พวกพุทธภูมิทีนี่คือพวกเอาดีไม่ได้ใช่อ๊ะปะ

ก็มาเลย...ห่วง สวย งาม อะไร หรือว่า หนู Jmind เป็น . . .

ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

 

อันดับแรกเลยคุณปรามาสพระรัตนตรัยเพราะพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมต้นจนถึงสมเด็จองค์ปัจจุบันเป็นที่สุดล้วนแต่ปรารถนาพุทธภูมิทั้งสิ้น คุณรู้ความหมายความรู้สึกของคนเป็นพุทธภูมิไหม อันดับแรกเลยมีเมตตา กรุณา ต้องการช่วยคนให้พ้นทุกข์ ถึงปวารณาตัวขอบำเพ็ญบารมีขนสรรพสัตว์ทั้งหลายข้ามวัฎสงสารซึ่งทุกท่านล้วนแต่ต้องบำเพ็ญบารมีมากกว่าสาวกนับหลายอสงไขย ไม่ใช่ว่าพุทธภูมิแบบปัญญาธิกะจะใช้แค่ 4 อสงไขยกับ 1 แสนมหากัป นั่นไม่ใช่นะ ท่านจะต้องตั้งความปรารถนาในใจก่อน แล้วจึงเปล่งวาจาออกมาอีก รวมแล้วไม่ใช่แค่ 4 อสงไขยนะครับ เพราะฉะนั้นจะไปว่าท่านเหล่านั้นไม่ได้ เพราะการบำเพ็ญบารมีนั้นมีตั้งแต่ บารมีต้น อุปบารมี และปรมัตถบารมี ซึ่งถามว่าแต่ละขั้นนานไหมมันแล้วแต่ความเข้นข้นของท่านนั้น ๆ ว่าปฎิบัติและบำเพ็ญได้มากเพียงไร ถ้าคุณเป็นบารมีต้น ก็คือ ปุถุชนทั่วไป รัก โลภ โกรธ หลงเต็มหัวเลย จะเอา ฌานมาก็ยังปฎิบัติไม่ได้ แต่ถ้าคุณบำเพ็ญเพียรต่อมาเรื่อย ๆ ก็เหมือนกับเก็บสะสมความดีและสมาธิมาเรื่อย ก็จะค่อยเพิ่มพูนเอง อุปบารมีนี่ จะพร้อมเสียสละร่างกายแล้ว ไม่ว่าจะควักลูกตา เฉือนเนื้อ หนัง อะไรก็ตามแม้แต่ชีวิต ขั้นปรมัตถบารมี จะบำเพ็ญชาติละ 1 บารมี ให้ครบสิบ และรอการตรัสรู้ แต่ในทุกขั้นคือ ต้องมีเมตตา กรุณาเป็นที่ตั้ง ขนาดเณรแค่คิดปรารถนาพุทธภูมิเวลาเดินตาอาจารย์ที่เป็นพระอรหันต์ อาจารย์ท่านยังเรียกให้เณรเดินนำเลย แต่พอเณรคิดอีกว่าจะไม่ปรารถนา ท่านก็เรียกให้เณรเดินตาม จะเห็นได้ว่าแค่คิดเท่านั้นพระอรหันต์ท่านก็ให้เกียรติขนาดนั้น แล้วท่านเองไปว่าแบบนั้นจะดีหรือ แล้วอย่าลืมว่าก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ท่านก็เป็นพุทธภูมิมาก่อนนะ จะไปว่าศีลขาด ทำสมาธิไม่ได้ไม่เกี่ยวเพราะพระพุทธเจ้าตอนเป็นมหาทุกขตะ ท่านก็บริจาคเสื้อผ้าแรกกับทองเส้นเล็ก ๆ แล้วตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า จะเห็นว่าท่านไม่ต้องมีศีล มีสมาธิขั้นไหนเลย ท่านแค่มีจิตเป็นกุศล ศรัทธา และ เมตตา กรุณา บริจาคทานเท่านั้น... ไม่ใช่ว่าพุทธภูมิ ต้องเก่งแบบหลวงพ่อ หลวงปู่ทุกองค์เมื่อไหร่ ก็ในเมื่อเด็กอนุบาลยังเรียนไม่ถึงมหาวิทยาลัย จะไปมีความสามารถแบบนั้นได้ยังไง...หากคุณคิดว่าต้องการทดสอบอารมณ์ของพวกเค้าคุณก็คิดผิดเนื่องจากบารมีไม่เท่า ขนาดปรมัตถบารมีแบบหลวงพ่อฤาษีท่านว่าตอนต้นยังทรงอารมณ์เทียบ (เทียบเท่านะไม่ใช่เป็น) พระโสดาบันยังไม่ได้เลย แล้วจะไปเอาอะไรกับ อุปบารมี และ บารมีต้น ... อีกอย่าง คุณคิดดีแล้วหรือที่จะเล่นกับสิ่งพวกนี้ คุณมั่นใจแล้วใช่ไหม ขนาดพระอริยเจ้ายังให้เกียรติเลยนะ ไปว่าสุ่มสี่สุ่มห้า วาจาจาบจ้วง ระวังนะ...แล้วที่คุณไปต่อว่า ยั่วโมโห พวกเค้าเนี่ย ก็อย่างที่บอกว่า บารมีคนบำเพ็ญไม่เท่ากัน ถามหน่อยว่า ถ้าคุณไปด่าคนที่ปฎิบัติธรรมแบบนี้เค้าจะโกรธคุณไหม ถ้าคนเพิ่งปฎิบัติ โกรธแน่ ถ้าปฎิบัตินานละได้ อาจจะ เคืองนิด ๆ แต่ถ้าเป็นพระอริยเจ้าก็คงจะช่างมันมันด่าธาตุทั้ง 4 ไม่ได้ด่ากู หรือ อาจจะสงสารที่ตัวคุณต้องลงอเวจี จะเห็นได้ว่า บำเพ็ญมาต่างกันก็คิดไม่เหมือนกันนะ....พวกพุทธภูมิ หรือ สาวกภูมิ จะทำตัวแบบไหน ก็ช่างเค้า เราเอาดีให้ได้ก็พอ สะเก็ดความดีของพระพุทธศาสนา ข้อแรก ๆ เลย อย่าไปสนใจในจริยาผู้อื่น ทำตัวเองให้ได้ก่อน....

