พวกพุทธภูมิทีนี่คือพวกเอาดีไม่ได้ใช่อ๊ะปะ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Jmind, 11 สิงหาคม 2013.

  1. NATdrp5995

    NATdrp5995 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +138
    ถ้าอยากจะด่าใครก็ ระบุชื่อมา ไม่ต้องไปด่าคนอื่น ตั้งกระทู้ลอยๆ ใช้ USER NAME นื้อย่างเดียว อยากด่าก็ด่าเข้า USER NAME นี้เลย แต่ถ้าสงสัยว่าทำไม นั่งเล่นเน็ตอย่างเดียว ขอบอกว่าไม่ได้ปราถนาพุทธภูมิแล้ว ทำทาน รักษาศีล สวดมนต์บ้างตามโอกาส ที่ ศีลขาดวิ่น นั่งสมาธิไม่เก่ง ก็มีบารมีน้อย ปัญญาน้อย พอใจหรือยัง
     
  2. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    ไรแว๊ รู้ตัวว่า บารมีน้อย ปัญญาน้อยก็หัดตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรมมั่งนะขอรับ หยั่มมามัวแต่่เซเว่นมาก
     
  3. NATdrp5995

    NATdrp5995 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +138
    แล้วท่านเจ้าของกระทู้ ขั้นไหนแล้วละครับ เก่งจริงนิพพานไปเลยครับ ไม่ต้องคอยเที่ยวว่าคนอื่นเค้าครับ เรื่องจะปฏิบัตืธรรมเจ้าตัวเค้ากำหนดเองครับ คงไม่ต้องให้เจ้าของกระทู้มายุ่งวุ่นวาย คุณไม่ใช่ครูบาอาจารย์
     
  4. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    :cool::cool::cool:...
     
  5. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    น่ามคาญเจงๆ บารมีน้อย ปัญญาน้อย ไม่เจียมตัว
    คนบารมีน้อย ปัญญาน้อย ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว หยั่มมาเกรียน
     
  6. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    ผมว่าน่ะครับ ความคิดอยากนั่น อยากนี่ อยากเป็น อยากทำ อยากมี มันเป็นสิทธิของสัตว์ แต่ละขั้น ชั้น ประเภท ที่พึงมีสิทธิที่จะเป็นน่ะครับ ส่วนจะเป็นได้หรือไม่ได้นั้นขึ้นอยู่กับ กำลัง ปัจจัย บารมี ในด้านความเพียร ที่เขาคิดที่ชอบ หรือจะเป็นนั้นเขาได้ยินได้รู้มาแบบนี้ ว่าดี เลิศ ประเสริฐ เป็น อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหารย์ ยิ่งใหญ่ ทรงอานุภาพ มีความเชื่อในผลของการกระทำซึ่งมีความศรัทธาในอานุภาพแห่งผลของการกระทำเป็นกำลังใจหลัก และก็อยากเป็นแบบนี้บ้าง หรือ มีความเข้าถึงจิตของตัวเองที่จะยังประโยชน์ มีเมตตา กรุณา อ่อนโยน อ่อนน้อมถ่อมตน อดทน อดกลั้น กระทำไปอย่างไม่มีความเหน็ดเหนื่อย ยอมถวายตนเองแม้จะเจ็บ ป่วย ยอมเหน็ดเหนื่อย กระทำอย่างต่อเนื่อง ทนกระทำไป นี่ก็เป็นแบบวิริยะแห่งความเพียร หรือบางคนเห็นประโยชน์ โทษ แห่งผลที่กระทำ ก็ค่อยๆเก็บเล็กผสมน้อยเติมเต็มกระทำไปด้วยกำลังความคิดแห่งปัญญาเป็นหลัก จะเห็นได้ว่าแม้บางครั้งผลของการกระทำ หรือความตั้งใจนั้น มันไม่ได้เห็นผลของการกระทำที่จะเป็นในปัจจุบัน ซึ่งความเพียรนั้นมันไม่ได้มาในช่วงระยะเวลาอันสั้น คือต้องใช้ระยะเวลานั้นนานมาก อบรมบ่มธรรมบารมี หมั่นส่องจิต อบรมความคิด กริยา ฝึกฝน อย่างต่อเนื่อง ถึงจะเข้าใจในจิตถึงการหยั่งรู้ของตนเอง ซึ่งถ้าเข้าใจในรูปแบบของธรรมชาตินั้นได้ก็จะไม่ไปต่อว่าติเตียนผู้อื่นได้ เพราะว่าเข้าใจในสัตว์ฑโลกความเป็นสามัญปถุชนซึ่งมันแตกต่างกันในด้านของความคิด ผลมาจากบุญกุศลที่ทำมาน้อมนำพาสัตว์นั้นมาอยู่กับเหตุการณ์ปัจจุบันตามกำลังแรงกรรมของสัตว์นั้นๆ ความคิดการกระทำเป็นอยู่ ความเชื่อศรัทธาในกระบวนการของจุดเริ่มต้นที่จะไปให้ถึงแห่งปลายทางนั้นยังมีอยู่ค่อยๆเพียรพยายามกระทำไปแม้บางครั้งจะมองว่ามันนอกลู่นอกทางไปบ้าง ก็ไม่เป็นอะไร เพราะกำลังที่เรามีอยู่ในปัจจุบันนั้นมันมีแค่นี้จริงๆ สักวันสิ่งที่เรามุ่งหวังนั้นคงจะมาถึง เมื่อเวลานั้นมาถึง มันก็อยู่ที่ตัวเราแล้วว่าจะเลือกที่จะเป็นหรือไม่ เพราะสุดท้ายเมื่อกำลังนั้นเต็มบริบูรณ์ สิ่งนี้ย่อมไม่มีความหมายอีกต่อไป เพราะสุดท้ายก็ไม่มีอะไรจริงๆ ไปถึงที่สุดได้เท่าเทียมเสมอเหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2013
  7. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม เกิดขึ้นแด่พวกเราทั้งสิ้น ไม่ว่าดีหรือชั่วใครก็มิอาจ มาให้เราได้ นอกจากตัวเรา สิ่งใด ไม่เกิดประโยชน์ จะทำเหตุ ให้มันเกิด ขึ้นมา เพื่อประโยชน์ อันใด มันมีโทษ มากกว่าดี ผมเองไม่รู้ จักคำว่าพุทธภูมิ แต่ผมรู้ จัก ในส่วน ท่านที่ช่วยเหลือ ประเทศ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตย์ ช่วยเหลือ บุคคล ส่วนรวม ช่วยเหลือตัวเอง ช่วยสัพสัตว์ ตามแต่ กำลังของตน ไม่ใช่พวกนี้ จะเมตตา ซี้ซั้ว ท่านจะแยกแยะ ได้ด้วยกำลังปัญญา ของท่าน ทุกอย่างจะทำ ให้คนเป็นที่ชอบใจ ได้ทั้งหมด นั้นมันไม่มีหรอก พระพุทธรูป สร้างเป็นตัวแทน พระพุทธเจ้า ยังมีคนนินทา นับประสาอะไรกับฅน ธรรมดา จะไม่มีมี เทียวหรือ


