เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chandayot, 18 เมษายน 2012.

  1. khunfongbeer

    khunfongbeer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +668
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ
     
  2. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ผมเข้าใจว่าผุ้เล่าคือ ลป.ฤาษีลิงดำครับสำนวนนี้ สถานที่ก็ ต.บางนมโค ต.สามกุก อะไรแถวนั้น--ถิ่นของหลวงพ่อปานละใช่เลย ถ้าท่านนั่งรถผ่าน ก็ตะได้เห็นป้ายแบบนี้อยู่ในละแวกเดียวกัน

    --โปรดสังเกตว่า ยังมีวิชามหาอุดอะไรอืนๆแบบนี้อีก เสกใบไม้เป็นตัวต่อ เสกก้อนหินเป็นเผือกมัน อยู่ในวิชชากสิณ เสกฟากข้าวให้เป็นปลาดุกสดๆ แต่กินแล้วร้อนท้อง คือจริงๆแล้วเรากินฟางเข้าไป เพื่อนผมว่า เสกทรายให้เป็นน้ำตาล เราก็เห็นเป็นน้ำตาลเท่านั้น ต่างกับผู้ที่ได้บรรลุธรรมขั้นสูงมาก อย่างพระอรหันต์ หรือท่านไสบาบา เสกก้อนหินให้เป็นรูปปั้นพระกฤษณะ และบิเอาตรงฐานมาให้สาวกกิน ปรากฏว่าเป็นน้ำตาล อย่างนี้คือจิตเปลี่ยนธาตุได้ อย่างเช่นพระอาจารย์จำเนียรถือว่าท่านไสบาบาเป็นเกจิของเกจิ เป็นอรหันต์ที่อยู่นอกพุทธศาสนา

    --เรื่องอื่นยังมีค้างอยู่ และคงติดค้างเรื่องภาพ เพลง ข่าว ของเทียนอันเหมิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2012
  3. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [​IMG]
    รูปพระครูสังฆวิจารณ์ฉัตทันต์บรรพตหรือพระอาจารย์ทองเฒ่า
    ประวัติพระครูสังฆวิจารณ์ฉัตทันต์บรรพตหรือพระอาจารย์ทองเฒ่า

    พระอาจารย์ทองเฒ่าท่านเกิดในปี พ.ศ. ๒๓๙๒
    วิชาที่ท่านแสดงประจักษแก่ศิษย์ที่เล่าต่อกันมาคือ

    1.วิชา “หินเบา” หรือ “ชาตรี” อันเป็นวิชาที่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาใครที่สำเร็จวิชานี้สามารถแบกซุงต้นใหญ่ หรือแบกก้อนหินก้อนใหญ่เพียงลำพังได้อย่างสบายในสมัยนั้นแบกสำหรับการสร้างพระอุโบสถ ซึ่งเรื่องวิชาหินเบานี้ ศิษย์สำนักเขาอ้อรุ่นเก่า ๆ หลายคนทำได้

    2. เสกน้ำมันงา เสกน้ำมันงา ให้ศิษย์กินเพื่อความคงกระพัน โดยทำให้น้ำมันงาแข็งตัวเป็นวุ้นได้ภายในอึดใจ ซึ่งโดยปกติแล้ว น้ำมันงาดังกล่าว ต่อให้เอาไปแช่ในช่องฟริสตู้เย็นเป็นเดือน ๆ ก็จะไม่มีวันแข็ง

    3.พวงประคำ ท่านนำชาวบ้านไปตัดไม้ในป่ามาก่อสร้างเสนาสนะภายในวัด ก่อนที่จะตัดไม้แต่ละต้น ท่านจะทำพิธีพลีกรรมขอเสียก่อน จากนั้นท่านก็จะเอาพวงประคำฟาดไปที่โคนต้นไม้ ต้นไม้ก็จะล้มเหมือนโดนโค้น

    ครั้งหนึ่งพระอาจารย์ทองเฒ่า กำลังทำพิธีอาบว่านแช่ยาให้กับศิษย์ที่บนเขาอ้อ ขณะนั้นได้เกิดท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะฝนจะตก ท่านกลัวว่า หากฝนตกจะทำให้เสียพิธี จึงถอดพวงประคำออกจากคอมาบริกรรม แล้วโยนอย่างแรงขึ้นไปในอากาศ พวงประคำจะลอยหายไปครู่ใหญ่ ๆ แล้วก็เกิดลมกระโชกพัดพาเอาเมฆฝนไปตกที่อื่น จากนั้น พวงประคำก็จะตกมาหาท่านอย่างเดิม

    ปีหนึ่งฝนแล้งขาดช่วงมานานจนข้าวกล้าที่ชาวบ้านปลูกไว้ทำท่าว่าจะแห้งตายคาต้น พระอาจารย์ทองเฒ่าทนเห็นความทุกข์ของชาวบ้านไม่ได้ได้เอาพวงประคำพวงนี้มาบริกรรม
    แล้วก็โยนไปในอากาศพวงประคำก็จะลอยหายไปครู่ใหญ่ท้องฟ้าก็จะมืดครึ้มและมีฝนตกลงมาอย่างหนักจนเพียงพอแล้วท้องฟ้าก็จะแจ่มใสเป็นปกติ
    จากนั้นพวงประคำก็จะลอยมาหาท่าน

    4.​
    ตรงศรีษะของท่านมีเส้นผมสีขาวกระจุกหนึ่ง ไม่สามารถโกนหรือตัดให้ขาดได้
    ยังมีีอีกหลายวิชาที่ท่านศึกษาจนสำเร็จทั้งที่ท่านไม่แสดงให้ศิษย์เห็น และยังมีอีกหลายวิชาที่ผมไม่ทราบครับ ใตรมีข้อมูลก็ติดต่อมาได้ผมจะเอาลงให้เพื่อเป็นประโยชญ์ในการศึกษาต่อครับ
    พิธีเสกน้ำมันงาให้ศิษย์กินเพื่อความคงกะพันของสำนักเขาอ้อนั้นพระอาจารย์ทองเฒ่าสามารถเสกให้น้ำมันงาแข็งได้ภายในเวลาชั่วอึดใจเพราะพลังจิตของท่านแก่กล้ามาก ศิษย์ที่ผ่านพิธีการอาบว่านแช่ยาไปจากท่านล้วนแต่เป็นคนคงกระพันทั้งนั้น เมื่อก่อนการทำพิธีอาบว่านแช่ยาได้กระทำกันบนเขาอ้อ ครั้งหนึ่งมีศิษย์ที่เป็นฆราวาสคนหนึ่งเมื่อเสร็จพิธีอาบว่านแช่ยาแล้วได้ถามพระอาจารย์ทองเฒ่าว่าอาบว่านแช่ยานี้กันอะไรได้บ้าง? ขณะที่ถามตอนนั้นยืนอยู่ริมเชิงเขาอ้อพอถามเสร็จพระอาจารย์ทองเฒ่าก็ยกเท้าถีบเปรี้ยงไปที่ศิษย์ช่างถามคนนั้นทันทีศิษย์คนนั้นกลิ้งลุ้นๆ หังหกก้นขวิดลงจากเขาอ้อผ่านคมหินและพงหนามลงมาแผ่หรายังพื้นข้างล่างริมเชิงเขา เมื่อลุกขึ้นสำรวจตามร่างกายแล้วก็ไม่ปรากฏว่าเป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวพอจะออกเดินก็เห็นพระอาจารย์ทองเฒ่ามายืนข้างหน้าตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
    พระอาจารย์ทองเฒ่าก็พูดว่า "กันได้ทุกอย่าง แต่กันไม่ได้อยู่อย่างเดียวคือตีนกู "
    เรื่องการสำเร็จวิชาหินเบาของพระอาจารย์ทองเฒ่าก็มีลูกศิษย์และชาวบ้านเห็นกันหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการแบกซุงต้นใหญ่โดยตัวท่านเพียงลำพัง หรือการแบกก้อนหินที่มีน้ำหนักเป็นตันๆมาวางเป็นแนวกั้นดินสำหรับการสร้างพระอุโบสถ ซึ่งวิชาหินเบานี้ศิษย์สำนักเขาอ้อรุ่นเก่าๆ หลายคนทำได้อันเป็นการแสดงว่าสำนักเขาอ้อนี้มีการฝึกฝนศิษย์กันอย่างจริงจังจึงสามารถสำเร็จวิชาหลายอย่างและแสดงฤทธิ์ได้กันอย่างนี้
    ครั้งหนึ่งเป็นคืนวันพระได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดบนยอดเขาอ้อ คือมีแสงสว่างนวลจ้าเท่าๆ กับขอบกระด้งฝัดข้าวบนยอดเขาอ้อมองเห็นได้แต่ไกล มีคนเห็นกันหลายคน แต่ไม่มีใครกล้าขึ้นไปดู รุ่งขึ้นจึงมาบอกให้พระอาจารย์ทองเฒ่าทราบ ท่านจึงจัดเตรียมของใส่ย่ามแล้วชวนชาวบ้านขึ้นไปบนยอดเขาอ้อและตรงไปดูยังจุดที่มีแสงสว่างนวลจ้าเมื่อเวลากลางคืนเมื่อไปถึงก็พบว่านต้นหนึ่งลักษณะและสีสันผิดแปลกประหลาดไปจากว่านทั่วๆไป ที่เคยพบเห็น พระอาจารย์ทองเฒ่าได้นั่งลงประกอบพิธีกรรมเสร็จแล้วจึง ขุดเอาหัวว่านที่อยู่ใต้ดินขึ้นมา ท่านบอกแก่ทุกๆ คนในที่นั้นว่า


    "นี่เป็นพญาว่านที่มีฤทธิ์กว่าว่านทุกชนิดบนโลกนี้นานทีหลายปีจึงจะปรากฏบนโลกสักครั้งหนึ่งเพราะเป็นของที่พวกเทพเทวดาข้างบนให้มา"