 

สาธุ ๆ ๆ ผมมาเติมเครื่องปรุงให้แก กลัวแก จะลงลึกไม่ถึงใจแก

ฮ่า ๆ ๆ ๆ

 

ขอตัวกลับบ้านละนะคุยนานแล้ว

 

ก็รอถวายสังฆทาน ให้แกเถอะครับ กำลังมันส์มือเลยผม

ฮ่า ๆ ๆ

 

ยาวมักๆ เลยขอรับ แต่ก็ยังถือว่า พอจะเข้าเรื่องเข้าราวบ้าง
ยังพอนับว่าเป็นบัณฑิตได้บ้าง ไม่เหมือนคนพาลไม่รู้ตัวว่าเป็นคนพาล นั่นพาลแท้ จริงไหม armarmy
เอางี้ดีฝ่า พุทธภูมิ ที่นี่ ใครเป็นแล้วกิเลสมากขึ้น หรือ กิเลสลดลง หรือคงที่ แต่เท่าที่เห็นนะนี่
ยกตัวเองกันทั้งนั้น ไอ้ที่ว่า มีเมตตา แต่ข้างในนี่เดือดปุดๆ ไม่มีใครไปยั่วหรอกขอรับ พวกหน่อยังมีอัตตากันเยอะเอง เลยรับไม่ได้ นี่ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงจะหวีด กรี๊ดกันสนั่น ไปแล้ว
คำว่าเมตตา นี่เขาต้องเมตตาศัตรูเว่ย นี่เมตตาคนน่าสงสาร แม้แต่คนเลวที่สุดมันก็สงสารคนเป็น แม้แต่ฆาตรกรมันก็มีเมตตา สงสาร
แล้วไอ้ที่บอกว่าเมตตานี่ มันเมตตาใครบ้างวะ หรือว่า พูดกันเปล่าๆเปลือยๆไปงั้นเอง

