มหาวิบัติใหญ่ ของประเทศไทยจะเกิดขึ้นในไม่เกิน 90 วันนี้แล้ว

บารมีผม ผมเชื่อว่ามีก็แล้วกัน ผมรู้ชัดว่าตอนเกิดผมมี เพียงแต่ตอนนี้มันไม่ปรากฏ เพราะยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ยิ่งศึกษาก็ยิ่งรู้ว่า ผมเคยเข้าใจคลาดเคลื่อน ลุงไม่หยั่งบุญวาสนาของผมดูล่ะ

 

ว่าไปแล้ว
ช่วงอายุคน 1 ชาติ จะอยู่ดูโลก80,90 ปีมันจะไปรับรู้อะไรได้ทั้งหมด
มันไม่ใช่กูเกิ้ล นี่ครับ
กูเกิ้ล มันรู้หมดถูก ผิด มันคงอยู่อีกนานรู้อีกมาก เราเกิดตาย 3 ชาติก็
ยังไม่รู้เท่ากูเกิ้ล

สำหรับ คนธรรมดาที่มีวาสนาบารมี ที่สั่งสมมาดี
แม้เกิดมาอยู่แค่ช่วงชีวิตเดียว 75 ปี ก็คุ้ม เพราะได้รู้ ได้สัมผัสกับสิ่งที่

เป็นความจริง ความยุติธรรม ไพเราะ งดงาม สมบูรณ์เพียบพร้อม
วันคืนมีแต่ความปีติอิ่มเอิบ เพราะคลุกคลีอยู่กับความบริสุทธิ์ ความจริง
ยุติธรรม ความถูกต้อง

สำหรับชีวิตที่มีพื้นฐานที่ตรงกันข้าม เขาก็จะมีโอกาสได้สัมผัสแต่สิ่ง
ที่ตรงกันข้าม สัมผัสคลุกคลีแต่เรื่อง จน เจ็บ จ๋อง

การอ่านโลก อ่านชีวิต จึงแตกต่างกันออกไป
เมื่อพูดเรื่องนี้แล้วถ้าไม่เข้าใจ ก็จะมองว่า ความจน ความเจ็บ
ความจ๋อง ของเพื่อนมนุษย์นั้น มาจากการกระทำของผู้อื่น
กล่าวโทษผู้อื่นว่าเป็นผู้กระทำ ว่าเอาเปรียบ โดยไม่มอง
ที่เหตุปัจจัยสำคัญอื่น โดยเฉพาะเรื่อง กรรมและวิบากกรรมของตัวเอง

ในความเป็นจริง เหตุเพราะคนจน เก็มินคนจนด้วยกัน
ไม่ยกย่องกันนี่แหละ ต้นเหตุแห่งความยุ่งเหยิง
เปิดช่องให้คนรวยเจ้าเล่ห์ เข้ามาใช้อุบายสร้างความน่ารัก
น่านับถือให้ตัวเอง ในกลุ่มคนจน ให้หลงไหล ในความเมตตา บุญ
ญาบารมีของเขา

และในที่สุดก็ยอม สามิภักดิ์เพื่อหวังพึ่งจนหมดความ
เป็นตัวของตัวเอง และไม่กล้าที่จะทบทวนไตร่ตรองหาความจริง
เพราะกลัวจะขาดที่พึ่งนั่นเอง

โคลงโลกนิติบทนี้พอจะเข้ากับเรื่องไหมเนี่ย....

ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร
มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ
โฉดฉลาดเพราะคำขาน ควรทราบ
หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้ายแสลงดิน


บทร้อยกรองแบบนี้เรียกโครงสี่สุภาพ ครับ

 

สุภาพแต่ไม่จริงใจมันฏ็ร้ายไม่ต่างจากน้ำกรดแช่เย็น
สิ่งที่อันตรายที่สุดคือค่านิยม เพราะมันมาโดยไม่ให้เรารู้ตัว

ผมพูดกับลุงแบบไม่สุภาพเท่าไหร่ แต่ผมก็จริงใจที่จะทำให้ลุงเข้าใจอะไรได้ง่าย ๆ ขอแค่ลุงลองคิดตามผมเท่านั้นเอง

ความสวยงามเป็นแค่เพียงมายา ถ้าไม่ให้ค่ามันก็ไม่มีอะไรสำคัญ


ลุงแค่เชื่อเพราะเขาทำในสิ่งที่ได้ใจลุงหรือตรงใจลุงเท่านั้นแหละ
และแค่ไม่เชื่อผมเพราะผมพูดอะไรไม่ตรงใจลุง ก็เท่านั้น

 

zalievan เอ๋ย

ไปหัดนั่งอมยิ้มแก้มตุ่ยก่อน แล้วค่อยไปสอนผู้อื่น

ตัวรู้เท่าหางอึ่ง ทำผยองว่ามีหางดั่งแมงป่อง

ตุ๋ย..! เอ้วว เก็บมืออ้วนๆ ไว้ปั้นข้าวเหนียว จิ้มแจ่ว พอจะเหมาะกว่า

:z1

 

อุเบกขากับผมซะเถอะ คุณ อสุรินทร์
คนเราไม่ใช่ว่าจะพลาดได้ตลอด


มือผม อ้วนไม่อ้วนมันก็เป็นของมันมาอย่างนั้นตั้งแต่เด็ก เว้นแต่ตอนนี้อ้วนกว่าตอนเด็กเนื้อเลยเยอะกว่าแค่นั้นเอง

จักรพัดพยากรณ์
เดี๋ยวก็มีคนมากวนตีนผมเรื่อย ๆ อีก

จบคำพยากรณ์
ดูซิว่าจะแม่นมั้ย

 

พระก็ไม่ไหว้ มนต์ก็ไม่สวด ภาวนาก็ไม่มี

โอ้ย...ถ้าคนผ่านการปฏิบัติมานี่นะ การแสดงความเห็นต่างๆ

มันจะต้องมีเล็ดลอด เผยให้เห็นความตั้งมั่นภายในจิตใจ ส่อถึงแนวทางการปฏิบัติ

แต่นี้มีอะไร มีแต่ คิดคิด...เพื่อนเจี้ยว ต่อยหอย

อุเบกขามาตั้งนานแล้ว โยม!! โกยเถอะ

ไปหัดทำความสงบของใจให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปแนะผู้อื่น

เก็บมือขวามาทับมือซ้าย น่ะเป็นไหม หรือจะเอาซ้ายทับขวาก็ไม่ว่า :'(

 

นั้นไง ธรรมดาของสิ่งที่มันเที่ยงที่จะเกิด ย่อมเกิดอย่างนี้
555 เพราะคุณไม่ยอมมองว่าผมปฏิบัติอะไรอยู่ต่างหาก

อีกอย่าง ไม่จำเป็นจะต้องปฏิบัติไปพร้อม ๆ กันทุกอันทุกแนวไม่ใช่เหรอ

 

"จักรพัดพยากรณ์
เดี๋ยวก็มีคนมากวนตีนผมเรื่อย ๆ อีก

จบคำพยากรณ์"

ข้อความนี้เอ็งมาแก้หลังจากที่ คุณสุรินทร์
เขาเม้นท์ไปแล้วนี่

เฮ้อ....เด็กไทยมีนิสัยอวดดีแบบนี้มากไหมเนี่ย
ทำทีเป็นว่ามีญาณ รู้อะไรล่วงหน้า นิสัยแบบนี้
สังคมไทยยอมรับได้หรือ ?มันภัยสังคมชัดๆ

ใช้ภาษาฮาร์ดคอร์อีกต่างหากเวรจริงๆ

 

นิสัยฉลาดแกมโกง มันใช้หากินไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก
ใครยังใช้อยู่เลิกซะ ล้าหลัง ล้าหลัง

ทหารเพิ่งปราบไปสดๆร้อนๆ ดันโผล่แกมโกงพันธ์ใหม่ขึ้นมาอีก

 