    เมื่อได้พญาว่านมแล้วพระอาจารย์ทองเฒ่าก็นำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆลงอักขระปลุกเสกแล้วแจกให้ลูกศิษย์ ผู้ที่ได้รับแจกก็นำไปถักเชือกหุ้มแล้วพกติดตัวเป็นเครื่องลางป้องกันอันตราย บางคนขณะกำลังทำนาอยู่กลางแจ้งตอนที่ฝนตกฟ้าคะนองโดนฟ้าผ่าเข้าอย่างจังก็ยังไม่เป็นอะไรเพราะมีหัวพญาว่านเสกของพระอาจารย์ทองเฒ่าติดตัว
    พระอาจารย์ทองเฒ่าได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายชนิดแต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ขึ้นชื่อมากก็คือไม้เท้ากายสิทธิ์ ซึ่งต้องทำมาจากไม้มงคลตามตำราเช่น ไม้ชัยพฤกษ์ เป็นต้น ที่ส่วนหัวและปลายของไม้เท้าจะบรรจุวัสดุอาถรรพณ์เอาไว้และก็หุ้มด้วยแผ่นโลหะ ตามตัวไม้เท้าก็ลงอักขระจนเต็ม ไม้เท้ากายสิทธ์ของพระอาจารย์ทองเฒ่าใช้ถือติดตัวจะเป็นมหาอำนาจ และค้มครองอันตรายได้หลายอย่างรวมทั้งเป็นที่แกรงกลัวของภูตผีปีศาจทั่วไปด้วย เมื่อเกิดมีชาวบ้านคนใดถูกผีเข้าเพียงแต่ไปบอกคนที่มีไม้เท้ากายสิทธิ์ของพระอาจารย์ทองเฒ่ามาช่วยรักษา เพียงแต่คนที่ถูกผีเข้าเห็นเท่านั้น ก็จะส่งเสียงร้องด้วยความกลัว และผีก็จะออกโดยไม่ต้องทำอะไรให้มากไปกว่านั้นเลย ไม้เท้ากายสิทธิ์ของท่านถือเดินไปใหนๆตอนกลางคืนก็ไม่มีใครทำอันตรายอะไรได้ รวมทั้งภูตผีปีศาจก็ไม่กล้าหลอกหลอนด้วย
    มีลูกศิษย์พระอาจารย์ทองเฒ่าคนหนึ่งบ้านอยู่ริมคลองที่ที่ใหลไปออกทะเลสาบลำปำริมทางเดินเข้าบ้านมีต้นจิกอยู่ต้นหนึ่ง ลือกันว่าต้นจิกต้นนี้มีผีดุมาก เวลามีใครเดินผ่านตอนกลางคืนมักจะโดนผีหลอกเป็นประจำ ตัวเขาเองก็โดนผี

    ท่านมรณะภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๐ สิริอายุ ๗๘ พรรษา
     
  4. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    วิชาอาบว่าแช่ยานั้นที่เห้นชัดคือท่านขุนพันธุรักษ์ราชเดช (อาบ แช่ตัวยาสามวัน ไม่มีใครทนได้ เพราะแสบร้อนแทบขาดใจ)นายตำรวจผู้มีชื่อกระฉ่อนในการปราบโจรทางใต้ ท่านไม่ต้องทานข้าวถึงแปดปี กินแต่ยาที่อจ.เสกไว้ และ ผลไม้เท่านั้น ถ้ามีข้าวตกถึงท้องเม็ดเดเียวในช่วงนั้น ก็ตายอย่างเดียวครับ สำนักเขาอ้อนั้นเปรียบดังตักกสิลาแดนใต้ พิธี หึงเหนียวกินมัน ทำแล้วยังหนังเหนียวแลยครับ

    --ผมไปกับพวกสาวๆกศน.ไปรอบนอกเชียงราย มีเจ้าของบ้านทำงานธกส.มาต้อนรับ กินเหล้ากัน เขาก็ว่า มีว่านไพลดำ เหนียว จะลองมั้ย เขาก็นำว่านมาให้กับคัตเตอร์ผมก็ลองกินดูสักพัก ก็เฉือนเนื้อตัวเองแต่ไม่เข้า อยู่ด้วยฤทธิ์ของแม่ธรณี เป็นชั่วเบา คือถ้าปัสสาวะเราถึงดินเมื่อไหร่ ก็จะหยุดจากการหนังเหนัยวครับ ฟันธง--(หาอ่านเรื่องดวลมีดในคุกกันได้ จากหนังสือเกี่ยวกับคนคุกของ สุริยันต์ ศักดิ์ไธสงค์)
    ----------------------------------------
    samun007
    30 May 2007, 11:36 AM
    พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม พูดถึงกำลังใจของผู้ที่แขวนพระเครื่องไว้ว่า...

    กำลังใจสูงสุดเข้มข้นมาก ปืนจะยิงไม่ออก (มหาอุตม์)
    กำลังใจอ่อนลงมานิดหนึ่ง ยิงออกแต่ไม่ถูก (แคล้วคลาด)
    กำลังปานกลาง ยิงถูกแต่ไม่เข้า (คงกระพัน)
    กำลังใจอ่อนมาก ยิงเข้าแต่ไม่ตาย (โชคดี)
    กำลังใจอย่างแย่ที่สุด ยิงตายแต่ไปสวรรค์ (สุคติ)

    ครูบาอาจารย์สมัยก่อน ท่านมีความฉลาดมาก หาอุบายให้คนเกาะความดีด้วยประการต่าง ๆ การสร้างพระขึ้นมาแจก ก็เป็นวิธีการอย่างหนึ่ง ท่านจะแนะนำให้ผู้รับพระเครื่องไป ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามด่าแม่เขา โดยสำทับว่า ถ้าทำไม่ได้ พระจะไม่คุ้มครอง ผู้ที่รับพระไป จึงกลายเป็นคนมีศีลสัตย์ไปโดยปริยาย...


    จากหนังสือ กระโถนข้างธรรมาสน์ http://www.grathonbook.net/book/past/past6.html
    ---------------------------------------------------------
    pooh66
    6 November 2007, 09:13 PM
    ด้วยความเคารพ จริงๆ ที่จั่วหัวว่า วิชาชาตรี แล้วคอลัมภ์กิเลนประลองเชิง พูดถึงคาถาจังเหล็ก มานคนละเรื่องอะครับ เพราะคาถาจังเหล็กจากตำราที่อ้างของอาจารย์เทพ สาริกบุตรนั้น อยู่ในหมวด คงกระพันครับ มะช่ายชาตรี

    --วิชาชาตรี เดิมเป็นของแขก แต่ชาตรีไทยเราก็มี คือวิชาชักยันต์ หรือชื่อเต็มว่า โองการสมมติตน ดังนี้ครับ ------นะโมนมัสการ ข้าพเจ้าจะขอนมัสการคุณพระพุทธเจ้าทั้ง 5พระองค์................................................................................นะโมพุทธายะ พุทธังเคลื่อน ธัมมังคลาย สังฆังละละลาย หายด้วยนะโมพุทธานะ(ยาวประมาณ 1 หน้า)

    แล้วกระทำสมมติตนด้วย พระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ...........ฯ
    จึงต่อด้วย คาถามงคลสามสาย สมมติ ลากเป็นมงคล ที่หัว อก เอว ต่อด้วยคาถาสังวาลย์เพชร คาดเป็นสังวาลย์ จบด้วยคาถา เกราะแก้ว ภาวนาลูบกาย ถ้วนทั่วทั้งตัว ไม่มีช่องว่าง

    จะเห็นได้ว่าเหมือนสมมติใส่เครื่องทรงเป็นพระคาถา นั่นเอง โทษทีนะครับพอดีคาถายาว ไว้จะพิมพ์ให้วันหลังครับ ผมมีค่อนข้างเยอะ เก็บต่อๆกันมาครับ
    ขออภัยถ้าผิดพลาดครับ......<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=left>วิชา ชาตรี สุดยอดแห่งวิชา 2 ปี, 4 เดือน ก่อน</TD><TD align=right>พลังน้ำใจ: 0 </TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=2>ตอนนี้มีอาจารย์ไม่กี่ท่านที่สอนวิชานี้

    เท่าที่ผมรู้จักก็มี หลวงพ่อนพวรรณ (พระครูสังฆรักษ์นพวรรณ คุณสาโร) หรือ หลวงพ่อวรรณ เจ้าอาวาสวัดเสนานิมิต ต.บ้านหีบ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้ได้รับการสืบทอดวิชานี้ โดยผ่านโยมปู่ของท่าน ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อกลั่นโดยตรง


    แก้ไขนิดนึงนะครับ คาถาเก้าเฮมิใช่ของอิสลามนะครับ

    เป็นของแขกทางอินเดียครับ

    (ชื่อบทหนุมานจองถนน) เป็นบทสรรเสริญหนุมานของอินเดียเขาน่ะครับ


    การเรียน วิชา เก้าเฮ, ชาตรี, หินทุ่ม ไม่ใช่รู้วิธีชัก ยันต์ ก็จะเรียนได้ ตัวคาถาแต่ละสำนัก จะคล้ายกัน แต่การชักยันต์ ต้องมีคนสอนให้ เพราะแต่ละที่ก็จะคล้ายกันบ้าง แต่บางสำนัก ก็ไม่เหมือน กันเลย
    เวลาไปขอเรียน ก็ต้องมี ทอง เงิน นาก(บางสำนักมีสัมฤทธิ์) ไม้นุ่น ไม้โสน (บางที่อาจมีไม้รวก) ไม้ที่ใช้แต่ละสำนัก ความยาวก็ไม่เท่ากัน และก็ดอกไม้ธูปเทียนเครื่องบูชาครู บางสำนัก ก็มีผ้าขาว ผ้าแดงด้วย ครูที่สอนให้ ท่านก็จะ ไม้ที่เตรียม ไป และ ทอง เงิน นาก ฝน กับหินที่จะใช้ทุ่ม บางสำนัก อาจต่างจากนี้
    แต่ แต่ก็คล้ายๆ กัน คนเรียน ก็จะชักยันต์ เสร็จแล้ว ครูท่าน ก็จะทุ่มหิน ใส่แผ่นหลัง ๓ ครั้ง