    คนที่จะไปเป็น ลูกพระพุทธเจ้า ก็มีหลายแบบ แม้ แต่พระพุทธเจ้า บวชให้ สั่งสอน ให้ได้ อภิญญา สมาบัติ ยัง ไปเป็นอื่น แม้ ท่านพระเทวทัต ท่านไปอเวจี แต่ท่านมีคติ แน่นอน แล้ว ได้ รับคำพุทธพยากรณ์ ท่านจะขึ้นมาเป็นพระปัจเจกะพุทธเจ้า ก่อน ถึงศาสนา พระศรีอริยเมตตรัย ท่านมีคติแน่นอน เราๆท่านๆ ยังหาคติ แน่นอนไม่ได้ ก็ หาคติ ที่ดีๆ ให้ไว้ กับชีวิตของเรา ดีกว่าครับ ผมได้รับ กรรม ในชาติ นี้ ทั้งดี และชั่ว ก็หลายอย่าง ให้ผลมาแล้ว กรรมชั่ว ก้เคยทำมาไม่น้อย กรรมดี ก็ทำไว้มาก เช่นกัน จึงไม่อยาก ให้พวกท่าน มีกรรม มาก กว่านี้ เพราะกรรมนั้น ให้ผล ไม่จำกัดเวลา ครับ ทั้งดีและชั่ว อยู่ที่ กรรม นั้นๆจะหนัก หรือเบา