จริงอยู่ แต่ผมไม่ได้รีเฟรชจอ ผมกดแก้ไปตั้งนาน แล้วไปเล่นเฟซบุคอยู่ ไม่ได้กดส่ง
กว่าผมจะกดส่ง คุณสุรินทร์ก็พิมพ์มาแล้ว ผมเลยไม่รู้ว่าคุณอสุรินทร์จะพิมพ์อะไร

ผมไม่ได้มีญาณ ผมอนุมานเอา จะการคาดคะเน จากสิ่งเดิม ๆ ที่มันเคยเกิดขึ้นซ้ำ ๆ
ลุงบอกว่า ผมแอบอ้างว่ามีญาณมีญาณ
กล่าวหากันนะลุง

ผลัดกันสาบานมั้ย ?
ผมสาบานว่าผมไม่รู้ว่าคุณอสุรินทร์จะพิมพ์อะไรต่อจากที่ผมพิมพ์ไว้ ถ้าผมรู้ ขอให้ผม ชิบหายในสามวัน

 

คำว่า"ดูซิจะแม่นไหม"มันจะสื่ออะไรล่ะ ท่านจักรพรรดิ์พยากรณ์

 

ผมเปรยวิธีอนุมานของผมไว้ก่อนหน้านี้อยู่โพสสองโพส ก็สื่อถึงการอนุมานนั้นแหละ ไม่ได้พยากรณ์จากญาณวิเศษ แต่ พยากรณ์จากการอนุมานธรรมชาติ ธรรมดา ของคนบางคนที่เขาทำอยู่ประจำ

 

โพสต์คุณสุรินทร์ขึ้นตอน 09:22
โพสต์เธอแก้ไข ตอน 09:32
จะชี้แจงสาธารณะว่าไงล่ะ?

 

นี่ไง



-----------------------------------------------------------------
จริงอยู่ แต่ผมไม่ได้รีเฟรชจอ ผมกดแก้ไปตั้งนาน แล้วไปเล่นเฟซบุคอยู่ ไม่ได้กดส่ง
กว่าผมจะกดส่ง คุณสุรินทร์ก็พิมพ์มาแล้ว ผมเลยไม่รู้ว่าคุณอสุรินทร์จะพิมพ์อะไร

ผมไม่ได้มีญาณ ผมอนุมานเอา จะการคาดคะเน จากสิ่งเดิม ๆ ที่มันเคยเกิดขึ้นซ้ำ ๆ
ลุงบอกว่า ผมแอบอ้างว่ามีญาณมีญาณ
กล่าวหากันนะลุง

ผลัดกันสาบานมั้ย ?
ผมสาบานว่าผมไม่รู้ว่าคุณอสุรินทร์จะพิมพ์อะไรต่อจากที่ผมพิมพ์ไว้ ถ้าผมรู้ ขอให้ผม ชิบหายในสามวัน
-----------------------------------------------------------------

แต่ผมรู้สึกว่า ตอนที่ผมจะแก้ข้อความนี้ ผมกดส่งข้อความนี้ไปแล้วรอบหนึ่ง และไม่เห็นว่าจะมีใครพิมพ์ต่อเลย แล้วผมก็ไม่ได้แก้ข้อความนี้เพิ่ม ยังคงเป็นข้อความเดิมหลังการแก้เพิ่มเติมข้อความที่ลุงโควตไปโพสรอบแรก

 

ทำหน้าที่สื่อไม่ระมัดระวัง
คุยว่าเรียนมา ผิดพลาดแล้วมาท้าสาบาน
เหย็งๆ
ผิดพลาดมันต้องขอโทษ ซิผู้พัน
ไม่ใช่ผิดแล้วมาแถ เธอจะดูแลบ้านเมืองได้อย่างไร

 

เมื่อพิมพ์เสร็จแล้ว ก็แค่กดปุ่มส่งโดยธรรมชาติมันทำได้ต่อเนื่อง
ไม่ต้องไปรออะไรอีก แล้วทำไมไม่ทำ