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ------------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2012
  5. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    อาถรรพ์เวทย์
    7 November 2007, 10:06 AM
    <!--quoteo(post=31680:date=27 May 2007, 11:45 PM:name=Rick ฅนมหากาฬ)-->QUOTE(Rick ฅนมหากาฬ @ 27 May 2007, 11:45 PM) [snapback]31680[/snapback]
    <!--quotec-->
    เป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์อย่างหนึ่ง สันนิษฐานว่า มีที่มาจากคำว่า "กระบัล" ในภาษามลายู แปลว่า คงทนต่อศัตราวุธ ดังที่มีสำนวนว่า "อยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า" วิชาคงกระพันชาตรีจึงหมายถึง วิชาที่ทำให้ร่างกายสามารถทนทานต่อคมอาวุธทั้งหลายได้ สมัยโบราณเป็นวิชาที่ชายไทยเล่าเรียนกันมาก เนื่องจากต้องมีหน้าที่เป็นทหารออกรบป้องกันราชอาณาจักร และการรบในสมัยโบราณเป็นการรบแบบประชิดตัว จึงจำเป็นต้องเล่าเรียนคาถาอาคมที่จะช่วยปกป้องตนเองให้ปลอดภัยจากคมหอกคมดาบ ความเชื่อเรื่องอยู่ยงคงกระพันของไทยโบราณมีหลายวิธี อาทิ พกพาเครื่องราง บริกรรมคาถาอาคม สักยันต์ เสกอาหารกิน เสกน้ำมันทาตัว เป็นต้น คงกระพันจะต่างจากชาตรี กล่าวคือ คงกระพันจะเป็นการทำให้เนื้อหนังร่างกายคงทนต่ออาวุธตลอดจนวัตถุต่างๆ ที่มาทำร้าย แต่หากอาวุธนั้นมีอันตรายมากหรือมีน้ำหนักมากก็อาจทำให้เจ็บปวดสาหัสหรืออวัยวะภายในบอบช้ำได้ ส่วนชาตรีจะเป็นวิชาที่ป้องกันคมอาวุธด้วย และทำให้ผู้ถูกทำร้ายไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด เป็นวิชาที่ทำให้ตัวเบาและวัตถุสิ่งของที่มากระทบตัวเบาไปหมด แม้เป็นของแข็งอย่างหินทุ่มมาทำร้ายก็เชื่อว่าจะรู้สึกเหมือนถูกทุบด้วยหมอนนุ่นเท่านั้น<!--coloro:#CC0000--><!--/coloro--> วิชาในหมวดชาตรีที่รู้จักกันดีคือ วิชาเก้าเฮ ของสำนักวัดพระญาติการาม อยุธยา ซึ่งใช้นิ้วมือชักยันต์ลงไปบนส่วนต่างๆ ของร่างกาย วิชาในหมวดเดียวกับคงกระพันคือ ชาตรี แคล้วคลาด และ มหาอุด ซึ่งเป็นการใช้อำนาจทางจิตในวิธีต่างๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากศาสตราวุธ<!--colorc--><!--/colorc-->
    ผู้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอยู่ยงคงกระพัน จะต้องปฏิบัติตนตามข้อห้ามของวิชาที่ได้รับการสั่งสอนมาอย่างเคร่งครัด เป็นต้นว่า ต้องสวดมนต์ไหว้พระรำลึกคุณพระรัตนตรัยเป็นนิตย์ ต้องหมั่นปลุกตัวด้วยคาถาสม่ำเสมอ ห้ามผิดลูกเมียเขา ห้ามมุดลอดในที่ไม่สมควร ห้ามถ่มน้ำลายลงที่สกปรก ห้ามด่าบุพการี บางทีก็ห้ามกินอาหารหลายชนิด เช่น หัวปลี บวบ น้ำเต้า ห้ามกินของเหลือเดน ห้ามกินของงานศพ ห้ามเปิดปากเวลาถ่ายหนักถ่ายเบา ฯลฯ กล่าวโดยสรุปคือต้องถือศีล สำรวมกาย วาจา ใจ และต้องปฏิบัติสมาธิภาวนาอีกด้วย ในอดีตผู้ที่เชื่อ และเล่าเรียนคาถาอาคมมักถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเชื่อว่าหากปฏิบัติไม่ได้ความอยู่ยงคงกระพันจะเสื่อมคลายไป ปัจจุบันความเชื่อเช่นนี้ก็ยังพอมีปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง
    <!--QuoteEnd-->

    <!--QuoteEEnd-->
     
  6. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ใครจะทำไสยศาสตร์ สาปแช่ง หรือทำสเน่ห์ใส่กัน ขอร้องว่าอย่าทำครับ การสร้างบาป สร้างกรรมชชั่ว มันดีตรงไหนตรับ เพราะทุกชีวิตก็ต้องมีลิขิตกรรมอยู่แล้ว หากท่านไปตัดรอน ชีวิต หรือความรักวามสุขในชีวิตของเขา มันจะถูกต้องแล้วหรือ คิดดีๆนะครับ
    --ผมโดนหมอแขกทำไสยศาสตร์ใส่ รู้สึกเหมือนโดนไฟเผาสดๆตามแขน เอาเล็บกรีดจนห้อเลือดก้ไม่หายปวดหายร้อน ขา-เข่าก็ชันขึ้นมาเอง เรากลั้นใจเป่า มันก็ยุบลงแล้วก็งอขี้นมาอีก เดินเหมือนหุ่นยนต์-- ยังดีได้องค์เทพประจำตัวท่านมาช่วยแก้ให้ครับ

    -------ศึกษาไว้เป็นความรู้และป้องกันตัวเอง จเป็น--ขนงย่าร่วมเพศในที่ป่าเขา เจ้าที่จะสาปแช่งท่าน--ไม่ให้มีความเจริญในชีวิต อย่าด่าพ่อแม่ใคร อย่าพูดคำหยาบลามก สวดมนต์คาถาที่ดีๆ เช่นอิติปิโสถอยหลัง จะเป็นการทำเสน่ห์ก็ได้ จิต ตัวเดียวที่มีอยู่ต้องควบคุมมันให้ได้ ตั้งจิตให้มั่น ใช้ใจนำทาง ทุกย่างจะสำเร็จได้่ในทางที่ดี ใจของเราอย่าปล่อยให้มันซัดส่ายดั่งเรือไร้หางเสือ หรือว่าวลอยลมบน------จขกท.----------
    -----------------
    ยามอุบากอง
    http://lakdum.com/index.php?option=com_kunena&Itemid=0&func=view&catid=7&id=12

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2012
  7. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    <LI id=menu-item-1624 class="menu-item menu-item-type-post_type menu-item-object-page menu-item-1624 last">Register<!-- #nav -->[​IMG]Paranormal Activity – Unexplained Fire Incidents

    Posted on January 23, 2012, in Ghost's, Paranormal Activity, with 1 CommentIf you’re new here, you may want to subscribe to my RSS feed. Thanks for visiting!


    Dear reader, imagine that you are sitting in your house when you see a movie or a football match and then suddenly and without any warning in front of you, your TV turns into a burning flame of fire, of course you will get angry at the ones responsible for the electric generator safety. But what if you have completely turned off all kinds of electric power sources, and suddenly you found one of your light bulbs flaming than turning into a fireball??
    [​IMG]
    Of course you would say that this is impossible to happen, but let me disappoint you and tell you a story of an Italian town baffled even superstitious believers.Canneto di Caronia is a small quiet town rarely heard about.without that interest them and their curiosityand lost sitting quietly in place for centuries, but all that changed in one of the cold days of the month of December 2004, when the town became a forgotten depository suddenly crowded with electricians, firefighters, reporters, scholars as well as many paranormal investigators, the people of the town have all left to dwell temporarily in a hotel outside the town.
    Where did these unexplained mystery began?

    This strange incidents started when a person called Mr.Vezanio was watching his T.V normally, and suddenly the T.V went to flames and it became a flame ball of fire.And since then, many of such incidents and unexplained fires went out in other apartments too.It was like a kind of paranormal gravity attracting the fires to the electronic devices, like Televisions, Radios, heater and so.What’s really strange is that this electric devices went on fire, even if their wasn’t connected to any kind of electric source, and what’s more strange is that this kinds of paranormal fires kept happening even after the electricity was totally cutted off that town.Also it is claimed that mobile phones blew off and sudden furniture fires went out.Even the objects that was far from electricity went on fire, it’s like a hidden source of power is putting fire on anything that electricity can reach.
    [​IMG]
    The life in that town turned gradually into a nightmare, people began to wonder if this is related to Jinn’s or Ghosts or some demonic powers, cause beside the strange fires the phones rang on the midnights without anyone answering on the other side, also the car doors opened from itself, even firefighters who rushed to the town did not find any logical explanation for what’s happening, instead one of them stunned while he saw an electric cable went on fire while he was staring at it.Even the scientists and researchers whom came from all around the world to see this town is mysterious stories and to find an acceptable explanation failed.However, one of the most noted theories were that the reason of this paranormal fires could be the volcanic activity in the north of the island of Sicily and that this activity led to a resurgence of electromagnetic charges interacted with the normal electricity flow and caused the outbreak of fire in electrical equipments, but this hypothesis does not explain why the focus of these emissions volcanic alleged in the town of Di Caronia only and did not extend to the towns and cities close to it as well.
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    So, what’s Your Idea Around these unexplained mystery?
     