    ผมเคยเข้าไปตอบ หลาย สิบกระทู้ หลายร้อยเรื่อง ทั้ง ถูกใจและไม่ถูกใจ แก่ท่านทั้งหลาย บ้างไม่มากก็น้อย มีทั้งคนชัง มีทั้งคนชอบ แม้บางครั้ง ไม่ชอบ เกียจชังมากกว่าชอบ เสียอีก แต่เรารู้ ว่า เราทำเพื่อประโชน์ หรือ ไม่ใช่ประโยชน์ ย่อม แยกแยะได้ ด้วยใจตนเอง ผมขอย้ำ ท่านทั้งหลายว่า ผมจะตอบอีกครั้ง ให้ท่านได้เข้าใจ ทุกอย่าง มีผิด ก็มีถูก อยู่ในนั้น มีถูก ก็มีผิด อยู่ในนั้น ไม่เสมอไปหรอกครับ แต่ว่า เราจะทำให้มัน ถูกมาก หรือผิดมากล่ะครับ ท่านก็คงเข้าใจน่ะครับ คนที่ทำไม่ถูกเลย ไม่มีในโลก คนที่ผิดทั้ง หมด ก้ไม่มีในโลก คนที่ ทำถูก ทั้งหมด ก็ไม่มีเช่นกัน แต่มีเฉพาะ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกะพุทธเจ้า พระอรหันต์ ทั้งหลาย เท่านั้น ท่านตัด ดีและชั่ว โลภ โกรธ หลง ออกไปจากใจ ท่านหมดแล้ว เหลือแต่ ตัวเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต่อสัตว์โลก อยู่เพื่อสงเคราะ ฝ่ายเดียว ไม่หวังสิ่งตอบแทน ใดๆทั้งสิ้น


    ต่อให้พวกท่าน ทำ ได้ทุกอย่างในโลกได้ ท่านยังมิได้ ตรัสกิเลส ท่านก็ยังมิได้อะไร แต่มันเป็นทุน เดิมพัน หนุนเนื่อง ให้ท่านได้เดิน ต่อไปให้ถึงครับ ผมได้กระทำมาแล้ว ทั้งชั่ว เช่น เลี้ยงเป็ดไก่ เข้าโรงเชือด นับพันหลายพัน หลายปีหลายครั้ง หาบปลา หลายปีหลายครั้ง ทำปลาร้า ปีหนึ่งๆ นับสิบไหไว้กินหน้าแล้ง ทุกปี กระปิ ปีหนึ่งๆ ใช้กุ้งเท่าไหร่ เป็น สิบไห ทำแห้งไว้กิน วันหนึ่ง บางครั้ง เป็นกระบุง แล้วขายตัวเป็นๆอีก ปีหนึ่งเท่าไหร่ ยิงนกหนู กบเขียด ปีหนึ่งๆ ไม่น้อย นี่แค่เล่านิดหน่อยเอง


    ในส่วน ของการทำความดีนั้น ก้ถือว่า ทำมาไม่น้อยเช่นกันครับ สร้างโบสถ วิหาร กุฏิ ๒ วัดซ้อน ปีเดียว และร่วมสร้างโบสถวิหารศาลา กุฏิ ส้วม อีกตั้งแต่ ๕๐ ส.ต. ถึงหลายแสนบาท ถวายเก๋ง ๑ คันรถมือ ๓ ที่ ๒๐ ไร่ รถเครื่องพอใช้ ให้วัด มาแล้ว ๓ วัด กฐิน เกือบ ๑๐ ปี ร่วมบุญ ๑๐๐กว่าวัด ถึง ๓๐๐ กว่าวัด เอาของมาถวาย วัด งานธุดงค์ ๑๐ ปี ปีหนึ่ง ๒-๓ คันรถ ผักทุกอย่าง ทำด้วยแรงกายใจ ตัวเอง เอาของไปแจกคนยากจน บอกบุญ ก็ ๓-๔ จังหวัด ผ้าป่า ก้เหนือ อิสาน กลางออกตก ก็หลายสิบวัด สร้าง พระใหญ่ ทั่วประเทส ร่วมบุญ กับพระฆราวาส ที่ผมอยากทำ หรือร่วมบุญ สร้างพระองค์ เล็กๆ ให้ถวายแก่พระสานา ไม่ต่ำ กว่าแสน กว่าองค์ ร่วมสร้าง ซื้อ ที่ ถนนหนทาง บุญทุกๆอย่าง แก่พระศาสนา หลายที่ จำไม่ได้ เรียว่า บุยทุกอย่าง ทำมาหมดแล้ว บวชพระบวชเณร ร่วมทำบุญร่วม ไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปี ตักบาตร ตก ๒๐ ปี