 

แล้วเพ่ PCO เพ่ส่งผลบุญให้กระผมจริงหรือเปล่า เอาให้แน่นะเพ่ ไม่ใช่ว่า ปากบอกส่งผลบุญให้ แต่ในใจโคตรหมั่นไส้ หรือ ปากบอกเรียก ผู้เจริญ ผู้วิเศษทรงธรรม แต่ในใจ เรียก ไอ้เห้ นี่บาปทวีคูณนะเพ่
ปากไม่ตรงกับใจนี่มุสานะ

 

โมทนาสาธุอย่างยิ่งครับ

 

ขอความเมตตา ด้วยรึ ? มีค่าพอรึยัง ?

ถ้าไม่อยากเจอแบบนี้ แล้วทำไมชอบทำอย่างนี้ล่ะ

อยากลองก็ให้ลองแล้วนี่ไง . . .

 

อ้าวนี่ไง เพ่ PCO ตกลงเพ่จะให้กระผมเป็น ผู้ทรงธรรม อยากจะติดกัณฑ์เทศ หรือจะ เวทนา กระผมหละ เอาให้แน่
ถ้าเมตตาจริงโปรด แสดงธรรมเล้ย อย่าช้า เลย ท่าน วิริยธิกะ

 

โอย หลงแล้วแบบนี้ Armarmy กำลังเกาตัวเองอย่างเมามันเลือดเข้าเลือดออก ใครว่า เบิกบานหรือท่าน

 

หลงไม่หลงไม่รู้ แต่ คนไม่จริง นี่ อ้างเยอะจังเลย
ฮ่า ๆ ๆ

 

ขอตัวกลับบ้านละนะคุยนานแล้ว

 

สวัสดีท่านทั้งหลาย

ก็ได้แต่เวทนานะ อย่างที่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงเมตตาตรัสไว้ว่า สรรพสัตว์ทั้งหลาย เปรียบได้ดั่งดอกบัวทั้ง 4 เหล่า ก็ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละท่านจะเลือกอยู่ในเหล่าใดนะ น่าเห็นใจจริง ๆ

เราเข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุอันใดหลังจากที่องค์สมเด็จพระสวัสดีโสภาค ทรงได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญานแล้ว ทรงได้ตรึกตรอง และทบทวนถึงข้อธรรมที่ได้ทรงตรัสรู้ และพิจารณาถึงนิสัย วาระจิตของบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าบางกลุ่มบางพวก ก็โปรดไม่ได้ บางกลุ่มก็โปรดได้ คือมีทั้งเหล่า เวนัยสัตว์ และอเวนัยสัตว์

ความจริงก็เป็นเช่นนี้เอง และก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่เสมอมาจนถึงปัจจุบันนี้ และก็คงจะยังมีอยู่ตลอดไปนะ น่าเห็นใจ

แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะท่านทั้งหลาย เราก็ขออนุโมทนาในกุศลเจตนา ที่บรรดาท่านทั้งหลายได้ตั้งอกตั้งใจ ในการบำเพ็ญบารมีมุ่งสู่พระโพธิญาน เราขออนุโมทนาในกุศลเจตนานั้น ๆ ด้วย ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต กิจการอันใดในขอบข่ายแห่งพุทธภูมิ ที่ท่านทั้งหลายไม่ว่าท่านจะอยู่ในภพภูมิใดก็ตาม หากมีกิจอันใด ที่เราพอจะสามารถช่วยเหลือ สนับสนุน เราพร้อมยินดี กระทำให้ ด้วยกาย วาจา และใจ ด้วยชีวิตแห่งเรา