  8. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ปรากฏการณ์เปลวไฟที่ไร้คำตอบ--(แปลสดๆ ที่เดียวในเมืองไทย จะก็อปไปก็ควรขออนุญาต เพราะการก็อปน่ะมันเร็ว และเลว เข้าใจ๋บ่นิ ฮ่วย)

    ---อยู่ๆ ในขณะที่ท่านนั่งดูทีวี รายการแข่งฟุตบอลกับครอบครัว แต่ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นเปลวไฟลุกขึ้นมา พวกเรารีบตัดไฟฟ้า พร้อมกับแช่งด่าการไฟฟ้าไปด้วย แต่ก็สายไปเสียแล้ว โคมไฟแทนที่จะมีแสงไฟ กลับกลายเป็นเปลวไฟอีก --นี่ผมพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได่ใช่ไหม แต่น่าเสียใจครับ เรื่องเกิดขึ้นที่เมืองเล็กๆในประเทศอิตาลีCanneto di Caronia
    -(-ตอนนี้ระบบประสาทผมดีมาก แปลเร้ว เคลมเร็ว พิมพ์เร็วแต่สักพักต้องกลัอไปแก้ระบบคอมพ์ตัวหลัก เพราะมีงานโหลดเพลงค้างอยู่) รอนะจุ๊บๆ แฟนๆเรื่องประะหลาด(1พันกว่าคน)อยากรู้จนเนื้อเต้นแล้ว ดูรูปปลากรอบไปก่อน-- ของเค้าดีไม่มียกเมฆ ไม่ได้นั่งเทียนเขียน เพราะเปิดไฟเขียนอะจ้า

    --มามะ เดือน ธค. ปี 2004 ในเมืองเล็กๆที่ยังมีความเชื่อโชคลาง ชีวิตดำเนินไปอย่างช้าๆเป็นมาเป็นร้อยๆปี อยู่ๆก็เต็มไปด้วยพวกวิศวกร ช่างไฟฟ้า นักข่าว แม้แต่นักสำรวจปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติต่างงก็เข้ามาในเมืองนี้เต็มไปหมด จนต้องไปพักอยู่ในโรงแรมรอบนอก
    --มันเริ่มที่ไหน
    ในขณะที่ นาย วาซานิโอ Mr.Vezanio กำลังนั่งดูทีวีอย่างสบายใจเฉิบ
    ตามปกติ รายงานไม่บอกกว่ากินเบียร์มั้ย ทันใดทัวีเริ่มมีเปลวไฟ จนกลายเป็นลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่ เท่านั้นยังไม่พอ ในอพาร์ทเม้นท์หลายแห่งก็เกิดแบบนี้ โดยไม่ได้เลียนแบบกันเลยหละ เหมือนมีแรงประหลาดที่ดึงดูดให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างกลายเป็นเปลวไฟ เช่น ฮีตเต้อร์(เตรื่องทำความร้อน) วิทยุ
    --แปลกประหลาดมากอย่างสุดๆ แปลเป็นภาษาชาวบ้านว่า "แปลกประหลาดอิ๊บอ๋าย" ที่เครื่องไฟฟ้าได้เกิดเปลวไฟ แม้ว่า มันไม่ได้เสียบปลั๊กอยู่เลยนะเว้ยเฮ้ย(สำนวน-หนังไทย)
    --เหตุการณ์ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แม้ทั้งเมืองนี้จะโดนตัดไฟฟ้าไปแล้ว (ข้าพเจ้าขนหัวลุกโชน-ผู้เขียน) รายการต่อไป แถ่นแท้น.. โทรศัพท์มือถือก็ระเบิดตามๆกันมา แม้แต่วัสดุที่ไม่เกี่ยวกับไฟฟ้า และห่างจากสายไฟ ก็เริ่มลุกใหม้ เช่นพวกโซฟา แสดงว่าอะไรรู้มั้ย --คนจีนเรียกว่า "เฮงซวย" คนไทยเรียกว่า"ซวยอิ๊บอ๋าย"--แสดงว่าต้องมี "แหล่งพลังงานลึกลับ" มมันได้เข้ามากระทำการทำลายทรัพย์ชาวบ้าน (อย่างนี้ต้องนิมนต์พระมาสวดล้างซวย นะเอ้อ)
    Jinn’s or Ghosts or some demonic powe -- ผู้คนเริ่มคิดว่า มันคือพลัง จิน ผีร้าย หรือ พลังซาจานชั่วร้าย---อ่าพี่น้องคร้าบ ขนหัวลุกอีกแล้ว โทรศัพท์ต่างได้ส่งเสียงกริ่งออกมา เมือร้บสายก็ไม่มีใครพูดออกมาจากฝั่งโน้น --เกินวิยาศาสตร์ไปเยอะ ขอเซนเซ่อ เซ็นโง่ ได้มั้ยละ นาทีนี้คงเซย์โนเป็นแถวนะ อ๊ะ ต่อสิครับถามได้ เป็นการกระตุ้นต่อมอยากรู้ของมนุษย์เข้าอะดี๊- ข้าพเจ้าต้องร่ายยาวแบบนัน-สต๊อพ เพราะแปลไปขนหัวลุกไป ชาวบ้านก็เริ่มงงกับประตูรถทุกคันที่เปิดออกมาเอง แม้พนักงานดับเพลิงที่รีบรุดเข้าไปยังเห็นกับตา และก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง งงเต็ก ครับ ไม่ใช่โกเต็กที่ขายก๋วยเตี๋ยวเรือ)
    ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเขาคนนึงจ้องดูสายไฟ มันกลับลุกเป็นไฟขึ้นพรึ่บ จะๆเลยครับพี่น้องครับ--แบบนี้ถ้าเกิดที่ไทย วิ่งหนีลูกเดียวครับ อยู่ทำไมล่ะ

    แม้แต่นักสำรวจปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกที่เข้ามาในเมืองนี้ก็ยังไม่อย่างมากมาย--ก็ยังไม่สามรถรายงานสาเหตุไปยังต้นสังกัดได้ เพราะยังหาคำอธิบายสาเหตุ แบบที่"ยอมรับได้" ไม่ได้เลย งานนึ้ต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยง -ลดขั้นว่างั้นเถอะน่า

    -ยังหาทฤษฎีมาแก้แห้ว่า เกิดจากผลขแงธรณีพิโรธ การประทุขแงภูเขาไฟบนเกาะสิซิลี ก่อให้เกิดประจุไฟฟ้ามีรวมเข้ากับกระแสไฟให้มีความรุนแรง (ขออ้วกหนึ่งที--งั้นทั่วโลกส่วนที่เกิดภูเขาไฟก็น่าจะเป้นแบบนี้--ฝรั่งมั่วนี่หว่า) these emissions volcanic alleged in the town of Di Caronia only ทฤษฎีนี้ไม่เคลียร์เลยในกรณีที่เมืองอื่นๆที่ใกล้กว่า แต่กลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
    --แล้วคุณละคิดยังไง ทุกๆคนควรมีความเห็น ไม่งั้นจะเก็บตังค่าอ่านนะ--

    --ต่อไปเป็นรายการเก็บสตังค์แล้ว ใครมีตังล้นกระเป๋า ขอให้โอนมาที่..เอ่อ เว็ปพลังจิตนะคร๊าบ ค่าเซิร์ฟเว่อร์คร้าบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2012
  9. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
  10. illanzer

    illanzer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +840
    หรือว่า!........................................ผีหลอก!!!

    :boo:
     
  11. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ----ขอความเมตตา ขอความรู้ครับ
    พระสมณโคดมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ว่า มีการเวียนว่ายตายเกิดนะ มี 16ชั้นฟ้ามี15ชั้นดินนะ และมีวิธีออกจากการเวียนว่ายตายเกิดนะ คือปฏิบัติให้เข้าถึงพระนิพพาน ตัดสังโยชน์10ให้ได้นะ
    แล้วพอมีเรื่องเทพเข้ามาอีก
    เลยอยากถามว่า องค์พระศิวะมหาเทพ ซึ่งบอกต่อๆกันว่าเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง มิติต่างๆ กฏเกณฑ์ต่างๆ แต่พระองค์ท่าน มีบุตร มีภรรยาได้ อยากถามว่ามันขัดแย้งกับพระพุทธศาสนาใหมครับ
    ถ้า2ศาสนามารวมกันแล้ว ----จะอธิบายเกี่ยวกับ พระสมณโคดมพุทธเจ้า บรมครูของเราชาวพุทธ กับ องค์พระศิวะมหาเทพว่าอย่างไรครับ
    ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

    ---และขอขมากับคำถามโง่ๆนี้นะครับ อย่าให้ข้าพเจ้ามีกรรมใดๆ เลยนะครับ เพราะก็เคารพในคุณความดีของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เทพ เทวา อยู่เป็นปรกติวิสัยอยู่แล้วครับ

    -----------------------------------
    ---ขอโทษครับที่เพิ่งมาเจอคำถาม ยินดีครับ ไม่เป็นการผิดหรอกครับ
    --ศาสนาฮินดูเกิดก่อนพุทธ มีความใกล้ชิด โดยพราหมณ์-ฤาษี ได้มาเป็นครูของพระพุทธองค์ จริงๆแล้ว ก้เหมือนว่าพ่อแม่ อยากให้ลูกได้ดี อยากให้พระพุทธองค์ได้หลุดพ้น จะได้มาสั่งสอนพวกเทพและมนุษย์อีกทีหนึ่ง