    ได้ อยู่ ทุกที่ๆหลายๆที่ ถ้ำ หุบ เหว ในป่า ในเมือง ในกรุง ในจังหวัดต่างๆ ได้บวช พระ เถร เณร ชี ผ้าขาว มาแล้วทุกอย่าง ลองมาพอสมควร ทั้ง ศิล ๕ ศิล ๘ สิล ๑๐ ศิล ๒๒๗ ได้ทดลอง แบบ เบาๆ แบบ กลาง แบบอุกฤษมาแล้วพอสมควร ผมน่ะยังมิได้อะไรเลย แต่พอรู้ได้ว่า อะไรผิดถูก ย่อมแยกแยะได้พอสมควร กิเลส ยังเต็มหัวผมอยู้เลย แต่ก็ใจมันพอ สบายตามอัตภาพ เท่านั้นเอง ลองดูบ้างก็ได้นะ จะได้รู้ ว่าเขาทำกันมาอย่าไร แต่ผม พูดได้แล้ว ทำได้แล้ว ที่บอกมา จึงพูดได้ว่า ไม่อายใคร และยังมีอีกเยอะ ที่ไม่ได้พูดครับ ขอให้ท่าน จงนำ ไปคิด ไปหาคำตอบกันเอง ทุกคนมีปํญา ไม่อยาก ให้มาทะเลาะ หรือ นำมา เขียนที่ไร้ เหตุผล เรื่องแบบนี้ มันไม่สมควรเอามาพูด กันได้ง่ายๆ การพูด เขียนน่ะ มันง่าย การกระทำมันยากครับ แต่ก็ทำไม่ยาก แต่ไม่ค่อย มีคนชอบทำ ชอบในสิ่งที่ไร้สาระจนเกินไปครับสวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2013
  8. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    สัตว์อยากจะเป็น หรือ กิเลสอยากจะเป็นละคราบ ไปๆ มาๆ คำว่าพุทธภูมินี้ดักสัตว์ให้ติดอยู่ในสังสารวัฎได้มากกว่ากิเลสอย่างอื่นเลย พอปฏิบัติไม่ได้บอก พุทธภูมิ พอไม่ประสบความสำเร็จบอกพุทธภูมิ
    ศีลขาดบอก พุทธภูมิ ทำผิดทำพลาด บอกข้านี่พุทธภูมิ บางคนขึ้นๆลงๆ บอก พุทธภูมิ แม่ง สรุปยกให้พุทธภูมิหมด ราวกับยดความผิดให้แก๊สโซฮอล บางคนกิเลสอย่างหนา ไม่ได้มาเคยเสียสละอะไร เล่นเน็ตหาความเพลิดเพลินไปวันๆ บอกพุทธภูมิ แล้วจริงๆคือ เมิงไม่เอาถ่านต่างหาก
     
  9. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    ไอ้ที่บอกว่า ต้องการขนสัตว์โลก เมิงมีกำลังอะไรไปขนสัตว์โลก ตัวเมิงเองยังนอนแช่กองขี้อยู่เลย
    นอนแช่กองขี้อยู่ มีใครมาถามบอก ข้านี้พุทธภูมิ ต้องแช่กองขี้อยู่ก่อน
    แล้วอัตตาแม่งโคตรเยอะ เพราะมันถือว่า มันเป็นพุทธภูมิไง ว่าที่พระพุทธเจ้าเจียวนะ ใครอย่าไปสอนมันเจียว มันจะรู้ดีไปหมด แล้วมันจะบอกว่า ข้าเป็นพุทธภูมิ อะไรจะโง่เท่าพุทธภูมินี้ไม่มีอีกแล้ว เพราะมันแต่งตั้งตัวเองขึ้นมาเอง ไอ้ของแบบนี้มันต้องตั้งด้วยใจไม่ใช่ตำแหน่งโว่ย แบบว่า เห็นคนขึ้นรถเมล์กัน ยอมขึ้นเป็นคนสุดท้าย หรือว่าใครเขาเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือตัวเองก็ยอมลำบากแทนเขาทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองเพราะเมตตาสงสาร แต่คนประเภทพุทธภูมินี้ต้องรู้ตัวก่อนว่าตัวเองมีสติปัญญามีกำลังเหนือกว่าชาวบ้าน มันจึงจะรู้สึกได้เอง ไม่ใช่อะไรๆก็พุทธภูมิ คำแนะนำพวกแก๊สโซฮอลเมิงรีบๆปฏิบัติธรรมให้หลุดๆพ้นๆไปดีกว่า
     
  10. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    พุทธภูมินี่เมิงดูตัวเองกันเลย เวลามีภัยเข้าหาตัวถ้าเมิงเผ่นคนแรก นี่เมิงอย่าไปเป็นเลย เมิงเลือกทางอื่นเถอะ หรือเวลาเขาโปรยของแจกของกันเมิงเป็นคนที่อยู่แถวหน้าๆ แอบแทงศอกคนข้างๆ นี่เมิงเลิกเถอะ พุทธภูมิอะ กูทุเรส
     
  11. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    "ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นไปทั้งเข่ง"

    ท่านเจ้าของกระทู้เข้าใจความหมายไหมครับ
     
  12. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย ใครเป็นปลาเน่า ใครเหม็นหรือขอรับ
     
  13. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    จขกท. คงจะเครียด
    หากได้กำลังส่องขนาด 30x คงจะหายร้อน มาจากไหน [​IMG]