และแม้ว่าท่านทั้งหลายที่อยู่ในสายแห่งสาวกภูมิ เราก็พร้อมยินดี ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ท่านทั้งหลายเข้าสู่พระนิพพาน ตามกำลังแห่งสติปัญญา ที่เราจะพึงมี

ตัวของเราไม่มีความดีอะไรหรอกนะ เพียงแต่ว่ามีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือ อุ้มชูทุก ๆ ท่านที่มีความตั้งใจดีงาม ไม่ว่าจะเป็นในแนวทางแห่ง พุทธภูมิ หรือว่า สาวกภูมิ ก็ตามแต่ เราก็มีความสุขที่ได้รับรู้ ช่วยเหลือ และสนับสนุน เมื่อใดที่ท่านทั้งหลายอยู่ดีมีสุข เปรียบดังว่ายังมีแสงแห่งดวงอาทิตย์สาดส่อง ให้ท่านทั้งหลายได้มีความสุขดีอยู่ เราก็คงจะเป็นเพียงผู้ที่แอบเฝ้าดู และชื่นชมบารมีของท่านทั้งหลายอยู่อย่างเงียบ ๆ และห่าง ๆ และเจียมตัวเป็นอย่างยิ่ง จะไม่ไปรบกวนผู้ใดเลยแม้แต่น้อย

แต่ถ้าเมื่อใดที่ท่านทั้งหลายประสพภัยอันตราย ไม่อาจที่จะช่วยเหลือตนเองได้แล้ว เปรียบได้กับว่าเป็นคืนเดือนมืดสนิด ไร้สิ้นหนทาง เราก็จะออกมาจากที่ซ่อน และจะเป็นเพียงหิงห้อยตัวน้อย ที่จะทอแสงเรืองรองในคืนข้างแรม เพื่อให้ท่านผู้ทนทุกข์ทั้งหลาย ได้พึ่งพิงบ้าง ตามกำลังบารมีแห่งเรา

 

แรงนะค้าาาาาาาาา

ที่ดีก็มีอยู่ แต่ที่หล่อนว่าก็จริง ระวังไปเหมารวมกับท่านที่ปลายๆ แล้ว
หล่อนตะได้รู้ว่าไฟนรกนั้นร้อนขนาดไหน
โชคดีคะ ดิฉันขอบาย

 

อย่าพูดไปว่า ผิดมหันต์ ต้องพูดว่า กระผมได้มุสาไป ขออภัยต่อพระรัตนไตร ที่ปากอย่างใจอย่าง
อันทำให้ขวางกั้นพระนิพพานเพราะไม่มีสติรู้ใจตัวเองว่า แท้จริงแล้วใจเป็นอย่างไร ปากเป็นอย่างไรนะขอรับ
แต่ถ้าอยากจะวนเวียนบำเพ็ญวิริยธิกะ ให้มันนานๆ สมดังตั้งใจก็จงทำบ่อยๆ นะขอรับ นานสมใจแน่

 

ผมรู้สาเหตุที่ทำให้แกเป็นคนอันธพาลอยู่ เรื่องมันเกี่ยวกับ หน่อ ที่แกพูดมานั่นแหล่ะ
แต่ก็ไม่รู้แกจะแค้นใจ ไปถึงเมื่อไหร่ . . . .
ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ

 

แล้วไอ้เจ้าพวก แกงค์ หน่อ นี่เคยมาวนเวียนหาผมเหมือนกัน แต่ไม่รู้ทำไมแกเลิกไป
ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ

 

Jmind เมื่อก่อนเราเคยหาอะไรดี ๆ มาโพสไม่ใช่รึไง ?
แล้วทำไม ความแค้นเก่า ๆ ของเราที่มีต่อบุคคลพวกนั้นน่ะ ถึงไม่ลืมไปสักที ?

หรือว่า Jmind ยังอยากจะจัด ?

ฮ่า ๆ ๆ ๆ

 

พูดมากเสียมาก พูดน้อยเสียใจ
ไม่พูดไม่เสีย นิ่งเสียโพธิสัตว์

ทำให้ดู้ รู้ให้จริง ดูให้แจ้ง

ซำบายดี