    --จริงๆแล้ว อยากจะบอกว่า พระพรหม จิตเดิมแท้ พระบิดา พระนิพพานคือสิ่งเดียวกัน แต่พุทธองค์เกรงว่า หากเราไปทางฮินดูจะดับได้ไม่สุดพอ คือไม่ใช่นิพพาน แต่ติดตรงพรหมไร้รูป-อรูปพรหม
    --ทุกวันนี้ทุกศาสนา เทพทุกองค์ประชุมกันตลอด โดยเฉพาะเรื่องภัยพิบัติ--(พระศิวะท่านใช้กายทิพย์ทางลงไปบนน้ำแข็งขั้วโลก บางองค์ก็พยายามเหยียบไว้ไมาให้ละลาย) เบื้องบนไม่ได้แบ่งศาสนาครับ แม้แต่แดนอรหันต์เขาเรียกว่า เกาะเกร็ดแก้ว แยกออกไปต่างหากจากสวรรต์ และยังมี สวรรค์สุขาวดี
    --จากภาวะสร้างทุกสิ่งคือพรหม แบ่งออกเป้นสามพลัง คือพระนารายณ์ ผู้ดูแล
    พระศิวะผู้ทำลาย เป็นไปตามหน้าที่ เวลา ที่จะดูแล หรือทำลายโลกตามวัฎจักร ตามจิตที่ผมคิด เหมือนเป็นตำแหน่งราชการ คือพระศิวะท่านำได้เกิดเป็นคนมาบำเพ็ญๆ จนที่ได้เป้นจุดนี้ อายุของเทพก้นานกว่าพุทธศาสนา จึงได้เป็นเทพที่คอยช่วยพุทธศาสนา
    --ท่านก้เคยมาคุยกับผม เกือยทุกท่าน แล้วคุณจะรักพวกท่านหากได้พบ ท่านดีกว่าคนที่เราคิดว่าาดีที่สุด มีความเทตตามากมายมหาศาล
    ---คุณครับ จากญาณของพระดังๆ คนเก่ง และเทพ--กุมารหลุดปากมา ปีหน้าเดือนสามเดือนสี่ น้ำจะท่วมโลกนะครับ--คนเราอาจเหลือ 1 ในสี่ หรืออย่างเลวก็ 1 ใน100คนครับ ต่อไปนี้ผมจะเตือนบ่อยๆขอโทษครับที่เพิ่งมาเจอ ยินดีครับ ไม่เป็นการผิดหรอกครับ
    --ศาสนาฮินดูเกิดก่อนพุทธ มีความใกล้ชิด โดยพารหมณ์ฤาษี ได้มาเป็นครูของพระพุทธองค์ จริงๆแล้ว ก้เหมือพ่อแม่ อยากให้ลูกได้ดี อยากให้พระพุทธได้หลุดพ้น จะได้มาสั่งสอนพวกเทพอีกทีหนึ่ง
    --จริงๆแล้ว อยากจะบอกว่า พระหรหม จิตเดิมแท้ พระบิดา พระนิพพานคือสิ่งเดียวกัน แต่พุทธองึ์เกรงว่า เราไปทางฮิรนดูจะดับไมสุด คือไม่ใช่นิพพาน แต่ติดตรงพรหมไร้รูป
    --ทุกวันนี้ทุกศาสนา เทพทุกองค์ประชุมกันตลอด ไม่ได้แบ่งศาสนาครับ แม้แต่แดนอรหันต์เขาเรียกว่า เกาะเกร็ดแก้ว แยกออกไปต่างหากจากสวรรต์ และยังมี สวรรค์สุขาวดี
    --จากภาวะสร้างทุกสิ่งคือพรหม แบ่งออกเป้นสาม คือพระนารายณ์ ผู้ดูแล
    พระศิวะผู้ทำลาย เป็นไปตามหน้าที่ เวลา ที่จะดูและ หรือทำลายโลกตามวัฑจักร ตามจิตที่ผมคิด เหมือนเป็นตำแหน่งราชการ คือพระศิวะท่านำได้เกิดเป็นคนมาบำเพ็ญๆ จนที่ได้เป้นจุดนี้ อายุของเทพก้นานกว่าพุทธศาสนา จึงได้เป็นเทพที่คอยช่วยพุทธศาสนา
    --ท่านก้เคยมาคุยกับผม เกือยทุกท่าน แล้วคุณจะรักพวกท่านหากได้พบ ท่านดีกว่าคนที่เราคิดว่าาดีที่สุด มีความเทตตามากมายมหาศาล
    ---คุณครับ จากญาณของพระดังๆ คนเก่ง และเทพ--กุมารหลุดปากมา ปีหน้าเดือนสามเดือนสี่ น้ำจะท่วมโลกนะครับ--คนเราอาจเหลือ 1 ในสี่ หรืออย่างเลวก็ 1 ใน100คนครับ ต่อไปนี้ผมจะเตือนบ่อยๆ
    --เรื่องศาสนาศีัทธาอย่างเดียว และจิตใกล้ตาย แม้ว่าจะเป็นพราหร์ อิสลาม ฮินดู ไทยพุทธ ใจจดจ่อพระเจ้า หรือภาวะนิพพาน ก็ส้มหล่นครับตอนใกล้ตาย จิตก้จะถูกดึงไปภพนั้นครับ ดังนั้นการหลุดพ้นไม่แตกต่างแน่ ศาสนาทุกศาสนาต่างกันที่รูปแบบ
    --------------ขอโทษครับที่เพิ่งมาเจอ ยินดีครับ ไม่เป็นการผิดหรอกครับ
    --ศาสนาฮินดูเกิดก่อนพุทธ มีความใกล้ชิด โดยพารหมณ์ฤาษี ได้มาเป็นครูของพระพุทธองค์ จริงๆแล้ว ก้เหมือพ่อแม่ อยากให้ลูกได้ดี อยากให้พระพุทธได้หลุดพ้น จะได้มาสั่งสอนพวกเทพอีกทีหนึ่ง
    --จริงๆแล้ว อยากจะบอกว่า พระหรหม จิตเดิมแท้ พระบิดา พระนิพพานคือสิ่งเดียวกัน แต่พุทธองึ์เกรงว่า เราไปทางฮิรนดูจะดับไมสุด คือไม่ใช่นิพพาน แต่ติดตรงพรหมไร้รูป
    --ทุกวันนี้ทุกศาสนา เทพทุกองค์ประชุมกันตลอด ไม่ได้แบ่งศาสนาครับ แม้แต่แดนอรหันต์เขาเรียกว่า เกาะเกร็ดแก้ว แยกออกไปต่างหากจากสวรรต์ และยังมี สวรรค์สุขาวดี
    --จากภาวะสร้างทุกสิ่งคือพรหม แบ่งออกเป้นสาม คือพระนารายณ์ ผู้ดูแล
    พระศิวะผู้ทำลาย เป็นไปตามหน้าที่ เวลา ที่จะดูและ หรือทำลายโลกตามวัฑจักร ตามจิตที่ผมคิด เหมือนเป็นตำแหน่งราชการ คือพระศิวะท่านำได้เกิดเป็นคนมาบำเพ็ญๆ จนที่ได้เป้นจุดนี้ อายุของเทพก้นานกว่าพุทธศาสนา จึงได้เป็นเทพที่คอยช่วยพุทธศาสนา
    --ท่านก้เคยมาคุยกับผม เกือยทุกท่าน แล้วคุณจะรักพวกท่านหากได้พบ ท่านดีกว่าคนที่เราคิดว่าาดีที่สุด มีความเทตตามากมายมหาศาล
    ---คุณครับ จากญาณของพระดังๆ คนเก่ง และเทพ--กุมารหลุดปากมา ปีหน้าเดือนสามเดือนสี่ น้ำจะท่วมโลกนะครับ--คนเราอาจเหลือ 1 ในสี่ หรืออย่างเลวก็ 1 ใน100คนครับ ต่อไปนี้ผมจะเตือนบ่อยๆ
    --เรื่องศาสนาศีัทธาอย่างเดียว และจิตใกล้ตาย แม้ว่าจะเป็นพราหร์ อิสลาม ฮินดู ไทยพุทธ ใจจดจ่อพระเจ้า หรือภาวะนิพพาน ก็ส้มหล่นครับตอนใกล้ตาย จิตก้จะถูกดึงไปภพนั้นครับ ดังนั้นการหลุดพ้นไม่แตกต่างแน่ ศาสนาทุกศาสนาต่างกันที่รูปแบบ
    -----------------ต๋อยเอ็ม----
    ขอโทษครับที่เพิ่งมาเจอ ยินดีครับ ไม่เป็นการผิดหรอกครับ
    --ศาสนาฮินดูเกิดก่อนพุทธ มีความใกล้ชิด โดยพราหมณ์-ฤาษี ได้มาเป็นครูของพระพุทธองค์ จริงๆแล้ว ก้เหมือนพ่อแม่ อยากให้ลูกได้ดี อยากให้พระพุทธองค์ได้หลุดพ้น จะได้มาสั่งสอนพวกเทพและมนุษย์อีกทีหนึ่ง
    --จริงๆแล้ว อยากจะบอกว่า พระพรห์ม จิตเดิมแท้ พระบิดา พระนิพพานคือสิ่งเดียวกัน(เอาเวลาทั้งชีวิต เดินทางไปทั่ว ไปค้นมา ไม่ได้มั่ว หรือเดาว่า.เป็นอย่าง.งี้--จขกท.) แต่พุทธองึ์เกรงว่า เราไปทางฮินดู--จะดับได้ไม่สุด คือไม่ใช่นิพพาน แต่ติดตรงพรหมไร้รูป
    -อรูปพรหม--ทุกวันนี้ทุกศาสนา เทพทุกองค์ประชุมกันตลอด เพื่อช่วยเหลือโลกจากภัยพิบัติ--ไม่ได้แบ่งศาสนาเลนครับ แม้แต่แดนอรหันต์เขาเรียกกัน(คล้ายนี้)ว่า"เกาะเกร็ดแก้ว"(ถามผู้รู้เก่งๆ ว่าเคยได้ยินไหม กุมมารเทพบอกมาอย่างนี้-ช่วงลองของ) แยกออกไปต่างหากจากสวรรต์ และยังมี สวรรค์สุขาวดี ของมหายาน แม่กวนอิมท่าน -อยู่อีกเขตของสวรรค์ไปทางโน้นเลี้ยวซ้าย ทางพระอาทิตย์ขึ้น