    อนาฮอนด้า Click
     
  14. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    อย่าไปว่าดูถูก ดูแคลนพวกเขาเหล่านั้นเลยครับ อย่างน้อยการกระทำเหล่านั้น เขาจะได้เป็นหรือไม่ ก็ยังขึ้นชื่อว่า หน่อเหล่าของความเป็นพุทธะ อย่างน้อยเขาเหล่านั้นก็น้อมนำมาซึ่งเหตุแห่งการกระทำที่ตั้งมั่นในความดี มีธรรม ถึงศีลจะด่างพร้อยบ้างมันก็เป็นธรรมดาของกำลังบารมีของแต่ล่ะคน มันจะเปรียบเหมือนการที่ บุคคลหนึ่งซึ่งรวยมีทรัพย์สินเงิน ทอง มั่งคั่งอยู่แล้ว แล้วไปกล่าวบอกกับกรรมกร หรือชาวนา ว่า สิ่งที่พวก...ทำอยู่นั้น ไม่ดีไม่เจริญหรอก อย่าไปเสียเวลาทำเลย ไปหาทำอย่างอื่นดีกว่า
    หรืออีกประเภทคือพวกที่ กระทำตนด้วยความหมั่นเพียรจนรวยมีทรัพย์สินเงิน ทอง มั่งคั่ง เมื่อตัวเองมาถึงจุดนี้แล้ว ไปกล่าวบอกกับกรรมกร หรือชาวนา ว่า สิ่งที่พวก...ทำอยู่นั้น ไม่ดีไม่เจริญหรอก อย่าไปเสียเวลาทำเลย ไปหาทำอย่างอื่นดีกว่า
    คนเราเกิดขึ้นมาก็จากกรรมการกระทำตัวเองในอดีต ด้วยบุญกุศลกรรมที่ตัวเองได้กระทำเอาไว้แล้ว จึงมาส่งผลในปัจจุบัน จะไปห้ามกุศลกรรมที่เขาเหล่านั้นได้กระทำมาแล้วคงไม่มีประโยชน์หรอกครับ ซึ่งผมมองว่าคุณก็เป็นคนรวย2ประเภทนั้น ซึ่งมองไม่เห็นจุดเล็กๆเหล่านั้นที่เขาได้กระทำไว้ดีแล้ว ค่อยๆเติมเต็มไปทีละนิด ละหน่อย การที่คุณมองว่าทำไมเขาไม่ไปช่วยขนสัตว์ ไปกระทำอะไรที่เป็นรูปธรรมให้มันยิ่งยวดเลย แสดงว่าไม่เข้าใจเข้าถึงความเป็นจุดเริ่มต้นของการสะสมความเพียร ทำไมคุณไม่มองว่าเด็กที่เกิดมาใหม่ทำไมทำไม ไม่พูดหรือเดิน หรือไปทำงานเลย หรือไปว่าเด็กว่า อยากเป็น หมอ ครู ตำรวจ อะไรต่างๆ แล้วก็ไปว่าเด็กว่า อย่าไปเป็นกันเลย เป็นไปไม่ได้หรอก ทุกสิ่งทุกอย่างมันล้วนมาจากระยะเวลาซึ่งเป็นไปโดยวิธี วิถีของธรรมชาติ ที่พัฒนาจากจุดเริ่มต้น ซึ่งคุณก็อาจจะพ้นสภาวะ่ผ่านเวลาของจุดเริ่มต้มมาแล้ว ความรู้ ความคิด การกระทำ ได้เต็มแล้ว จึงเห็น ผลของคุณโทษ ของสิ่งเหล่านี้ว่ามันไม่ใช่ผลไม่ใช่ทางก็เป็นได้
     
  15. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    สุภาษิตโบราณเขาสอนไว้ให้คนรุ่นหลังไว้เป็นอย่างดีนะครับ

    ความหมายคือ การเปรียบปลาเน่านี้ คือพวกพุทธภูมิจริง และไม่จริง ถ้าพุทธภูมิจริง แต่บารมียังน้อย จึงทำให้การบำเพ็ญยังไม่ถึงไหน จึงทำให้กระทำผิดไปบ้าง ซึ่งการกระทำต่างๆในหลายๆเรื่องที่ยังเป็นการเริ่มต้น เพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายเหล่านี้ มีเป็นธรรมดาของโลก

    ในขณะปลาอื่นอยู่ในเข่งแล้วไม่เน่า แต่กลับถูกปลาเน่าในเข่งนั้นส่งกลิ่นฟุ้งเต็มเข่ง
    ความหมายคือ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบก็มีอยู่แน่นอน บางครั้งบางคนอาจยังไม่เจอท่านเหล่านั้น ไปเจอแต่กลุ่มคนยังเพิ่งเริ่มต้น ลองผิดลองถูก เลยเหมารวมไปว่า พุทธภูมิไม่ดีอย่างนั้น พุทธภูมิไม่ดีอย่างนี้ ถึงแม้จะถูกว่าเหมารวม ก็ไม่ได้หมายความว่าคนดีจะเป็นอย่างที่โดนกล่าว

