*** พ.ศ.2556 ผลการกระทำ กรรมที่เหลือเชื่อ ****

*** แก้นิสัยสาปแช่ง ****

ท่านเคยสาปแช่ง...เพราะ ตัวกระทำในอดีต มันทำมา
แช่งกันไป แช่งกันมา....วนเวียนไม่รู้จบสิ้น

การแก้ไข...ต้องแก้ที่ตัวเอง
คือ ตัดนิสัยชอบไปสาปไปแช่งผู้อื่น
๑. ขอขมาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำผิดพลาดพลั้งไปในอดีต
๒. ขอถวายสัจจะต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่า
...ไม่สาป ไม่แช่งผู้อื่น ตลอดชีวิต....

การใช้ชีวิตต่อไป ก็จะมีสัจจะคอยเตือนตลอดเวลา
นี่คือ...สัจจะทำ คำสอนพระพุทธเจ้า
เพื่อให้หลุดพ้นทุกข์จากนิสัยของตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** คิดเหมือนพระพุทธเจ้า ****

ก่อนพระองค์จะพบ... "หลักสัจจะ"
ท่านทรงทดลอง....หลากหลายวิธีปฏิบัติแล้ว
แต่ก็พบว่า...ไม่ใช่หนทางที่จะนำพาให้หลุดพ้นจากความทุกข์ จากการเกิดใหม่ได้
จนสุดท้ายพระองค์ จึงค้นพบว่า.... "ผลการกระทำ" เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ หาค่าประเมินมิได้
พบว่า สิ่งที่จะติดตัวของเราไปตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์...คือ "ตัวกระทำ"....
มิใช่พลังความสามารถพิเศษใดๆ

มนุษย์มักเห็นว่า... "สิ่งที่ยาก สิ่งลำบาก คือ หนทางสู่ความสำเร็จ"
จนมองข้ามบางสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
นั้นคือ หนทางที่จะสร้าง และสะสม "ตัวกระทำ" ....ที่จะต้องติดตัวของเราไป
พระพุทธองค์ กลับพบว่า "หนทางหลุดพ้น" ซึ่งเป็นทางตรงสู่นิพพาน ... กลับเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด
แต่.... ทุกคนก็มองข้ามไปหมด

สิ่งที่จะนำทางให้เราสร้าง "ตัวกระทำ" ให้กับตัวของเราได้
นั่นคือ "สัจจะ"...สัญญาใจตนเอง

"กรรม"... คือ ผลจากการกระทำในอดีต
สิ่งที่ทำให้ก่อการกระทำต่างๆ ในชีวิตเรา ....คือ "นิสัยสันดาน" ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
กำเนิด.... นิสัย...สันดาน...การกระทำ...กรรม...ชะรา...มรณา...แล้วก็ กำเหนิดเกิดใหม่...ไม่รู้จักจบสิ้น
กลายเป็น ชะตาลิขิต

หาก "มุ่งหลุดพ้น จากบ่วงกรรม"
จำเป็นต้อง... "ขจัดนิสัยสันดานให้หมดสิ้น" ไปจากจิตใจของตัวเอง
พระพุทธเจ้า จึงเริ่มปฏิบัติ....ด้วย "สัจจะ" ตั้งแต่นั้นมา
ตั้งใจ ลด ละ ปลด ปลิด นิสัยไม่ดี นิสัยที่เหลืออยู่ ...วันละอย่าง วันละข้อ
จนที่สุด

 

*** หลักสัจจะธรรม & การหลุดพ้นทุกข์ ****

หลักสัจจะธรรม คือ หลักธรรมเที่ยง ... ที่ปักไว้อย่างมั่นคง
มีแก่นสาร คือ...."ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน"

หาก เราพิจารณา...จะพบว่า
ผลตอบแทนของตัวกระทำ ก็คือ.... กรรม ที่เป็นของใครของมัน
ไม่ว่าจะเจตนา หรือไม่เจตนา....ก็เกิดเป็นตัวกระทำ ขึ้นมา
อุบัติเหตุ โรคภัย...เป็นตัวอย่างของ กรรมที่ไม่เจตนาให้เกิด
แต่ มันเป็นผลจาก....การกระทำที่ไปเบียดเบียนผู้อื่น โดยไม่เจตนา

เมื่อ พระพุทธเจ้า ... ค้นพบ หลักสัจจะธรรม ที่มีอยู่ในธรรมชาติแล้ว
จึงได้ค้นคว้าหา....หนทางหลุดพ้นทุกข์
พบว่า...

 

*** หลักสัจจะธรรม & ตัวตน ****

เมื่อ พระพุทธเจ้า ค้นพบหลักสัจจะธรรม...ที่เป็นหลักธรรมเที่ยง
เป็นเหตุผลของทุกสิ่ง.... รอบคอบจักรวาล

พระพุทธเจ้าได้กล่าวเป็น ...สาระแก่นสารของ หลักสัจจะธรรม ไว้ว่า
....... " ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน " .......