    --จากภาวะ(ผู้)สร้าง-กำเนิดทุกสิ่งคือพรหม-- แบ่งออกเป็นสามส่วนของมหาพลังงาน-- คือพระนารายณ์ ผู้ดูแล พระศิวะผู้ทำลาย เป็นไปตามหน้าที่ เวลา ที่จะดูแล หรือทำลายโลกตามวัฏจักร
    --ในตามจิตที่ผมคิด เหมือนว่าตำแหน่งราชการ คือพระศิวะท่านก็ได้เกิดเป็นคนมาบำเพ็ญๆ จนที่ได้เป้นจุดนี้ อายุของเทพก็นานกว่าพุทธศาสนา นับหมื่นๆปี จึงได้เป็นเทพที่คอยช่วยพุทธศาสนา(ผมอาจจะผิดก็ได้้ เทพองค์นี้เหมือนไม่มีร่างกาย เป็นพลังสีเงินยวง เยือกเย็นมาก -ท่านลงมา เพื่อสร้างกรรมพัวพัน หรือประกาศสัจจธรรมในบางยุค--ยุคนี้ กาลียุค-ยุควุ่นวาย-ล้างโลก- The Kali Yuka) ส่วนพรหมไร้รูป เป้นแสงสีทอง ไม่มีร่างกาย แต่ส่งจิตได้ สื่อสารได้
    --ท่านก็เคยมาคุยกับผม 10 ปี -3 ครั้ง แต่มาเกือบทุกท่าน แล้วคุณจะรักพวกท่าน-อย่างสุดชีวิตและจิตใจหากได้พบ ท่านดีกว่าคนที่เราคิดว่าดีที่สุด มีความเมตตาอย่างมากมายมหาศาล เช่นเสด็จแม่อุมา ทั้งดุ กล้าหาญ อ่อนหวาน น่ารัก ในองค์เดียวกัน พนมมือไหว้งดงามอย่างไทย เพียงแค่เห็นผ่านร่างเพื่อนผู้ชาย ดร.ปรีชา--ทางฮินดูเรียกท่านว่า มะริยะมะ-- มะแปลว่า แม่ -- แยกศัพท์ มะ+อริยะ+มะ สเด็จแม่ผู้ยิ่งใหญ่เหนือแม่(คน)และเสด็จแม่(เทพทั้งหลาย)

    ---คุณครับ จากญาณของพระดังๆ คนเก่งสมาธิ และเทพ--และกุมารก็หลุดปากมา ปีหน้าเดือนสามเดือนสี่ น้ำจะท่วมโลกนะครับ--คนเราอาจเหลือ 1 ในสี่ หรืออย่างเลวก็ 1 ใน100คนครับ ต่อไปนี้ผมจะเตือนบ่อยๆขอโทษครับที่เพิ่งมาเจอ ยินดีครับ ไม่เป็นการผิดหรอกครับ

    --เรื่องศาสนาขอศรัทธาอย่างเดียว(ทางพุทธขอปัญญาด้วย ดีเต็มๆน่ะ) และอีกอย่าง--ณ จิตใกล้ตาย แม้ว่าจะเป็นพราห์ม อิสลาม ฮินดู ไทยพุทธ ใจจดจ่อพระเจ้า หรือภาวะนิพพาน ก็ส้มหล่นครับตอนใกล้ตาย จิตก็จะถูกดึงไปภพนั้นครับ ดังนั้นการหลุดพ้นจากกิเลสไม่แตกต่างแน่ ศาสนาทุกศาสนาต่างกันที่รูปแบบเท่านั้น เน้นกระทำความดี -ทำการมีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น จิตใจดี มีคุณธรรมเปี่ยมเมตตา ทุกๆศาสนาจะสรรเสริญท่านครับ
    -----อ่านะ อ่านแล้ว ขอห้ามการออกความเห็น เพราะผู้เขียนจะเกิดอาการ "ของขึ้น"อย่างมากมาย และจะเขียนเรื่องลึกลับไม่ได้อีกหนึ่งเดือน จะทำให้ท่านอื่นๆอาจจะลงแดงตายครับ--จงเอาใจมัน(ผู้เขียน)เอาไว้เถอะครับ มีประโยชน์แน่นอน

    ---เหตุผลข้างต้น คือเป็นการโพสตอบกันในเว็ปญาณทิพย์ ตรงห้องส่วนตัว ซึ่งไม่มีใครรู้ได้ หรือว่าอ่านได้ครับ แล้วที่ข้า ..ก็อปมาให้อ่านตรงนี้มีประโยนชน์มั้ยล่ะ.. เพราะข้าเป็นคนตรงๆ(ข้ามันลูกทุ่ง ชอบนอนมุ้งสี่สาย.. บลาๆ) นักปราชญ์ราชบัญฑิต ก็ไม่สามรถตอบอย่างนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องศาสนาที่ละเอียดอ่อน ถ้าผิดเค้าจะอาย ถ้าถูกก็มีคนโต้แย้ง หน้าไม่หนาพอที่จะมาฟัดกันในเว็ปอีก -ข้าพเจ้าเตือนแล้ว ขอพื้นที่เล็กไว้ ปล่อยให้ข้าพเจ้าบ่นบ้าง--และ ห้ามออกความเห็นใดๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2012
  12. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    ผมก็เชื่อโดยหลักการนั้น
    แต่ก็ยัง ครึ่ง-ครึ่ง ล่ะครับ
    สำหรับเรื่องธรรมะนี้ ผมอยู่เป็นวันๆไปเท่านั้น
    อยู่สักแต่ว่าอยู่
     
  13. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ขอโทษที่ข้อความซ้ำๆ เพราะตอนโพสมันจะใส ไม่เห้นอะไรเลยครับ
    --มีไว้ซ้ำก้ดี เน้นๆๆ

    --ผีฝรั่งหลอกจริงๆหลอกจังๆ (ทำไม่ไม่เห็นแก่หน้าพนักงานของทางการ ที่เขามาช่วยคน ทำไปได้ยังไง เดี๋ยวฟ้องศาลโลก)--ถามว่า ทำไม่ไม่ฟ้องศาลไทย อิอิอิ--ห้ามหัวเราะและห้ามต่อกลอน เพราะว่า คุกนั้นไม่ได้เอาไว้ขังหมา แต่เอาไว้ขังพวกเราที่ปากยาวไปแตะเค้าเข้าให้ครับ)
    -- ผีไทยชอบหลอกเล่น หยอก ล้อเล่น แหกอก แหกหน้า -ดึงหัวหลุดมั่ง- ขี้เล่นจังเลยคนไทย ตายไปยังไม่ทัิ้งนิสัย..โห
    พวกเธอ
    --จงดูเครื่องแบบของผีสาว เน้นความพริ้ว สีขาว ผมเผ้า-ต้องยาวสลวย(แบบโฆษณาขายแชมพู-ครีมนวด) เน้น ความงามครับ โห..(อ่าน--และฟังจากเรื่องคนอวดผี).เจอทีไรต้องชุดแบบนี้ ไม่มีสายเดี่ยวขาสั้นจู๋ คือมันต้องมีกฏของผีอย่างแน่นอนครับ ฟันธง..แหะๆ..คงไม่มีผีมาตอบนะ
    ------------------------
    --อยู่เป็นวันๆก็ดีครับ สติอยู่กับจิตทุกๆเวลา--
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2012
  14. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ธรรมภูมิ
    สมาชิก
    --ผมเชื่อ โดยหลักการแห่งธรรม และเหตุผล--และส่วนนอกตำราที่พูดถึงการใช้ออกซิเจนที่ลดน้อยลงในการเข้านิโรธสมาบัติ และส่วนอื่นๆอีกมากมาย จิตส่วนลึกผมก็เชื่อในภูมิธรรมของชายผู้นี้ และก็เป็นอีก หนึ่งข่าวสาร จากเบื้องบนสู่ผู้อ่านทุกท่านครับผม--ติดตามได้ในหน้ากระทู้ใหม่ เรื่องลึกลับ-

    วันที่สมัคร: Feb 2011
    ข้อความ: 138
    Groans: 0
    Groaned at 31 Times in 31 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 0
    ได้รับอนุโมทนา 31 ครั้ง ใน 22 โพส
    พลังการให้คะแนน: 35

    อีกความรู้สึกหนึ่งที่เกิดขึ้น ก็คือ ผมรู้สึกได้ว่า สภาวะธรรมต่างๆ
    ของผมนั้นได้ถูกพระพุทธองค์ทรงกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว


    และยิ่งสภาวะธรรมของจิตผมละเอียดสูงขึ้นมากเท่าใด ผมก็รู้สึกว่า
    หายนะหรือมหาภัยพิบัติใหญ่ทั่วโลกก็ใกล้เข้ามามากขึ้นเท่านั้น...

    สภาวะธรรมทุกสภาวะถูกกำหนดไว้เรียบร้อยแล้วสำหรับจิตผม
    ---------------------------------
    ขณะที่ผมกำลังดูเวปอยู่นั้น คำๆ หนึ่งที่ผุดขึ้นมาในความคิดความรู้สึกของผม
    ก็คือ "กระแสแห่งธรรม" จิตมันก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติฉับพลันว่า
    จิตผมมันปรารถนาที่จะอธิษฐานจิตร่วมกับผู้ปฏิบัติธรรมผู้ซึ่งมีบุญสัมพันธ์กันกับผมในชาติภพนี้
    พอผมรู้สึกได้เช่นนี้แล้ว ความคิดที่สองมันก็ผุดขึ้นมาในใจว่า
    "เราปรุงแต่งไปหรือเปล่านิ?"
    ผมก็พยายามใช้สติปัญญานั่งคิดพิจารณาอยู่ชั่วครู่
    ต่อมาผมก็พูดในใจกับตนเองว่า "สิ่งที่เรารู้สึกและคิดที่จะกระทำนั้น
    มันก็อยู่บนพื้นฐานของจิตอันเป็นกุศลเป็นเมตตาที่จะให้ผู้ปฏิบัติธรรมผู้ซึ่งมีบุญสัมพันธ์ร่วมกันกับผมในชาติภพนี้ที่ได้อ่านข้อความนี้ของผมนั้น
    ได้เชื่อมสายใยกระแสแห่งธรรมซึ่งกันและกันโดยผ่านการอธิษฐานจิตร่วมกัน
    การอธิษฐานจิตในกาลครั้งนี้จะเป็นเหตุปัจจัยใหม่ในการเกื้อกูลผู้ที่มีสายใยกระแสแห่งธรรมซึ่งมีบุญสัมพันธ์ร่วมกันในด้านการปฏิบัติธรรม
    ทำให้เกิดความก้าวหน้าในด้านการปฏิบัติธรรมอย่างเป็นอัศจรรย์หรือเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมตามบุญวาสนาของตนเองที่เคยได้สั่งสมไว้ในกาลอดีต...