    ส่วนประโยคที่ท่านบอกว่า "ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย ใครเป็นปลาเน่า ใครเหม็นหรือขอรับ"
    เพราะ ท่านอาจจะยังแยกแยะไม่ออกในบางเรื่อง ว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี ท่านกลับนำสิ่งไม่ดีไปพูดกลบสิ่งที่ดีๆ ไปเสียหมด ท่านพูดมาก็เปรียบดัง "ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นไปทั้งเข่ง" ฉะนั้นศึกษาข้อมูลมาก่อนนะครับ แล้วประมวลผลกลั่นกรองคำพูดให้ดี ก่อนพูด เพราะ บางครั้งคำพูดส่อถึง องค์ความรู้ของผู้นั้นว่ามีปัญญาเพียงใด
     
  16. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ผมรู้สึกว่า เจ้าของกระทู้กำลังทดสอบอารมณ์พวกพุทธภูมิใช่อ๊ะปะ

    สำหรับผมแค่น้ำจิ้ม ขอจัดหนักให้ผมหน่อยได้อ๊ะปะ จะเป็นพระคุณ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2013
  17. romancehawk

    romancehawk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +537
    คำถาม: บารมี 30 ทัศ แปลว่าอะไร?
    คำตอบมี 5 ข้อ:

    1.
    บารมี แปลว่าการบำเพ็ญเพียร และการพัฒนาด้วยความเอาใจใส่ ประกอบด้วยความเฉลียวฉลาด
    2.
    บารมี คือความรู้ความเข้าใจในแต่ละสิ่งละอย่าง ในแต่ละเรื่องละราว และในวิถีแนวทางตามรอยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และการปฏิบัติธรรมด้วย
    3.
    บารมีที่แท้จริงคือต้องรู้จักการให้ทานการรักษาศีล การไหว้พระภาวนา และการให้อภัยพร้อมทั้งจาคะสละทรัพย์ของตน ให้ผู้อื่นได้พึ่งพาอาศัยตน
    4.
    บารมีที่แท้จริงต้องรู้จักเหตุและผล และความอดทนอดกลั้นพากเพียรพยายาม ต่อทุกสิ่งทุกอย่างและเอาใจใส่ต่อหน้าที่การงาน ต้องมีภาระบทบาทให้ตัวของตนเอง และผู้อื่นพร้อมทั้งเอาใจใส่ในเรื่องพัฒนาวิถีชีวิต ให้กล้าหาญในทางที่ชอบ ให้ประกอบการงานได้ดี รับผิดชอบสูง และรับผิดชอบต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ต่อแต่ละสิ่งละอย่าง
    5.
    บารมีสูงสุด คือต้องรู้เห็นความจริงตามความเป็นจริง อย่างลึกซึ้ง และสามารถผ่านพ้นอุปสรรคได้ พร้อมทั้งกล้าตัดสินใจสูง และเอาชนะปัญหาได้ จะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม คือต้องพยายามแก้ ปลดให้ได้ผ่านพ้นต่อเหตุการณ์ได้ และตีราคาเจียรนัยจ่ายแจกแยกแยะได้ ด้วยเหตุด้วยผลพร้อมทั้งดับปัญหาได้เรียกว่า “ดับทุกข์จากหัวใจตนเอง” ไม่ให้มีความทุกข์ค้างคา ไม่ให้มีปัญหาผูกมัด ต้องจาคะสละออกด้วยสติปัญญา เรียก ว่าเอาปัญญาพินิจพิจารณา จึงตัดสินสรุปได้ดีพอสังเขป แล้วเห็นเหตุเห็นผลชัดเจนจริงๆ แน่แล้วจึงลงความ เห็นว่าถูกว่าผิด ด้วยการพินิจพิจารณา อีกประการหนึ่งไม่ด่วนตัดสินตามลำพังใจและไม่ทำให้คนอื่นเสียหาย และตนเองก็ไม่ให้พลาดพลั้งและไม่มีคำว่า “พลาดพลั้งในเรื่องการตัดสินปัญหา”ไม่เป็นผู้ตัดสินผิด ไม่เป็นผู้เอี่ยงซ้ายเอี่ยงขวา ต้องตรงต้องตรงแบบพระธรรมพอใจ บารมีที่แท้จริงมี 7 อย่าง:

    1.
    ต้องรักคนอื่นมากๆ รักเท่ากับตัวของตนเอง
    2.
    ต้องช่วยคนอื่นมากๆ ช่วยแบบไม่หวังผลตอบแทน
    3.
    ต้องรู้จักฝึกต้องรู้จักปฏิบัติ เพื่อออกจากโลกใบนี้ เพื่อก้าวไปข้างหน้าเพื่อขึ้นเบื้องบน
    4.
    ต้องเอาใจใส่กับการให้อภัยต้องจาคะ สละเรื่องปัญหาออกจากหัวใจตนเอง ต้องได้สำรวจตนเองเป็นระยะระยะ และเจียรนัยจ่ายแจกแยกแยะดูว่า มีความอ่อนแอมีความท้อแท้ไหม? มีความขี้ขลาดตาขาวหรือไม่? มีการเห็นผิดเป็นถูกหรือไม่? มีการเห็นถูกเป็นผิดหรือไม่?
    5.
    ต้องรู้จักกาลเทศะ มารยาทคุณสมบัติ ในการวางตัว คือวางท่าทีให้เหมาะสมให้สมควรตามภาระบทบาท และตามฐานะตามขั้นของตนเองเรียกว่า “วางตัวให้เหมาะสมและให้เข้ากับตนเองอย่างพอดีพอดี” ให้พอดีจึงจะถูกต้องได้
    6.
    ต้องเห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของไม่เที่ยง และมีความเปลี่ยนแปลงทั้งเป็นของน่ารังเกียจเพราะว่ามีความเสื่อมสลาย ใหม่ๆ ดูสิ่งใดก็สวยงาม นานๆ ไปดูสิ่งใดก็น่าเกลียดนับแต่เสื้อผ้าเป็นต้น อาหารการกินเป็นต้น และร่างกายของตนเองเป็นต้น เมื่อเฒ่าชราแล้วเนื้อเหี่ยวหนังยานทุกชิ้นทุกส่วนมีความเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างทุกเรื่องทุกราวต่างจากเดิมมาก ซบเซาลง เหี่ยวแห้ง ร่วงโรยตามวันเวลา
    7.
    ชีวิตทุกตนทุกคน เกิดขึ้นมาอยู่ในโลกใบนี้เป็นชีวิตน้อยๆ เริ่มต้นน้อยต่อมาจึงใหญ่ขึ้น พอใหญ่ขึ้นแล้วก็ต้องสูงขึ้น พอสูงขึ้นแล้วก็ต้องเป็นสัดส่วน เรียกว่า “สัดส่วน” ส่วนคนมีตามีหูมีจมูกมีลิ้นมีกายมีใจเรียกว่า “องค์ประกอบ”ถ้าหากว่าองค์ประกอบครบก็เรียกว่า “เต็มองค์” ถือว่ามีบารมีขั้นหนึ่งแล้ว ขั้นเต็มองค์ ขั้นสองก็คือคุณงามความดี สร้างทำบุญเพื่อรองรับตนเอง สร้างฐานะบทบาทเพื่อรองรับตนเอง สร้างเกียรติสร้างศักดิ์ศรีเพื่อเข้ากับหมู่คณะ ได้สร้างพรรคสร้างพวกเพื่อความสมานสามัคคี สร้างพี่สร้างน้องเพื่อได้อาศัยพึ่งพากัน สร้างญาติสร้างมิตร เพื่อร่วมแรงร่วมใจด้วยกัน สร้างคุณ ประโยชน์ให้แก่กันและกัน เพื่อช่วยเหลือสังคมด้วยกัน สร้างด้วยความเมตตาสงสารสร้างด้วยความไม่ยึดมั่นถือมั่นสร้างคุณความดี เพื่อให้ความดีทวีคูณขึ้น ไม่ใช่สร้างเพื่อเอาหน้าเอาตา ไม่ใช่สร้างเพื่อเอาชื่อเอาเสียง สร้างด้วยสติปัญญาพาสร้าง สร้างด้วยความระลึก สร้างด้วยความรู้สึกตัวคือรู้จักบวกลบคูณหารดูเหตุดูผล ดูตรงที่ว่าร่างกายนี้เป็นของไม่เที่ยง ในเมื่อสิ้นใจไปแล้วก็ต้องเป็นท่อนศพ ทำหน้า ที่ไม่ได้อีกแล้ว ตอนยังมีชีวิตต้องอดทนอดกลั้นบากบั่นสร้างความดี มีแรงก็ต้องทุ่มเทแรง มีสติปัญญาก็ต้องทุ่มเทสติปัญญา มีทรัพย์ก็ต้องบิต้องแบ่ง แบ่งช่วยเหลือสังคมเพื่อให้สังคมได้รับประโยชน์จากตนเอง และเพื่อทำให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุขทำเท่าที่จะทำได้ ทำเท่าที่จะทำได้ สรุปแล้วบารมี 30 ทัศก็คืออดทนอดกลั้นพากเพียรพยายามสู้ให้ผ่าน เอาชนะให้ได้ แก้ไขปัญหาช่วยกันเท่านั้นเอง แต่ต้องให้ถูกที่สุด ให้ตรงที่สุด ให้ดี ให้ชอบ ให้ประกอบชอบธรรม ให้รู้โลกให้รู้ธรรมให้รู้ความจริงตามความเป็นจริงของโลกใบนี้อย่างชัดเจน ในเมื่อรู้จึงจะสามารถเอาชนะ และชนะพร้อมทั้งสรุปได้ว่าไม่ควรยึดมั่นถือมั่นและไม่ควรเอาผิดเอาถูกต่อกัน ไม่ควรทำลายกันและกลั่นแกล้งกัน ไม่ควรกีดกั้นขัดขวางระหว่างกันและกันในการสร้างคุณงามความดี และในการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่พร้อมทั้งการช่วยเหลือ และการช่วยเหลือนั้นไม่ควรตีราคาไปเป็นอย่างอื่น ควรอนุโมทนาด้วยกันเพื่อจะให้ได้บารมีด้วยกัน ควรกล่าวคำ “สาธุอนุโมทนา” ถ้าผู้สร้างบารมีอย่างแท้จริง ต้องมีแต่อนุโมทนาต่อผู้ที่ทำความดีทำสิ่งที่ดีๆ ทำสิ่งที่ให้ผลแก่โลกได้หรือช่วยเหลือสังคมดี แต่ในทางพระพุทธศาสนาต้องใช้คำว่า “ทำแท้สร้างจริงจึงเป็นธรรม พูดจริงเป็นธรรม คิดจริงเป็นธรรม” 3 อย่างถ้ามีความจริงเป็นบารมีได้ ใจกับปากต้องตรงกัน ใจกับการกระทำต้องตรงกัน ในเมื่อคิดจริงพูดจริงทำจริงบารมีจึงเกิดสูงสุด เมตตาก็เมตตาจริง วางเฉยก็วางเฉยจริงจึงเป็นธรรมได้ ความจริงจึงพาให้บารมีเต็มได้ เต็ม 30 ทัศ