ตัวกระทำ...ก็คือ ตัวตนของทุกการกระทำ
ตัวกระทำ.... มีอยู่จริง แต่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตา
ตัวกระทำ...ไม่ตาย คือไม่สูญสลาย จะตามติดตัวเราไปชั่วกัปชั่วกัลป์
ที่สำคัญ....ทุกตัวกระทำ มีผลย้อนกลับมาถึงผู้ที่กระทำ ทั้งปัจจุบันและอนาคต
ตัวกระทำ... คือ ผู้จัดสรรในการเกิดใหม่แต่ละชาติ
และ ตัวกระทำ....จะนำพาสู่นิพพานสำหรับผู้ทำได้ คือ ตัดนิสัยจนหมดสิ้น

ตัวตน ในหลักสัจจะธรรม...ก็คือ ตัวกระทำ ที่พระพุทธเจ้ากล่าวถึง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** กฎข้อบังคับ ****

กฎหมาย...ไม่ได้ผล
เพราะ...คนไม่มีสัจจะ
กฎหมาย....จึงไม่ศักดิ์สิทธิ์

ศีล...ไม่เกิด
เพราะ....คนขาดสัจจะ
ศีล...จึงส่งผลดีไม่ได้จริง

พระพุทธเจ้า...พิจารณาคำสอน
พบว่า.... สัจจะ คือผู้นำตนเองให้ทำได้จริง
รับศีล แต่ขาดสัจจะ...การกระทำจึงไม่เที่ยง
จึงต้องรับผลตอบแทน ที่ไม่เที่ยง....เสมอ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สายกลาง ****

ข้อกำหนด ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
พระพุทธเจ้า พบว่า....เป็นข้อกำหนดที่กว้างมากเกิน มนุษย์เราจะทำได้จริง

พระพุทธเจ้า พิจารณาว่า...เราควรที่จะตั้งใจทำในสิ่งที่เป็นไปได้จริง
เช่น รับสัจจะว่า ไม่ฆ่ามนุษย์ในครรภ์และนอกครรภ์ ตลอดชีวิต
จึงเป็นการระบุ ความชัดเจน...ให้กับตนเองได้ปฏิบัติ
เมื่อ มนุษย์ทำได้จริง.... ก็เกิดเป็นการกระทำเที่ยง
สามารถส่งผลดี ผลเที่ยง... ได้จริง

พระพุทธเจ้า จึงสอนให้ ....เดินสายกลาง
คือ พิจารณาว่า... เราควรตั้งใจทำ ในสิ่งที่พอหยิบ พอเอื้อมถึงจริง
ไม่เหนือบ่าฝ่าแรงจนเกินไป
เช่น สัจจะบางข้อ กำหนดปฏิบัติ วันละชั่วโมง
แต่ การทำเป็นประจำทุกวัน...ย่อมสงผลต่อตนเองแน่นอน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สัตว์โลก ****

มีขนาดใหญ่ ถึงเล็ก
ใหญ่แบบไดโนเสาร์ ปลาวาฬ
ไปจนขนาดเล็กกว่าปลายขนตา ...จนตาเรามองไม่เห็น
แต่ ทั้งหมดก็คือ.... สัตว์โลก ที่มีจิตวิญญาณเหมือนกัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** การโกหก กับ บาป ****

โกหก...คือ พูดไม่ตรงกับความจริง พูดเรื่องไม่มีจริง
บาป....คือ สิ่งที่ทำให้มัวหมอง เป็นทุกข์

การโกหก...ไม่ได้ทำให้เกิดบาป เสมอไป
แต่ บาป....เกิดจาก "ผลของการโกหก"

นิทานชาดก...ก็ไม่ใช่เรื่องจริง
แต่ เป็นเรื่องแต่งขึ้น....เพื่อ ประโยชน์ในการสั่งสอน
ประโยชน์...เพื่อ เรียนรู้ เรื่องความดี ความชั่ว บาปบุญคุณโทษ

การเล่านิทานชาดก...ก็คือ การโกหก
แต่ผลที่เกิด....ไม่ใช่ทำให้คนฟังมัวหมอง เป็นทุกข์
แต่ผลของการเล่าเรื่องไม่จริงนี้...กลับทำให้ คนฟังเกิดปัญญา
ได้ พิจารณาตนเอง...ดูตนเอง
และพยายาม ....ขจัดนิสัยตนเอง

การโกหก... จึงไม่ได้ทำให้เกิดบาป เสมอไป
แต่ บาป.... อาจเกิดขึ้นได้จาก "ผลของการโกหก"
เราจึงต้องพิจารณาที่.... "ผลของการกระทำ" นั้นๆ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ศาสนากับจิตใจ ****

ศาสนา สอนให้เรา เข้มแข็ง...ไม่ใช่อ่อนแอ
กลัวโน้น กลัวนี่

ศาสนา สอนให้เราฉลาด ....มีปัญญา พารอดพ้นจากความทุกข์ได้เอง
ไม่ใช่ ...พาตนเองไปติดกับดัก ตกเป็นทาสเขา