จะเรียกร้องความยุติธรรมให้สังคมแต่ ไม่ทำให้จริงจัง
ให้เรียบร้อยน่าเชื่อถือ จะเรียกร้องไปทำไม

ทำผิดพลาดเอง แค่กล่าว"ขอโทษ"ยังไม่กล้า
จะดูแลความยุติธรรมให้บ้านเมืองได้หรา

แถมพูดกับผู้ใหญ่ใช้คำว่า"กวนตีน"อีกต่างหาก
ทำไปได้

 

สาบานก็สาบานในความถูกต้องของตัวเองล่ะครับ
ว่าไม่เคยรู้ว่าเขาจะพิมพ์อะไรต่อจากข้อความผม
ลุงพูดถูกเรื่องที่ผมควรจะขอโทษ
งั้น
ผมขอโทษคุณอสุรินทร์ไว้ ณ ที่นี้ละกัน

แต่หวังจะให้ผมพูดเพราะ มันยากเพราะผมเคยชินมาแบบนี้ พูดแบบผู้ดีไม่เป็น วาทกรรมสวย ๆ มีชู้เรียกว่ากิ๊ก
บิดเบือนความเข้าใจแบบนี้สักวัน เรื่องผิดจะกลายเป็นถูกเพราะวาทกรรม


ผมจึงแอนตีการพูดแบบประดิษประดอยวาทกรรม
บางโพส ผมพูดไม่สุภาพบ้าง แต่ถ้าอ่านแบบไม่ใส่อารมณ์เอาเอง มันก็ดูไม่มีเจตนาใด ๆ หรอก
ผมเป็นลุกหลานคนจนครับ ธรรมชาติผมเป็นแบบนี้ คิดว่าผมพูดแบบจริงใจดีกว่านะครับ

-----------------------------------
เธอจะดูแลบ้านเมืองได้อย่างไร *.* ลุงเห็นแล้วเหรอครับว่าผมเป็นเขา
-----------------------------------

พูดอย่างกับผมจะเป็นพระจักรพรรดิ์ ผมยังไม่เชื่อเลยว่าตัวเองจะเป็นได้ เพียงแค่สงสัยเท่านั้นว่าจะใช่กูมั้ยว้า ทำไมถึงเหมือนคำทำนาย หลายคำทำนายจัง
สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่คือ พยายามเข้าใจธรรมชาติ ธรรมดาของสิ่งต่าง ๆ
หาความพอดีของตัวเอง ก่อนที่จะไปนั่งฝึกจิต เพราะจิตผมฟุ้งซ่านมาไม่ต่ำกว่า 20 ปี อยู่ ๆ จะให้มันสงบ ไปนั่งขวาทับซ้าย อุ๊ย สงบ เลย
บ่องตง ไม่มีทาง ผมต้องทำให้ตัวเองหายฟุ้งซ่าน โดยฝึกวิชาสติปัฏฐาน 4 ก่อน แล้วเอาพระธรรมเข้าหัวเยอะ ๆ ทำความเข้าใจธรรมชาติ ธรรมดาของตน ถ้ายังฟุ้งซ่านอีกก็หาสาเหตุอื่น โดยเอาศีลเปรียบเทียบ ว่าศีลข้อนั้นทำแล้วจะเป็นอย่างนี้ ๆ ก็ค่อยรักษาไป ข้อไหนไม่เหมาะกับเพศฆราวาส ก็พิจารณา ว่าเราจะรักษาศีลข้อนี้ในเพศฆราวาสอย่างไรเอา อย่างตอนนี้ก็ฟังเสียงอ่านพระไตรปฏกไปด้วยทำความเข้าใจไปด้วย แค่นั้นแหละ

ก็เท่านั้น

 