    บารมี 30 ทัศ แปลว่าอะไร?
     
  18. romancehawk

    romancehawk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +537
    วัดกันด้วยหลักการ ใครก็อยากเป็นได้พุทธภูมิ
    ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ใครก็พูดได้ว่า ฉันพุทธภูมิ วัดที่การกระทำดีกว่า
    ประเภทเบื่อๆอยากๆก็เยอะ วันนี้อยากเป็น วันรุ่งขึ้นลาเพราะกลัวลำบาก
    แต่อย่าลืมว่า พวกที่ไม่แน่นอนก็คือเปลี่ยนแปลงได้เพราะบารมียังไม่เต็ม หรือท่านอาจจะเปลี่ยนแนวทางเพื่อภารกิจจุดประสงค์อะไรบางอย่าง ก็คงแล้วแต่ท่าน

    ดูที่ตัวเราเองดีกว่า สนใจผู้อื่นไปก็เท่านั้น เขาจะประกาศตัวเป็นหรือไม่เป็นก็เรื่องของเขาเพราะเขาจะเป็นได้ไม่ได้เป็นก็ขึ้นกับการตั้งใจและลงมือกระทำของเขาเอง

    เพราะเห็นอยู่บ้างมีทั้งกระทู้ประกาศรวมพลพุทธภูมิบ้าง กระทู้หาแนวร่วมลาพุทธภูมิบ้าง
    ยังไงก็แล้วแต่ก็ขึ้นกับจริตและกำลังใจของแต่ละบุคคลแต่ละกลุ่มบุคคล เพราะก็เห็นมีกลุ่มบุคคลไปร่วม โมทนาสาธุ กันกับกระทู้ทั้ง สองประเภท

    ส่วนเหตุผลที่มีบุคคลตั้งกระทู้ทั้งสองประเภทก็ไม่ทราบเหมือนกัน อาจต้องการให้บุคคลอื่นได้ร่วมบุญอนุโมทนา หรือหากำลังใจกับคนร่วมอุดมการร์ก็เป็นได้ ซึ่งก็คงไม่ผิดอะไร
     
  19. ชุณห์

    ชุณห์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +67
    ผมเคยได้ยินมานะครับว่า พุทธะ มีอยู่ในตัวของทุกคนบนโลกนี้
     
  20. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    แต่กระผมได้ยินแต่ว่า กิเลส มีอยู่ในตัวทุกคนบนโลกนี้นะสิขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...