ศาสนา...สอน ให้มี สัจจะ ในการทำความดี
ไม่ใช่....กลัวที่จะทำความดี
เช่น
จะเลิกบุหรี่สักที ...กลัวแล้วกลัวอีก ไม่กล้าไม่เริ่มสักที
จะเลิกเหล้าเลิกเบียร์ .... ก็คิดแล้วคิดอีก เสียดายมัน แต่ไม่กลัวมะเร็ง ตับแข็งตาย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ความดี ****

ความดี...ไม่ได้ทำกันง่ายๆ
ความดี....คือ ไม่ทำตามนิสัยตนเอง

- “ หนุมาน ผู้นำสาร ”

 

*** นิสัย ****

นิสัย คือ อะไร
นิสัย...คือ สิ่งที่ทำให้ไม่สงบนิ่ง

- “ หนุมาน ผู้นำสาร ”

 

*** ที่สุดของความดี ****

ที่สุดของความดี...คือ การขจัดนิสัยจนหมดสิ้น

- “ หนุมาน ผู้นำสาร ”

 

*** วิธีทำความดี ****

คือ... "เดินสายกลาง" ทำในสิ่งที่สามารถทำได้จริง
ไม่มากเกิน.... จนทำไม่ได้จริง ท้อแท้ เบื่อที่จะทำ หรือ ยอมโกหกเพื่อรักษาหน้าตนเอง
ไม่น้อยเกิน...จนแทบไม่เห็นผลดี ขาดความจริงจัง ทำพอเป็นพิธี แค่ผ่านๆ จบๆไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ทำบุญทำทาน ****

ยังไม่ใช่การทำความดี...เพื่อหลุดพ้นทุกข์
ทำมากไป....ก็ไปกองสะสม ที่พระ ที่วัด
จึงต้องพิจารณาก่อนทำ...ไม่ไปสนับสนุน การสะสมนิสัยให้กับผู้อื่น
จะกลับกลายเป็น ....ทำบุญแต่ได้บาป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ไปวัด ****

คือ...ไปวัด ไปตัด
คือ.... ไปวัดนิสัย ไปตัดนิสัยตนเอง
สักข้อ สักอย่าง ...ขอให้ทำจริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** วัด ****

คือ ....สิ่งที่ชาวบ้านช่วยกันสร้างที่เขาปราณาในบุญกุศล
วัด... ไม่ใช่สมบัติของสมณะ
เพราะ ....สมณะเป็นผู้มุ่งปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นทุกข์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สมณะ ****

เป็น...เนื้อนาบุญแก่สัตว์โลก
สมณะ....เป็นผู้รู้วิธีตัด ลดนิสัยตนเอง ตามคำสอนพระพุทธเจ้า
เมื่อทำได้ นำตนเองได้...จึงจะสามารถสอนผู้อื่นได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** อาศัยวัด ****

สมณะ...ผู้อาศัยวัดที่ชาวบ้านสร้างไว้
ถือเป็นหนี้ชาวบ้าน.... จึงต้องพยายามทำความดี ด้วยการตัดลดนิสัยตนเอง
เพื่อ ชดใช้หนี้ชาวบ้าน...สิ่งที่ชาวบ้านปรารถนาเวลาทำบุญ ยิ่งใหญ่
รับของชาวบ้านมาก....ก็ต้องใช้หนี้ชาวบ้านมากตาม
พระพุทธเจ้า...ขอข้าวชาวบ้านฉัน วันละมื้อ
เพราะ....ปรารถนาหลุดพ้นทุกข์ เกรงว่าถ้ารับไปมาก
ก็ต้องกลับมาเกิดใหม่... เพื่อใช้หนี้ชาวบ้าน ไม่จบสิ้น

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ความดี ไม่ได้ทำง่ายๆ ****

เพราะ ในทางศาสนา...
การทำความดี คือ การตัดลดนิสัยตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** การปฏิบัติ เพื่อหลุดพ้นไม่ต้องมาเกิดใหม่ ****

พระพุทธเจ้า...พบว่า
ความเชื่อเกี่ยวกับการปฏิบัติ.... ที่จะทำให้หลุดพ้นทุกข์ มีอยู่มากมายทั่วโลก ในยุคนั้น
แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้จริง

สุดท้าย
พระพุทธองค์ได้จบลงด้วย "สัจจะปฏิบัติ"...การมุ่งตัดกิเลสนิสัยด้วยข้อสัจจะ
เป็นการปฏิบัติหนึ่งเดียว.... ที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ได้ปฏิบัติมา
ที่ต้องทำทุกวัน เป็นประจำ...จึงเกิดผลจริง
กิเลสนิสัย หมดไปได้จริง

ปัจจุบัน
ความเชื่อนอกคำสอน....เกี่ยวกับการปฏิบัติที่จะทำให้หลุดพ้นทุกข์ ที่มีอยู่มากมายทั่วโลก
ก็กลับมารุ่งเรืองในยุคปัจจุบัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "