังแบบท่านเป็นไม่มีแล้ว ที่สำคัญไม่มีของอะไรแก้ได้ เหตุเพราะท่านพิถีพิถันตั้งแต่การจัดสร้างและปลุกเสก

สำหรับผู้ที่มีวาสนาได้ครอบครองตะโพนของท่านให้ว่าพระคาถานี้ทุกวันจะประสิทธิเมครับ นะโม (3 จบ) พุทธัง รัตตะนัง ธัมมัง รัตตะนัง สังฆัง รัตตะนัง ลูกนี้สภาพสวยไม่เคยได้ใช้

ตลาดพระ ตลาดพระเครื่อง พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง วัตถุมงคล สำหรับ ประมูล แลกเปลี่ยน - ต

 

จำไว้นะ ถ้าจะบูชา ตะโพน ต้องบูชา แบบนี้ อันนี้ตะโพนครู สร้างครั้งเดียว ขนาดใหญ่มาก ตั้งโต๊ะบูชากันเลย สร้างไม่กี่ใบ หลวงพ่อทรงจารยันต์ลงหนังกลองที่ตะโพนด้วย
ถ้าตะโพนเล็กก็จะสร้าง แบบเดียวกับตะโพนครูนั้นแหละ มีเนื้อชนวนเก่า กับเนื้อเงิน แค่ 2 อย่างเท่านั้น

 

ถ้าใครติดตามขอกำลังใจด้วยครับ

 

จะได้รวบรวมพระเครื่องของท่านเท่าที่หาได้ นำมาบอกเล่ากันฟังว่า มีของที่ทำอีกเยอะ ที่เราไม่เคยเห็นกัน

 

หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ..มีรายละเอียด ดังนี้..
..แหวนพิรอด 2 เส้น ..มหาลาภ.. ใส่นิ้วนาง นิ้วกลาง เป็นมหานิยม มหาเสน่ห์ และมหาโภคทรัพย์ ..ใส่นิ้วชี้ เป็นศรีสง่า
..จำนวนสร้างเพียง 716 วง ..

 

ด้านใน

 

แหวนนาคเกี้ยวเนื้อนวโลหะ มีคุณวิเศษ ดุจแก้วสารพัดนึก ..
.. ตอกโค๊ต ทุกวง.. จำนวนสร้างเพียง 1089 วง..( ทันยุค )


มีหรือยัง

 

... ตะกรุดพระลักษณ์หน้าทอง พุทธคุณ สูงในด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม ในทุกด้าน พ่อค้าแม่ขาย ย่อมเมตตา รักใคร่..
..จำนวนสร้างเพียง 2150 ดอก ตอกโค๊ต และเลขประจำตะกรุดทุกดอก..

 

ผมไปยืมภาพของเขามาให้ชมกันนะครับ เพราะผมไม่ได้ถ่ายของผมเองครับ
ถ่ายไม่สวย เพียงแค่มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักพระเครื่องของท่าน ซึ่งมีมากมาย หลายรุ่น แต่ไม่มีใครรู้จัก เพราะไม่มีการโปรโมต

 

... พระกริ่งเศรษฐีนวโกฎิ หล่อตันทั้งองค์ ใช้เนื้อตะกั่ว ที่ปิดปากถุงเงิน ของธนาคารล้วนๆ คุณวิเศษ ด้านเรียกเงิน เรียกทอง ทรัพย์สิน ผลกำไร เข้ามาอย่างไรรู้จบสิ้น ..
.. จำนวนสร้าง เพียง 1118 องค์ ตอกโค๊ต และเลขประจำองค์พระ..

พระรุ่นนี้หลวงพ่อทรง ท่านบอกผมว่า อยากรวย เอาองค์นี้ไปบูชา

 

... เหรียญหล่อ ล้อเม็กแล็ก ด้านหลังเป็นยันต์จินดามณี อันเป็นยันต์ครู ของหลวงพ่อ ตอกโค๊ต รูปยันต์ ดวงแก้ว พระสิวลี จำนวนสร้างเพียง 639 องค์ ..

อันนี้หายากแฮะ ตั้งแต่ได้มา 1 องค์ ทุกวันนี้ผมหาเก็บไม่ได้เลย

 

... กริ่งเขมร เนื้อนวโลหะ ได้ชนวน พระกริ่ง ของวัดที่ผ่านมา 5 รุ่น และ แผ่นยันต์ นะ 108 ปถมัง 14 และยันต์สำคัญอีกมากมาย ตอกโค๊ต 83 ไว้ที่ใต้ฐาน และตอกโค๊ตยันต์ นะโภคทรัพย์ สร้างเพียง 553 องค์

อันนี้กลายเป็นตำนานไปแล้ว ผมได้มา 1 องค์สมัยนั้น คงอยู่ในกรุคนรวยหมด

 

<TABLE class=ProductPictureBorder height=150 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

... กริ่งปวเรศ เนื้อนวโลหะ ได้ชนวน พระกริ่ง ของวัดที่ผ่านมา 5 รุ่น และ แผ่นยันต์ นะ 108 ปถมัง 14 และยันต์สำคัญอีกมากมาย ตอกโค๊ต 83 ไว้ที่ใต้ฐาน และตอกโค๊ตยันต์ นะโภคทรัพย์ ไว้เหนือบัวหลัง สร้างเพียง 858 องค์

องค์นี้ สร้างในงานพิธี ที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเสด็จมาวัดศาลาดินครับ
ของดี หาให้ได้เชียว