    เมื่อผมใช้ปัญญาพิจารณาดีแล้ว
    ผมก็ไปสวดมนต์นั่งสมาธิแผ่เมตตาและอธิษฐานจิต(2:01-3:30 am ประมาณ 1 ชั่วโมง
    30 นาที)เพื่อทำจิตให้บริสุทธิ์และตั้งมั่นในปณิธานในครั้งนี้
    ซึ่งผมได้อธิษฐานจิตดังนี้

    "ด้วยแรงอธิษฐานจิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานต่อพระพุทธเจ้าทุกๆ
    พระองค์ต่อครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้าในชาติภพนี้และต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงที่สถิตอยู่ในทั่วสากลพิภพจักรวาลทั่วภพสามโลกัณฑ์ทั่วทุกภพภูมิมิติว่า
    ข้าพเจ้า "ธรรมภูมิ"
    ขอตั้งจิตอธิษฐานเชื่อมสายใยกระแสแห่งธรรมกับผู้ที่มีบุญสัมพันธ์และได้อธิษฐานจิตร่วมกันกับข้าพเจ้าในกาลครั้งนี้
    ขอให้การอธิษฐานจิตของข้าพเจ้าจงสัมฤทธิ์ผลตั้งแต่กาลบัดนี้เป็นต้นไปในทุกภพทุกชาติตราบเข้าสู่พระนิพพาน
    การอธิษฐานจิตในกาลครั้งนี้เพื่อส่งเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันให้มีความก้าวหน้าในด้านการปฏิบัติธรรมอย่างเป็นอัศจรรย์หรือเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมตามบุญวาสนาของตนเองที่เคยได้สั่งสมไว้ในกาลอดีต
    ธรรมใดที่ข้าพเจ้า "ธรรมภูมิ" สำเร็จแล้ว และธรรมใดที่ข้าพเจ้า "ธรรมภูมิ"
    กำลังเพียรอยู่ในกาลปัจจุบัน และธรรมใดที่ข้าพเจ้า "ธรรมภูมิ"
    จะสำเร็จในกาลอนาคต
    ขอให้กระแสแห่งธรรมเหล่านั้นจงสัมฤทธิ์ผลสู่สายใยกระแสแห่งธรรมที่เกิดจากการอธิษฐานจิตร่วมกันกับข้าพเจ้า
    "ธรรมภูมิ" ในกาลครั้งนี้ด้วยเทอญ สาธุ"

    ขอให้ผู้ที่มีความเชื่อเดียวกันกับข้าพเจ้าที่มีบุญสัมพันธ์ซึ่งกันและกันนั้น
    มาร่วมกันสร้างเหตุปัจจัยใหม่อันเป็นกุศลเพื่อเกื้อกูลซึ่งกันและกันในด้านการปฏิบัติธรรมตั้งแต่บัดนี้ไปจนตราบเข้าสู่พระนิพพาน
    ด้วยบทอธิษฐานจิตร่วมกัน ดังนี้

    บทอธิษฐานจิตร่วมสายใยกระแสแห่งธรรม

    --------------------------------------



     
  15. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    -----เนื่องากข้าพเจ้าได้รับข่าวสาร ถึงสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน-ในช่วงไม่กี่วัน
    --ไม่นับที่ได้รับจากเทพ-

    และ เหมือนมีอุปสรรคที่จะเขียนอย่างมาก จึงขอบอกตรงนี้ ด่วน

    --หลวงปู่ เณรคำ ท่านได้นั่งสมาธิในปิรามิดยักษ์แล้ว พบกับผู้สร้างปิรามิด ในรูปแบบของปิรามิดเล็ก 11 อันมาวนรอบตัวท่าน
    --หลวงปู่นิมิตเห็นดาวใหญ่ยักษ์ สีน้ำตาล พุ่งตรงมาใกล้โลก และด้วยพลังดึงดูดของโลก มันก็ได้พุ่งตรงเข้าชนโลกแบบเต็มๆ และเกาะติดเข้ามาด้วยกันกับโลก ตรงนี้ต่างกับชาวต่างดาว ซีต้า-Zeta Retticulli บอกว่าเคยขนเมื่อหมื่นปีก่อน สะเก้ดดาวได้รวมตัวเป็นดวงจันทร์ และครั้งนี้ไม่ชน แต่เฉียด
    (โดยที่ไม่มีใครบอกท่าน ท่านไม่ได้เล่นเน็ต และคุณแม่วารุณีก็บอกว่าท่านได้บรรลุธรรมชั้นสูงแล้ว)
    --อย่าลืมว่า พระอาจารย์รัตน์ท่านก็พูดเรื่องดาวนิบิรูมาแล้วเช่นเดียวกัน

    -ชาวต่างดาวหลายๆดวงที่มาตั้งฐาน-Base-ที่เขากะลา นครสวรรค์ ก็พูดเรื่องนี้มานานแล้ว และได้เตรียมระบบ-The System--ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์หรืออะไรก็ไม่ทราบ ซึ่งทำให้ในปัจจุบัน หลายๆคนได้มีความสามรถรักษาโรคได้ โดยใช้พลังจิตล้วนๆ

    --ต่อไปเราจะไม่ซ้ำซากเรื่องนี้อีก แต่เราจะมาพูดเรื่องที่ว่า จว.ไหน มีระดับสูงกว่าน้ำทะเลเท่าใด อะไรจึงจะเป็นอาหาร และยา ที่เหมาะสม มีวัด หรือสถานที่ส่วนรวมแห่งใไหนที่พร้อม ร่วมกันกับหน้าภัยพิบัติและเตรียมการครับ
    --ปัจจัยสี่ของมนุษย์ คือ
    --ที่อยู่อาศัยที่ดี เป็นพอจะที่สบาย
    --เครือ่งนุ่งห่ม ถึงมีน้อยแต่ต้องใช้งานได้ดี
    --อาหารที่ดี อย่างน้อยก็ขอให้ประทังชีวิตได้โดยไม่ป่วย
    --ยา ถึงมีน้อย แต่ขอให้เป็นยาที่ดี ยาสมุนไพร อะไรก็ได้ที่ใช้ประโยชน์ได้ นาทีนี้ เรียกว่าจวนตัว มีดจ่อคอหอย ไฟลนก้น--The fire is under your bottom แล้วนะครับ

    --ด่างทับทิม ใช้ล้างผัก ปัจจุบันมีน้อย ตามร้านขายยา แต่อีกที่คือร้านเคมีภัณฑ์ในราคาไม่แพง
    --คาลาไมน์ คือยาแก้อาการผื่น แพ้ ซึ่งอาจจะถึงชีวิตได้ แต่ยานี้แก้ได้ง่ายๆ และเร็ว
    --ยาหม่อง ยาลม ยาลดกรด ของในบ้านที่ท่านใช้ และคิดว่าจำเป้นช่วยกันคิดเสนอมา เพื่อลิสค์รายการนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2012
  16. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    สถานีที่ ที่-"ปลาดประแหลก" แปลกประหลาด เหมือนเป็นนอกโลก หรือผ่านน้ำท่วมโลกมาแล้ว-ฟันธง
    Do you want to see some of the most amazing paranormal places in the world??
    I’m gladly telling you that these places are not even 1% from all the beautiful
    breathtaking
    places around the world.

    The bottom line is the natural wonders are here to remind us how much respect we owe our planet while the history masterpieces try to make us understand that the human art and glory are not meant to last forever.
    Turkey – Land Of Cappadocia

    [​IMG]
    [​IMG]
    Angkor – Campodia (Angkor Wat Temple)


    [​IMG]
    [​IMG]
    Blue IceBerg Sandwitch Island

    [​IMG]


    Cusco Region of Peru, South America – Machu Pichu

    [​IMG]

    Monomoy Island


    [​IMG]
    [​IMG]

    India – Taj Mahal


    [​IMG]

    France – The Great Dune Of Pyla

    [​IMG]

    Jordan – Petra

    [​IMG]

    And Finally -



    Venezuela – Mount Roraima


    [​IMG]

    [​IMG]

    <INS style="POSITION: relative; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 728px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; HEIGHT: 90px; VISIBILITY: visible; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 728px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; HEIGHT: 90px; VISIBILITY: visible; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=aswift_0 height=90 marginHeight=0 frameBorder=0 width=728 allowTransparency name=aswift_0 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>​
     