อันนี้อย่าอ่านแบบใส่อารมณ์นะครับ ผมพูดให้คิดตาม

แล้วถ้าผู้ใหญ่ กวนตีนจริง ควรจะโกรธ คนที่บอกว่า ตัวเอง กวนตีน มั้ยครับ
ผมอาจเคารพคนที่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่กับคนที่ไม่รู้ว่าใครน่ะเหรอ เมินซะเถอะ
ถ้าเขากวนตีนจริง เขาก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่น่าเคารพแต่แรก จะไปเคารพทำไม ในเมื่อเขาไม่ทำตัวให้น่าเคารพ
ประเทศไทย อุเบกขา ต่อ คนที่ทำผิดแล้วมีอายุเยอะ ๆ ซะมาก เพราะให้เหตุผลว่า เขาแก่แล้ว

ถ้าใช้ธรรมกับผู้มีธรรม จะบังเกิดผลดี
ถ้าใช้ธรรมกับผู้ที่ไม่มีธรรมหรือไม่ใช้ธรรมกับเรา บางทีใช้ธรรมไปก็เท่านั้น โดนเอาเปรียบอีกต่างหาก
ประสพการณ์ของผมบอกว่า ใช้ ๆ ไปเหอะ เดี๋ยวดีเอง ไม่ชอบใครก็อย่าไปเจอเขาก็สิ้นเรื่อง
แต่ช่วงนี้ สติปัฏฐาน 4 ยังไม่ถึงกึ๋นอ่านะ

คุณอสุรินทร์เขาจะทำตัวเป็นกัลยานมิตรของผมโดยให้เกียรติเป็นคนทดสอบวิชาสติปัฏฐานของผมว่าไปถึงไหนแล้ว
ผมรู้ทันตัวเองว่า ถ้าโดนคนนี้กวนเห็นท่าจะไม่ไหว เลยบอกเขาไปว่า อุเบกขาต่อผมเสียเถอะ
เพราะถ้าเขาจะกวนเขากวนถึงพริกถึงขิงมาก ถ้าเราไม่โกรธเขาไม่พอใจอะไรประมาณนี้
ขอบคุณที่หวังดีนะครับคุณอสุรินทร์ แต่ไม่ต้องหวังดีกับผมมากก็ได้

 

นี่แหละท่านทั้งหลายไม่ต้องรอ90วันไร
ภัยพิบัติที่แท้จริง ความโกรธ เกลียด ขาดเมตตา ไม่ให้อภัยกัน
เปิดกระทู้หลายกระทู้ทะเลาะกันเยอะจัง
แก้ที่ใจกัยนะครับ ภัยพิบัตินี้แม้ร้ายแรง หากมีเมตตา ใจเขาใจเราผิดบ้างถูกบ้างให้อภัยกัน
เราล้วนแต่คนด้วยกัย ย่อมมีถูกบ้างผิดบ้างว่ากันไป
ทำได้ภัยพิบัติธรรมชาติน่ะจิ๊บๆๆ

 

เอาล่ะนีโอเข้าใจที่พูดเตือนสติ ตอนเเรกนีโอก็พูดแค่ให้ผู้พันเขาได้คิด แต่เขาไม่คิด
ถอย เขาคิดสู้ตามรูปแบบไลฟ์สไตล์ของเขา เลยเกิดเหตุการณ์
ไฟลามทุ่ง


ถ้าไม่มีคนเข้ามาช่วยดับ แน่นอนอาจลามไปจนเดือดร้อนชาวบ้าน
จริงๆ และกระทู้ที่ทรงคุณค่านี้ อาจถูกแบนไปด้วย
ว่าไปแล้วการตอบโต้ระหว่างคู่กรณีกลุ่มเล็กๆเพียง2หรือ3คน
ที่ไม่ลงรอยกัน โดยมารยาทก็ไม่ควรสื่อข้อความปกป้องตัวเอง
โชว์ฉลาดให้สาธารณะต้องมารำคาญด้วย โดยหาประโยชน์แทบไม่ได้


ข้อนี้ทราบดี และขออโหสิกรรมมายังทุกท่านที่ได้รับผลกระทบทางด้าน
จิตใจ ด้วยความสำนึกในความไม่เหมาะไม่ควรของการใช้สื่อสารธารณะ


จึงเรียนกราบขอโทษมายังทุกท่าน ณ โอกาสนี้ด้วยครับผม


ลงนามNeoworld