  17. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ในส่วนที่เป็นตัวตนของผม ได้แก่จิตและร่างกายนี้ มันดื้อยิ่งกว่าควาย ปากร้าย ชอบระราน ไม่ค่อยจะยอมสยบให้แก่หลักธรรมพื้นฐานง่ายๆ เช่น อนิจจัง การ เกิด แก่ เจ็บ ตาย- ร่างกายไม่ใช่ของเรา--ก็ต้องคอยว่าคอยเตือนมันแบบนี้แหละ เพราะควายเขายังสอนให้เชื่องและใช้งานได้ แต่ไอ้คนดื้อรั้นนี่ไม่มีประโยขน์อะไรเลย-- วัที่พี่ชายภรรยาผม ไปตายด้วยหัวใจวายที่ท่ารถ เทพก็เตือนแล้วว่า อย่าไป และมีรอยเท้าสุนัขติดเลือดสดๆ ย่ำอยู่ทั่วบ้าน มาคิดๆแล้วคือยมฑูตท่านมาพร้อมกัยสุนัขในนรก (หรือ หมาสรวง--สรวงคือสวรรค์--สำนวนอีสาน -ส่วนงูซวง -งูเทพเจ้า) คนพิการคนนี้ก็ดื้อสุดๆ รั้นปล้วไม่ได้ดีอย่ารั้น)
    --จากบทความเรื่องไฟลึกลับ จะเห็นคำว่า จินน์ Jinn-- Djin ซึ่งเป็นคำๆเดียวกับ "ยิ"น หรือ "ญิณ" ในศาสนาอิสลาม,นะครับ โผล่ไปดังถึงยุโรป ซึ่งบังเอิญพอดีที่เราพูดเรื่องนี้มาก่อนแล้ว
    จะว่าไปมนุษย์ก็ไม่เคยรู้หรือเข้าใจ-ในมิติลี้ลับนี้ จึงสรุปว่า ภูต นางฟ้า เทวดาน้อย ก็ว่า กันไป และคงจะมาเป็นการ์ตูนจินนี่สาวสวยในที่สุด--ในยุโรปมีเรื่อง คนแคระจีโนม นางฟ้าน้อย เทวีอะโฟรไดท์- เทพเจ้า ซุส อะพอลโล่ เป็นตำนานน่าสนุกนะ

    ---มาๆ มาเอาสูตรยาอายุวัฒณะ ลดเบาหวาน ความดัน ค้นพบตั้งแต่สมัยพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นสูตรลับของชาวจีนเค้าครับ ใช้น้ำส้มสายชูหมัก สีออกเหลืองๆไม่ใส และไข่ไก่เบอร์สามเบอร์สี่---ขณะนี้น้ำหมักขวดเล็กเค้าขายขวดละ 100 แล้วนะครับ ยังไม่ได้ไปขอเจ๊มาเลย ทางคุณแมวก็ว่า ยังไม่ครบเวลา สักปีกำลังสวย..โธ่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  18. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    เป็นไข้เดี้ยงไปสามวัน ปวดไปทั้งตัวเลยค่ะ
    เนตก็ติดๆดับๆ เข้าเวปทีก็อืดซะ มาแปะโป้งไว้
    เดี๋ยวค่อยมาทยอยอ่าน ความรู้ดีๆทั้งนั้นเลย ^^
     
  19. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    1. น้ำส้มสายชูหมัก จากข้าวหรือผลไม้จะมีวิตามินซีสูงมาก (น้ำส้มสายชูหมักมีสีคล้ายกับสีของน้ำชาอ่อน ไม่ใสเหมือนสีของน้ำส้มสายชูกลั่น ซึ่งเป็นสารเคมี) นิยมใช้เป็นส่วนผสมของน้ำจิ้มในร้านอาหารจีน,บ้านคนจีน,โต๊ะจีน ฯลฯ ได้แก่ตรา DIAMOND เป็นน้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรดแท้ 100% มีกรดน้ำส้ม 42% (ปัจจุบันมีขายใน FOODLAND เพียงแห่งเดียว มีหลายสาขา) มีมาตราฐานการผลิตสูง น้ำส้มสีชาอ่อน สดใส เก็บไว้ได้นานประมาณ 3 ปี จึงหมดอายุ (ดูได้ที่ขวดบรรจุ)


    ดอง 4-5 วัน นำมากินดิบๆ กับน้ำผึ้งก็ได้ กินนิดๆ อย่าแดร๊กมาก มันเปลือง เบาหวานจะขึ้นอีก ผักคึ่นไช่ ก็ล้างเลือด ล้างผิษได้ดี ผลฝรั่ง ใบฝรั่งก็สุดยอดนะครับ
    หมายเหตุ : น้ำส้มสายชูหมักมีคุณภาพเหมาะสมต้องมีกรดน้ำส้มอยู่ประมาณร้อยละ 4.2 ถึง 4.5 และต้องทำให้เปลือกไข่นิ่มลงหลังจากดองได้ 1-2 วัน อาจสังเกตเพิ่มเติมได้ว่า ทันทีี่เริ่มดองจะมีก๊าซเล็กๆ (ฟองอากาศ) จำนวนมากผุดออกมาจากเปลืองไข่ในส่วนทีี่สัมผัสกับน้ำส้มสายชูหมัก
    2. ไข่ไก่สดใหม่ 8 ฟอง ต่อน้ำส้มสายชูหมัก 1 ขวด (ถ้าทาน 2 คนใช้ไข่ไก่ 16 ฟอง ต่อน้ำส้ม 2 ขวด ไข่ไก่ขนาดเล็กเบอร์ 3 หรือ เบอร์ 4 จะเหมาะที่สุด) ห้ามแช่เย็นมาก่อน ถ้าใช้ไข่จะเน่าเสียทั้งหมด เสียทั้งน้ำส้ม ไข่ และเวลา

    3. โหลแก้ว
    เท่านั้น ขนาดเบอร์ 8 จำนวน 2 ใบ การณีที่ต้องการทานยาต่อเนื่อง ซึ่งไข่จะไม่ซ้อนกัน เพราะหากซ้อนกันมากไข่มีโอกาสแตกได้ง่าย


    สรรพคุณ :


    แก้เส้นเลือดหัวใจตีบ คลอเรสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง-ต่ำ เบาหวาน ปวด บวม ชา ไหล่ติด ละลายหินปูน บำรุงสายตา ฯลฯ

    รักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โรคหัวใจ) เลือดข้นและเหนียว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ ลดไขมันในเลือด (ทั้งคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์) ไทรอยด์ อัมพฤกษ์หรืออัมพาต อันเนื่องจากเส้นเลือดในสมองตีบ ละลายหินปูน อาการเมื่อยชา ตึง ปวด และบวมตามร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณด้านหน้าแหละด้านหลัง ปวดเข่า ปวดหลัง ขาไม่มีเรื่ยวแรง (ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากหินปูนที่งอกพอกกระดูกสันหลังเบียดหรือทับเส้นประสาท) โรคข้ออักเสบ เช่นข้อนิ้วมือแข็ง และงอไม่ลงเป็นต้น ไหล่ติด อาการหน้ามืดบ่อยๆ หมดความรู้สึกทางเพศ ทำให้หลอดเลือดสะอาด เลือดหมุนเวียนได้สะดวก สร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ไม่เกิดสิว แผลสด จะหายเร็วกว่าปกติ ใบหน้าอ่อนวัย แข็งแรงกว่าเดิม เป็นยารักษาาโรคครอบจักรวาล สำหรับผู้สูงอายุ 40 ปีขึ้นไป ไม่มีผลข้างเคียงเพราะมาจากธรรมชาติ สุดแสนประหยัด สามารถทำได้เอง และ ได้ผลอย่างแท้จริง
    ---เกร็ดความรู้ 1. น้ำส้มสายชูหมักหาซื้อได้ยาก เดี๋ยวต้องหาสูตรหมักไว้ให้ หรือทำรูปแบบอื่น
    2. ไข่ไก่ที่ไม่ต่างเบอร์มาก อย่าไปคิดรังคัดรังแคกะมัน เพราะไข่แดงจะมีขนาดเท่ากันครับ ฟันธง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2012
  20. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    -เน็ตของคุณอิสรีล คงเดี้ยงพอๆกับเจ้าของ
    -ไข้ เกิดจากร่างกายปรับตัวไปทันกับความร้อน ชื้น และไอฝนน่ะครับ
    - คน กทม.จะเป็นหวัดง่าย หากมาอยู่เชียงรายสักสองปี เจอหนาวจัด ร้อนจัดก็จะไม่เป็นหวัดง่ายๆ ยังอุตส่าห์มาลงทะเบียนไว้อีก ขอให้หายเร็วๆ สำหรับสาวจิตต์งามประจำกระทู้คร้าบ

    -
    ---ขำๆ--
    "ชื่อนั้นแฝงความหมาย"

    -คอลัมนิสต์หนุ่ม คุยกับเพื่อน คุยไปคุยมา ส้มโอ ต้องนครชัยศรี "ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวสวย" แม้-หมู่บ้านจัดสรรก็ต้องชื่อดอกไม้ -ชื่อผู้หญิง แสดงถึงเรื่องเพศที่มีความอ่อนหวาน ประโลมใจ
    --พอท้ายๆเพื่อนเค้าบอกว่า เอ่อ..ดีแท็กไง ดีแถ็ก ก็ แดร็กถี่ๆ.. โอความหมายถูกต้องตรงเป๊ะ (ไม่ได้ว่าค่ายมือถือนะครับ พวกท่านมีสิทธิ์ "แดร๊ก" เงินเราทุกๆค่าย อย่างเสรีคร๊าบ)-จากบทความของ คุณหนุ่ม เมืองจันทน์ --มติชน สุดสัปดาห์

    ------เดือนสามมีอะไร---
    นิโคลน นักร้องสาว ส้มหล่นกับงานเพลง เดือนแรกนิโคลนมีบ้าน เดือนที่สอง นิโคลนมีรถเก๋งใหม่เอื่ยม ถามว่า เดือนที่สาม มีอะไร
    ตอบ เดือนที่สามก็ มีนาคม

    ---ดารานักร้องต้องหาเงิน--
    ถ้าดาราหนุ่ม ธีรเดช ร่วมหุ้นกับคุณ มยุรา และพี่ อริสมันต์
    จะตั้งชื่อร้านไก่ทอดนี้ว่าอะไรดี-
    ตอบ เคน- ตั๊ก-กี้

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...